12 มิ.ย. 2560

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Lolita : 10(100%)

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Lolita : 10

:Attack on titan Fanfiction 

:Pairing : Levi x Eren 

:Genre : Romane 

:Rate NC-18++

คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดหน้านี้ไปนะคะขอบคุณค่ะ



          นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอประกายประหลาดขึ้นมาวูบหนึ่ง ถึงจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่เอเลนก็พอจะคาดเดาได้ว่าคุณรีไวล์คงไม่พอใจคำขอของเขาอยู่แน่ๆ "ผมแค่ลองถามดู คุณอย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะฮะ"  เจ้าตัวเอ่ยขึ้นยิ้มๆ ขณะที่มือบางค่อยๆดึงสายคาดเอวของอีกฝ่ายออก ริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มซุกซนเมื่อร่างกายสมบูรณ์แบบปรากฏสู่สายตา เขาส่งสายตาอ้อนวอนชายหนุ่ม ก่อนจะเป็นฝ่ายยื่นหน้าขึ้นไปจูบมุมปากบางเฉียบคู่นั้นบ้าง พอได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้ามนก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจที่ทำให้คุณรีไวล์อารมณ์ดีขึ้นมาได้อีกครั้ง


          "ผมไม่ได้ทำให้คุณหมดอารมณ์ใช่มั้ย?" 


          "ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้น แต่อย่างน้อย..."  รีไวล์หยุดคำพูดของตัวเองเอาไว้เพียงแค่นั้น ก่อนจะจับร่างบางกดลงกับเตียงนอนแล้วใช้ร่างกายของตัวเองตรึงอีกฝ่ายเอาไว้ จนคนที่ถูกจับกดแบบไม่ทันตั้งตัวได้แต่ทำหน้าเหว๋อด้วยความตกใจ พอเห็นท่าทางตลกๆของคนตรงหน้าแล้วก็ให้ยกยิ้มตรงมุมปาก


          เขากดจูบที่หน้าผากมนเป็นเชิงปลอบ ก่อนปลายจมูกโด่งเป็นสันและลมหายใจอุ่นๆจะคลอเคลียไปตามพวงแก้มใส  "พูดความจริงกับฉันสักเรื่องได้รึเปล่า? แค่คืนนี้เท่านั้น สิ่งที่มันติดค้างอยู่ในใจของนาย ระบายมันออกมาบ้างก็ได้"  ฟันคมขบติ่งหูร่างด้านใต้เบาๆ แล้วพูดต่อ  "พึ่งพาฉันให้มากกว่านี้สิเอเลน"

          เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูทำเอาคนที่กำลังเคลิ้มไปกับสัมผัสถึงกับเบิกตากว้าง  "ผม!....."  เอเลนขยับปากตั้งใจจะพูดอะไรออกไปสักอย่าง แต่ก็พลันนึกขึ้นได้ในวินาทีนั้นเอง ว่าเขาเพิ่งหลุดปากบอกความลับบางอย่างของตัวเองกับอีกฝ่ายเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้

          นั่นหมายความว่าคำโกหกเล็กๆน้อยๆของเขา ถูกอีกฝ่ายจับได้ซะแล้ว เอเลนทำหน้าเหมือนคนเพิ่งกลืนยาขมลงไปหมาดๆ พอช้อนสายตาขึ้นมองฝ่ายตรงข้าม ก็พบว่าฝ่ายนั้นกำลังจ้องหน้าเขาเขม็งอยู่ก่อนแล้ว มันเป็นแววตาที่ขัดกับคำพูดกระซิบกระซาบหวานหูเมื่อครู่ จนใบหน้ามนได้แต่ยิ้มแห้งๆ ทั้งที่ในใจกำลังร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหมือนตัวเองเพิ่งทำเรื่องผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยก็ตอนนี้


          "...เรื่องพิน็อคคิโออะไรนั่นผมโกหก ความจริงแม่บอกว่าผมเป็นเด็กเลี้ยงแกะต่างหาก..."  หลังจากที่คิดทบทวนอยู่หลายตลบ ในที่สุดเอเลนก็ตัดสินใจที่จะเล่าความจริงให้ชายหนุ่มฟัง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเขาก็ตาม  "มันเป็นนิสัยแย่ๆที่ติดตัวผมมาจนถึงตอนนี้ ทุกครั้งที่มีคนถามถึงเรื่องครอบครัว ผมมักจะตอบอย่างหน้าชื่นตาบานว่า 'พ่อเป็นแค่ผู้ชายแย่ๆคนหนึ่งที่ทิ้งผมกับแม่ไปหาผู้หญิงคนอื่น' แต่ความจริงแล้วมันกลับกัน..."


