28 มี.ค. 2558

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 01

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 01

:Fanfiction Attack on titan

:Drama,Action-Sci-Fi

:PG-15

คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ









          กองไฟขนาดย่อมกำลังลุกไห้มให้ความอบอุ่นท่ามกลางท้องฟ้าในฤดูหนาวเผยให้เห็นร่างเล็กๆของเด็กน้อยวัยสิบขวบที่ทั้งหน้าตาและสีผมเหมือนกันราวกับแกะกำลังยกมือภายใต้ถุงมือไหมพรมสีขาวทั้งสองคู่ขึ้นอังไฟโดยมีสายตาของคนเป็นพ่อที่มองทั้งสองคนด้วยแววตาอ่อนโยนในความเป็นจริงแล้วการที่จะทำแบบนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับครอบครัวเยเกอร์และสำหรับเด็กสองคนนี้...

หนึ่งคือร่างโคลนและอีกหนึ่งคือเลือดเนื้อเชื้อไขแท้ๆของเขาสำหรับเอเลนแล้วอัลฟาเปรียบเสมือนพี่ชายฝาแฝดที่คลานตามกันออกมาถึงแม้ว่านิสัยจะต่างกันสุดขั้วก็ตามทีเอเลนมีนิสัยร่างเริงช่างสงสัยจนกลายเป็นที่รักของเพื่อนๆได้อย่างง่ายดายแต่อัลฟามีนิสัยเย็นชาสุขุมไม่คบค้าสมาคมกับใครตามแบบฉบับของของเลียนแบบและสามารถตอบคำถามของเอเลนได้ทุกเรื่องแต่ในร่างกายเล็กๆนั่นกลับเต็มไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและความสามารถอันไร้ขีดจำกัดเพราะถูกสร้างมาเพื่อพัฒนาให้เป็นนักฆ่าในอนาคตและเป็นความลับของรัฐบาลแต่เป็นที่ต้องการของทั้งหน่วยงานความมั่นคงของหลายๆประเทศและแน่นอนว่ารวมถึงผู้ก่อการร้ายด้วยเพราะเหตุนี้เขาถึงต้องหอบทั้งคู่มาอยู่ในที่ที่ทั้งหนาวเหน็บและกันดารอย่างไซบีเรียที่มีหมู่บ้านอยู่ไม่กี่หลังคาเรือนแค่สามคนพ่อลูกหากจะหมายถึงคนในครอบครัวล่ะก็มีแค่นั้น....

เพราะแม่ของเอเลนหนีไปตั้งแต่ตอนที่เขาพาอัลฟาเข้าบ้านตอนที่เอเลนมีอายุแค่สองขวบเห็นจะได้และนั่นมันเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้...ถ้าให้พูดกันตามตรงล่ะก็เขารักอัลฟามากกว่าเอเลนที่เป็นลูกในไส้ตัวเองแต่ก็ใช่ว่าจะรังเกียจหรือเกลียดชังอะไรเพียงแค่หากให้เลือกคนใดคนหนึ่งแล้วล่ะก็อัลฟาคือตัวเลือกแรกที่เขาคิดถึง...

ถึงแม้ว่าสภาพแวดล้อมของพวกเขาจะเป็นแบบนั้นแต่ภายในบ้านไม้หลังเล็กๆนั่นกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นใต้ผืนดินลึกลงไปหลายเมตรมีห้องวิจัยพร้อมเครื่องมือครบครันขนาดเท่าสนามฟุตบอลซ่อนอยู่และมีนักวิจัยทำงานอยู่ในนั้นกว่าสิบชีวิตมีเพียงอัลฟาเท่านั้นที่ได้ลงไปในนั้นกับเขาหลังจากเอเลนหลับไปแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังฝึกฝนวิชาการป้องกันตัวให้เผื่อว่าวันหนึ่งข้างหน้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเอเลนจะได้เอาตัวรอดได้...

เขาไม่ได้เลี้ยงลูกอย่างตามใจแต่ฝึกวินัยให้เท่าที่หัวของเอเลนรับได้....

"อ๊ะ!...ดาวตก!...ดาวตกล่ะอัล!!"

ใบหน้ากลมๆหันไปหาพี่ชายด้วยท่าทางตื่นเต้นจนคนถูกเรียกเผลอยิ้มตาม

"อือ...เค้าว่ากันว่าถ้าขอพรตอนที่เห็นดาวตกมันจะสมหวังล่ะ"

"จริงเหรออัล!?...เหรอฮะป๊ะป๋า!?"

