Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Lolita : 05
:Fanfiction Attack on titan
:Pairing : Levi x Eren
:Genres : E+Ro+Man+tic
:Rate : PG-15
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ
ร่างกายกึ่งเปลือยเพราะเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่ถูกปลดกระดุมออกไปจนหมดดิ้นขลุกขลิกอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนาถึงแม้ว่าอ้อมแขนที่กอดรัดมาทั้งคืนจะหายไปนานแล้วก็ตาม ดวงตากลมโตปรือขึ้นไปมองที่โต๊ะข้างเตียงด้วยเคยชินแต่แล้วสิ่งที่วางอยู่ตรงนั้นก็ทำให้ตื่นขึ้นมาเต็มตาได้สักที...
มันไม่ใช่กระดาษโน้ตเหมือนเมื่อวาน...
แต่เป็น...เงินที่คาดว่าน่าจะ2,000ปอนด์ไม่ขาดไม่เกิน...
"ฮะฮะ..." จบแล้วงั้นสินะชีวิตที่เหมือนกับในเทพนิยายนี่...งั้นตัวเขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป
ถึงจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้างแต่อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาร่างโปร่งบางก็อยู่ในชุดเสื้อผ้าของตัวเองเรียบร้อย มือหยิบเอาแบงค์ที่วางอยู่บนโต๊ะยัดลงกระเป๋ากางเกงโดยไม่แม้แต่จะนับดูก่อนจะสะพายเป้เดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ถึงจะเป็นเรื่องปรกติที่มักจะถูกทิ้งไว้เป็นประจำอยู่แล้วแต่คราวนี้กลับรู้สึกหน่วงๆชอบกล
คงจะเป็นเพราะ...
ผู้ชายคนนั้น...แตกต่างจากลูกค้าคนอื่นๆอย่างที่ว่ามาก็เป็นได้...
ใบหน้ามนโค้งให้กับผู้จัดการโรงแรมที่บังเอิญหันมาเจอพอดีน้อยๆแทนคำขอบคุณถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีตกใจและทำท่าเหมือนจะเรียกเขาเอาไว้แต่ใบหน้ามนก็เดินผ่านไปทำเป็นไม่เห็นความผิดปรกตินั่น บางทีอีกฝ่ายคงจะแค่อยากคุยตามประสาคนรู้จักก็เป็นได้
กระเป๋าเป้ถูกโยนไปบนภูเขาเสื้อผ้าบนโซฟานั่งเล่น ปลายเท้าทำเพียงแค่เขี่ยไอ้ที่ระเกะระกะพันแข้งพันขาให้พ้นๆทางเดินเท่านั้นก่อนจะเดินเลยไปหาเจ้าพลูโตปลาทองที่เลี้ยงไว้โดยไม่สนใจจะเก็บกวาดซากกล่องพิซซ่าเอยเสื้อผ้าเอยที่สุมๆกันอยู่ทุกมุมห้องจนห้องพักที่แคบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแทบจะไม่เหลือที่ว่างให้แหย่ปลายเท้าลงไปได้. เพราะอยู่เพียงสองคนและไม่เคยคิดจะพาใครเข้ามาเหยียบพื้นที่ส่วนตัวของพวกเขา เพราะฉะนั้นนอกจากขยะที่ต้องเคลียทิ้งทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์แล้วทุกอย่างจะถูกจัดการในวันอาทิตย์ที่พวกเขาทั้งคู่หยุดพร้อมกันซึ่งก็คือพรุ่งนี้
