28 มี.ค. 2558

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 02

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 02

:Fanfiction Attack on titan


:Drama,Action-Sci-Fi


:PG-15


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ







          ผ่านมากว่าหนึ่งอาทิตย์ชีวิตของเอเลนยังคงปรกติสุขดีอยู่ได้แต่ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงได้รู้สึกว่ามีประกายไฟแห่งความอิจฉาแล่บแปล๊บๆที่ดวงตาชอบกล

มือบีบสบู่เหลวใส่ฟองน้ำก่อนจะบรรจงถูไปตามแผ่นหลังกว้างของพี่ชายทั้งๆที่สายตากำลังไล่องไปตามต้นแขนที่เริ่มจะมีกล้ามเนื้อขึ้นแต่พองามแถมยังมีกล้ามหน้าท้องนิดหน่อยแต่กลับดูสมเป็นชายชาตรีนั่นอีกมันน่าอิจฉาน้อยซะที่ใหนกว่าจะทำใจให้ชินกับผิวกายเย็นเฉียบและสายตาจริงจังของอัลได้มันต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์เชียวนะถึงจะไม่ชินกับการสบตากันตรงๆแต่ไม่อยากมาลอบมองไอ้ส่วนที่เขาควรจะมีมากกว่าพี่ชายแต่กลับไม่มีนี่สักหน่อย!.....

"หลังเปื่อยแล้วๆ..."

ปึก!

กำปั้นทุบลงไปบนแผ่นหลังกว้างชนิดที่ว่าไม่ได้คิดจะออมแรงไว้เลยสักนิดก่อนที่เจ้าตัวจะเดินฟึดฟัดออกจากห้องน้ำไปพร้อมคำพูดทิ้งท้ายว่า.....

"ทำเองก็แล้วกัน!"

ริมฝีปากหยักยิ้มด้วยความรู้สึกอันหลากหลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาดีใจที่ช่องว่างของพวกเขาลดลงมากในรอบสิบปีถึงจะมีปัญหาอยู่บ้างแต่การที่มีเอเลนนอนอยู่ข้างๆหรือทำอะไรที่ไม่เคยทำให้แบบนี้...รู้สึกเหมือนเลือดในกายกำลังสูบฉีดรู้สึกเหมือนตัวเองเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์เข้ามาอีกขั้น

รู้สึกว่าไม่ว่าเขากำลังเผชิญกับภาระกิจหนักหนาแค่ใหนก็ต้องกลับมาที่นี่ให้ได้...

จะผิดมั้ยถ้าเขาจะรักชีวิตตัวเองขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง.....



ปลายนิ้วแตะลงไปบนแก้มใสๆของน้อยชายแผ่วเบาแต่แค่นั้นมันก็มากพอที่จะทำให้คนที่ยังรู้สึกหวาดผวาค่อยๆลืมตาขึ้นมา

"พรุ่งนี้วันหยุดใช่มั้ย?"

"อื้อ...."

"อยู่คุยกันก่อนได้มั้ยเอเลน?"

"...ถ้านายสัญญาว่าจะเล่าเรื่องตอนที่เรายังเด็กให้ฟังจะอยู่คุยด้วยก็ได้"

นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาขอให้อัลเล่าเรื่องพวกนั้นให้ฟังไม่ใช่ว่าไม่เคยถามแต่พ่อบ่ายเบียงที่จะเล่าให้ฟังตลอดหากได้ฟังจากอัลบ้างมันคงจะดีไม่น้อย

"งั้นตอบคำถามชั้นก่อนสิ"

"สัญญา?"

"อืม...สัญญา"

"รวมถึงตอนที่นายถูกรถชนด้วยนะ?"

".....!?"

ถึงจะอึ้งไปชั่วขณะแต่อัลก็สามารถปรับอารมณ์ให้เป็นปรกติได้โดยที่เอเลนยังไม่ทันจะสังเกตุเห็น

"สัญญาสิอัล!"

".....หื๋มม์...ได้คืบจะเอาศอกรึไง"

"สัญญาสิอัลฟา!"