          "เพราะคนนิสัยแย่ที่ว่าคือแม่ผมต่างหาก ที่ไปแย่งสามีคนอื่นมาน่ะ...ฮะฮะ"  เอเลนหัวเราะเฝื่อนราวกับกำลังเย้ยหยันตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ทำราวกับว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกร้ายเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ต่อให้มันไม่ใช่เรื่องที่อยากจะนึกถึงมันสักเท่าไหร่ ออกจะน่าระอายใจเสียด้วยซ้ำ ใบหน้ามนกัดริมฝีปากตัวเองอย่างที่มักทำเป็นประจำเวลาที่ใช้ความคิด ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วตัดสินใจเล่าต่อ


          "แม่จากผมไปตอนม.ปลายปีสุดท้าย ก่อนจะย้ายมาอยู่กับพ่อจนกระทั่งเรียนจบ แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย...มันก็แค่นั้น"  เจ้าตัวเลือกใช้คำพูดเพียงสั้นๆกระชับแต่ได้ใจความแทบจะครบถ้วน จนรีไวล์เองยังได้แต่ส่ายหน้ามองเจ้าตัวอย่างปลงๆ ในขณะที่คนถูกมองพยายามเสมองไปทางอื่นไม่กล้าสบตา ทั้งที่เขาคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าเจ้าเด็กขี้เมาตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่สุดท้าย 'เอเลน เยเกอร์' ก็ยังเป็น 'เอเลน เยเกอร์' อยู่วันยังค่ำ ถึงจะรู้สึกระอาใจอยู่นิดๆ ทว่าสิ่งที่ได้รับรู้จากปากของอีกฝ่ายก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจสำหรับเขา


          "เพราะแบบนั้น นายถึงถูกส่งมาเรียนที่นี่?"  เอเลนทำเพียงแค่ยิ้ม แต่ไม่ยอมตอบรับหรือปฏิเสธคำถามนั้น เขาจึงเลือกที่จะไม่ซักไซ้อีกฝ่ายต่อ เพราะเรื่องราวต่อจากนี้เขาก็พอจะคาดเดาได้ไม่ยาก


          "อย่างที่ผมบอกคุณไปก่อนหน้านี้ ว่าตอนที่เห็นครอบครัวคุณแอนด์เดอร์สันมันทำให้ผมรู้สึกอิจฉาพวกเขา ผมไม่ได้อยากจะทำตัวเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรมหรืออยากจะเป็นพ่อพระอะไรเทือกนั้นหรอกนะฮะ แต่ตอนที่รู้ว่าพวกเขากำลังตกที่นั่งลำบาก ผมก็แค่รู้สึกสงสารพวกเขาขึ้นมา...นิดหน่อย"  ใบหน้ามนช้อนสายตาขึ้นสบกับนัยน์ตาคมกริบคู่นั้น แม้จะยังแอบหวั่นใจอยู่นิดๆ  "ผมบังเอิญผ่านไปได้ยินตอนที่คุณกับคุณแอนด์เดอร์สันคุยกัน...ผมขอโทษ"


          ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งหลังจากฟังเจ้าตัวเล่าจบ ก่อนมือหนาจะเสยเส้นผมออกจากหน้ามนแล้วจรดหน้าผากลงไป  "แผลยังเจ็บอยู่ไหม?"


          "ไม่ฮะ แผลแค่นี้เอง"  ถึงจะแอบแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆคุณรีไวล์ก็เปลี่ยนเรื่อง แต่เอเลนก็พึมพำตอบกลับไปเสียงแผ่ว เขาแทบไม่กล้าขยับปากมากกว่านี้ เมื่อริมฝีปากบางเฉียบคู่นั้นอยู่ห่างแค่ลมหายใจกั้น ใจจริงเขาอยากจะเบือนหน้าหนีเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ที่ต้องอดทนเหมือนกำลังเล่นเกมวัดใจอยู่แบบนี้ นั่นก็เพราะใบหน้าของเขาถูกมือหนาประคองเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้? 


