12 มิ.ย. 2557

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 03 End.

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 03 End.

:Fanfiction [KHR]6927

:Romantic

:NC-18+





HBD Rokudo Mukuro 9-June





คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ







ร่างสูงโปร่งยืนกอดอกพิงราว ขอบกั้นถนนที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่ร่างเล็กทำอยู่เมื่อใกล้เวลาที่คนที่เขา รอเลิกงาน..จริงๆแล้วเขาก็มายืนรออยู่ตรงนี้เกือบสามสัปดาห์แล้วแทบจะทุกวัน ทีไม่มีงานด่วน...พอมาลองคิดดูดีๆมันก็ไม่แปลกเลยที่ใครหลายคนในแฟมิลี่จะ เห็นพวกเขาเดินกลับด้วยกันแม้แต่ตอนนี้ยังรู้สึกได้ถึงสายตาจากมุมมืดจ้อง มองอยู่...หึ..ชั่งเป็นพวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านกันซะจริง...ไม่ คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าการที่เขาจะมีใครสักคนมันจะกลายเป็นจุดสนใจของเหล่า ลูกน้องขนาดนี้..


"มุคุโร่!!...รอนานมั้ยพอดีเคลียยอดผิดน่ะขอโทษนะ"

น้ำเสียงใสๆที่ดังมาก่อนตัวของ เจ้าของมันจะโผล่มาซะอีกทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองร่างเล็กๆที่วิ่งกระหืด กระหอบมาหาเขาแขนผอมบางสอดเข้ามาคล้องแขนของเขาเอาไว้ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้

"ผมพึ่งมาถึงน่ะครับ"

"งั้นเหรอ...ดีจังฉันกลัวว่านายจะหนาวน่ะเห็นพยากรณ์อากาศบอกว่าอุณหภูมิจะลดลงอีกกังวลแทบแย่แน่ะ...ฮะฮะ"

"พูดอะไรน่ะครับผมไม่ใช่เด็กเหมือนนายนะจะได้ไม่สบายเพราะเรื่องแค่นี้น่ะ...คิดอะไรไม่เข้าท่าเอาซะเลยนะครับ"

"อื้ม!!...นั่นสินะฉันขอโทษก็แล้วกัน"

"อ๊ะจริงสิ..ฉันซื้อช็อคโกแลตยี่ห้อโปรดนายมาด้วยนะเห็นว่าในตู้เย็นมันใกล้หมด
แล้วน่ะแต่เสียดายที่พายสับปะรดมันหมดซะก่อนรู้งี้ฉันซื้อไว้ตั้งแต่ตอนที่เข้ามาส่งใหม่ๆซะก็ดี"

มือเรียวเล็กยกถุงพลาสติกในมือให้ อีกฝ่ายดูซึ่งร่างสูงโปร่งเองก็ได้แต่ยิ้มอ่อนโยนให้ในความหวังดีที่ร่าง เล็กมีให้...มืออีกข้างที่ไม่ได้ถูกเกาะกุมยกขึ้นมาขยี้หัวสีน้ำตาลเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู

"ก่อนจะห่วงเรื่องพายเป็นห่วงมื้อเย็นไม่ดีกว่าเหรอครับจะสามทุ่มแล้วหาอะไรแถวนี้กินดีกว่านะจะได้ไม่ต้องกลับไปทำให้ยุ่งยาก"

"อืมม์...งั้นไปกินแฮมเบอเกอร์กัน!!"

"คึหึหึ...ตามนั้นก็แล้วกัน"

ทั้งสองคนเดินเกาะแขนคุยกันไป เรื่อยเปื่อยโดยลืมสนใจสายตาหลายคู่ที่มองมายังพวกเขาด้วยความรู้สึกอิจฉาใน ความเหมาะสมกันของทั้งคู่ตลอดทางที่เดินผ่าน...และนั่นก็เพราะคนพวกนั้นเข้า ใจว่าร่างเล็กเป็นเด็กผู้หญิงซะมากกว่าหากรู้ว่าเป็นผู้ชายหน้าสวยแล้วไม่ รู้ว่าพวกเขาจะยังจ้องมองทั้งคู่ด้วยสายตาแบบนั้นอยู่รึเปล่า

ทั้งสองคนแวะเข้าไปในร้านฟาสฟู๊ด ชื่อดังก่อนจะนั่งโต๊ะตัวที่ติดกระจกเพื่อที่จะได้มองวิวยามเกือบดึกของ เมืองและมันไม่ใช่ความคิดของเขาหรอกนะแต่มันเป็นของร่างเล็กนี่ต่างหากเพราะ รู้ๆกันอยู่ว่าเขาไม่ชอบอะไรที่พลุกพล่านแบบนี้

ไม่นานพนักงานในร้านก็ยกมื้อเย็น ที่แสนจะธรรมดาของพวกเขามาเสริฟให้ถึงโต๊ะแต่ดูเหมือนว่าสึนะจะออกอาการ กระดี้กระด้าเป็นพิเศษ...หึหึ..ก็เข้าใจล่ะนะว่าเจ้าตัวชอบกินเบอเกอร์เป็น พิเศษแต่ออกอาการขนาดนี้มันก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้..กับท่าทางเหมือนเด็ก ประถมแบบนั้น...น่ารัก..ใช่เขาต้องยอมรับความจริงข้อนี้อย่างไร้คำแก้ตัวว่า ร่างเล็กนี่น่ารักมากเลยที่เดียวเวลาแสดงอาการแบบนั้นออกมาเพราะมันดูใสซื่อ ไร้ความเสแสร้งแกล้งทำไร้มารยาร้อยเล่มเกวียนเหมือนที่ผู้หญิงรอบข้างเขาทำ คนพวกนั้นใช้มารยาเหล่านั้นเพื่อหวังผลประโยชน์จากเขาแทบจะทั้งนั้นแต่ 
ซาวาดะ สึนะโยชิ คนนี้ไม่ใช่ทุกการกระทำที่เจ้าตัวแสดงออกมันมันดูจริงใจไร้การเสแสร้งแกล้งทำใดๆให้รู้สึกขัดหูขัดตาเลยสักนิด..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แขน แข็งแรงคว้าร่างของคนที่พึ่งจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆหลังจากอาบน้าเสร็จแล้วเข้า มากอดเอาไว้แน่น...ริมฝีปากเรียวคลอเคลียกดจูบไปทั่วใบหน้าน่ารักแผ่วเบาให้ อีกคนหัวใจเต้นแรงเล่น..ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกกระทำด้วยความ อ่อนโยนแบบนี้...ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำแบบนี้ซ้าแล้วซ้ำเล่าจนนับไม่ถ้วนแต่ สัมผัสอบอุ่นที่แสนอ่อนโยนชวนให้โหยหาแบบนี้มันก็ทำเอาใจดวงน้อยเต้นไม่เป็น ระส่ำอยู่ร่ำไป

"...อืมม~~.."

