:Attack on titan Fanfiction
:Pairing : Levi x Eren x (ALFA)
:Genre : Action-Sci-Fi,Drama
:Rate : PG-13,NC-18+
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดหน้านี้ไปนะคะ ขอบคุณค่ะ
เอเลนสาวเท้ายาวๆตรงไปยังโรงฝึก พลางบอกกับตัวเองว่า บางทีเรื่องที่เคยว่ายวานเรย์ไปเมื่อก่อนหน้านี้ เขาควรเป็นคนพูดกับอัลฟาด้วยตัวเอง เพราะอย่างน้อยมันก็ใช้เป็นข้ออ้างชั้นดีได้ หากถูกหมอนั่นถามถึงสาเหตุที่เขาอุตส่าห์ดั้นด้นตามอีกฝ่ายมาดึกดื่นป่านนี้
ทว่า สองเท้าก็จำต้องหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าประตู เมื่ออัลฟาไม่ได้อยู่ในห้องฝึกซ้อมเพียงลำพัง แต่กำลังซ้อมการต่อสู้อยู่กับ 'แซค' ลูกน้องคนสนิทที่มักจะติดตามอัลฟาไปทุกที่ราวกับเป็นเงาตามตัว แม้จะยังอยู่ในชุดที่ใส่ออกไปทำงาน มีเพียงสูทตัวนอกที่ถูกถอดทิ้งไว้ข้างๆเบาะสนาม แต่ท่วงท่าการขยับตัวของคนทั้งคู่ก็ยังดูคล่องแคล่วและรวดเร็วได้อย่างไร้ที่ติ ถึงแม้การเคลื่อนไหวนั้นจะอยู่ในระดับของคนธรรมดา ไม่ใช่แบบที่รวดเร็วเหนือมนุษย์เหมือนที่ผ่านมา แต่เอเลนก็ยังรู้สึกทึ่งในพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ของอีกฝ่ายทุกครั้งที่ได้เห็น
ดูเหมือนสองคนนั้นจะเอาจริงเอาจังจนไม่ทันสังเกตุ ว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ ต่างฝ่ายต่างพลัดกันรุกและรับอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งเสียงวาดเท้ากลางอากาศในจังหวะที่เตะพลาด ยังทำให้ร่างบางรู้สึกเสียวแปล๊บตรงชายโครงเมื่อเผลอจินตนาการว่าตัวเองเป็นคนรับลูกเตะนั้นเข้าจังๆ มือบางเผลอยกขึ้นมาลูบชายโครงตัวเอง ก่อนเจ้าตัวจะทำตัวลีบหดตัวกลับไปอยู่หลังผนังห้อง ด้วยไม่กล้าเข้าไปขัด
แต่ยังไม่ทันจะผลุ่บหายไปทั้งตัวดีสายตาของเขาก็ประสานงาเข้ากับหนึ่งในสองคนนั้นเข้าซะก่อน เจ้าของสายตาคู่นั้นชะงักไปในทันทีที่เห็นว่ามีเขายืนอยู่ตรงนี้ ทว่าการต่อสู้ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วขนาดนั้น ต่อให้คู่ต่อสู้เป็นเทวดาหน้าไหนก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้หยุดในทันทีได้! แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าคู่ฝึกซ้อมของตัวเองยังไม่พร้อม!
ผลั๊วว!!
เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้ากับซีกหน้าของใครบางคนเข้าอย่างจัง ก่อนที่ร่างสมส่วนของฝ่ายนั้นจะล้มตึงลงไปกับเบาะสนาม แล้วกลิ้งหลุนๆไปอีกสองสามตลบถึงหยุดแน่นิ่งอยู่กับที่!
"หัวหน้าครับ!!"
