7 พ.ค. 2559

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 15

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 15

:Fanfiction Attack on titan


:Pairing : Levi x Eren


:Genre : Drama,Action-Sci-Fi


:Rate : NC-17


คำเตือน :บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ








          "เป็นยังไงบ้าง? ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?"   นายแพทย์หนุ่มถามไถ่คนข้างๆด้วยความเป็นห่วง เอเลนส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร มือลองกดเบาๆตรงช่องท้องแต่ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้  

          "แต่แขนขาผมชาแปลกๆน่ะหมอ?"

          "ก็แหงล่ะ เจอยาชาชนิดรุนแรงเข้าไปตั้งสองเข็ม ถึงจะออกฤทธิ์เฉพาะที่ก็เถอะ"  นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจเฮือกหนึ่ง  "บอกว่าอย่าเรียกหมอ...ฉันก็แค่นักศึกษาแพทย์ปีสี่ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยด้วยซ้ำ...เรียกฮิโระเฉยๆก็พอ"  เอเลนพยักหน้ารับอย่างขอไปที แต่จะให้เปลี่ยนไปเรียกชื่อตอนนี้ก็สายไปแล้ว ในเมื่อสมองจดจำไปแล้วว่าอีกฝ่ายคือหมอเต็มตัว

          ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าอีกฝ่ายหน้าเด็ก แต่ฝีมือการใช้อุปกรณฺทางการแพทย์เย็บแผลให้เขากลับดูชำนิชำนาญ ถึงฝีมือจะยังไม่เข้าขั้นเซียนก็เถอะ ที่ไหนได้อีกฝ่ายดันอายุมากกว่าเขาแค่สามปีเอง แถมยังดูเป็นคนหัวรั้นมากคนหนึ่งเสียด้วย เพราะกว่าจะรบเร้าให้อีกฝ่ายยอมสั่งคนขับรถกลับมาได้ก็เล่นเอาเขาแทบจะคิดหาคำพูดไม่ออก 

          โชคดีที่หมอยอมใจอ่อนแต่ก็ยังยื่นขอเสนอว่าต้องจัดการกับแผลที่หน้าท้องของเขาซะก่อน เขาเลยจำใจต้องยอมให้อีกฝ่ายเย็บแผลให้ หมอสั่งให้คนขับรถเลี้ยวเข้าข้างทางแล้วใช้อุปกรณ์เท่าที่มีในรถคันนี้เย็บแผลในเขาก่อนจะฉีกยาชาชนิดออกฤทธิ์รุนแรงให้ถึงสองเข็ม  คงเพราะคาดคะเนล่วงหน้าเอาไว้แล้วว่าพวกเขาอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก
          

          "เอานี่ไว้!"  ฮิโระยัดปืนกระบอกหนึ่งใส่มือเขาก่อนจะหันไปหยิบของตัวเองบ้าง เอเลนอยากจะบอกอีกฝ่ายเหลือเกินว่า ใครบางคนก็เอาแต่ยัดปืนใส่มือเขาแบบนี้ถึงสามครั้งสามครา แต่ได้ใช้งานจริงแค่ตอนที่ลั่นไกใส่เทเลอร์คันนั้นแค่ครั้งเดียว อีกสองครั้งที่เหลือ แค่จะขยับนิ้วแตะไกปืนยังทำไม่ได้ มันเปล่าประโยชน์ได้อย่างน่าสมเพชเชียวล่ะ แต่ใบหน้ามนก็เลือกที่จะกระชับปืนในมือเอาไว้แน่นโดยไม่พูดอะไรออกไป

          คนคนนั้นเคยบอกกับเขาว่า 'ถ้าไม่ยิงจะเอาไปปาใส่หัวใครก็แล้วแต่นาย' ทั้งที่ตอนนั้นเขาโกรธจนลมออกหู แต่พอนึกขึ้นมาได้ตอนนี้กลับบอกไม่ถูกว่ากำลังโกรธหรือขำกันแน่? เขารู้ดีว่าก่อนหน้านี้มันเป็นเพราะความขี้ขลาดลังเลของตัวเอง แต่คราวนี้เขาจะไม่ลังเลจนทำอะไรไม่ได้อีกเป็นครั้งที่สอง จะไม่ทำตัวเป็นภาระของคุณรีไวล์อีกเด็ดขาด

          ปังๆๆๆ!!!

          เสียงปืนดังเข้ามาขัดความคิดให้ร่างบางทั้งสองหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าซีดเผือด  "ลุง! ตามไปทางนั้น!"  ฮิโระที่ตั้งสติได้ก่อนหันไปสั่งคนขับรถด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงแม้ว่าฝ่ายนั้นจะพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง แต่เขาก็สัมผัสได้ว่าใจจริงแล้วฮิโระไม่ได้สงบเยือกเย็นขนาดนั้น 

          รถวิ่งมาถึงเขตก่อสร้างในเวลาไม่นาน แต่เส้นทางกลับถูกกีดขวางจนไม่สามารถวิ่งต่อได้ ฮิโระและเอเลนมองหน้ากันครู่หนึ่งก็ตัดสินใจจะเดินเท้าเข้าไป แต่ด้วยฤทธิ์ยาชาทำให้แข้งขาของเจ้าตัวกระปรกกระเปรี้ยจนแทบจะล้มพับลงไปกับพื้น ดีที่ฮิโระตามมาช่วยพยุงเอาไว้ได้ทัน

          "ลุงรออยู่ตรงนี้นะ หาที่ซ่อนตัวด้วยล่ะ!"  คนขับรถขานรับคำสั่งเจ้านายก่อนจะรีบขับรถเข้าไปแอบในตรอกข้างๆ

