4 ก.พ. 2558

[KHR] Au.Fic.HBD.Dino Cavallone[D18] Kiss of Deceit. : 01

[KHR] Au.Fic.HBD.Dino Cavallone [D18] Kiss of Deceit. : 01


:[KHR] Fanfiction

:Romantic

:NC-17



HBD.Dino Cavallone 4/Feb.


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ








     ร่างสูงใหญ่ตามสไตล์คนยุโรปก้าวเข้าไปยืนหลังเส้นสีเหลืองหลังจากมีเสียงประกาศจากเจ้าหน้าที่ว่ารถขบวนต่อไปกำลังจะเข้าเทียบชานชลาใบหน้าหล่อเหลาภายใต้กรอบเส้นผมสีทองสว่างยังคงเรียบเฉยถึงจะรับรู้ได้ถึงสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองมาที่เขาและแน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนก็หนีไม่พ้น...

ทั้งๆที่เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติดหรือลึกลับซับซ้อนอะไร...แต่ถ้าหากอะไรที่ใครๆเค้าเรียกว่าโชคชะตาแห่งการพบกันโดยบังเอิญหรืออีกนัยน์หนึ่งก็คือพรมลิขิตแล้วล่ะก็


มันกำลังจะเกิดขึ้นกับเขา.......


ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่เคยเชื่อเรื่องพรมลิขิตอะไรนั่นก็ตามที.......

สองขายาวๆก้าวขึ้นไปบนขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่ว่ากันว่าเป็นยานพาหนะที่เร็วที่สุดในญี่ปุ่นรองจากเครื่องบินแต่ก็ยังหนีไม่พ้นสายตาใคร่รู้พวกนั้น...มันก็ไม่แปลกที่เขาจะดูโดดเด่นซะขนาดนั้นในเมื่อเขาไม่ใช่คนที่นี่แต่เป็นชื้อสายและสัญชาติอิตาลีโดยกำเนิดนี่นะ...ทั้งหน้าตาที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจบวกกับความดูดีดีกรีผู้บริหารของบริษัทรับออกแบบโฆษณาเข้าไปด้วยแล้วใครๆก็ต้องสนอกสนใจเป็นธรรมดา...ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่อยู่ณ.ที่นี้จะไม่รู้จักหน้าที่การงานของเขาก็ตามที....

ในเมื่อมันเป็นเรื่องแปลกที่คนธรรมดาจะอ่านหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจหรือการเงิน....

แต่เพราะมีหุ้นส่วนที่เขาร่วมกันลงทุนที่ญี่ปุ่นเขาจึงต้องเดินทางมาที่นี่ทุกๆสองถึงสามเดือน...ถึงแม้ว่าเจ้าหมอนั่นจะส่งรถมารับที่สนามบินอยู่แล้วครั้งนี้ก็เช่นกันแต่เขาก็เลือกที่จะขึ้นชินคันเซ็นไปเองเพราะมันดูจะสะดวกสบายกว่ากันเยอะ...และนั่นมันทำให้เขารู้ว่าเขาคิดผิด...

เมื่อขบวนรถที่มุ่งหน้าสู่เมืองหลวงอย่างกรุงโตเกียวในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้มันแน่นถนัด!...ไม่มีแม้แต่พื้นที่จะให้ขยับตัวได้เลยแต่มันก็ตื่นเต้นท้าทายไปอีกแบบ....

"อั๊ก!..."

ใครบางคนพุ่งเข้ามาชนแผงอกของเขาเข้าเต็มๆถึงจะตกใจอยู่บ้างแต่ด้วยสันชาติญาณทำให้เขารีบประคองไหล่เล็กๆของคนตรงหน้าเอาไว้...หัวสีดำขลับราวกับรัตติกาลที่ไร้ดางดาวยังคงพิงที่อกของเขาไม่ขยับไปใหนไหล่เล็กบางนั่นเคลื่อนไหวขึ้นลงตามแรงหอบหายใจของเจ้าตัวดูแล้วน่าสงสารอย่างบอกไม่ถูก...คงจะเหนื่อยน่าดู...เหมือนกับเพิ่งจะวิ่งหนีอะไรบางอย่างมายังไงยังงั้น...

"เป็นอะไรรึเปล่า?"

ร่างสูงใหญ่เอ่ยถามออกไปให้คนที่สูงแค่อกเงยหน้าขึ้นมามอง

"ขะ...ขอโทษครับ!!...แฮ่ก...แฮ่ก..."

และทันทีที่สบตากันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุนไปชั่วขณะ...ใบหน้าสวยหวานนั้นมีเม็ดเหงื่อเกาะพราวตามกรอบหน้านั่นชวนมองไม่ใช่เล่นจนเขาแทบจะหยุดหายใจนัยน์ตาสีเดียวกับเรือนผมสั่นระริกปริ่มน้ำราวกับจะร้องไห้ถ้าหากเขาดุออกไปทำเอาเขาคิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะหาคำบรรยาใดมาเปรียบเทียบคนตรงหน้าดีนอกเสียจาก

สวย?..

สวยอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน...แต่ศัพนามที่อีกฝ่ายใช้แทนตัวเองมันกลับขัดแย้งกับใบหน้าโดยสิ้นเชิง?...

เป็นผู้ชาย?

"เจ็บตรงใหนหรือเปล่าครับ?"

"เอ่อ....ชั้นไม่...เป็นไร"

มือหนายกขึ้นมากุมที่อกด้านซ้ายของตัวเองอย่างลืมตัวเมื่อหัวใจที่แทบจะตายด้านของเขามันเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแม้กระทั้งกับผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยติดอันดับต้นๆของวงการนางแบบอิตาลีเขายังไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้งแต่กับร่างบางตรงหน้าแล้ว......

"เจ็บตรงนี้เหรอครับ?"

นัยน์ตาสีอัมพันถึงกับเบิกกว้างเมื่อมือบางๆนั่นทาบทับลงมาที่มือของเขาความนุ่มนิ่มของมันทำให้หัวใจที่ว่าเต้นแรงเมื่อครู่มันเหมือนกับหยุดชะงักไปชั่วขณะก่อนจะกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง....

ความรู้สึกแบบนี้มัน?.....


....จะผิดมั้ยนะถ้าตอนนี้เขาจะเชื่อเรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตอะไรนั่น....

โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนเป็นคนกำหนดโชคชะตานั่นด้วยมือตัวเอง.....





ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมงกว่าร่างสูงใหญ่จะหาทางไปถึงโรงแรมที่พักได้เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบวกกับไม่คุ้นชินเส้นทางทำให้เขาเบลอจนเลยสถานีกว่าจะวกกลับมาได้ก็เล่นเอาเหงื่อแตกพลั่ก....ถึงจะได้เหงื่อเอาเรื่องแต่เขากลับรู้สึกว่ามันคุ้มค่าอย่างบอกไม่ถูก....

มือหนายกขึ้นมาทาบทับที่อกข้างซ้ายของตัวเองพรางหยักยิ้มน้อยๆ....ถึงแม้ว่าตอนนี้มันเกือบจะกลับมาเต้นเป็นปรกติแต่ร่องรอยความนุ่มนิ่มที่ยังหลงเหลืออยู่บนหลังมือของเขามันชวนให้คิดถึงใบหน้าสวยๆนั่นขึ้นมาอีกจนได้....นานแค่ใหนแล้วที่ใจเขาไม่เคยเต้นแรงแบบนี้นานแค่ใหนแล้วที่เขาไม่เคยสัมผัสความรู้สึกโหยหาแบบนี้...เกือบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขาก็เป็นเพียงมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อและจิตใจ.

ทำไมจะไม่รู้ว่าเขากำลังตกหลุม......

RRRRR RR~~

มือหนาควานหามือถือที่หัวเตียงทั้งๆที่มืออีกข้างยังกุมที่หน้าอก...เบอร์ที่โชว์บนหน้าจอทำให้เขาหลุดขำออกมาเบาๆก่อนจะกดรับสาย

"ไง?"

[คุณกลับถึงโรงแรมรึยังครับ?]

"อา...ถึงแล้วล่ะกำลังจะนอนแล้ว...ฮะฮะ"

[คุณนี่มันจริงๆเลยนะครับให้ผมไปรับตั้งแต่แรกซะก็สิ้นเรื่อง]

"นายบ่นชั้นมากพอแล้วน่ามุคุโร่ยังไงซะชั้นก็ปลอดภัยดีก็แล้วกัน"

[คึหึหึหึ...แปลกใจนะครับเนี้ยที่คราวนี้คุณมาคนเดียวหรือจะมาหาเอาแถวนี้กันครับ]

"ฮะฮะฮะ....เบื่อๆน่ะก็กะว่าจะหาแถวนี้อยู่เหมือนกันถ้าเจอที่ถูกใจล่ะนะ"

[งั้นก็พักผ่อนเถอะครับไว้พรุ่งนี้ผมจะพาไปหาอะไรสนุกๆทำราตรีสวัสดิ์ครับ]

"อืมม..บาย"

"เดี๋ยวมุคุโร่!....."

ร่างสูงใหญ่โพลงออกไปเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แต่แล้วก็เงียบไปเมื่อนึกขึ้นมาได้อีกว่าถ้าหมอนั่นรู้ต้องหัวเราะเขาแน่ๆก็คนอย่างมุคุโร่น่ะไม่มีทางเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้วคนที่กำหนดอนาคตของตัวเองอย่างนั้น...ทุกอย่างต้องลิขิตเองอยู่แล้ว

[ครับคุณดีโน่?]

"อ่า...ไม่มีอะไร"

มือถือถูกโยนไปที่ด้านหัวเตียงอย่างไม่ใส่ใจริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงหน้าของใครบางคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อแต่กลับทำให้หัวใจที่ด้านชาของเขากลับมาเต้นแรงได้อย่างน่าประหลาดทั้งๆที่เป็นผู้ชายแท้ๆแต่กลับไม่มีส่วนใหนใกล้เคียงเลยสักนิดทั้งรูปร่างทั้งหน้าตาราวกับถอดออกมาจากภาพวาดของจิตกรมือหนึ่งก็ไม่ปาน....สวยจนไม่ว่ายังไงก็อยากจะเจอกันอีกสักครั้งและคราวนี้เขาจะต้องรู้จักร่างบางนั่นมากกว่านี้ให้ได้




แสงไฟที่ส่องสว่างไสวทั้งจากตึกรามบ้านช่องและร้านค้ามากมายตลอดสองข้างทางทำให้เมืองหลวงของญี่ปุ่นดูมีเสน่ห์น่าค้นหาจนกลายเป็นอัตลักษณ์ของเมืองนี้ไปซะแล้ว นัยน์ตาสีอำพันยังคงมองออกไปนอกกระจกรถดูผู้คนมากมายที่เดินขวักไข่วไปมามันทำให้รู้สึกเพลินไปอีกแบบ เขาชอบเวลากลางคืนมากกว่ากลางวันไม่ว่าที่ใหนๆอาจจะเป็นเพราะมันทำให้เห็นตัวตนของคนในหลายๆด้านทั้งตัวตนที่แท้จริงหลอกลวงและเสแสร้งของพวกนี้หาได้ยากหากดวงอาทิตย์ยังไม่ลาลับขอบฟ้าเพราะคนส่วนใหญ่ซ่อนมันไว้ภายใต้หน้ากากของคำว่าสังคมรอยยิ้มแย้มบานพวกนั้นมันไม่เคยทำให้รู้สึกดีได้เลยแม้แต่น้อยแม้กระทั่งตัวเขายังรู้สึกอึดอัดที่ต้องฝืนยิ้ม

"ดูเหม่อๆนะครับเป็นอะไรรึเปล่า?"

ความคิดที่กำลังฟุ้งซ่านของเขาถูกดึงกลับมาอีกครั้งเมื่อคนข้างๆทักขึ้นมา

"ผมล่ะห่วงอนาคตของคุณจริงๆนะครับคุณดีโน่"

เจอหน้ากันปุ๊บคนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งหุ้นส่วนก็เริ่มบ่นเขาทันทีที่จริงเมื่อเช้าก็รอบหนึ่งแล้วล่ะพอกลับมาเจอกันอีกตอนเย็นเค้าก็เริ่มเทศนาอีกรอบดีที่ตอนเที่ยงไม่ได้เจอกันไม่งั้นเขาคงได้หูชาไปอีกเป็นอาทิตย์แน่...

"เอาน่า...ชั้นว่าชั้นก็ไม่ได้ทำให้นายเป็นห่วงในฐานะผู้บริหารนี่จริงมั้ย?"

"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องงานแต่หมายถึงชีวิตส่วนตัวของคุณต่างหากล่ะครับ"

"มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนายเลยนี่น้า~...ฮะฮะฮะ"

"คึหึหึ...ก็จริงของคุณ...ว่าแต่แม่นางแบบที่คุณคบอยู่เป็นยังไงบ้างครับแล้วทำไมคุณถึงไม่แต่งงานแต่งการก่อนที่จะมีอะไรแย่ๆเกิดขึ้น?"

