9 ก.ย. 2558

[KHR] Au.S.Fic.[8059,6927,D18] 9尾の狐 : 01

[KHR] Au.S.Fic.[8059,6927,D18] 9尾の狐 : 01

:Fanfiction [KHR] : Yamamoto x Hayato, Mukuro x Tsunayoshi, Dino x Kyoya


:Romance


:NC-18+





คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ







          ดวงตาที่กำลังหลับพริ้มค่อยๆถูกปลุกให้ปรืเปิดขึ้นมาด้วยริมฝีปากอุ่นที่กำลังกดจูบเบาๆไปทั่วใบหน้าจนคนถูกกระทำได้แต่คลี่ยิ้มทั้งๆที่ยังไม่ตื่นเต็มตาดี สองแขนเล็กยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้หลวมๆปล่อยให้อีกฝ่ายล้วงล้ำร่างกายตัวเองตามแต่ใจปรารถนา ดวงตากลมโตสีน้ำตาลไหม้ปรือขึ้นข้างหนึ่งมองดูหัวสีน้ำเงินเข้มที่กำลังจู่โจมซอกคอของตนด้วยความอ่อนโยนชวนให้เคลิ้มตามและกำลังไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆตามเม็ดกระดุมของเสื้อนอนที่ถูกปลดออก จากที่แค่จุมพิตปลุกในตอนเช้าแล้วไหงถึงได้เลยเถิดไปขนาดนี้ได้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน...


"อ่ะ...เฮ้!"   ใบหน้าน่ารักส่งเสียงปรามออกไปเมื่อกางเกงนอนถูกดึงออกไปจากเรียวขาแต่ใบหน้าหล่อเหลาที่เงยขึ้นมากลับทำเพียงหยักยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้


"ตามใจ"


ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นคนที่กำลังถูกครอบงำจึงได้แต่พ่นลมหายใจออกมาเพราะไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีทางขัดขืนได้อยู่แล้วในเมื่ออีกฝ่ายคือคนรัก...ที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบๆสองปีแล้ว


"ห่ะ..อื้อ...อึด...อัด"


เพราะอีกฝ่ายดึงดันสอดแทรกความเป็นชายของตัวเองเข้ามาทั้งๆที่ไม่มีการเตรียมพร้อมให้กับช่องทางที่ด้านหลังเลยแม้แต่น้อยใบหน้าน่ารักจึงได้ดูทรมานมากขนาดนี้ 


แต่อีกคนกลับหัวเราะออกมาเบาๆ...


พอใจที่เห็นใบหน้าที่เขาหลงใหลมีสีหน้าแบบนั้น มันเป็นสีหน้าที่ทำให้เลือดในกายพุ่งพล่านจนแทบจะทะลักออกมาเลยทีเดียว


"สึนะโยชิ..."   มือเรียวยาวประคองใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้เอาไว้ ปลายลิ้นเปียกแฉะไล้เลียน้ำตาหยดเล็กๆที่ทำท่าจะไหลลงมาออกจากหางตาทั้งสองข้าง กดจูบเบาๆอีกครั้งที่เปลือกตา การกระทำที่เหมือนจะรุนแรงแต่แฝงเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนแบบนี้จะบอกว่าเกลียดก็พูดได้ไม่เต็มปากนักเพราะความรู้สึกที่ได้รับหลังจากนี้มันไม่ได้เลวร้ายอะไร


"อ๊ะ!...อ๊า..."   ถึงในร่างกายจะยังหลงเหลือสิ่งที่ตกค้างมาตั้งแต่เมื่อคืนแต่ความใหญ่โตที่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่ชินสักที่ก็ทำเอาร่างด้านใต้กระตุกเกร็งจำใจต้องอ้าขาออกกว้างเพื่อให้อีกคนสอดใส่เข้ามาได้ง่ายขึ้น ใบหน้าน่ารักเริ่มจะแดงเถือกด้วยความอายรู้ทั้งรู้ว่ากำลังถูกแกล้งแต่กลับเปล่งเสียงด่าว่าไม่ออก


"มุคุ....ฮ่า..."


ร่างสูงโปร่งสอดแขนเข้าไปรั้งแผ่นหลังบางเข้ามากอดเอาไว้แน่นเช่นเดียวกับสองแขนผอมบางที่กำลังขยุ้มแผ่นหลังของเขาอย่างหาที่ระบายยิ่งเขาเร่งจังหวะร่างกายของตัวเองให้เร็วขึ้นมากเท่าไหร่ ปลายเล็บของร่างเล็กก็ยิ่งจิกลงไปบนแผ่นหลังของเขามากขึ้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกคนกำลังทรมานมากแค่ใหนยิ่งเป็นสิ่งปลุกเร้าให้เขาอยากกระทำรุนแรงมากยิ่งขึ้น