"เฮ้อ~...ช่วยไม่ได้ล่ะนะ"

เมื่อถูกคาดคั้นมากเข้าอัลฟาจึงได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนจะตอบรับออกไปและดูเหมือนเอเลนจะดีใจมากที่ได้ยินแบบนั้น

"งั้นเล่ามาสิ!"

"ตอบคำถามมาก่อนสิ"

"....ก็ได้ถามมา!"

"จบแล้วอยากทำงานแบบใหนล่ะเคยคิดไว้รึยัง?"

"คิดสิ.......อยากไปเจอกับแม่สักครั้งแต่หลังจากนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจ"

นัยน์ตาสีเขียวมรกตของอีกคนแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น...กับผู้หญิงที่กล้าทิ้งลูกของตัวเองไปตั้งแต่ยังแบเบาะแบบนั้นไม่มีค่าพอให้คิดถึงเลยสักนิดเขาไม่มีทางปล่อยให้เอเลนทำแบบนั้นเด็ดขาด...คนที่ไม่ยอมรับถึงการมีอยู่ของเขาที่ปล่อยให้มีชีวิตรอดอยู่ได้จนถึงตอนนี้ก็นับว่าดีเท่าไหร่แล้ว.....

"อัล?"

เอเลนเรียกออกไปเมื่อเห็นสีหน้าของพี่ชายดูแข็งกร้าวขึ้นมาจนรู้สึกใจไม่ดีเพราะไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปรึเปล่าอีกอย่าง...เขากลัวสีหน้าแบบนั้น...

"โทษที...แล้วรู้เหรอว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ใหน?"

"ตอนนี้ยังไม่รู้หรอกแต่สักวันต้องรู้ให้ได้อ๊ะ...ฉันถามนายบ้างได้มั้ย?"

"ถ้าตอบได้ล่ะนะ"

"แน่นอนนายตอบได้อยู่แล้ว...นาย...ไปทำอะไรกับตัวเองมาเหรอ?"

"หมายถึงอะไรล่ะไอ้ทำอะไรกับตัวเองเนี้ยเอเลน"

"ก็แบบว่า...นายไปเอากล้ามเนื้อพวกนั้นมาจากใหนกันอะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง"

"หื๋มม์...ได้กลิ่นแมงอิจฉาบินว้อนเลยแฮะ...ฮะฮะฮะ"

เป็นครั้งแรกที่เขาหลุดหัวเราะออกมาแบบนี้กับใบหน้าแสนงอนของเอเลนมันช่างทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้เอาซะเลยปรกติเวลาที่อยู่ด้วยกันเพียงลำพังเอเลนมักจะเก็บตัวเงียบอยู่ในห้องจนกว่าแม่บ้านหรือพ่อกลับมาถึงจะยอมออกมาจากห้องและแสดงสีหน้าหวาดกลัวอยู่เสมอแท้ๆ

"ก็เออสิ!...อิจฉา...มากๆด้วย!"

"หึหึ...เห็นแบบนี้ชั้นก็ออกกำลังเป็นเหมือนกันนะเจ้าเด็กน้อย"

"ออกกำลังกาย?"

"อือ...นายคงลืมไปแล้วว่าบ้านเรามีห้องออกกำลังกาย"

"....นั่นสินะ" 

ลืมไปซะสนิทเลยต่างหาก...รู้แบบนี้แล้วไม่แปลกเลยที่อัลจะมีร่างกายสมเป็นชายแบบนี้

"ไม่ต้องอิจฉาหรอกเอเลน...นายที่เป็นแบบนี้แหละดีที่สุดแล้วเหมือนเจ้าหญิงที่ต้องมีเจ้าชายคอยปกป้อง...ฮะฮะ"

"ใครเป็นเจ้าหญิงกันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย...แล้วเจ้าชายอย่างนายจะปก...อ๊ะ!....ขอโทษ"

กว่าจะรู้ตัวว่ากำลังพูดถึงปมด้อยของพี่ชายก็หลุดไปแทบจะทั้งประโยคแล้วมือบางจึงรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้แต่ร่างกายกลับถูกแขนของอัลรวบเข้าไปกอดไว้แทน
ความเย็นเยียบที่สัมผัสได้ทำเอาร่างกายแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกไม่กล้าแม้แต่จะผลักไส

"กลัวเหรอ?"