"อ่า~...เธอคนนั้น.....ชั้นชอบผู้หญิงนะถ้าพวกเธอจะลดความงี่เง่าลงน่ะ"

ร่างสูงใหญ่เอนพิงเบาะที่ด้านหลังด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะยิ้มหน่ายๆให้กับคนข้างๆแต่ถึงอย่างนั้นถ้าหากเขาไม่ยอมเล่าให้ฟังมันก็คงจะไม่มีทางจบแน่ๆ....



"คุณดีโน่ยังโสดอยู่ใช่มั้ยคะ?"

"สำหรับคุณแล้วฉันเป็น....."

"โทษทีนะ...ถึงเราจะมีอะไรกันแต่ชั้นก็ไม่ได้อยากจะมีความสัมพันแบบนั้นกับเธอ"

"เอ๊ะ!!..."

"สำหรับชั้นแล้วเธอเป็นได้แค่เพื่อนดื่มที่ทำให้ชั้นรู้สึกดีก็เท่านั้น"

"อีกอย่างช่วงนี้มีโปรเจคใหม่เข้ามาเยอะชั้นคงไม่มีเวลาให้เธอหรอกขอโทษจริงๆ"

"ฮึก...ฮึก...คุณมันเลวที่สุด!...ทำไมถึงพูดจาโหดร้ายแบบนี้กับฉัน...ฮึก...ฮึก..."



"ก็แบบนี้แหละ"

ความจริงที่เพิ่งจะเกิดขึ้นถูกถ่ายทอดออกมทั้งหมดและเขาเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว..

"คึ...ฮะฮะฮะ...แล้วคุณทำยังไงต่อครับ?"

"ขำอะไรนักหนาห๊ะ!....ชั้นก็ทิ้งเงินไว้นิดหน่อยแล้วก็หนีกลับบ้านน่ะ"

"คึหึหึหึ...คุณนี่ชั่งเป็นพ่อหนุ่มที่ใจร้ายจังเลยนะครับ...แต่คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้งมันถึงให้คุณดูน่าสนใจ"

"อ่า...ชั้นว่าคนที่ร้องไห้ฟูมฟายในสถานการณ์แบบนั้นแหละใจร้ายมันน่ารำคาญจะตายไป"

"หึ...ผมว่าจะต้องโดนแก้แค้นเข้าสักวันแน่ๆ"

"ชั้นก็คิดว่างั้น"

ใช่ตัวเขาเองก็คิดว่าสักวันเขาคงจะต้องถูกใครสักคนแก้แค้นเข้าจนได้แต่เขาก็เชื่ออีกเช่นกันว่าเขาจะไม่มีทางร้องไห้ฟูมฟายอย่างพวกเธอแน่นอน...

"ในฐานะ CEO คุณไร้ที่ติอย่างหาตัวจับยากแต่....ถ้าในฐานะคนรักคุณมันแย่ที่สุด"

"ใจร้ายชะมัด...ว่าแต่นายเถอะมีใครเป็นตัวเป็นตนแล้วรึไงบ่นชั้นอยู่ได้"

"คึหึหึ..."

หัวเราะกลบเกลื่อนซะงั้นแถมไอ้ที่ว่าเขาปาวๆอยู่เนี้ยมันก็เข้าตัวเองหมดไม่ใช่รึไง...ไอ้หัวสับปะรดคนใหนกันที่ขึ้นข่าวหน้าหนึ่งทุกอาทิตย์เรื่องรักๆเลิกๆเนี้ยอยากรู้จัง!

"ไม่มีใครทำให้ใจของคุณเต้นแรงบ้างเลยเหรอครับ?"

นัยน์ตาสีอำพันถึงกับเบิกกว้างกับคำพูดลอยๆของอีกคน...คนที่ทำให้ใจเต้นแรง...

มือหนายกมือกุมหลังมืออีกข้างของตัวเองอย่างลืมตัว...สัมผัสนุ่มนิ่มจากมือเรียวเล็กของใครบางคนทำเอาเขารู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก...

"โน่.....ค..."

"...ดี...โน่..."

"คุณดีโน่ครับ?"

แรงเขย่าที่หัวไหล่เรียกให้ร่างสูงหลุดออกจากภวังค์ก่อนจะรีบตีสีหน้าให้กลับมาเป็นปรกติ...

"เป็นอะไรไปครับ?"

"อ่า...โทษทีๆคิดอะไรเพลินๆน่ะ"

"งั้นก็ไปกันเถอะครับถึงแล้ว"

BAR KISS OF DEATH

นัยน์ตาสีอำพันเหลือบป้ายชื่อร้านแล้วก็ให้ต้องหันกลับมาหาคนข้างๆ

"ที่นี่เหรอที่จะพาชั้นมา?"

"ครับ"

ใบหน้าเรียวหล่อเหลายิ้มน้อยๆก่อนจะเดินนำเข้าไปด้านในเขาจึงได้แต่เดินตามหลังเข้าไปถึงจะยังติตใจชื่อของบาร์อยู่ก็ตามทีแต่บรรยากาศด้านในกลับดูไม่วุ่นวายและเรียบง่ายกว่าที่คิด แสงไฟสลัวๆนิดๆที่ไม่ถึงกับมืดมิดหรือสว่างจนเกินไปทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ

"หื๋มม์เข้าท่าดีนี่นายนี่รสนิยมเป็นเลิศตลอดเลยนะมุคุโร่"

"ยินดีต้อนรับคร้าบมุคุโร่ซัง!"

บาร์เทนเดอร์กล่าวต้อนรับรุ่นน้องของเขาอย่างเป็นกันเองจนไม่ต้องเดาเลยว่าหมอนี่ต้องมาที่นี้บ่อยมากๆแต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกนี่กลับทำให้เขาคิดว่าหากมากับสาวๆที่ไม่ใช่เจ้าหัวสับปะรดนี่จะดีแค่ใหนกันนะ?...ดูลึกลับน่าค้นหาเข้ากับชื่อผับแบบแปลกๆพิลึก

"วันนี้ผมพาใครมาด้วยแหละนี่คุณดีโน่หุ้นส่วนธุระกิจแล้วก็เพื่อนของผมเอง..."

"ช่วงนี้ลงนิตยสารการเงินอยู่บ่อยๆน่ะนายรู้จักบ้างมั้ยเคียวยะ?"

