10 พ.ย. 2558

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren]  Lolita : 03

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren]  Lolita : 03

:Fanfiction Attack on titan


:Pairing : Levi x Eren


:Genres : E+Ro+Man+tic


:Rate : PG-15


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ









          ใบหน้ามนงัวเงียตื่นขึ้นมาตอนสายโด่งสมควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรืออะไรแต่นี้กลับเหลือเพียงตัวเองที่ยังอยูในห้องดวงตากลมโตเหลือบไปมองที่โต๊ะข้างเตียงด้วยความเคยชิน เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแต่บ่อยครั้งที่ถูกทิ้งเอาไว้กับเงินจำนวนหนึ่ง แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป...

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนเป็นปมเมื่อสิ่งที่แปะอยู่บนโต๊ะไม่ใช่เงิน900ปอนด์แต่เป็นกระดาษโน้ตที่เขียนข้อความเอาไว้สั้นๆว่า....


"รออยู่ที่นี่จนกว่าชั้นจะกลับ...อะไรของตาลุงนี่เนี้ย?...ฮะฮะ"


"รอจนกว่าจะกลับงั้นเหรอ...ไม่ใช่ไม่มีเงินจ่ายจนเผ่นแน่บไปแล้วหรอก..."


คำพูดที่เหลือถูกหยุดเอาไว้เพียงแค่นั้นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตั้งอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้า สองขาก้าวลงจากเตียงแล้วตรงไปยังตู้เสื้อผ้าทันที มือบางเปิดตู้เสื้อผ้าออกดูอย่างไม่อยากจะเชื่อตัวเอง จำได้ว่าเมื่อคืนผู้ชายคนนั้นมาตัวเปล่าไม่ผิดแน่แต่เสื้อเชื้ตสีขาวกับชุดสูทที่เรียงเป็นตับๆอยู่ในตู้นี่มันอะไร?...


กะจะใส่แบบไม่ซ้ำชุดกันเลยรึไง?


แต่ที่สำคัญ!


ไปเอามาตอนใหน?


"ฮะ...ฮะฮะ...เอาจริงดิ?"


มือลิ้นชักออกดูแล้วก็ได้แต่อึ้งไป...ชั้นบนเป็นเนคไทส่วนชั้นล่างเก็บอันเดอร์แวเรียงกับเป็นระเบียบเรียบร้อยจนไม่อยากจะเชื่อ...ต่างจากเขาลิบลับเลย...คงเป็นพวกคุณชายจอมเนี้ยบอะไรทำนองนั้นสินะ?...ทั้งตู้ชุดสูทมากกว่าชุดลำลองซะอีก?...


จะอยู่ที่นี่นานแค่ใหนกัน?


"จะว่าไป..."


ใบหน้ามนหันไปมองตะกร้าผ้าที่ควรจะมีเสื้อผ้าตัวเองกองอยู่ในนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมันเหลือเพียงความว่างเปล่า...ไม่ใช่เอาไปทิ้งแล้วหรอกนะ?...ชั้นในก็ด้วย!...ถึงจะแค่ถูกๆแต่เขาก็เสียดายเหมือนกันนะอุตส่าห์เจียดเงินค่าเช่าไปซื้อมาเมื่อเดือนก่อนนี่เอง...


คิดไปก็ไร้ประโยชน์เอาไว้อีกฝ่ายกลับมาค่อยถามละกัน...เสื้อคลุมถูกถอดกองไว้ที่หน้าห้องน้ำโดยไม่สนใจว่าใครจะเปิดประตูมาเห็นเข้า มือบางแกว่งลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีกลีบกุหลาบลอยอยู่วัดอุณหภูมิของน้ำก่อนจะเปิดน้ำร้อนเติมลงไปอีกนิดหน่อย นานๆทีแช่น้ำอุ่นในอ่างน้ำวนตอนสายๆแบบนี้มันก็ไม่เลวนัก...


ใหนๆก็ไม่มีอะไรทำแล้ว...


เอาไว้บ่ายๆค่อยโทรหาอาร์มิน...



