27 ส.ค. 2557

Fic.au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 20

Fic.au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน :20

:Fanfiction [KHR] 6927,8059

:Romantic 

:NC-17


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ










"อื้ออ!!...มุคุ...."

สองมือบางรีบยกขึ้นมาปิดปากตัวเองสกัดกั้นเสียงน่าอายเอาไว้เมื่อมือเรียวยาวย้ายมากอบกุบส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวแล้วเคล้นคลึงหยอกล้อมันเบาๆทำเอาสติสตังส์ทีี่ไม่ค่อยจะเหลือแล้วมันเตลิดเปิดเปิงไปไกลจนกู่ไม่กลับยิ่งเสียงกระซิบที่ปนกระเส่านิดๆที่ข้างหูแบบนี้อีกมันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของคนที่ไม่เคยกระเจิงอย่างไม่ต้องสงสัย

"มันจะไม่เป็นไร....เชื่อใจผมสิสึนะโยชิ"

"ตะ...แต่มัน...อ๊า...รู้สึกแปลกๆ...อึ๊ก...."

"ผมบอกแล้วว่าจะไม่หยุดต่อให้คุณไม่ชอบก็ตาม"

"มะ...ไม่ใช่แต่ฉัน...มันรู้สึกแปลกๆจริงๆนะ... "

ใบหน้าน่่ารักรีบหาคำแก้ตัวเป็นการใหญ่เมื่อจู่ๆน้ำเสียงของอีกคนก็เข้มขึ้นจนใจดวงน้อยรู้สึกแป้วไป...เพราะมันไม่ใช่รู้สึกไม่ดีแต่....มันรู้สึกดีซะจนแทบจะกักเก็บเอาไว้ไม่ไหวแล้วต่างหาก!...

"ผมรู้...อยากจะปลดปล่อยออกมาตอนนี้ก็ได้"

"นั่นมัน...ฉันจะอ๊ะ!!...อ๊า...ฮ้า...ฮ้า..."

ทุกความอดทนสิ้นสุดลงณ.ตรงนี้เมื่ออีกฝ่ายขยับเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวขึ้นจนหยาดหยดแห่งความต้องการมันพวยพุ่งออกมา
 ใบหน้าน่ารักซบลงกับแผงอกแกร่งคล้ายกับหมดแรงแต่แล้วเลือดฝาดทั้งหมดที่มีก็เห่อขึ้นมากองอยู่บนหน้าเมื่อดวงตาที่ปรือปอยเหลือบไปเห็นหยาดน้ำสีขาวขุ่นที่ดูยังไงก็น่าจะเป็นของตัวเองลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ!!...

"มุ....มุคุโร่!!!?..."

"คึหึหึ....ไม่เป็นไรครับ...เพราะเราจะทำมันด้วยกัน"

ริมฝีปากเรียวที่ร้อนระอุกดจูบแผ่วเบาที่ซอกคอก่อนจะค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นจนสติของร่างเล็กค่อยๆพร่าเลือนไปอีกครั้งหลงลืมความอายเมื่อครู่ไปจนหมดสิ้นยิ่งยามเมื่อริมฝีปากของร่างสูงโปร่งค่อยๆเคลื่อนเข้ามาหยอกล้อกับยอดอกสีหวานด้วยแล้ว!!...

"อึก!...อะ...อืมม..."

"ไม่ต้องกลั้นเสียงเอาไว้นะครับ...ผมอยากได้ยินเสียงของคุณ"

"อ๊ะ...อืม...ฉัน...ฉันจะ...มุคุ..."

เสียงจ๋อมแจ๋มยามที่มือของร่างสูงโปร่งขยับบวกกับเสียงกระซิบกระซาบยิ่งชวนให้คนที่อยู่ในห้วงอารมณ์แห่งความวาบหวามแทบจะสำลักความรู้สึกแปลกประหลาดตายเสียให้ได้...ความรู้สึกโหยหาระคนละเอียดอ่อนแบบนี้...ยิ่งถูกเติมเต็มลงมามากเท่าไหร่มันก็เหมือนจะไม่รู้จักพอ...ยิ่งมือของอีกคนสัมผัสมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งอยากจะให้สัมผัสอยากจะให้โอบกอดตัวเองให้แนบแน่นมากเท่านั้น

"มุคุ...มุคุโร่ฉัน....ระ...."

ริมฝีปากที่กำลังจะเอื้อนเอ่ยคำต้องห้ามถูกริมฝีปากเรียวของร่างสูงโปร่งปิดเอาไว้ซะก่อนที่มันจะหลุดออกมา...ใช่ว่าเขาจะไม่อยากได้ยินแต่เพราะถึงแม้ร่างเล็กนี่จะไม่เอ่ยออกมาเขาก็หลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นอยู่แล้วแค่ไม่อยาก...
 
"ไม่ต้องพูดมันออกมาก็ได้ครับ....สึนะโยชิ"

"ตะ...แต่ฉันระ...อ๊ะ!!!"

เป็นอีกครั้งที่ถูกยับยั้งทุกคำพูดเมื่อเรียวนิ้วของร่างสูงโปร่งสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัวจนร่างทั้งร่างผวากอดรอบคออีกคนเอาไว้แทบไม่ทัน!...

"ผ่อนคลายสึนะโยชิ....ไม่อย่างนั้นคุณจะเจ็บเอาได้นะครับ"

"อื้อ...ฉะ...ฉันจะพยา...."