เสียงครางเบาๆในลำคอของร่างเล็ก ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาหยักยิ้มพอใจ...มือเรียวข้างหนึ่งค่อยๆปลดกระดุม เสื้อนอนตัวบางอย่างใจเย็นทั้งๆที่ใบหน้าและริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ที่ซอก คอและลาดไหล่...สองแขนผอมบางจึงได้แต่ปัดป่ายหาที่เกาะยึดไปทั่ว

"อืออ..มุคุโร่..."

"ครับ..."

เสียงครางเครือเอ่ยเรียกชื่อเขาทำให้ริมฝีปากเรียวละออกมากระซิบที่ข้างหูเบาๆก่อนจะระดมกดจูบซุกไซร้ลงไปอีกครั้ง

"นะ...นายพึ่งทำไปเมื่อวานเองนะ"

"อาทิตย์หน้านายจะเข้ากะดึกแล้วนี่ครับอีกตั้งเดือนกว่าเราจะได้เจอกัน"

"ตะ...แต่ฉันก็ได้หยุดตั้งอาทิตย์ละสองวันเชียวนะ"

"แค่นั้นมันไม่พอเหรอนะครับ...หยุดแค่สองวันเผลอๆวันใหนผมติดงานเราก็ไม่ได้เจอกันอีกอยู่ดี"

ร่างเล็กถึงกับชะงักค้างกับคำพูด ของอีกคน...ที่พูดออกมาแบบนี้เขาจะคิดเข้าข้างตัวเองได้รึเปล่านะว่าคนคนนี้ คิดถึงเขา...อยากอยู่กับเขาตลอดเวลาน่ะ..เพียงแค่เผลอคิดเข้าข้างตัวเองแบบ นั้นก็รู้สึกอุ่นวาบที่อกข้างซ้ายอย่างไม่น่าเชื่อ...คนคนนี้ต้องการเขา... คิดถึงเขาขนาดนั้นเลยเหรอ...คนคนนี้ต้องการเขามากขนาดนั้นเลยสินะ...จู่ๆก็ รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก...แขนผอมบางย้ายจากสาบเสื้อขึ้นไปโอบรอบคอของอีก คนเอาไว้แน่นเมื่อมันรู้สึกอบอุ่นจนพูดไม่ออกทุกถ้อยคำที่อยากจะเอ่ยออกมา มันวิ่งมาจุกอยู่ที่ลำคอแล้วกลืนหายกลับลงไปอีกครั้ง..ดีใจ...มันรู้สึกดี มากๆเลยทีเดียว...

"เป็นอะไรไปครับ?...โกรธผมงั้นเหรอครับ?"

"...ปละ...เปล่าซะหน่อย..."

"หื๋มม์??"

"จะมาหื๋มมาหาอะไรเล่า!!...อยากจะทำอะไรก็ตามใจ!!"

ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มพอใจกับ ท่าทางเขินอายจนใบหหน้าน่ารักซับสีจัดลามลงไปถึงคออยู่แล้วก่อนจะจัดการถอด ชุดนอนสีเขียวอ่อนของร่างเล็กทันที...แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อมิอะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน!!...

R R R RRR~~

"นะ...นะ..นั้นมัน.."

ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งเฮือกเด้งตัว ลุกขึ้นนั่งแทบจะทันทีเมื่อริงโทนนี้มันคือมือถือของตัวเอง...มือเล็กรีบ คว้ามือถือที่โต๊ะข้างเตียงขึ้นมาแทบจะทันทีและทันทีที่เห็นเบอร์ที่โชว์ที่ หน้าจอก็ถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกระลอก

"คระ...ครับแม่!!"

[ซือคุงเป็นอะไรไปน่ะทำไมเสียงสั่นแบบนั้นล่ะลูก?]

"ห๊ะ!!...เปล่าซะหน่อยก็แค่ตกใจที่ผมเกือบจะหลับอยู่แล้วแต่แม่ก็โทรมาซะก่อน...แล้วมีธุระอะไรเหรอครับถึงได้โทรมาเอาป่านนี้?"

[แหมดูพูดเข้าทำอย่างกับแม่เป็นคน แปลกหน้ายังงั้นแหละ..แม่แค่เป็นห่วงน่ะก็เห็นว่าดึกมากแล้วเรายังไม่กลับ บ้านอีกถ้าจำไม่ผิดยังเข้ากะเช้าอยู่ไม่ใช่เหรอซือคุงน่ะ]

"เอ๊ะ!!...แม่รู้ได้ไงครับว่าผมไม่อยู่บ้านโทรเข้าเบอร์บ้านงั้นเหรอครับ"

[เปล่าจ๊ะไม่ได้โทร...แต่เรากลับมาจากอิตาลีแล้วต่างหาก]


"วะ...ว่าไงนะกลับมาแล้วงั้นเหรอครับก็ใหนว่าจะอยู่ที่โน่นสามเดือนล่ะครับนี่มันพึ่งจะเดือนเดียวเองนะครับแม่!!??"

ใบหน้าน่ารักที่ดูตื่นตูมซะจน ลนลานจ้องมองร่างสูงโปร่งที่นอนตะแคงข้างท้าวแขนมองตัวเองอยู่ก่อนแล้วอย่าง ไม่รู้จะทำยังไงต่อดีเมื่อตอนนี้คิดหาคำแก้ตัวกับทั้งแม่และร่างสูงโปร่งไม่ ออก..จะบอกมุคุโร่ได้ยังไงว่ากลัวแม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน.. แล้วจะอธิบายกับแม่ยังไงว่าทำไมตัวเองถึงไม่ได้กลับบ้านตั้งเกือบเดือนแบบ นี้...เพราะยังไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องเจอกับสถานการณ์ที่กลืนไม่ เข้าคายไม่ออกเร็วขนาดนี้ทั้งๆที่คิดว่ายังพอมีเวลาอีกตั้งสองเดือนให้ได้ เตรียมใจแต่มันกลับตาลปัดแบบนี้หัวสมองมันตื้อจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว

[ซือคุง ซือคุง ฟังอยู่รึเปล่าแล้ววันนี้จะกลับมาบ้านมั้ยหรือจะค้างที่บ้านโกคุเดระคุงใช่มั้ย?]

"กละ...กลับครับอีกสักพักใหญ่ๆก็คงจะถึงแม่ไม่ต้องรอนะครับนอนก่อนได้เลย"

[งั้นเหรอจ๊ะ...ถ้างั้นระวังตัวด้วยนะมันดึกมากแล้ว]

"...ครับแม่...."