ถึงจะรู้สึกเสียดายแต่อาการวูบโหวงก็ทำให้ร่างโปร่งบางต้องรีบขึ้นจากอ่างหลังจากแช่อยู่ในนั้นเกือบยี่สิบนาที ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหิวหรือไข้ขึ้นกันแน่แต่ถ้าขืนแช่ต่อคงได้เป็นลมล้มพับกันพอดี มือบางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวหนึ่งในหลายๆตัวในตู้ออกมาทาบกับตัวเอง คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างแปลกใจนิดๆที่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเตี้ยกว่าเขาแต่ความยาวของเสื้อที่ทาบอยู่บนลำตัวกลับยาวจนเกือบจะถึงเข่าตัวเอง...


"แบบนี้ก็พอไหว"


คิดว่าจะสั้นเต่อจนปิดอะไรไม่มิดซะอีก เขาไม่อยากใส่ชุดคลุมอาบน้ำแล้วด้วยมันดูรุ่มร่ามยังไงก็ไม่รู้


ก๊อกๆๆ


"รูมเซอร์วิสครับ!"


คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเมื่อตัวเองยังไม่ได้ยกโทรศัพท์ไปสั่งอะไรเลยสักนิดแต่ถึงอย่างนั้นมือบางก็รีบติดกระดุมเสื้อพอลวกๆแล้วออกไปเปิดประตูทั้งอย่างนั้น


"ผมยังไม่ได้สั่งอะไรเลยนะฮะ?"


ใบหน้ามนรีบถามออกไปเผื่อจะมาผิดห้องแต่พนักงานหนุ่มที่ดูจะผงะไปชั่วขณะกลับรีบกระแอมไอแล้วก้มหน้าตอบออกมาเสียงอ่อย...


"คือ...มิสเตอร์สั่งเอาไว้ให้น่ะครับ...ว่าให้จัดมื้อเที่ยงมาให้คุณเวลานี้"


"เอ๋?...งั้นเหรอฮะ..อ๊ะ!...เข้ามาสิ!...แต่ผมไม่มีทิปให้หรอกนะ"


"เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ"


"หมายความว่าไง?...แต่ช่างเถอะ...เออนี่!"


"ครับ?"


"คุณเห็นเสื้อผ้าผมมั้ย?"


"มิสเตอร์ส่งไปซักครับ"


"เฮ้อ~~...โล่งอกไปทีนึกว่าถูกโยนทิ้งถังขยะซะแล้ว"


ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาเบาๆจากพนักงานหนุ่มที่ก้มหน้าก้มตายกอาหารวางลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมๆลอยมาเตะจมูกยั่วน้ำลายคนที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าให้ดวงตาเป็นประกาย ร่างโปร่งบางทำท่าจะนั่งลงแต่เสียงเคาะประตูห้องกลับดังขึ้นซะก่อน


ผู้มาใหม่คือผู้จัดการโรงแรมที่เจอกันเมื่อคืนและดูเหมือนจะกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่เลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเอง


"ครับ...สักครู่นะครับ"


"มิสเตอร์จะเรียนสายด้วยครับ"   แล้วมือถือก็ยื่นมาตรงหน้าให้ใบหน้ามนรับมาถือไว้อย่างงงๆ ใบหน้าที่เริ่มจะมีริ้วรอยของผู้จัดการโรงแรมพยักให้กับพนักงานตรงหน้าแทนคำพูดว่าจะจัดการที่เหลือเองยิ่งทำให้คนที่รับมือถือมาถือเอาไว้งงหนักเข้าไปอีก


"วะ...หวัดดีฮะไม่ทราบว่า..."


[หึ...ชั้นเอง...ทำอะไรอยู่?]