"สึนะโยชิ"   น้ำเสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบที่ข้างหูของคนที่กอดเอาไว้แน่นก่อนจะกระแทกแกนกายเข้าไปเป็นครั้งสุดท้ายปลดปล่อยทุกๆความต้องการออกมาอย่างไม่รู้จักพอ ริมฝีปากกดจูบระเรื่อยไปทั่วใบหน้าน่ารักอีกครั้งและอีกครั้ง  ความหอมหวานที่ได้รับกับความสุขสมที่อัดแน่นอยู่ภายในทำให้ไม่อยากปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระแต่คราวนี้เขาจำต้องยอมคลายอ้อมแขนที่กอดรัดซึ่งกันและกันเอาไว้ออกถึงจะรู้สึกเสียดายมากแค่ใหนก็ตาม


เพราะยังมีงานที่ต้องรีบสะสางให้เสร็จ...


มือตลบผ้าห่มคลุมให้คนที่หลับปุ๋ยไปอีกครั้งหลังจากที่เขาทำความสะอาดร่างกายให้เป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงเคาะประตูดังขึ้น


"คุณมุคุโร่!...มีแขกมาขอพบครับ"


ร่างสูงโปร่งติดกระดุมเสื้อเชิ้ตเพียงไม่กี่เม็ดก่อนจะลุกออกไปทั้งอย่างนั้นเพราะไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองอะไรในเมื่อเขาไม่ใช่นักธุรกิจใหญ่ที่ต้องรักษาภาพพจน์และแขกที่ว่านั่นก็มีแต่เพื่อนฝูงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น


ทว่า...


ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ในห้องรับแขกกลับทำให้นัยน์ตาต่างสีถึงกับเบิกกว้างขึ้นมา!


"โอ๊ะโอว!...แย่ล่ะสิ"


"ไง...ท่าทางมีความสุขดีนี่...ไอ้จิ้งจอก!"


คำทักทายที่ทำเอาเจ้าของบ้านถึงกับยิ้มไม่ออก ถ้าเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ยังพอคิดได้ว่าแค่ล้อเล่นแต่กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแล้วไม่ใช่!


"เคน! จิคุสะ!...เตรียมตัวเดินทาง!"


สองขารีบกลับห้องตัวเองโดยไม่มีแม้แต่เวลาฟังคำตอบของลูกน้อง กระเป๋าเดินทางขนาดย่อมถูกดึงลงมายัดเสื้อผ้าใส่ลงไปลวกๆ ใบหน้าเรียวหล่อยังคงประดับรอยยิ้มไม่สมกับความเร่งรีบที่ตัวเองมี ในหัวเริ่มคิดหาหนทางกับคำพูดทิ้งท้ายของแขกไม่ได้รับเชิญคนนั้น


"สึนะโยชิ"  ถึงจะรีบร้อนขนาดใหนแต่เขาก็ใจเย็นพอที่จะไม่ทำให้คนที่กำลังฝันหวานตื่นตระหนกไปด้วย


"สึนะโยชิ"   น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบที่ข้างหูให้ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดขึ้นมาจนได้


"มุ...คุโร่?"   สองแขนยกขึ้นโอบรอบคออีกฝ่ายอย่างเคยชินรับริมฝีปากที่กดจูบลงมาเบาๆแต่ประโยคถัดมาที่อีกฝ่ายพูดกลับทำให้ต้องขมวดคิ้วตาม


"ผมต้องไปแล้ว...เอาไว้ถึงที่โน่นแล้วผมจะโทรหานะครับ"


"เอ๋?...นายบอกว่าอาทิตย์หน้าไม่ใช่รึไงฉันยังไม่เตรียมตัวเลยนะเจ้าบ้า?"


"คึหึหึ...พอดีมีเรื่องนิดหน่อยให้ผมต้องรีบไปจัดการ...แล้วคุณค่อยตามไปตอนเตรียมตัวเสร็จแล้วกันนะครับ"   


"ไม่ได้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นใช่มั้ย?"   ใบหน้าน่ารักมีแววกังวลขึ้นมาทันทีที่ได้ฟังจนอีกฝ่ายได้แต่หัวเราะออกมากลบเกลื่อน


"ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกครับแต่ดูเหมือนพวกยามาโมโตะจะมีปัญหาให้ต้องแก้"


"แน่นะ?"