"มันเป็นความเชื่อของบางคนเท่านั้นแหละเอเลน"

ผู้เป็นพ่อตอบออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนภาพตรงหน้าถึงจะบอกว่าอัลฟาเป็นพวกเย็นชาแต่สายตาที่มองน้องชายของตนนั้นมันดูอบอุ่นและแฝงเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนที่ไม่เคยเห็นที่ใหนมาก่อนเสมอทั้งๆที่เขาคอยย้ำเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าต้องโหดเหี้ยมและไร้ใจซึ่งเจ้าตัวก็รู้ข้อนี้ดียิ่งกว่าใคร เขาไม่ได้ใส่ความรู้สึกพวกนั้นให้กับอัลฟาการมีหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยรักมันเป็นอุปสักในการทำงานทว่า.....

อัลฟากลับรู้จักความรู้สึกเหล่านั้นด้วยตัวเอง....

"แต่มันก็เสียหายไม่ใช่เหรอถ้าเราจะขอพรมั่ง"

ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตราวกับอัญมณีแต่กลับแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาเหลือบขึ้นมองพ่อของตัวเองอย่างไม่คิดจะไว้หน้า...ที่ขัดหรือทำเฉยชาใส่เอเลนต่อให้เป็นพ่อเขาก็จะไม่ไว้หน้า!...

"จริงเหรออัล!...ได้จริงๆใช่มั้ย?"

"อือ...ทำตามพี่สิ"

อัลฟายกมือขึ้นประสานกันที่หน้าอกพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่างให้เอเลนที่กำลังตั้งใจดูตาไม่กระพริบ

"ขออย่างที่เราอยากได้...เอเลนอยากได้อะไรก็อธิฐานในใจอย่าให้ใครได้ยินเชียวนะไม่งั้นไม่สมหวังไม่รู้ด้วยนะ"

"อื้อ!"

ใบหน้ากลมๆพยักรับอย่างหนักแน่นพร้อมกับทำตามอย่างที่พี่ชายทำให้ดูไม่มีผิดเพี้ยน ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดขยับหมุบหมิบจนคนที่ใครต่อใครบอกว่าไร้หัวใจอย่างอัลฟาหลุดยิ้มออกมาเป็นครั้งที่สองพรางส่งสายตาเย็นเยียบไปให้พ่อของตัวเองอีกครั้งซึ่งพ่อของเขาเองก็ไม่คิดจะหลบสายตาของเขาทั้งๆที่เป็นแค่เด็กสิบขวบแต่สายตานั้นมันช่างน่าขนลุกเสียนี่กะไร.....

แต่แล้วสายตาที่กำลังจ้องผู้เป็นพ่อเขม็งก็ต้องเบิกกว้างเมื่อประกายสีเงินบางอย่างพุ่งตรงเข้ามา!

"เอเลน!!..."

อัลฟากระโจนเข้าหาน้องชายจนทั้งคู่กลิ้งขลุกๆไปตามพื้นสีขาวโพลนท่ามกลางความตระหนกของร่างในอ้อมแขน!

ปังๆๆๆ!!!!

เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณทั้งจากพ่อของพวกเขาและผู้บุกรุกยามวิกาลยิงตอบโต้กัน

"อัลฟาพาน้องหนีไป!"

ไม่รอช้ามืออัลฟารีบพยุงน้องที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความกลัวให้ลุกขึ้นก่อนจะออกแรงลากให้วิ่งตามไปเชิงเขาข้างหน้าคือจุดหมายของทั้งคู่เขาสั้นๆพยายามสับขาวิ่งให้ทันแรงลากของพี่ชายทั้งๆที่ยังตกใจไม่หาย ถึงจะสะดุดล้มลงไปบ่อยครั้งแต่มือของอัลฟากลับยังคงจับมือเล็กๆของน้องชายเอาไว้แน่นบ่อยครั้งที่ต้องฉุดกระชากให้ลุกขึ้นมาวิ่งต่อถึงจะสงสารเอเลนมากขนาดใหนแต่การอยู่ในที่โล่งแจ้งแบบนี้มันอันตรายกว่าเป็นร้อยเท่า!...

ปังๆๆ!!!!

เสียงปืนหลายนัดดังไล่ตามหลังมาติดๆนัยน์ตากลมโตสีเขียวมรกตแข็งกร้าวจ้องมองเงาร่างสูงใหญ่สีดำทมึนที่วิ่งตามพวกเขามาอัลฟาตัดสินใจพาเอเลนหลบเข้าหลังโคนต้นไม้ใหญ่ที่ใกล้ที่สุดถึงจะยังไม่เข้าไปลึกมากแต่แถวนี้ก็มีต้นไม้หนาตาพอสมควรคงพอจะช่วยให้เขาได้เปรียบพวกนั้นบ้างไม่มากก็น้อยเสื้อคลุมสีดำถูกถอดมาคลุมหัวสีน้ำตาลของน้องชายก่อนจะรั้งลำตัวเข้ามากอดเอาไว้แน่น

"อยู่ตรงนี้อย่าออกไปเด็ดขาดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!"