ลมหายใจเข้าออกที่หนักหน่วงค่อยๆผ่อนลงจนแทบจะเป็นปรกติแต่ถึงอย่างนั้นทุกๆครั้งที่นิ้วเรียวเพิ่มจำนวนเข้าไปลมหายใจมันก็ขาดห้วงและเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งแต่อีกคนก็ยังเลือกที่จะอดทน...รอจนกว่าร่างในอ้อมแขนจะปรับตัวได้เพราะไม่อยากรุนแรงหรือแสดงสัญชาติญาณดิบของตัวเองออกมาเพราะไม่อยากทำร้ายร่างเล็กนี่แล้วตั้งแต่ต้นไม่อยากจะแตะต้องด้วยซ้ำไปแต่ความอดทนของเขามันก็มาถึงขีดจำกัดของมันจนได้

ปลายนิ้วเรียวทั้งสามค่อยๆหมุนวนไปมาช้าๆรอจนกว่าช่องทางคับแน่นที่ไม่เคยมีใครได้ย่างกลายเข้ามามันค่อยๆขยายตัวจนในที่สุดร่างกายที่อ่อนระทวยก็ค่อยๆขยับสะโพกตามจังหวะชักนำของเขา...เสียงครางเครือแสนหวานที่ดังข้างๆหูทำให้อดไม่ได้ที่จะเร่งจังหวะนิ้วทั้งสามให้เร็วขึ้น...ยิ่งร่างกายของอีกคนบิดเร่ามันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะแกล้งให้มากขึ้นเท่านั้น

นัยน์เนตรต่างสีเหลือบมองใบหน้าที่รู้สึกดีของร่างเล็กนิดหนึ่งก่อนจะค่อยๆถอนนิ้วทั้งสามออกและแทนที่ด้วยสิ่งใหม่ที่ดูยังไงก็ใหญ่กว่านิ้วทั้งสามมากและมากเป็นเท่าตัว

"ฮ๊!!...มุคุ!!....จะ...เจ็บ!!"

"อดทนอีกนิดนะครัับ....แล้วทุกอย่างจะดีเอง"

น้ำเสียงทุ้มปนกระเส่านิดๆเอื้อนเอ่ยคำปลอบโยนที่ราวกับยาวิเศษปัดเป่าทุกความเจ็บปวดให้หายไปในพริบตาถึงจะรู้สึกถึงความคับแน่นและอึดอัดเกินคณานับแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบนั้นซะทีเดียวเมื่อความรู้สึกดีอย่างน่าประหลาดมันมีมากกว่ายิ่งในยามที่ร่างสูงโปร่งขยับแกนกาที่สอดใส่เข้ามามันยิ่งรู้สึกสุขล้นราวกับพวกเขาได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้เหลือบมองผืนน้ำที่เต็มไปด้วยสีแดงของเลือดผสมปนเปไปกับสีขาวขุ่นของหยาดหยดแห่งความปรารถนาของตัวเองแล้วก็ให้หลับตาแน่นด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ตีกันมั่วไปทั้งหัวสมอง...ทั้งเจ็บปวดทั้งเสียวซ่านและมีความสุขล้ำเกินกว่าจะเข้าใจได้....ไร้ความรู้สึกรังเกียจโดยสิ้นเชิงมีแต่ความรู้สึกรัก...และรักผู้ชายคนนี้มากขึ้น...มากขึ้น!!... 

"อา...อ๊า!!...้ะ...มุคุ....โร่!!..."

เสียงครวญครางดังระงมไปทั่วทั้งห้องน้ำอยู่แบบนั้นและดูเหมือนมันจะไม่มีที่สิ้นสุด...อย่างน้อยๆก็ในตอนนี้เมื่อแรงอารมณ์ของพวกเขามันพุ่งสูงเกินกว่าจะยับยั้งเอาไว้ได้!!









"ออกจากห้องไปก่อนเถอะโคลม"

"รุ่นพี่จิคุสะ!!"

เด็กสาวที่ยืนชะเง้อชะแง้มองทางประตูห้องน้ำรีบหันควับไปมองรุ่นพี่ที่เข้ามาใหม่ของเธอด้วยความตกใจแต่ถึงอย่างนั้นก็อดเป็นห่วงเจ้านายตัวเล็กของตัวเองไม่ได้ก็ในเมื่อมีเสียงแปลกๆดังออกมาเป็นระยะๆแล้วเธอจะเบาใจได้ยังไงกัน!!...

"ออกไปเถอะ...ไม่มีอะไรหรอกนะ"

"ตะ...แต่คุณสึนะเค้า...."

"ไม่เป็นไร...ทั้งคุณสึนะทั้งท่านมุคุโร่ไม่เป็นอะไรทั้งนั้นออกไปข้างนอกกันเถอะ...อยู่ในนี้จะกลายเป็นตัวเกะกะเปล่าๆ"

ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายแต่สุดท้ายเธอก็ยอมเดินตามรุ่นพี่ของเธอออกจากห้องไปแต่โดยดีแต่...เสียงร้องของคุณสึนะเมื่อกี้มันฟังดูเจ็บปวดมากไม่ใช่รึไง??...แล้วจะไม่เป็นอะไรจริงๆน่ะเหรอ??..


