"ครับ"


"งั้นเดินทางปลอดภัย"


เพราะรู้ว่าต่อให้ซักอะไรออกไปก็ไม่มีวันได้คำตอบที่แท้จริงร่างเล็กจึงยอมปล่อยให้อีกคนไปแต่โดยดี และเพราะรู้ดีอีกนั่นแหละว่าอีกฝ่ายทำอะไรทุกครั้งที่ออกจากบ้านใจเขาถึงไม่เคยสงบได้เลยสักครั้ง


"ไม่เอาน่า...อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ"

"ก็มันอดห่วงไม่ได้นี่นา...แล้วฉันจะรีบตามไป"


"ไม่ครับ...รออยู่ที่นี่อีกสองอาทิตย์เพราะไม่รู้ว่าต้องไปจบที่ใหนแล้วผมจะโทรหา"


".....!"   มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆสินะ...ปรกติมีกำหนดการที่แน่นอนตลอดไม่เคยมีครั้งใหนให้เขาต้องรอนานขนาดนี้สักครั้ง


"งั้นระวังตัวด้วย...อย่าทำอะไรสุ่มเสี่ยงเป็นอันขาด"


"แน่นอน...ผมจะไม่ทำอะไรแบบนั้นผมสัญญา"


สุดท้ายก็ต้องออกมาส่งอีกคนที่หน้าบ้าน ร่างเล็กเอนตัวพิงกรอบประตูหน้าบ้านเอาไว้ก่อนจะโบกมือให้กับคนที่หันกลับมายิ้มให้แล้วไม่นานเก๋งสีดำก็พุ่งตัวออกไปราวกับพายุ...รีบขนาดนั้นต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่มากแน่ๆ






     มือบางค่อยๆเปิดแคตตาล็อกสีสำหรับทาบ้านด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด มือข้างหนึ่งหยิบขวดสีขนาดเล็กยื่นให้คนที่กำลังคนกระป๋องสีด้วยใบหน้าที่ขมวดคิ้วไม่ต่างกันพรางก้มลงมองสีที่กำลังผสมอยู่ในมือด้วยความประหลาดใจไปพรางเพราะสีที่กำลังคนผสมอยู่นั้นมันเริ่มจะดำคล้ำเข้าไปทุกที


"เอ่อ...คุณครับ!"


"หื๋อ?"   เจ้าของร่างบอบบางเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างสงสัยและทันทีที่เขาตะแคงกระป๋องสีให้ดู...


"เอ๊ะ!...นั่นมันสีอะไรน่ะ!?"


ช่างทาสีที่ยืนคนกระป๋องอยู่ทำเพียงแค่เหล่สายตาลงไปมองอีกห้าหกกระป๋องที่ผสมเรียบร้อยแล้วแต่แทบจะเรียกว่าสีไม่ได้ก่อนจะเหล่กลับไปมองเจ้าของร่างบางในชุดเรียบๆอย่างเชิ้ตสีขาวเข้ารูปกับยีนส์ทรงเดฟสีเข้มแต่คงจะเป็นเพราะกำลังยืนอยู่กลางห้องเรียบโล่งสีขาวนี่หรือไงนะร่างบางตรงหน้าถึงได้ราวกับกำลังจะหายไป ทั้งใบหน้าทั้งเรือนผมดูกลืนไปกับสีห้องไปซะหมด


แต่ดูจากอายุอานามแล้วไม่น่าจะมีเงินสร้างบ้านหลังใหญ่บนเนื้อที่หลายตารางวาในเมืองที่ราคาที่ดินแพงระยับแบบนี้ได้...ใช่บ้านหลังนี้เพิ่งสร้างเสร็จถึงจะไม่ถือว่าใหญ่โตมโหฬารแต่ก็ใช้เม็ดเงินมหาศาลเอาการทีเดียวแถมยังดูกว้างขวางเกินกว่าจะอยู่ที่นี่เพียงลำพัง...นั่นก็เพราะตั้งแต่เขามาทำงานที่นี่ก็จะมีเพียงร่างบางผมเงินคนนี้เท่านั้นที่เข้ามาสั่งการทุกอย่างด้วยตัวเอง


"นี่!...ถามหน่อยสิคุณทำงานอะไรเหรอ?"   ปากยอมถามออกไปเมื่อเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ไหวแต่คำตอบที่ออกมาจากปากอิ่มสีแดงสดนั่นกลับยิ่งทำให้สงสัยหนักเข้าไปอีก


"ชั้นเหรอ...ไม่ได้ทำงานอะไรแค่อยู่บ้านเฉยๆน่ะ"


"ห๋า!?...งั้นบ้านหลังนี้ก็เงินพ่อแม่?"


"เปล่าๆ...บ้านหลังนี้เป็นของขวัญครบรอบหนึ่งปีที่กลับมาคบกันต่างหาก"


ยิ่งพูดด้วยมันก็ยิ่งทำให้สงสัยหนักขึ้นไปอีก...ผู้หญิงประเภทใหนกันยอมควักกระเป๋าหลายร้อยล้านเยนสร้างบ้านให้ขนาดนี้เนี้ย!?


"แฟนคุณคงรวยมากๆ?"


"หมอนั่นน่ะเหรอ...ไม่รู้สิคงจะรวยล่ะมั้ง?"


"หมอนั่น?"  ที่แท้เป็นเด็กเลี้ยงของอาเสี่ยหรอกเร๊อะ?...แถมเป็นผู้ชายอีกต่างหาก!?