"ไม่ๆๆ!!...ผมไม่อยู่ผมจะไปกับพี่!...ฮึก...ฮึก..."

อ้อมแขนของเอเลนกอดพี่ชายของตัวเองเอาไว้แน่นน้ำตาที่กำลังไหลรินซึมผ่านเสื้อยืดที่อัลฟาสวมใส่จนเปียกแฉะให้ใบหน้าที่เคยแต่นิ่งเฉยได้แต่ขบกรามแน่น...

"ไม่เป็นไรเอเลน...รอพี่อยู่ตรงนี้เดี๋ยวพี่กลับมารับนะ...อย่าดื้อสิ...ห้ามร้องด้วยเข้าใจมั้ย?"

"ไม่!...อัลต้องอยู่กับผมสิ...ผมกลัวๆอัลอย่าทิ้งผมไว้คนเดียว...ฮือ~..."

เสียงปืนยังดังอยู่ให้ได้ยินเป็นระยะๆถึงจะน่าเป็นห่วงอยู่บ้างแต่มันก็ทำให้เขารู้ว่าพ่อยังปลอดภัยดีแต่พวกเขานี่สิ!...เงาสีดำที่ใกล้เข้ามายิ่งกดดันให้เขาต้องรีบตัดสินใจ!...พวกมันตามเสียงร้องของเอเลนมาไม่ผิดแน่ประสาทการรับรู้ดีเยี่ยมแบบนี้เป็นพวกMEไม่ผิดแน่!

มนุษย์ที่ถูกดัดแปลงเป็นนักฆ่าหรือMEต่างจากร่างโคลนอย่างเขาโดยสิ้นเชิง...ความสามารถที่ยังไม่แน่ชัดของพวกมันเป็นปัญหาพอตัวถึงเขาจะเคยเข้าไปทดสอบที่ฐานทัพมาแล้วก็เถอะแต่พวกที่ถูกพัฒนาขึ้นมาอีกขั้นคงจัดการไม่ได้ง่ายๆแน่!

"ขอโทษนะเอเลน"

คำพูดที่ทำเอาใบหน้ามนได้แต่เบิกตากว้างก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป......

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.



"ขอโทษนะเอเลน"

   ใบหน้าเรียวสวยรับกับจมูกโด่งรั้นส่ายไปมาทั้งๆที่เปลือกตายังปิดสนิทเม็ดเหงื่อที่เกาะพราวตามกรอบหน้ากับมือบางที่กำลังไขว่คว้ากลางอากาศทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าตัวกำลังฝันร้ายให้คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นหยักยิ้มบางๆที่มุมปากพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างระอา...โตจนป่านนี้แล้วเก็บเอาแต่เรื่องไร้สาระมาฝันอย่างกะเด็กๆ

ปลายนิ้วขาวซีดยื่นออกไปแต่ก่อนที่มันจะแตะลงไปบนแก้มใสๆนั่นจำต้องชะงักค้างก่อนจะย้ายมาเขย่าที่หัวไหล่แทนเพราะมันเปรียบเสมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา

"เอเลน..."

"เอเลนตื่นได้แล้ว...สายแล้วนะมีเรียนไม่ใช่เหรอ?"

"อื้ออ~~...."

แต่คนถูกปลุกกลับทำเพียงขยับตัวยุกยิกไปมาก่อนจะหันมานอนตะแคงขดเป็นกุ้งตรงหน้าเขาแทนยิ่งทำให้เขาได้แต่ถอนหายใจอย่างเอือมๆ มือหมุนล้อรถเข็นเข้าไปใกล้ขอบเตียงมากขึ้นใบหน้าที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วโน้มลงไปใกล้เสียจนไม่อาจต้านแรงดึงดูดอันน่าพิศวงนั่นได้ ริมฝีปากเย็นเยียบแนบลงไปบนพวงแก้มอมชมพูแผ่วเบาก่อนจะยืดตัวขึ้นมานั่งตัวตรงเหมือนเดิม...แค่นั้นมันก็มากพอแล้ว...