เศษอาหารของเจ้าพลูโตยังมีหลงเหลืออยู่บนผิวน้ำทำให้ใบหน้ามนเหลือบไปมองประตูห้องนอนแล้วยิ้มออกมาบางๆ...อาร์มินกลับมาแล้ว...และคงจะเพิ่งมาถึง มือบางหยิบอาหารโรยลงไปในตู้ปลาอีกเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน ภาพของเพื่อนร่างเล็กที่นอนแผ่หลาอยู่เต็มเตียงทำให้หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะปล่อยให้นอนต่อโดยไม่ปลุกอีกคนขึ้นมา เพราะรู้ว่าคนที่ยังไม่ถึงวันหยุดมันต้องเหนื่อยกว่าคนที่หยุดพักมาเกือบหนึ่งวันเต็มๆอย่างเขาแถมคืนนี้ยังต้องไปทำงานอีก
ใบหน้ามนกลับไปเตียงฝั่งของตัวเองหลังจากจัดแจงห่มผ้าให้อาร์มินเรียบร้อยแล้ว ถึงอากาศในช่วงเดือนกันยาจะเย็นสบายจนเกือบร้อนแต่พอบ่ายคล้อยอากาศมักจะเย็นลงเพราะงั้นต่อให้ไม่มีแอร์หรือพัดลมเพดานพังก็ยังนอนต่อได้สบาย มือเอื้อมไปหยิบนิตยสารที่เพื่อนร่างเล็กเพิ่งจะซื้อมาสองสามเล่มมาเปิดอ่าน ทั้งเรื่องธุรกิจและบรรเทิงถึงจะไม่ได้สนใจเป็นการส่วนตัวแต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะคุยเรื่องพวกนี้จึงจำเป็นต้องหาข้อมูลเอาไว้บ้างจะได้คุยกับเค้ารู้เรื่อง...
"รีไวล์!...นั่นนายจะไปใหน?...อีกสิบนาทีเรามีประชุมนะ!" ขาแข็งแรงจำต้องหยุดชะงักอยู่กับที่เมื่อน้ำเสียงขุ่นๆของเจ้าเอลวินตะโกนข้ามฟากมาจากอีกฝั่งของห้องประชุม1.มือหนาจึงชูมือถือขึ้นแทนคำตอบก่อนจะก้าวขาออกจากห้องไป เขารู้ว่าเจ้าเอลวินยังเคืองเรื่องที่เขาเอาลูกชายสุดที่รักของมันไปครูดราวถนนเล่นแต่จะให้ทำไงได้จะซื้อให้ใหม่ก็ไม่เอาเองนี่นา...
มือกดโทรออกไปยังเบอร์มือถือผู้จัดการโรงแรมด้วยความเป็นห่วงว่าเด็กนั่นจะยังไม่ตื่น ยังไม่กินอะไรหรือแม้แต่ไข้กลับมาอีกรอบหรือเปล่า?...ยิ่งนึกถึงสีหน้างอนๆเมื่อคืนด้วยแล้ว...
[ครับมิสเตอร์]
"เค้าตื่นรึยัง?"
[กลับไปแล้วครับ]
"ห๋า?...หมายความว่าไง?"
[เด็กคนนั้นกลับไปแล้วครับ...เมื่อราวๆสองชั่วโมงก่อน]
"แล้วทำไมไม่ห้ามเอาไว้เล่า!?...ชั้นบอกให้ดูแลเค้าไม่ใช่เหรอ!!?" เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงตะคอกออกไปแบบนั้นพวกพนักงานที่เดินผ่านไปมาต่างก็หันกลับมามองด้วยความแปลกใจที่คนอย่างเขาก็แสดงอารมณ์อย่างอื่นเป็น ถึงจะถูกมองด้วยสายตาแปลกๆแต่ความหงุดหงิดที่รู้ว่าเด็กนั่นไม่อยู่ที่โรงแรมแล้วก็ทำเอาแทบอยากจะปามือถือทิ้ง
[ขออภัยครับ...พอดีผมติดลูกค้าพอหันกลับไปอีกทีเด็กคนนั้นก็หายไปแล้ว...ขออภัยจริงๆ]
"ช่างเถอะ!"