"มีอะไร?"


"โอ๊ะ!...เปล่าครับ!"


มือหยิบกระป๋องใบใหม่มาผสมสีที่ร่างบางเลือกมาไว้ตรงหน้าอีกครั้งทั้งๆที่สายตายังมองอีกฝ่ายอย่างทึ่งๆ...เด็กสมัยนี้มักจะทำให้เขาตกใจได้เสมอๆอย่างคนตรงหน้า ครั้งแรกที่เจอกันเขายังคิดเลยว่าเป็นผู้หญิงกว่าจะรู้ว่าเป็นผู้ชายก็อีกหนึ่งอาทิตย์ต่อมา แถมตอนนี้ยังมารู้ถึงรสนิยมทางเพศอีก นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วนะ?...ญี่ปุ่นยังไม่มีกฏหมายคุ้มครองเพศที่สามก็จริงแต่เขาก็พอรู้ว่าสังคมมันเริ่มจะเปิดกว้างขึ้นทุกวัน เขาคิดมาตลอดว่ากลุ่มคนที่มีรสนิบมเฉพาะจะเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ให้คนอื่นรู้ซะอีก?


"คุณเป็นเกย์?"   ปากถามออกไปอีกครั้งให้ดวงตาคู่สวยสีเขียวมรกตคู่นั้นเงยขึ้นมามองแต่เจ้าตัวก็ตอบออกมาอย่างไม่ใส่ใจนัก


"เปล่า...ก็แค่คนที่ชอบเป็นหมอนั่น"


"เขาอายุมากกว่าคุณ?"


"อื้อ...อายุมากกว่าสักสี่ห้าปีนี่ล่ะมั้ง"


"คุณอายุเท่าไหร่?"   ทำไมยิ่งถามมันถึงยิ่งมีแต่เรื่องในสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้นะ?


"ชั้นอายุ23"


"งั้นคนรักคุณก็28น่ะสิ?"


"28 ย่าง 29 ใช่"


"เค้าทำงานอะไร?"


"หมอนั่นเหรอ?...อืม~...คงนักมายากล"


"นักมายากล?"


"อื้อ!"   เขายังคิดหน้าตานักมายากลที่อายุราวๆนี้ในญี่ปุ่นไม่ออก เพราะที่ดังเปรี้ยงปร้างและน่าจะทำเงินมหาศาลขนาดนี้มีแต่อายุย่างห้าสิบกันทั้งนั้น?


หรือว่าร่างบางตรงหน้าโกหกเรื่องอายุ?...อาจจะเป็นไปได้ว่าเจ้าตัวคงเป็นแค่อิหนูแบบลับๆหรือเปล่านะ?...แต่ใช้เงินเลี้ยงดูมหาศาลขนาดนี้คนเป็นหลวงไม่ระแคะระคายเลยรึไง?...ดูท่าว่าค่าเลี้ยงดูในแต่ละเดือนคงไม่ใช่เล่นๆเหมือนกัน?


"อ๊ะ!...ไม่นะสีแบบนั้น!"   ร่างบางรีบคว้ากระป๋องสีไปดูถึงจะไม่ต่างจากที่ผ่านมานักแต่เขาชักจะแน่ใจแล้วล่ะว่าคนสวยตรงหน้าคงไม่ถนัดเรื่องผสมสีเอาซะเลย


"เอ่อ...คือว่านะครับให้ผมแนะนำอะไรหน่อยดีมั้ย?"


"ได้สิ!...ว่าไง?"


"คือผมว่า..."


RRRR RRR~~~


เขายังไม่ทันจะแนะนำอะไรออกไปมือถือที่วางอยู่ข้างๆร่างบางก็สั่นขึ้นมาซะก่อนใบหน้าสวยดูงอง้ำขึ้นมาทันทีที่เห็นว่าใครเป็นคนโทรมา แต่เพราะท่าทางแบบนั้นคนที่มองดูอยู่ตลอดเวลาอย่างเขาจึงได้หลุดยิ้มออกมา...เพราะน่ารักน่ามองแม้แต่เวลาโกรธอย่างนี้สินะ...คนๆนั้นถึงได้ทุ่มเทด้วยขนาดนี้...


"ขอตัวแป๊บนึงนะ!"


"ตามสบายครับ"  เขาผายมือให้และเจ้าตัวก็หันมายิ้มแห้งๆให้กับเขาแต่ไม่ได้เดินออกไปไกลอะไรแค่หันหลังให้เขาเท่านั้น...ไม่กลัวเขาจะได้ยินรึไงนะ?


"แก!...ไอ้บ้าหายหัวไปใหนของแกห๊ะ!?...จะไม่ทาสีใช่มั้ยบ้านเนี้ย!?"   อ่า~...แบบนี้คงไม่กลัวเขาแอบฟังแล้วล่ะเพราะได้ยินชัดทุกคำเลย...แม้กระทั่งเสียงหัวเราะจากปลายสาย...