ชายหนุ่มเจ้าของหมัดตรงปรี่เข้าไปหวังจะช่วยพยุงเจ้านายตัว เอง แต่ฝ่ายนั้นกลับยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่า 'ไม่เป็นไร' ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ดูเหมือนสองคนนั้นจะคุยอะไรบางอย่างแต่เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน ทว่าจากท่าทางของแซคที่ก้มหัวประหลกๆอยู่หลายต่อหลายครั้ง ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าทั้งคู่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน
เอเลนยืนมองภาพนั้นด้วยสีหน้าตื่นๆ ระคนตกใจอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่แซคเดินสวนออกมาแล้วค้อมศีรษะให้ ใบหน้ามนจึงได้แต่ค้อมศีรษะรับด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะหันกลับไปสนใจเจ้าคนที่ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องต่อ
พบว่าอัลฟาพลิกตัวกลับมานอนเหยียดยาวในท่านอนหงายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้? แต่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาซะที เอเลนจึงรวบรวมความกล้าแล้วเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยตัวเอง
"บ้าเอ้ย ดันให้นายมาเห็นตอนพลาดท่าซะได้..." ฝ่ายนั้นบ่นงึมงำพลางยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก จนเอเลนชักจะเริ่มหมั่นไส้นิดๆ ที่หมอนี่ยังมีแก่ใจมาห่วงภาพพจน์บ้าบอมากกว่าแผลบนหน้าตัวเอง ใบหน้ามนไม่ตอบคำ เจ้าตัวเดินเข้าไปพลางคิดหาคำด่าเจ็บๆในใจซักประโยค แต่พอเหลือบไปเห็นรอยเขียวช้ำที่เริ่มปูดเป็นลูกมะนาวที่โหนกแก้มด้านขวาของอีกฝ่ายเข้า เอเลนก็แทบจะหลุดหัวเราะพรืดออกมาเสียให้ได้
ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าคนอย่างอัลฟาจะมีวันนี้ได้ วันที่เจ้าตัวถูกลูกน้องคนสนิทต่อยหน้าคว่ำ 'ฮ่าๆ...' อยากจะหัวเราะดังๆแต่อีกใจก็นึกสงสาร เอเลนคาดไม่ถึงว่าอัลฟาจะโดนเข้าเต็มหมัดเต็มหน่วยขนาดนี้ ถึงจะตกใจในตอนที่เห็นอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เขายังแอบหวังว่าด้วยความสามารถที่เกินมนุษย์มนาของหมอนี่คงจะหลบได้อย่างฉิวเฉียดแท้ๆแต่เห็นได้ชัดว่าเขาคิดผิด
"จะนอนอยู่แบบนั้นไปถึงเมื่อไหร่?" เขาแสร้งทำเสียงเข้ม ทั้งที่ยังแอบกลั้นขำแทบเป็นแทบตาย
"คิดว่าจะถูกนายหัวเราะใส่หน้าซะอีก" อัลฟาบ่นงึมงำออกมาพลางถอนหายใจ ทั้งที่ยังนอนอยู่ท่าเดิม
'แหงล่ะ!' เอเลนตอบในใจขณะเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้ม โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสายตาของฝ่ายตรงข้ามจ้องมองอยู่ภายใต้ท่อนแขนที่ก่ายหน้าผากเอาไว้
"ช่วยที" จู่ๆอัลฟาก็ยื่นมือขึ้นมาตรงหน้า พร้อมกับส่งสายตาที่เขาแยกไม่ออกว่ากำลังขอความช่วยเหลือหรือคิดร้ายอะไรอยู่กันแน่? ใบหน้ามนจ้องดวงตาคมกริบคู่นั้นเขม็งอย่างพยายามค้นหาคำตอบ แต่สุดท้ายก็ยอมยื่นมือออกไป และทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสกัน ใบหน้ามนก็รับรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองหลงกลเข้าให้แล้ว เพราะพอเขาพยายามออกแรงฉุดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แต่ฝ่ายนั้นกลับยังนอนนิ่งเป็นท่อนซุงไม่ยอมขยับเขยื้อน พอเห็นท่าไม่ดีจึงตั้งใจจะสลัดมืออีกฝ่ายทิ้ง แต่มือเจ้ากรรมกลับถูกกระชับไว้ซะแน่น
ทุกการกระทำดูเหมือนอัลฟากำลังแกล้งเขาอยู่ ทว่าทั้งสีหน้าและแววตากลับดูจริงจังจนคนถูกแกล้งชักเริ่มหวั่นใจ
"ลุกขึ้นมาได้แล้ว" ใบหน้ามนแสร้งทำเสียงเข้มพลางออกแรงดึงฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง คราวนี้อัลฟายิ้มบางๆตรงมุมปากก่อนจะยอมลุกขึ้นแต่โดยดี เจ้าตัวเดินไปหยิบสูทที่ถอดทิ้งไว้ "ไปกันเถอะ" อัลฟาพูดงึมงำไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะเดินดุ่มๆนำหน้าเขาไป จนใบหน้ามนได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ออก
"นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปทำแผลให้!" เอเลนตะโกนตามหลังฝ่ายนั้นทั้งที่ยังสาวเท้าตามไปห่างๆ ทว่าพอเขาพูดแบบนั้นอัลฟากลับหยุดชะงักอยู่กับที่ไปเสียดื้อๆ อีกฝ่ายหันกลับมาหรี่ตามองเขาราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ท่าทางแบบนั้นทำเอาคนถูกมองเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
"ทำไม? เห็นแบบนี้ฉันก็ทำแผลเป็นนะ!"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย..." อัลฟาตอบยิ้มๆ เขาเว้นช่วงทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดต่อ "งั้นฉันจะรอนะ...ที่ห้อง" ท้ายประโยคเขาเน้นน้ำเสียงจริงจังราวกับให้เวลาเอเลนได้ตัดสินใจ
"อื้อ!" แต่เจ้าตัวกลับขานรับสั้นๆ แล้วแยกตัวไปอีกทางโดยไม่แม้แต่จะสะกิดใจในคำพูดของเขา ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายาวเหยียดอย่างคนคิดไม่ตก ดูเหมือนเอเลนจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมเขาถึงต้องลงมาหาที่ระบายอารมณ์เอาดึกดื่นป่านนี้ ทั้งที่ความอดทนเขามันหมดลงแล้วแท้ๆ ทั้งที่เขากำลังคิดแผนร้ายอยู่ในหัว แต่น่าเศร้าที่เอเลนกลับไม่รู้สึกถึงมัน
อัลฟาเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียงหลังออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็ให้ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าวันนี้เขาใช้เวลาอาบน้ำน้อยกว่าปรกติมาก ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขากำลังประหม่า ความรู้สึกที่แทบจะไม่เคยเบียดเบียนเข้ามาในชีวิต เกิดขึ้นได้ง่ายดายทุกครั้งที่อยู่ใกล้เอเลน
ชายหนุ่มสะบัดห้วแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนคว้าเอาเสื้อยืดมาใส่ลวกๆ อดใจไม่ได้ที่จะเดินไปส่องกระจกมองแผลที่หน้าตัวเอง แต่พอเห็นแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ แผลเล็กเท่าแมวข่วนขนาดนี้ปล่อยทิ้งไว้วันเดียวก็หายแท้ๆ แต่เอเลนกลับดูตกอกตกใจซะยกใหญ่ขนาดนั้น ในจังหวะที่กำลังยกมือลูบหน้าตัวเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
"ประตูไม่ได้ล็อ..." อัลฟาขานรับ แต่ยังไม่ทันพูดจบคนด้านนอกก็เปิดประตูเข้ามาก่อนแล้ว
"อัลฟา พรุ่งนี้คุณไม่มีงานด่วนอะไรนะครับ"
แถมยังไม่ใช่คนที่เขากำลังรออยู่อีกต่างหาก แต่เป็นผู้ช่วยหน้าตายที่เดินดุ่มๆเข้ามาพร้อมกับหอบแฟ้มเอกสารมาด้วยหอบหนึ่ง อีกฝ่ายพูดขึ้นทั้งที่ไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำ
"เข้าใจแล้ว" เขาพึมพำตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ลืมไปเลยว่ายังมีหมอนี่ที่เข้านอกออกในห้องเขาได้อย่างอิสระ
"คุณจะรับอะไรเป็นมื้อดึกหน่อยมั้ย?" ฝ่ายนั้นถาม
"ไม่ล่ะ ผมจะนอนแล้ว" ชายหนุ่มตอบ ก่อนเดินไปทิ้งตัวนอนแบ่บลงบนเตียง เรย์ดูแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทีของเขา แต่หมอนั่นก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่ถามก้าวก่าย ฝ่ายนั้นค้อมศีรษะให้แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทว่าก็หยุดชะงักอีกครั้งตอนที่เปิดประตูห้องเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้
"อ้อ...เมื่อกี้ผมเห็นเอเลนกำลังเตรียมชุดปฐมพยาบาลท่าทางร้อนรนชอบกล คิดว่าคุณบาดเจ็บร้ายแรงซะอีก" เปลือกตาที่กำลังจะปิดลงเบิกกว้างขึ้นมาในจังหวะนั้น ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะปรายหางตามามองเจ้าของคำพูด พบว่าเรย์กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตารู้เท่าทันก่อนปิดประตูลง แต่อัลฟากลับไม่รู้สึกโกรธ คราวนี้เขาปิดเปลือกตาลงในขณะที่มุมปากเผยรอยยิ้มบางๆ
.