ร่างกายเปลือยเปล่าที่ถูกใช้งานอย่างหนักมาเกือบสองอาทิตย์ของร่างเล็กค่อยๆยันตัวเองลุกขึ้นพิงหัวเตียงเอาไว้อย่างทุลักทุเลพอควรนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ก้มมอง
ดูร่องรอยตีตราแสดงความเป็นเจ้าของมากมายตามแผ่นอกของตัวเองแล้วก็ไม่รู้ว่าจะแสดงสีหน้าดีใจหรือเสียใจกันแน่เมื่อคนที่เป็นคนทำมันกลับหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็มิอาจทราบได้ก็ในเมื่อตัวเองจะรู้สึกตัวจริงๆก็วันนี้แหละแต่อาจจะดีแล้วก็ได้ที่เขาคนนั้นไม่อยู่ไม่งั้นมีหวังคงได้นอนฟุบหมดแรงอยู่บนเตียงแบบนี้ไปอีกก็เป็นได้!!

"อึก!...อูย~~...คนบ้า!!...เจ้าคนหื่นกาม!..."

ริมฝีปากบางสีระเรื่อบ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียวเมื่อความเจ็บร้าวมันวิ่งเข้าโจมตีทันทีที่ขยับร่างกายแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามพาตัวเองเข้ามาถึงห้องน้ำจนได้...

ดวงตากลมโตสีน้ำตาลไหม้กวาดสายตามองรอบๆที่ไม่คุ้นเคย...สถานที่ที่ไม่รู้จักและไม่รู้ด้วยว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ที่คิดได้ก็คงจะเป็นวิธีแปลกๆเหมือนในตอนนั้นแน่ๆ...เหมือนกับมุคุโร่หายตัวได้!?..มันไม่ใช่แค่เหมือนแต่...มุคุโร่หายตัวได้จริงๆต่างหาก!!...

ใบหน้าน่ารักสะบัดไล่ความคิดสองสามทีก่อนจะขยับพาร่างที่อ่อนล้าของตัวเองไปห้องน้ำเพราะคิดไปก็เท่านั้นรอถามเจ้าตัวเขาเอาเองจะดีกว่าตอนนี้ที่สำคัญที่สุดก็คือจัดการกับร่างกายที่เหนอะหนะของตัวเองซะก่อน
           


ใช้เวลาเกือบชั่วโมงในที่สุดร่างเล็กๆก็ฝืนสังขารจัดการชำระล้างร่างกายของตัวเองเป็นผลสำเร็จเสื้อผ้าชุดใหม่ถูกสวมทับปกปิดร่องรอยสีกุหลาบบนร่างกายก่อนจะพาตัวเองออกมาจากห้องนอนและก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อทุกๆห้องที่เขาพยายามเดินหาคนที่นอนกอดตัวเองไว้ทั้งคืนมันมีแค่ความว่างเปล่าไร้เงาของสิ่งมีชีวิต

"มุคุโร่!!...นายอยู่ที่ใหนน่ะ!!??"

ในที่สุดร่างเล็กก็ตัดสินใจตะโกนเรียกคนที่พาตัวเองมาทิ้งไว้ที่นี่แต่กลับมีเพียงความเงียบงันเท่านั้นที่ตอบกลับมา...กับเสียงลมพัด!!??..

เสียงหวีดวิ้วของลมที่ดังเข้ามาทำเอาขนทั้งร่างกายมันลุกซู่ขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้แต่ที่สัมผัสได้ในตอนนี้คือข้างนอกต้องลมแรงมากแน่ๆและที่สำคัญมันต้องหนาวมากๆเช่นกันราวกับที่นี่อยู่บนเทือกเขาที่ใหนสักแห่งที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งยังไงยังงั้น!!

ไวเท่าความคิดร่างเล็กตรงปรี่เข้าไปเปิดประตูไม้บานใหญ่ออกทันทีและสิ่งแรกที่เจอคือ!!....

"อ๊ะ!!...นี่มันอะไรกัน!!??"

สองมือเรียวเล็กรีบยกขึ้นมาป้องใบหน้าของตัวเองเมื่อแรงลมเย็นยะเยือกปะทะใบหน้าจนรู้สึกแสบไปทั่วทั้งร่างแต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือด้านนอกที่ขาวโพลนทั้งพายุหิมะและม่านหมอกจนมองไม่เห็นอะไรอย่างอื่นนอกจากสีขาวสองมือบางถึงย้ายลงมากอดตัวเองเอาไว้แน่น

"กลับเข้าห้องของคุณไปดีกว่านะครับ!"

ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงของใครบางคนดังขึ้นที่ด้านหลังใบหน้าน่ารักค่อยๆหันกลับมามองอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ทันทีที่เห็นว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใครก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งใจ

"เฮ้อ~~...นายเองเหรอจิคุสะคิดว่าจะไม่เจอใครซะแล้ว"

"กลับห้องดีกว่านะครับผมยกมื้อเช้าเข้าไปให้แล้ว...อีกอย่างอย่าคิดจะออกไปเดินข้างนอกเลยนะครับคุณอาจจะแข็งตายหรือไม่ก็ตกหน้าผาเอานะครับ"

"ถึงนายไม่บอกฉันก็ไม่คิดจะออกไปเดินหรอกนะว่าแต่มุคุโร่ไปใหนแล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง??"

"ท่านมุคุโร่มีงานด่วนน่ะครับส่วนที่นี่เอาไว้ถามท่านมุคุโร่เองเถอะครับอีกเดี๋ยวก็กลับมาแล้วเชิญกลับห้องได้แล้วครับ"

"เอ่อ...ก็ได้กลับก็ได้ตะ...แต่ขอถามอีกข้อได้มั้ย?"

"ถ้าผมตอบได้นะครับ"

"โคลมล่ะ...โคลมอยู่ที่นี่ด้วยรึเปล่า?"