[ฮะฮะ...ใจเย็นน่าที่รักชั้นกำลังรีบไป...เลือกสีไม่ได้ใช่มั้ย?]


"ก็เออเซ่!...ก็มัน..."   ขนาดไม่เห็นตัวคนพูดแต่แก้มใสๆนั่นก็ยังซับสีระเรื่อน่ามองกำลังเขินอย่างนั้นสินะ?...


[งั้นขอคุยกับช่างทีสิ]


"อือ..."   แล้วมือถือยี่ห้อผลไม้ก็ยื่นมาตรงหน้าให้เขาได้แต่รับมาแนบหูอย่างงๆ


"อ่า....ครับ!"


[คุณช่างใช่มั้ยครับ?]


"ครับ"


[งั้นรบกวนช่วยผสมสีมาให้เลือกใหม่อีกทีนะครับใช้โทนสีฟ้ากับแดงเป็นหลักไม่เอาหวานแหว๋วนะครับเอาให้ออกโทนสีอบอุ่นเพราะเค้าไม่ชอบอะไรหวานๆ...ถึงจะดูเข้ากับเค้ามากที่สุดก็เถอะ]  คงจะหมายถึงคนที่นั่งหน้างออยู่ตรงหน้าเขานี่ล่ะสิ


"ได้ครับ...งั้นพรุ่งนี้ผมจะเอาตัวอย่างมาให้ดูอีกทีละกัน"


[รบกวนด้วยน้า...งั้นขอสายฮายาโตะทีครับ]   เขายื่นมือถือคืนให้กับร่างบางก่อนจะเก็บกวาดข้าวของบนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันต่อเพียงลำพัง พอได้คุยกับอีกคนแล้วดูเหมือนงานของเขาจะง่ายขึ้นอีกเป็นกอง จากน้ำเสียงแล้วดูจะเป็นคนอารมณ์ดีไม่น้อยและที่สำคัญน้ำเสียงแบบนั้นคงจะยังหนุ่มยังแน่นอยู่จริงๆนั่นแหละ


ใครกันนะ?



"นายมัวแต่ไปหาที่ปล้นทั้งๆที่วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีของเรา!...ช่างเป็นวิธีกลับตัวที่น่ายกย่องซะจริง!!"   น้ำเสียงสดใสขึ้นเสียงสูงอย่างเหลืออดหลังจากช่างสีออกจากห้องไปแล้ว


[ไม่เอาน่าที่รัก...มาหาของขวัญต่างหากสาบานได้]


"ชั้นไม่อยากได้!...แค่นี้ก็พอแล้ว...แค่บ้านหลังนี้..."


[งั้นดินเนอร์ที่ร้านโปรดของนายตกลงมั้ย?]


"ไม่!.."


[ไม่เหรอ?...หรืออยากไปที่อื่น?]


"ที่บ้าน...ชั้นอยากกินข้าวที่บ้าน"


[ตามนั้น...งั้นอีกสิบนาทีชั้นไปรับ]   แค่ได้ยินเสียงก็ดูเหมือนอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านจะเย็นลงได้อย่างน่าประหลาด ดวงตากลมโตทอดมองออกไปที่สวนหน้าบ้าน คนงานสองสามคนกำลังปลูกต้นไม้อยู่ในนั้น...ทุกอย่างคือสิ่งที่เขาชอบทั้งหมดบางครั้งก็นึกหงุดหงิดที่มีแต่ของที่เขาชอบแต่เหตุผลของหมอนี่มันก็มักจะทลายความหงุดหงิดพวกนั้นได้เสมอ


"อื้อ...รีบมาล่ะ...อย่าให้ชั้นต้องหนีกลับอิตาลีอีกเป็นครั้งที่สอง!"


[ฮะฮะฮะ...อย่าทำแบบนั้นที่รักขอร้อง]


เพราะเคยทำมาแล้วและไม่ยอมพูดหรือแม้แต่รับสายของอีกฝ่ายเป็นปีๆ เขาไม่รู้ว่ายามาโมโตะคุยอะไรกับพ่อของเขาตาแก่นั่นถึงได้ยอมให้เข้าไปหาเขาถึงในห้องนอนเขาได้. แต่คราวนี้ถ้ายามาโมโตะทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขา เขาจะไม่ยอมใจอ่อนแบบนั้นเป็นครั้งที่สองไม่ว่าหมอนั่นจะใช้ลูกไม้แบบใหนอีกก็ตาม...


[ที่รัก?]


