31 มี.ค. 2559

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 14


Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 14


:Fanfiction Attack on titan


:Pairing : Levi x Eren


:Genre : Drama,Action-Sci-Fi


:Rate : NC-17


คำเตือน :บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ







          "อดทนหน่อย ชั้นจะพานายไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!"   รีไวล์กระซิบบอกร่างในอ้อมแขน เจ้าตัวพยักหน้ารับแข็งขันทั้งที่ใบหน้าแทบไม่มีสีเลือด  "ผมไม่เป็นไร" 
          รีไวล์ครางรับว่า'ดีแล้ว' พลางถอดแจ็คเก็ตของตัวเองคลุมให้ โชคดีที่เอเลนถูกพามาโบกี้เก็บของท้ายขบวนจึงน่าจะง่ายต่อการหลบหนี เขาอุ้มร่างโปร่งบางขึ้นมาแล้วพาเดินเลี่ยงออกไปให้ไกลจากสถานีด้วยฝีเท้าที่มั่นคง

          น่าเสียดายที่หน่วยกู้ชีพของญี่ปุ่นทำงานได้ว่องไวเกินคาด หลังเกิดเหตุได้เพียงไม่กี่นาทีหน่วยปฐมพยาบาลก็มากันเต็มพื้นที่แล้ว ชายสองคนกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมายังพวกเขา คนหนึ่งสวมเสื้อกาวน์และท่าทางร้อนรนส่วนอีกคนสวมชุดคล้ายบุรุษพยาบาลท่าทางคล่องแคล้วกว่าอีกคนมาก 'หมอมือใหม่?' รีไวล์กวาดสายตาไปรอบๆตัวตามสัญชาตญาณไม่มีจิตสังหารพุ่งตรงมาก็วางใจได้ส่วนหนึ่ง

          "พาคนเจ็บมาทางนี้เลยครับ!"  ชายหนุ่มที่สวมชุดบุรุษพยาบาลตรงเข้ามารับร่างเจ้าเด็กเหลือขอแล้วพาตรงไปยังรถพยาบาลที่สแตนด์บายรออยู่แล้ว เพราะสัมผัสได้ถึงความกระตือรือร้น และจิตอาสาจากฝ่ายตรงข้ามเขาจึงยอมให้อีกฝ่ายพาคนเจ็บไป หมอหนุ่มที่หน้าตาดูอ่อนกว่าวัยมากรีบเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลทันที

          "แผลลึกมาก!...ต้องได้รับการผ่าตัดด่วน ผมจะฉีดยาห้ามเลือดให้ก่อน...รีบพาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด!"
          จังหวะนั้นเองที่หางเหลือบไปเห็นกลุ่มก้อนสีดำกำลังโหนตัวพุ่งตรงมายังพวกเขา!   "รีบหน่อย! ห้ามเปิดไซเรน"   เขากระโดดขึ้นรถแล้วเร่งคนขับ ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะเข้าใจว่าเป็นเพราะห่วงคนเจ็บมากหรืออะไรก็ตาม เจ้าตัวพยักหน้ารับแล้วรีบออกรถไปทันที 
          "คุณรีไวล์?"  เพราะรับรู้ได้ถึงความร้อนรนในแววตาของอีกฝ่าย เอเลนจึงคว้าแขนเสื้อของชายหนุ่มเอาไว้ รีไวล์กุมมือข้างนั้นเอาไว้โดยไม่พูดอะไร แต่หันไปเร่งนายแพทย์หนุ่มกับบุรุษพยาบาลให้เร่งมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นแทน

          กลุ่มคนชุดดำโหนตัวใกล้เข้ามาทุกที สองข้างทางที่ขนาบไปด้วยตึกสูงแบบนี้พวกเขาก็มีแต่จะเสียเปรียบทั้งด้านกำลังคนและเส้นทางหลบหนี ต่อให้ถนนตรงหน้าจะถูกตำรวจจราจรเคลียร์เส้นทางให้จนโล่ง แต่ความเร็วของรถยังเทียบไม่ติดกับความเร็วของคนพวกนั้น!

          เร็วเกินไป!!....

          เคร้งงง!!!