ใบ หน้าน่ารักก้มมุดมองมือตัวเองไม่กล้าสู้หน้าอีกคนแต่จู่ๆคนที่คิดว่าน่าจะ โกรธตนแน่ๆกลับลุกขึ้นมาเชยปลายคางของเขาขึ้นแล้วกดจูบเบาๆที่ริมฝีปาก เหมือนเป็นการให้กำลังใจ

"ลุกไปแต่งตัวเถอะครับ...เดี๋ยวผมไปส่ง"

ร่างสูงโปร่งก้าวขาลงจากเตียงก่อน จะจัดการเปลี่ยนชุดตัวเอง...ถึงแม้จะรู้สึกใจหายไม่ใช่น้อยแต่เขาจะทำอะไร ได้ล่ะในเมื่อตัวเขาไม่ได้อยู่ในฐานะใดๆที่จะรั้งร่างเล็กนี่เอาไว้...ถึงทำ ได้แค่เตรียมใจ...จริงๆแล้วเขาก็เตรียมใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าสักวัน เรื่องแบบนี้มันจะต้องเกิดขึ้นสักวันในเมื่อร่างเล็กเองก็เคยพูดว่าจะอยู่ กับเขาแค่สักพักแต่สักพักที่ว่านั่นมันกลับทำให้เขารู้สึกตัวแล้วว่าเขาไม่ สามารถอยู่ห่างร่างเล็กได้เลย...รัก...เขาหลงรักร่างเล็กนี่เข้าให้แล้วล่ะ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะทำแบบนี้เพื่อที่จะลืมใครสักคนซึ่งเขาก็รู้ดี...แต่หัวใจ ที่มันไม่เคยให้ใครเข้ามายึดครองพื้นที่ด้านในได้กลับไม่รักดีเอาซะ ดื้อๆ...และเพราะแบบนั้นมันถึงได้ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจเอาซะเลยกับความ รู้สึกบ้าๆนี่...บางทีเขาควรจะจบมันซะเขาไม่ควรจะดึงดันมันต่อไปเพราะถึงยัง ไงครอบครัวของร่างเล็กก็ไม่มีทางรับได้อยู่แล้วที่ลูกชายของตัวเองจะมีแฟน เป็นผู้ชายด้วยกันแบบนี้...จริงๆแล้วในประเทศที่เคร่งครัดจารีตประเพณีอย่าง ประเทศนี้ด้วยแล้วไม่มีทางรับเรื่องนี้ได้อยู่แล้วล่ะ...
.
.
.
.
.
.
.
.
"ขอโทษนะที่ทำให้ลำบาก...แต่ฉันสัญญาว่าจะไปหานายแน่นอน"

เป็นร่างเล็กที่เอ่ยขึ้นมาหลังจาก ที่พวกเขาเงียบกันมาตลอดทาง...ถึงแม้ว่ารกเก๋งสัณชาติยุโรปสีดำสนิทจะจอดที่ หน้าบ้านของร่างเล็กแล้วก็ตามแต่คนที่เป็นเจ้าของบ้านกลับไม่คิดจะก้าวขาลง จากรถ

"คึหึหึ...พูดอะไรน่ะครับไม่จำเป็นต้องไปหาผมหรอกครับ...นายเองก็ดูสบายใจขึ้นเยอะแล้วนี่เรื่องของเรามันก็ควรจะจบได้แล้วมั้งครับ"

"หะ!!...พะ...พะ..พูดอะไรน่ะมุคุ โร่!!!...หมายความว่าไง..นายพูดเรื่องอะไร??...โกรธฉันจริงๆใช่มั้ยมุคุโร่ ฉันขอโทษจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ถ้านายจะหายโกรธฉันน่ะ"

"คึหึหึ...ชั่งเป็นคนที่เข้าใจ อะไรยากจังเลยนะครับ สึนะโยชิ ถ้าจะให้พูดตรงๆก็คือผมเบื่อนายแล้วยังไงล่ะครับผู้ชายผอมแห้งมีแต่ก้าง อย่างนายมันไม่มีอะไรให้เร้าใจได้อีกแล้วล่ะครับ...สู้พวกดารานางแบบดังๆไม่ ได้เลยสักนิดผู้หญิงพวกนั้นถึงใจกว่านาย....."

เพี้ยยย!!!!

มือเล็กๆฟาดเข้าไปที่ใบหน้าหล่อ เหลาสุดแรงทั้งหมดที่มีน้ำใสๆที่เอ่อคลอตั้งแต่ที่ได้ยินประโยคแรกร่วงแหมะๆ ลงมาอย่างห้ามไม่อยู่...ทั้งๆที่รู้สึกเสียใจมากซะจนร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน ไปหมดแต่ในใจกลับเชื่อในตัวคนข้างๆว่าทุกคำพูดที่หลุดออกมามันไม่ใช่ความ จริงเพราะทุกสัมผัสทุกการกระทำที่ผู้ชายคนนี้แสดงออกมาให้เขาเห็นมันเป็น หลักฐานชั้นดีที่จะยืนยันว่า โรคุโด มุคุโร่ คนนี้ไม่ได้คิดอย่างที่พูดออกมาจริงๆแน่
เพราะ ทุกการกระทำที่ผ่านมาแม้แค่เด็กอมมือยังรู้เลยว่ามันแฝงเอาไว้ด้วยความ รัก!!..แล้วจู่ๆมาพูดเรื่องงี่เง่าโดยที่ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบนี้ทั้งๆก่อน หน้านี้ไม่เคยมีทีท่าว่าเบื่อหน่ายทั้งๆที่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้ยังทำ เหมือนกับขาดเขาไม่ได้อยู่เลยแล้วแบบนี้ใครจะเชื่อลงกัน..

"ฉันไม่เชื่อ!!....สิ่งที่นายพูดมาหรอกนะมุคุโร่เพราะฉันรู้ว่านายไม่ได้คิดแบบนั้น...ฮึกฮึก...นายไม่ได้คิดแบบนั้นแน่นอน!!!"

"...หลงตัวเองจังเลยนะครับ...กำลังจะบอกว่าผมตกหลุมรักนายอย่างนั้นสินะ.."

"คึหึหึ...ชั่งใสซื่อไร้เดียงสาไปหน่อยมั้งครับ ซาวาดะ สึนะโยชิ ผมจะบอกอะไรให้"

"ว่าความรู้สึกที่ผมมีให้นายน่ะก็แค่....."

"ซือคุง!!!"

เสียงของใครบางคนที่ดังขึ้นข้างๆ ประตูฝั่งร่างเล็กทำให้ทั้งสองคนที่กำลังจ้องตากันเขม็งถึงกับสะดุ้งน้อยๆคำ พูดที่เหลือถูกกลืนลงคออีกครั้ง...ใบหน้าน่ารักหันไปมองผู้เป็นมารดาของตัว เองนิดหนึ่งก่อนจะรีบปาดน้ำตาที่อาบสองแก้มลวกๆพร้อมกับสูดหายใจเฮือกใหญ่

"ฉันจะโทรหานาย!!...ถ้านายไม่ยอม รับสายฉันก็จะไปหานายทุกที่ที่คิดว่านายจะอยู่เพราะฉนั้นจงเตรียมใจไว้เถอะ มุคุโร่ฉันจะไม่ยอมจบแค่นี้หรอก!!"

ปัง!!!

"ใครมาส่งเหรอจ๊ะทำไมไม่ชวนเข้าบ้านดื่มน้ำชาก่อนล่ะซือคุง?"

"..ไม่เป็นไรครับแม่ดึกแล้วเขามีงานรออยู่น่ะครับ"

"เหรอจ๊ะน่าเสียดายนะซือคุงอุตส่าห์มีเพื่อนใหม่น่าจะได้ทำความรู้จักกันไว้บ้างถ้างั้นวันหลังก็พาเค้ามาเที่ยวบ้านอีกนะจ๊ะ"

"....ครับแม่..."