"อ๊ะ!...ไม่มีอะ...แย่แล้วยามาโมโตะ!"   เพราะมัวแต่คิดอะไรไปไกลจนไม่ทันได้เห็นว่าหน้าบ้านมีรถของใครบางคนเข้ามาจอดอยู่ตรงนั้นรู้ตัวอีกทีร่างสูงใหญ่เรือนผมสีดำก็ก้าวขาลงมายืนอยู่ตรงนั้นซะแล้ว


[ฮายาโตะ!...เกิดอะไรขึ้น!?]


"แซนซัส!"


[กดวางสายแล้วลบเบอร์ทิ้งซะ!!]


มือรีบทำตามที่ปลายสายบอกแทบจะทันทีก่อนจะตีสีหน้านิ่งหันไปมองแขกที่ไม่ได้รับเชิญด้วยสายตาเหยียดๆ เพราะผู้ชายคนนี้คือสาเหตุที่ทำให้เขากับยามาโมโตะต้องเลิกกันเมื่อสองปีที่แล้ว!


เปล่า!...ไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนี้เป็นมือที่สามหรืออะไรทำนองนั้นแต่เพราะ!...


"บ้านสวยดีนี่...สมกับเป็นนายดี"   แขกที่ไม่ได้รับเชิญถือวิสาสะเดินเข้ามาหาเขาโดยไม่จำเป็นต้องพังประตูหาเหมือนในหนังอาชญากรรมทั่วๆไป...นั่นก็เพราะทั้งประตูทั้งหน้าต่างของบ้านเป็นเพียงแค่กระจกใสๆที่ยังไม่ติดฟิล์มและผ้าม่าน เพราะงั้นเขาที่ยืนอยู่ในห้องโถงกว้างๆนี่ก็เปรียบเสมือนเป้านิ่งที่เห็นได้จากระยะไกล


"....."   ใบหน้าสวยมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียบๆโดยไม่คิดจะทักทายอีกฝ่าย


"ไปใหนซะล่ะ...ไอ้หมอนั่น!...ยามาโมโตะ ทาเคชิน่ะ!"


"ต้องการอะไร?"


"ถามโง่ๆ...ก็ต้องการเงินของชั้นคืนน่ะสิ!...เงินที่ยามาโมโตะร่วมมือกันกับเพื่อนอีกห้าคนขโมยไปเมื่อสามปีก่อน!...บวกดอกเบี้ยแล้วเป็นเงินจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว!"


"แต่ประกันจ่ายเงินนายไปแล้วนิ!"


"ชั้นต้องการเงินของชั้น!..พวกมันต้องรู้ว่านรกของจริงมันเป็นยังไง!"


"....."  ทั้งห้าคน?...นับรวมแม้กระทั่งคนของตัวเองอย่างนั้นเหรอ?


ใจดำสมกับเป็นแซนซัส!....


"ฝากทักทายหมอนั่นด้วยล่ะ...บอกว่ามันมีเวลาสองอาทิตย์พ้นจากวันศุกร์นี้ไปไม่งั้นเตรียมตัวไปนอนในคุกได้เลย...แต่นายคงรู้นะว่ามันจะไม่ได้นอนสบายๆจนถึงวันพ้นโทษ!...ฮายาโตะ"   คำสั่งเสียครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะหันหลังกลับไปแต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูห้องใบหน้าสวยก็สะบัดกลับไปมองและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำ


"นายไม่มีวันตามหาพวกนั้นเจอหรอก!...พวกเค้าฉลาดกว่านายเยอะ"


"ใช่...แต่บอกไว้ก่อนนะว่าไม่ใช่แค่ชั้นหรอกที่กำลังตามหาไอ้พวกจิ้งจอกนั่น!"


ปังง!!


มือได้แต่กำมือถือเอาไว้แน่นต่อให้โทรไปตอนนี้หมอนั่นก็คงปิดมือถือไปแล้ว ทางเดียวคือรอให้อีกฝ่ายเป็นคนติดต่อกลับมาและคงไม่ใช่ซอกหลืบใหนในญี่ปุ่นแต่เป็นจากอีกซีกโลก...จากต่างประเทศ!...






แฟ้มเอกสารหลายเล่มถูกส่งต่อให้กับเลขาส่วนตัวที่มีหน้าที่เหมือนเป็นพี่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กก่อนจะเปิดอ่านกองเอกสารที่เพิ่งมาใหม่อย่างละเอียดอีกครั้งแต่คงเป็นเพราะเลขาส่วนตัวยังยืนอยู่ที่เดิมทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นไปมอง


"มีอะไร?"


"เจ้าเด็กชุดวัวที่คุณสึนะเอามาฝากไว้น่ะครับ"


"แรมโบ้...ทำไมเหรอ?"


"สั่งอาหารขึ้นไปเป็นว่าเล่นแถมยังเอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปใหนอีก"


"ทำบิลเรียกเก็บไปที่มุคุโร่ได้เลยถ้าห่วงเรื่องนั้น"


"ไม่ใช่ครับ...เพราะเริ่มมีกลิ่นแปลกๆลอยออกมาต่างหาก...เรื่องเงินคุณมุคุโร่ไม่ได้ว่าอะไรครับแต่กลิ่นนี่มัน..."