ดวงตาเบิกโพลงขึ้นเมื่อสัมผัสอะไรบางอย่างยังคงหลงเหลืออยู่ที่แก้มและเมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้าตัวเองร่างโปร่งบางก็เด้งตัวขึ้นจากเตียงก่อนจะถอยกรูไปชิดผนังฝั่งตรงข้ามทันที

"อะ...อัล!?..."

อัลฟายิ้มเฝื่อนให้กับตัวเองท่าทางหวาดกลัวของน้องชายที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนแบบนั้นทั้งๆที่เขามั่นใจว่าเอเลนไม่รู้ว่าทำไมถึงได้กลัวเขาแบบนั้นสำหรับเขาแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้มันก็มากพอแล้วแต่ทำไมนับวันเขายิ่งห้ามตัวเองไม่ให้แตะต้องเอเลนมันถึงได้ยากขึ้นทุกวัน...

"แค่มาปลุกน่ะ...สายแล้ว"

แค่คำพูดเรียบง่ายแต่ไม่รู้ทำไมคนฟังถึงได้ขนลุกซู่ไปทั้งร่างนัยน์ตาสีเขียวมรกตได้แต่มองตามรถเข็นที่กำลังหมุนตัวกลับออกไปจากห้องของพี่ชายไปจนลับตาขายาวๆกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปล็อคประตูห้องก่อนจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้นจนถึงตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรตนถึงได้กลัวอัลฟามากขนาดนั้นถึงแม้ว่าพ่อจะเคยบอกว่าตอนเด็กๆเราทั้งคู่ดูจะรักกันมากจนกระทั้งอัลถูกรถชนเมื่อสิบปีที่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเขาที่เห็นอัลในสภาพเลือดท่วมตัวจึงกลัวที่จะเข้าใกล้...แต่ทำไมเขาถึงจำไม่เห็นได้ว่าเกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนั้นหัวสมองมันว่างเปล่าไม่มีความทรงจำในวัยเด็กหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อยแค่ความหวาดกลัวในจิตใจเขาที่กำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน...

มันเป็นความหงุดหงิดที่ไม่สามารถขจัดออกไปได้ทั้งๆที่อัลกับเขาแทบจะไม่มีอะไรต่างกันเลยแม้แต่น้อยจะมีก็แต่ร่างกายที่เย็นเชียบกับรอยยิ้มเย็นน่าขนลุกนั่นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง...ราวกับว่าอัลไม่ใช่มนุษย์....




นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองออกไปนอกหน้าต่างห้องด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดาเป้าหมายอยู่ที่ร่างสูงโปร่งของน้องชายที่กำลังก้าวฉับๆไปหากลุ่มเพื่อนที่รออยู่หน้าบ้าน
เสียงหยอกล้อพร้อมกับมือหลายคู่ที่ตรงเข้ามายีหัวสีน้ำตาลนั่นมันช่างน่าอิจฉาเสียนี่กะไร...เขาไม่ได้อิจฉาที่เอเลนมีเพื่อนมากมายรายล้อมแต่อิจฉาที่คนพวกนั้นสัมผัสเอเลนได้อย่างอิสระต่างหากทั้งๆที่เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้เอเลนลืมเรื่องเลวร้ายนั่นแต่ความกลัวที่ฝังอยู่ในจิตใจมันช่างหยั่งรากลึกจนน่ารำคาญเหมือนกำแพงเหล็กกล้าที่ไม่สามารถทลายได้กั้นพวกเขาเอาไว้เหมือนเป็นคนอื่นไปในที่สุด

ใครเขาว่าร่างโคลนอย่างเขาไร้หัวใจเกิดมาเพื่อฆ่าโดยเฉพาะโหดเหี้ยมไร้ความปราณีสมการแบบนี้มันผิดชัดๆ

"อัลฟา....."

ใบหน้าหันไปมองที่ประตูห้องทั้งที่ยังเรียบเฉย...พ่อที่มาพร้อมกับซองเอกสารสีน้ำตาลมันช่างเป็นภาพที่ชินตาจนเผลอยิ้มเฝื่อนออกมา  ถึงจะย้ายจากไซบีเรียมาอยู่แถบชานเมืองของรัสเซียแต่งานงี่เง่าพวกนั้นกลับไม่เคยลดลงเลยจนอดสงสัยไม่ได้ว่ารัฐบาลประเทศนี้มีศัตรูไปทั่วเลยหรือไงกัน?.....




