4 มิ.ย. 2559

Fic.Au.Attack on titan [Levi x Eren] Pride : Intro.

Fic.Au.Attack on titan [Levi x Eren] Pride : Intro.

: Fanfic Attack on titan

:Pairing : Levi x Eren

: Romance

:Rate : PG-13



*************************







              หิมะสีขาวสะอาดตาแต่ให้ความรู้สึกแสนเหน็บหนาวยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสายมือบางภายใต้ถุงมือไหมพรมสีหวานรีบซุกลงไปในกระเป๋าโค้ทตัวยาวก่อนที่ผู้คนรอบตัวจะทันสังเกตุเห็นมันเข้า จะบอกว่าอายมันคงไม่ผิดนักในเมื่อเขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งมาจนอายุสิบหกไม่ขาดไม่เกิน


          แต่กลับต้องมาอดทนใส่ถุงมือสีชมพูหวานแห๋ววเพราะใครบางคนถักมาให้เป็นของขวัญวันคริสมาส แถมยังบังคับให้ใส่ไปให้ดูด้วยแบบนี้ ไอ้ครั้นจะถอดทิ้งไปเลยก็ดูจะเป็นการเหยียบย่ำน้ำใจกันเกินไปสักหน่อย ถึงยังไงฝ่ายนั้นก็ถือเป็นเพื่อนสนิทที่สุดคนหนึ่ง

          บอกตามตรงว่ารู้สึกอายไม่ใช่น้อยเลยล่ะ!...บอกตามตรง ว่าเขาไม่ชอบอะไรหวานแหว๋วแบบผู้หญิง ไม่ชอบจนถึงขั้นเกลียดก็ว่าได้ แต่ทำไมคนรอบข้างเขาถึงมักจะให้ของขวัญแนวผู้หญิงจ๋าแบบนี้ก็ไม่รู้? กระทั่งคู่ปรับตลอดกาลยังซื้อผ้าพันคอสีชมพูให้ ปากบอกว่าเหมาะบอกว่าดูดี แต่เอาเข้าจริงทุกคนต่างก็รุมแกล้งเขากันทั้งนั้น...ฮึ่ย!...ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ทีไรก็ยิ่งแค้น อยากจะกระโดดงับคอคนให้อยู่ร่ำๆ!

          ใบหน้ามนภายใต้กรอบผมสีน้ำตาลแหงนขึ้นไปรับปุยสีขาวบางเบาที่ลอยเอื่อยๆลงมาปะทะใบหน้า หิมะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้ในเวลานี้ สัมผัสเย็นๆของมันทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

          เขาชอบหิมะ...

          มากพอๆกับที่ชอบทะเล....

          ถึงขนาดว่าถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนี่ขาดใจตายแน่ๆ...



          บ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กแต่อบอุ่นยิ่งกว่าใครในโลกตั้งอยู่ตรงหน้ารั้วไม้สีขาวแข่งกับหิมะ มีเถากุหลาบที่ตอนนี้เหลือแต่กิ่งก้านพันเลื้อยอยู่นั่นคงเป็นอย่างเดียวที่พอจะตัดกับสีขาวโพลนพวกนั้น ไม่สิ...ไม่ใช่แค่นั้นซะหน่อยอย่างน้อยๆยังมีหลังคาสีส้มพวกนั่นด้วยที่ยังไม่ถูกปกคลุมจนหมด

          เควดลินบวร์ก...เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่ในเขตซัคเซนอัลฮัลท์ของประเทศเยอรมนีแห่งนี้คือบ้านเกิดของร่างโปร่งบางที่เพิ่งจะปลีกตัวออกมาจากลานของศาลาว่าการได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี เพราะเป็นช่วงคริสมาสอีฟผู้คนในเมืองต่างก็พากันออกมาเที่ยวงานกันอย่างคึกคัก แถมยังแน่นถนัดอย่างไม่น่าเชื่อว่าเมืองเล็กๆแห่งนี้จะมีผู้คนอาศัยอยู่เยอะขนาดนี้ได้ ที่จริงเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นเมื่อราวๆหนึ่งชั่วโมงก่อน

          ขาก้าวมาหยุดที่หน้าประตูก่อนที่นัยน์ตากลมโตสีเขียวมรกตเหลือบมองซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง และเมื่อมั่นใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ในรัศมีร้อยเมตรมือจึงรีบคว้าลูกบิดประตู ทว่า....

          ปึ๊กก!!!