ร่างเล็กลงจากรถหายเข้าบ้านไปตั้ง นานแล้วไม่มีทั้งเสียงพูดคุยของทั้งสองแม่ลูกลอยมาให้ได้ยินอีกความเงียบรวย ตัวเข้ามาครอบงำคนปากไม่ตรงกับใจโดยปริยาย...หัวสีน้ำเงินเอนพิงเบาะอยู่แบบ นั้นทั้งๆที่ควรจะขับรถไปซะให้มันพ้นๆจากตรงนี้

".....นี่ผมพูดบ้าอะไร..."

"คึหึหึ...นี่ผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่..."

ริมฝีปากเรียวเยียดยิ้มเย้ยหยัน ให้กับความงี่เง่าของตัวเองอย่างไร้คำแก้ตัวกลัวแม้กระทั่งสิ่งที่มันยังไม่ เกิดขึ้น...กลายเป็นคนขี้ขลาดกลัวที่จะมีความรักซะงั้น...บางทีสึนะยังดู เข้มแข็งกว่าเขาในตอนนี้ซะอีก..


นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ยังจับจ้องรถ เก๋งสีดำผ่านช่องเล็กๆที่แหวกผ้าม่านออกอยู่อย่างและการที่มุคุโร่ยังไม่ขับ รถกลับไปมันจะให้คิดเป็นอะไรได้อีกนอกจากเค้าโกหก...ถึงแม้จะไม่รู้สาเหตุ ว่าเพราะอะไรถึงได้พูดแบบนั้นออกมาแต่การที่รถสีดำนั้นยังไม่เคลื่อนตัวออก แบบนี้มันก็ชัดเจนแล้วว่ามุคุโร่มีใจให้กับเขาถ้าหากไม่ใช่แบบนั้นคงจะปัด ตูดไปนานแล้ว

"นายมันพวกปากแข็ง มุคุโร่ ฉันไม่ยอมให้นายทิ้งกันไปแบบนั้นหรอกเจ้าบ้า"
.

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ซือคุงเป็นอะไรรึเปล่าลูก..แม่เห็นเรานั่งกดมือถือมาเป็นอาทิตย์ที่แล้วนะลูกมีอะไรรึเปล่า...ทะเลาะกับเพื่อนมาเหรอซือคุง"

น้ำเสียงอ่อนโยนของคุณแม่ทำให้ใบ หน้าน่ารักละจากจอมือถือขึ้นไปมองผู้เป็นแม่ที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับออมเล็ต มาวางตรงหน้ายิ่งทำให้ขอบตารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ไม่รู้จะ อธิบายให้แม่ของเขาฟังยังไงดี...จะบอกยังไงดี...

"สีหน้าแบบนี้ไม่ใช่เพื่อนธรรมดาแน่ๆมีอะไรก็ปรึกษาแม่ได้นะซือคุง...เก็บเอาไว้คนเดียวมันไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นหรอกนะลูก"

"......แม่ครับ....ผมขอโทษ...ผม..."

ใบหน้าน่ารักก้มมุดลงมองมือตัวเอง ที่บิดกันอยู่ที่หน้าตักอีกครั้ง...น้ำใสๆที่เอ่อคลอที่ขอบตาร่วงผล็อยลงมา อย่างห้ามไม่อยู่เมื่อความคิดถึงมันมีมากกว่าแต่ความที่กลัวจะทำให้แม่ผิด หวังในตัวเองก็มีมากไม่แพ้กัน...ตัวเองในตอนนี้เหมือนคนจนตรอกที่ไร้ซึ่งหน ทางที่ไม่ว่าจะเลือกทางใหนก็เสียใจมากเหมือนๆกัน

"คนคนนั้นใช่มั้ยจ๊ะซือคุง...คนที่มาส่งลูกวันนั้น"

ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้าง ชะงักค้างกับสิ่งที่ได้ยินแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสู้หน้า ของผู้เป็นแม่...มือเล็กๆบีบเข้าหากันแน่นจนรู้สึกชา

"แม่เห็นนะว่าลูกสองคนทะเลาะกัน...แม่เห็นนะว่าซืออคุงตบหน้าเค้า"

"แม่รู้นะว่าซือคุงน่ะนอนร้องไห้ทุกวันเลยหลังจากวันนั้น...ถ้าคิดถึงเค้าขนาดนั้นทำไมถึงไม่ไปหาเค้าล่ะซือคุง"

เป็นอีกครั้งที่ร่างเล็กได้แต่อึ้งพูดอะไรไม่ถูก...เพราะแม่ของเขารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขา...แบบนี้แล้วเขาจะยังแก้ตัวอะไรได้อีก

"แม่....โกรธรึเปล่าครับที่ผม..."

"โกรธ?...ทำไมแม่ต้องโกรธซือคุงด้วยล่ะ...ไม่เห็นมีอะไรที่เราทำผิดซะหน่อย"

"แต่ผมทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวผมนี่...ผมทำให้พ่อแม่เสียใจ...ผมขอโทษ..."

"ผิดหวังเสียใจอะไรกัน...แม่จะบอก อะไรให้นะจ๊ะซือคุง...พ่อกับแม่น่ะไม่เคยคิดว่าเราจะมีภรรยามีลูกให้พ่อกับ แม่อุ้มตั้งแต่แรกแล้วล่ะ...อย่างซือคุงน่ะต้องไปเป็นศรีภรรยาให้ใครสักคน ต่างหากถึงจะถูก...ถ้าลูกจะกลุ้มใจเรื่องพ่อกับแม่ขอบอกว่าตัดทิ้งไปได้เลย นะจ๊ะ"

จบประโยคของผู้เป็นแม่ร่างเล็กถึง กับนิ่งค้างอีกเป็นครั้งที่สาม...พ่อกับแม่ไม่เคยคาดหวังเรื่องพวกนี้กับตัว เขา...ไม่เคยคิดว่าเขาจะต้องมีภรรยามีลูดไว้สืบเชื้อสายอย่างนั้นเหรอ.. น้ำตาแห่งความโล่งใจพังทลายลงมาอีกครั้งแต่สิ่งที่แม่ของเขาพึ่งจะพูดไป เมื่อครู่มันฟังดูเหมือนกับดูถูกลูกชายจอมห่วยคนนี้ยังไงชอบกลแฮะ..

"แม่ครับ...ขอบ..."

"ไม่เป็นไร...ไม่ต้องมาขอบคุณแม่ หรอกจ๊ะแต่ช่วยพาเขาคนนั้นมาให้แม่ดูตัวก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะจ๊ะแม่จะได้ โทรไปเล่าให้พ่อของลูกฟังถูกว่าว่าที่สามีของซือคุงเป็นคนยังไงหน้าตาแบบใหน จริงใจกับลูกรึเปล่า...อืมม์คงจะประมาณนี้ล่ะมั้ง"

"ขอบคุณครับแม่....พ่อด้วยนะครับ...ที่ไม่คาดหวังอะไรในตัวผม.."