          "รู้ตัวไหม ว่านายไม่ต่างอะไรกับกล่องตกใจดีๆนี่เอง"


          "ผมจะถือว่านั่นเป็นคำชมก็แล้วกัน"  ได้ยินแบบนั้นชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนกลีบปากล่างจะถูกขบเบาๆ เล่นเอาเขาถึงกับหายใจสะดุด ใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างฉับพลันจนมือบางต้องออกแรงดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง เพราะไม่สามารถเอียงหน้าหลบอีกฝ่ายไปทางอื่นได้ เอเลนจึงได้แต่ช้อนตามองฝ่ายตรงข้ามก่อนจะทำเสียงดุเป็นเชิงตำหนิอยู่ในที  "อย่าทำแบบนี้สิครับ"


          แต่คนถูกตำหนิกลับทำเพียงแค่ยิ้มมุมปาก นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เข้มขึ้นขณะใช้มือข้างหนึ่งแยกขาเรียวออกกว้างแล้วแทรกตัวเข้ามาให้แนบชิดยิ่งขึ้น  "ฉันต้องการนายมากจริงๆนั่นแหละ เอเลน"  เสียงกระซิบชวนหวั่นไหว มาพร้อมๆกับการรุกรานระลอกใหม่ สร้างความสับสนให้กับเอเลนมากกว่าครั้งไหนๆ ริมฝีปากอิ่มถูกขบเม้มดูดดึงอีกหลายต่อหลายครั้ง ในขณะที่ร่างกายช่วงล่างกำลังถูกปั่นป่วนด้วยส่วนร้อนรุ่มของฝ่ายตรงข้าม


          "อ่ะ...อา..."  เอเลนหลุดครางเสียงแผ่วไม่ต่างจากลูกแมวน้อยที่ถูกทำให้สิ้นฤทธิ์ ทั้งที่มันเป็นแค่การเล้าโลมเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่ความคุ้นเคยก็ไม่ได้ช่วยให้เขาควบคุมตัวเองได้เลย ความคิดในหัวกำลังตีกันมั่ว ว่าควรจะขัดขืนหรือควรปล่อยผ่านให้อารมณ์และความรู้สึกเป็นตัวตัดสินดี? ทว่าทุกครั้งที่ริมฝีปากบางเฉียบคู่นั้นบดเบียดลงมา ในใจก็ก่อเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม แค่อีกฝ่ายจูบเพียงผิวเผินยังทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวได้ขนาดนี้ ถ้าหากคุณรีไวล์รุกล้ำมากไปกว่านี้เขาแทบไม่กล้าคิดถึงสภาพตัวเองในตอนนั้น


          "คุณรีไวล์...ผม...อื้ม!..."  ใบหน้ามนทำท่าจะเอียงหลบไปทางอื่น แต่กลับถูกชายหนุ่มยึดปลายคางเอาไว้อย่างรู้ทันก่อนจะถูกบังคับบีบจนเขาต้องอ้าปากรับเรียวลิ้นอุ่นร้อนเข้ามาในที่สุด เอเลนหลับตาแน่นก่อนจะพยายามดึงลิ้นหลบเรียวลิ้นของฝ่ายตรงข้ามพร้อมส่งเสียงอู้อี้ประท้วงอยู่ในลำคอ แต่ยิ่งเขาดิ้นรนอีกฝ่ายก็ยิ่งรุกไล่ เรียวลิ้นถูกดูดดึงรุนแรงเหมือนเป็นการลงโทษ

       
          "อึ่ก...อื้อ..."  แม้จะได้ยินเสียงร้องครางในลำคออย่างอึดอัดทรมาน รีไวล์ก็ยังไม่ยอมปล่อยริมฝีปากอิ่มให้เป็นอิสระ ซ้ำยังขบเม้มกลีบปากนุ่มมากขึ้น ลิ้นอุ่นกระหวัดรัดเรียวลิ้นที่ขยับหนีอย่างอ่อนแรงให้ยอมจำนนต่อเขาในที่สุด ท่าทีที่อ่อนลงของร่างด้านใต้สร้างความพอใจให้กับรีไวล์ไม่น้อย เขาจับแขนเรียวให้โอบรอบลำคอตัวเอง ก่อนจะยอมผ่อนจังหวะให้อ่อนโยนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
          เสียงสั่นเครือดังแว่วให้ได้ยินทุกครั้งที่ริมฝีปากเคลื่อนห่างจากกันเล็กน้อยยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นผู้ชนะ เขารู้ดีว่าตัวเองใช้วิธีที่ออกจะขี้โกงไปสักหน่อย แต่ความอดทนของคนเรามันก็ไม่ได้มีมากมายขนาดนั้น จากที่คิดเอาไว้ในตอนแรกว่าถ้าหากถูกเอเลนปฏิเสธรุนแรงกว่านี้เขาจะยอมหยุดแล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับความต้องการของตัวเองจนได้

          รีไวล์ยอมละริมฝีปากออกห่างก็ต่อเมื่อร่างบางปรือตามองเขาด้วยสีหน้าที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ ทันทีที่ริมฝีปากของพวกเขาแยกจาก เสียงหอบหายใจหนักหน่วงของคนทั้งคู่ก็ดังสะท้อนอยู่ในอากาศ ส่งผลให้บรรยากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยแรงปรารถนาที่ถูกฉุดขึ้นสูง มือหนาประคองใบหน้าที่ยังเหม่อลอยของร่างบางเอาไว้ เขาเดาไม่ออกว่าตอนนี้เอเลนกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? อาจจะกำลังตกใจ หรือไม่ก็โกรธเขาจนช๊อกไปแล้วก็เป็นได้ เจ้าตัวถึงได้ดูนิ่งอึ้งไปแบบนี้? 