"โธ่~...คุณเองหรอกเหรอฮะ!...ตกใจแทบแย่~...ตอนนี้กำลังจะทานข้าวฮะแต่ทำไมต้องสั่งอะไรเยอะแยะแบบนี้ด้วยผมละไม่เข้าใจคุณจริงๆ"


ร่างโปร่งบางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนปลายสายหัวเราะออกมาเบาๆ ร่างกายที่กำลังจะนั่งลงยืดตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง สองขาหมุนเตรียมจะปลีกตัวไปคุยที่อื่นแต่ดวงตากลับพร่าเลือนไปจนต้องใช้มือข้างที่ว่างจับพนักเก้าอี้เอาไว้


[ชั้นไม่รู้ว่านายชอบกินอะไรก็เลยสั่งไอ้ที่คิดว่านายน่าจะชอบไปสองสามอย่าง]


"ปลุกผมก็ได้นี่ฮะ...หรือไม่ก็ให้ผมสั่งเองดีกว่า...สิ้นเปลืองซะเปล่าๆ...ยังไงก็กินทั้งหมดนี่ไม่ไหวหรอก"


[ก็เห็นว่าไม่สบาย...แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง?]


"ยังรู้สึกโหวงๆอยู่ฮะแต่คิดว่ากินยาแล้วคงจะดีขึ้นคุณไม่ต้องห่วงหรอกเห็นแบบนี้ก็เถอะแต่ผมแข็งแรงนะจะบอกอึ่ก!..."   ยังพูดไม่ทันจบร่างกายก็เซถลาไปยังดีที่มือของผู้จัดการโรงแรมยื่นมาคว้าไหล่บางเอาไว้ก่อนจะช่วยพยุงให้นั่งลงอีกที


[เป็นอะไรไป!?]


"เปล่าฮะ...แค่สะดุดขาตัวเองนิดหน่อย"


[งั้น...ขอสายผู้จัดการโรงแรมที]


มือบางยื่นมือถือคืนให้กับผู้จัดการโรงแรมก่อนจะหันไปสนใจอาหารบนโต๊ะต่อ ชายวัยกลางคนเดินเลี่ยงไปทางมินิบาร์ทำทีเหมือนจะชงเครื่องตามที่ปลายสายบอกและทันทีที่ใบหน้ามนหันหลังให้...


"ดูเหมือนจะหน้ามืดไปครับ"


"ครับ...ได้ครับ...ด้วยความยินดีครับ"


มือถือถูกเก็บเอาไว้ในช่องลับที่หน้าอกก่อนจะชงชาร้อนๆให้ร่างโปร่งบางแทน แต่ดูเหมือนคนที่มีอาการไข้จะกินอะไรไม่ลงเอาซะเลยแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกพะอืดพะอมจึงฝืนกินไปไม่กี่คำ ร่างโปร่งบางเดินเซๆไปทิ้งตัวแหมะบนโซฟาถึงแม้ว่าจะเดินอีกแค่ไม่กี่ก้าวก็ถึงห้องนอน


"มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ?"


"อ่า~...งั้นรบกวนเดินไปหยิบยากับขวดน้ำที่ข้างเตียงให้ทีนะฮะ"


ไม่นานแผงยาพร้อมกับขวดน้ำก็ถูกวางให้บนโต๊ะเตี้ยตรงหน้ายาแก้ปวดสองเม็ดถูกอกะออกมาก่อนจะงับเข้าปากไปพร้อมกับน้ำอีดหลายอึกแล้วทิ้งตัวลงนอนไปบนโซฟาทั้งอย่างนั้น


ดวงตาค่อยๆปิดลงช้าๆเมื่อรู้สึกเหมือนโลกกำลังหมุนรอบตัวเองแบบ360องศาถึงจะรับรู้ได้ว่าผู้จัดการโรงแรมยังยืนอยู่ตรงนั้นแต่ ถึงจะได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังเปิดประตูเข้ามาแต่ก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมามอง ถึงจะได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ใกล้แต่ก็จับใจความไม่ได้ว่ากำลังคุยอะไรกัน...เกิดอะไรขึ้นกับเขากันนะ?...


รับรู้ได้ว่าแขนเสื้อถูกพับขึ้นไปเรื่อยมืออุ่นๆของใครบางคนจับที่ข้อมือซอกคอและอะไรบางอย่างเย็นๆแนบลงมาที่หน้าอก?...อย่างกับกำลังถูกตรวจร่างกายอยู่เลย?...หมอเหรอ?...