          เสียงต่อสู้แว่วมาให้ได้ยินยิ่งทำให้ร่างบางทั้งสองมีสีหน้าร้อนรนอีกทั้งยังซีดเป็นไก่ต้ม ขาทั้งสองคู่แทบจะกลายเป็นวิ่งทั้งที่ยังประคองกันไปอย่างทุลักทุเล ในที่สุดก็เห็นกลุ่มคนที่กำลังตะลุมบอนกันอยู่ไม่ไกล แต่วิ่งมาได้ไม่ทันไรร่างมอมแมมร่างหนึ่งก็ลอยวืดตรงเข้ามาที่พวกเขาทั้งสองคน!  อาจเป็นเพราะร่างนั้นช่างคุ้นตาเป็นอย่างมากคนที่พยุงเขาไว้ถึงได้เบิกตากว้าง

          "เซ็น!!?..."   อารามตกใจฮิโระปล่อยมือจากเอเลนแล้วพุ่งตัวไปรับอีกฝ่ายเอาไว้ แต่แรงปะทะที่มีมากเกินไปทำให้คนทั้งคู่กระเด็นไปกระแทกผนังตึกฝั่งตรงข้ามโดยแรง ก่อนจะร่วงลงมากองกับพื้นทั้งคู่ เอเลนที่ถูกปล่อยตัวกระทันหันเซแซ่ดๆไปหลายก้าวกว่าจะตั้งหลักได้ เจ้าตัวก้าวยาวๆเข้าไปหาคนทั้งคู่ด้วยฝีเท้าที่ไม่มั่นคงนัก

          "หมอ!"  ถึงสภาพภายนอกของชายหนุ่มที่ชื่อเซ็นจะสะบักสะบอมจนหาส่วนดีไม่ได้ แต่ความคล่องตัวของอีกฝ่ายกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย ขณะที่เขากำลังจะช่วยประคองฮิโระขึ้นมาชายหนุ่มกลับยกมือห้ามเขาไว้ ก่อนจะบอกเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

          "หมอนั่นกำลังแย่"  ได้ยินประโยคนั้นหัวใจก็เหมือนกับหล่นวูบลงมาจากที่สูง ร่างกายลุกพรวดขึ้นแล้วสาวเท้ายาวๆออกวิ่งไปเองโดยอัตโนมัติ 'หมอนั่นกำลังแย่' แม้จะรู้สึกว่าคำพูดประโยคนั้นมันขัดแย้งกันจนเกินกว่าที่เขาจะรับได้ เพราะคนอย่างคุณรีไวล์แข็งแกร่งที่สุด! กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังเชื่อว่าคนคนนั้นเก่งกาจยิ่งกว่าใคร แต่สองขากลับยิ่งเพิ่มความเร็วจนลืมอาการชาที่แขนขาไปจนสิ้น ลืมแม้กระทั่งว่าตัวเองก็บาดเจ็บสาหัสไม่แพ้กัน

          เสียงโลหะกระทบกันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานภาพของคนสองคนที่กำลังห่ำหั่นกันอย่างดุเดือดก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าการเคลื่อนไหวของทั้งคู่รวดเร็วจนเขาแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร 
          "คุณรีไวล์!" ถึงแม้จะจับจุดโฟกัสไม่ได้ในทันทีแต่ไม่นานสายตาก็เริ่มคุ้นชินกับความรวดเร็วปานสายฟ้านั่น น่าแปลก...ทั้งที่สองคนนั้นยังคงเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่คนปรกติไม่น่าจะมองตามได้ทัน แต่ทำไมภาพการเคลื่อนไหวของคนทั้งสองถึงค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ? เขาเคยเห็นการต่อสู้ลักษณะนี้มาหลายครั้ง และทุกครั้งเขาไม่เคยมองตามการเคลื่อนไหวของคนพวกนั้นทันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

          แต่คราวนี้กลับมาบางอย่างแปลกออกไป และพอเห็นได้ชัดเจนขนาดนั้นในหัวสมองจึงอุปโลกขึ้นมาเองว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันเป็นเพียงแค่ฝันร้ายของเขาเท่านั้น!

          ไม่เช่นนั้น!...ทำไมเขาถึงเห็นภาพตัวเองกำลังต่อสู้กับคุณรีไวล์ได้ล่ะ!?...

          ชายชุดดำคนนั้น!...ไม่ว่ามองมุมไหนก็คือเขาไม่ใช่หรือไง!? ทั้งรูปร่าง หน้าตา ทั้งจมูก ปาก คิ้ว คาง หรือกระทั่งสีผม ไม่ว่ามองมุมไหนคนคนนั้นก็คือเขา! คือเอเลน เยเกอร์ไม่ผิดแน่! 

         ไม่สิ!...เขาไม่มีทางทำแบบนั้น!! เขาไม่มีทางทำร้ายคุณรีไวล์เด็ดขาด! นับประสาอะไรกับการเคลื่อนไหวแบบนั้น แค่ยิงปืนเขายังทำไม่เป็นด้วยซ้ำ! ความขัดแย้งก่อตัวขึ้นมาในใจอย่างรุนแรง หัวสมองพยายามเค้นหาคำตอบที่ตัวเองหลงลืมไปอย่างเอาเป็นเอาตาย
          ถึงแม้ว่าร่างกายนี้จะมีปัญหาทางด้านความรู้สึก ที่ไม่ว่าสภาวะจิตใจจะย่ำแย่เพียงไรก็ตามแต่ความรู้สึกพวกนั้นมักจะหายไปจากจิตใต้สำนึกของเขาในเวลาเพียงไม่นานก็ตาม ทว่า...เขาไม่ได้มีปัญหาด้านสมองจนสติฟั่นเฟือนเลอะเลือนเสียเมื่อไหร่?  เขาแค่สูญเสียความทรงจำในอดีตเท่านั้น เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่มีทางที่จะจำตัวเองไม่ได้เด็ดขาด!
          