"รีไวล์?" คงเพราะเสียงตะคอกเมื่อกี้เจ้าเอลวินถึงได้ตามมาดู ริมฝีปากได้รูปสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะเดินผ่านเพื่อนสนิทกลับไป
การประชุมที่เริ่มจะตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงยังหาข้อสรุปไม่ได้ยิ่งทำให้คนที่นั่งไขว่ห้างกอดอกพิงพนักเก้าอี้แผ่ออร่าทมึนมาตั้งแต่เข้าห้องมายิ่งแผ่ปกคลุมไปทั่วให้ทั้งคู่ค้าและผู้ถือหุ้นรายใหญ่เริ่มจะเหงื่อแตกพลั่กๆไปตามๆกัน การเจรจาซื้อขายบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่ไม่น่าจะใช้เวลาล่วงมาขนาดนี้นั่นก็เพราะฝ่ายผู้ขายเองก็ต้องการราคาที่สมน้ำสมเนื้อแต่ดูเหมือนพวกผู้ถือหุ้นคนอื่นๆต้องการกดราคาลงไปอีกกว่าครึ่ง...แต่ที่เขายังนั่งเงียบก็เพราะพวกนั้นบอกว่าอยากจะจัดการเองเขาถึงได้ทนฟังอยู่แบบนี้มาตลอด...
ถ้าหากมีใครสักคน!...
ใครก็ได้ในห้องนี้หันมาขอความช่วยเหลือจากเขา!...
"คุณรีไวล์ครับ!...ผมขอร้อง!" ในที่สุดคำอธิฐานของเขาก็เป็นจริงเจ้าของบริษัทหันมาส่งสายตาอ้อนวอนให้เขา แต่อย่าได้คิดว่าสายตาแบบนั้นจะทำให้เขาคนนี้ใจอ่อนลงได้!...เขาก็แค่อยากจะทำให้เรื่องมันจบก็เท่านั้น!
เสียงฮือฮาดังระงมไปทั้งห้องและทันทีที่มันเงียบลงทุกสายตาก็จ้องมองมาที่เขาตาไม่กระพริบ ปากกาในมือหนาเคาะที่ขอบโต๊ะเบาๆ...ใบหน้าที่นิ่งเป็นปลาตายมากว่าสามชั่วโมงหยักยิ้มที่มุมปากน้อยๆก่อนจะตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสนิทแต่เรียกเสียงฮือฮาดังก้องไปทั่วห้องอีกครั้งแน่นอนว่าเขาไม่ได้สนใจจะอยู่ฟังคำตอบของใครทั้งนั้นเพราะตอนนี้มีเพียงเจ้าเอลวินเท่านั้นที่เดินตามเขาออกมาจากห้อง...
ใครจะพอใจหรือไม่เขาไม่สนก็บอกแล้วว่าคนอย่างเขาไม่เคยมีความสงสารให้กับใครแต่ถ้าเทียบกับราคาที่พวกผู้ถือหุ้นพยายามจะยัดเยียดให้อีกฝ่ายแล้วราคาที่เขาเสนอก็ถือว่าสูงกว่ามากแต่ก็ยังไม่ถึงเพดานที่เจ้าของบริษัทตั้งเอาไว้...ที่เหลือก็แค่รอให้คนขายตัดสินใจเอาเอง
"350 ล้านเหรอ?...นั่นมันบริษัทเล็กๆไม่ใช่รึไง?"
ไม่ใช่น้ำเสียงหงุดหงิดหรือตื่นเต้นอะไร...เอลวินก็แค่อยากจะลองเชิงเขาก็เท่านั้น...ทั้งๆที่เขาจะกดราคาลงไปอีกก็ยังได้แต่ไม่ยอมทำ
"แค่รำคาญตาแก่พวกนั้น...ชั้นบอกนายแล้วว่าไม่จำเป็นต้องให้พวกเค้าเข้าร่วม"
"หึหึ...จะให้ทำยังไงได้ก็พวกเค้าเป็นผู้ถือหุ้น"
ประตูห้องทำงานส่วนตัวปิดลงหลังจากที่ร่างของเพื่อนสนิททั้งสองคนเข้าไปแล้ว นัยน์ตาสีฟ้าครามเหลือบมองร่างสันทัดที่ยืนเท้าเอวมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำๆ...ร้อยวันพันปีหมอนี่ไม่เคยแสดงสีหน้าอย่างอื่นออกมาแต่แค่วันนี้เขาได้เห็นว่ารีไวล์ก็ทำสีหน้าอย่างอื่นเป็น...