สัมผัสเย็นเฉียบของอะไรบางอย่างที่ต้นแขนและตามมาด้วยความรู้สึกเจ็บแปล๊บให้ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกจับฉีดยาทำให้อยากจะวิ่งหนีไปไกลๆแต่แค่ขยับตัวก็รู้สึกราวกับกำลังจมลงไปในปรักโคลนยังไงยังงั้น...เพราะฉะนั้นถึงจะถูกจิ้มลงไปถึงสองครั้งสองคราใบหน้ามนก็ทำได้เพียงแค่หลับตาแน่นเท่านั้น...แต่หลังจากอาการเจ็บๆคันๆนั้นหายไปโลกที่เคยหมุนเร็วจนวิ่งตามไปทันก็ค่อยๆช้าลงอย่างน่าประหลาด


ผ้านวมผืนใหญ่ถูกคลุมไปบนร่างที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟา จะให้อุ้มไปนอนที่เตียงมันก็กระไรก็เล่นแต่งตัวซะแบบนั้นทั้งเขาทั้งหมอที่เรียกมาดูอาการต่างก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วตกลงกันว่ารอให้เจ้าของห้องกับมาทำเองจะดีกว่า ใบหน้าก้มลงไปมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองเป็นจังหวะเดียวกันกับประตูห้องที่ถูกเปิดออก เขาก้มโค้งให้อีกฝ่ายก่อนจะหลบไปอีกทาง


"เป็นยังไงบ้าง?"


"มีไข้นิดๆครับ...แต่ร่างกายอ่อนล้าสะสมถ้าไม่โหมทำงานเกินไปก็คงทำอะไรอย่างอื่นจนไม่ยอมหลับยอมนอนถ้าได้พักผ่อนเพียงพอพรุ่งนี้ก็ดีขึ้นแล้วล่ะครับ...ขนาดฉีดยาไปสองเข็มยังไม่รู้สึกตัวเลยครับ"


ริมฝีปากได้รู้หยักยิ้มบางๆก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่มีร่างโปร่งบางนอนอยู่..ปลายนิ้วไล่เกลี่ยเส้นผมที่ระตามแก้มใสๆออกอย่างเบามือ


"ทำไมถึงไม่พาไปนอนที่เตียง?"


"เอ่อ...ผมกับคุณหมอตกลงกันว่ารอให้คุณกลับมาดีกว่าครับมิสเตอร์"


มือหนาเลิกผ้านวมขึ้นน้อยแล้วภาพที่เห็นก็ทำเอาถึงกับหลุดยิ้มออกมา...เพราะต้นขาที่โผล่พ้นชายเสื้ออยู่รำไรนี่เองสินะถึงไม่มีใครกล้าแตะ...ช่างเลือกชุดได้เหมาะกับตัวเองซะจริง...


"หึ..งั้นก็ขอบใจที่ช่วยดูแลเค้าให้เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการต่อเอง"


"ผมขอพูดอะไรหน่อยได้มั้ยครับ?"


"เอาสิ"


"ผม...เคยเห็นเด็กคนนี้มาสองสามครั้ง...เพราะงั้นเรื่องที่ว่าไปทำอย่างอื่นจนอดหลับอดนอนไม่น่าจะใช่นะครับ"


"ผมรู้...ว่าเค้าคงทำงานหนักจนเกินไป"


"งั้น...ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้ได้ทุกเมื่อเลยนะครับ"


เขาปล่อยให้ร่างโปร่งบางนอนอยู่บนโซฟาต่อไปเพราะถึงแม้มันจะดูแคบไปสำหรับผู้ชายตัวบึกบึนอย่างเขาแต่สำหรับเด็กนั่นยังมีพื้นที่มากพอให้ขยับตัว มากเกินไปซะด้วยซ้ำ ร่างสันทัดลุกขึ้นไปหยิบแฟ้มงานที่หอบติดมือมาด้วยกับโน้ตบุ้คมาวางที่โต๊ะเตี้ยฝั่งตรงข้ามแต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อเสียงเรียกเข้าจากมือถือในห้องนอนก็ดังขึ้นซะก่อน...มันไม่ใช่ของเขาเพราะมือถือเขายังอยู่ในกระเป๋ากางเกงแถมริงโทนก็ไม่ใช่นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองใบหน้าที่หลับพริ้มน้อยๆก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ...เด็กนี่คงไม่รู้สึกตัวแน่ๆ 