"ปละ...เปล่าซะหน่อย...แค่กำลังคิดว่าถ้าเป็นหน้าหนาวคงทำแบบนี้ไม่ได้"

"...ทั้งๆที่ตอนเด็กเราทำแบบนี้กันแทบจะทุกวัน"

เปลือกกตาปิดแน่นเอาไว้แม้กระทั่งลมหายใจยังติดขัดถึงขนาดที่ว่าไม่กล้าถามอะไรออกไปไม่กล้าแม้กระทั่งขยับตัวถึงจะบอกว่าเริ่มจะรู้สึกคุ้นเคยกับร่างกายของอัลบ้างแล้วก็ตามแต่การที่ถูกอีกฝ่ายโอบกอดไว้แบบนี้มัน....

"ระ...เราคงจะสนิทกันมากใช่มั้ย"  กลั้นใจถามออกไปทำลายความรู้สึกอึมครึมของตัวเองแต่อัลกลับตอบออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเหมือนเดิม

"อืม...ก็เป็นฝาแฝดหนิ...ฮะฮะ"

"ไม่เห็นจะเกี่ยวกัน"

"เคยได้ยินรึเปล่าที่เขาว่ากันว่าฝาแฝดน่ะสื่อถึงกันได้ต่อให้อยู่ไกลกันคนละซีกโลกก็ตาม"

"นั่นก็รู้แต่เราไม่ได้อยู่กันคนละซีกโลกซะหน่อย...อีกอย่างนายกำลังออกนอกเรื่องนะอัลพูดถึงเรื่องของเราสิ"

"ก็นี่แหละเรื่องของเรา...ชั้นแค่กำลังจะบอกว่าต่อให้ชั้นต้องอยู่คนเดียวไปจนตายชั้นก็ยังคิดถึงนายเสมอ"

".....!?"  ดวงตากลมโตถึงกับสั่นไหวกับคำพูดพวกนั้นใบหน้าซุกลงไปที่แผงอกของอีกคนทั้งๆที่ยังสลัดความหวาดกลัวทิ้งไปไม่ได้...ทว่าไม่สามารถผลักไสอีกฝ่ายออกไปได้เช่นกัน

"อย่าลืมซะล่ะ...เอเลน"

".....น้ำเน่า"

"ฮะฮะ...."



สองแขนยังคงกอดกระชับร่างกายของน้องชายเอาไว้ถึงจะไม่ได้แน่นหนาอะไรเพราะเขาคิดว่าจะต้องถูกผลักกระเด็นแน่ๆอยู่แล้วแต่เอเลนกลับทำในสิ่งที่เกินความคาดหมายของเขาแบบนี้ถึงจะรู้ว่าเอเลนต้องกลัวมากที่เขาทำแบบนี้ดูจากมือที่กำเสื้อยืดของเขาเอาแน่นถึงจะหลับไปแล้วก็ตามที...จะบอกว่านี่เป็นวิธีหลบเลี่ยงมันก็ไม่ผิดนักเขาแค่ไม่อยากเล่าเรื่องจอมปลอมพวกนั้นให้เอเลนฟังก็เท่านั้นหากจะต้องยัดเยียดเรื่องโกหกพวกนั้นลงไปสู้ปล่อยให้อยู่อย่างคลางแคลงใจแบบนี้ต่อไปยังจะดีซะกว่า.....