          "ลืมคำสัญญางี่เง่าที่นายเคยให้ไว้กับไอ้หมอนั่น แล้วหันกลับมามองฉันบ้างได้รึเปล่า?"  ชายหนุ่มกระซิบเสียงพร่าขณะที่ยังไล้เลียกลีบปากอิ่มไม่เลิก ต่างจากร่างบางที่ได้แต่โอบลำคออีกฝ่ายเอาไว้แล้วหอบหายใจแฮ่กๆเป็นลูกหมาหอบแดด เพราะยังเรียกสติของตัวเองกลับมาไม่ทัน แถมยังต้องเผชิญหน้ากับคำพูดกำกวมของฝ่ายตรงข้ามยิ่งทำให้ใบหน้ามนยิ่งดูมึนเผลอหนักเข้าไปอีก


          เขาไม่รู้ว่าคุณรีไวล์ไปได้ยินได้ฟังเรื่องอะไรมากันแน่? ถ้าจำไม่ผิดก่อนหน้านี้ชายหนุ่มก็พูดถึงเรื่องนี้มาแล้วถึงสองครั้งด้วยกัน ถึงจะยังสับสนแต่เอเลนกลับรู้สึกว่าตัวเองต้องอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ ต่อให้ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนก็ตาม เจ้าตัวจึงได้แต่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปนหอบ


          "ผมกับเค้า เราจบกันไปนานแล้ว..."


          "บอกฉันสิ ว่านายไม่ได้ยังรักหมอนั่นอยู่"


          "ผมไม่รู้ แต่ผมไม่อยากให้คุณทำแบบนี้...ผมยังอยากอยู่กับคุณจนถึงวันคุณกลับไป"  เอเลนยังคงพยายามเอียงหน้าหลบถึงแม้ว่ามันแทบจะไม่เป็นผล ทว่าก็เผลอพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาจนได้ คำพูดของเขาทำให้ชายหนุ่มถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น มือหนาประคองใบหน้ามนเอาไว้แน่น ก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเขียวมรกต


          "มันสายไปแล้ว ฉันกลับไปยืนตรงจุดนั้นไม่ได้อีกแล้ว...แต่นายห้ามไปไหนทั้งนั้น"  จบประโยคคำพูดเอาแต่ใจริมฝีปากบางเฉียบคู่นั้นก็ประกบลงมาอีกครั้ง แน่นอนว่าเอเลนเองก็ต่อต้านในทันทีเช่นกัน ทว่ามันเป็นเพียงแค่ปฏิกิริยาตอบโต้โดยอัตโนมัติของร่างกายเท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ใจของเขามันอ่อนยวบลงตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งที่อุตส่าห์บอกกับตัวเองมาตลอดว่า 'ขอดื้อดึงกว่านี้อีกสักหน่อย' แต่ดูเหมือนมันจะมาสุดทางแล้วจริงๆ


          การจู่โจมคราวนี้รุนแรงกว่าครั้งแรก จนเอเลนรู้สึกเหมือนถูกเรียวลิ้นของอีกฝ่ายล้วงลึกเข้าไปถึงลำคอ เสียงเปียกแฉะจากการตวัดปลายลิ้นดังก้องอยู่ในหูผสมผสานไปกับเสียงหัวใจที่เต้นระส่ำอยู่ในอกด้านซ้ายส่งผลให้ร่างกายของเขาตื่นตัวจนถึงขีดสุด มันเป็นความสุขสมและทรมานในแบบที่เขาไม่เคยรู้จัก ทว่ามันกลับทำให้เขาตระหนักได้ถึงความความจริงข้อหนึ่งว่า 'อานุภาพของจูบนั้นมันช่างน่ากลัว เหมือนอย่างที่ใครหลายคนว่าไว้จริงๆ'

          "ฮ่ะ...อา...อ่ะ..."  ร่างบางบิดเร่าอยู่ภายใต้ร่างของชายหนุ่ม เมื่อมือหนาข้างหนึ่งเลื่อนไปตามส่วนโค้งของเรือนร่างต่ำลงสู่ท้องน้อยแล้วตรงเข้าไปกอบกุมแกนกายที่กำลังสั่นไหวรุนแรงเอาไว้ 