มือเปิดหน้าจอโน้ตบุ้คขึ้นกะจะปล่อยให้อีกฝ่ายวางสายไปเอง อาจจะเป็นลูกค้าของเด็กนี่อีกอย่างเขาไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายแต่ทว่าต่อให้ดับไปครั้งหนึ่งมันก็ยังดังขึ้นอีกอยู่ดี?


ขาแข็งแรงตัดสินใจเดินเข้าไปหยิบมือถือจากกระเป๋าเป้ของร่างโปร่งบางออกมาหลังจากครั้งที่สามที่มันตัดสายไป ถ้าขืนไม่ทำอะไรมันคงไม่ยอมหยุดลงง่ายๆแน่ มือหนารูดซิปตามช่องที่คาดว่าอีกฝ่ายจะเก็บมือถือเอาไว้แต่สิ่งที่เปิดไปเจอเข้าก็ทำเอาเขาถึงกับผงะไป!..ถุงยางอนามัยหลายไซส์หลายยี่ห้อเรียงกันเป็นตับๆอยู่ในนั้นทำเอาเขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก ก็รู้แหละว่าทำงานแบบนี้ รู้ว่ารู้จักป้องกันมันเป็นเรื่องดีแต่มันจำเป็นต้องพกติดตัวมากขนาดนี้เลยรึไง?...


มือทำท่าจะวางกระเป๋าเป้ลงแต่เสียงเรียกเข้าเจ้ากรรมก็ทำให้ต้องควานหามือถือของร่างโปร่งบางอีกครั้ง


"อาร์มิน?"


ถึงจะรู้สึกสงสัยว่าเด็กนั่นเมมชื่อลูกค้าห้วนๆแบบนี้เลยรึไง? แต่เขาก็ยอมกดรับสายแต่โดยดีแล้วเสียงสดใสที่กรอกมาตามสายก็ทำให้เขารู้ว่าอีกคนเป็นแค่เพื่อนไม่ใช่ลูกค้า...





"อื้อ..."   ร่างโปร่งบางขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเปิดเปลือกตาที่ยังหนักอึ้งขึ้นมาแต่แสงไฟที่สว่างจ้าทำให้ต้องรีบปิดลงอย่างช่วยไม่ได้ สองแขนผอมบางยันตัวเองลุกขึ้นนั่งทั้งๆที่ดวงตายังปรือเปิดขึ้นได้ไม่เต็มตาเท่าไหร่ กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังถูกมองจากฝั่งตรงข้ามก็อีกหลายวินาทีต่อมาใบหน้ามนจึงได้แต่ชะงักค้างอยู่แบบนั้น มือบางยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองให้สว่างขึ้นนึกว่าตัวเองตาฝาดไปแต่คนที่ยังนั่งไขว่ห้างกอดอกมองตรงมาที่ตัวเองกลับหัวเราะออกมาเบาๆ


"ทำอย่างกับเห็นผี"


"วะ...หวัดดีฮะผมไม่คิดว่าคุณจะกลับมาเวลานี้นี่นา...ว่าแต่ทำไมผมถึงรู้สึกมึนๆยังกับถูกรถบรรทุกยาสลบชนแบบนี้นะ?...ฮ้าว~"


มือบางยกขึ้นป้องปากฮาวหวอดๆพรางบิดตัวไล่ความเมื่อยล้าโดยไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังถูกสายตาคมกริบมองไล่ต่ำลงไปอย่างสื่อความหมาย


"ชุดสวยดีนี่"


น้ำเสียงทุ้มพูดออกมาใบหน้ามนหันกลับมามองแล้วริมฝีปากอิ่มก็ยิ้มออกมาน้อยๆเมื่อเพิ่งจะรู้ตัวว่ากำลังถูกมองด้วยสายตาแบบใหน เพราะไม่ใช่เด็กใสซื่อไร้เดียงสาอะไรแบบนั้นต่อให้อีกฝ่ายไม่แสดงออกทางสีหน้าก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร...