"สวัสดีครับคุณดีโน่ยินดีต้อนรับนะครับ"

เพราะมัวแต่สนใจยรรยากาศรอบตัวจึงไม่ทันจะสังเกตุตรงหน้าแต่พอน้ำเสียงสดใสของใครบางคนเอ่ยทักขึ้นใบหน้าหล่อเหลาจึงได้หันกลับมาแล้วนัยน์ตาสีอำพันก็เบิกกว้างทันทีที่เห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร!

"นาย!....คนเมื่อวานนี่!"

ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างบอบบางที่ยืนแย้มยิ้มอยู่หลังเคาน์เตอร์จะเสยผมที่เคยปรกหน้าขึ้นไปจนหมดจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมก็ตามทีแต่เขาก็จำได้ดีในเมื่อใบหน้าสวยๆนั่นมันตามหลอกหลอนเขามาแทบจะทั้งวัน

"หื๋มม์...ไม่ธรรมดานะครับเนี้ยที่คุณเจอกับเคียวยะคุงเมื่อวาน"

เจ้าของทรงผมประหลาดแต่เข้ากับหน้าตาได้อย่างลงตัวเอ่ยขึ้นมาอย่างแปลกใจแต่ถ้าหากร่างสูงใหญ่จะหันมาสนใจใบหน้าเรียวหล่อของเพื่อนสักนิดเขาก็จะรู้ในทันทีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่พรมลิขิตอย่างที่เขาเข้าใจเลยสักนิด

"ชั้นก็แปลกใจเหมือนกัน"

นัยน์ตาสีอำพันจ้องมองใบหน้าสวยที่ยังแย้มยิ้มให้กับเขาราวกับอยากจะจดจำทุกรายละเอียดเอาไว้ให้ได้มากที่สุดจนกระทั่งมาร์ตินี่ถูกยื่นมาตรงหน้า

"หวังว่าจะพอใจนะครับ"

"แต่ชั้นยังไม่ได้สั่ง?"

"ช่วยรับไว้แทนคำขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวานด้วยนะครับ"

ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจแต่เขาก็ยอมยกมาร์ตินี่ขึ้นมาจิบแต่โดยดี...ทั้งๆที่คนตรงหน้าเป็นผู้ชายแต่ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าร่างบางๆนั่นดูยั่วยวนใจมากขนาดนี้นะหรืออาจจะเป็นเพราะ..กลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาคุ้นเคยมันเป็นอย่างดีไม่ใช่จากตัวเขาแต่จากคนตรงหน้านี่ต่างหาก....กลิ่นเดียวกัน?...

"โคโลญ....กลิ่นเดียวกับชั้นเลย"

เพราะแบบนี้รึเปล่านะเขาถึงได้รู้สึกผ่อนคลายมากขนาดนี้....

"เอ๋!....จริงเหรอครับ?"

ทั้งๆที่เพิ่งจะบอกว่าตัวเขารู้สึกผ่อนคลายแต่แล้วจู่ๆมือบางๆก็วางทาบลงมือที่มือของเขาเหมือนจงใจที่จะวางลงไปบนตำแหน่งเดิมให้ร่องรอยที่กำลังจะจางหายมันร้อนวูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง..ใบหน้าสวยๆนั่นยื่นเข้ามาใกล้จนใบหน้าของพวกเขาห่างกับไม่ถึงคิบมันทำเอาหัวใจของผมแทบจะหยุดเต้นร่างกายทุกส่วนของเขามันกำลังตื่นตัว!...เค้ากำลัง...ร่างกายของเขากำลังตอบสนองกับความเย้ายวนแปลกๆนี่!...จากผู้ชายตัวเล็กๆที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ!...

"จริงด้วย!...ครั้งแรกเลยนะครับที่ผมเจอคนที่ใช้โคโลญจน์กลิ่นเดียวกันก็เลยดีใจไปหน่อยน่ะครับ"

นัยน์ตาสีอำพันไปแต่เบิกกว้างยิ่งร่างบอบบางตรงหน้ายิ้มสดใสซะขนาดนั้นมันทำเอาเขาแทบคลั่ง...สถานการณ์แบบนี้มันไม่ดีต่อหัวใจเขาเลยจริงๆเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างนั้นรึเปล่า?...หรือเป็นเพราะบรรยากาศมันพาไปเขาถึงได้รู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้?...หรือมีอะไรผิดปรกติในตัวเขากัน?

ทำไมหัวใจของเขามันถึงเต้นแรงขึ้นทุกที ทุกที?...มันแทบจะเกินขีดจำกัดของร่างกายของเขาแล้วถ้าหากผมยังอยู่ที่นี่ต่อเขาต้องทำอะไรบ้าๆแน่....

"อ่า...ชั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวน่ะขอตัวกลับก่อนนะ"

ร่างสูงใหญ่ตัดสินใจที่จะออกไปจากบาร์เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของเขาปั่นป่วนราวกับไม่ใช่ตัวของเขาเองเขารู้สึกได้ว่ามีอะไรสักอย่างที่มันผิดปรกติไปแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร...

"งั้นผมไปส่งที่โรงแรมนะครับ"

"ไม่เป็นไรนายอยู่ต่อเถอะชั้นกลับเองได้แค่นี้ไม่หลงหรอกน่า"

"เอ๊ะ...คุณไม่สบายเหรอครับผมมียาเดี๋ยวจะ....."

"ไม่เป็นไรเคียวยะ!...แค่ยังไม่คุ้นเวลาน่ะกลับไปนอนสักหน่อยก็หายแล้ว"

"งั้นโอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับคุณดีโน่"



ร่างสูงใหญ่เดินออกมาโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเพราะกลัวจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ไหว....

ทั้งๆที่เราเพิ่งเจอกันวันนี้...ที่รู้จักชื่อของเคียวยะก็เพิ่งเมื่อกี้...แต่คงมีแค่เขาคนเดียวแน่ๆที่รู้สึกแบบนี้...เคียวยะคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาแต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกปวดหนึบที่ช่วงล่างที่มันแทบจะทนไม่ไหวนี่คงต้องหาทางระบายถึงจะรู้ว่ามันผิดปรกติที่เขาไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้แต่ในหัวกลับคิดอะไรไม่ออกนอกจากรอยยิ้มสดใสกับใบหน้าสวยๆนั่นเต็มหัวไปหมด...