          มีดสั้นจำนวนหนึ่งพุ่งตรงทะลุกระจกด้านหลังเข้ามา รีไวล์คว้าถาดสแตนด์เลสมากันเอาไว้ได้ส่วนหนึ่ง ทว่ามีดที่ถูกซัดเข้ามามันมีจำนวนมากเกินไป!
   
          "คุณชาย!!"   บุรุษพยาบาลหนุ่มเบี่ยงตัวไปกันทั้งคนเจ็บและนายแพทย์หนุ่มเอาไว้ ทั้งที่คิดว่าแผงอกของหมอนั่นน่าจะโดนเสียบจนพรุนไปแล้ว ทว่ามีดจำนวนมากกลับถูกปัดกระเด็นกระดอนไปปักตามผนังรถ?  มีเพียงแค่ไม่กี่เล่มที่เฉียดผ่านต้นแขนกับใบหน้าของอีกฝ่ายเล็กๆน้อยๆเท่านั้น?

          เจ้าหมอนี่...มีวิชาป้องกันตัว!?

          แถมยังขั้นสูงถึงขนาดปัดป้องอาวุธของพวกสัตว์ประหลาดนั่นได้! มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นในตอนนี้ เจ้าบุรุษพยาบาลตรงหน้าเป็นมนุษย์ที่ถูกตัดแต่งพันธุกรรมหรือMEเหมือนกัน!  ทั้งคู่จ้องตากันเขม็ง ประสาทสัมผัสถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ บรรยากาศพลันหนักอึ้งขึ้นทันตา แม้แต่คนที่นอนแบ่บอยู่บนเตียงผู้ป่วยยังแทบกลั้นหายใจ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรหรืออยู่ฝ่ายไหนกันแน่ รีไวล์แอบสบถด่าให้กับสัญชาตญาณของตัวเองอยู่ในใจที่หลงเชื่อคนง่ายขนาดนี้!

          "เซ็น!!..."  ขณะที่ต่างฝ่ายต่างขยับริมปาก ใครบางคนก็ตะโกนตัดหน้าขึ้นซะก่อน มีดบินระลอกใหม่พุ่งมาราวกับห่าฝนทั้งเขาทั้งเจ้าบุรุษพยาบาลจำต้องพักรบกันชั่วคราวแล้วช่วยกันปัดป้องอาวุธของฝ่ายตรงข้าม

          "พวกมันตามคุณมา!?"  ชายที่ชื่อเซ็นตะโกนถามเขาผ่านเสียงเคร้งคร้างของมีดสั้นที่ถูกปัดทิ้ง

          "แล้วนายคิดว่าไงล่ะ?"  ฝ่ายตรงข้ามหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งคนขับให้เร่งความเร็วรถ กระเป๋าสีดำใบหนึ่งถูกดึงออกมา รีไวล์เหลือบมองฝ่ายนั้นติดอาวุธให้ตัวเองเล็กน้อย แล้วตะโกนบอก

          "นายคุ้มกันพวกเขาหนีไป!...ชั้นจะถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้เอง!"   เขาพูดไปพลางหยิบปืนสองกระบอกกับมีดสั้นอีกจำนวนหนึ่งในกระเป๋าของอีกฝ่ายเหน็บไว้ตามช่องลับบนร่างกายไปพลาง  เพราะต่อให้เร่งความเร็วรถก็ไม่มีทางหนีพ้น  เมื่อสองในสิบกำลังพุ่งทะยานมาจ่อท้ายรถของพวกเขา! จบประโยครีไวล์ถีบประตูท้ายรถที่กระจกแตกละเอียดออก ทว่ายังไม่ทันได้พุ่งตัวออกไปพ้นตัวรถเอวของเขาก็ถูกใครบางคนกอดเอาไว้ซะก่อน

          "ไม่!!!..."   ใบหน้ามนส่ายไปมาอยู่กับแผ่นหลังของเขา สองแขนออกแรงกอดแน่นเสียจนชายหนุ่มได้แต่จบกรามแน่น  "เฮ้!...นายบาดเจ็บอยู่นะ!!"  น้ำเสียงของนายแพทย์หนุ่มเองก็ดูลนลานไม่แพ้กัน เขาพยายามแกะคนเจ็บที่จู่ๆก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาให้กลับลงไปนอนบนเตียงอย่างเดิม แต่เจ้าตัวกลับกอดใครอีกคนเอาไว้แน่น! 