.
.
.
....TBC...
ทว่า สองเท้าก็จำต้องหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าประตู เมื่ออัลฟาไม่ได้อยู่ในห้องฝึกซ้อมเพียงลำพัง แต่กำลังซ้อมการต่อสู้อยู่กับ 'แซค' ลูกน้องคนสนิทที่มักจะติดตามอัลฟาไปทุกที่ราวกับเป็นเงาตามตัว แม้จะยังอยู่ในชุดที่ใส่ออกไปทำงาน มีเพียงสูทตัวนอกที่ถูกถอดทิ้งไว้ข้างๆเบาะสนาม แต่ท่วงท่าการขยับตัวของคนทั้งคู่ก็ยังดูคล่องแคล่วและรวดเร็วได้อย่างไร้ที่ติ ถึงแม้การเคลื่อนไหวนั้นจะอยู่ในระดับของคนธรรมดา ไม่ใช่แบบที่รวดเร็วเหนือมนุษย์เหมือนที่ผ่านมา แต่เอเลนก็ยังรู้สึกทึ่งในพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ของอีกฝ่ายทุกครั้งที่ได้เห็น
ดูเหมือนสองคนนั้นจะเอาจริงเอาจังจนไม่ทันสังเกตุ ว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ ต่างฝ่ายต่างพลัดกันรุกและรับอย่างไม่มีใครยอมใคร กระทั่งเสียงวาดเท้ากลางอากาศในจังหวะที่เตะพลาด ยังทำให้ร่างบางรู้สึกเสียวแปล๊บตรงชายโครงเมื่อเผลอจินตนาการว่าตัวเองเป็นคนรับลูกเตะนั้นเข้าจังๆ มือบางเผลอยกขึ้นมาลูบชายโครงตัวเอง ก่อนเจ้าตัวจะทำตัวลีบหดตัวกลับไปอยู่หลังผนังห้อง ด้วยไม่กล้าเข้าไปขัด
แต่ยังไม่ทันจะผลุ่บหายไปทั้งตัวดีสายตาของเขาก็ประสานงาเข้ากับหนึ่งในสองคนนั้นเข้าซะก่อน เจ้าของสายตาคู่นั้นชะงักไปในทันทีที่เห็นว่ามีเขายืนอยู่ตรงนี้ ทว่าการต่อสู้ที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วขนาดนั้น ต่อให้คู่ต่อสู้เป็นเทวดาหน้าไหนก็ไม่สามารถบังคับตัวเองให้หยุดในทันทีได้! แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าคู่ฝึกซ้อมของตัวเองยังไม่พร้อม!
ผลั๊วว!!
เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้ากับซีกหน้าของใครบางคนเข้าอย่างจัง ก่อนที่ร่างสมส่วนของฝ่ายนั้นจะล้มตึงลงไปกับเบาะสนาม แล้วกลิ้งหลุนๆไปอีกสองสามตลบถึงหยุดแน่นิ่งอยู่กับที่!
"หัวหน้าครับ!!"