ร่างกายที่เคยร้อนลุ่มดังไฟสุมรู้สึกแทบจะหายเป็นปรกติเมื่อได้ระบายความอัดอั้นพวกนั้นออกมาและเพื่อให้เข้าใจกับภาพลวงตาที่แสนเร่าร้อนนั่นเขาถึงได้มาที่นี่อีกครั้งแค่อยากจะรู้สาเหตุที่มันยากจะเชื่อพวกนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกลงไปในหลุมพรางที่ไม่มีวันปีนขึ้นมาได้

"หวัดดีครับคุณดีโน่!...หายไปนานเลยนะครับผมคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณอีกแล้วซะอีก"


"อืม...งานยุ่งๆน่ะ"

น้ำเสียงสดใสไร้การเสแสร้งเอ่ยทักขึ้นมาทันทีที่เขา...ใบหน้าสวยๆนั่นยังคงเสยผมด้านหน้าขึ้นเหมือนเช่นวันนั้นแต่วันนี้เป็นเขาเองที่เลือกนั่งที่สุดปลายเคาน์เตอร์และอับแสงเพื่อที่จะได้จ้องมองเคียวยะได้อย่างสะดวกขึ้นและเพื่อไม่ให้ร่างบางๆนั่นรู้ตัวเข้าซะก่อน....ถึงจะรู้ดีว่ามันดูโรคจิตชัดๆก็เถอะ...


และสุดท้ายเขาก็ตระหนักได้ว่าถ้าขืนเอาแต่นั่งมองอยู่แบบนี้มันไม่ได้ทำให้เขารู้จักเคียวยะมากขึ้นเลยสักนิด....ร่างบอบบางนั่นเปรียบเสมือนบุคคลที่น่าเหลือเชื่อ...เคียวยะคุยกับลูกค้าได้ตั้งแต่เรื่องทั่วๆไป ไปจนถึงประเด็นเศรฐกิจระดับโลก....ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลเรื่องสถานการณ์การเงินในปัจจุบันของเขาอัพเดทยิ่งกว่าในอินเตอร์เน็ตซะอีก....ด้วยเหตุผลที่ว่า...

"เพราะลูกของเราส่วนใหญ่เป็นหนุ่มวัยสามสิบอัพครับบ้างก็ผู้จัดการหรือตำแหน่งสูงกว่านั้นที่ผมรู้ก็เพราะพวกเขาเล่าให้ผมฟัง"

"แต่ผมว่าการฟังสาวน้อยบ่นเรื่องความรักนี่ง่ายกว่าเยอะเลย"

เคียวยะเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยมสามารถทำให้ลูกค้ามีความสุขได้โดยการรับฟังพวกเขาโดยไม่อ้างถึงตัวเองเลย...และใช้รอยยิ้มที่ต้องยอมแพ้ปฏิเสธพวกสาวๆอยู่เสมอ...
เขาคิดว่าบางทีเคียวยะอาจจะเป็นเกย์หรืออาจจะมีคนรักแล้วก็เป็นได้...เธอคนนั้นจะต้องเป็นคนที่สวยมากแน่ๆ....หากจะต้องอยู่ข้างกายคนที่เพรียบพร้อมขนาดนั้น...แค่คิดว่าคนคนนั้นไม่ใช่เขาก็รู้สึกหงุดหงิดจนน่าโมโหเลยล่ะ

นัยน์ตาสีอำพันเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอวก่อนจะเหลือบมองไปรอบๆ...ลูกค้าคนอื่นทยอยออกจากร้านกันหมดแล้วและเขาเองก็เช่นกันคงจะถึงเวลาแล้ว

ถึงจะรู้สึกแปลกที่เขานั่งมองร่างบางๆนั่นตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนถึงตอนนี้ถึงจะรู้สึกร้อนรุ่มแบบนั้นอยู่บ้างแต่มันน่าจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มากกว่าเพราะร่างกายของเขายังอยู่ในเกณที่สามารถควบคุมได้ ไม่รุ่มร้อนไม่รุนแรงเหมือนในวันแรกที่เจอกัน....ทำไมกันนะ?....

"อ๊ะ...ใกล้จะได้เวลาปิดแล้วใช่มั้ยงั้นชั้นขอตัวนะ"

"เอ่อ....คุณดีโน่ช่วยอยู่ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยได้มั้ยครับ?"


ร่างสูงใหญ่ชะงักค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองทั้งๆที่แทบจะทั้งคืนพวกเขาคุยกันจนแทบจะนับคำได้เพราะร่างบางนั่นใช่เวลากับลูกค้ารายอื่นมากกว่าจนคิดว่าคงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วซะอีกแต่แก้มใสๆที่ซับสีระเรื่อแบบนั้นใครมันจะปฏิเสธได้ลงคอ...

"ผมดีใจมากเลยนะครับที่คุณมาวันนี้งานยุ่งมากเหรอครับ?"

"อืม...เครียดๆน่ะก็เลยมาหาอะไรดื่มซะหน่อย"

"งั้นเหรอครับอย่างนี้นี่เองผมนึกว่าคุณมาที่นี่เพราะผมซะอีก....ท่าทางผมคงจะคิดไปเอง"

"อึก...."

ราวกับถูกจี้ใจดำเข้าไปเต็มๆแต่น้ำเสียงที่ฟังดูน้อยเนื้อต่ำใจของร่างบอบบางทำเอาเขาไม่รู้จะตอบออกไปอย่างไงดีเพราะที่จริงแล้วนั่นน่ะคือจุดประสงค์หลักของเขา...

"....เปล่าหรอก....ทำไมชั้นต้องอยากมาพบผู้ชายด้วยล่ะ"

"นั่นสินะครับ....ถึงผมจะเป็นไบแต่คุณดีโน่ปรกติใช่มั้ยครับ?"

นัยน์ตาสีอำพันได้แต่เบิกกว้างกับสิ่งที่เพิ่งจะได้รู้....เคียวยะเป็นไบเซ็กชวล!!?...มือหนาเผลอบีบแก้วบรั่นดีเอาไว้แน่นทั้งๆที่มันแปลกแต่ทำไมถึงได้รู้สึก....ดีใจ??...

"ขอโทษที่พูดอะไรแปลกๆนะครับ....คงเป็นเพราะตั้งแต่เจอคุณครั้งแรกผมรู้สึกเหมือนมันเป็นพรมลิขิตอะไรบางอย่างล่ะมั้ง"

ความเงียบโรยตัวมารอบๆกายของพวกเราอีกครั้งเมื่อทั้งตัวเขาและเคียวยะ...ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก...มีเพียงเสียงก้อนน้ำแข็งกระทบแก้วในมือของเขาเท่านั้นที่ดังก้องไปทั่วห้อง...ใบหน้าหล่อเหลาก้มมองเงาสะท้อนของตัวเองบนของเหลวสีอำพันอย่างใช้ความคิด..และในตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองควรจะทำอะไร!!...