"มันไม่เหมาะสำหรับเด็กสาวตัวเล็กๆถ้าจะต้องมารับรู้ว่าคุณกับท่านมุคุโร่ทำเรื่องแบบนั้นกันน่ะครับให้เธออยู่ที่คฤหาสน์จะดีกว่า"

ได้ยินแบบนั้นเลือดฝาดทั้งร่างกายก็วิ่งขึ้นไปกองที่ใบหน้าน่ารักอย่างช่วยไม่ได้ริมฝีปากบางได้แต่อ้าค้างอย่างไม่รู้จะสรรหาคำใหนมาแก้ตัวเพราะคำว่าทำเรื่องแบบนั้นมันก็พาลทำให้นึกถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเองไปหยกๆแล้วจู่ๆทั้งเสียงน่าอายทั้งภาพเหล่านั้นมันก็ฉายอยู่ในหัวแถมยังชัดเจนซะจนไม่รู้จะแก้ตัวยังไงได้อีกไม่อยากจะยอมรับหรอกนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนมันไม่สมควรจะให้เด็กสาวคนสนิทรับรู้แต่เล่นเอามาพูดกันซะแจ่มแจ้งขนาดนี้นี่มัน!!....

"วะ...ว่าไงนะ!!??...นะ...นายพูดบ้าอะไรเนี้ยฉะ...ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ!!...ฮึ้ย!!??"

สองขาเรียวพาตัวเองกลับไปที่ห้องทันทีเมื่อทนอายไม่ไหวอีกต่อไป...คอยดูเถอะ
มุคุโร่ถ้านายกลับมาเจอดีแน่โทษฐานที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด!!...ได้แต่คาดโทษอีกคนเอาไว้ใจแต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าหากเค้ากลับมาจะต้องทำยังไงอยู่ดี




นัยน์เนตรต่างสีจ้องมองร่างที่นั่งกอดเข่าบนโซฟาแล้วก็ได้แต่ยิ้มอ่อนโยนเพราะไม่รู้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่ใบหน้าถึงได้เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดงอยู่แบบนั้นและคงจะจดจ่ออยู่กับมันน่าดูถึงได้ยังไม่รู้ตัวว่าเขาอยู่ตรงนี้ทั้งๆที่เขาก็ใช่ว่าจะมาเงียบๆซะที่ใหนดูท่าว่าถ้าเขาไม่ทักเจ้าตัวคงไม่รู้สึกตัวแน่ๆ

"กำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอครับ สึนะโยชิ?"

"เฮือก!!!....นะ...นาย!!??..."

ใบหน้าน่ารักดูเหวอไปทันทีที่เห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามาหาโดยไม่ได้รู้เลยว่าท่าทางลุกลี้ลุกลนของตัวเองมันยิ่งไปกระตุกต่อมอยากแกล้งของเขาเข้าเต็มๆ

"กำลังคิดถึงผมอยู่ใช่มั้ย?"

"มะ...ไม่ใช่!!...ใครคิดถึงนายกันอย่ามามั่วนิ่ม!!"

ร่างเล็กหันมาแยกเขี้ยวใส่คนที่กำลังนั่งลงข้างๆตัวเองแล้วรีบสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นทันทีทั้งๆที่ก่อหน้านี้คิดคำด่าทออีกฝ่ายเอาไว้ตั้งเยอะแต่พอเห็นหน้าเข้าจริงๆกลับนึกไม่ออกเอาเสียดื้อๆ

"คึหึหึ...ถ้าไม่คิดถึงแล้วทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้นกันครับ"

"นายนี่มันหลงตัวเองชะมัด...ก็บอกว่าไม่ได้คิดถึงไง"

"งั้นก็มองหน้าผมสิ...จะหลบหน้ากันทำไมครับ?"

"ไม่ได้หลบ!!..แต่ไม่อยากเห็นหน้านายต่างหากเล่า"

"เกลียดผมมากสินะครับ"

ดวงตากลมโตสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินคำว่าเกลียดเพราะมันดันทำให้นึกถึงคำพูดที่ตัวเองพยายามจะบอกอีกฝ่ายไปเมื่อก่อนหน้านี้...คำพูดที่ถูกห้ามไม่ให้เอื้อนเอ่ยออกไป...คำที่บอกว่า...รัก...คำที่จะยืนยันทุกความรู้สึกที่เขามีต่อคนคนนี้...เพราะอะไรถึงทำให้เขาอยากจะพูดคำๆนั้นออกมาในตอนนั้น...ทำไมในช่วงเวลาแบบนั้นเขาถึงอยากจะบอกให้ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเขา...รัก...ความรู้สึกแบบนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมือไหร่กัน...ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาตกหลุมรักผู้ชายคนนี้!!?...

คิดได้แบบนั้นความร้อนรุ่มมันก็แข่งกันเห่อขึ้นใบหน้าซะหมดแถมยังลามไปถึงใบหูซะแล้วด้วยแย่แน่ๆสึนะโยชิ...นายต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆถึงได้ไปตกหลุมรักผู้ชายด้วยกันแบบนี้...และยิ่งไปกว่านั้นยังเผลอทำเรื่องแบบนั้นไปแล้วด้วย!!

"สึนะโยชิ"

"ห๊ะ!!...ห๊ะ!!...อะไร!!??"

"กำลังเหม่ออะไรอยู่งั้นเหรอครับ?"

"ปละเปล่าซะหน่อย...ฉัน...อยากพักผ่อนน่ะ"

มือเรียวยาวเชยปลายคางมนให้หันมาสบตาทั้งๆที่เจ้าตัวยังพยายามจะหันหนีไปทางอื่น...ไม่รู้ทำไมถึงไม่กล้าสบตาสีพิศวงคู่นี้ในตอนนี้...ไม่รู้ทำไมทุกๆครั้งที่สบกับมันแล้วถึงได้รู้สึกเหมือนถูกสะกดเอาไว้....ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเขาก็หลงไหลจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

"อ๊ะ!!...อื๊ออ!!..."