"อ่า~...เข้าใจแล้วเดี๋ยวชั้นจัดการเอง"   เพราะกิจการโรงแรมต้องเน้นเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญทำให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่รูปลักษณ์อย่างชาวตะวันตกทุกกระเบียดนิ้วยอมปิดแฟ้มเอกสารลงแต่โดยดี ใบหน้าหล่อเหลารับกับกรอบผมสีทองถึงกับยิ้มแหยๆออกมาเมื่อคิดถึงเจ้าเด็กที่ต้องไปสู้รบปรบมือด้วย


นี่ถ้าไม่ใช่คนของสึนะล่ะก็เขาคงจับไปโยนทิ้งข้างถนนแล้ว!...


"แรมโบ้!...เปิดประตู!"


มือทุบประตูแรงๆโดยไม่จำเป็นต้องเกรงใจเหมือนแขกคนอื่นๆและมีเพียงเขาเท่านั้นที่กล้าทำ


แอ๊ดด~


"อุก!..."   บานประตูเปิดออกพร้อมๆกับกลิ่นปริศนาลอยมาปะทะหน้าอย่างจังร่างสูงใหญ่ยกขึ้นมาปิดจมูกของตัวเองเอาไว้ก่อนจะกวาดสายตามองภาพอันน่าเวทนาของห้อง หัวสีดำๆฟูๆผลุบๆโผล่ๆอยู่แถวๆประตูห้องน้ำทำให้ใบหน้าหล่อเหลาได้แต่ส่ายไปมาอย่างเอือมระอา


"ให้ตายสิ!...ต่อให้ไม่อยากออกไปข้างนอกยังไงก็ไม่เห็นต้องพังห้องกันเลยนี่แรมโบ้!"


"รีบจัดการเร็วเข้า!...จับเจ้าตัวแสบไปซักฟอกใหม่ซะด้วยชั้นอนุญาต!!"


เพราะเจ้าเด็กวัวนั่นเป็นแขกวีไอพีแถมยังมีเอกสิทธิ์อีกนิดหน่อยพวกพนักงานเลยไม่กล้าทำอะไรแต่ถ้าเขาอนุญาตก็ว่าไปอย่าง


"สึนะนะสึนะ...เมื่อไหร่จะมารับตัวกลับไปสักที?"


"คุณแรมโบ้ไม่กลับ!!...คุณแรมโร้เกลียดไอ้หัวสับปะรดนั่น!!...เกลียดมันที่สุด!!"


"เฮ้อ~~...เข้าใจมุคุโร่ขึ้นมาทันทีเลยแหะว่าแต่ม่าม๊าของสึนะจะกลับเมื่อไหร่นะจะได้จับยัดกระเป๋ากลับญี่ปุ่นไปให้สิ้นเรื่อง?"


"อาทิตย์ครับแต่บอสครับ...ยังมีเรื่องด่วนกว่านั้น"


"หื๋อ?"   ใบหน้าหล่อเหลามองมือถือที่เลขาส่วนตัวยื่นให้อยู่หลายวินาทีกว่าจะตัดสินใจคว้ามาแนบหู


"ดีโน่พูดครับ"


[ไง...ธุรกิจโรงแรมเป็นไงบ้างล่ะได้ข่าวว่าไปได้สวยนี่ใช่มั้ย?]


ทว่าเสียงที่กรอกมาตามสายก็ทำเอาถึงกับชะงักไปอีกหลายวินาที


"ฝากที่เหลือด้วย!"


มือปิดมือถือเอาไว้แล้วหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทที่รับหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวก่อนจะหมุนตัวก้าวยาวๆไปทางบันไดหนีไฟ


"อ้าวไง~...เป็นนายเองหรอกเหรอเนี้ย...ฮะฮะ"


[ครั้งสุดท้ายที่เราคุยกันนายวางหูใส่ชั้น!]


"อ่า~...ก็นายพูดไม่เข้าหูนิดหน่อยเลยของขึ้นน่ะสิ"


[แกยังไม่บอกชั้นดีโน่...ว่าแกกับไอ้ฉลามสวะนั่นมีอะไรกัน]


"เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่น่าแซนซัส...คำตอบชั้นก็เหมือนเดิม...เราเป็นแค่เพื่อนกันไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น"


[เพื่อน?]