          "เซ็น!...ช่วยที"  เมื่อพยายามแงะด้วยตัวเองไม่ไหวนายแพทย์หนุ่มจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากคนของตัวเอง แต่ฝ่ายนั้นกลับกำลังยุ่งอยู่กับการปัดป้องอาวุธของฝ่ายตรงข้าม

          "ผมว่าคุณต้องทำอะไรซักอย่างแล้วล่ะ!"  คนถูกขอความช่วยเหลือ หันไปสั่งคนโดนกอด ก่อนจะพุ่งตัวออกไปรับหน้าชายชุดดำสองคนที่พุ่งเข้ามาในระยะประชิด!

          "เซ็น!!"   นายแพทย์หนุ่มตะโกนตามหลังคนของตัวเองเสียงหลง รีไวล์แกะสองแขนผอมบางออกจากเอวของตัวเองแล้วหันมาเผชิญหน้ากับคนที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้  "มันเป็นปัญหาของเรา จะดึงพวกเขาเข้ามาพัวพันมากกว่านี้ไม่ได้!"  แลเห็นชายหนุ่มที่ชื่อเซ็นคนนั้นกำลังโหนตัวต่อสู้ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้คนโดยมีนายแพทย์หนุ่มเกาะกระจกมองตามด้วยความเป็นห่วง  

          "คุณจะกลับมาหาผมใช่ไหม?"  ต่อให้อยากเอาแต่ใจมากแค่ไหนก็ตาม แต่รีไวล์พูดถูก จะดึงคนอื่นเข้ามาพัวพันไม่ได้  

          "สัญญากับผมว่าคุณจะกลับมา!"  เอเลนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายด้วยแววตาเว้าวอน เล่นเอาชายหนุ่มรู้สึกปวดหนึบที่อกด้านซ้ายขึ้นมาทันใด  "ชั้นจะตามหานาย...ทุกที่ที่นายไปเอเลน!"
          จบประโยครีไวล์ก็พุ่งตัวออกไปโดยไม่ยอมสบสายตาของร่างโปร่งบาง ถึงจะรู้สึกสังหรณ์ใจ ถึงจะอยากคัดค้านว่าคำสัญญาของอีกฝ่ายไม่ถูกต้อง ก็สายเกินไปเสียแล้ว เขาไม่ได้อยากให้ตามหา...แต่อยากให้รีไวล์กลับมาต่างหาก!...

          "พะ...พวกเขาต้องปลอดภัย!"   ถึงจะพยายามปลอบใจคนเจ็บ แต่น้ำเสียงของนายแพทย์หนุ่มกลับสั่นเครือไม่ต่างกัน  เอเลนส่ายหน้าไปมาเมื่อสังเกตุเห็นความผิดปรกติบางอย่าง ชายชุดดำกลุ่มนั้นไม่ได้ตามพวกเขามาแม้แต่คนเดียว!

           เป้าหมายไม่ใช่เพื่อจับตัวเขา!...แต่เป็นรีไวล์ต่างหาก! ใครกัน!?...

          "ไม่นะ!...จอดรถ!...จอดรถเดี๋ยวนี้!!"  เอเลนตะเกียดตะกายไปทุบกระจกบอกคนขับรถเมื่อลางสังหรณ์บางอย่างก่อตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง  "ไม่ได้!...เราต้องไปให้พ้นจากที่นี่!"  นายแพทย์หนุ่มรีบขัดขึ้นทันทีที่เห็นคนขับเริ่มลังเล

          "งั้นปล่อยผมลงตรงนี้!...พวกคุณหนีไปซะ!"