"เพราะเสียงกรี้ดแปลกๆเมื่อคืนงั้นเหรอ?...ถามหน่อยนายซ่อนอะไรไว้ที่นั่น?"
ใบหน้าคมทำแค่หันกลับมามองด้วยหางตาก่อนจะหันกลับไปสนใจวิวด้านนอกต่อ
"หรือว่ายังนอยส์เรื่องที่เลิกกันกับแม่นางแบบนั่น?"
"อย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้น่าเอลวิน...ไม่ใช่เรื่องนั้น"
"นั่นสินะ...อยากดื่มอะไรหน่อยมั้ย?"
"ก็ดี..."
กลิ่นหอมๆของกาแฟทำให้คนที่ยืนนิ่งอยู่นานยอมกลับมานั่งที่โซฟารับแขกจนได้รสชาติขมๆแต่ละมุลละไมสมกับเป็นกาแฟชั้นดีทำให้คิ้วที่มักจะขมวดเป็นปมอยู่ตลอดเวลาคลายออกได้บ้างถึงแม้ว่าเรื่องที่ต้องให้คิดมันยังไม่หมดไปจากสมอง
"นายเคยนอนกับผู้ชายรึเปล่า?"
พรวด!!!!
ร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแทบจะพ่นกาแฟร้อนๆออกมาใส่หน้าคนถาม จนใบหน้าคมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา...
"อารมณ์ใหนเนี้ย!?...อย่าบอกนะว่านายอยากจะใส่เข้ามาในตัวชั้นน่ะ!!?" ไม่ว่าเปล่ายังแสดงสีหน้าหวาดระแวงออกมาอย่างชัดเจนอีกด้วยแต่คนถามก็รีบสวนกลับมาทันทีเช่นกัน...
"ไม่มีทาง!!...ต่อให้นายตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบรอบชั้นก็ไม่แล!!"
ความเงียบปกคลุมรอบตัวพวกเขาทั้งคู่อีกครั้ง...ดูเหมือนเจ้าเอลวินจะต้องการเวลารวบรวมสติกลับมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...ก็แหงล่ะ...เจอคำถามแบบนี้เข้าไปเป็นใครก็สติหลุดกันทั้งนั้น...
"นาย...ทำมันแล้วสินะ?" ใบหน้าหล่อเหลาลอบมองเพื่อนสนิทอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง...แต่คำตอบที่อีกคนตอบกลับมาก็เล่นเอาถูกสตั้นไปอีกหลายวินาทีที่อีกคนตอบออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย
"ใช่..."
"...แล้วเป็นไงบ้าง?...คือเอ่อชั้นหมายถึง..."
"ก็ไม่เลว"
"ไม่เลวงั้นเหรอ?" เอลวินได้แต่พึมพำคำตอบนั้นออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง มันแปลกที่คนอย่างหมอนี่จะลุกขึ้นมาทำอะไรห่ามๆแบบนี้...เรื่องนี้มันค่อนข้างเหลือเชื่อสำหรับเขาพอสมควร
"ชั้นหมายถึง...เยี่ยม...เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จัก...ประมาณนั้น"
แต่คำตอบที่ค่อนข้างตรงไปตรงมามันยิ่งทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อเข้าไปใหญ่ว่าอะไรที่มันดลใจเจ้าคนที่ไม่สนโลกคนนี้เข้า
"ให้ตายสิรีไวล์!...เพราะแบบนี้ใช่มั้ยนายถึงได้แผ่รังสีอำมหิตตลอดการประชุมน่ะ"
ใบหน้าคมทำเพียงแค่ยิ้มที่มุมปากก่อนจะเสมองไปทางอื่นโดยไม่คิดจะอธิบายอะไรมากไปกว่านั้นปล่อยให้เพื่อนร่างสูงได้แต่ถอนหายใจลากยาวที่เขาก็ไม่รู้ว่ามันกำลังเครียดเรื่องอะไรอยู่กันแน่?...