เอกสารฉบับสุดท้ายถูกเย็บเข้าเล่มได้ในที่สุดแต่ถึงอย่างนั้นก็กินเวลาล่วงเลยไปมากพอสมควรหากเป็นเมืองที่ปรกติสุขทั่วไปแค่สามทุ่มไม่ได้ถือว่าดึกดื่นอะไรแต่สำหรับเมืองนี้มันทำให้ทั้งเอเลนและเพื่อนสนิทอย่างแจนและอาร์มินต้องรีบเก็บข้าวของกัน
อย่างเร่งรีบเพราะอีกไม่ถึงชั่วโมงก็จะเป็นเคอร์ฟิวแล้วถึงจะมีเส้นทางลับสำหรับหลบเลี่ยงพวกทหารแต่สำหรับคนที่ถูกตามล่าจากใครบางคนอย่างเอเลนแล้วมันรู้สึกเสียวสันหลังนิดๆถึงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยตั้งแต่วันนั้นแต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าคนคนนั้นจะไม่ตามหรือกำลังตามหาตัวเขาอยู่

"เอเลนไปกัน!"

"อื้อ!"

เพราะพวกเขาถูกว่ายวานให้มาช่วยทำเอกสารสำหรับแจกให้นักศึกษาใหม่จากอาจารย์ก็เถอะแต่ไม่คิดว่าจะมีแค่พวกเขาสามคนเท่านั้น มือบางคว้ากระเป๋ากับกล้องถ่ายรูปคู่ใจวิ่งตามเพื่อนไปติดๆไม่ลืมที่จะปิดไฟห้องถ้าเปิดทิ้งไว้พรุ่งนี้มหา'ลัยต้องถูกทหารยึดเป็นแน่แท้

ทั้งสามแยกกันที่หน้ามหาลัยเพราะแจนกับอาร์มินอยู่คนระทางกันขาก้าวยาวๆหวังจะให้เวลากลับบ้านน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่...

เงาร่างของใครบางคนที่ยืนพิงราวกั้นถนนอยู่นั้นทำให้สองขาหยุดชะงักโดยอัตโนมัติเสี้ยวหน้าด้านข้างที่คุ้นเคยถึงจะมองเห็นจากไกลๆหลายเมตรแบบนั้นทำให้เผลอก้าวถอยหลังตามสัญชาติญาณเมื่อรับรู้ว่าอันตรายกำลังมาเยือน!

เป็นคนๆนั้นไม่ผิดแน่!!....

รูปร่างสันทัดแบบนั้น!...กันรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจนขนลุกซู่แบบนั้น!!...ขาเตรียมตัวจะหันหลังวิ่งแต่ยังช้าไป!

"อ๊ะ!!..."

อะไรบางอย่างพันรอบเอวของเอเลนก่อนที่ร่างกายจะลอยวืดขึ้นไปบนอากาศรู้ตัวอีกที่แผ่นหลังก็ปะทะเข้ากับแผงอกแข็งๆซะแล้ว

"ปล่อยผมนะ!!"

"ไม่ต้องกลัวไอ้เด็กเหลือขอชั้นแค่มาเอารูปของชั้นคืนเท่านั้น"

เสียงกระซิบเย็นเยียบที่ข้างหูทำเอาเอเลนถือกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากมือทั้งสองข้างเผลอกอดกล้องถ่ายรูปเอาไว้แน่นถึงแม้ว่าSDการ์ดตอนนี้จะเป็นคนละอันกันเพราะ อันนั้นเขาถอดเก็บไว้ในห้องของอัล!.....

"อ๊ะ!?..."

ร่างกายถูกพลิกให้หันไปเผชิญหน้ากันในระยะประชิดและเป็นครั้งแรกที่ได้มองหน้าของอีกฝ่ายตรงๆถึงได้รู้ว่าคนคนนี้หน้าตาจัดว่าหล่อเหลามากๆคนหนึ่งหากไม่ติดว่าดวงตาคู่นั้นมันดูมืดมนจนน่าขนลุกแต่ก่อนที่จะทันได้คิดอะไรหัวสีน้ำตาลก็ถูกกดให้ลงไปซบที่ไหล่แข็งๆนั่นพร้อมกับคำกระซิบที่ทำให้นัยน์ตาสีเขียวมรกตได้แต่เบิกกว้าง...

"กอดชั้นไว้แน่ๆล่ะ!"