"คิดว่าคุณชอบตอนผมเปลือยซะอีก?"


"นั่นก็ชอบแต่แบบนี้ก็ไม่เลว"


"ฮะฮะ...คุณมันโรคจิต..แต่ผมต้องกลับแล้วขอค่าตัวเลยได้มั้ยฮะ?"   ดวงตากลมโตเหลือบมองนาฬกาที่มินิบาร์น้อยๆ ถึงจะไม่รู้ตัวว่าเผลอหลับมานานขนาดนี้ได้ยังไงแต่อาการปวดหนึบๆที่ต้นแขนก็ทำให้เดาอะไรได้ไม่ยาก


"เพื่อนของนายที่ชื่ออาร์มินโทรมา"


"ฮะ?"


"ชั้นบอกเค้าไปว่านายจะอยู่ที่นี่ต่ออีกคืน...มีปัญหาอะไรรึเปล่า?"


"เอ๊ะ!?...แต่แบบนั้นมัน!.."


"ชั้นจะจ่ายค่าตัวเพิ่มให้ตามที่นายต้องการ"


คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนเป็นปมให้กับข้อเสนอของอีกคน...แน่นอนว่ามันไม่ได้เลวร้ายอะไรแต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะทำอะไรเกินเลยมากไปกว่านอนเฉยๆเขารู้สึกเหมือนกำลังเอาเปรียบอีกฝ่ายยังไงชอบกล...


"...โอเค...ถ้าคุณใช้ผมทำมากกว่านอนเฉยๆนะฮะ"


"...อยากให้เป็นแบบนั้น?"


"ใช่ฮะ...แล้วก็จ่ายผมมา2,000ปอนด์เดี๋ยวนี้ได้รึเปล่า?"


"ไม่มีปัญหา"   ใบหน้ามนถึงกับอึ้งไปกับคำตอบของอีกฝ่าย ถึงจะรู้ว่ารวยก็เถอะแต่ทำไมถึงได้ทำอะไรไร้ขอบเขตแบบนี้นะ...เขาเกลียดคนที่อวดร่ำอวดรวยแต่อะไรบางอย่างที่สัมผัสได้จากสายตาจริงจังคู่นั้นทำให้ได้แต่ถอนหายใจออกมา...ไม่ว่าเรียกค่าตัวสูงขนาดใหนก็ไม่คิดจะยอมแพ้เลยสินะ...


"เฮ้อ~...คิดบ้างก็ได้นะฮะก่อนจะตอบออกมา"


"ชั้นคิดตั้งแต่ตอนที่นายหลับอยู่แล้วต่างหาก"


ดวงตากลมโตตวัดกลับมามองอีกฝ่ายด้วยสายตางอนๆก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง...ต่อให้เขาคิดมากขนาดใหนก็คงไม่มีทางเข้าใจอีกฝ่ายอยู่วันยังค่ำ


"งั้นผมขอตัวโทรหาเพื่อนแป๊บ"


ร่างโปร่งบางลุกเดินหายเข้าไปในห้องนอนก่อนจะควานหามือถือในกระเป๋าแล้วใบหน้าที่เพิ่งนึกออกว่าอีกคนก็คงจะควานหามือถือของเขาแบบนี้เหมือนกันหรือบางที่ก็อาจจะเปิดดูตามซอกเล็กซอกน้อยแล้วเจอ...


ใบหน้ามนหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่ยังสนใจหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่หน้าตักของตัวเองแล้วก็ให้ยิ้มเฝื่อนออกมา...คงนึกรังเกียจเขาอยู่ล่ะมั้ง?...หรืออาจจะกำลังอยากลองทำอะไรแปลกๆอยู่ก็เป็นได้?...