เสียงกดชัตเตอร์ดังแชะๆเป็นจังหวะต่อเนื่องตามที่ปลายนิ้วเรียวกดมันทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองนี้มันดูสวยงามแบบแปลกๆจนคนที่คลั่งไคล้การถ่ายภาพอย่างเอเลนต้องแอบขึ้นมาบนดาดฟ้าของคอนวิเนียนอยู่บ่อยครั้งทั้งๆที่เป็นศูนย์กลางของเมืองแต่กลับมีเพียงแสงไฟตามถนนเท่านั้นที่ส่องแสงอยู่รถราที่วิ่งผ่านไปมาเบาบางจนถนนโล่งยิ่งกว่าอยู่กลางทุ่งกว้างถึงจะมีตึกรามบ้านช่องเรียงรายจนหนาตาแต่แสงนีออนที่ส่องลอดหน้าต่างกลับมาแค่ไม่กี่ห้องที่ทำให้รู้ว่ามีคนอาศัยอยู่แต่ที่เห็นบ่อยที่สุดก็เห็นจะเห็นรถจีเอ็มซีกับพากทหารนี่แหละมีทุกซอกทุกมุมของถนนทั่วเมืองเล็กๆนี่...เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่จากประกาศของทหารจับใจความได้ว่าเมืองนี้กำลังถูกคุกคามจากผู้ก่อการร้ายทั้งจากอดีตสายลับอย่างเคจีบีและกลุ่มผู้ก่อการร้ายจากต่างประเทศเคอร์ฟิลถูกประกาศใช้ตั้งแต่เมื่อหกปีที่แล้วเมืองนี้ถึงได้อยู่อย่างหวาดผวามาตลอด

ชาวบ้านถูกจับตัวไปในค่ายทหารไม่เว้นแต่ละวันบ้างก็ได้กลับมาหาครอบครัวบ้างก็ถูกกักตัวด้วยข้อหาเป็นผู้ต้องสงสัยแต่ข่าวลือที่พูดเป็นเสียงเดียวกันคือแทบทุกคนจำอะไรไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่อยู่ในค่ายทหารจนเผลอคิดไปว่าเขาเคยถูกจับเข้าไปในที่แห่งนั้นด้วยหรือเปล่า?...

เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้ด้วยความเร็วทำให้ใบหน้าที่กำลังหลับตาพริ้มรับลมเย็นๆหันขวับไปทางต้นเสียงแทบจะทันทีแต่...

"อ๊าคคค!!!"

ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นล้มลงไปพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดให้ดวงตาสีเขียวมรกตได้แต่เบิกกว้างด้วยความตกใจสองขาก้าวถอยหลังไปตามสัญชาติญาณเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลใกล้เข้ามา!...ชายร่างสูงคนนั้นพยายามตะเกียดตะกายหนีอะไรบางอย่างใบหน้าที่ดูทรมานหันกลับไปมองข้างหลังจนใบหน้ามนอดไม่ได้ที่จะมองตามไปทั้งๆที่สองขายังก้าวถอยหลังมือที่ถือกล้องถ่ายรูปสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวเกินจะควบคุมได้ยิ่งเงาร่างของใครบางคนกำลังเคลื่อนตัวออกมาจากเงามืดด้วยแล้วแรงกดดันทำเอาขาแทบจะก้าวต่อไปไม่ไหว...

น่ากลัว!!.....

ชายคนนั้นชักปืนออกมาแต่ยังช้ากว่าเงาร่างสีดำนั่นที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่มนุษย์ธรรมดาไม่น่าจะทำได้ประกายสีเงินแวววาวทำเอเลนได้แต่อ้าปากค้างชั่ววินาทีที่มันกำลังพุ่งลงไปหาชายร่างสูงใหญ่คนนั้นดวงก็ปิดแน่นแต่มือกลับกดชัตเตอร์รัวๆทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้มองภาพตรงหน้าเลยสักนิดขากำลังจะเตรียมตัวหันหลังวิ่งแต่!....

"อั๊กก!!..."

อะไรบางอย่างพันเข้าที่ข้อเท้าจนหงายหลังล้มลงก่อนที่ร่างกายจะไถลไปตามแรงลากเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วซะจนเอเลนตั้งตัวไม่ทันรู้ตัวอีกทีตัวเองก็ถูกคร่อมเอาไว้ด้วยร่างสีดำสนิทเสียแล้วแต่แทนที่จะถูกทำร้ายหรือฆ่าให้ตายเหมือนชายที่นอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้นร่างที่คร่อมอยู่กลับพยายามแย่งกล้องของเขาแทนซะอย่างงั้น!...นี่มันอะไรกัน?!?.....

"อ๊ะ!!...ปล่อยนะกล้องผม!!!"