มือหนายกบรั่นดีในมือขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดเสียงกระแทกแก้วลงบนเคาน์เตอร์แรงๆทำให้ร่างบอบบางหันกลับมาสนใจเขาอีกครั้ง....

"ขอโทษนะครับคงต้องขอให้คุณกลับไปก่อนผมต้องทำความสะอาดระ..อื้ออ!?"

ดีโน่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะรั้งท้ายทอยสีรัตติกาลเข้ามา...ริมฝีปากหยักได้รูปบดเบียดลงไปบนริมฝีปากอิ่มสีระเรื่ออย่างเอาแต่ใจจนนัยน์ตาสีเดียวกับเรือนผมได้แต่เบิกกว้างแต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดจะสนใจเมื่อเรียวลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากเล็กทั้งๆที่ยังไม่ขออนุญาติก่อนจะกวาดต้อนเก็บเกี่ยวเอาทุกๆความหอมหวานไปจนหนำใจให้คนที่ตั้งตัวไม่ทันได้แต่สั่นระริก ร่างกายที่กำลังถูกช่วงชิงลมหายใจอ่อนระทวยจนแทบจะทรงตัวยืนต่อไปไม่ไหวยังดีที่แขนแข็งแรงโอบรอบเอวบางเอาไว้ทั้งๆที่ยังกวาดต้อนเอาความหวานล้ำอย่างบ้าคลั่งร่างกายที่เขาคิดว่าควบคุมได้กลับทำอย่างที่หัวใจมันเรียกร้องขัดกับสมองอย่างสิ้นเชิง

"ฮ้า...ยะ...."

ใบหน้าหล่อเหลาเอียงเปลี่ยนมุมเล็กน้อยทั้งๆที่เรียวลิ้นยังกระหวัดพัวพันอยู่กับเรียวลิ้นเล็กมืออีกข้างรั้งเอวบางๆน่ากอดนั่นเขามาแนบชิดเสียจนไม่เหลือพื้นที่ว่างยิ่งได้สัมผัสยิ่งได้ลิ้มลองมันก็ยิ่งทำให้เขาตระหนักได้ว่าเขาต้องการร่างบอบบางนี่..ยิ่งรับรู้ถึงรสสัมผัสที่หวานล้ำแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะกลืนกินร่างในอ้อมแขนนี่มากขึ้น...มากขึ้น!!!....

ริมฝีปากหยักได้รูปค่อยๆละออกมาช้าๆก่อนจะกดจูบลงไปแผ่วเบาบนริมฝีปากที่เริ่มแดงช้ำจากแรงบดเบียดของเขา...นัยน์ตาสีอำพันจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีรัตติกาลที่หวานเชื่อมสั่นระริกราวกับกำลังบอกว่ารู้สึกของตัวเองมือที่เคยรั้งท้ายทอยเคลื่อนมาแนบที่แก้มใสๆที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อชวนมองแผ่วเบาราวกับกลัวว่ามันจะแตกสลายคามือ...

"เคียวยะ..."

น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอกกไปแผ่วเบาราวกับกำลังขอโทษกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปแต่มือบางๆที่ยกขึ้นมาแนบที่ใบหน้าของเขาทำให้คำพูดที่เหลือมันจุกอยู่ที่ลำคอ...

ใบหน้าสวยที่ยังซับสีระเรื่อค่อยๆเคลื่อนเข้ามาก่อนที่ริมฝีปากแดงช้ำจะแนบลงมาที่ริมฝีปากของเขา...ราวกับน้ำมันที่ราดลงมาบนกองไฟที่โหมกระหน่ำเมื่อความต้องการของเขามันพุ่งถึงขีดสุดไม่รู้ว่าเคียวยะจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเองแต่เขาก็จะไม่มีทางหยุดจนกว่าจะได้ปลดปล่อยทุกความอัดอั้นออกมาจะไม่หยุดจนกว่าทุกๆความต้องการจะถึงจุดสุดท้ายของมัน!!!

ร่างสูงใหญ่ดันแผ่นหลังบางให้นอนราบไปกับเคาน์เตอร์ทั้งๆที่ริมฝีปากยังคงพัวพันกันและกันมือข้างที่ว่างปลดเข็มขัดของร่างบอบบางอย่างรีบร้อนเพราะถ้าหากช้ากว่านี้อีกแม้แต่เสี้ยววินาทีเขาจะต้องคลั่งตายแน่ๆและเพราะแบบนั้นอาภรณ์ช่วงล่างของร่างบอบบางถึงลงไปกองอยู่กับพื้นในเวลาไม่ถึงนาที....

"อื๊ออ!!...ฮ้า...ดี...โน่!!!"

ร่างทั้งร่างของเคียวยะถึงกันกระตุกเกร็งเมื่อความเป็นชายของเขาดึงดันเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นถึงจะรู้ดีว่าร่างบอบบางจะเจ็บแทบขาดใจแต่ความหิวกระหายของพยัคร้ายมันทำให้เขาอดทนรอต่อไปไม่ไหว

"อ้า!!...ดะ...ดีโน่!!...เจ็บ!!!"

ถึงจะรู้ว่ามันทั้งฝืดและคับแน่นแต่ความร้อนลุ่มที่บีบรัดแกนกายของเขามันทำเอาเขาแทบคลั่งแรงกระแทกที่ตัวเขาก็รู้ดีว่ามันไร้ซึ่งความอ่อนโยนทำเอาวงแขนผอมบางถึงกับผวากอดรอบคอของเขาเอาไว้แน่นแต่เขาก็ยังดึงดันขยับเข้าออกราวกับคนบ้า!!

"อ้า...ฮะ...อ้า...!!"

"เคียวยะ...."

"....เคียวยะ...."

"....ดีโน่....ผม...ชอบคุณ...."

"เคียวยะ!!?..."

นัยน์ตาสีอำพันกว้างอย่างเชื่อหูตัวเองก่อนจะคว้าร่างที่แสนบอบบางนั่นเข้ามากอดเอาไว้แน่นริมฝีปากหยักได้รูปพรมจูบไปทั่วใบหน้าสวยด้วยความรู้สึกที่ลึกล้ำก่อนจะย้ายมากดจูบหนักๆที่ซอกคอฝากร่องรอยเอาไว้ให้โลกทั้งโลกรับรู้ว่าร่างบอบบางนี่มีเจ้าของแล้ว.....

และตอนนี้เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เขาครุ่นคิดว่าตลอดทั้งอาทิตย์มันเรียกว่า...


......"ความรัก!!".....






แสงแดดยามสายส่องลอดเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเบือนหลบไปอีกทางมือหนาภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ควานหาร่างของใครบางคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งคืนแต่ความเย็นเยียบของอากาศแทนที่จะเป็นร่างกายอุ่นๆนั่นทำเอาเปลือกตาเบิกโพรงขึ้น...

"เคียวยะ!!??"

หมอนสองใบถูกวางซ้อนกันที่หัวเตียงก่อนที่แผ่นหลังเปลือยเปล่าจะตามไปพิงแต่ความรู้สึกปวดจี้ดที่หัวก็ทำเอาถึงกับนิ่วหน้ามือข้างหนึ่งยกขึ้นบีบขมับของตัวเองเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด...

ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนฉายเข้ามาในหัวให้ริมฝีปากหยักได้รูปหยักยิ้มน้อยๆ...จำได้ว่าเขาพาเคียวยะมาที่โรงแรมแล้วพวกเราก็ทำกันอีกไม่รู้กี่รอบและไม่รู้เลยว่าเขาเผลอหลับไปตอนใหน...

"อ่า....แค่คิดถึงเสียงครางหวานๆกับร่างกายที่สั่นสะท้านอยู่ใต้ร่างของชั้นมันก็....."

แต่ตอนนี้คนที่อยู่ในห้วงคำนึงหายไปใหนแล้ว?....ร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลุกจากเตียงก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป...ไม่มี?....นัยน์ตาสีอำพันเหลือบมองออกไปที่ระเเบียงและแน่นอนว่ามันเหลือเพียงแค่...ความว่างเปล่า??...:เคียวยะหายไปแล้วพร้อมกับ!!??...

นัยน์ตาสีอำพันเหลือบมองไปที่พื้นห้องก่อนจะกวาดสายตาไปหยุดที่โต๊ะเตี้ยตรงกลางห้องและแน่นอนว่ามันเหลือเพียงความว่าเปล่า!!??...

"เค้าหายตัวไปพร้อมกับ....เสื้อผ้า....."

"....กับกระเป๋าตังค์ของชั้น....."


ความจริงแล้วตัวเขาเองก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มาสะกิดใจ..จูบของเคียวยะตอนอยู่ที่บาร์มีรสบุหรี่จางๆ...เขาไม่เคยเห็นเคียวยะสูบบุหรี่บุคลิกที่แท้จริงของเคียวยะคงจะแตกต่างจากตอนอยู่ที่บาร์โดยสิ้นเชิง...แต่ก่อนอื่นคงต้องลองติดต่อกับเค้าดูก่อน...

ร่างสูงเดินไปหยิบมือที่ที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาแต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับที่เขี่ยบุหรี่ที่มีก้นบุรี่ทิ้งอยู่ในนั้นห้าถึงหกม้วน...ไม่ใช่เขาที่สูบแต่เป็น...เคียวยะ....ปลายนิ้วปัดหน้าจอมือถือก่อนจะชะงักค้างอยู่แบบนั้น....

"ชั้นไม่รู้จักเบอร์ของเคียวยะ!"

ร่างสูงเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่ขอบเตียงก่อนจะประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองทั้งหมดอีกครั้ง....


"โดนรูดทรัพย์คงเป็นคำนิยามที่ถูกต้องที่สุดล่ะนะ....ฮะฮะ"

จะไปหาเสื้อผ้าาที่ใหนมาใส่ล่ะทีนี้....คงต้องขอความช่วยเหลือจากมุคุโร่...ต้องอายัดบัตรเครดิตก่อนเงินด้วยแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา...ปัญหาก็คือ...

"นายเริ่มวางแผนตั้งแต่เมื่อไหร่?"

ตอนที่มุคุโร่พาไปที่บาร์งั้นเหรอไม่สิ....ตั้งแต่ตอนนั้น...ตอนที่เจอกันครั้งแรกถ้านั่นคือแผนที่ถูกวางเอาไว้ทั้งหมดตั้งแต่แรก!...เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นตอนนั้นก็เป็นแผนที่นายวางเอาไว้ด้วยงั้นสิ?...แล้วเขาก็ดันเพ้อว่านั้นคือพรมลิขิต!!...

"ฮะฮะฮะ...น่าอายจนอยากจะหายไปจากโลกเลยชั้น...ดีนะที่ไม่หลงพูดอะไรแปลกๆออกไป"

แต่ที่น่าแปลก...ถึงจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขากลับไม่รู้สึกโกรธเลยสักนิด...เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ภาพลวงตาแต่เป็นความจริงที่ว่าเขากลืนกินร่างบางๆนั่นจริงๆทั้งน้ำเสียงที่สั่นพร่าที่บอกว่าชอบเขาถึงจะรู้ดีว่านั่นก็คงจะหลอกลวงเช่นกันแต่ริมฝีปากอิ่มๆนั่นก็เอ่ยออกมาจริงๆ....

ร่างทั้งร่างทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยหัวสมองที่ว่างเปล่าริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดยิ้มบางๆก่อนจะปิดเปลือกตาลง.....

"ชั้นจะยังไปเจอนายได้อีกรึเปล่า?.....เคียวยะ...."

ถึงแม้ว่านายจะหลอกชั้น...แต่มันเป็นความจริงที่ว่าเขาหลงใหลกับเรือนร่างอันเย้ายวนนั่นเข้าเต็มเปาเลยถึงจะเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอกและรู้สึกเสียหน้านิดๆก็เถอะ...






"ฮะฮะฮะ....CEOของแท้ห้องสวีทซะหรูหราเกิ้น"

"เงินก็..."

ปลายนิ้วเรียวกรีดนับตังค์ในกระเป๋าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยกม้วนบุหรี่ขึ้นมาคาบไปที่ริมฝีปากอิ่มที่ยังหลงเหลือร่องรอยแดงช้ำของตัวเอง


""สี่หมื่น...ห้าหมื่น...หกหมื่น...ว้าวรวยจริงอะไรจริงนะเนี้ย...หาอะไรหรูๆกินดีกว่า"

ใบหน้าสวยก้มมองกางเกงขายาวที่หลวมโครกจนต้องพับขาขึ้นมาเกือบครึ่งแข้งกับเชิ้ตสีดำตัวโคร่งด้วยรอยยิ้มที่ใครๆก็ต่างหลงใหลใจจริงเขาก็ไม่ได้อยากจะใส่ชุดนี้มาหรอกนะแต่เสื้อผ้าของเขามันยับเยินเกินกว่าจะใส่มาเดินตามถนนได้ก็เท่านั้นสูทที่หิ้วพาดบ่าอยู่นี้ก็เหมือนกัน....


ปลายนิ้วเรียวคีบมวนบุหรี่ออกจากริมฝีปากของตัวเอง...ควันสีขาวถูกเป่าออกมาช้าๆก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างผู้มีชัย...

"เอ้า...ทีนี้จะทำยังไงต่อดีล่ะครับ?"

"คุณผู้บริหาร"

ประโยคทิ้งท้ายพร้อมกับปรายตากลับไปมองโรงแรมที่ตนเพิ่งจะออกมา........


.
.
.
.
.
.
.
.
.
.Tobecontinue!!!!!......



ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่า!!!!!


HAPPY BIRTHDAYนะค๊ะเฮียโน่วววว!!!!!!

โฮ่ๆๆๆขอให้คุณภรรยาเมฆรักๆๆๆๆๆๆหลงๆๆๆๆๆๆมากขึ้นๆๆๆหล่อวันหล่อคืนและรักน้องเยอะๆๆๆๆด้วยนะคะ!!!!!
ขอวนอจ.แกเพิ่มบทให้ติ่งได้จิ้นตลอดๆ//เฮ้ยแต่มันอวสานไปแล้วนะเฮ้ย!!//
ถึงมังงะจะจบไปแล้วและมีฉากให้จิ้นไปสามบ้านแปดบ้านแล้วก็ตามทีค่ะแต่ติ่งอย่างเราก็มีจินตนาการเหลือล้นและภาวนาให้อจ.แกจับปากกามาเขียนภาคต่อในเร็ววันนะค๊าาาาา


  • ก่อนอื่นเลยต้องขอแก้ตัวก่อนนาค๊ะว่าไรท์หายไปใหนมาเป็นเดือนคือโน้ตบุคของไรท์ถูกไอ้คุณหลานชายเอาไปอ่ะแถมมันกลับตจวไปแล้วด้วยอ่ะค่ะคือตอนนี้ไรท์ใช้มือถือในการเขียนค่ะต้องบอกว่ายากลำบากมากๆๆๆๆๆๆก็อย่างที่เคยบอกไปว่าไรท์สายตาสั้นไปวัดเมื่อต้นเดือยเกือบห้าร้อยแล้วอ่ะแล้วเมื่อตอนกลางเดือนจะกดอัพของเดิมที่เขียนไว้สี่ตอนของสามเรื่องแล้วอินี่เจือกไปกดลบซะง้านนนนน!!!!!เล่นเอาเฟลจนไม่อยากทำอะไรเลยล่ะ///เลยหันไปดูอนิเมะแทนแล้วเดือนม.คเนี้ยเมะใหม่ๆฉายเยอะโคตะระเลยค่ะ///
  • ทั้งภาคต่อทั้งเมะใหม่เล่นเอาไรท์ดูแบบนอนสต๊อฟเลยนะเอออันใหนมีสามภาคก็ดูแม่มตั้งกะภาคหนึ่งยันภาคสามใหม่อันใหนมีห้าสิบตอนก็ล่อตั้งกะตอนที่หนึ่งแม่มเลยเพื่อความต่อเนื่องฮ่าๆๆๆ
อ้อ!...ดูจากมือถือเนื้ยแหละค่ะมองไม่เห็นแป้นพิมพอใส่คอนแทคแม่มก็ตัวเท่าหม้อแกงหวิดอ้วกก็หลายครั้งแต่ที่เจ็บใจมากๆก็เจือกมากดลบแทนที่จะอัพเนี้ยนอยด์จริงไรจริงปีที่แล้วก็ะผลอลบไปทั้งบลอคดีที่ลบจากคอมเลยกู้กลับมาได้ถึงจะไม่หมดทุกตอนก็เหอะแต่พอลบจากมือถือจากบลอคเนี้ยกู้ไม่ได้เลยค่ะแต่ที่ต้องมาทนๆเขียนต่อเนี้ยเพราะวันเกิดเฮีนโน่วหรอกน้าจะบอกให้
//สรุปเองจะแต่งแต่ฟิควันเกิดเร๊อะ?//

คำตอบคือไม่ค่ะอื่นๆก็เขียนอยู่แต่ไม่มีกำหนดเสร็จนะเออเพราะคำผิดเยอะมากตามแก้ไม่หวาดไม่ไหวถ้าอ่านเจอก็ข้ามๆไปก่อนนะคะคงอีกสองสามเดือนกว่าจะได้คอมใหม่
คือตอนนี้กำลังต่อเติมบ้านอ่ะใช้ตังส์อย่างเยอะของท่านพ่อมาก็เยอะแล้วท่านเลยบอกว่าของเล่นเก็บตังส์ซื้อเองซะ!!...เฮอะๆๆน้ำตาไหลพรากๆเลยงานนี้
เครื่องเดิมน่ะของขวัญวันเกิดไอ้ครั้นจะรอวันเกิดก็อีกตั้งช่วงกลางปีนู่นใจจะขาดดดดด

โอ้ยยย...ไม่บ่นแล้วค่ะไปพยายามปั่นฟิคต่อดีก่า

อ้อ!!....ขอบคุณม๊ากๆๆๆๆสำหรับคอมเม้นนาค๊ะดีใจมากๆเลยอ่ะที่มัคนติดตามผลงานเก๊าติชมได้นาค๊ะแบบว่าอยากรู้ว่ามันเป็นไงมั่งถูกใจหรือขัดใจใครป่าว?
ถึงจะแต่งจากความชอบของตัวเองล้วนๆซึ่งส่วนวหญ่จะออกแนวมืดมนอะไรงี้
//จริงๆมันแต่งแนวอื่นม่ายเป็งงงง///
คึหึหึ...ฟังดูเลวร้ายพิลึกเลยว้อยค๊า.....

ปล.1ตอนแรกกะจะแคปยอดวิวสวยๆ8059ไว้เชยชมซะหน่อยแต่พอเผลอแป๊ปๆมันไป8664แล้วอ่ะเสียดายค๊อดๆ

ไม่บ่นไรแล้ว....บั้ยบายนะคะเจอกันตอนหน้าค่ะ

Isayaa!!!....?.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น