          ไม่ใช่!!...

         คนคนนั้นไม่ใช่เขา!!...ต้องเป็นใครสักคน! ใครสักคนที่รูปร่างพอๆกับเขา คนที่มีใบหน้า จมูก ปาก คิ้ว คาง เหมือนเขาทุกกระเบียดนิ้ว! แต่สูงกว่าเขา มีร่างกายที่แข็งแรงกว่าเขาต่างหาก!...

          "อัลฟา!!..."  เอเลนตะโกนเรียกชื่อหนึ่งออกมาจนสุดเสียง ทันทีที่ใบหน้าของอีกฝ่ายฉายวาบเข้ามาในหัว ร่างกายก็ราวกับถูกคลื่นพลังงานบางอย่างจู่โจมเข้าโดยแรง นั่นคืออัลฟา!...เป็นพี่ชายของเขาไม่ผิดแน่!...

          เสียงตะโกนนั้นทำให้ทั้งสองคนที่กำลังฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จำต้องผละออกจากกันแล้วถอยหลังไปคนละสองก้าว การปรากฏตัวของเอเลนทำเอาทั้งสองฝ่ายต่างชะงักไปด้วยความแปลกใจ ทว่าในวินาทีถัดมาอัลฟากลับทำในสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมาย! หมอนั่นชักปืนออกมาแล้วเหนี่ยวไกออกไปทันทีถึงสามนัด!

          รีไวล์ถึงกับเบิกตากว้าง ร่างกายพุ่งตัวออกไปด้วยความเร็วทั้งหมดที่มีก่อนสมองจะทันได้สั่งการ!...เพราะลูกกระสุนทั้งสามนัดไม่ได้พุ่งตรงมาที่เขา!

          แต่เป็น!...

          "เอเลน!"  

          ใบหน้ามนถึงกับตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ม่านตาเบิกกว้างจนภาพทุกอย่างแจ่มชัดขึ้นยิ่งกว่าภาพสามมิติ! เขามองเห็นลูกกระสุนที่พุ่งตรงมาที่ตัวเอง! ชัดเจนกระทั่งมองเห็นมวลอากาศหมุนวนอยู่รอบๆลูกกระสุนพวกนั้น! จิตใต้สำนึกของเขาสั่งการอย่างบ้าคลั่งว่าให้หลบไป แต่เพราะเขามองเห็นทุกอย่างชัดเจนเกินไปจนเกิดอุปทานว่าภาพตรงมันไม่ใช่ความจริง!

          ปลายเท้าเริ่มผ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ ต่างจากลูกกระสุนที่พุ่งตรงเข้ามาด้วยความเร็วสูง ถึงอย่างนั้นเขากลับมองเห็นมันเป็นเหมือนกับภาพสโลวโมชั่น แม้ความตายจะใกล้เข้ามาทุกที แต่เอเลนกลับเลือกที่จะมองเลยกระสุนปืนพวกนั้นไปสบสายตากับนัยน์ตาสีเขียวมรกตอีกคู่แทน
         หัวใจราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นบีบขย้ำโดยแรง เมื่อเห็นแววตาของอัลฟาโชนแสงประหลาด ยิ่งมองเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเผยรอยยิ้มร้ายที่เขาไม่รู้จักมาก่อน เรี่ยวแรงที่อุตส่าห์ฝืนทนหอบสังขารของตัวเองมาจนถึงณ.จุดนี้ก็ดูเหมือนจะหายวับไปกับตา

          สองขาหยุดชะงักอยู่กับที่ราวกับหุ่นยนต์ถูกดึงปลั๊กออกไปกระทันหัน ทว่าวินาทีที่ลูกกระสุนกำลังจะเจาะทะลวงร่างกายของเขา แผ่นหลังของใครบางคนก็เคลื่อนเข้ามากบดบังสายตาทั้งสองคู่ให้ละออกจากกัน

          ปังๆๆ!!

          กระสุนทั้งสามนัดเจาะทะลวงร่างของรีไวล์อย่างไร้ความปราณี แต่กว่าจะรู้ตัวว่าพลาดที่ปล่อยในความรู้สึกอยู่เหนือเหตุผลก็สายเกินไปเสียแล้ว

         เขารู้อยู่แก่ใจว่าอัลฟาไม่มีทางทำร้ายเอเลนด้วยมือตัวเอง แต่หมอนั่นแค่ใช้ความรู้สึกของเขาเป็นเดิมพัน กระสุนทั้งสามนัดถูกคำนวณมาอย่างดีแล้วเพื่อใช้สำหรับปลิดชีพเขาโดยเฉพาะ ด้วยสรีระทางกายภาพที่แตกต่างกันของเขากับเอเลนไม่แน่ว่ากระสุนพวกนี้แทบไม่เฉียดผิวของเจ้าเด็กเหลือขอด้วยซ้ำ แต่กับเขาแล้วไม่ใช่...ถึงจะเบี่ยงร่างกายหลบจุดตายได้ถึงสองนัด แต่อีกหนึ่งนัดก็ทะลวงเข้าปอดเขาเข้าเต็มๆ

          แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่านี่คือผลตอบแทนของการเผยจุดอ่อนต่อหน้าศัตรู แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังอดที่จะกร่นด่าตัวเองไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรเขาคือคนที่แข็งแกร่ง ไร้หัวใจ เลือดเย็น สังหารเหยื่อได้ทันทีแม้ไม่กะพริบตา จนเหล่าผู้คนในโลกมืดต่างก็เรียกขานเขาว่า'ยมทูต' ในตอนนี้คำเรียกพวกนั้นดูเหมือนจะห่างไกลจากเขาไปทุกที
เพียงเพราะได้รู้จักกับเจ้าเด็กเหลือขอนี่
           "บ้าชิบ!..."  สองแขนยกขึ้นมาตั้งการ์ดเตรียมรับแรงกระแทกจากฝ่ายตรงข้ามที่ทะยานตัวพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงเมื่อไม่มีเวลามากพอให้คิดหาหนทางตอบโต้