          "ไม่มีทาง!...นายบาดเจ็บ ปล่อยไปก็เท่ากับตาย!...คิดว่าตัวเองลงไปแล้วจะช่วยอะไรได้! มันจะยิ่งทำให้พวกเขาต้องพะวงหน้าพะวงหลังเสียเปล่าๆ!"  นายแพทย์หนุ่มยังคงยืนกรานเสียงแข็ง บ่งบอกถึงความหัวรั้นของตัวเองอย่างชัดเจน  ทั้งสองคนจ้องตากันเขม็ง เหมือนต่างฝ่ายต่างกำลังคิดหาเหตุผลคัดค้านความคิดของกันและกัน

          "หมอไม่เป็นห่วงพวกเขาเหรอ!?"   นายแพทย์หนุ่มชะงักไปทันตาราวกับถูกจี้ใจดำเข้าไปเต็มเปา เขามองเจ้าเด็กตรงหน้าด้วยแววตาสับสนยากจะอธิบาย  "ทำอะไรสักอย่างกับแผลของผมหมอ ถึงจะช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!"  เอเลนรบเร้าอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมละความพยายาม นายแพทย์หนุ่มเม้มริมฝีปากแน่นจนเป็นเส้นตรง แล้วหันไปมองคนที่กำลังต่อสู้อยู่ท่ามกลางศัตรูนับสิบๆคน

          "แวะคลีนิคที่ใกล้ที่สุด!"   นายแพทย์หนุ่มสั่งคนขับรถด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด เจ้าเด็กตรงหน้าพูดถูก ถึงจะช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย!...



           รีไวล์เหลือบมองไปทางรถพยาบาลเล็กน้อยเพื่อยืนยันความคิดของตัวเอง ไม่มีใครหน้าไหนตามไปตามคาด เมื่อการคาดเดาถูกยืนยันก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากข้างหนึ่งยิ้มหยันให้ตัวเอง เขารู้ดีว่าวันนี้ต้องมาถึง...แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยมือ?
          ไม่สิ...ปล่อยมือไปไม่ได้ต่างห่าง...ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าผลของศึกครั้งนี้จุดจบมันไม่น่าพิศมัยนัก ไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ แต่คนที่ถูกทำร้ายให้เจ็บปวดที่สุดก็มีเพียงแค่คนเดียว
          แต่มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้...ใครใช้ให้เขากับพี่ชายของเจ้าเด็กเหลือขอเป็นคนเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งคู่กันเล่า  ของบางอย่างมันแบ่งปันให้ใครหน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้น!!!..

         หางตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างกำลังพุ่งตรงมาในจังหวะนั้น!

          เคร้งงง!!!

          รีไวล์ตั้งการ์ดรับแรงกระแทกจากวัตถุสีดำที่พุ่งตรงเข้าหาด้วยความเร็วสูง!  แรงปะทะด้วยพลังมหาศาลทำให้ชายหนุ่มถูกแรงอัดทะลุผนังกระจกของตึกจนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี 
          เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นเพื่อตั้งหลักแต่แรงกระแทกที่รุนแรงจนเกินไปทำให้เขาไถลตัวไปด้านหลังอีกหลายเมตร พอเพ่งมองดูดีๆถึงรู้ว่าไอ้กลุ่มก้อนสีดำที่ว่าคือบุคคลที่อยู่ในห้วงความคิดของเขานั่นเอง!
          ริมฝีปากเหยียดยิ้มเย็น ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางสบายๆ ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ตามเข้ามาจู่โจมในทันที แต่ย่างก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเขา ระยะห่างของคนทั้งคู่ไม่มากไม่น้อย ใบหน้าที่ประพิมประพายเหมือนกับเจ้าเด็กเหลือขอราวกับแกะประดับรอยยิ้มบางๆตรงมุมปาก ทว่าแววตากลับไม่ยิ้มตาม