ชายหนุ่มเจ้าของหมัดตรงปรี่เข้าไปหวังจะช่วยพยุงเจ้านายตัว เอง แต่ฝ่ายนั้นกลับยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่า 'ไม่เป็นไร' ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น ดูเหมือนสองคนนั้นจะคุยอะไรบางอย่างแต่เขาอยู่ไกลเกินกว่าจะได้ยิน ทว่าจากท่าทางของแซคที่ก้มหัวประหลกๆอยู่หลายต่อหลายครั้ง ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าทั้งคู่กำลังคุยเรื่องอะไรกัน
เอเลนยืนมองภาพนั้นด้วยสีหน้าตื่นๆ ระคนตกใจอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่แซคเดินสวนออกมาแล้วค้อมศีรษะให้ ใบหน้ามนจึงได้แต่ค้อมศีรษะรับด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะหันกลับไปสนใจเจ้าคนที่ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ในห้องต่อ
พบว่าอัลฟาพลิกตัวกลับมานอนเหยียดยาวในท่านอนหงายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้? แต่ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาซะที เอเลนจึงรวบรวมความกล้าแล้วเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยตัวเอง
"บ้าเอ้ย ดันให้นายมาเห็นตอนพลาดท่าซะได้..." ฝ่ายนั้นบ่นงึมงำพลางยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก จนเอเลนชักจะเริ่มหมั่นไส้นิดๆ ที่หมอนี่ยังมีแก่ใจมาห่วงภาพพจน์บ้าบอมากกว่าแผลบนหน้าตัวเอง ใบหน้ามนไม่ตอบคำ เจ้าตัวเดินเข้าไปพลางคิดหาคำด่าเจ็บๆในใจซักประโยค แต่พอเหลือบไปเห็นรอยเขียวช้ำที่เริ่มปูดเป็นลูกมะนาวที่โหนกแก้มด้านขวาของอีกฝ่ายเข้า เอเลนก็แทบจะหลุดหัวเราะพรืดออกมาเสียให้ได้
ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าคนอย่างอัลฟาจะมีวันนี้ได้ วันที่เจ้าตัวถูกลูกน้องคนสนิทต่อยหน้าคว่ำ 'ฮ่าๆ...' อยากจะหัวเราะดังๆแต่อีกใจก็นึกสงสาร เอเลนคาดไม่ถึงว่าอัลฟาจะโดนเข้าเต็มหมัดเต็มหน่วยขนาดนี้ ถึงจะตกใจในตอนที่เห็นอีกฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เขายังแอบหวังว่าด้วยความสามารถที่เกินมนุษย์มนาของหมอนี่คงจะหลบได้อย่างฉิวเฉียดแท้ๆแต่เห็นได้ชัดว่าเขาคิดผิด
"จะนอนอยู่แบบนั้นไปถึงเมื่อไหร่?" เขาแสร้งทำเสียงเข้ม ทั้งที่ยังแอบกลั้นขำแทบเป็นแทบตาย
"คิดว่าจะถูกนายหัวเราะใส่หน้าซะอีก" อัลฟาบ่นงึมงำออกมาพลางถอนหายใจ ทั้งที่ยังนอนอยู่ท่าเดิม
'แหงล่ะ!' เอเลนตอบในใจขณะเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้ม โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกสายตาของฝ่ายตรงข้ามจ้องมองอยู่ภายใต้ท่อนแขนที่ก่ายหน้าผากเอาไว้
"ช่วยที" จู่ๆอัลฟาก็ยื่นมือขึ้นมาตรงหน้า พร้อมกับส่งสายตาที่เขาแยกไม่ออกว่ากำลังขอความช่วยเหลือหรือคิดร้ายอะไรอยู่กันแน่? ใบหน้ามนจ้องดวงตาคมกริบคู่นั้นเขม็งอย่างพยายามค้นหาคำตอบ แต่สุดท้ายก็ยอมยื่นมือออกไป และทันทีที่ฝ่ามือสัมผัสกัน ใบหน้ามนก็รับรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองหลงกลเข้าให้แล้ว เพราะพอเขาพยายามออกแรงฉุดอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แต่ฝ่ายนั้นกลับยังนอนนิ่งเป็นท่อนซุงไม่ยอมขยับเขยื้อน พอเห็นท่าไม่ดีจึงตั้งใจจะสลัดมืออีกฝ่ายทิ้ง แต่มือเจ้ากรรมกลับถูกกระชับไว้ซะแน่น
ทุกการกระทำดูเหมือนอัลฟากำลังแกล้งเขาอยู่ ทว่าทั้งสีหน้าและแววตากลับดูจริงจังจนคนถูกแกล้งชักเริ่มหวั่นใจ
"ลุกขึ้นมาได้แล้ว" ใบหน้ามนแสร้งทำเสียงเข้มพลางออกแรงดึงฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง คราวนี้อัลฟายิ้มบางๆตรงมุมปากก่อนจะยอมลุกขึ้นแต่โดยดี เจ้าตัวเดินไปหยิบสูทที่ถอดทิ้งไว้ "ไปกันเถอะ" อัลฟาพูดงึมงำไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะเดินดุ่มๆนำหน้าเขาไป จนใบหน้ามนได้แต่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ออก
"นายไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันไปทำแผลให้!" เอเลนตะโกนตามหลังฝ่ายนั้นทั้งที่ยังสาวเท้าตามไปห่างๆ ทว่าพอเขาพูดแบบนั้นอัลฟากลับหยุดชะงักอยู่กับที่ไปเสียดื้อๆ อีกฝ่ายหันกลับมาหรี่ตามองเขาราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ท่าทางแบบนั้นทำเอาคนถูกมองเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
"ทำไม? เห็นแบบนี้ฉันก็ทำแผลเป็นนะ!"