          "โอ๊ย!!?.."   เจ้าตัวยังไม่ทันออกแรงดึง แต่หัวสีน้ำตาลชนเข้ากับบางสิ่งบางอย่างโดยแรง 
จนร่างบางถึงกับลงไปนั่งกุมหน้าผากอยู่กับพื้น เมื่อบานประตูเจ้ากรรมกระแทกเข้าตรงแสกหน้าอย่างจัง และมั่นใจว่าเขาไม่ได้เป็นคนเปิดมันแน่ใบหน้ามนเงยขึ้นไปมองหาตัวต้นเหตุด้วยแววตาหาเรื่อง ถ้าหากเป็นคนในบ้านล่ะก็พ่อจะด่าให้เละเลย!

          แต่แล้วร่างสันทัดที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับทำให้ริมฝีปากที่เตรียมจะด่ากราดต้องอ้าค้างอยู่แบบนั้น...ทั้งคู่จ้องกันอยู่แบบนั้นโดยไม่มีใครคิดจะปริปากพูดและเพราะแบบนั้นยิ่งทำให้คนที่กำลังโมโหยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่...

          ใครกันตาบ้านี่?....

          "นาย..."   น้ำเสียงทุ้มต่ำฟังดูเรียบเรื่อยแต่แฝงเอาไว้ด้วยความตกใจบางเบามือหนายื่นมาตรงหน้าหวังจะช่วยพยุงให้ลุกขึ้น แต่ใบหน้ามนกลับทำเพียงแค่ปรายตามองมือข้างนั้นเมินความหวังดีของฝ่ายตรงข้ามไปซึ่งๆหน้า ปล่อยให้มือที่ยื่นออกมาค้างเติ่งอยู่กลางมวลอากาศหนาวเย็น ที่จริงก็แค่นึกขึ้นมาได้ว่าถุงมือที่สวมเป็นสีชมพูเลยอายจนพาลที่อีกฝ่ายยังไม่ขอโทษ


          คนที่ถูกปล่อยให้ยื่นมือเก้อชักมือกลับช้าๆไม่มีทีท่าประดักประเดิกแต่อย่างใด ที่จริงก็แค่คนหน้าตายแสดงความรู้สึกออกทางสีหน้าไม่เป็น แต่ในใจยังเป็นกังวลหน้าผากนูนๆของคนที่จ้องเขาเขม็งจนเหมือนดวงตากลมโตคู่นั้นกำลังพ่นไฟได้ คงเจ็บไม่ใช่น้อย...

          ริมฝีปากขยับจะพูดอะไรบางอย่างแต่น้ำเสียงอ่อนโยนของใครบางคนก็ดังขึ้นมาซะ ก่อนคำขอโทษจึงถูกกลืนกลับลงไป  "อ้าวเอเลน...กลับมาแล้วเหรอนี่น่ะคุณรีไวล์เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้านเราวันนี้ทักทายคุณเขาก่อนสิ"

          เป็นแม่ของเขาที่ตามมาไขความข้องใจทั้งหมดให้ และพอลุกขึ้นยืนในระดับเดียวกันถึงได้เพิ่งจะเห็นว่าใบหน้าภายใต้กรอบผมรองทรงสีดำนั่นดูดีไม่ใช่น้อย หากไม่ติดตรงสายตาปลาตายไร้อารมณ์จนน่าหงุดหงิดนั่นซะก่อน และเพราะสายตาไม่ยินดียินร้ายของฝ่ายตรงข้าม ความโกรธจึงพุ่งสูงขึ้นมาอีกหลายส่วน ถือว่าหน้าตาดีเลยทำตัวหยิ่งได้รึไงกันมาทักทายไม่ใช่เรอะ?...


          น่าหงุดหงิดชะมัด!...เอเลนคิดในใจอย่างหัวเสีย

          "เราทักทายกันแล้วฮะ!"  ร่างบางเบี่ยงตัวหลบเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจทั้งเสียงบ่นของแม่และสายตาคมกริบคู่นั้นที่ไล่หลังไปติดๆ รู้เพียงแต่ว่าถ้าคนคนนั้นยังจะยืนเป็นใบ้อยู่แบบนั้นล่ะก็เขาคงเผลอชกหน้าเข้าให้แน่ๆ...คนที่ไม่มีมารยาทแค่เอ่ยคำขอโทษพรรค์นั้นไม่ได้อยากจะรู้จักเลยสักนิด!..
.
.
.
.
.
.
.Tobecontinue......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น