สองขาเดินไปพิงกระจกใสบานใหญ่ที่สูงจากพื้นถึงเพดานยาวไปตลอดตามความกว้างของห้อง ผ้าม่านสองชั้นที่ด้านในเป็นสีม่วงอ่อนทึบแสงและอีกชั้นเป็นสีเบจลายดอกไม้ถูกมือบางเปิดออกจนสุดผนังอีกด้านทำให้มองเห็นลอนดอนอายที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำเทมได้อย่างชัดเจนตอนกลางวันว่าดูยิ่งใหญ่แล้วแต่พอประดับแสงไฟในตอนกลางคืนยิ่งดูมีมนต์ขลัง...อย่างกับวงล้อแห่งโชคชะตา...


"อาร์มิน"


[เอเลน!...เป็นไงบ้าง?...ใหนว่าไม่สบายไงแล้วทำไม่ถึงหมดแรงขนาดนั้นล่ะห๊ะ!?]


"นี่ใจเย็น!...ฟังกันหน่อยสิเจ้าบ้า!"


[หึ!...ไม่ต้องมาหาข้อแก้ตัวเลยคุณรีไวล์บอกผมหมดแล้วล่ะเอเลน]


"เค้าบอกอะไรนาย?...แล้วทำไมไปเรียกเค้าสนิทสนมแบบนั้นห๊ะ?"


[เรื่องนั้นช่างมันเถอะ!...แต่เล่าให้ฟังบ้างสิเค้าหล่อมั้ย?...รวยรึเปล่า?...แต่เสียงของเค้าเซ็กซี่สุดๆไปเลยฟังแล้วถึงขั้นเคลิ้มไปโลกหน้าได้เลยล่ะเอเลน!]


"ฮะฮะ...เจ้าบ้า!...เบาๆสิ"   ดวงตากลมโตลอบมองคนที่กำลังถูกเม้าส์มอยนิดหนึ่งก่อนจะกระซิบบอกเพื่อนสนิทที่ดูจะพูดมากกว่าในยามปรกติ


[เค้าไม่ได้ยินผมหรอกน่า...ว่าไงล่ะ!?]


"ก็~...งั้นๆ"


[งั้นๆนี่...มันยังไงนั่นน่ะ?]


"เออน่า!...เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันแค่นี้นะ!...แค่จะโทรมาบอกว่าชั้นสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง!"


[เอเลน~~...]   มือรีบกดตัดสายก่อนเสียงโหยหวนของเพื่อนสนิทจะดังไปมากกว่านี้...ก่อนหน้านี้พวกเขาคุยเรื่องแบบนี้กันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปแต่ตอนนี้ทำไมถึงพูดไม่ออก...ใบหน้ารู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด...


ใบหน้ามนสูดหายใจเข้าปอดลึกๆรวบรวมสติตัวเองอีกครั้งก่อนจะออกไปเผชิญหน้ากับคนที่ยังง่วนอยู่กับการทำงาน


ร่างโปร่งบางนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าอีกฝ่ายที่ทำเพียงมองลงมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยถึงแม้ว่าเขาจะยกโน๊ตบุ๊คที่หน้าตักตัวเองไปวางไว้บนโต๊ะ ใบหน้ามนเงยขึ้นไปสบกับสายตาคมกริบคู่นั้นเล็กน้อยก่อนจะแทรกตัวเองเข้าไปในหว่างขาแข็งแกร่ง รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้าคมก่อนจะเอื้อมมือออกไปเชยคางมนขึ้นมา


"ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"


"ผมก็แค่อยากจะทำให้สมกับเงินที่คุณต้องจ่าย...รังเกียจเหรอฮะ?"


"เปล่า...ไม่ใช่แบบนั้น"


"งั้นทำไมอ๊ะ!...จริงสิผมลืม!..."