          "เฮือก!"  หยดเลือดที่กระเซ็นมาเปื้อนที่สองแก้มเรียกสติของเอเลนให้ตื่นจากภวังค์ ภาพของรีไวล์ที่ยืนโงนเงนอยู่ตรงหน้าทำให้ร่างกายวิ่งเข้าไปหวังจะช่วยประคองชายหนุ่มก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น
          แต่ปลายนิ้วยังไม่ทันสัมผัสโดนตัวอีกฝ่ายร่างกายของเขากลับถูกใครบางคนกระชากไปจนแผ่นหลังปะทะเข้ากับแผงอกฝ่ายนั้นโดยแรง ร่างที่กำลังจะล้มลงของชายหนุ่มถูกแรงถีบจนลอยวืดไปกระแทกกับผนังตึกเข้าอย่างจัง เศษฝ่นตลบฟุ้งไปทั่วบริเวณเมื่อผนังที่ถูกกระแทกผังทลายลงมาทั้งแถบ

          "คุณรีไวล์!!?"  ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที รวดเร็วเสียจนตั้งตัวไม่ทัน เอเลนดิ้นสุดแรงเพื่อให้หลุดพ้นจากแรงกอดรัดที่แน่นหนาราวกับคีบเหล็ก วินาทีถัดมาเขาถึงรู้ว่ามันคืออ้อมแขนของอัลฟา!

          "ปล่อย!!"  ใบหน้ามนหันตวาดลั่นใส่หน้าอีกฝ่าย ร่างกายยังพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของฝ่ายตรงข้ามอย่างเอาเป็นเอาตายจนแผลที่ช่องท้องเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา  
         "ฉันบอกให้ปล่อย!!" เอเลนตวาดลั่นอีกครั้งอย่างหงุดหงิดให้กับความอ่อนแอของตัวเอง เขารู้ตัวดีว่าตัวเองมันพวกไร้พลังเป็นได้อย่างมากก็แค่ตัวถ่วงของคนอื่นเขา แต่ขอแค่สักครั้ง...เพียงครั้งเดียวให้เขาได้ปกป้องใครสักคนอย่างที่ใจอยากจะทำ! แม้ในใจจะมีความกล้าอย่างเหลือล้นแต่ร่างหายที่อ่อนปวกเปียกนี่คือสิ่งเดียวที่เขามีติดตัวจนรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนตราบาปที่คอยย้ำเตือนว่าตนไร้กำลัง

          แขนแข็งแรงของอัลฟาไม่มีทีท่าว่าจะคลายออกไปง่ายๆทั้งที่โอบกระชับเอวของเขาด้วยแขนเพียงข้างเดียวหนำซ้ำยังกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ตาม

          "เป็นห่วงเขามากขนาดนั้นเลยหรือ?"  อัลฟากระซิบที่ข้างหูให้ร่างในอ้อมแขนแข็งค้างจนลืมต่อต้านไปในพริบตา อาจเป็นเพราะน้ำเสียงที่ใช้แฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชา จนแม้แต่เขาเองยังไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือน้ำเสียงของตัวเอง แต่ความห่วงใยที่เอเลนมีให้คนคนนั้น มันเปรียบเสมือนคมมีดที่ตัดฟางเส้นสุดท้ายของเขาให้ขาดสะบั้นลง

          พอกันที...กับการที่ต้องเฝ้ามองความสัมพันธ์ที่เกินเลยของคนทั้งคู่ ที่เขายอมปล่อยเอเลนมากับผู้ชายคนนี้มันคือความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย แต่เพราะมีเรื่องที่ต้องสะสางเยอะเกินไป ถ้าเอเลนอยู่กับอีกฝ่ายยังไงก็ปลอดภัยมากกว่าอยู่กับเขา  ทั้งที่เขาคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นถึง'ยมทูตไร้หัวใจ' ทั้งที่คิดว่ายมทูตตนนั้นจะไม่มีทางหวนกลับมาเดินบนเส้นทางของมนุษย์ธรรมดาได้
          แต่เขากลับลืมไปเสียสนิทใจว่ายมทูตตนนั้นมีความเป็นมนุษย์มากกว่าครึ่งหนึ่ง ขนาดเขาที่ทิ้งตัวตนเดิม ทิ้งความเป็นมนุษย์ไปจนหมดสิ้น ยังมีสิ่งหนึ่งที่ตัดไม่ขาด
           อัลฟาจ้องใบหน้าที่แสดงความโกรธออกมาอย่างชัดเจนของคนในอ้อมแขนแล้วยกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง เขาเพิ่งเคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเอเลนเป็นครั้งแรก
          ด้วยใบหน้าเดียวกันนี้ เคยมีรอยยิ้มให้เขาจากใจจริง เคยแสดงความหวาดกลัวทุกครั้งที่เจอหน้าเขามากว่าสิบปี กว่าเขาจะได้รับรอยยิ้มจากเอเลนอีกครั้งมันก็นานจนเขาแทบจะหมดความอดทนอยู่รอมร่อ
          ต้องขอบคุณการปรากฏตัวของผู้ชายคนนี้สินะ ที่ทำให้เขาได้ครอบครองในสิ่งที่เฝ้ารอมานาน แต่ในขณะเดียวกันคนคนนี้ก็กำลังแย่งชิงเอเลนไปจากเขาเหมือนกัน!