"นายเป็นเกย์?"...อ้อ~...ที่แท้ก็เรื่องนี้....
"ไม่...ชั้นยังชอบผู้หญิง"
"นายมันบ้า!...ชั้นละอยากรู้ชะมัดว่าใครหน้าใหนมันล่อลวงนายให้เป็นถึงขนาดนี้ได้?"
ถึงจะดูหงุดหงิดไปบ้างแต่ดูเหมือนเจ้าเอลวินเองก็อยากรู้ไม่ใช่น้อย...เพราะถ้าไม่สนใจแล้วหมอนี่จะไม่ถามอะไรออกมาสักคำ
"...ก็แค่เด็ก...แปลกๆ"
"เด็กเหรอ?...แถมยังแปลกอีกไม่ใช่ว่านายพรากผู้เยาว์ไปแล้วหรอกนะ...นั่นมันคุกชัดๆ!"
"ไม่ใช่เด็กขนาดนั้น...23ปี6เดือนกับอีก9ไม่สิ...10วัน"
"ท่องจำมารึไง?"
"ก็นะ...ต่อจากนี้เราไม่มีประชุมอะไรแล้วใช่มั้ย?...เอากุณแจรถนายมาที"
"ไม่มีทาง!...ตอนห้าโมงเย็นนายมีนัดทานข้าวกับท่านรัฐมนตรี"
"ชั้นกลับมาทันน่า"
"นายจะหลงทางและเอารถชั้นไปชนเล่นๆอีกคัน"
"โอเค~..." ที่ตอบออกไปแบบนั้นไม่ใช่ว่าจะยอมแพ้ให้กับอีกฝ่าย มือหนาวางแก้วกาแฟเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าตังส์แล้วเดินออกจากห้องไป
"มีใครในห้องนี้มีรถให้ชั้นยืมบ้าง!?"
น้ำเสียงทุ้มเข้มประกาศก้องไปทั่วออฟฟิศจนเหล่าพนักงานที่ยังนั่งทำงาน ยืนถ่ายเอกสารหรือแม้แต่เดินผ่านไปมาหยุดมองมาที่ร่างสันทัดเป็นตาเดียวพนักงานหลายคนทำท่าจะยกมือขึ้นแต่ทว่า...
"ใครให้หมอนี่ยืมรถชั้นไล่ออก!"
น้ำเสียงที่ดังและฟังชัดกว่าของเจ้านายตัวจริงทำให้เหล่ามือทั้งหลายหดกลับแทบไม่ทันเพราะถ้าชั่งน้ำหนักระหว่างรถคันใหม่กับโดนไล่ออกแล้วน้ำหนักมันค่อนข้างจะต่างกันพอสมควร ใบหน้าคมจึงได้แต่หัวเราะเฝื่อนๆออกมาก่อนจะหันไปมองเพื่อนร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ
"นายจะได้ออกไปเล่นหลังจากทานข้าวกันท่านรัฐมนตรีแล้วรีไวล์"
"ชั้นไม่ใช่เด็ก!"
"นายมันเด็กชัดๆ"
"โอเค...งั้นเอากุณแจรถนายมา!"
"ชั้นจะเป็นคนขับรถให้เอง!"
"ไม่!...ชั้นจะขับเอง!"
"ไม่มีทาง!...ชั้นจะขับ!"