          "รู้สึกดีกว่าทุกครั้งใช่รึเปล่า?"  ชายหนุ่มกระซิบถามขณะใช้ปลายนิ้วลูบไล้รอยแยกตรงส่วนปลายที่คายหยาดน้ำใสๆออกมาไม่ขาดสายเบาๆ เป็นครั้งแรกที่เอเลนรู้สึกว่าคุณรีไวล์ถามเรื่องน่าโมโห ทั้งที่คำตอบมันอยู่ตรงหน้าฝ่ายนั้นแล้วแท้ๆ แต่เพราะส่วนที่ถูกปล่อยให้รอนานจนแทบขาดใจถูกกระตุ้นโดยตรง เจ้าตัวจึงได้แต่แอ่นกายแล้วครางรับในลำคอไม่เป็นภาษา


          "คุณรีไวล์..."  มือบางย้ายมาประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ แล้วเป็นฝ่ายยื่นหน้าไปประจูบอีกฝ่ายด้วยตัวเอง ทั้งที่ฝ่ายนั้นเพิ่งจะละริมฝีปากออกไปเพียงไม่กี่วินาที แน่นอนว่าชายหนุ่มไม่ได้ปฏิเสธ ซ้ำยังตอบรับการเรียกร้องของเขาด้วยจูบที่ดูดดื่มและเร่าร้อนเป็นพิเศษ ในขณะที่มือหนาที่กอบกุมส่วนนั้นเอาไว้ขยับรูดรั้งเป็นจังหวะนำพาเขาไปถึงจุดสูงสุดในเวลาเพียงไม่นาน


          "ฮ่ะ...อ้า...อ่ะ...อา..."  เอเลนจิกเกร็งปลายเท้ากับเตียงนอน แอ่นกายเป็นเส้นโค้งขณะปลดปล่อยของเหลวสีขาวขุ่นออกมาจนเปรอะเปื้อนฝ่ามือของอีกฝ่าย ถึงจะรู้สึกเสียหน้านิดๆที่ถูกทำให้ถึงจุดหมายด้วยฝ่ามือในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที แต่เขาก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขสมที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างตรงไปตรงมา

          "เอเลน..."  ใบหน้ามนปรือตามองเจ้าของเสียงทั้งที่ยังเหม่อลอย พบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล ความเร่าร้อนที่ส่งผ่านดวงตาคู่นั้นทำเอาลืมภาพความเย็นชาเวลาที่ชายหนุ่มโกรธไปเสียสนิท 

          "เลิกล้อเล่นกับร่างกายของผม แล้วเอาจริงซะทีสิฮะ"  พอขอไปตรงๆ ริมฝีปากอิ่มก็ถูกจูบเบาๆเป็นเชิงปลอบ เอเลนแอบเห็นคุณรีไวล์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอื้ยวตัวไปหยิบขวดโลชั่นที่หัวเตียงมาเทบนฝ่ามือ

          "ใจจริงก็อยากเห็นสีหน้าของนายให้มากกว่านี้ แต่ดูเหมือนมันจะถึงขีดจำกัดของฉันแล้วล่ะ"  ใบหน้ามนใจเต้นแรงขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุเมื่อได้ยินแบบนั้น  สองแก้มร้อนผ่าวด้วยความอายเมื่อรู้ตัวว่าถูกฝ่ายตรงข้ามจ้องมองอยู่ตลอดเวลา สองแขนผอมบางโอบรอบคอชายหนุ่มเอาไว้แน่น ก่อนจะซุกหน้าลงไปกับไหล่แกร่งแล้วบ่นงึมงำไม่เต็มเสียง

         "ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยนี่ครับ"  


          "แต่มันจำเป็นสำหรับฉัน"  เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูยิ่งทำให้ร่างกายของเขาปั่นป่วนจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งได้ฟังคำตอบของฝ่ายนั้นเอเลนก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองใกล้จะเป็นโรคหัวใจเข้าไปทุกที ทั้งที่เขาพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หวั่นไหว แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรุกไล่จนตั้งตัวไม่ทันแบบนี้หัวใจเขามันรับไม่ไหวจริงๆ แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินคำพูดหวานเลี่ยนจากคู่นอนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มีบ่อยครั้งที่คนพวกนั้นพร่ำเพ้อราวกับเขาเป็นคนรักของตัวเอง และมันทำให้เขารู้สึกขยะแขยงจนแทบทนไม่ไหว แต่กับคนคนนี้ ทั้งที่มันอาจจะเป็นคำพูดในลักษณะเดียวกัน ทำไมความรู้สึกที่ได้รับมันถึงได้ต่างกันราวฟ้ากับเหวขนาดนี้?