จบประโยคร่างกายก็ลอยวืดขึ้นไปบนอากาศด้วยความเร็วสูงจนมือบางจำต้องโอบรอบคอของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นแรงลมที่ปะทะแผ่นหลังทำให้รู้ว่าความเร็วของมันไม่ธรรมดาเลยจริงๆอยากจะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่เสียงมันกลับเปร่งไม่ออก
ที่ออกมามีแค่เสียงอือๆอยู่บนไหล่แข็งๆนี่เท่านั้น



ขาทั้งสองคู่แตะลงไปบนพื้นซีเมนต์บนดาดฟ้าของตึกเก่าคร่ำครึแห่งหนึ่งแต่ร่างโปร่งบางในอ้อมแขนของเขากลับยังสั่นพับๆเป็นลูกนกตกน้ำอยู่อีกดูท่าว่าถ้าให้ยืนเองคงไม่ไหว

ร่างโปร่งบางถูกอุ้มมาวางติดกับราวเหล็กอย่างเสียมิได้นัยน์ตากลมโตช้อนมองใบหน้าคมหล่อนั่นด้วยความแปลกใจนิดๆ...ก่อนจะฆ่าใครต้องทำดีกันทุกคนแบบนี้หรือไงกัน?...

"คะ...คุณ...คือปีเตอร์ ปาร์คเกอร์เหรอ?"

"หมายความว่าไง?"

"...สะ.....ไปเดอร์แมน..."

คำตอบของเด็กนี่เกือบจะทำให้เขาหลุดหัวเราะพรืดออกมาเสียให้ได้ดูท่าว่าจะดูหนังมากไปแน่ๆ...ข้อมูลนี้เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยแฮะ...รวมถึงเรื่องที่ชอบถ่ายรูปด้วยนั่นมันปัญหาใหญ่เลยทีเดียวถึงข้อมูลที่เขาได้มาจะระเอียดยิบขนาดว่าเด็กนี่ชอบหรือไม่ชอบอะไรหรือมีไฝอยู่ส่วนใหนของร่างกายบ้างแต่เรื่องพวกนี้มันหลุดลอดจากพวกนั้นได้ไง?...สายตาเบนต่ำลงไปที่กล้องถ่ายรูปที่คล้องคออยู่และดูเหมือนเจ้าตัวเองก็คงจะรู้สาเหตุถึงได้รีบกอดมันเอาไว้แน่นแบบนั้น

"ผมทิ้งมันไปแล้ว!...ถ้าคุณหมายถึงรูปพวกนั้นล่ะก็!"

"โกหก...สีหน้านายบอกมาแบบนั้น"

"อ้อ...แล้วก็นะชั้นไม่ได้ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์อะไรนั่นด้วย"

"แล้วเป็นอะไรล่ะ?...หรือว่าพวกสายลับเคจีบีอะไรนั่น!?"

"เปล่า...ชั้นไม่ใช่สายลับ"

"งั้นอะไรล่ะ...นักฆ่ารับจ้างงั้นเหรอ?"

"เลิกออกทะเลแล้วเอารูปพวกนั้นมาซะถ้าไม่อยากตาย!"

ไหล่บางถึงกับสะดุ้งโหยงกับคำขู่ของอีกฝ่ายถึงจะรู้สึกเจ็บใจที่อุตส่าห์พาอีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุยไม่สำเร็จแต่ใบหน้ามนยังคงพยายามทำใจดีสู้เสือ

"ถะ...ถ้าผมตายคุณไม่รอดแน่เพื่อนผมจะเอารูปพวกนั้นไปให้พวกทหารแล้วคุณก็จะถูกตามล่าแน่นอน!"

"หึ...ที่แท้ก็อยู่กับเพื่อนสินะคนสูงหรือคนเตี้ยล่ะ...หรือไม่ก็อยู่กับพี่ชายพิการของนายงั้นเหรอ...อยากให้ชั้นฆ่าคนใหนก่อนดีล่ะ...เอเลน เยเกอร์?"

"ว่าไงนะ!?"

ดูเหมือนว่าเขาจะพูดแรงไปเด็กนี่ถึงได้ช็อคไปเลยแบบนี้ดวงตากลมโตที่มองมาที่เขาสั่นพร่าราวกันกำลังจะร้องไห้แบบนี้มันทำให้เขารู้สึกผิดชอบกลแต่จะให้พูดขอโทษหรือบอกว่าล้อเล่นมันก็ไม่ใช่นิสัยของเขาซะด้วย...

"อย่ามาจับผมนะ!"

มือที่ยื่นออกไปถูกปัดทิ้งอย่างไม่ใยดีจนอีกฝ่ายได้แต่ถอนหายใจหน่ายๆปนรำคาญนิดๆแต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้ทำอะไรเสียงแหวกอากาศของอะไรบางอย่างดังเขามาใกล้จนต้องคว้าร่างโปร่งบางนั่นกลิ้งไปตามพื้นแทน!

เคล้งง!!

เสียงโลหะกระทบกับราวเหล็กดังก้องไปทั่วบริเวณจนรู้สึกแสบแก้วหู...นั่นมันอะไรกัน!?..เอเลนพยายามเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นแต่มันมืดเกินกว่าจะมองเห็นได้...แต่ในใจกลับมีความรู้สึกบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นเมื่อเงาร่างปริศนาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง...

"หนีไป!"

เป็นคนที่กำลังคร่อมร่างของเอเลนเอาไว้ที่พูดระโยคนั้นออกมาพร้อมกับล้วงเอาหน้ากากสีดำจากอกเสื้อมาสวมทันทีถึงจะรู้สึกตกใจไม่ใช่น้อยแต่ทันทีที่ร่างสันทัดลุกออกจากตัวร่างโปร่งบางก็ลุกขึ้นวิ่งโดยไม่จำเป็นต้องให้บอกอีกเป็นครั้งที่สอง!

สองขาวิ่งไปตามเส้นทางลัดเพื่อหลีกเลี่ยงจากพวกทหารทั้งๆที่ในใจกำลังสับสนอย่างบอกไม่ถูกตกลงว่าร่างปริศนานั่นมาช่วยเขาใช่มั้ย?...แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงบอกให้เขาหนีไปล่ะ?...สรุปว่าเขากำลังถูกตามล่าจริงๆงั้นเหรอแล้วจากใครกัน?...

แต่ผู้ชายคนนั้นบอกว่าจะฆ่าแจนกับอาร์มินรวมไปถึงอัลด้วย!?....

หนำซ้ำยังรู้จักชื่อเราอีกต่างหาก!?...



เสียงเปิดประตูดังปังพร้อมกับร่างของเอเลนที่ยืนเท้าต้นขาตัวเองหอบแฮ่กๆอยู่นั้นทำให้มือที่กำลังจะใช้สำลีจุ่มแอลกอล์ฮอเช็ดแผลถึงกับหยุดชะงักจะเก็บหรือแอบให้พ้นก็ไม่ทันซะแล้วเมื่อเอเลนทำหน้าตกใจตรงปรี่เข้ามาหาเขา

"เกิดอะไรขึ้นอัล!?...ใครทำอะไรนายงั้นเหรอ!"

เอเลนทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าของเขาพร้อมกับสงสายตาเป็นห่วงมาให้จนอัลฟาเผลอยิ้มออกมาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเอเลนจะเป็นห่วงเขามากขนาดนี้

"ไม่ตลกนะบอกมาสิใครเป็นคนทำอัลฟา!?"

"ถ้าบอกแล้วจะไปทำอะไรเค้างั้นเหรอ?"

อัลฟาพูดแหย่น้องชายทั้งๆที่กำลังยิ้มกรุ่มกริ่มแต่แล้วแววตาที่เหมือนจะร้องไห้ของเอเลนก็ทำให้มือเย็นๆยกขึ้นมาแนบลงบนแก้มใส

"ตกจากเครื่องออกกำลังกายน่ะ...คงจะถูกน๊อตข่วนเอาอย่าทำหน้าแบบนี้สิ"

ได้ยินแบบนั้นน้ำตาที่อุตส่าห์อดกลั้นเอาไว้ก็ร่วงผล็อยลงมาทันทีไม่รู้ว่าเป็นเพราะรู้สึกโล่งใจหรืออะไรกันแน่รู้เพียงแค่ตอนนี้อยากจะร้องไห้

"นายนี่น้า~...เป็นพวกขี้แยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน"

มือปาดน้ำตาออกให้พร้อมกับรั้งหัวสีน้ำตาลเข้ามากอดเอาไว้เพื่อปกปิดรอยยิ้มร้ายและสายตามืดมนของตัวเองเอเลนที่แสดงความรู้สึกที่เป็นห่วงเป็นใยเขาขนาดนี้จะทำให้เสียเรื่องได้ยังไงกัน

"เล่าให้ชั้นฟังได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาย?"

ใบหน้ามนทำเพียงส่ายไปมาทั้งๆที่ยังซบอยู่ที่แผงอกของพี่ชายพร้อมกับเสียงอู้อี้ว่าไม่มีอะไร




มือบางค่อยๆทำความสะอาดแผลให้อัลฟาหลังจากสงบสติอารมณ์ลงได้ผ้าพันแผลที่พันรอบต้นแขนถึงจะไม่เรียบร้อยนักแต่อัลฟากลับไม่คิดจะใส่ใจเพราะนี่เป็นฝีมือของเอเลนหากแก้พันใหม่คงรู้สึกเสียดายไม่น้อยอีกอย่างแผลมันก็ไม่ได้ลึกอะไรมากมายขนาดนั้นถึงจะยาวจนปิดพลาสเตอร์ไม่ได้ก็เถอะ...

"เรียบร้อย!"

เอเลนขยับตัวจะลุกจากเตียงหลังจากทำแผลเสร็จแต่มือของอัลฟากลับคว้าข้อมือเอาไว้ซะก่อนใบหน้ามนจึงได้แต่หันไปทำหน้าสงสัยและอัลฟาก็ตอบข้อข้องใจนั้นออกมาทันที

"ค้างที่นี่นะ"

"อะ...อื้อ...แค่จะไปอาบน้ำเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว"

ใบหน้ามนรีบเบือนหลบสายตาจริงจังของพี่ชายที่ไม่รู้ทำไมเวลาถูกสายตาจริงจังแบบนั้นมองถึงได้รู้สึกประหม่าขนาดนี้จนหน้ารู้สึกร้อนผ่าวอย่างกับโดนไฟลนอีกหรือเพราะเพิ่งจะถูกอัลมองตัวสายตาแบบนี้?...เมื่อก่อนแต่รู้สึกถึงสายตาของอัลที่มองมาก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบจนอยากจะวิ่งหนีไปให้พ้นๆแต่ดูตอนนี้สิความรู้สึกมันต่างกันสุดขั่วแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?....
.
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue.....

ตามสัญญาค่ะ!

มาต่อให้อีกตอนแล้ว.....แต่ดูเหมือนจะสั้นกว่าตอนที่แล้วเยอะเลยเน้อะ?....

ยังไงก็ตามตอนที่แล้วบอกเพลนที่จะเขียนกันไปแล้วใช่มั้ยคะนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นหลังจากว่างช่วงก.คถึงส.คแล้ว
ก.ย.ก็มีงานหนักเข้ามาอีกนั่นคือวันเกิดของลูกสาวคนสวย?อย่างนู๋ก๊กต.คก็ตามด้วยทูน่าพ.ยเนี้ยวางแผนว่าจะปั่นของป๊ะป๋ากะไฮเสะไว้ลงวันที่ยี่สิบธ.คแล้วธ.คทั้งเดือนก็เป็นคิวของเฮห์โจวค่ะคงประมาณนี้แหละเน้อะ
//แม่มยุ่งทั้งปีเลยวุ้ยชั้น!///แต่ก็ยังจะทำเฮ่อะๆๆๆ

เห็นคิวตัวเองแล้วเหงื่อแตกพลั่กเลยแฮะ^?^ดีนะที่งานไม่ค่อยหนักหนาอะไร//ก็เจ้าของเป็นญาติตัวนี่เลยคุยได้//
แต่ปัญหาใหญ่ก็คือตัวเองเนี้ยแหละ??....

ช่างหัวอิสยามันเถอะไปแล้วค่ะบาย!



  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น