          โชคดีที่ตึกนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างจึงไม่มีผู้คนกรีดร้องให้หนวกหู ความเงียบโรยตัวเข้ามาล้อมกรอบ ต่างฝ่ายต่างแผ่จิตสังหารจนบรรยากาศรอบตัวอัดแน่นไปด้วยไอสีดำทมึน
          เสียงไซเรนแว่วมาจากที่ไกลออกไปกระทบโสตประสาทในจังหวะนั้น คล้ายเป็นสัญญาณตัดสินแพ้ชนะ! 
          ทั้งสองฝ่ายต่างพุ่งเข้าหากันด้วยกำลังทั้งหมดที่มี! เสียงหมัดหนักๆปะทะกันจนคลื่นมวลอากาศรอบตัวสั่นสะเทือน! มืออีกข้างควงมีดสั้นจู่โจมแผ่นอกด้านซ้ายของฝ่ายตรงข้ามราวกับนัดหมายกันเอาไว้ล่วงหน้า! ทั้งที่ในความเป็นจริงมันคือจุดตายที่พวกเขาอยากจะบดขยี้อีกฝ่ายมากที่สุด

          น่าเสียดายที่แรงปะทะจากหมัดรุนแรงเกินไป คมมีดยังไม่ทันเสียบลึกไปจนถึงจุดตาย ร่างของคนทั้งคู่ก็กระเด็นจนแผ่นหลังกระแทกผนังห้องทั้งสองข้างไปซะก่อน!

          "สมเป็นคุณ"  อัลฟาพูดยิ้มๆพลางบ้วนเลือดในปากถ่มลงพื้น

          "ขอบคุณที่ชม"  รีไวล์เพียงแค่แลบปลายลิ้นแตะมุมปากที่เลือดซิบเล็กน้อย แล้วตอบกลับไป

          บาดแผลถูกแทงที่อกซ้ายของทั้งคู่มีเลือดไหลซึมออกมาจนชุ่มโชก แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่น้อย ได้ยินแบบนั้นอัลฟาก็หัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง

          "แล้วถ้าเร็วกว่านี้ล่ะ?"  จบประโยคร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้าดูเหมือนจะหายวับไป! ก่อนจะปรากฏตัวอีกทีในระยะประชิด! ทั้งหมัด เท้า เข่า ศอก กระหน่ำโจมตีจนมองตามแทบไม่ทัน! ด้วยความเร็วที่มีมากขึ้นเป็นเท่าตัวอย่าว่าแต่สวนกลับเลย แค่ปัดป้องก็ทำได้อย่างยากลำบากเต็มกลืน!

          "อุ่ก!..."  หน้าท้องถูกถีบเข้าเต็มแรงจนต้องถอยกลับไปตั้งหลักหลายก้าว หายใจยังไม่ทันทั่วท้องการจู่โจมระลอกใหม่ก็เริ่มขึ้น! ทว่าคราวนี้สายตาของรีไวล์เริ่มคุ้นชินกับความเร็วของอีกฝ่ายจึงพอจะตอบโต้กลับไปได้
          คมมีดที่ปะทะกันก่อให้เกิดประกายไฟพร้อมเสียงโลหะเสียดสีกันจนแสบแก้วหู คราวนี้เป็นรีไวล์ที่เงื้อเท้าถีบอีกฝ่ายจนกระเด็นออกไปบ้าง ฝีมือการต่อสู้ที่คู่ขี้สูสีทำให้ทั้งสองฝ่ายสูญเสียพลังงานไปไม่น้อย 
          แต่บนใบหน้าหล่อเหลากลับยังคงประดับรอยยิ้มเย็นยะเยือก ราวกับเพิ่งค้นพบความท้าทายที่ไม่เคยเจอมาก่อน

          ทั้งคู่ตรงเข้าห่ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร หมัดแลกหมัด คมมีดแลกคมมีด
 หวังให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แน่นนอนว่าจะมีความลังเลไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว!

          แต่ถึงอย่างนั้น ใครบางคนก็ยังเผยจุดอ่อนของตัวเองให้เห็น!....

          วินาทีที่มีดสั้นในมือตรงเข้าโจมตีลำคอของฝ่ายตรงข้ามอะไรบางอย่างฉายวาบเข้ามาในหัวสมองทำให้รีไวล์ชะงักไปชั่วขณะ! คมมีดที่ควรจะปาดเข้าหลอดลมของอีกฝ่ายจึงแค่ถากผิวไปให้เลือดซิบ  เหมือนจะสังเกตุเห็นความลังเลนั้น แววตาของอัลฟาฉายแววเป็นประกายประหลาดครู่หนึ่งก่อนจะเงื้อเท้าถีบชายหนุ่มโดยแรง!