แล้วทั้งคู่ก็เดินทะเลาะกันออกไปเป็นเด็กๆถึงแม้ว่าอายุอานามจะขึ้นเลขสามแล้วทั้งคู่ก็ตาม ความสงบกลับมาเยือนออฟฟิศอีกครั้งแต่ก็ยังมีเสียงหัวเราะเบาๆเล็ดลอดออกมา ทั้งคู่ทะเลาะกันไม่ใช่เรื่องแปลกแต่มันเป็นภาพที่เห็นจนชินตาทุกๆครั้งที่คุณรีไวล์มาที่นี่แต่ที่แปลกคือเรื่องที่ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องหนีเที่ยวแทนที่จะเป็นเรื่องงานนั่นต่างหาก
BMW 320d ดูจะเป็นรถที่ราคาถูกที่สุดในบรรดารถที่เจ้าเอลวินมีและเป็นคันเดียวที่สามารถนั่งได้มากกว่าสองคนถ้าไม่นับพวกรถแวนหรือรถตู้ที่จอดอยู่ในโรงรถเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดรถของคลับได้เพราะการขู่เข็ญแกมบังคับของเขา ตอนแรกเขาก็คิดจะมาคนเดียวต่อให้เจ้าเอลวินไม่ยอมมาด้วยก็ตามแต่เพราะนึกได้ว่าคลับเป็นแบบปิดและเจ้าเพื่อนร่างสูงก็ดันมีบัตรสมาชิกพอดี ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นได้อิท่าใหนเพราะหมอนี่มันชายแท้1,000%แต่ก็ถือว่าเป็นผลดีกับเขาล่ะนะ...
"นายจะเข้าไปจริงๆเหรอรีไวล์?" ดูเหมือนหมอนี่จะยังกังวลไม่เลิก...
"ใช่...นายก็ด้วย"
"แต่ชั้นไม่ได้มีรสนิยมอย่างว่านะพวก!...ชั้นเป็นชายแท้นายเข้าใจมั้ย?"
"ชั้นก็ผู้ชายทั้งแท่งเหมือนกัน" ใบหน้าหล่อเหลาเหล่มองเขาด้วยสายตาที่อ่านได้ว่า"เอ็งแน่ใจเร๊อะ!?"ทำให้เขาหลุดหัวเราะออกมาเบาๆก็พอจะเข้าใจล่ะนะว่าพอได้ฟังเรื่องแบบนั้นแล้วมันเชื่อไม่ลง...
"เอาน่า...นายแค่พาชั้นเข้าไปแล้วพอจัดการธุระเสร็จเราก็จะกลับกันทันทีโอเคมั้ย?"
"บ้าเอ๊ย!...นายถูกเด็กนั่นปั่นหัวแล้วรีไวล์ ไม่รู้เหรอว่ามันเป็นทริคของคนที่ทำงานแบบนี้น่ะ!"
เจ้าเอลวินบ่นออกมาอีกชุดใหญ่แต่ก็ยอมลงจากรถแต่โดยดี ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้อะไรแต่เพราะอะไรบางอย่างทำให้สลัดมันออกจากหัวไม่ได้ซะทีมีแต่ต้องคุยกันให้รู้เรื่องหรือไม่ก็มาเห็นกับตาเท่านั้น
บรรยากาศด้านในดูสมกับเป็นคลับเฉพาะทางมากกว่าที่เห็นจากภายนอกพอสมควร ทั้งแสงไฟของตกแต่ง และกลิ่นหอมแปลกๆ คงเป็นเพราะตอนนี้เพิ่งจะทุ่มนิดๆแขกในร้านถึงได้ดูบางตาและเพราะแบบนั้นหรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจแต่มีเด็กหนุ่มที่แต่งตัวเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วตั้งแต่หัวจรดเท้ายืนจับกลุ่มคุยกันอยู่ตามเคาน์เตอร์และตามมุมต่างๆของคลับอีกประปราย...เด็กนั่นก็แต่งตัวแบบนี้ด้วยงั้นสิ?...
แต่ทำไมถึงไม่เห็นอยู่แถวนี้เหมือนคนอื่นๆล่ะ?...
"ยินดีต้อนรับครับ...ไม่ทราบว่ามีเด็กประจำอยู่แล้วหรืออยากได้ใครไปบริการเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?"