          "อึ่ก..."  ใบหน้ามนหลับตาแน่นแล้วงับหัวไหล่แกร่งเอาไว้ เมื่อปลายนิ้วของชายหนุ่มสัมผัสที่ช่องทางด้านหลัง ขาเรียวแยกออกกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายสอดนิ้วเข้าไปได้ถนัดยิ่งขึ้น พอปลายนิ้วของชายหนุ่มเริ่มขยับ แรงกัดที่หัวไหล่ก็ยิ่งฝังลึกลงไป  "ฉันอยากเห็นหน้านาย...เอเลน"  รีไวล์พึมพำขณะสร้างความคุ้นเคยที่ช่องทางด้านหลังให้กับร่างด้านใต้ แต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าหลุนๆอยู่กับหัวไหล่ของเขาพลางหอบปนเสียงครางด้วยรู้สึกดี


          เป็นครั้งแรกที่เอเลนหลบหน้าเขาตอนมีเซ็กซ์ แม้จะแอบขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกดีที่รู้ว่าเขาไม่ได้ถูกเกลียด แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ยังอยากเห็นสีหน้าของเจ้าตัวอยู่ดี  "เอเลน"  รีไวล์แนบจูบที่ลำคอระหงก่อนจะแกล้งงอปลายนิ้วหมุนคว้านสัมผัสกับผนังอ่อนและจุดกระสันที่ด้านใน จนคนที่ถูกกระตุ้นถึงกับหวีดร้องเสียงหลงออกมา


          "อ๊า!..อ๊ะ...ยะ..."  ใบหน้ามนสะบัดพรืดด้วยด้วยความเสียวซ่านที่พุ่งสูง สองแขนอ่อนแรงจนต้องทิ้งตัวลงกับเตียงนอนบิดเร่าอยู่ใต้ร่างของฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองฝ่ายตรงข้ามด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ ความจริงก็อยากทำอวดดีแขวะอีกฝ่ายไปด้วยคำพูดลามกเหมือนเมื่อก่อน แต่เพราะคุณรีไวล์รู้จักร่างกายของเขาดีเกินไป บวกกับความรู้สึกที่อ่อนไหวของเขาในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาต้องการให้อีกฝ่ายเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของตัวเองในทุกๆด้าน


          "คุณรีไวล์..."  พอถูกอ้อนวอนด้วยแววตาที่อาบย้อมไปด้วยความปรารถนา รีไวล์ก็รับรู้ได้ถึงหัวใจที่สั่นไหวของตัวเองเป็นครั้งแรก บรรยากาศภายในห้องดูเข้มข้นขึ้น ด้วยความเร่าร้อนที่โอบล้อมอยู่รอบตัว  "เอเลน"  เขาประกบริมฝีปากมอบจูบดื่มด่ำล้ำลึกหลังจบประโยคนั้น พวกเขาดูดกลืนริมฝีปากและเรียวลิ้นของกันและกัน ลิ้มรสความหอมหวานของอีกฝ่ายอย่างกระหายหิว ก่อนรีไวล์จะถอนปลายนิ้วออกแล้วแทนที่ด้วยส่วนร้อนรุ่มที่ทั้งแข็งแรงและใหญ่โตกว่าตามคำเรียกร้องของร่างด้านใต้


          "ฮ่ะ...อา..."  ใบหน้ามนหลุดเสียงครางออกมาด้วยความอึดอัด เมื่อรีไวล์ขยับเอวดันความเป็นชายแทรกตัวให้จมลึกเข้าไปในช่องทางคับแคบทางด้านหลัง แค่อีกฝ่ายขยับตัวเป็นจังหวะเนิบนาบ ความเสียวซ่านก็แผ่กระจายไปทั่วหว่างขา ช่องทางอ่อนนุ่มบีบตัวตอดรัดตัวตนของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นเสียจนชายหนุ่มต้องนิ่วหน้า 


          "นายรับรู้ได้ใช่ไหม ความรู้สึกของฉัน"


          ร่างบางถูกกอดเอาไว้แน่นหลังจบประโยคนั้น แน่นเสียจนแผ่นอกของเขารับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจฝ่ายตรงข้าม


          เอเลนหลับตาลงแล้วโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่น เขาพยายามซึมซับเอาความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านอ้อมกอดของชายหนุ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่ความรู้สึกจอมปลอมของคุณรีไวล์ก็ตาม
          เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่มีทางเอื้อมถึงคนคนนี้ เพราะรู้ดีอยู่แล้วว่าพอถึงเวลานั้นคุณรีไวล์ก็จะลืมเขาไปในเวลาเพียงไม่นานเหมือนกับผู้หญิงพวกนั้น อาจจะง่ายกว่าก็ตรงที่สำหรับเขา คุณรีไวล์ไม่จำเป็นต้องพึ่งพวกทนายมือหนึ่งให้เสียเวลา เพียงแต่เขาไม่รู้ ว่าตอนที่คุณรีไวล์กอดผู้หญิงคนอื่น อีกฝ่ายจะอ่อนโยนกับพวกหล่อนเหมือนที่กำลังทำกับเขาไหม?