จู่ๆริมฝีปากของอีกคนก็ประกบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัวมือเรียวเล็กจึงได้แต่ผลักไสด้วยความตกใจแต่เรี่ยวแรงที่มีมันกลับน้อยเสียจนถูกอีกฝ่ายครอบครองริมฝีปากของตัวเองได้ในที่สุดเรียวลิ้นที่ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปไม่รุนแรงทำเอาร่างเล็กยอมเผยอริมฝีปากของตัวเองเปิดทางให้เข้าไปควานหาความหอมหวานแต่โดยดียิ่งถูกเรียวลิ้นอุ่นร้อนกวาดต้อนมากเท่าไหร่มันยิ่งเหมือนพลังชีวิตถูกสูบออกไปมากเท่านั้นเรี่ยวแรงทั้งร่างจึงหดหายไปแทบหมดตัวอยู่ลอมล่อแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมหยุดให้พักหายใจเมื่อริมฝีปากเรียวบดเบียดลงมาหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น!!

"อื๊ออ!!....มุคุ...."

ร่างสูงโปร่งยอมละริมฝีปากออกมาแต่โดยดีเมื่อเสียงประท้วงเล็กๆดังขึ้นพร้อมกับแรงขยุ้มที่เสื้อเชิ้ตของเขาแต่เพียงไม่กี่วินาทีริมฝีปากเรียวก็กดเบียดลงไปใหม่แต่คราวนี้เป้าหมายกลับเป็นที่ซอกคอที่ยังมีร่องรอยที่เขาสร้างไว้จนแทบไม่มีพื้นที่ว่างแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากจะสร้างมันเพิ่มมากขึ้น!..มากขึ้น!!...เพื่อให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าร่างเล็กๆนี่เป็นของของเขาแค่คนเดียว!!...

"มะ...ไม่มุคุโร่!!...พอแล้ว...หยุดก่อน!!..."

รู้สึกเหมือนเสียงร้องของตัวเองเป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิตเมื่อร่างที่คร่อมตัวเองอยู่ยอมหยุดการกระทำของตัวเองแค่ก็ใช่ว่าจะหยุดไปเลยซะทีเดียวคงเรียกว่าลดความรุนแรงลงถึงจะถูกเมื่อใบหน้าหล่อเหลายังคงซุกไซร้คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง

"ทำไมล่ะครับ?"

"นะ...นาย...ฉันยังเจ็บอยู่เลยนะเจ้าบ้า!!"

"คึหึหึหึ...."

ร่างสูงโปร่งถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับคำตอบที่แสนจะไร้เดียงสาของร่างเล็ก...ที่ตอบแบบนี้หมายถึงถ้าไม่เจ็บก็จะยอมสินะ...แต่ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะปฏิเสธเขาก็จะไม่ยอมหยุดหรอกนะ

"ผมจะทำเบาๆ"

"มะ...ไม่ฉันไม่เชื่อนายรุนแรงกับฉัน!!"

"ไม่ลองให้ทำแล้วจะรู้ได้ไงครับว่าผมโกหก"

"ตะ....แต่มัน!!..."

"นะครับสึนะโยชิ...ผมสัญญาว่าจะไม่รุนแรง"

"แต่นายเพิ่งทำไปเมื่อคืนเองนะ"

"ตัวคุณหอมหวานซะขนาดนี้ผมอดใจไม่ไหวหรอกนะ"

"พูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจอีกอย่าง....ฉันไม่ใช่ขนมหวานซะหน่อย"

ใบหน้าน่ารักที่ซับสีระเรื่อพึมพำออกมาเบาๆเรียกรอยยิ้มจากอีกคนได้ไม่ยากก่อนที่ใบหน้าหล่อเหล่าจะโน้มลงไปกดจูบแผ่วเบาที่ริมฝีปากบาง

""หวานจริงๆนะผมไม่ได้โกหก...ตรงนี้ยิ่งหวาน"

"ตรงนี้ก็ด้วย"

"แล้วก็ตรงนี้"

ริมฝีปากเรียวกดจูบลงไปอีกครั้งที่ริมฝีปากบางพร้อมกับลากไล้เรียวลิ้นเปียกแฉะราวกับลิ้มรสขนมหวานให้ร่างด้านใต้ได้แต่หลับตาพริ้มยอมให้อีกฝ่ายกดจูบตามแต่ใจแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ริมฝีปากเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนต่ำลงไปที่แผ่นอกบางแล้วไล้เลียยอดอกสีหวานสลับกับดูดดุนเคลื่อนต่ำลงไปลากเลียที่หน้าท้องแบนราบไร้ไขมันส่วนเกินเรียกเสียงครางจากร่างเล็กอย่างลืมตัวแต่ที่สำคัญ!!...เสื้อยืดตัวบางของเขามันหลุดไปกองอยู่ที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่!??...แบบนี้อีกไม่นานกางเกงของเขาก็คงลงไปกองเป็นเพื่อนแล้วสินะ...ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายอย่างโรคุโด มุคุโร่ จะอ้อนเป็นกับเขาด้วย...ผู้ชายเย็นชาจอมเผด็จการคนนั้นหายไปใหนแล้วนะแบบใหนคือตัวจริงของนายกันแน่?.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ไม่!!!...หยุดเดี๋ยวนี้ไอ้บอสบ้า!!"