"ใช่...เพื่อนสนิท...อะไรกันโทรมาเพราะเรื่องนี้เองหรอกเหรอเนี้ย"


[แกก็รู้ว่าไม่ใช่...อย่าคิดหนีล่ะดีโน่เพราะทันทีที่แกก้าวขาขึ้นรถหนึ่งในสิบเจ็ดคันที่แกมี]


"ไม่เอาน่า...ชั้นไม่ได้คิดจะหนีสักหน่อย"   พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆตัวเองเพิ่งกึ่งเดินกึ่งมาถึงลานจอดรถพอดีสองขาจึงหยุดอยู่กับที่โดยอัตโนมัติ


[ทันทีที่แกกดรีโมตดีโน่...]   ยิ่งพูดก็เหมือนกับจะยิ่งยุบวกกับอยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือหลอกมือจึงกดรีโมตรถยนตร์ทันทีและ...


ตูมมม!!!!


รถยนต์ราคาหลายล้านลอยกระเด็นขึ้นไปตามแรงอัดและร่วงหล่นลงมาไฟลุกท่วมต่อหน้าต่อตาถึงแม้ว่าสีหน้าของเจ้าของมันจะไม่เปลี่ยนไปจากในยามปรกติสักเท่าไหร่เพราะรู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้วว่าอีกฝ่ายพูดจริง!


[พวกแกมีเวลาสองอาทิตย์ดีโน่...หาเงินทั้งหมดบวกดอกเบี้ยสามปีมาคืนชั้นซะ!]


ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแหยๆออกมาเมื่อปลายสายวางไปแล้ว แบบนี้คงไม่ต้องเดาแล้วว่าอีกสองคนที่เหลือคงได้รับการมาเยือนแล้วเช่นกัน แค่คิดเหงื่อก็ชักจะเริ่มตกแล้ว...

.
.
.
.
.
.
.
.
....  Tobecontinue.....

 ขอคุยนิดนึงนะคะ!...แหะๆ...


นี่คือฟิควันเกิดลูกสาวค่ะ!...แต่โปรดอย่าได้ใส่ใจอะไรมากที่มันเป็นคู่6927เดินเรื่อง!กร๊ากกก~~~~...สนองNeeds sss~~~ตัวเองล้วนๆค่ะแวก็เพิ่งตั้งหน้าตั้งตาปั่นมันเมื่อคืนนี่เอง555+....


โปรดมองข้ามความเกรียนของมันไปนะคะเพราะไรท์เพิ่งมีเวลาเป็นของตัวเองก็วันนี้แหละเพราะงั้นเขาที่ยืนอยู่ในห้องโถงกว้างๆนี่ก็เปรียบเสมือนเป้านิ่งทีถ้าภาษามันจะมั่วๆงงๆไปบ้างก็โหรดมองข้ามๆมันไปซะนะคะ//นั่งพับเพียบกราบงามๆ//


ขออภัยสำหรับทุกๆคนที่ติดตามกัลค่ะ!...กล่าวถึงฟิคเก่าๆของขวัญวันเกิดปีที่แล้วกันหน่อย...จริงๆเวอร์8059เนี้ยอีกสองตอนก็จบแล้วล่ะค่ะแต่งตอนจบเอาไว้แล้วด้วยแต่เนื้อหาแฃะสาเหตุมันดันอยู่ที่เวอร์6927ที่ยังไม่ทันลงมือแต่งต่อแบบจริงๆจังๆแถมยังติดของD18 ที่ถึงจะดึงออกไปเป็นอีกสปีชี่หนึ่งก็เถอะ...


เลยเปิดเรื่องใหม่ซ๊าาาา~~~....5555+//ชั่วร้ายมาก!//แค่ชื่อเรื่องก็รู้แล้วใช่มั้ยคะว่ามีสามคู่?


แต่กำลังพยายามปั่นให้จบอยู่ค่ะไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่งแหละเพราะอย่างที่บอกว่าช่วงนี้กำลังเมคมันนี่สู่ขอผู้ชายเข้าบ้านค่ะ!...นิยายกับมังงะที่สั่งมายังไม่มีเวลาแลมันเลยคิดดู! บางเรื่องยังไม่แกะออกจากซองหรือกล่องไปรษณีย์เลยด้วยซ้ำฮะฮะ....


เอ้าแปะให้ดูกันหน่อยเผื่อใครสนใจหาซื้อมาอ่านค่ะ!


ZE ค่ะ 11เล่มใหญ่8เล่มเล็กกับอีก1 Fanbookส่วนเล่มที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือ//หันหน้าเข้าหาจอ//Caste Heaven vol.1ค่ะปกงามมาก!



ใครสนใจไม่อยากเสียตังส์ก็หาอ่านในเวบกันได้นะคะมีแปลไทยด้วย//ที่ไรท์สั่งทั้งหมดก็แปลไทยค่ะ//

ไม่โม้แระ!...บายค่ะแล้วจะรีบกลับมาต่อให้เน้อ!

1 ความคิดเห็น:

  1. แหม่~~
    เปิดเรื่องมาก็กดเลยนะคะอิตาหัวสับปะรดเนี้ย!!
    ว่าแต่เปิดเรื่องใหม่เลยเร๊อะะะ??

    ตอบลบ