"ก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย..." อัลฟาตอบยิ้มๆ เขาเว้นช่วงทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดต่อ "งั้นฉันจะรอนะ...ที่ห้อง" ท้ายประโยคเขาเน้นน้ำเสียงจริงจังราวกับให้เวลาเอเลนได้ตัดสินใจ
"อื้อ!" แต่เจ้าตัวกลับขานรับสั้นๆ แล้วแยกตัวไปอีกทางโดยไม่แม้แต่จะสะกิดใจในคำพูดของเขา ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายาวเหยียดอย่างคนคิดไม่ตก ดูเหมือนเอเลนจะไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมเขาถึงต้องลงมาหาที่ระบายอารมณ์เอาดึกดื่นป่านนี้ ทั้งที่ความอดทนเขามันหมดลงแล้วแท้ๆ ทั้งที่เขากำลังคิดแผนร้ายอยู่ในหัว แต่น่าเศร้าที่เอเลนกลับไม่รู้สึกถึงมัน
อัลฟาเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่หัวเตียงหลังออกมาจากห้องน้ำ แล้วก็ให้ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าวันนี้เขาใช้เวลาอาบน้ำน้อยกว่าปรกติมาก ถึงไม่อยากจะยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขากำลังประหม่า ความรู้สึกที่แทบจะไม่เคยเบียดเบียนเข้ามาในชีวิต เกิดขึ้นได้ง่ายดายทุกครั้งที่อยู่ใกล้เอเลน
ชายหนุ่มสะบัดห้วแรงๆไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ก่อนคว้าเอาเสื้อยืดมาใส่ลวกๆ อดใจไม่ได้ที่จะเดินไปส่องกระจกมองแผลที่หน้าตัวเอง แต่พอเห็นแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ แผลเล็กเท่าแมวข่วนขนาดนี้ปล่อยทิ้งไว้วันเดียวก็หายแท้ๆ แต่เอเลนกลับดูตกอกตกใจซะยกใหญ่ขนาดนั้น ในจังหวะที่กำลังยกมือลูบหน้าตัวเองเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะซะก่อน
"ประตูไม่ได้ล็อ..." อัลฟาขานรับ แต่ยังไม่ทันพูดจบคนด้านนอกก็เปิดประตูเข้ามาก่อนแล้ว
"อัลฟา พรุ่งนี้คุณไม่มีงานด่วนอะไรนะครับ"
แถมยังไม่ใช่คนที่เขากำลังรออยู่อีกต่างหาก แต่เป็นผู้ช่วยหน้าตายที่เดินดุ่มๆเข้ามาพร้อมกับหอบแฟ้มเอกสารมาด้วยหอบหนึ่ง อีกฝ่ายพูดขึ้นทั้งที่ไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำ
"เข้าใจแล้ว" เขาพึมพำตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ลืมไปเลยว่ายังมีหมอนี่ที่เข้านอกออกในห้องเขาได้อย่างอิสระ
"คุณจะรับอะไรเป็นมื้อดึกหน่อยมั้ย?" ฝ่ายนั้นถาม
"ไม่ล่ะ ผมจะนอนแล้ว" ชายหนุ่มตอบ ก่อนเดินไปทิ้งตัวนอนแบ่บลงบนเตียง เรย์ดูแปลกใจเล็กน้อยกับท่าทีของเขา แต่หมอนั่นก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่ถามก้าวก่าย ฝ่ายนั้นค้อมศีรษะให้แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทว่าก็หยุดชะงักอีกครั้งตอนที่เปิดประตูห้องเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้
"อ้อ...เมื่อกี้ผมเห็นเอเลนกำลังเตรียมชุดปฐมพยาบาลท่าทางร้อนรนชอบกล คิดว่าคุณบาดเจ็บร้ายแรงซะอีก" เปลือกตาที่กำลังจะปิดลงเบิกกว้างขึ้นมาในจังหวะนั้น ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะปรายหางตามามองเจ้าของคำพูด พบว่าเรย์กำลังมองมาที่เขาด้วยสายตารู้เท่าทันก่อนปิดประตูลง แต่อัลฟากลับไม่รู้สึกโกรธ คราวนี้เขาปิดเปลือกตาลงในขณะที่มุมปากเผยรอยยิ้มบางๆ
.
.
.
.
....TBC...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น