ทั้งคู่ต่างพยายามยื้อแย่งกันอยู่อย่างนั้นอย่างไม่มีใครยอมใครหลายต่อหลายครั้งที่มือพลาดไปโดนชัตเตอร์ให้แสงแฟลตสว่างวาบเป็นระยะๆถึงได้รู้ว่าใบหน้าสีดำนั้นแท้ที่จริงแล้วมันเป็นหน้ากาก!...

มือบางพยายามยิ้อแย่งกล้องของตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตายแต่อีกฝ่ายดูจะมีเรี่ยวแรงเยอะกว่ามากแค่ยื้อเอาไว้ก็เต็มกลืนอยู่แล้วแต่ขณะที่คิดว่าคงจะสู้ไม่ไหวอะไรบางอย่างก็ลอยมาปะทะใบหน้าของคนที่คร่อมเอาไว้จนใบหน้าสะบัดไปอีกทาง

หน้ากากสีดำแตกละเอียดร่วงลงไปกองกับพื้นเผยให้เห็นเสี้ยวใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนเอเลนที่ตั้งสติได้กดชัตเตอร์รัวๆอีกครั้งจากที่พยายามจะยื้อแย่งมือภายใต้ถุงมือสีดำนั่นกลับยกขึ้นไปบังใบหน้าตัวเองแทนประจวบกับวัตถุปริศนาชิ้นที่สองตามมาติดๆจนเขาคนนั้นกลิ้งหลบไปอีกทางอย่างช่วยไม่ได้!...

เอเลนรีบลุกขึ้นวิ่งลงบันไดหนีไฟไปด้วยความเร็วทั้งหมดที่มีแต่ก็ยังมิวายหันกลับไปดูว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น...อีกหนึ่งเงาร่างสีดำกำลังต่อสู้กับเขาคนนั้นด้วยฝีมือที่เรียกว่าสูสีเลยทีเดียวแต่คนคนนั้นมาช่วยเขางั้นเหรอ?.....

มือยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์อีกครั้งแล้วแสงแฟลตก็ทำให้ทั้งคู่หันมาแทบจะพร้อมกันให้ไหล่บางสะดุ้งโหยงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองจะต้องหนีก่อนจะรีบวิ่งแจ้นลงบันไดต่อไป....


จากคอนวิเนียนมาถึงบ้านเป็นระยะทางที่ไกลหลายป้ายรถเมล์พอสมควรและเพราะแบบนั้นตอนนี้เอเลนถึงได้ทรุดลงที่หน้าประตูห้องของพี่ชายทั้งๆที่ยังหอบแฮ่กๆตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้จะขอนอนกับพี่ชายถึงจะยังหวั่นใจอยู่บ้างแต่เหตุการณ์เชียดตายที่เพิ่งเจอมาทำให้ไม่สามารถนอนคนเดียวได้ถึงมันจะไม่มีประโยชน์ก็เถอะได้แต่หวังว่ารังสีอำมหิตของอัลฟาจะไล่อันตรายออกไปไกลได้...ตั้งสติอยู่หลายนาทีก่อนจะรวบรวมความกล้าเคาะประตูห้อง...

ก๊อกๆๆ

"อัล?"

ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าของห้องทำให้ใบหน้ามนสลดลงน้อยๆ...บางทีพี่อาจจะหลับแล้วก็ได้แต่ถึงอย่างนั้นเอเลนก็เลือกที่จะเคาะประตูห้องอีกครั้ง

"อัลฟา...ตื่นอยู่....เหว๋อ~~!?!"

จู่ๆประตูก็เปิดออกทั้งๆที่ยังไม่ขานรับกันสักคำแล้วมีเหรอที่คนที่กำลังจิตตกจะไม่สะดุ้งจนเผลอร้องเสียงหลงอัลยิ้มบางๆกับท่าทางตื่นๆของน้องชายดูจากท่าทางแล้วคงจะไปเจออะไรที่มันหนักหนาเอาการเข้าเป็นแน่.....

"ไง...มีอะไรให้ช่วยมั้ย?"

น้ำเสียงของอัลยังฟังดูอ่อนโยนเสมอแต่มันกลับขัดกับใบหน้าเฉยชานั่นไปคนละทางจนคนฟังมักจะขนลุกซู่อยู่เสมอ

"ขอเข้าไปได้มั้ย?"

"แน่นอน...เข้ามาสิ"

เอเลนเดินเข้าไปในห้องของพี่ชายอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะตั้งแต่พวกเขาแยกห้องกันเขาก็แทบจะไม่เคยมาห้องนี้เลยก็ว่าได้...ห้องของอัลมักจะดูเรียบง่ายเสมอไม่ว่าจะกี่ปีต่อกี่ปีสีเทากับน้ำตาลและข้าวของไม่กี่ชิ้นแค่ชั้นหนังสือกับโต๊ะเล็กๆริมหน้าต่างเท่านั้นไม่มีโทรทัศน์ไม่มีเครื่องเสียงไม่มีเครื่องเล่นเกมส์ไม่มีอะไรเลยนอกจากโน้ตบุคเพียงเครื่องเดียว...ต่างจากห้องของเขาลิบลับ...