"อ่า~...ผมอยากได้..." เอลวินดูจะติดอ่างขึ้นมาทันทีที่ถูกทัก
"เด็กผู้ชายสูงราวๆ170 ผมสีน้ำตาล ตาสีเขียวหน้าตาน่ารักๆน่ะ...เค้าทำงานที่นี่ใช่มั้ย?"
เขาพูดแทรกขึ้นหลังจากที่เอลวินใบ้กินไปหลายวินาที คนที่ออกมาต้อนรับพวกเขาที่คากว่าน่าจะเป็นโอนเนอร์ของคลับทำท่าคิดนิดหนึ่งก่อนจะพูดชื่อที่ไม่รู้จักขึ้นมาให้เขาได้แต่ขมวดคิ้วสงสัยแต่คำพูดของเด็กนั่นก็ผุดขึ้นมาในหัวซะก่อนที่จะถามอะไรออกไป..."ฮะ...ผมว่ามันแปลกๆถ้าคนที่ไม่ใช่คนรักเรียกชื่อตอนมีเซ็กส์น่ะ"...บางทีกับคนในคลับก็ด้วยอย่างนั้นสินะ?...
"อเล็กซ์สินะครับ...ต้องขออภัยจริงๆตอนนี้เด็กคนนั้นติดลูกค้าไม่สามารถมาให้บริการ..." แค่ได้ยินเพียงแค่นั้นความโกรธของเขาก็แทบจะล้นทะลักออกมาน้ำเสียงทุ้มเข้มจึงถามอีกฝ่ายออกไปด้วยโทนเสียงกดดัน...
"อยู่ที่ใหน?"
"ดะ...เด็กคนนั้นติด..."
"ผมถามว่าเด็กนั่นอยู่ที่ใหน!?"
"ชะ...ชั้นสองเลี้ยวขวาห้องริมสุดครับ!"
ขาก้าวยาวๆออกไปตั้งแต่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบประโยคถึงจะได้ยินแค่เลี้ยวขวาแต่ความโมโหที่คลุ้มคลั่งอยู่ในใจก็ทำให้ฝ่ามือผลักบานประตูมันซะทุกห้อง!
"เดี๋ยวผมจัดการเอง!" เอลวินรีบวิ่งตามเพื่อนสนิทตัวเองไปก่อนที่จะไปต่อยใครเขาเข้าซะก่อนแต่ดูเหมือนจะช้าไปหนึ่งก้าว!...
ประตูห้องสุดท้ายถูกเปิดออกด้วยแรงแทบจะทั้งหมดของร่างสันทัดทำให้คนในห้องหันกลับมามองผู้มาเยือนเป็นตาเดียว ร่างโปร่งบางที่ถูกรวบเอวบางเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของลูกค้าทั้งๆที่มือยังถือแก้วบรั่นดีเอาไว้ถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูเข้ามา!...
"มานี่!" ต้นแขนถูกกระชากจนแก้วบรั่นดีในมือร่วงลงกับพื้นก่อนจะถูกเหวี่ยงไปจนกระแทกกับผนังอย่างแรง!...ความสับสนงุนงงทำให้ร่างกายได้แต่นิ่งค้างอยู่กับที่จนไม่ทันได้เข้าไปห้ามคนที่ไม่รู้ว่าไปกินอะไรผิดสำแดงมา!...
"ทำบ้าอะไรของแกว่ะ!!...อุ่ก!"
กำปั้นหนักๆซัดเข้าไปเต็มหน้าท้องของคนที่กำลังจะลุกขึ้นมาโวยวายจนล้มลงไปนอนตัวงออยู่กับพื้นให้ดวงตากลมโตได้แต่เบิกกว้าง!
"คุณรีไวล์อย่าครับ!!"
เอเลนวิ่งเข้าไปกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้ก่อนจะพยายามลากอีกฝ่ายออกมาก่อนที่ฝ่าเท้าของคนในอ้อมแขนจะกระทืบคนที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้นซ้ำ!
"คุณรีไวล์!...หยุดเถอะครับอย่ามีเรื่องเลย!"