          เอเลนก็เปรียบเสมือนผลไม้ต้องห้ามในสวนของพระเจ้า ล่อตาล่อใจให้อยากลิ้มลอง ต่างกันก็แค่คนที่ได้ลิ้มรสความหอมหวานนั้นไม่ใช่อาดัมกับอีฟ แต่เป็นปีศาจร้ายถึงสองตน แถมยังเป็นปีศาจร้ายที่เห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งคู่ 
          เพราะแบบนั้น จึงยอมที่จะฟาดฟันกันให้ตายไปข้างหนึ่งเพื่อให้สิทธิ์ในการครอบครองเป็นของตนแต่เพียงผู้เดียว นั่นแหละคือความเห็นแก่ตัวของพวกเขา แม้จะต้องทำร้ายคนที่ตัวเองรักก็ตาม

         "ฉันถามว่าเป็นห่วงเขามากขนาดนั้นเลยหรือ?"  อัลฟาถามย้ำประโยคเดิม หากแต่น้ำเสียงกลับเย็นเยียบขึ้นไปอีกระดับ เขาส่งสัญญาณให้ลูกน้องสองคนไปหิ้วปีกรีไวล์ขึ้นมา ร่างแข็งแกร่งที่โชกเลือดจนชุ่มไปทั้งตัวจึงถูกชายชุดดำสองคนกระชากต้นแขนขึ้นมาคนละข้าง ก่อนจะเตะข้อพับบังคับให้เขานั่งลงในท่าคุกเข่า โดยที่ต้นแขนทั้งสองข้างถูกตรึงเอาไว้ทั้งซ้ายขวา

          แม้จะมีสภาพไม่ต่างจากนักโทษรอตัดสินประหาร ใบหน้าของรีไวล์กลับไม่สะท้อนความรู้สึกใดๆออกมา  "คุณรีไวล์..."  แต่คนที่ดิ้นรนขัดขืนกลับเป็นร่างบางตรงหน้าเขา เอเลนทำหน้าแบบไหนอยู่ตอนนี้เขาไม่อาจรู้ได้ เพราะเลือดที่ไหลลงมาจากหน้าผากมันบดบังม่านตาไปกว่าครึ่ง แต่ฟังจากน้ำเสียงเดาว่าเด็กนั่นคงกำลังโกรธ เป็นกังวล หรือแม้แต่กำลังจะร้องไห้

          มุมปากข้างหนึ่งยกมุมขึ้นเล็กน้อยจนแทบจะมองไม่ออกว่ากำลังยิ้ม มันเป็นรอยยิ้มที่แม้แต่เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังดีใจหรือเสียใจกันแน่?
          นานมากแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้ แน่นอน...ว่าเขาเคยผ่านการรักใครสักคนด้วยหัวใจมาก่อน ในตอนที่ถูกหักหลัง ถูกทรยศ เขากลับไม่เคยรู้สึกว่ายอมไม่ได้เหมือนอย่างครั้งนี้ ทั้งที่เขาทิ้งความเป็นมนุษย์ไปแล้วครึ่งหนึ่ง กับเรื่องครั้งนี้เขาไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจด้วยซ้ำ...แต่น่าแปลกที่ไม่ว่าอย่างเขาปล่อยมือจากเด็กนี่ไปไม่ได้เสียที? 

          "ตอบมา! หรือต้องให้ชั้นฆ่าเขาซะก่อนถึงจะพูด!?"  อัลฟาตวาดลั่นจนไหล่บางถึงกับสะดุ้งเฮือก ไม่ใช่แค่คำขู่แต่อีกฝ่ายเล็งกระบอกปืนไปยังร่างที่หอบหายใจผะแผ่วอยู่ตรงหน้าจริงๆ เสียงปลดเซฟที่ข้างหูทำให้ใบหน้ามนที่ซีดเซียวจนแทบไม่มีสีเลือดกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก 
          ดวงตากลมโตปรายหางตามองปากกระบอกปืนสลับกับมองหน้ารีไวล์ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าหันกลับไปมองหน้าอัลฟา เขากลัวที่จะมองสีหน้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของอีกฝ่าย กลัวจนร่างกายเริ่มสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่

          ครู่ต่อมาฮิโระกับชายหนุ่มที่ชื่อเซ็นก็ถูกจับมัดมือไพร่หลังแล้วบังคับให้นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าตามรีไวล์ไปอีกคน พอเห็นแบบนั้นความตื่นตระหนกก็วิ่งเข้ามาแทนที่ความกลัวไปจนสิ้น

          "หมอ!...ไม่นะ ปล่อยพวกเขาอัลฟา!...ปล่อยพวกเขาไป!!"  เอเลนเริ่มดิ้นรนอีกครั้งหลังจากช็อคจนพูดไม่ออกอยู่นาน  "งั้นก็พูดสิ...ว่านายจะไปกับฉัน" อัลฟากระซิบที่ข้างหูและเขาก็ได้รับคำตอบกลับมาทันทีจนน่าตกใจ

          "ถ้านั่นคือสิ่งที่นายต้องการ! แต่รับปากฉัน!...ว่านายจะไม่แตะต้องพวกเขาทั้งสามคน!"  ไม่ใช่แค่อัลฟา แม้แต่คนที่นั่งคุกเข่าจมกองเลือดอยู่ตรงหน้ายังขบกรามแน่นจนเส้นเลือดที่ขมับปูดโปน เขาพอจะเดาคำตอบของเอเลนได้อยู่แล้ว แต่พอเด็กนั่นพูดออกมาอย่างไม่คิดแม้แต่จะหยุดไตร่ตรองดูสักนิดแบบนี้ความหงุดหงิดก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที

          "ขอโทษที่ฉันรับปากนายไม่ได้ ยังไงก็ได้แค่สองคนเท่านั้น"  อัลฟาเล็งปืนไปที่รีไวล์อีกครั้ง คราวนี้เขาเล็งไปตรงที่ตำแหน่งหัวใจของฝ่ายตรงข้ามโดยไม่เลลังแม้แต่น้อย