"สงสัยพายุจะเข้ารึเปล่านะ?"

"ระ...เรื่องอะไรล่ะพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีพายุร้อยเปอร์เซนต์ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก!"

"หึหึหึ..."

"ขำอะไรล่ะ?"

"เปล่า...แค่คิดว่านานมากแล้วนะ...ชั่งมันเถอะว่าแต่มีอะไรรึเปล่า"

ใบหน้ามนสลดลงอีกครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนขอบเตียง...ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าพี่ชายหมายถึงอะไรแต่ก็ยังทำกลบเกลื่อนมันซะทุกครั้งไป

"อัล...."

"ชั้นฟังอยู่"

"...ขอ...ค้างที่นี่ได้มั้ย?"

ดวงตาที่เคยแต่เฉยชาเบิกกว้างราวกับไม่เชื่อหูตัวเองกี่ครั้งกันที่เอเลนขอนอนกับเขา...ไม่มีเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ถึงจะรู้สึกดีใจแต่เขาอยากให้มั่นใจว่าเมื่อกี้ไม่ได้หูฝาดไป...มือหมุนล้อรถเข็นเข้าไปหยุดตรงหน้าน้องชายที่กำลังเบือนหน้าหนีไปอีกทางที่ไม่รู้ว่าอายหรือไม่กล้าสู้หน้าเขากันแน่

"พูดอีกทีได้มั้ย...อยากให้มั่นใจน่ะว่าเมื่อกี้ไม่ได้หูฝาด"

"โธ่~....ขอนอนด้วยน่ะได้รึเปล่าเล่า"

"อื้อฮึ"

"อาบน้ำด้วยขอยืมชุดด้วยได้มั้ย"

"....งั้นอาบพร้อมกันได้มั้ยชั้นก็ยังไม่อาบเหมือนกัน"

"เอ๋~...ตะ...แต่ว่า!..."

"ล้อเล่นหรอกน่าเด็กโง่"

"งะ...งั้นเหรอฮะฮะ...งั้นนายไปอาบก่อนสิ"

"หึ...."

ใบหน้ามนลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่แต่ถึงอย่างนั้นกลับมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ดูเหมือนตัวเองเอาเปรียบอัลฟามาตลอดไม่ว่าจะเรื่องเรียนหรืออะไรหลายๆอย่าง...ตัวเขาที่ออกไปใหนมาใหนได้อย่างอิสระต่างจากอัลที่ต้องใช้ชีวิตอยู่แต่บนรถเข็นในบ้านหลังนี้ถึงอัลจะหัวดีสอบเทียบได้โดยที่ไม่มีใครสอนหรือแม้แต่เพื่อนสักคนจะเหงามากขนาดใหนกันนะ?...แถมตัวเขาก็เอาแต่ตีตัวออกห่างหวาดกลัวกับอดีตจนกลายเป็นสร้างกำแพงกั้นตัวเองเอาไว้เหมือนกับยิ่งซ้ำเติมความเหงาความโดดเดี่ยวให้อัลเข้าไปอีก

"อัล!..."

"อือฮึ?"

"ฉันช่วย!"

"อา~~.....ตามใจ..."

อัลฟามีสีน้าแปลกใจไมใช่น้อยกับข้อเสนอของเขาถึงจะไม่อยากบอกเหตุผลแต่ท่าทางการเคลื่อนไหวที่ดูติดๆขัดๆแบบนั้นเขาคงจะนั่งดูอยู่เฉยไม่ได้ถึงอัลจะช่วยเหลือตัวเองมาตลอดสิบปีก็เถอะถึงจะรู้ว่าพี่ชายของเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขาก็ตามทีแต่แบบนั้นมันดูใจดำเกินไปถ้าหากเขาจะลดช่องว่างลงบ้างมันคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?...




ความคิดอันบริสุทธิ์ใจแต่หากมันถูกตอบแทนด้วยการหลอกลวงสุดท้ายแล้วมันจะมีจุดจบแบบใหนกันนะ?.....
.
.
.
.
.
.
.
...Tobecontinue!....