เป็นครั้งแรกที่ร่างเล็กกล้าที่จะ สู้หน้าของผู้เป็นแม่...หญิงสาววัยกลางคนยิ้มอ่อนโยนเป็นกำลังใจให้กับลูก ชายจอมขี้ขลาดจอมคิดมากของเธอก่อนจะปลีกตัวออกจากห้องไป...คราวนี้ความกังวล ใจก็หายไปอีกเปาะหนึ่ง...จะเหลือก็แต่ตัวการใหญ่ของเรื่องเท่านั้น..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
และ แล้วปฏิบัติการตามล่าหัวใจของร่างเล็กก็เริ่มขึ้นทั้งที่ตัวเองเข้ากะกลาง คืนเมื่อทุกครั้งก่อนจะถึงเวลาเข้างานร่างเล็กเลือกที่จะมาก่อนเวลาสองถึง สามชั่วโมงเพื่อที่จะไปดักรอร่างสูงโปร่งที่หน้าคอนโดเพราะปรกติเค้าจะกลับ มาประมาณหนึ่งถึงสองทุ่มและหลังเลิกงานก็เหมือนกันทั้งๆที่คิดว่าทันเวลาที่ อีกคนยังไม่ออกจากคอนโดแต่...ทุกวันก็ยังคงไร้เงาของคนที่เฝ้ารอ

วันนี้ก็เช่นกันขอบของแปลงดอกอะจิ ไซที่หน้าคอนโดคือที่นั่งประจำของร่างเล็ก...ใบหน้าน่ารักยังคงชะเง้อมองทาง เข้าคอนโดอย่างมีความหวังมือข้างหนึ่งยังคงยกมือถือแนบหูอยู่เป็นพักๆแต่ก็ ยังไร้เสียงจากปลายสายเหมือนเช่นทุกวันโชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุดเขาจึงไม่ ต้องห่วงว่าจะเข้างานสายแต่เวลามันก็ล่วงเลยมาเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว...นัยน์ตา สีน้ำตาลไหม้เหลือบมองเวลาที่หน้าจอมือถืออีกครั้ง...อีกยี่สิบนาทีรถไฟขบวน สุดท้ายจะมาแล้วแต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะคว้าน้ำเหลวอีกตามเคย

"เอาวะ...ลองไปหาที่นั่นดูก็แล้วกัน!!"

ร่างเล็กตัดสินใจเดินกลับเข้าไปใน ย่านแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนอีกครั้งเพราะจำได้ว่ามุคุโร่เคยบอกว่าทำงานที่ บาร์แต่ก็ไม่ได้บอกว่าบาร์ชื่ออะไรเลยตัดสินใจว่าจะลองไปถามคนแถวนั้นดู เผื่อจะมีคนรู้จักบ้าง...สองขาเรียวเล็กก้าวเข้าไปในย่านแห่งแสงสี อย่างกล้าๆกลัวๆเพราะไม่เคยมาในที่แบบนี้เลยรู้สึกประหม่าอย่างช่วยไม่ ได้...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้กวาดสายตามองหาคนที่จะพอบอกตัวเองได้และในที่สุด สายตาก็ไปสะดุดกับคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนเรียกลูกค้าอยู่ขาเรียวเล็กจึงรีบ วิ่งเข้าไปหาทันที

"ขอโทษนะครับ...ผมขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ!!??"

"อ้าวว่าไงครับหนุ่มน้อยอยากจะถามอะไรก็ว่ามาเลยถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่นี่พวกเราตอบได้หมดนั่นแหละนะ...ฮะฮะ"

"จริงเหรอครับ!!??"

"ใช่ครับหนุ่มน้อยหรือว่าอยากจะ ให้พี่พาไปที่ใหนต่อก็ได้นะคิดราคาพิเศษเลยสำหรับคนน่าตาจิ้มลิ้มอย่างน้อง พี่จะเซอวิสให้เต็มที่เลยล่ะ"

"เอ๋!!??...มะ...ไม่เป็นไรครับผมแค่อยากจะถามว่าพี่รู้จักคนที่ชื่อโรคุโด มุคุโร่รึเปล่าครับเค้าทำงานอยู่แถวนี้ใช่มั้ยครับ?"

"หื๋มม์...เป็นแฟนคลับของหมอนั่นหรอกเหรอเนี้ย...แล้วทำไมถึงไม่รู้ล่ะว่าเค้าทำงานอยู่ที่ใหนน่ะหรือว่าเมาแล้วจำไม่ได้งั้นเหรอ?"

"ฮะฮะ....ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับผมเป็นเพื่อนของเค้าตะหากพอดีมีธุระด่วนมากๆน่ะครับ"

"แล้วไปคิดว่าเป็นพวกโอตาคุซะอีกงั้นก็คงไม่ต้องเตือนกันแล้ว"

"เอ๋!!??...เตือน...เตือนเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ"

"แหมไม่รู้เลยเหรอว่าเพื่อนของนายเสน่ห์แรงแค่ใหนแฟนคลับของหมอนั่นน่ะตามฆ่าพวกที่คิดจะจีบหมอนั่นตายไปหลายศพแล้วนะจะบอกให้"

"อะ...อะไรนะครับ!!??"

ร่างเล็กถึงกับอ้าปากค้างกับสิ่ง ที่ได้ยิน...หรือว่าเป็นเพราะเรื่องนี้มุคุโร่ถึงได้ตีตัวออกห่างจากตัว เอง...แต่ว่านะเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริงๆงั้นเหรอที่จะมีพวกที่คลั่งใครสัก คนจนถึงขั้นลงมือฆ่าทิ้งแบบนั้นน่ะสิ่งที่คนพวกนี้พูดมันคือเรื่องจริงอย่าง นั้น
เหรอ!!??..

"ระ...เรื่องจริงเหรอครับ!!??"

"จริงสิ!!...เห็นเค้าว่ากันว่าแฟนคลับของหมอนั่นน่ะเป็นพวกยากูซ่าหรือมาเฟียอะไรประมาณนี้แหละนายเองก็ระวะ...."

"อ๊ะ!!!??..."

ทุกบทสนทนาต้องจบลงแทบจะทันที กลุ่มคนที่อยู่รายล้อมร่างเล็กถึงกับแตกกระจายกันไปคนละทิศละทางเมื่อข้อมือ เล็กๆถูกใครบางคนกระชากไปจนใบหน้าน่ารักชนเข้ากับแผ่นอกแกร่งอย่าง แรง...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ช้อนมองเขาคนนั้นด้วยความตกใจระคนสงสัยแต่เพราะ ชุดที่ใส่กับกลิ่นกายที่แสนคุ้นเคยมันจึงทำให้เดาได้ไม่ยากว่าคนคนนี้เป็น ใครแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถามอะไรร่างกายก็เซถลาไปตามแรงฉุดกระชากซะแลัว

"โอ๊ยย!!...มันเจ็บนะมุคุโร่!!"

ถึงแม้จะร้องทักไปยังไงแต่แรงบีบ ที่ข้อมือก็ไม่ได้ผ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อยแถมคนที่ลากตัวเองมาก็ไม่พูดอะไร สักคำใบหน้าน่ารักจึงได้แต่นิ่วหน้าอดทนวิ่งตามหลังอีกคนไปอย่างช่วยไม่ได้ ถึงแม้ว่าร่างสูงโปร่งจะทำเพียงก้าวยาวๆแต่ช่วงขาที่สั้นกว่ามากจึงต้องวิ่ง ตามจนหอบแฮ่ก...ไม่นานร่างสูงโปร่งก็พาเดินเข้าไปทางด้านหลังของบาร์แห่ง หนึ่งจนใบหน้าน่ารักได้ทำหน้างงรู้ตัวอีกทีก็โดนเหวี่ยงลงไปบนโซฟาในห้อง แล้วอีกคนก็ตามมาคร่อมเอาไว้ไม่ให้หนีไปใหนได้...ตามจริงแล้วก็ไม่ได้คิดจะ หนีเลยด้วยซ้ำตรงกันข้ามอยากเจอใจจะขาดเลยด้วยซ้ำ

"อะไรล่ะ??"

นัยน์เนตรสองสีจ้องมองคนที่อวดดีขู่ฟ่อๆด้วยสายตาที่อ่านได้ว่า...ผมกำลังโกรธมาก...แต่อีกคนก็ยังขมึงตาไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"ฉันคิดถึงนาย...แล้วมันผิดนักรึไงก็นายไม่ยอมรับสายฉันหลบหน้าฉัน...ไม่ต้องมาพูดว่าเบื่อฉันอีกฉันไม่เชื่อ!!!"

"ไม่ต้องมาไล่ฉัน...ยังไงฉันก็ไม่กลับเด็ดขาด....ฉันรักนายมุคุโร่!!!"

"ทุกๆวันฉันคิดถึงนายจนไม่เป็นอันทำอะไร...ฉันจะบ้าตายอยู่แล้วเจ้าบ้า!!!"

ร่างเล็กชิงพูดทุกความรู้สึกของ ตัวเองออกมาก่อนที่จะโดนไปเตพิดกลับไปอีก...ก่อนที่จะโดนปฏิเสธและถูกคำพูด ร้ายกาจทำให้สับสนอีกครั้ง...ก่อนที่จะไม่มีโอกาสพูดมันออกมาอีก...

"พูดอะไรบ้างสิมุคุโร่!!...พูดอย่างที่ใจนายคิดไม่ใช่คำโกหกเหมือนก่อนหน้านี้น่ะ!!"

นัยน์เนตรสองสีถึงกับเบิกขึ้น น้อยๆกับคำพูดที่แสนจะรู้ดีของร่างเล็ก...ใช่มันไม่ผิดหรอกที่อีกฝ่ายพูด มา..เขาน่ะรักคนคนนี้จริงๆนั่นแหละตลอดเวลาที่ไม่ได้เจอหน้ากันเขาก็คิดถึง ร่างเล็กนี่แทบบ้าเหมือนกันทั้งๆที่พยายามหลบหน้าทั้งๆที่ไม่ยอมรับสายไม่ ตอบข้อความแต่เพียงแค่เห็นร่างเล็กนี่ยืนคุยกับคนอื่นเท่านั้นไฟรักแรงหึง มันก็ปะทุขึ้นมาแบบนี้...แล้วเขาจะยังหลอกตัวเองไปเพื่ออะไรอีก...

"มุคุโร่~~"

มือเล็กๆที่เย็นเฉียบแนบลงไปที่ใบหน้าหหล่อเหลาให้อีกคนได้สติกลับมา

"คึหึหึ...ทำเป็นรู้ดีจังเลยนะครับ...เป็นแค่สึนะแท้ๆ"

"ก็มันจริงนี่...นายโกหกใช่มั้ยล่ะ"

"ไม่ได้โกหกอะไรทั้งนั้นแหละครับ...เราสองคนคบกันไม่ได้จริงๆ"

"ฉันไม่ได้อยากรู้ซะหน่อยว่าเราคบกันได้รึไม่ได้แต่ที่ฉันอยากรู้ว่านาย...รักฉันหรือไม่ได้รักตะหาก"

"คึหึหึ...อย่าฝืนไปเลยครับยังไงครอบครัวของนายก็ไม่มีรับเรื่องนี้ได้หรอกนะครับ...ผมว่านายกลับไปซะเถอะ"

ในที่สุดตัวเขาก็เผลอพูดความกังวล ที่อัดอั้นอยู่ในใจออกไปจนได้...แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้ตกใจอย่างที่ ควรจะเป็น...ใบหน้าน่ารักคลี่ยิ้มอ่อนโยนมาให้ราวกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ โตทั้งๆที่เขาเครียดจนแทบบ้า

"นายกังวลเรื่องนี้เองเหรอ.กลัวว่าพ่อกับแม่ของฉันไม่ยอมรับงั้นเหรอมุคุโร่?"

เจอคำถามที่ไม่อยากจะตอบมากที่สุดเข้าแบบนี้มุคุโร่ถึงกับผงะก่อนจะปล่อยให้ร่างเล็กเป็นอิสระแล้วลุกขึ้นมานั่งข้างๆกัน

"ฉันบอกพ่อกับแม่แล้วล่ะ...พวกท่านเลยอยากจะเห็นตัวจริงๆของนายสักครั้งน่ะจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะชวนนายไปที่บ้านน่ะ โรคุโด มุคุโร่"

"คึหึหึ...พูดอะไรน่ะครับ...ทำไมถึงได้ตอแยกับผมไม่เลิก..ทำไมถึงต้องเป็นผม?"

"เหตุผลเดียวเท่านั้น...เพราะฉันรักนายไงไม่เห็นต้องถาม"

"น้ำเน่าได้อีกนะครับ ซาวาดะ สึนะโยชิ"

"อื้ออ!!"

มือเรียวบีบแก้มใสๆของร่างเล็กโยก ไปมาอย่างนึกหมั่นใส้แต่ในหัวใจกลับเต้นแรงอย่างไม่น่าเชื่อจนชักจะสงสัยตัว เองแล้วว่าทำไมถึงเป็นได้ขนาดนี้กับแค่คำบอกรักพล่อยๆที่พูดได้อย่างไม่อาย ไปของร่างเล็กๆนี่

"อื้อ!!..เจ็บนะมุคุโร่~~"

น้ำเสียงเล็กๆที่ฟังดูอ้อนซะเหลือ เกินทำให้เขายอมปล่อยมือแต่ยังไม่ทันจะได้ละมือออกมาแต่โดยดีก็ถูกมือเล็ก ยึดเอาไว้ซะก่อน...ร่างเล็กเด้งตัวขึ้นมาก่อนจะกอดหมับรอบตัวอีกฝ่ายเอาไว้ ให้อีกคนได้แต่เบิกตากว้าง...ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าร่างเล็กๆนี่กำลังทำให้ เขาประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำอีก

"....ทำอะไรของนายน่ะครับ?"

ร่างสูงโปร่งเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจาก นิ่งค้างไปหลายวินาทีอีกทั้งยังพยายามจะเบี่ยงตัวหลบเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะ ได้ยินเสียงหัวใจที่เริ่มจะเต้นผิดจังหวะไปอีกหน

"แสดงความรักไง...ฟังสิมุคุโร่เสียงหัวใจของฉัน..มันกำลังเรียกหานายอยู่นะอีกอย่าง..."

"อีกอย่างอะไรครับ??"

"ฉันได้ยินเสียงหัวใจของนายมันกำลังเรียกหาฉันอยู่น่ะ...นายยังจะปฏิเสธมันได้อีกเหรอ"

"...คึหึหึ..."

เจอมุกน้ำเน่าเข้าไปอีกรอบทำเอาคน ที่มีฉายาว่าเจ้ากลยุทธ์หัวสมองผู้เย็นชาแห่งคาบัคโลเน่แฟมิลี่ถึงกับพูด อะไรไม่ออก...ตอนนี้เขาคงทำได้เพียงแค่...ยอมรับโดยดุดสดีแล้วว่า...เขาตก หลุมพรางแย่ๆของทูน่าตัวน้อยเข้าอย่างจัง...ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วจริงๆ...

"อ๊ะ!!..มุคุ.."

สึนะถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ คนที่เอาแต่เงียบตวัดร่างตัวเองไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าตัก...นัยน์ตาสีน้ำตาล ไหม้จ้องมองนัยน์เนตรสองสีที่ฉายแววเจ้าเล่ห์ด้วยความแปลกใจก่อนที่ริมฝีปาก บางจะฉีกยิ้มกว้างเพราะถึงแม้ว่าสายตาคู่คมนั้นจะฉายแววเจ้าเล่ห์ซะจนน่าขน ลุกแต่มันยังมีความหมายแอบแฝงเอาไว้อีกอย่างหนึ่งที่มีเพียงร่างเล็กเท่า นั้นที่จะเข้าใจมัน

"แบบนี้เขาไม่เรียกว่าแสดงความรักหรอกนะครับ"

"ฮะฮะ...แล้วเค้าทำกันยังไงเหรอ?"

ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มละไม ร้ายกาจยิ่งกว่าครั้งใหนๆ...มือเรียวข้างหนึ่งรั้งหัวสีน้ำตาลฟูฟ่องให้เข้า มารับจุมพิตแสนหวานยิ่งกว่าน้ำตาลที่ว่ากันว่าหวานที่สุดในโลกนี้แต่ตอนนี้ พวกเขาสองคนได้พิสูจน์แล้วว่ามันไม่ได้หอมหวานเท่ารสสัมผัสเร่าร้อนระคนอ่อน โยนชวนให้โหยหานี้แน่นอน...ใบหน้าหล่อเหลาสลับข้างเพื่อให้จูบได้ถนัดยิ่ง ขึ้นและดูเหมือนว่าคนที่หน้าตักจะไม่ยอมแพ้เช่นกันเมื่อสองแขนผอมบางโอบรอบ คอของเขาแน่นขึ้นและมันไม่สามารถจะหยุดลงได้เมื่อแรงปรารถนาบวกกับแรงแห่ง ความคิดถึงมันทำให้สติของทั้งสองกระเจิดกระเจิงซะจนกู่ไม่กลับต่างฝ่ายต่าง ผลัดกันปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของกันและกันอย่างรีบร้อนจนกระทั่งกระดุมเม็ดสุด ท้ายถูกปลดออกแต่ยังคงประดับอยู่บนร่างกายของพวกเขามีเพียงกางเกงของร่าง เล็กเท่านั้นที่ถูกถอดออกไปกองกับพื้น...ใบหน้าหล่อเหลาย้ายไปซุกไซร้ที่ซอก คอขาวผ่องกดจูบอ่อนโยนสลับหนักกระตุ้นให้อารมณ์อีกฝ่ายพุงสูงทะลุจุด เดือด...ในตอนนี้ความอดทนของเขามันได้ขาดสะบั้นไปเรียบร้อยแล้ว...เขาได้แต่ สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้อีก...พอแล้ว...พอกันที กับการที่จะต้องฝืนความรู้สึกตัวเองแบบนี้...ในตอนนี้เขาสาบานกับตัวเองแล้ว ว่าต่อให้มีอุปสักใดๆมาขวางกั้น...ต่อให้พ่อกับแม่ของร่างเล็กกีดกันสักเท่า ไหร่...เขาก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้คนในอ้อมแขนมาครอง...เขาสาบาน...

"อา....มุคุ...อืออ.."

"คึหึหึ...ช้าจังนะครับ"

"นะ...นายก็อยู่เฉยๆก่อนสิเจ้าบ้า!!"

ใบหน้าน่ารักทำแก้มป่องอย่างขัดใจ เมื่อถูกอีกฝ่ายเร่งเร้า...แต่มือเล็กๆก็ยังไม่ละความพยายามที่จะปลดเข็มขัด ของร่างสูงโปร่ง...ใช่ฟังไม่ผิดหรอกนะก็ไอ้ที่ผลัดกันสอดเสื้อผ้านั่นแหละ ทั้งๆที่กางเกงของตัวเองมันหลุดไปนอนกองที่พื้นตั้งนานแล้วแต่กะอิแค่ปลด เข็มขัดเขากลับทำไม่ได้สักทีแถมมาโดนเร่งแบบนี้มันน่าอายชะมัด

"คึหึหึ..ก็ได้ครับผมให้เวลาหนึ่งนาที"

"......"

ไร้เสียงตอบรับใดๆแต่เขาก็รู้ว่า อีกคนกำลังพยายามอยู่ใบหน้าหล่อเหลาจึงเกยคางเอาไว้กับไหล่มนพรางเหยียดยิ้ม ละไมให้กับความตั้งใจของร่างเล็ก

"ให้ช่วยมั้ย?"

"หุบปากไปเลย!!"

"คึหึหึ...ก็มันจะครบหนึ่งนาทีแล้วนี่ครับนายยังมือสั่นอยู่เลยผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ"

"จะเสร็จแล้วล่ะน่าเจ้าบ้าเลิกเร่งเร้าสักที!!"

ริมฝีปากเรียวหยักยิ้มพอใจเมื่อ เสียงปลดเข็มขัดตามาด้วยเสียงรูดซิปกางเกงของเขาก่อนจะกดจูบเบาๆที่ขมับสี น้ำตาลให้รางวัลกับคนเก่ง...ไม่รอช้าริมฝีปากเรียวเคลื่อนเข้าหาริมฝีปากสี ระเรื่ออีกครั้งแต่ก่อนที่มันจะแนบชิดลงไปมือเล็กกลับดันใบหน้าหล่อๆเอาไว้ ซะก่อน

"ทำไมอีกครับ?"

"ก็นายยังไม่บอกฉันเลยนี่....ว่านาย...รักฉันรึเปล่า"

"คึหึหึ...ผมน่ะ...เกลียดตะหากล่ะครับ...ผมเกลียดนายมากที่สุดในโลกเลยล่ะ 
ซาวาดะ สึนะโยชิ...."

"เอ๋!!!~~~วะ...ว่าไงนะ!!??"

ใบหน้าน่ารักถึงกับถอดสีทันทีที่ ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่ายเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัว...มือเล็กผลักแผ่นอกกว้าง สุดแรงด้วยความโมโหหลงลืมไปแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นพวกปากแข็งง้างไม่ออกง่ายๆแต่ ได้ยินแบบนี้ใครมันจะไปทนไหวอุตส่าห์ง้อมาตั้งนานมาตอบแทนกันด้วยคำพูดทำ ร้ายจิตใจกันแบบนี้อีก

"ปล่อย!!!....ไม่ต้องมากอดเลยเจ้าบ้าหัวสับปรด!!!"

มือเล็กๆพยายามตะกุยแขนแข็ง แรงอย่างเบาเป็นเอาตายเมื่อร่างสูงโปร่งยังคงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองเป็น อิสระ...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงยิ้มพอใจด้วยความ โมโหอย่างถึงที่สุด

"บอกให้ปล่อยไง!!...ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงไอ้คนใจดำ!!!"

"คึหึหึ...ล้อเล่นหรอกนะครับสึนะโยชิทำเป็นน้อยใจไปได้"

"ไม่ต้องมาพูดเลย!!...เจ้าบ้า!!"

"ไม่อยากรู้จริงๆเหรอครับว่าผมรู้สึกยังไงกับนายน่ะ"

ใบหน้าน่ารักนิ่งค้างเหมือนกำลัง ชั่งใจมือเล็กที่เคยตะกุยท่อนแขนของอีกฝ่ายหยุดชะงักลงแทบจะทันทีแต่สายตา ที่จ้องมองอีกฝ่ายกลับกำลังบอกว่าฉันไม่เชื่อ...ให้อีกคนได้แต่หัวเราะขบขัน

"ไม่เชื่องั้นเหรอครับ?"

"ก็พูดมาก่อนสิไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่ามันน่าเชื่อรึเปล่าน่ะเจ้าหัวสับปะรด!!"

"ผมรักนายตั้งนานแล้วล่ะครับสึนะ โยชิถึงจะไม่แน่ใจว่าผมเริ่มหลงรักนายตั้งแต่ตอนใหนบางทีคงจะตั้งแต่เห็นนาย ร้องไห้ขี้มูกโป่งแล้วก็ได้"

ริมฝีปากบางพยายามหุบรอยยิ้มที่ มันกำลังฉีกกว้างเอาไว้แทบไม่ทันก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากให้อีก คนเห็นแต่มันคงจะสายเกินไปซะแล้วเพราะร่างสูงโปร่งเห็นหมดแล้วตั้งๆต้นนั่น แหละจะหลบตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้ว

"ในที่สุด...นายก็ยอมพูดสักที"

"แล้วเชื่อรึเปล่าครับ?"

ใบหน้าน่ารักหันกลับมาเผชิญกับ ร่างสูงโปร่งอีกครั้ง....นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จ้องมองลึกเข้าไปในดวงเนตรสี ต่างราวกับสลักสัญญาเอาไว้ว่า...ไม่ว่านายจะพูดอะไรก็พร้อมที่จะเชื่อทุกคำ พูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากเรียวคู่นี้อย่างไร้ข้อโต้งแย้ง

"เชื่อสิ...หมดใจเลยล่ะ"

"ไปหัดคำพูดเชยๆพวกนี้มาจากใหนกันครับ?"

"ฮะฮะ....ฉันหัดมาเพื่อนายเลยนะจะบอกให้...ชอบมั้ย?"

"ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะครับ"

มือเรียวดึงแก้มใสๆทั้งสอง ข้างอย่างนึกหมั่นใส้...แต่เขาจะไม่มีวันบอกหรอกนะว่าเขาน่ะหลงใหลและรู้สึก ดีกับคำพูดเน่าๆของร่างเล็กนี่มากเหลือเกิน...ใช่ยังไงเขาก็จะไม่มีวันหลุด ปากออกไปแน่ๆ...

ริมฝีปาากเรียวเคลื่อนเข้าหาริม ฝีปากสีระเรื่ออีกครั้งแต่ปัญหาเดิมก็เกิดขึ้นกับเขาเมื่อมือเล็กๆนั่นดันใบ หน้าของเขาออกมาอีกครั้ง...คิ้วคู่คมขมวดเข้าหากันจนเป็นปมก่อนจะหรี่ตาข้าง หนึ่งมองใบหน้าสุดแสนจะดื้อรั้นอย่างไม่เข้าใจ

"จริงรึเปล่า?"

"หื๋มม์??"

"ที่เค้าว่ากันว่าแฟนคลับของนาย..."

"ไร้สาระได้อีกนะครับสึนะ...จะหูเบาไปถึงใหนย่านนี้มันเต็มไปด้วยเสือสิงห์แข่งกันกันแย่งเหยื่อโง่ๆเหมือนนายนี่แหละครับ"

"เอ๋!!...นี่นายหลอกด่าฉันนี่ไอ้บ้าหัวสับปะรด!!"

"ไม่ได้หลอกแต่ตั้งใจตะะหากล่ะครับ...เลิกถามเรื่อไร้สาระเวลาแบบนี้สักที"

"แต่มันคาใจนี่อ๊ะ...อื้ออ!!.."

นี่ก็เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ ต้องยกขึ้นให้เป็นวาระแห่งชาติกับความชั่งซักชั่งถามขแงร่างเล็ก...จะถามจะ ซักตอนใหนเขาไม่เคยว่าแต่จะมาถามกันในเวลาแบบนี้นี่มันน่าโมโหนัก...สงสัย จังว่าชาติที่แล้วนี่เกิดเป็นเจ้าหนูจำมัยรึเปล่านะ..
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
......End......




















จ๊บบบบบบบ จบได้น่าถีบมากisayaaa
ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ...จบมันแบบห้วนๆแบบนี้แหละ//โดนโบก//
เวร กรรมทำไมมันถึงได้ไร้ความโรแมนติกแบบนี้ฟ๊ะ isayaaฮะฮะฮะ แบบว่าคิดอะไรไม่ออกแล้วอ่ะ//จริงๆแล้วมันเยอะมากสำหรับความเพ้อเจ้อ ของisayaa///
แต่ตัดสินใจแล้วว่าจะเอาไปใช้กับ ปลายกิ่งฝันดีฟ่าาาฮะฮะ
ไม่ถูกใจรีดเดอร์ยังไงก็กราบขออภัยงามๆไว้ตรงนี้ด้วยนะก๊าาา
สำหรับตอนหน้าขอเป็นเรื่องแสงสุดท้ายนะก๊าาสองตอนจบแล้วถึงจะกลับไปสองเรื่องหลัก
ต้องขอภัยอีกครั้งที่ทำให้ทุกคนคอยนานแต่เก๊าไม่สบายไปนอนเล่นมี่รพมาน่ะฮะฮะ

แล้วเจอกันเรื่องต่อไปนะค่ะ
บั้ยบายย!!




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น