          "ไม่!!"  เอเลนคว้าปลายกระบอกปืนของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างคว้าข้อมือของอัลฟาหวังจะจับบิดให้กระดูกข้อต่อของอีกฝ่ายเคลื่อน แต่อัลฟารู้ทันจึงคว้ามือข้างนั้นเอาไว้ได้ซะก่อน ทว่าก่อนที่จะทันได้คว้าร่างบางเอาไว้ได้อีกครั้ง เอเลนกลับชิงหมุนตัวออกไปจากอ้อมแขนของเขาไปจนได้ ความรวดเร็วและการเคลื่อนไหวอันคล่องแคล่วของเอเลนสร้างความตกใจของทั้งอัลฟาและคนที่ถูกจับให้คุกเข่าอยู่กับพื้น
      
          มือบางชักปืนที่ฮิโระให้ไว้ออกมาหันกระบอกปืนไปทางอัลฟา ทั้งที่สีหน้าแสดงออกมาชัดเจนว่าทั้งตกใจระคนประหลาดใจอย่างถึงที่สุด นั่นก็เพราะการเคลื่อนไหวที่เป็นไปโดยอัตโนมัตินั้นเร็วพอๆกับอัลฟาเลยก็ว่าได้! เอเลนไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองทำแบบนั้นไปได้ยังไง? แต่ราวกับคำขอของเขาที่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นกลายเป็นจริงขึ้นมาโดยกระทันจนแม้แต่ตัวเองยังตั้งตัวไม่ทัน

          "ถ้านายสัญญากับฉันไม่ได้ ฉันก็ไม่ไปกับนายเหมือนกัน!"  ทั้งน้ำเสียงและมือที่กระชับด้ามปืนเอาไว้มั่นคงได้อย่างไม่น่าเชื่อ ในใจทั้งสับสนและเต็มไปด้วยความสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง? เขาที่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนั้นราวกับเป็นคนละคนเลยไม่ใช่หรือไง?

          อัลฟาดูตกใจเพียงแค่ชั่ววินาทีเท่านั้น ครู่ต่อมาใบหน้าหล่อเหลาก็กลับมาสงบนิ่งได้ดังเดิม คล้ายกับรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาสามารถทำแบบนี้ได้? เป็นตัวเขาเองที่ไม่เคยรับรู้ถึงความสามารถของตัวเองอย่างนั้นหรือ? 
          ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันในระยะที่มือเอื้อมถึง ก่อนที่จะทันได้พูดอะไรออกไปจู่ๆอัลฟาก็ก้าวขาใกล้เข้ามาอีกก้าว! อารามตกใจทำให้เอเลนลั่นไกออกไปทันที!

          เสียงปืนที่ลั่นเปรี้ยงขึ้นโดยกระทันหัน! ทำให้ชายชุดดำสองในหกคนที่เหลืออยู่พุ่งเข้าหาเอเลนจากด้านหลัง! อัลฟาจึงชักปืนออกมาแล้วลั่นไกใส่ลูกน้องทั้งสองคนของตัวเองทันที! เพราะเขารู้ดีถึงความรวดเร็วของคนพวกนั้น แค่เผลอกะพริบตาแม้วินาทีเดียวพวกนั้นก็สามารถดับลมหายใจของเอเลนได้ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วยซะอีก เพราะรู้ถึงความสามารถนั้นและรู้ด้วยว่าเขาพุ่งเข้าไปรับมีดของลูกน้องตัวเองได้แค่คนเดียว

           แต่เอเลนกลับไม่ได้คิดถึงจุดนั้น ด้วยความตกใจว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้ตัวเองกลับ! ด้วยความกังวลว่าอาจจะเป็นใครสักคนที่ถูกจับตัวไว้ที่ด้านหลังที่ต้องรับลูกกระสุนพวกนั้นทำให้เขาเหนี่ยวไกออกไปโดยไม่ทันคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อนถึงสองนัด!
          แน่นอนว่าด้วยระยะห่างที่น้อยนิดขนาดนี้ขนาดหลับตายิงยังไม่มีทางพลาดเป้า นับประสาอะไรกับเขาที่ยังลืมตา! เขามองเห็นอัลฟาเซถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพราะแรงอัดของกระสุน ก่อนที่หัวไหล่ด้านซ้ายจะมีเลือดไหลโกรกออกมาทันทีเมื่อทุกอย่างกลับมาสงบลง

          เสียงของหนักๆหล่นตุ้บลงบนพื้นที่ด้านหลังถึงสองครั้งทำให้เอเลนตวัดสายตากลับไปมอง ทว่าภาพที่เห็นทำเอาหัวใจถึงกับวูบโหวงไปถนัดตา ฮิโระกับชายหนุ่มที่ชื่อเซ็นกำลังมองเขาด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง แม้จะไม่เห็นสีหน้าว่าใครอีกคนกำลังทำหน้าแบบไหนแต่คุณรีไวล์ก็ยังถูกชายชุดดำหิ้วปีกอยู่ที่ตำแหน่งเดิม!?