ฮี่ๆๆๆ.....จะบอกว่านี้คือโปรเจควันเกิดนู๋เลนนะเจ้าค่ะแแต่จะทยอยลงตั้งแต่วันนี้เปงต้นปายยย~~~

คือที่หายไปเป็นเดือนก็ซุ้มปั่นเรื่องนี้เองแหละแต่แบบปั่นๆๆๆเอาไว้กะว่าจะลงที่เดียวเลยแต่แม่มคำผิดเยอะบรรลัยเลยค่ะเก๊าเลยจะค่อยๆไล่คลีนมันไปช้าบ้างไรบ้างต้องขออภัยแต่วันละตอนน่าจะพอไหวอยู่ล่ะมั้งคะเรื่องนี้ก็ประมาณสิบตอนล่ะค่ะถึงจะจบตอนนี้แต่งได้แล้วหกกะว่าภายในสิ้นเดือนนี้หรือไม่ก็ต้นเดือนหน้าจะปั่นให้จบถึงเวลาจะน้อยแต่จะพยายามอย่างเต็มที่เลยนะเออ

***เพราะเรื่องนี้มันเป็นฟิควันเกิดของนู๋เลนเต็มๆเรื่องแรกบวกกับครบรอบหนึ่งปีของบล็อคนี้ด้วยแหละฮะฮะฮะ~~~

จะบอกว่าที่อยากจะแต่งฟิดเนี้ยเพราะน้องเลยค่ะอ่านมังงะมาจนถึตอนที่ห้าสิบห้ามั้งคะถ้าจำไม่ผิดแลเวเลือดในกายมันเดือดปุดๆเลยทีเดียวอดรนทนไม่ไหวไปบังคับเพื่อนสมัครบล็อคให้จนได้กลายมาอย่างเห็นเนี้ยแหละ

แล้วเราก็จะลงเรื่องนี้จนจบเลยนะคะสำหรับคนที่รอเรื่องอื่นต้องขออภัยเอาไว้ณ.ที่นี้ด้วยจริงๆอ้องั้นบอกไว้ก่อนละกันค่ะว่าคิวต่อไปจะเป็นของใครบ้างหลังจากจบเรื่องนี้

1.เม.ย-ของยามะกะก๊กตลอดทั้งเดือนค่ะจะต่อเรื่องรักลเนใจของคู่นี้ให้จบ^q^

2.พ.ค-นี่ของD18นาค๊ะเพราะเป็นเดือนเกิดของคุณเคียวย๊าาา//เปิดเรื่องรักล้นใจของคุณเคียวย๊าาค่ะจะพยายามให้จบในเดือน//

3.มิ.ย-เป็นคิวของสับป้ากะทูน่าค่ะกะจะเอาเรื่องตเนตำรับของคู่นี้มาต่อให้จบแล้วตามด้วยรักล้นใจของคู่นี้ค่ะ//เหมือนจะคุยโวแต่มันอีกไม่กี่ตอนแล้วล่ะค่ะฮะฮะ//

ก.ค-ส.ค.นี่จะเก็บตกของเฮห์โจวกะนู๋เลนเรื่อที่ค้างๆคาๆไว้ให้จบอ่ะค่อาจจะม...แบบยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่อันนี้ต้องขออภัยคือตอนนี้เรากำลังติ่งป๊ะป๋าอาริมะกะไฮเสะอะค่ะแบบเมื่อคืนตอนเที่ยงคืนเนี้ยร้องไห้หนักมากๆๆๆๆแถมป๊ะป๋าแม่มอย่างเท่โว้ยยยยสองภาคออกมาสองตอนกับคำพูดสองคำยังทำให้เราเป็นถึงขนาดนี้เลยนะเออ//ไม่นับภาค:reกับJackนะคะ///เห็นบอกว่าจะทำสปริ้นออฟของป๊ะป๋าในภาคJackภายในปีนี้ด้วยเก๊าเงี้ยทั้งร้องไห้ไปกรี้ดไปเลยล่ะเมื่อคืนแต่เหนือสิ่งอื่นใดขอให้อะไรดลใจอ.อิชิดะแกให้ทำภาคสามออกมาด้วยนะคะโอยยย..
ขอบอกว่าดูเป็นสิบๆรอบเลยอ่ะเมื่อคืนแถมยังร้องแม่มทุกรอบอีกตาเงี้ยปูดเป็นลูกมะนาวเลยเช้ามาสะเทือนใจสุดๆสงสารน้องสุดๆสงสารฮิเดะสุดๆๆๆๆๆ!!!!

//ว่าแล้วก็ไปกลับไปดูอีกซักรอบ??....ไม้เด็ดอีก!!!///

ไปแล้วค่ะบั้ยบายเจอกันพรุ่งนี้ดึกๆๆๆค่าาา~~~~

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น