ร่างโปร่งบางลุกพรวดขึ้นเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองลืมหยิบเอาเครื่องมือป้องกันมาด้วยแต่ข้อมือกลับถูกคว้าเอาไว้จนใบหน้ามนได้แต่หันกลับไปมองอย่างไม่เข้าใจ ทั้งๆที่คิดว่าอีกฝ่ายคงจะรังเกียจเขาถ้าต้องทำทั้งแบบนี้...แต่คงเพราะไม่อยากสัมผัสเขาตั้งแต่แรกมากกว่า...


"งั้นผมขอตัวกลับนะฮะ"


มือบางขืนแรงต้านหวังให้หลุดจากการจับกุมของอีกคนแต่ยิ่งออกแรงมากเท่าไหร่แรงบีบที่ข้อมือกลับมีมากขึ้น ใบหน้ามนขมวดคิ้วจนเป็นปมสะบัดหนีไปอีกทางอย่างนึกหงุดหงิดแต่คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของอีกคนกลับทำให้ริมฝีปากอิ่มถึงกับเหว๋อไปพูดอะไรไม่ออก...


"ชั้นไม่อยากทำเหมือนลูกค้าคนอื่นๆของนาย...ทำอย่างที่นายไม่เคยทำกับใครมาก่อนสิ...เอเลน" 


ถึงจะพูดแบบนั้น!...แต่แบบใหนล่ะที่เขาไม่เคยทำกับใครมาก่อนน่ะ!?....

.
.
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue...


ตอนสามมาแล้นนน~~...


ก่อนอื่นขอพูดถึงชื่อเรื่องก่อนนะคะLolita.ค่ะ  คือจะบอกว่ามันไม่ได้มีความหมายลึกซึ้งอะไรหรอกค่ะแต่แพทชอบชื่อนี้อ่ะมันน่ารักดี555++


แล้วแกจะพูดถึงทำแปะอัลไร!?...

จะใช้ชื่อว่าLoliconก็ดูจะทำร้ายเฮียแกเกิ๊น!...เลยเปลี่อนเป็นLolitaก็แล้วกัน??...อีกอย่างทั้งคู่ก็เขยิบอายุเข้ามาใกล้กันอีกนิดหน่อยโดยวางไว้ค่ะว่ารีไวล์32-33ส่วนน้องก็23-24ประมาณนี้กำลังเหมาะ//สำหรับไรท์55+//

ส่วนเนื้อเรื่องมันจะออกแนวค่อนข้าง...นิดหนึ่งใครที่ไม่ชอบอะไรหวานๆเลี่ยนๆก็ข้ามๆไปนะคะ. คือแพทอยากแต่งแนวที่เข้าใจง่ายๆไม่ซับซ้อนไม่มีปมดูบ้างแบบพระนางเจอกันรักกันไม่มีปมดราม่าอะไรทำนองนี้แหละ...แต่อย่างที่บอกว่าแรงบันดาลใจมาจากGangsta.เพราะชอบเฮียนิกกะน้องนีน่าค่ะแต่แบบอเล็กเป็นคาแร็คเตอร์ที่ชอบอีกคนแต่ไม่ได้จิ้นกับเฮียนิคนะคะจิ้นเป็นน้องกะรีไวล์ไป555+++


ส่วนเฮียนิคกะนู๋นีน่ามันอารมณ์โลลิของแท้เลยไรท์ก็เลยจับมาเปลี่ยนเป็นชื่อซ๊าาา~~~//ความคิดค่อนข้างชั่วร้ายค่ะ//แต่อย่างที่บอกว่าตอนนี้กำลังช้ำใจที่ผู้ชายของไรท์ถูกขโมย...


ปล.เนื้อหามันค่อนข้างจะล่อแหลมนิดหนึ่งคือถ้าตอนใหนถูกแบนจากเด็กดีจะลบทั้งตอนเลยนะคะเพราะไม่อยากเปลี่ยนเนื้อเรื่องหรือเปลี่ยนคำพูดของตัวละครแล้วถ้าถูกแบนมากกว่าสามไรท์จะลบทิ้งหมดเลยดีกว่าเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายเห้อๆ...


เจอกันตอนหน้าค่ะ!.




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น