          สายตาเลื่อนไปยังร่างไร้ลมหายใจของชายชุดดำสองคนที่ยังมีเลือดไหลซึมออกมาเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นได้ในทันที เอเลนตวัดสายตากลับมามองอัลฟาอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง อัลฟายังคงยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมด้วยใบหน้าที่สงบนิ่ง
          ที่ต่างออกไปคือสีหน้าที่ซีดเผือดลงเรื่อยๆจากการเสียเลือด แต่แววตาที่มองเขากลับไม่มีวี่แววของคำตำหนิหรือโกรธเคือง จู่ๆมือที่กำลังถือปืนเล็งอีกฝ่ายก็สั่นไหวอย่างรุนแรง กระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นมาราวกับมีใครไปจุดลูกไฟเอาไว้ในนั้น 

          "ทำไมล่ะ?....อัล?"  เขาไม่เข้าใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถทำความเข้าใจการกระทำของอัลได้! หยดน้ำใสๆไหลลงมาจากหางตาราวกับสายน้ำเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองลงมือทำร้ายอัลฟาไปแล้ว  

          "สุดท้ายแล้ว...ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ต้องมีใครอีกคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่ใช่หรือ?"  เขาไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายพูด แต่จู่ๆปืนในมือก็รู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาราวกับลูกเหล็กที่หนักเป็นตันๆ สองแขนตกลงข้างลำตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง

          "ฉันก็แค่ไม่ใจกว้างพอ ที่จะปล่อยนายไปกับเขา...ขอโทษนะ ทำนายร้องไห้จนได้"   ไม่รู้ว่าอัลฟามายืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่? รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกฝ่ายแนบฝ่ามือลงมาที่แก้มของเขา แล้วใช้หัวแม่มือเช็ดคราบน้ำตาให้ เอเลนไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสนั้น ใบหน้ามนทำเพียงแค่ช้อนสายตามองใบหน้าสีซีดของฝ่ายตรงข้าม น้ำตายังคงไหลลงมาไม่ขาดสายภาพตรงหน้าจึงพร่ามัวเพราะถูกม่านน้ำตาบดบัง

          "...ฉันก็เพิ่งบอกนายไปไม่ใช่รึไง? ปล่อยพวกเขาไป แล้วฉันจะไปกับนาย"  เป็นครั้งแรกที่นัยน์ตาคมกริบของอัลฟาสั่นไหว  "นายแน่ใจแล้วหรือ? แน่ใจนะว่าจะไม่เสียใจภายหลัง?"  เขาถามซ้ำด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าลงเล็กน้อยอย่างต้องการความมั่นใจ

          "เดิมที...ฉันมาญี่ปุ่นก็เพื่อมาหานาย...เพราะนายบอกว่าจะรอฉัน..."   ใช่แล้ว...นี่ต่างหากที่เป็นความตั้งใจของเขา เพื่อจบปัญหานี้ เพื่อที่จะไม่ต้องดึงคนอื่นเข้ามาพัวพันมากกว่านี้ เขาควรจะเป็นคนจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่เอเลนกลับไม่รู้เลยว่าคำตอบนั้นเป็นเหมือนคมหอกที่พุ่งเข้าใส่หัวใจใครอีกคนเข้าจัง

          นัยน์ตาสีขี้เถ้าทอประกายวาววับด้วยความโกรธที่อัดแน่นอยู่ภายใต้ม่านหมอกสีแดงฉาน เขาขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองจนแทบจะเก็บอาการเอาไว้ไม่ไหว นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าความเจ็บปวดที่แท้จริง? คำตอบที่เด็กนั่นเลือกมันคือความจริงตั้งแต่เริ่มต้น ในเมื่อเจ้าของเดิมตามมาทวงของของตนคืน และในเมื่อเอเลนเลือกแล้วว่าหมอนั่นต่างหากที่สำคัญ
          เขาก็ควรจะปล่อยวางเสียที หมอนั่นพูดถูก...'ไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็ต้องมีใครอีกคนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง' และใครอีกคนที่ว่าก็คือตัวเขาเอง ทั้งที่คิดแบบนั้นแต่ความเจ็บปวดภายในใจกลับยิ่งคุกรุ่นขึ้นเป็นเท่าตัว

          จู่ๆต้นแขนก็ถูกปล่อยกระทันหัน รีไวล์จึงล้มคว่ำลงกับพื้นแทบจะทันทีที่ต้นแขนหลุดจากพันธนาการ แม้จะอยากหนีไปให้ไกลจากตรงนี้ แต่น่าอนาถที่เขาไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่เลย ทั่วทั้งร่างเจ็บร้าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้แต่ลมหายใจที่ผะแผ่วของตัวเองยังทำให้เขาทรมานจนเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ แต่ถึงอย่างนั้นสองแขนก็ยังพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้น ถึงจะหนีไปโดยทันทีไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ของไปให้พ้นจากตรงนี้เร็วขึ้นอีกสักวินาทีก็ยังดี

          ทว่า หยัดกายยืนตรงได้ไม่ทันไร ร่างกายของเขาก็โงนเงนไปมาทำท่าจะล้มคะมำลงไปอีกครั้ง  "คุณรีไวล์!"  เอเลนรีบเข้ามาช่วยประคองชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง แต่อีกฝ่ายกลับปัดความหวังดีของเขาทิ้งอย่างไม่เหลือเยื่อใย
          มือหนาผลักเอเลนจนร่างบางแทบจะหงายหลัง โชคดีที่อัลฟาคว้าตัวเอาไว้ได้ทัน แต่เอเลนกลับไม่คิดจะยอมแพ้ เขาตรงเข้าไปหวังจะช่วยประคองคนเจ็บอีกครั้งทว่า ฮิโระกับชายหนุ่มที่ชื่อเซ็นก็ตรงเข้าไปประคองอีกฝ่ายเอาไว้ ทันทีที่ได้รับอิสรภาพ  "ฉันจัดการเอง"  ชายหนุ่มบอกเขาด้วยความหวังดีแล้วพาร่างที่โชกเลือดนั่นเดินหันหลังจากไป

          ใบหน้ามนเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาที่เพิ่งจะเหือดแห้งไปเอ่อขึ้นมากลบดวงตาก่อนจะไหลลงมาเป็นสาย สองมือได้แต่กำเข้าหากันจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อมองแผ่นหลังของทั้งสามคนที่เริ่มไกลออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่เขาเลือกแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ แต่พอคิดว่าต่อไปจะไม่ได้เจอกับคนคนนั้นอีกแล้ว แผ่นอกด้านซ้ายก็ปวดหนึบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

          เมื่อแผ่นหลังของคนคนนั้นหายลับไปจากครรลองสายตา หัวใจก็ราวกับหายวับไปครึ่งหนึ่ง ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นทั้งที่ยังร้องไห้อย่างไร้เสียง  เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่ต้องตัดสินใจเลือกอะไรสักอย่างมันจะเจ็บปวดได้ขนาดนี้?