          บางที...อาจจะเร่าร้อนกว่านี้?

          หรืออ่อนโอนกว่านี้ก็เป็นได้?...

          "อ๊ะ!?!"

          เอเลนอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆก็ถูกจับพลิกให้อยู่ด้านบนทั้งที่ส่วนนั้นยังเชื่อมประสานกัน ใบหน้าตื่นๆของเขาถูกประคองบังคับให้เงยหน้าขึ้นสบสายตากับนัยย์ตาคมกริบคู่นั้น ทันทีที่สบตากันไม่รู้ทำไมเอเลนถึงได้รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ?

          "เซ็กซ์ของฉันมันแย่ จนทำให้นายใจลอยคิดถึงคนอื่นได้เลยรึไง?"

         "เอ๊ะ??..."

          เป็นอีกครั้งที่ใบหน้ามนได้แค่อุทานออกไปสั้นๆโดยไม่ทันได้ทำความเข้าใจกับคำพูดประโยคนั้น ก่อนท้ายทอยจะถูกรั้งลงไปรับจูบหนักหน่วงเอาแต่ใจ ริมฝีปากอิ่มถูกบดขยี้โดยแรง กลีบปากล่างถูกขบดึงจนเจ้าตัวถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แม้จะรับรู้ได้ถึงรสเลือดแต่เรียวลิ้นของชายหนุ่มยังคงพัวพันกวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างไม่ยอมลดละ นานทีเดียวกว่าอีกฝ่ายจะยอมปล่อย

          "อย่าคิดถึงคนอื่นตอนอยู่กับฉัน เอเลน!"  มือหนาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้แน่น น้ำเสียงทุ้มกดต่ำเสียจนเอเลนขนลุกซู่ไปทั่วร่าง ใบหน้ามนจึงได้แต่พยายามส่ายหน้าปฏิเสธในพื้นที่แคบๆระหว่างฝ่ามือ ทั้งที่ยังหอบฮั่กด้วยหายใจหายคอไม่ท้น

          "ผมเปล่า!...ไม่ใช่...อื้อ!..."

          พอรวบรวมสติพยายามจะอธิบาย ฝ่ายนั้นกลับกระดกเอวเสือกกายเข้ามาโดยแรง ราวกับไม่อยากฟังคำแก้ตัวของเขา เอเลนรู้ดีว่าตัวเองผิดที่เผลอใจลอยไปชั่วขณะ แต่เรื่องที่อยู่ในหัวของเขาไม่ใช่เรื่องของคนอื่นอย่างที่คุณรีไวล์เข้าใจ ทว่าก็ไม่สามารถพูดออกไปได้ว่าเรื่องที่วนเวียนอยู่ในหัวก็มีแต่เรื่องของอีกฝ่ายทั้งนั้น

          "ฉันไม่อยากเป็นตัวแทนของใคร"

          "ไม่ใช่นะฮะ!...ผม..."  ยิ่งอ้ำอึ้ง ความน่าเชื่อในคำพูดก็ยิ่งหายไปอีกสามส่วน แววตาคนฟังเข้มขึ้นจนเอเลนรู้สึกเหมือนมีลูกไฟแห่งความโกรธเกรี้ยวลุกโชนอยู่ในนั้น

          "งั้นก็ทำเองสิ อย่างที่นายชอบ"  ใบหน้ามนถึงกับอึ้งไปด้วยไม่อยากจะเชื่อว่าคุณรีไวล์จะพูดคำพูดโหดร้ายแบบนี้ออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ทั้งที่ฝ่ายนั้นเป็นคนเริ่มต้นจนมาถึงครึ่งทางแล้วแท้ๆ แต่อยู่ๆก็กระโดดลงจากหลังม้าแล้วยกบทนำให้กันเสียดื้อๆแบบนี้ เล่นเอาเอเลนไม่รู้จะทำหน้าหัวเราะหรือร้องไห้ดี?