"ปล่อยฉันนะแซนซัส!!!....ปล่อยย!!!!"

โครมม!!

เพล้งงง!!!!

เสียงโวยวายจากผู้มาใหม่ดังกึกก้องกังวานปลุกทุกคนในบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ไม่เว้นแม้แต่นายน้อยของบ้านที่ปรือตาขึ้นมานั่งงัวเงียอยู่บนฟูกก่อนจะลุกเดินโซเซไปที่ประตูห้องและทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปก็ต้องแปลกใจเมื่อเด็กรับใช้ในบ้านหลายคนมายืนออกันตามมุมทางเดินของบ้านและดูเหมือนว่าทุกสายตาจะเพ่งมองไปที่เรือนใหญ่ที่อาของเขาพักอยู่และที่นั่นน่าจะเป็นต้นเหตุของเสียงโครมครามนี่แน่ๆ

"เกิดอะไรขึ้นยามาโมโตะ?"

ใบหน้าคมคายหันมายิ้มให้กับคนที่เพิ่งตื่นก่อนจะหันไปสนใจร่างทั้งสองร่างที่เล่นวิ่งไล่จับกันอวดเด็กๆในบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่างดีแถมคนทั้งคู่อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยซะที่ใหนแต่มันกลับดูน่ารักดีไปอีกแบบเพราะไม่คิดว่าคนที่อายุขึ้นเลขสามแล้วอย่างแซนซัสจะมีมุมหื่นๆแบบนี้ด้วย

"สองคนนั้นกำลังทำอะไรกันน่ะ!!??"

"ฮะฮะฮะ...สงสัยอยากเล่นวิ่งไล่จับกันบ้างล่ะมั้งแต่ก็น่ารักดีเน้อะ"

ดวงตาสีมรกตมองภาพของอาตัวเองกำลังแบกร่างโปร่งบางที่น่าจะไล่จับกันอยู่นานพอสมควรเข้าห้องไปแล้วก็ให้รู้สึกอายแทนเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนและสรุปได้ว่าสองคนนั้นน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีมาก่อนและน่าจะมีความสัมพันที่ลึกซึ้งมากพอสมควรหรือจะเรียกได้ว่าแนบแน่นก็คงไม่ผิดนักเพราะถึงขนาดทำแบบนั้นแล้วด้วยคงไม่ใช่ความสัมพันแบบผิวเผินแน่

"แซนซัสนี่เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้ไม่อายเด็กในบ้านบ้างรึไงนะ....นายก็ด้วยจะยืนดูอีกนานมั้ยเจ้าบ้า!!"

"อ้าวแล้วไหงมาลงที่ชั้นล่ะฮายาโตะ...เขินล่ะสินะ....ฮะฮะฮะ"

"เจ้าบ้าใครเขินกัน!!...ฮึ!!"

"ฮะฮะฮะ..."

ก็ตัวเองเขินอยู่ไม่ใช่รึไง?...แต่ก็อย่างว่าล่ะนะถ้าเจ้าตัวยอมรับง่ายๆก็ไม่ใช่ โกคุเดระ ฮายาโตะ สิแบบนี้แหละถึงจะสมเป็นเจ้าตัวที่สุดแล้ว
หลังจากสลัดความคิดออกจากหัวได้ร่างสูงก็ก้าวขาตามอีกคนไปติดๆเพราะวันนี้มีฝึกซ้อมกับแซนซัสแต่เช้าแต่ไม่รู้ว่าครูสอนพิเศษของพวกเขาจะว่างมาสอนรึเปล่านี่สิ






แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิดเมื่อครูสอนพิเศษของเขากับร่างบอบบางยังไม่ยอมออกมาจากห้องเป็นเหตุให้เขากับฮายาโตะต้องมานั่งแกร่วอยู่ที่โรงฝึกกันสองคนและดเหมือนว่าคนเป็นหลานจะกระวนกระวายใจมากเป็นพิเศษคงเพราะเห็นว่าร่างสูงโปร่งเรือนผมสียาวยวงคนนั้นกำลังจะทำร้ายแซนซัสก็ไม่ผิดนักตอนนี้ใบหน้าสวยๆนั่นจึงได้แต่ชะเง้อชะแง้มองประตูทางเข้ามาตลอดทั้งเช้าแบบนี้

"แซนซัสไม่เป็นไรหรอกนะฮายาโตะ...เป็นห่วงคนผมยาวคนนั้นน่าจะเข้าท่ากว่าจริงมั้ย?"

"มันก็ถูกของนายแต่ฉันไม่ได้คิดเรื่องนั้นซะหน่อย....บางทีคนคนนั้นอาจจะ...."

นัยน์ตาสีเปลือกไม้ไหววูบเล็กน้อยก่อนจะคว้าร่างของคนที่นั่งอยู่ข้างๆเข้ามากอดเอาไว้เพราะรู้ดีว่าร่างบางในอ้อมแขนของเขาหมายถึงอะไรนั่นก็เพราะสิ่งที่ร่างบอบบางกำลังกลัวอยู่นั้นเขาเองก็คิดอยู่ตลอดเวลาเช่นกันแต่....

"ไม่ต้องกลัวฮายาโตะ...ชั้นจะไม่ปล่อยให้ใครมาพรากนายไปจากชั้นอีกเด็ดขาด...ถึงจะเป็นคนรู้จักของแซนซัสก็ตาม"

"ยามาโมโต!?"