          ทั้งที่เขาอยากวิ่งตามแผ่นหลังของคนคนนั้นไป แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากทำร้ายอัลฟามากไปกว่านี้เหมือนกัน ความรู้สึกนี้ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าสงสารแต่ลึกซึ้งมากกว่านั้น มันเป็นความรู้สึกที่เขามีให้กับคนทั้งคู่ น่าแปลก...ที่พอได้เรียนรู้กับความเจ็บปวด กลับมีความรู้สึกที่ซับซ้อนยิ่งกว่าซ่อนอยู่ ถ้าเลือกได้...เขาไม่อยากรู้จักความรู้สึกแบบนี้เลยจริงๆ

          "เราต้องไปกันแล้ว...เอเลน"  อัลฟาย่อตัวนั่งลงมาตรงหน้า ขวางกั้นสายตาของเขากับความรู้สึกว่างเปล่าไปจนหมดสิ้น ใบหน้ามนเงยขึ้นมองใบหน้าสงบนิ่งของอีกฝ่ายก่อนจะถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ  "ฉัน...มันคนน่ารังเกียจ ใช่ไหมอัล?"  ถึงจะไม่รู้ความหมายของความรู้สึกที่กำลังคุกคามอยู่ตอนนี้ แต่เขารู้ดีว่าตัวเองเห็นแก่ตัวมากแค่ไหน เพราะไม่อยากสูญเสีย ไม่อยากปล่อยมือจากใครไปสักคน ไม่ว่าจะเป็นคุณรีไวล์หรืออัลฟา ช่างเป็นความรู้สึกที่น่ารังเกียจสิ้นดี

          อัลฟาไม่ตอบคำ แต่กลับคว้าร่างที่ราวกับกำลังจะแตกสลายเข้ามากอดเอาไว้แน่น เอเลนซุกใบหน้าเข้ากับแผงอกของอีกฝ่ายแล้วหลับตาลง กลิ่นคาวของเลือดลอยเข้ามาแตะปลายจมูกทำให้รู้ว่า สัมผัสเหนียวเหนอะที่แก้มไม่ใช่แค่น้ำตาของเขา แต่มีบาดแผลที่เกิดจากน้ำมือของเขากำลังหลั่งเลือดอยู่เช่นกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
......TBC.....

          อ๊ากกกก!!!!....ในที่สุดก็ผ่านพ้นช่วงต่อสู้ไปได้ซะทีค่ะ! งื้อออ~...แบบว่าดีใจมากอ่ะ ติดอยู่ตรงนี้นานมากก(ก.ไก่ล้านตัว) คิดท่าต่อสู้ไม่ออก ลังเลระหว่างจิตใจของน้องก็ด้วยค่ะ แบบ...เฮ้ยคนที่เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไร ต้องแสดงอารมณ์ออกมาแบบไหวว้า??? 

แล้วจากที่คิดว่าพอน้องยิงอัลแล้วก็อุ้มเฮียแกวิ่งหนีไปเลยตามประสาคนมักง่ายแต่พอลงมือแต่งจริงๆแล้วทำร้ายคุณพี่ชายไม่ลงค่ะ5555+ คือวางพลอตไว้แล้วไงว่าน้องรักอัลนะ รักเฮียด้วย จะทำร้ายอัลอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง๊??? 

สรุปแล้วก็เปลี่ยนพลอตกระทันหัน เอาซะแบบแบ่งๆกันใช้ให้คุ้มเลยดีกว่าแล้วจุดจบของเรื่องนี้ก็เลยห่างไกลออกไปเรื่อยๆๆๆๆ5555+
          โอ้ย! ฮากับความเกรียนตัวเองมากค่ะตอนนี้ ความจริงมันน่าจะจบตั้งแต่ตอนสิบสองแระ แต่คือพอเฮียพาน้องท่องทะเลปุ๊บข้าพเจ้าก็ออกไปฝั่งอ่าวตังเกี๋ยมั่งเดี๋ยวน้อยหน้าเฮียแก!...หึห์...เอาไปแล้วใช้ให้คุ้มด้วยล่ะอัลฟา!?...แน่นอนว่าต้องมีฉากxxxทว่ามันกำลังจะดองยาวเพราะติดฉากxxxเนี้ยแหละ!!

ปล.ตอน81เฮียนี่เทพทรูมาจุติเลยเน้อะ! (แต่ข้าพเจ้าดันทำให้พี่เตี้ยพลาดท่า)ส่วนน้องยังนอนพังพาบอยู่บนกำแพงเหมือนเดิมจนนักอ่านทั่นอื่นด่าน้องกันใหญ่ว่าน้องกาก!...แต่กลุ่มคนที่ด่าน้องนั้นช่างโง่เง่า เพราะนั่นน่ะมันคาเร็กเตอร์นางเอกของเรื่องเฟ้ย! จะเก่งกว่าพระเอกไปได้เยี่ยงไร!? #พูดจบก็กระโดดลงหลุมหลบภัย!#

ไปแล้ว!

บายค่ะ!...งงงวยตรงจุดไหนก็ข้ามๆไปซะ!...เพี๊ยงงง!!!...

1 ความคิดเห็น: