4 ก.พ. 2558

[KHR] Au.Fic.HBD.Dino Cavallone[D18] Kiss of Deceit. : 02

[KHR] Au.Fic.HBD.Dino Cavallone[D18] Kiss of Deceit. : 02


:[KHR] Fanfiction

:Romantic

:NC-17



HBD.Dino Cavallone 4/Feb.


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ














"ทั้งๆที่รู้ความรู้สึกฉันแล้วคุณพูดจาโหดร้ายแบบนี้ได้ยังไง!!"

คำพูดที่เขามักจะได้ยินอยู่เสมอเมื่อบอกเลิกใครสักคนเขาก็แค่ปฏิเสธคำขอที่มากเกินไปแต่พวกเธอก็มักจะด่าว่า...เขามันเห็นแก่ตัว...สำหรับเขาทุกๆคนควรจะแบ่งความรับผิดชอบกันไป...รุ่นพี่..เพื่อนร่วมงาน..ลูกน้อง...หญิงที่เป็นเพื่อนดื่ม...คนที่มีไอเดียใหม่ๆอยู่เสมอและคนที่ควรจะทำความรู้จักมันควรจะมีแค่นั้น...

คู่ขาเขามักจะเป็นสาวสวยโปรไฟล์สูงและเขารู้ดีว่าตัวเองมันแย่เพราะความจริงแล้วจะเป็นใครก็ได้หรืออีกนัยน์หนึ่งคือ...เขาไม่สามารถให้ความสนใจกับคนๆเดียวตลอดไปได้เพราะอยากมีอิสระและเกลียดการผูกมัดมันก็แค่นั้น...

แต่ทำไมทั้งๆที่เขาคิดแบบนั้นมาตลอด..ทำไมตอนนี้เขาถึงได้มายืนอยู่ที่แห่งนี้...BAR KISS OF DEATH...จริงๆแล้วมันก็ไม่อะไรหรอกนะ...ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวในโลกเสียเมื่อไหร่ที่โดนแบบนี้เพียงแต่....มือหนาผลักประตูเข้าไปด้านในและทันทีที่เข้าไป.....

"ดีคร้าบคุณดีโน่"

ทั้งๆที่ไม่คิดว่าร่างบางๆนั่นจะยังอยู่หรือแม้แต่กล้าสู้หน้าเขาแต่นี่ใบหน้าสวยๆนั่นกลับเปื้อนด้วยรอยยิ้มที่ดูมั่นใจเสียเหลือเกินแถมยังเอ่ยทักเขาราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขาซะอย่างงั้น....

ร่างสูงใหญ่เลือกที่จะเดินไปนั่งที่สุดปลายเคาน์เตอร์และเพราะเขามาตอนที่ร้านกำลังจะปิดแล้วลูกค้าในร้านจึงเหลืออยู่แค่สองสามคนเท่านั้นแต่แค่นั้นมันก็เพียงพอให้เขาเห็นอีกด้านของเคียวยะ...บทสนทนาที่ถึงแม้จะเป็นกันเองแต่รอยยิ้มที่ประดับบนริมฝีปากอิ่มนั้นกลับเป็นรอยยิ้มที่ดูมั่นใจอย่างผู้ที่เหนือกว่าไม่ใช่รอยยิ้มสดใสที่เขาเคยเห็นก่อนหน้าทำเอาความรู้สึกของเขาดำดิ่งลงไปจนเกือบจะติดลบเลยก็ว่าได้



"แล้วแวะมาใหม่นะครับ"

ร่างบอบบางส่งแขกคนสุดท้ายออกจากร้านก่อนจะปิดไฟที่หน้าร้านมือบางเอื้อมไปกลับป้ายที่แขวนอยู่ที่ประตูก่อนจะยกมือขึ้นสางเส้นไหมสีรัตติการของตัวเองให้ลงมาปรกหน้าเช่นเดิมมือข้างหนึ่งล้วงเอาบุหรี่ขึ้นมาคาบที่ปากแต่ขณะที่กำลังจุดไฟก็รับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องมาที่ตนเขม็งระคนไม่พอใจนิดๆอาจจะเป็นเพราะคนอย่างดีโน่ไม่ได้รู้สึกเสียดายทรัพย์สินพวกนั้นซึ่งตัวเขาก็รู้ดีแต่ที่ถูกบั่นทอนคงจะเป็นความเชื่อใจต่างหากที่รู้สึกว่าให้อภัยไม่ได้...


ริมฝีปากอิ่มหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินเข้าไปที่หลังเคาน์เตอร์และกลับออกมาพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่...

"หึหึ...อย่าทำตัวเกร็งขนาดนั้นสิครับเอ้านี่ผมคืนให้"

ถุงกระดาษในมือถูกยื่นมาให้เขาแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถามอะไรเจ้าตัวก็ตอบออกมาเรียบร้อย...

"ชุดกับกระเป๋าตังค์คุณที่ผมยืมไปเมื่อวันก่อน...ไม่ได้รูดการ์ดใบใหนหรอกนะแต่เงินสดหมดเกลี้ยงแล้ว"


ถึงจะรู้มาจากมุคุโร่แล้วก็เถอะแต่ร่างบอบบางตรงหน้าแตกต่างจากเมื่อวันก่อนโดยสิ้นเชิงจากคนที่ดูอ่อนหวานเรียบร้อยกลับกลายเป็นเจ้าตัวร้ายจนเขาชักจะไม่ชอบใจกับท่าทางจองหองแบบนี้....นัยน์ตาสีอำพันจ้องมองใบหน้าสวยๆนั่นด้วยแววตาที่นิ่งเฉยแล้วจู่ๆบทสนทนาของเขากับมุคุโร่ก็ลอยเข้ามาในหัวซะงั้น...




"นักต้มตุ๋นเก่า?!"

"คึหึหึ...ใช่ครับแถมยังมีชื่อเสียงซะด้วย"

"ทำไมนายไม่บอกชั้นก่อนล่ะห๊ะ!!??"

"ก็คุณไม่ได้ถามผมนี่ครับ"

"แล้วทำไมคนแบบนั้น...ทำไมเขาถึงไม่โดนจับล่ะ?"

"เคียวยะน่ะพลิ้วจะตายไปครับ"

"เริ่มแรกก็หมายตาคนรวยๆแถวๆหน้าของสังคมแล้วก็จัดการเหยื่ออย่างแนบเนียน...แล้วคุณโดนไปเท่าไหร่ล่ะครับ?"

"เงินสด....ก็ประมาณหกหมื่นได้"(หกหมื่นนี่หกหมื่นเยนนะคะคิดเป็นเงินไปก็ประมาณสองหมื่นบาทค่ะ)

"แล้วคุณจะยอมสละตารางงานที่แน่นเอียดไปแจ้งความเพื่อเงินแค่นั้นเหรอครับ"

"....."

"หรือว่าคุณจะทำครับ?"

"ไม่ล่ะ"

"เห็นมั้ยล่ะครับเคียวยะเองก็มองออกอยู่แล้วคงเป็นพรสวรรค์ล่ะมั้งครับแล้วยัง"

"หน้าสวยๆแบบนั้นอีกแค่ได้มองก็ชื่นใจแล้ว...ยิ่งได้ใช้เวลาอยู่ด้วยยิ่งเคลิ้มเข้าไปใหญ่...คุณเองก็คิดใช่มั้ยครับว่าต่อให้หมดตัวก็ไม่เป็นไร"

".....!"

"ผมเองก็หมดกับเค้าไปหลายแสนเหมือนกัน"

"ว่าไงนะนายด้วยเร๊อะ!!!"

"คึหึหึ...แต่จริงๆแล้วเค้าไม่อยากได้เงินหรอกนะครับแค่อยากเล่นกับความสามารถของตัวเองก็เท่านั้น"

"ปั่นหัวกันชัดๆนี่"

"แต่ยังไงเค้าก็ทำเรื่องไม่ดีอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเค้าอีกดีกว่านะครับถ้าแค่จะไปนั่งดื่มก็ได้อยู่"


ชั่วขณะหนึ่งเขาเผลอคิดว่าการหลอกลวงคืออะไร?...อยากจะถามว่ามุคุโร่เองก็นอนกับเคียวยะด้วยรึเปล่า?..แต่ทุกคำถามมันกลับวิ่งมาจุกที่ลำคอเพราะถ้าหากมุคุโร่ตอบว่าใช่ล่ะเขาจะทำยังไง?...

"เฮ้...ดีโน่คุณเป็นไรรึเปล่า?"

มือบางๆที่จับมาที่ไหล่ของเขาทำให้เขาหลุดออกมาจากห้วงความคิดใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองคนข้างๆด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามจนริมฝีปากอิ่มนั่นคลี่ยิ้มอย่างรู้ทัน

"อยากจะถามอะไรใช่มั้ย?"

"แน่นอน!"

แล้วคำถามเดียวกันกับที่เขาอยากจะถามมุคุโร่ก็ลอยเข้ามาในหัวอีกครั้ง....

"นาย..."

"ครับ?"

แล้วมันก็จุกอยู่ที่ลำคออีกครั้งทั้งๆที่เขาอยากจะถามออกไปว่า"นายนอนกันมุคุโร่ด้วยใช่มั้ย"แต่ทำไมถึง....

"ไม่มีอะไร"

"เห๋...หรือว่าที่คุณมาที่นี่?"

ใบหน้าสวยโน้มลงมาที่ข้างหูของเขาก่อนจะกระซิบออกมาเบาๆแต่ทำเอาเขาถึงกับเบิกตากว้าง!...

"คุณยังต้องการร่างกายของผมใช่มั้ยครับ"

เขารู้ว่าเคียวยะกำลังจงใจยั่วเขาเมื่อปลายจมูกโด่งรั้นนั่นจงใจเฉียดแก้มเขาก่อนที่ใบหน้าสวยๆจะเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้าเขาห่างกันเพียงไม่กี่เซนต์...

"ครั้งแรกเลยนะที่ผมรู้สึกดีขนาดนี้"

"ร่างกายของเราเข้ากันได้ดีมากเลยว่ามั้ยครับ?"

"เคียวยะ!"

มือหนาดันไหล่บางๆให้ออกห่างจากตัวเองทั้งๆที่รู้ดีว่าอีกคนกำลังจงใจแกล้งเขาแต่ดูเหมือนว่ามันจะช้าไปเมื่อมือบางนั่นโบกอะไรบางอย่างที่คุ้นตาอยู่ตรงหน้าเขา...

"คุณดีโน่...ไม่ระวังตัวแบบนี้จะดีเหรอคร้าบ~"

นัยน์ตาสีอำพันได้แต่เบิกกว้างเมื่อในมือของเคียวยะคือ.....

"กระเป๋าตังค์ใบใหม่ของชั้น!!...ตั้งแต่เมื่อไหร่!!??"

"อะฮะฮะฮะ...คุณนี่น่าแกล้งจริงๆ"

"เดี๋ยวก็โดนหลอกหรอกครับ"

ร่างสูงรีบคว้ากระเป๋าตังค์กลับมาอย่างลืมตัวจนอีกคนได้แต่หัวเราะร่ายกมือยอมแพ้...

"นายนี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆ!!"

"ดังนั้น...."

ดังนั้นเขาจะไม่มาที่นี่อีก...จะไม่ยอมให้เคียวยะมาปั่นหัวเขาเล่นแบบนี้อีกแล้ว...

"ดังนั้นอะไรครับ?"

"ไม่มีอะไร...ชั้นจะกลับแล้ว!"

ร่างสูงใหญ่ตัดสินใจเดินออกจากร้านโดยไม่หันกลับไปมองอีกมันคงจะดีกว่าสำหรับตัวเขาเองถ้าจะจบความรู้สึกพวกนี้ซะเห็นชัดอยู่แล้วว่ามีแค่เขาคนเดียวที่เผลอคิดไปไกลขนาดนั้น....






แต่ความรู้สึกพวกนั้นกลับยังตามมาหลอกหลอนเขา....
"บอสเป็นอะไรไปน่ะ?"

"นั่นสิปรกติจะไล่จี้โดยไร้ความปราณีจนกว่าจะได้ข้อสรุปที่พอใจนี่นานี่อะไรกันถามอะไรก็ตอบช้าแถมพูดไม่รู้เรื่องอีก?"

"พวกเธอก็...บอสก็คนนะคงจะมีปัญหาเหมือนคนอื่นๆนั่นแหละ"

"ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะแต่ถ้าขืนบอสยังเอาแต่ยืนถอนหายใจอยู่แบบนี้งานจะไม่เสร็จเอานะ"

เสียงซุบซิบของเหล่าลูกน้องลอยมาเขาหูของเขาทุกคำพูดนั่นแหละแต่ในตอนนี้เขาไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรได้เลย...เอาเข้าจริงเขากลับทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ในเมื่อใบหน้าสวยๆกับรอยยิ้มมั่นใจนั่นยังลอยมาวนเวียนจนเขาไม่มีสมาธิจะทำงานไม่ใช่ว่าเขาฝืนตัวเองไม่ให้ไปเจอแต่เพราะเขายังแวะเวียนไปที่นั่นแทบจะทุกวันแต่ตั้งแต่วันนั้นเคียวยะก็ไม่มาที่บาร์อีกเลยเค้าไปใหนกลับมาเมื่อไหร่ไม่มีใครให้คำตอบได้แม้แต่ผู้จัดการร้าน...เคียวยะหายไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบสามอาทิตย์เข้าไปแล้วมันทำเอาเขาแทบคลั่งอยู่ลอมล่อถ้านานกว่านี้...ถ้าหากพรุ่งนี้ยังไม่เจอเคียวยะอีกล่ะก็เขาคงบ้าตายแน่ๆ...


ก็รู้อยู่หรอกว่าจะต้องจัดการงานที่กำลังกองเป็นภูเขาบนโต๊ะให้เสร็จแต่เสียงหัวเราะที่ราวกับไม่ได้เสแสร้งในวันนั้นมันยังตามมาหลอกหลอนเขาทั้งๆที่พร่ำบอกตัวเองว่าให้หยุดคิดถึงแต่เหมือนมันจะยิ่งตอกย้ำลงไปบนแผลเดิมเสียมากกว่า

หัวสีทองเอนพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้ามือข้างหนึ่งยกขึ้นมาบีบขมับของตัวเองราวกับกำลังพยายามไล่ความคิดออกจากหัวสมองทั้งๆที่เลยเวลาเลิกงานไปนานมากแล้วแต่ตัวเขากลับยังอยู่ที่เดิมเพราะต่อให้กลับโรงแรมที่พักไปเขาก็นอนไม่หลับอยู่ดีแต่ถึงจะยังอยู่ที่บริษัทงานของเขามันก็ไม่คืบหน้าไปใหนเช่นกัน...

ขายาวๆเดินไปเปิดหน้าต่างออกก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงเก้าอี้เช่นเดิมแต่แทนที่มันจะหันเข้าหาภูเขางานบนโต๊ะเก้าอี้ของเขากลับหันไปรับลมเย็นๆที่พัดเข้ามาซะงั้น...เปลือกตาที่หนักอึ้งเพราะอดนอนมาหลายวันค่อยๆปิดลงราวกับความทุกข์ที่สุมอยู่ในจิตใจของเขาถูกสายลมเอื่อยๆหอบไป

แกร้ง!!

เสียงบิดลูกบิดประตูทำเอาเปลือกตาที่กำลังจะปิดลงเปิดขึ้นมาอีกครั้ง...

"ใคร?"

มีเพียงเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับตอบกลับมาจนเขาต้องหมุนเก้าอี้กลับมาแล้วคนที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหน้าเขาก็ทำเอานัยน์ตาสีอำพันได้แต่เบิกกว้าง...เคียวยะ!!...

"ว้าว...นี้ห้องทำงานของคุณเหรอกว้างดีนี่"

ร่างบอบบางหมุนไปรอบๆตัวราวกับกำลังจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องก่อนจะเดินมานั่งบนโต๊ะทำงานของเขาด้วยใบหน้าที่ยังคงเปื้อนยิ้ม...

"ทำเกี่ยวกับอะไรเหรอ?"

"...โฆษณา,เรียบเรียง,ออกแบบ,แล้วก็โปรโมทประมาณนี้แหละ"

และเขาก็เผลอตอบคำถามนั่นอย่างลืมตัว...ลืมไปแล้วว่าเขากำลังโกรธ

"อื้มม......เข้าท่าดีนิ"

เคียวยะกระโดดลงจากโต๊ะก่อนจะเดินมาหยุดที่ตรงหน้าเขามือบางๆจับปลายคางของเขาเอียงซ้ายทีขวาทีราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่างซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

"โทรมสุดๆไปเลยนี่นอนไม่พองั้นเหรอ?"

เหมือนฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลง...ดีโน่ลุกขึ้นคว้าข้อมือบางๆนั่นก่อนจะออกแรงบีบสุดแรงทั้งๆที่เขาคิดถึงคนตรงหน้าจนแทบบ้าแต่บทจะโผล่ก็กลับมายั่วโมโหซะงั้น...

"ทำไมเคียวยะ!?"

ร่างบอบบางสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุดก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะอีกครั้งอย่างไม่ยี่ระถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะเข้มขึ้นก็ตาม

"ทำไม?...จะถามว่ารู้ได้ยังไง?...หรือทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?"

"......."

"พูดสิ"

มือบางถอดรองเท้าข้างหนึ่งออกก่อนที่เท้าเปลือยเปล่าเรียวเล็กนั่นจะยื่นไปทาบลงที่ท่อนล่างกลางลำตัวของร่างสูงใหญ่อย่างท้าทาย...

"คิดถึงผมรึเปล่าดีโน่?"

ริมฝีปากอิ่มหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งไปให้ทั้งๆที่รู้ดีว่าอีกคนกำลังโกรธจัดและเพราะแบบนั้นเขาถึงได้รู้สึกชอบใจเพราะยิ่งโกรธเขามากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดถึงเขามากเท่านั้น...

เท้าเรียวบดเบียดลงไปเบาๆที่ช่วงกลางลำตัวของอีกคนราวกับกำลังหยอกล้อให้ใบหน้าหล่อเหลาได้แต่ขบกรามแน่น

"คิดถึงผมมั้ย?"

"คิดถึงสิ....ชั้นมีเรื่องอยากจะถามนาย"

"หื๋มม์?...ว่ามาสิ"

"ที่นายบอกว่าชอบชั้นในตอนนั้น...นั่นก็คำหลอกลวงของนายด้วยรึเปล่า?"

"ก็ตอนนั้น....ดูเหมือนคุณจะคิดว่าเป็นเพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต"

"ผมก็เลยคิดว่าถ้าผมพูดออกไปแบบนั้นต้องคว้าใจคุณได้แหงๆ"

สิ่งที่เพิ่งจะได้ยินทำเอารู้สึกชาวาบไปทั้งร่างเรี่ยวแรงดูเหมือนจะค่อยๆลดน้อยถอยลงจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่คำพูดของใครบางคนลอยผุดขึ้นมาหัวของเขาแทบจะทันที

"ทั้งๆที่รู้ความรู้สึกฉันแล้วคุณยังพูดจาโหดร้ายแบบนี้อีก...คุณมันเลวที่สุด!"

แบบนี้เองสินะที่พวกเธอรู้สึก....เจ็บจนแทบจะขยับตัวไม่ไหว....

"ฮะฮะ...คุณนี่ดูออกง่ายชะมัด"

"หมายความว่าไง?"

มือบางผลักเขาจนเซลงไปนั่งบนเก้าอี้หากเป็นในยามปรกติที่เขาแข็งแรงดีแรงแค่นี้ไม่ทำให้เขาขยับไปใหนได้เสียด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เขา...

ร่างบอบบางตามขึ้นมานั่งคร่อมที่หน้าตักของร่างสูงใหญ่เรียวแขนผอมบางโอบรอบคอของอีกคนเอาไว้หลวมๆริมฝีปากอิ่มเคลื่อนเข้ามาคลอเคลียตามใบหน้าหล่อเหลาอย่างจงใจจะยั่วยุ...

"เฮ้....มุคุโร่ก็น่าจะบอกคุณแล้วนี่ว่าอย่าเข้าใกล้ผมน่ะใช่มั้ย?"

"......."

"หมอนั่นน่ะถึงจะเหลี่ยมจัดแต่ซื่อบื้อเป็นบ้าคุณจะไม่เชื่อที่เขาเตือนคุณดูหน่อยเหรอดีโน่?"

ถึงจะรู้ดีว่าทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เกิดขึ้นมันก็แค่เรื่องโกหกแต่ความรู้สึกที่มันอัดแน่นอยู่ในหัวใจมันกลับสั่งให้ทำขัดกับที่สมองคิด...สองแขนแข็งแรงโอบกอดร่างบอบบางเอาไว้แน่นใบหน้าหล่อเหลาซบลงไปบนแผ่นอกบางนั้นมีสีหน้าที่แสนจะเจ็บปวดเพราะไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางตัดใจจากเคียวยะได้...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามใจของเขามันแทบจะแหลกสลายเพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้เห็นใบหน้าสวยๆนี่อีก...

"ชั้นต้องการนาย!"

"ทั้งที่ผมจะหลอกคุณอีกงั้นเหรอ?"

"ไม่เป็นไร!"

"ผมจะหลอกเอาเงินด้วยนะ?"

"เดี๋ยวชั้นหาเอาใหม่!"

นัยน์ตาสีรัตติกาลถึงกับเบิกกว้างชั่วขณะก่อนจะปรับให้เป็นปรกติอ้อมแขนผอมบางกระชับกอดหัวสีทองที่ซุกที่แผ่นอกของตัวเองให้แน่นขึ้นทั้งๆที่ใบหน้ายังประดับไปด้วยรอยยิ้มร้าย...

"อดนอนจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วรึไงดีโน่?"

"ชั้นไม่เป็นไร!"

"ต่อให้สุดท้ายต้องหมดเนื้อหมดตัว....ของแค่นายยังอยู่ข้างๆชั้นก็พอ!"

รอยยิ้มพอใจประดับอยู่บนใบหน้าสวยมือบางทั้งสองข้างย้ายมาประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้...ริมฝีปากอิ่มแนบชิดลงไปบนริมฝีปากหยักได้รูปแผ่วเบาราวกับกำลังเชื้อเชิญเรียวลิ้นเล็กไล้เลียไปทั่วริมฝีปากหยักได้รูปอย่างเชื่องช้าก่อนจะละออกมากดจูบลงไปมีหน้าผากกว้างของคนตัวสูง...

"ท่าทางคุณจะซื่อบื้อยิ่งกว่าซะอีก...สมองคุณมีอะไรผิดปรกติแน่ๆ"

"ชั้นไม่เป็นไร"

มือหนารั้งท้ายทอยสีรัตติกาลให้โน้มลงมารับจูบแผ่วเบาแต่สุดแสนจะอ่อนโยนและล้ำลึกมือที่เคยโอบกอดสอดเข้าไปลูบไล้แผ่นหลังบางใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวอย่างถือสิทธิ์ความนุ่มนิ่มทำเอาความรู้สึกที่มันอัดอั้นมานานแทบคลั่ง...ริมฝีปากเริ่มบดเบียดลงไปบนริมฝีปากอิ่มแรงขึ้นมือที่ยังรั้งท้ายทอยกดลงมาให้บดเบียดได้มากขึ้นเรียวลิ้นที่สอดแทรกเข้าไปเริ่มกวาดต้อนเรียวลิ้นเล็กอย่างเอาแต่ใจจนมือบางเริ่มจะผลักใสหาช่องทางหายใจ!...

"อื้อ!!...อื้ออ!..."

เสียงประท้วงเล็กๆที่ดังขึ้นทำให้เขายอมละริมฝีปากให้อีกคนได้หายใจนัยน์ตาสีอำพันจ้องมองใบหน้าสวยที่เปลี่ยนเป็นสีระเรื่อด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกริมฝีปากอิ่มที่เริ่มจะแดงช้ำจากแรงบดเบียดของเขาอ้าออกน้อยๆเพิ่อช่วยหอบออซิเจนเข้าปอดนั้นบัดนี้ไม่หลงเหลือรอยยิ้มร้ายอยู่เลย...ใช่...เขาก็แค่อยากจะทำลายรอยยิ้มมั่นใจนั่น!...ให้ริมฝีปากอิ่มๆนั่นกรีดร้องและส่งเสียงครางอยู่ใต้ร่างของเขาก็พอ!...

ใบหน้าหล่อเหลาย้ายเข้าไปคลอเคลียที่ซอกคอขาวผ่องกลิ่นหอมหวานยิ่งกว่ามวลดอกไม้ก็ไม่ปานทำให้อดไม่ได้ที่จะกดจูบขบเม้มฝากร่องรอยเอาไว้มือทั้งสองข้างจัดการกับอาภรณ์ที่ปกปิดร่างกายที่สุดแสนจะยั่วยวนนี้เอาไว้ด้วยความชำนาญไม่นานร่างบอบบางก็เหลือเพียงเชิ้ตที่หลุดหลุ่ยเท่านั้นที่ยังคลุมร่างกาย

"ฮ้า...อ่ะ!...คุณมันเกินเยียวยาแล้วดีโน่!"

"ชั้นรู้"

ใบหน้าหล่อเหลาฝังลงไปที่ไหปลาร้าพร้อมกับขบเม้มแรงๆจนร่างบอบบางถึงกับสะดุ้งน้อยๆแต่ถึงอย่างนั้นเขากลับคิดว่าแค่นี้มันยังไม่พอต่อให้เขาสร้างร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของมากเท่าไหร่มันก็ไม่มีทางพอ!!....

"อ้า!!...ยะ...อย่ากัดนะ!!"

ฟันคมๆงับลงไปที่ลาดไหล่บางเต็มแรงจนเลือดซิบแน่นอนมามือบางเริ่มจะผลักใสทันทีแต่อ้อมแขนของเขาจะไม่มีวันปล่อยร่างบอบบางนี่ไปเป็นอันขาด!...

"อื้ออ!!...ฮ้า...ฮ้า..."

มือหนาจับสะโพกมนกดลงไปรับแกนกายของตัวเองรวดเดียวจนมิดจนอีกคนส่งเสียงครางไม่เป็นภาษาสองมือบางที่เคยผลักไสหัวสีทองตอนนี้กลับกอดมันเอาไว้แน่นความร้อนลุ่มและจุกแน่นที่ช่องทางด้านหลังทำเอารู้สึกหายใจติดขัดแต่ยามที่ร่างสูงใหญ่ขยับแกนกายกลับทำเอาสุขล้นอย่างบอกไม่ถูกจนเขาเผลอขยับสะโพกตามจังหวะการสอดใส่ของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว...

"อื้มม...ใหญ่เป็นบ้า......"

มือหนาเคลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าสวยที่ลงมารับจูบก่อนจะเคลื่อนลงไปคลอเคลียที่ซอกคอขาวผ่องและ!!...

"ยะ...หยุดดีโน่!...อี้ออ!!"

ฟันคมๆงัดลงไปที่ซอกคอขาวผ่องอีกครั้งและอีกครั้งถึงจะไม่รุนแรงเท่าครั้งแรกแต่ก็มากพอที่จะเห็นร่องรอยของฟันเขาได้ชัดเจน

"เป็นมาโซรึไงหื๋มม์ถึงได้ตอบรับชั้นดีขนาดนี้น่ะเคียวยะ?"

"....นั่นน่ะ...มันคุณต่างหาก!...อ๊ะ!!...."

มือหนาจับสะโพกมนกดลงไปอีกครั้งทั้งๆที่อีกคนยังไม่ทันตั้งตัวจนสองแขนผอมบางผวากอดหัวสีทองเอาไว้แน่นริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนช้ำเพื่อระบายความจุกแน่นที่ช่องทางด้านหลังแต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงใหญ่ก็ยังคงขยับแกนกายเข้าออกอย่างเอาแต่ใจให้สาสมกับที่ร่างในอ้อมแขนปล่อยให้เขาคิดถึงจนแทบคลั่งแบบนี้...ความรู้สึกดีเมื่อครู่ถูกดึงให้จมดิ่งลงไปในหุบเหวแห่งความทรมานอีกครั้ง

"อิ๊ก!...อืออ...ดีโน่!...ดะ...เดี๋ยว!...."

ริมฝีปากหยักได้รูปขบลงไปที่ซอกคอระหงฝากร่องรอยที่ยากจะลบเลือนเอาไว้อีกนับครั้งไม่ถ้วนจนร่างบอบบางถึงกับร้องเสียงหลงที่ไม่รู้ว่าจะครางหรือร้องห้ามดีเมื่อร่างสูงใหญ่ยังคงขบเม้มสลับขบกัดไปทั่วแผ่นอกบางทั้งๆที่มือยังกดสะโพกมนอย่างเอาแต่ใจบทรักที่สุดแสนจะเร่าร้อนและรุนแรงยังดำเนินต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดราวกับว่าเขาคนนี้กำลังกลืนกินทุกๆสิ่งทุกๆอย่างของร่างบอบบาง...ทุกสิ่งทุกอย่างรวมทั้งจิตวิญญาณที่หล่อหลอมรวมกันเป็นร่างในอ้อมแขนของเขา!!...


ริมฝีปากอิ่มที่แดงซ้ำจากการบดเบียดด้วยรสจุมพิตที่แสนจะเร่าร้อนเผยอออกน้อยๆอย่างพยายามปรับลมหายใจเมื่อร่างสูงใหญ่ยังคงถาโถมแรงอารมณ์อย่างหนักหน่วงแต่ในความสุขสมที่แสนจะทรมานนี้กลับปรากฏรอยยิ้มร้ายอยู่ภายในจนเผลอคิดไปว่าถ้าหากเขาหายไปนานกว่านี้ผู้ชายคนนี้อาจจะคลั่งตายก็ได้...








นัยน์ตาสีอำพันค่อยๆเปิดขึ้นเมื่อแสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างมือข้างหนึ่งยกขึ้นมานวดขมับของตัวเองเบาๆก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้างเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น!..อีกครั้งที่ข้างกายของเขาไร้เงาของร่างบอบบางนั่น

"เคียวยะ!!"

ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อรอบกายมันไม่คุ้นตาเลยสักนิดจำได้ว่าเขากับเคียวยะ.....ที่ออฟฟิศแต่ตอนนี้เขากลับอยู่ในโรงแรมและที่น่าแปลกกว่านั้น

"นี่มันโรมแรมเดียวกันกับตอนนั้น!?"

เรื่องราวเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้าฉายเข้ามาในหัวจนดีโน่ได้แต่ถอนหายใจขายาวๆก้าวไปที่ระเบียงด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าเมื่อคืนเขาคงจะหมดสติไปเพราะอดนอนมาหลายวันแต่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อที่เคียวยะพาเขามาที่นี่ได้ทั้งๆที่เขารุนแรงมากขนาดนั้นร่างบอบบางนั่นควรจะขยับไปใหนไม่ได้แล้วแท้ๆ

คราวนี้เสื้อผ้าของเขายังอยู่ครบที่เขี่ยบุหรี่ที่โต๊ะข้างเตียงมีก้นบุหรี่มากกว่าคราวที่แล้วจนเขาอยากจะรู้ว่าเคียวยะทำหน้าแบบใหนตอนที่นั่งสูบบุหรี่พวกนี้ที่ข้างๆเขากระเป๋าตังส์ก็ยังอยู่มีเพียงเงินสดเท่านั้นที่หายไป

"ฮะฮะฮะ...."

มันคงเป็นไปไม่ได้เลยสินะที่เขาจะกักขังเคียวยะเอาไว้ข้างๆกาย...ร่างบอบบางนั่นชั่งเหมือนกับปุยเมฆที่เขายิ่งไขว้ขว้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งลอยไปไกลมากเท่านั้นหรือถึงแม้จะเอื้อมจับมันได้แต่ก็สลายหายไปต่อหน้าต่อตาอยู่ดี

มือหนายื่นออกไปบนฟ้าราวกับกำลังประคองเมฆสีขาวที่ค่อยๆเคลื่อนตัวจากไปทั้งๆที่รู้ดีว่าไม่มีวันเอื้อมถึง...แต่ถึงอย่างนั้นรสสัมผัสหวานล้ำที่ตราตรึงอยู่ในหัวมันกลับยิ่งทำให้เขาถลำลึกจนถอนตัวไม่ขึ้น...

"แค่นายเท่านั้นเคียวยะ....แค่นายคนเดียวที่ชั้นจะไม่ยอมปล่อยมือ!"

ต่อให้ต้องหมดเนื้อหมดตัวเขาก็จะทำ!...ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ร่างบอบบางที่แสนจะเย่อหยิ่งนั้นมาครอบครอง!












"อ้า~...ไอ้ม้าหื่นนั่นรุนแรงชะมัดแบบนี้ก็คงต้องหยุดงานอีกสักพักแล้วสินะ"

นัยน์ตาสีรัตติกาลมองร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยช้ำสลับกับรอยฟันที่ใครบางคนฝากเอาไว้ในกระจกด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกเพราะจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรก็ไม่ใช่ซะทีเดียว...มันรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลานั่นทรมานและเจ็บปวดเพราะเขา...รู้สึกดีจนคิดว่าในโลกนี้คงไม่มีใครโง่เง่าหลงเขาหัวปักหัวปำแบบนี้อีกแล้วแต่จะว่าไปเขาก็ไม่เคยเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับใครมากเท่ากับคนคนนี้เลยสักครั้งถ้าหากรู้ว่าใครอยากจะผูกมัดเขาก็จะชิงตีตัวออกห่างทันทีแต่สำหรับดีโน่แล้วมันมีอะไรที่น่าสนุกมากกว่าคนอื่นๆก็เท่านั้น


ก็แค่อยากจะเล่นสนุกต่ออีกสักพักเท่านั้นเอง.....


กิโมโนสีดำถูกบรรจงสวมอย่างอ้อยอิ่งก่อนที่ร่างบอบบางจะทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มนิ่มเปลือกตาจะค่อยๆปิดลงช้าๆเมื่อทั้งพลังชีวิตและร่างกายของเขาถูกใช้งานอย่างหนักจนแทบจะไม่เหลือพลังอีกต่อไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue!!!..


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น