ทั้งน้ำเสียงที่ดูจริงจังกับอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้นของร่างสูงทำเอาคนที่ถูกกอดถึงกับตกตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง...ถึงแม้จะยังจำไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้รักตัวเองมากขนาดใหนแต่สิ่งที่เขาแสดงออกให้เห็นตลอดระยะเวลาเกือบสามเดือนมันมากมายเกินกว่าจะหาคำพูดใดมาอธิบายได้ทั้งๆที่ตัวเขาก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์หรือมีแค่ร่างสูงนี่คนเดียวเสียเมื่อไหร่แต่เค้าคนนี้กลับไม่เคยมีท่าทีรังเกียจเขาเคยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งๆที่ตัวเค้าก็รู้ดีอยู่แล้วแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเฝ้ารักเฝ้าถนุถนอมตนยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก....อยากจะรู้เหลือเกินว่าก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองคนอยากจะจำได้เหลือเกินว่าก่อนหน้านี้พวกเขารักกันมากขนาดใหนเพราะยิ่งรู้ว่าคนคนนี้รักตัวเองมากขนาดใหนมันก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกวันที่ไม่กล้าตอบรับความรู้สึกนี้ได้อย่างหมดใจ

"ฉัน...ขอโทษยามาโมโตะฉัน...."

"ไม่จำเป็นต้องขอโทษฮายาโตะ....เพราะทั้งชีวิตของชั้นมันเป็นของนายคนเดียวเท่านั้น"

"นายมันคนงี่เง่าที่เอาชีวิตมาฝากไว้กับคนไร้ค่าอย่างฉัน"

พูดทั้งๆที่สองแขนโอบกอดแผ่นหลังกว้างตอบพร้อมกับซุกใบหน้าเข้าหาแผงอกแกร่งจนอีกคนได้แต่หัวเราะขบขันกับท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูแบบนั้นเพราะต่อให้ร่างบอบบางนี้จะว่าเขาโง่หรืองี่เง่ายังไงก็ตามแต่....เขาก็จะยังรักแค่คนในอ้อมแขนของเขาเท่านั้น...





จนแล้วจนรอดเมื่อวานคนเป็นอากับร่างโปร่งบางผมยาวคนนั้นก็ยังไม่ยอมออกจากห้องทั้งวันแต่เช้านี้ทั้งสองคนกลับมองหน้ากันอย่างแปลกใจเมื่อสำรับสำหรับเช้านี้ถูกจัดเอาไว้สี่ชุดจึงได้แต่มองหน้ากันแต่แล้วยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามอะไรก็ต้องยิ้มเมื่อเสียงโวยวายของใครบางคนกำลังดังใกล้เข้ามาทุกขณะทั้งคู่จึงได้แต่มองสองร่างในชุดยูกาตะสีดำและขาวเดินคู่กันมาทั้งๆที่คนตัวบางกว่ายังคงมีสีหน้าแง่งอนมาตลอดทางแต่ท่าทางแบบนั้นก็ใช่ว่าจะมีใครกล้าทำต่อหน้าของคนที่เปรียบเสมือนนายใหญ่ของบ้านอย่างแซนซัสแน่ๆหากไม่ใช่คนพิเศษจริงๆและคนที่จะยืนอยู่ตรงนั้นได้ทุกคนในบ้านของตระกูลโกคุเดระก็เพิ่งจะได้เห็นกันก็คราวนี้นี่เองจึงไม่แปลกใจเลยที่เด็กในบ้านหลายคนจะแอบตามข้างทางจ้องมองร่างโปร่งบางเรือนผมสีเงินยาวยวงคนนั้นเป็นตาเดียว

"กินก่อนก็ได้นี่ฮายาโตะไม่เห็นต้องรอเลย"

"ก็นายมีแขกนี่ก็ต้องรอสิ"


พูดพร้อมกับมองใบหน้าเรียวสวยของคนที่ยืนอยู่ข้างๆอาของตัวเองด้วยแววตาที่เป็นมิตรและร่างโปร่งบางเองก็ตอบรับไมตรีนั่นเช่นกันริมฝีปากเรียวสีระเรื่อจึงยิ้มอ่อนโยนตอบคนที่เด็กกว่าเหมือนทั้งคู่จะลืมเรื่องมื่อตอนเจอกันครั้งแรกไปเรียบร้อยแล้วด้วยทั้งคู่จึงดูจะยิ้มแย้มกันผิดปรกติทั้งๆที่มันควรจะเป็นแบบนั้นถ้าหากว่าร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีโกเมนไม่พูดขึ้น

"เจ้านี่สควอโล่ไม่ใช่แขกไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรแค่ของของชั้นที่หายไปมันกลับมาหาก็เท่านั้น"

"ใครเป็นของของแกกันไอ้บอสบ้า!!!...ฉันมาเพื่อเอาชีวิตแกตะหากโว้ย!!"

"แกทำไม่ได้ก็ยอมรับมาเถอะไอ้ฉลามสวะ...และจะไม่มีวันไม่ใช่รึไง?"

"นั่นมัน!!!...ว้อยฉันไม่พูดกับแกแล้วไอ้บอสบ้าฮึ!!"

ใบหน้าเรียวสวยหันมาแยกเขี้ยวใส่คนข้างๆที่ทำเพียงหัวเราะหึในลำคอเท่านั้นปล่อยให้คนอายุน้อยกว่าทั้งสองคนได้แต่มองตากันปริบๆอย่างไม่เข้าใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนอย่างแซนซัสจะรักใครเป็นแต่จากนี้ไปคงต้องมองใหม่ซะแล้วเพราะถึงแม้ว่าใบหน้าคมเข้มนั้นจะยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาสีโกเมนกลับมีแววห่วงหาอาทรร่างโปร่งบางคนนี้ไม่ใช่น้อยแต่กี่ปีมาแล้วนะที่พวกเขาไม่ได้เจอหน้ากันหรือจะตั้งแต่ตอนนั้น...ตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้ว??..

"ว่าแต่...สควอโล่สินะ...นายตามหาแซนซัสมาตลอดเลยเหรอ?"

ร่างบอบบางกว่าเรือนผมสีเดียวกันถามออกไปด้วยความใคร่รู้เพราะจากที่แซนซัสกับยามาโมโตะเล่าเรื่องราวต่างๆในอดีตในฟังไม่มีใครพูดถึงชื่อสควอโล่เลยแม้แต่ครั้งเดียว

"ฉันไม่เคยคิดจะตามหาแค่.....ฉันได้ยินข่าวลือเรื่องของนายจากคนของมุคุโร่ก็เลยอยากจะมาดูให้เห็นกับตาเท่านั้นเอง"

เคร้ง!!!!!

ตะเกียบในมือของร่างบางถึงกับหลุดจากมือเมื่อได้ยินชื่อของใครอีกคน...คนที่ฝากรอยแผลเอาไว้ในหัวใจใบหน้าสวยถึงกับถอดสีเสียจนคนข้างๆต้องบีบมือเอาไว้ทั้งๆที่ตัวเองก็ขบกรามแน่นไม่ต่างกันไม่ได้กลัวแต่...เพราะความชิงชังที่มันอัดแน่นอยู่ในหัวใจ...แต่เป็นเพราะไม่มีวันลืมว่าเจ้าของชื่อๆนั้นทำอะไรไว้กับเขาบ้าง!!

"นายหนีมาจากหมอนั่นจริงๆสินะโกคุเดระ"

"ไม่ต้องกลัวไปฮายาโตะมุคุโร่จะไม่มาวุ่นวายกับนายอีกแล้วล่ะ"

"ทะ...ทำไมล่ะแซนซัส!!??"

"ไม่คิดบ้างเหรอว่าทำไมนายถึงยังอยู่ดีได้...คิดเหรอว่าคนอย่างมุคุโร่น่ะจะไม่รู้ว่าพวกนายหนีไปอยู่ที่ใหนแต่หมอนั่นก็ยังเฉยแถมไม่สั่งให้ลูกน้องตามหาพวกนายอีกทั้งๆที่มันทำได้"

ร่างโปร่งบางพูดเสริมขึ้นมาให้ทั้งคู่ได้จุกคิดเพราะจะว่าไปพวกเขาก็ไม่ได้หนีไปหลบซ่อนตัวที่ใหนเลยแต่กลับยังใช้ชีวิตได้อย่างปรกติ...หรือว่ามันมีอะไรบางอย่างผิดพลาดไปหรือพวกเขาพลาดเรื่องสำคัญอะไรไปกันแน่!!??
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
 Tobecontinue!!......

กลับมาต่อให้อีกตอนค่ะสำหรับเรื่องนี้จริงๆแล้วก็กะว่าจะลงตั้งแต่เมื่อเช้าพร้อมกันแต่คุณเพื่อนของIsayaa มันดันมารับคอมตอนนั้นพอดีเลยยังไม่ได้คลีนตอนนี้อ่ะ....แต่ที่ลงให้ตอนนี้น่ะคลีนกับมือถือเอาอ่ะนะตัวมันเล็กแถมสายตาเก๊าก็สั้นอีก...ประมาณสี่ร้อยน่ะไม่รู้ว่ามากหรือน้อยแต่พอมองอะไรยึกยือแล้วมันก็เกิดอาการคลื่นเหียนวิงเวียนอย่างบอกไม่ถูกอาจจะมีผิดเยอะบ้างก็ขออภัยด้วยเด้อเอาไว้จะคลีนซ่อมตอนคอมมาโน่นแหละค่ะ

ปล.1-ถามว่าทำไมคอมถึงพัง?

ตอบ.อันนี้เก๊าก็ไม่อาจทราบได้แต่หลังจากกลับมาจากกัมพูชามันก็เออเร่อไปเรียบร้อยแล้วนั่นแลคือเหตุผล!!!!

ปล.2-ตอนนี้เขียนตอนที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้านเรานะค่ะใช้คอมของบริษัท...มันเป็นโน้ตบุ๊ค!!!ที่เก๊าไม่ถนัดเอาเสียเลยถ้าหากมันจะพิมพ์ผิดก็ไม่ต้องแปลกใจเน้อ!!!

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ.....บั้ยบายยย!!!


1 ความคิดเห็น:

  1. อ๊าคคคคค!!!ไอ้คุณสับป้ามันกดทูน่าแว้ววว!!!
    ในที่สุด!!!...ในที่สุดช่องว่างของแกมันก็ไม่มีเหลือแล้วไอ้หัวสับปะรดดดดด!!!!
    //ต้องบอกว่าสับป้าตอนหื่นนี่มันเหลือร้ายจริงจริ๊ง!!///
    ชักจะสงสัยแล้วล่ะว่ามันจะโรคจิตอย่างที่ตาหมอคนนั้นว่าไว้รึเปล่า???
    แต่สุดยอดอ่ะกลับมาคราวนี้จัดเต็มไม่ผิดหวังจริงๆ
    //ที่จริงก็ไม่มีผิดหวังสักเรื่องหรอกนะจะมีจิตตกไปบ้างก็แสงสุดท้ายนั่นแหละเน้อะ////

    ตอบลบ