          ทว่าเขาก็ตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น มือบางยันแผงอกแกร่งเอาไว้แล้วหยัดกายลุกขึ้นในสภาพชุดคลุมหลุดลุ่ยไหลลงไปกองอยู่ที่ข้อศอก โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าสภาพของตัวเองตอนนี้ ยามที่อาบไปด้วยแสงวอมแวมจากจอทีวีที่เปิดทิ้งไว้กำลังทำให้ใครบางคนกัดฟันข่มความรู้สึกแทบตาย เพราะในใจมัวแต่คิดว่าดีซะอีกที่นานๆทีคุณรีไวล์จะยอมให้เขาเป็นฝ่ายคุมเกมส์บ้าง เอเลนจึงตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ทำให้เต็มที่เพื่อชดเชยความผิดของตัวเองที่แอบใจลอยเมื่อครู่ จนไม่ทันสังเกตุปฏิกิริยาของฝ่ายตรงข้าม

          พอตั้งหลักได้เอเลนก็ค่อยๆยกสะโพกของตัวเองขึ้นสูง แล้วเคลื่อนขยับตัวลงไป กลืนกินส่วนนั้นของคุณรีไวล์จนมิด

          "ฮ้า...อ่ะ...อา..."  ช่องทางอ่อนนุ่มภายในค่อยๆถูกเติมเต็มเข้าไปถึงส่วนลึกจนเจ้าตัวหลุดเสียงครางที่เจือไปด้วยไฟปรารถนาออกมาผะแผ่ว ในหูแว่วเสียงคำรามต่ำในลำคอของคุณรีไวล์ทุกครั้งที่เขาขยับตัว บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายคงใกล้หมดความอดทนเต็มที ทว่าพอตั้งใจจะเร่งจังหวะเอวบางกลับถูกมือหนายึดเอาแน่น ก่อนฝ่ายนั้นจะเป็นฝ่ายเสือกกายสวนขึ้นมาเต็มแรงแล้วเป็นฝ่ายเร่งจังหวะเสียเอง จนใบหน้ามนถึงกับหวีดร้องเสียงหลงออกมาด้วยความตกใจ

          "อ๊า!...ยะ...ดะ...เดี๋ยวสิครับ!"

          ราวกับคำร้องของเขาส่งไปไม่ถึง อีกฝ่ายยังคงสาวเอวสวนขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนร่างบางต้องคว้าหัวเตียงเอาไว้เป็นหลักยึด ส่วนกำยำใหญ่โตเสือกแทงผ่านผนังเนื้อเข้าไปข้างในลึกกว่าเดิมก่อนจะดึงตัวออกไปแล้วแทรกกลับเข้ามาอีกครั้งทำเอาสติแทบกระเด็นหลุดออกไปจากร่าง ในจังหวะที่ร่างกายโงนเงนเหมือนจะทรงต้วไม่อยู่ อีกฝ่ายก็รั้งตัวเขาเข้าไปกอด แล้วพลิกตัวเขากลับลงไปอยู่ด้านล่างอีกครั้ง

          "เรียกชื่อฉันสิ เอเลน"

          "ฮ่ะ...อ่ะ
...รี...ไวล์..."  เอเลนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงขาดๆหายๆ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายคงพอใจกับคำตอบของเขาไม่มากก็น้อย ความบ้าคลั่งเมื่อครู่ถึงแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงไปในพริบตา


          "ฉันชอบนาย"  เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู ก่อนเร่งจังหวะสาวเอวนำพาร่างบางไปยังจุดสูงสุดของห้วงปรารถนา ทว่าคนฟังกลับน้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว สองแขนผอมบางกระชับกอดฝ่ายนั้นเอาไว้แน่น พยายามห้ามไม่ให้น้ำตามันไหลลงมาอีก แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งห้ามเท่าไหร่มันกลับยิ่งไหลลงมาเป็นสายน้ำแบบนี้?
.
.
.
.
....TBC.......


          กะ....กลับมาต่อแล้วนะคะทุกคนนน~~
            ขอโทษที่ดองเค็มจนลืมน้าา>~<.....แต่ตอนนี้ไรท์ได้นบ.กลับมาแล้วล่ะค่ะ5555....ถึงจะให้สัญญาไม่ได้ว่าจะอัพถี่ขึ้นแต่จะพยายมค่ะ!!!!

ในส่วนของฟิคนั้นอาจจะมั่วบ้างอะไรบ้าง....รบกวนช่วยทนๆแล้วผ่านมันไปให้ได้นะคะ5555+

   
           

          

2 ความคิดเห็น:

  1. คุณไรท์ มาต่อเถอะ~ แต่งได้สนุกและน่าติดตามมาก รอนะคะคุณไรท์

    ตอบลบ
  2. รอติดตามผลงานอยู่นะคะไรท์ //ยังแต่งได้ดีเหมือนเดิมเลย =..= เป็นกำลังใจให้นะคะ

    ตอบลบ