"เอเลนเกิดอะไรขึ้น!!?"
ใบหน้ามนหันไปส่ายรัวๆให้กับเพื่อนร่างเล็กที่คงจะวิ่งตามเสียงโวยวายมาและตอนนี่นอกห้องก็มีแต่กลุ่มคนที่มามุงดูแต่กลับไม่มีใครคิดจะเข้ามาช่วยเลยสักคน!
"คุณครับ!...ใจเย็นก่อน!!"
อาร์มินตรงเข้ามาช่วยลากคนที่ยังขืนแรงต่อต้านพวกเขาทั้งคู่จะเข้าไปกระทืบคู่กรณีให้ได้แต่ขนาดร่วมแรงกันตั้งสองคนชายหนุ่มก็ยังแทบจะไม่กระดิกออกจากที่เดิมเลยด้วยซ้ำ
"คุณรีไวล์ฮะ!...ผมขอร้อง!!"
"รีไวล์?" อาร์มินพึมพำออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกว่าคุ้นๆกับชื่อนี้ชอบกลแต่ไม่มีเวลานึกอะไรไปมากกว่าต้องลากอีกฝ่ายออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อนแต่ก่อนที่จะทันได้ออกแรงลากอีกครั้งอีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายหันกลับมาตะคอกใส่เอเลนเสียงเข้ม!
"นายเองก็เหมือนกัน!!...ทำไมไม่ขัดขืน!!?..ทำไมไม่ปัดป้อง!!?...ปล่อยให้เค้าลวนลามอยู่ได้!!"
ไหล่บางถูกเขย่าแรงๆจนรู้สึกเจ็บถึงจะพยายามขัดขืนแต่ก็สู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้เลย...
"เอเลน!!" อาร์มินเองก็ยังพยายามรั้งท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้แทบเป็นแทบตายแต่มือที่แข็งอย่างกับคีบเหล็กกลับไม่มีวี่แววจะหลุดออกไปง่ายๆ...
"อึ่ก!...ผมเจ็บ!..."
"งั้นก็ตอบชั้นมาสิว่าทำไม!!?"
ดวงตากลมโตได้แต่สั่นพร่าอย่างไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิด?...แล้วคนตรงหน้าต้องการคำตอบอะไรจากเขากันแน่?...ริมฝีปากอิ่มจึงได้แต่สั่นระริกพูดอะไรไม่ออกไม่รู้ว่าคำตอบแบบใหนที่อีกฝ่ายต้องการจะฟัง...
"รีไวล์!...พอได้แล้ว!!"
น้ำเสียงทุ้มของใครบางคนดังมาจากกลุ่มคนที่มุงอยู่ด้านนอกท่ามกลางความตรึงเครียดของทั้งคนที่กำลังถูกคาดคั้นและคนที่ยังเกาะแขนของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่แหวกกลุ่มคนเข้ามาก่อนจะช่วยอาร์มินแงะมือแข็งๆออกจากไหล่ของร่างบางอีกแรง
"ไปคุยกันข้างนอกเถอะ...ใจเย็นลงหน่อย"
"อ๊ะ!?!..." แต่ทว่าเป็นอิสระได้ไม่ถึงนาทีต้นแขนก็ถูกมือหนากระชากให้เดินตามออกไปโดยไม่ทันตั้งตัวร่างกายจึงแทบจะขมำคว่ำไปกับพื้นแต่อีกฝ่ายก็ออกแรงฉุดขึ้นมาด้วยมือเพียงข้างเดียว...
"เอเลน!!?"
"นายเองก็ไปด้วยกันเถอะ!" อาร์มินพยักหน้ารับแรงๆก่อนจะวิ่งตามทั้งสองคนไปพร้อมๆกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ถึงจะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าเผลอเรียกชื่อเอเลนไปตั้งหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่มีเวลามากพอให้ไปอธิบายให้ใครต่อใครฟัง...ถ้าทุกคนมัวแต่ตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนไม่ทันรู้ตัวก็คงดี...
.
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น