          แรงถีบทำให้รีไวล์กระเด็นทะลุกระจกออกไปนอกตัวตึก ต่อให้เขายิงอุปกรณ์เคลื่อนย้ายของตัวเองได้ทันแต่ก็อดกร่นด่าตัวเองในใจไม่ได้ มือข้างหนึ่งล้วงปืนออกมากระหน่ำยิงคนที่กระโจนตามลงมาติดๆจนหมดแม็กกาซีน ก่อนจะคว้างปืนทิ้งไปเมื่อร่อนลงสู่พื้นเบื้องล่าง

          อัลฟาร่อนตามลงมาในเวลาไม่นาน ทั้งคู่หอบหายใจหนักหน่วงพอกัน แตกต่างตรงที่ใบหน้าคนหนึ่งประดับรอยยิ้มส่วนอีกคนบูดบึ้งไปถนัดตา

          เซ็นตามมาสมทบเขาทันในจังหวะนั้น กลุ่มชายชุดดำพวกนั้นเองก็เช่นกัน สภาพของเซ็นสะบักสะบอมพอตัวเพราะต้องรับศึกหลายด้าน แต่จากจำนวนของชายชุดดำที่หายไปกว่าครึ่งก็นับว่าฝีมือไม่เลวเลยทีเดียว

          "นายหนีไปซะ"   รีไวล์บอกคนข้างๆแต่ฝ่ายนั้นกลับเค้นเสียงหัวเราะหึทีหนึ่งแต่ไม่ยอมขยับตัว  "สายไปแล้วล่ะ"  เป็นจริงตามนั้น ฝ่ายตรงข้ามตีวงล้อมกรอบโดยมีพวกเขาทั้งคู่ยืนเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางเรียบร้อยแล้ว

          "ผมถามอะไรคุณได้ไหม?"  เซ็นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปนหอบ

          รีไวล์เองก็ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกัน  "ว่ามาสิ"

          "คุณไปมีเรื่องอะไรกับคนพวกนี้?"

          "ชั้นไปแย่งของของหัวหน้าพวกมันมาน่ะ"  พูดจบก็ส่งสายตาไปที่ใครบางคน เซ็นมองตามสายตาของชายหนุ่มไปแล้วก็ถึงบางอ้อในบัดดล เขาไม่ถามอะไรออกไปอีก เพียงแค่หันหลังชนกับรีไวล์ไว้กระชับอาวุธในมืออย่างเตรียมตัวพร้อมรบ
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue! !...

          ระ...รอเรื่องนี้กันอยู่มั้ยคะ? >_<
          รีบปั่นสุดๆแต่ก็ไม่ทันวันที่30อยู่ดีค่ะ555+...แต่ก็ถือว่าไวกว่าที่คิดไว้เยอะค่ะคร่าวๆคิดว่าจะเสร็จวันอาทิตย์โน่นแหน่ะ ถึงจะไม่คืบหน้าเลยก็เถอะ...

          ตอนนี้ไม่อวยพรแล้วน้าเผื่อใครไม่รู้เมื่อ28ที่ผ่านมาไรท์อัพ Pride แฮปน้องไปแล้วนะเออ...เรื่องนี้ยังไม่อัพลงบล็อคค่ะขอรีไรท์ใหม่ก่องถึงจะอัพให้ชาวบล็อคอ่านกัน^^
          หรือใครรอไม่ไหวก็ไปอ่านในเด็กดีก่อนก็ได้ค่ะ...แต่บอกไว้ก่อนว่าสองสามตอนแรกภาษาโคตรขัดใจไรท์เลย555+
ยังไงก็ติดตามข่าวสารจากเพจของไรท์ได้นะคะ มีเพจเป็นของตัวเองแล้วนะจะบอกให้ จะได้ไม่ต้องเข้ามาก่อนบ่อยๆ>\\\\\<

 เพจไรท์เอง : Reren Fiction by Me

บายค่ะเจอกันอีกทีเร็วๆนี้แหละ>_<
        

1 ความคิดเห็น: