11 มิ.ย. 2557

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 02

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 02

:Fanfiction [KHR]6927

:Romantic

:NC-18+




HBD Rokudo Mukuro 9-June





คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ











เสื้อยืดแขนยาวตัวโคร่งปราการด่าน เดียวที่ร่างเล็กมีถูกรูดขึ้นไปจวนเจียนจะถอดอยู่เต็มที...มือเรียวดึงมัน ออกไปไม่ให้มันมาเกะกะได้อีกแต่ก่อนที่มันจะพ้นหัวสีน้ำตาลออกไปมือเล็กกลับ ยกขึ้นมารั้งเอาไว้ซะก่อนจนใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วด้วยความสงสัยระคนขัดใจ กับการกระทำออกร่างด้านใต้

"ทำไมครับ??"

"นะ...นายชื่ออะไร??"

"อะไรของนายครับเนี้ยมันใช่เวลาจะมาถามชื่อเหรอครับ?"

ร่างสูงโปร่งผละออกมาทิ้งตัวลงนอน ข้างๆอย่างหงุดหงิดทั้งๆที่ทุกอย่างมันกำลังไปได้ด้วยดีแต่จู่ๆก็ล่มตั้งแต่ ยังไม่ถึงปากอ่าวเลยด้วยซ้ำ...แต่ทำไมเขาถึงต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วยนะ... ไม่ต้องตอบแล้วใช้กำลังบังคับเอาเลยเป็นไงทำให้มันจบๆก็พอแล้วนี่...

"ทำไมนายต้องหัวเสียด้วย เนี้ย...ฉันกำลังจะมีเซ็กกับนายนะมันเป็นครั้งแรกของฉันฉันก็ต้องอยากรู้จัก ชื่อของคนที่กำลังจะทำเรื่องแบบนั้นมันผิดรึไงเล่า!!??"

"...ครับผมผิดเอง...นายนอนเถอะ"

ร่างสูงโปร่งนอนตะแคงข้างหันหลัง ให้กับร่างเล็กเอาซะดื้อๆทั้งๆที่ร่างกายมันก็ใช่ว่าจะสงบ..แต่เขาก็ไม่เข้า ใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้หัวเสียกับเรื่องไร้สาระแบบนี้...นี่เขา กำลังทำบ้าอะไรอยู่??...

ร่างเล็กเด้งตัวเองขึ้นนั่งก่อนจะจับไหล่กว้างๆนั่นให้หันกลับมาหาตัวเองยังไม่ยอมลดละความตั้งใจของตัวเอง

"อะไรของนายครับ...ผมง่วงแล้ว?"

"นายจะมาหันหลังให้ฉันแบบนี้ไม่ได้นะ...นายต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่นายทำสิไอ้คนไม่มีความรับผิดชอบ...ฮึก...ฮึก..."

"แค่ฉันถามชื่อเฉยๆทำไมต้องหงุดหงิดด้วย!!...ก็บอกแล้วว่ามันเป็น...ฮึก...ฮึก...ครั้งแรก..ของฉัน...ฮึก..ฮึก.."

จู่ๆร่างเล็กก็โพล่งออกมาจนร่าง สูงโปร่งตั้งตัวไม่ติด...มือเรียวเล็กยกขึ้นปาดหยาดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่าง ห้ามไม่อยู่แต่คราวนี้มันกลับไม่ใช่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดแต่มันเป็นน้ำตา แห่งความน้อยใจให้กับคนตรงหน้านี้ต่างหากทั้งๆที่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไม ต้องรู้สึกเสียใจมากขนาดนี้ที่ถูกคนคนนี้เมินแบบนี้มันทำให้ตนลืมความเสียใจ เมื่อก่อนหน้าไปจนหมดสิ้นแต่กลับต้องมาร้องไห้เสียใจที่ถูกคนที่ไม่รู้จัก เมินใส่แบบนี้

"ขอโทษครับผมไมรู้ว่านายจะเสียใจมากขนาดนี้.....หยุดร้องเถอะครับ"

ในที่สุดเขาแกทนดูอยู่เฉยๆไม่ได้ อีก...ร่างสูงโปร่งยันตัวเองขึ้นมานั่งแล้วกดหัวสีน้ำตาลซบลงไปกับแผ่นอกตัว เองเรียวมือลูบแผ่นหลังบางเบาๆอย่างไม่รู้จะปลอบยังไงดี...ไม่ใช่ว่าเขาไม่ อยากทำหรอกนะเพราะยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย

"โรคุโด มุคุโร่"

"หื๋อ!!?"

"ชื่อของผมไงครับ"

"จริงเหรอ....ฮึก...เป็นชื่อที่แปลกดีนี่"

จริงๆแล้วมันก็เป็นชื่อที่แปลกมาก เลยล่ะ"ซากศพ หกทาง"แบบนี้มันไม่น่าจะเป็นชื่อของคนได้เลยด้วยซ้ำ...แต่เพียงแค่ นี้...เพียงแค่ผู้ชายคนนี้ปลอบความเสียอกเสียใจเมื่อครู่มันกลับหายไปจนหมด สิ้น

"ไม่คิดจะแนะนำตัวหน่อยเหรอครับ?"

"....ขอโทษฉันลืมไป"

"ซาวาดะ สึนะโยชิ ชื่อของฉันทำงานที่ร้านสะดวกซื้อได้หนึ่งอาทิตย์แล้วล่ะแต่สงสัยจะถูกไล่ออกแล้วล่ะ"

"ก็ใหนบอกว่าถ้าคราวนี้ไม่ผิดพลาดก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอครับแล้วที่เปลี่ยนชุดออกมาแบบนี้อย่าบอกนะครับว่าถูกพักงาน"

"ฉันขอพักงานเองแหละ...เพราะฉันไม่มีสมาธิเอาซะเลยทำไปก็รังแต่จะทำให้ร้านเขาเสียชื่อ"

"คนเรานี่ก็แปลกนะครับอะไรที่มันจะทำให้ตัวเองทุกข์ล่ะชอบจำชอบคิดถึงมันกันจัง"

"แหม...ทำยังกับนายไม่เคยเป็นงั้นแหละ"

"ผมไม่เก็บเอาเรื่องไร้สาระมันให้รกสมองหรอกนะครับอะไรที่มันไม่น่าจดจำก็ลืมๆมันไปซะ"

"พูดง่ายดีนะ...แต่มันทำอยากมากเลยนะรู้มั้ย"

"ครับๆผมไม่รู้หรอกนอนได้แล้วพรุ่งนี้ผมมีงานแต่เช้า"

ในที่สุดทั้งสองคนก็ล้มตัวลงนอน และเหมือนจะลืมเรื่องบางอย่างไปหรือบางที่อาจจะเป็นเพราะพึ่งจะรู้ตัวว่ามัน น่าอายเกินกว่าจะพูดมันเป็นครั้งที่สองได้จึงเลือกที่จะเงียบถึงแม้ว่าทั้ง คู่จะยังจดจำรสสัมผัสที่ร้อนแรงเมื่อครู่ได้ดีอยู่ก็ตาม....มือเรียวเล็กยก ขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเมื่อมันยังรู้สึกร้อนวูบวาบไม่หายไปใบหน้าน่ารัก เงยขึ้นมองใบหน้าหล่อๆที่นอนหันหน้าเข้าหาแต่ปรากฏว่าเขาหลับตาไปแล้วถึงจะ รู้ว่ายังไงมุคุโร่ก็ยังไม่หลับแน่ๆแต่ในใจมันชักจะสงสัยว่าเขาไม่รู้สึก อะไรบ้างเลยรึไงกันถึงได้ทำเป็นนอนเฉยอยู่ได้

"มุคุโร่?"

"....."

"....หลับง่ายจังเลยนะ...เจ้าบ้าหัวสับปะรดเอ้ย.."

ริมฝีปากบางพึมพำออกมาเบาๆเมื่อรอ คำตอบอยู่นานแต่อีกคนก็ยังเงียบ...คงจะรำคาญตนเข้าให้แล้วล่ะมั้ง....มือ เรียวเล็กสอดเข้าไปใต้แขนแข็งแรงโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้หลวมๆ...ในคืนที่ อากาศด้านนอกหนาวเหน็บจนเกือบจะติดลบแบบนี้การมุดเข้าหาไออุ่นจากใครสักคน มันก็ไม่เลวสักเท่าไหร่...ถึงจะพึ่งรู้จักกันได้ไม่กี่ชั่วโมงก็เถอะ...และ ไม่ใช่แค่ร่างเล็กที่คิดแบบนั้นเมื่อมือเรียวยาวรั้งร่างเล็กให้เข้าไปชิด ยิ่งขึ้นแล้วโอบรอบเอวบางๆเอาไว้หลวมๆเช่นกัน...จะมีใครรู้บ้างว่าเขาต้อง ใช้ความอดทนขนาดใหนแต่....เอาไว้ค่อยหาทางปลดปล่อยทีหลังก็แล้วกัน.....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
R R RRR~~

มือเรียวยาวควานหามือถือที่หัว เตียงด้วยความเคยชินก่อนจะปรือตาข้างหนึ่งขึ้นมองเมื่อรู้สึกถึงอะไร บางอย่างพาดทับแผ่นอกและเอวของเขาอยู่...

"หื๋มม์!!??"

นัยน์เนตรสองสีเหลือบลงไปมองเจ้า สิ่งนั้นด้วยความแปลกใจแต่แล้วก็พบว่ามันคือ...แขนและขาเรียวเล็กกำลังพาด ทับอยู่บนตัวของเขาถึงจะแปลกใจนิดๆแต่หัวสมองอันชาญฉลาดก็ประมวลเหตุการณ์ ของเมื่อวานเย็นขึ้นมาทันที

"เฮ้อ...นายนี่มัน..."

มือเรียวขยี้หัวสีน้ำตาลเบาๆก่อน จะคว้ามือถือขึ้นมา...นัยน์เนตรสองสีดูเบอร์ที่โชว์อยู่หน้าจอแล้วก็ให้หงุด หงิดเพราะมันเป็นเบอร์ของลูกน้องคนสนิทและถ้าโทรมาตั้งแต่ไก่โห่แบบนี้มันจะ ต้องมีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นแน่ๆ

"ว่าไงครับเคน?"

[ขอโทษที่รบกวนแต่เช้านะครับคุณมุ คุโร่แต่ฐานของเราทางใต้เกิดเรื่องครับคาดว่าจะเป็นคนของมิลฟีโอเล่บุกมาตอน นี้ต้านเอาไว้แทบไม่ไหวแล้วครับ]

"ผมจะไปเดี๋ยวนี้โทรบอกยามาโมโตะด้วย"

[คุณยามาโมโตะมุ่งหน้าไปแล้วครับ!!]


หลังจากวางสายร่างสูงโปร่งก็รีบ ลุกจากเตียงนอนหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีถึงแม้จะเคยกร่นด่าบอสกับเพื่อนของ ตัวเองมามากก็ตามแต่ก็แค่หมั่นใส้เล็กๆน้อยๆเท่านั้นถึงยังไงเขาก็ได้ขึ้น ชื่อว่ามันสมองของแฟมิลี่จึงไม่สามารถนิ่งเฉยกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่ก็ ยังอดเคืองไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"กลับ มาแล้วเหรอพอดีเลยฉันพึ่งทำแกงเนื้อสับปะรดเสร็จพอดีก็เห็นว่าในตู้เย็นนาย มีสับปะรดเยอะแยะฉันก็เลยลองเอามาทำกับข้าวดูไม่คิดว่ามันจะเข้ากันได้แต่ก็ อร่อยมากๆเลยนะขอบอก"

ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้าไปร่าง สูงโปร่งได้แต่ชะงักค้างอยู่หน้าห้องตัวเองเพราะไม่คิดว่าร่างเล็กจะยังอยู่ ที่ห้องของตัวเองแถมยังทำอย่างกับภรรยารอสามีกลับมาทานข้าวที่บ้านไม่มี ผิด...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน

"เฮ้!!...นายไปทำอะไรมาเนี้ยทำไมหน้าตาถึงได้เป็นแบบนี้นายไปมีเรื่องมาใช่มั้ยมุคุโร่!!??"

เพราะมัวแต่ยังตกใจไม่หายจึงไม่ รู้ตัวเลยว่าอีกคนเดินเข้ามาหาตั้งแต่เมื่อไหร่...มือเรียวเล็กจับใบหน้า หล่อเหลาหันซ้ายทีขวาทีสำรวจร่อยรอยเขียวช้ำตามใบหน้าด้วยความตกใจถึงแม้ว่า มันจะไม่ได้มากมายอะไรก็ตามทีแต่ร่างเล็กกลับทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่อง ใหญ่โตมากมายซะเหลือเกินถึงได้ดูร้อนรนมากขนาดนี้...หรือว่าจริงๆแล้วไม่เคย พบเจอเหตุการณ์แบบนี้กันแน่อย่างมากก็คงแค่มีดบาดเท่านั้นรึเปล่า...แต่ สำหรับเขามันกลายเป็นเรื่องชินชาไปซะแล้วถึงได้ไม่เคยใส่ใจกับแผลเท่าแมว ข่วนแบบนี้

"มานี่เลยเดี๋ยวฉันทำแผลให้!!"

"คึหึหึ...นี่มันอะไรกันครับทูน่า"

"ก็จะทำแผลให้นายไงยังจะมาหัวเราะอีก!!"

"นายก็น่าจะรู้นี่ครับว่าผมหมายถึงอะไรยังจะมาทำเป็นไก๋อยู่อีก"

"ฮะฮะ...ฉันกะว่าจะอยู่กับนายซักพักน่ะไม่อยากกลับไปอยู่....คนเดียวที่บ้าน"

"ผมไม่ใช่ศาลาพักใจนะครับกลับบ้านนายไปซะ!!"

"ไม่!!....ฉันจะอยู่กับนายที่นี่ฉันไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวฉันไม่อยาก......คิดถึงพวกเค้าทั้งโกคุเดระทั้งคุณฮิบาริฉัน..."

"เวลาที่ฉันอยู่คนเดียวฉัน....แต่ พอได้อยู่กับนายฉันก็ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนก่อนหน้านี้ใจมันสงบลงเยอะเลยยิ่ง เวลาที่นายปลอบฉันมันทำให้ใจฉันสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ....ฉันรู้ว่าเราพึ่ง จะรู้จักกันแต่นายก็ยื่นมือเข้ามาช่วยฉันตั้งแต่แรกนี่....."

ร่างเล็กยกเหตุผลร้อยแปดขึ้นมา เป็นข้ออ้าง...แต่มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเพราะถ้ากลับบ้านไปตอนนี้มันก็ไม่ พ้นต้องผู้คนเดียวเพราะทั้งแม่และเด็กๆที่อยู่ในบ้านต่างก็พากันไปอิตาลี่หา พ่อของเขากันหมดไม่รู้ว่าจะกลับมากันเมื่อไหร่อีกต่างหากขืนกลับไปมีหวัง ต้องตรอมใจตายอยู่คนเดียวแน่ๆ

"พอได้แล้วครับพล่ามอะไรอยู่ได้อยากจะทำอะไรก็ตามใจ!!...แต่บอกไว้ก่อนนะว่าผมจะไม่สนใจนายอีกห้ามก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผมด้วย!!"

"จริงนะ!!...ขอบคุณมากมุคุโร่นายใจดีที่สุดเลยล่ะ"

นัยน์เนตรสองสีเบิกขึ้นนิดหนึ่ง เพราะตกใจกับคำพูดของร่างเล็กไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนมากบอกว่าเขาใจดี ทั้งๆที่รู้จักกันแค่วันเดียวแล้วไหงตัวเองถึงได้ยอมให้เค้าอยู่ด้วยอีก สงสัยว่าเขาเพี้ยนไปจริงๆแล้วแน่ๆถึงได้ใจอ่อนให้กับร่างเล็กนี่ด้วย
.
.
.
.
.
.
"นี้มุคุโร่นายชอบช็อคโกแลตกับสับปะรดเหรอ?"

ร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่ข้างๆถาม ขึ้นมาทั้งๆที่เมื่อคืนพวกเขานอนกอดกันยิ่งกว่าคู่รักซะอีกแต่พอไม่มีเรื่อง อะไรให้คุยมันกลับรู้สึกแปลกๆชอบกลแต่อีกคนก็ยังคงเงียบได้อีก

"นายยังไม่หลับใช่มั้ยล่ะฉันรู้หรอก"

"ไม่ได้ชอบครับแต่มันเป็นอะไรที่กินง่ายก็เท่านั้น"

"นั่นแหละที่เค้าเรียกว่าชอบนายนี่จะปากแข็งไปถึงใหนกัน"

"......"

"ฮะ ฮะ...นายนี่ชอบทำเป็นเงียบอีกแล้ว...รำคาญฉันงั้นเหรอ...มุคุโร่?"

ร่างสูงโปร่งเลือกที่จะเงียบอีก ครั้งแต่นัยน์เนตรสองสีกลับจ้องมองหัวสีน้ำตาลอย่างไม่กระพริบถึงแม้ว่าเขา จะไม่ตอบคำถามสักเท่าไหร่แต่เจ้าตัวก็ยังพยายามที่จะชวนคุยหรือบางทีอาจจะ เป็นเพราะพอไม่ได้คุยอะไรกันแล้วร่างเล็กอาจจะคิดถึงเรื่องไร้สาระนั่นอีกก็ เป็นได้

".....นายจะอยู่ที่นี่ไปถึงเมื่อไหร่ครับ?"

"นายจะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันจะอยู่ไปอีกสักพัก...ฮะฮะ...ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าจะอาศัยนายไปถึงเมื่อไหร่แต่ก็ขอบคุณนะ"

"ผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ใช่ศาลาพักใจของใครผมไม่ใช่คนที่มีความอดทนอะไรมากมายนัก...บางทีผมอาจจะทำอะไรไม่ดีกับคุณก็ได้นะ"

ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมาฉีกยิ้มให้ กับอีกคนถึงแม้ว่าจะพอเข้าใจว่าร่างสูงโปร่งหมายถึงอะไรแต่ก็ไม่ได้รู้สึก กลัวเลยสักนิดเพราะเตรียมใจเอาไว้เรียบร้อยแล้วหากเค้าคนนี้อยากจะทำเรื่อง แบบนั้นบางทีนั่นอาจจะเป็นหนทางที่จะทำให้ลืมความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลจน หมดสิ้นไปเลยก็ได้...มันคงจะดีก็เป็นได้หากมีความสัมพันลึกซึ้งกับใครสัก คน...

"ถ้านายต้องการแบบนั้นฉันก็โอเค"

"คึหึหึ...กล้ามากนะครับ ซาวาดะ สึนะโยชิ"

มือเรียวยกขึ้นมาบีบปลายคางของร่างเล็กโยกไปมาอย่างนึกหมั่นเขี้ยวในความอวดดีนั่น...ในความอาจหาญมายั่วยุเขาแบบนี้

"ดูท่าว่านายคงอยากจะมีประสพการณ์ เรื่องบนเตียงมากเลยนะครับถ้าเป็นไปได้มากขนาดนั้นผมจะสนองให้ก็แล้วกันแต่ อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน"

คำพูดของร่างสูงโปร่งทำเอาใบหน้าน่ารักถึงกับร้อนฉ่าคำพูดที่ดูเหมือนตัวเองอยากจะทำเรื่องแบบนั้นจนตัวสั่นมันก็อดที่จะอาย ม้วนต้วนไม่ได้จึงได้แต่ก้มมุดลงหนักยิ่งกว่าเดิมแต่มันก็หลบไปใหนได้ไม่มาก เมื่อมือเรียวยาวยังคงยึดปลายคางของตนเอาไว้จึงจำใจต้องตอบออกไปเสียงสั่น อย่างช่วยไม่ได้

"ฉะ...ฉันรู้หรอกน่า"

"งั้นก็มาเริ่มกันเลยนะครับ"

"อะ...อื้อ!"

นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่มือเล็กจับ ที่ต้นแขนแกร่งของชายหนุ่มซึ่งย้ายมาคร่อมอยู่เหนือร่างใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆ โน้มลงมาก่อนที่ริมฝีปากเรียวจะแนบชิดลงไปบนกลีบปากสีระเรื่อสัมผัสของริม ฝีปากที่คลอเคลียยิ่งลึกซึ้งแนบแน่นเสียจนลมหายใจเริ่มขาดห้วง  ใบหน้าน่ารักพยายามสูดหายใจอย่างยากลำบาก  อึดอัด.. แต่ไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นเพราะหัวใจที่เต้นระรัวจนผิดจังหวะนี้ด้วยหรือ เปล่า...มันแตกต่างจากจุมพิตในครั้งแรกเมื่อต่างฝ่ายต่างทวีความโหยหามากขึ้น  ราวกับว่าพวกเขาต้องการตักตวงบางสิ่งบางอย่างจากกันและกัน 
 ทั้ง รสสัมผัส  ความรู้สึก  ความใกล้ชิดมากกว่านี้…   ยิ่งตักตวงความหวานจากริมฝีปากที่ไม่คิดจะแตะต้องนั้นมากเท่าไหร  ก็ยิ่งถูกชักนำไปสู่จุดที่ไม่อาจห้ามตัวเองไว้ได้อีก...มือเรียวสอดเข้าไปใน ชายเสื้อยืดตัวบางลากไล้จากแผ่นหลังไปถึงแผ่นอกบางให้ร่างเล็กได้สะดุ้งน้อยๆ

"อื๊ออ..มุคุ..."

"ครับ.."

"แฮ่ก แฮ่ก หะ...หายใจไม่ออก"

ริมฝีปากเรียวหยักยิ้มพอใจก่อนจะ ยอมละมาจากริมฝีปากบาง...เอาไว้ก่อนก็ได้ค่อยกลับไปบดเบียดใหม่อีกครั้งแต่ ตอนนี้กลิ่นหอมๆที่ซอกคอขาวผ่องมันกำลังล่อลวงให้อยากจะบดขยี้ใช่ ย่อย....ริมฝีปากเรียวย้ายมาจุมพิตขบกัดและคลอเคลียลำคอให้ร่างเล็กจำต้อง กัดริมฝีปาก  มือร้อนนั้นสร้างความรู้สึกวูบวาบทุกจุดที่โดนลากผ่าน มือเล็กเผลอเลื่อนมือบีบต้นแขนแกร่งคล้ายกับประท้วงให้หยุด… กระนั้นอีกฝ่าย ก็มิได้หยุดมอบสัมผัสที่ร้อนผ่าวเหล่านั้นแก่ร่างเล็กไม่หยุดหย่อน   ยิ่งรุกรานมากขึ้น   ล่วงล้ำมากขึ้น  ต่างคนต่างพยายามไล่ตามความรู้สึกที่รินไหลออกมาจากหัวใจของตัวเอง  ปล่อยมันไปตามครรลองที่ไม่รู้จุดสิ้นสุด   ในที่สุดเสือยืดตัวบางก็ถูกถอดออก...มือเรียวโยนมันทิ้งไปอย่างไม่สนใจว่า มันจะไปกองอยู่ที่มุมใหนของห้องแล้วเสื้อยืดสีเข้มของเขาก็ตามไปกองเพื่อน เพื่อนอีกตัว....ริมฝีปากเรียวค่อยๆลากไล้จากลำคอมาสู่แผ่นอก ร่างกายที่ กำลังอ่อนระทวยสะดุ้งเกร็งเมื่อปลายลิ้นสัมผัสถึงหน้าท้องแบนราบ ....นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้หลุบปิดลงในทันใด  พร้อมกับสองมือบีบบ่าแกร่งนั้นเอาไว้แน่น

   “…..อ้าา……”   

น้ำเสียงที่พยายามเก็บกักจากการกัดริมฝีปากตัวเองเริ่มหลุดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ให้อีกคนได้แต่ยิ้มพอใจ

"รู้สึกยังไงบ้างครับ?"

ร่างสูงโปร่งกระซิบเบาๆที่ข้างหู เพราะได้ยินเสียงหัวใจของฝ่ายตรงข้ามเต้นแรง...ใบหน้าน่ารักนั้นระบายด้วยสี แดงระเรื่อ...ดวงตาฉ่ำแสนสั่นไหวที่ปรือเปิดขึ้นมาจดจ้องใบหน้าตนเป็นภาพที่ ตรึงสายตา จนไม่สามารถละสายตาออกไปได้

"ฉะ...ฉัน…..ไม่เข้าใจตัวเอง….เหมือนกัน….”

 ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรร่างกายราวกับไม่ใช่ของๆตัวเอง...หลายความรู้สึกผสานปนเปกันไปหมดจนไม่สามารถบรรยาออกมาเป็นคำพูดได้

“คึหึหึ...นั่นสินะครับ"

ทั้งคำพูดและสายตาที่มองมา  เรียกให้ชายหนุ่มเคลื่อนกายมอบจุมพิตดูดดื่มและเร่าร้อนลงไปที่ริมฝีปากบาง อีกครั้ง...ทั้งสองคนต่างถูกความรู้สึกบางอย่างชักนำพาเสียจนไม่อาจห้ามตัว เองได้อีก...ไม่ใช่แค่ร่างเล็กที่รู้สึกแบบนั้นแต่ตัวเขาร่างกายเขามันก็ รู้สึกดีซะจนอยากจะบดเบียดกลืนกินร่างเล็กซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!!...


“…อึก…!!!”   

ดวงตาสีน้ำตาลไหม้เบิกกว้างขึ้น ด้วยความตกใจเมื่อมือที่ร้อนผ่าวนั้นลากลงต่ำลงลึกไปยังจุดที่ไม่มีใครไป ถึง...ผิวกายที่เคยเป็นสีธรรมชาติกลับเป็นสีแดงเลือดฝาด 
 
นัยน์ตา สีน้ำตาลไหม้หลบซ่อนใต้เปลือกตาไม่กล้าแม้แต่จะสบตาชายหนุ่มริมฝีปากกัดเม้ม เป็นเส้นตรงอดทนไม่ให้เสียงที่ราวกับใช่เสียงของตัวเองต้องหลุดออกมา   ปลายนิ้วที่ลากไล้และเข้าครอบครองส่วนที่อ่อนไหวต่อสัมผัสทำให้จังหวะหัวใจ ยิ่งถี่รัว ….ดวงตาพร่ามัว…ความรู้สึกบางอย่างอัดแน่น…  
              
อัด แน่นเสียจนอึดอัดและอยากปลดปล่อย...และเมื่อสัมผัสนั้นแปรเปลี่ยนจากมือ   ดวงตาสน้ำตาลไหม้นั้นก็เบิกกว้างขึ้นในทันทีจากปลายนิ้วเป็นเรียวปากจาก เรียวปากเป็นปลายลิ้นร่างกายนั้นสั่นสะท้านราวกับมีบางอย่างแล่นผ่านไปทั่ว ร่างบีบรัดหัวใจ 


“ยะ...อย่า…มุคุ...โร่!!..หยุด!!”  

ร่างกายของสึนะเกร็งตัวบิดเร้า เพื่อหนีจากสัมผัสที่ไม่เข้าใจและแล่นไปทั่วร่างหากแต่ไม่อาจหลบหนีได้เมื่อ มือเรียวของร่างสูงโปร่งนั้นประคองจับที่เอวนั้นไว้ร่างเล็กจึงได้แต่ขยุ้ม หัวสีน้ำเงินเอาไว้เพื่อระบายความรู้สึกแปลกประหลาดที่อัดแน่ราวกับว่าร่าง กายของตนกำลังจะแตกสลายและในที่สุด!!!...

"อ๊า!!...ฮ้า...ฮ้า...ฮ้า~~..."

เมื่อความอดทนมันถึงจุดสิ้นสุด หยาดหยดแห่งความสุขสมก็พุ่งทะลักออกมาในโพรงปากของร่างสูงโปร่งและเขาก็คาย มันลงไปบนมือของตัวเอง...นัยน์เนตรสองสีเหลือบมองใบหน้าน่ารักที่ซับสีจัดไป ทั้งตัวหอบหายใจหนักหน่วงตักตวงเอาอ๊อกซิเจนเข้าปอดแล้วก็ให้หยักยิ้มพอใจ

"มันยังไม่จบหรอกนะครับ ซาวาดะ สึนะโยชิ"

"อึก!!...ดะ..เดี๋ยวมุคุ....โร่!!"

ร่างเล็กร้องขึ้นเสียงหลงเมื่อ รู้สึกถึงบางอย่างกำลังล่วงล้ำเข้ามาในร่างกายตัวเองจากทางด้านหลังทั้งๆที่ พึ่งจะรู้สึกเบาหวิวไปหยกๆแต่ตอนนี้ความรู้สึกอึดอัดต่างไปจากเมื่อก่อนหน้า ทำเอานัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้างพยายามขืนร่างกายขยับหนีอีกครั้ง แต่มีเหรอที่คนด้านบนจะปล่อยให้หนีไปใหนได้...

"ทำอะไรน่ะครับใหนบอกว่าเตรียมใจไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ"

"ปละ...เปล่าไม่ใช่แบบนั้นฉะ...ฉันขอเวลาเดี๋ยว..."

"คึหึหึ...กล้าพูดนะครับก็ตัวเองถึงฝั่งแล้วนี่...แต่อย่างลืมนะครับว่าผมน่ะ...ยังไปไม่ถึงใหนเลย"

"ฉะ...ฉันรู้ตะ...แต่..อ๊ะ!!.."

"อื๊มม!!..."

ร่างสูงโปร่งไม่ปล่อยให้อีกฝ่าย ได้พูดอะไรออกมาอีกเพราะถ้าเป็นแบบนั้นมันต้องล่มก่อนจะถึงปากอ่าวเหมือน เมื่อวานแน่นอน...ริมฝีปากเรียวทาบทับบดเบียดลงไปบนริมฝีปากสีระเรื่ออีก ครั้งมอบสัมผัสที่หวานหอม ทั้งรูปรสสัมผัสที่ยากจะถอนตัวยิ่งกลืนกินมันเข้าไปมากเท่าไหร่สิ่งที่ไม่ เคยรู้ไม่เคยรู้จักยิ่งพลุ่งพล่านทั้งรสจูบที่หวานล้ำทั้งความรู้สึกเสียว ซ่านระคนคับแน่นที่ช่องทางที่ด้านหลังทำเอาร่างเล็กแทบจะกระอักความสุขสมตาย ซะให้ได้ถึงจะรับรู้ได้ว่านิ้วที่สอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางที่ไม่เคยมีใครได้ ล่วงล้ำเข้าไปมันเพิ่มจำนวนขึ้นทุกทีแต่ร่างเล็กกลับไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำ พูดใดออกมาห้ามปรามร่างด้านบนได้อีก...แต่สะโพกกลับขยับแอ่นรับตามจังหวะชัก พาของร่างสูงโปร่งไปโดยไม่ผ่านสมองคิด...ใบหน้าน่ารักได้แต่สะบัดไปมาหลีก หนีความรู้สึกสับสนระคนเขินอายกับการกระทำของตัวเองไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่า ตัวเองจะเป็นไปได้ขนาดนี้...บ้าไปแล้วสึนะ...นายกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ แต่...มันทำไมถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้กัน...เหมือนกับกำลังล่องลอยอยู่บนปุย เมฆนุ่มนิ่ม...เหมือนกับกำลังจะสลายไปกับสายลมก็ไม่ปาน

"อ๊ะ!!...จะ...เจ็บ!!"

"มุ...มุ...คุโร่ยะ...หยุดก่อน!!"

ร่าง เล็กถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อความรู้สึกอุ่นร้อนสอดแทรกผ่านร่างกายแทนที่ เรียวนิ้วยาวเรียกความรู้สึกพลุ่งพล่านยิ่งกว่า...หลอมละลายยิ่งกว่า... สึนะทั้งรู้สึกอึดอัด  เจ็บปวดอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้และรู้สึกหัวใจสั่นไหวร้อนรุ่มไปทั่วร่างวง แขนยิ่งโอบกอดหัวสีน้ำเงินเอาไว้แน่นยิ่งหอบหายใจแรงและหลุดเสียงครางแผ่ว ใกล้หูชายหนุ่มมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้ความอดทนมันยิ่งกระเจิดกระเจิงจน แทบจะหมดความอดทนกันเลยทีเดียวเพราะแรงตอดรัดแกนกายของเขามันใช่ย่อยซะที่ ใหน...รู้สึกดีซะจนอยากจะยัดเยียดกระแทกเข้าไปจนสุดแรงใจแทบขาด...แต่เพราะ นี่มันเป็นครั้งแรกของร่างเล็กเขาจึงเลือกที่จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป...และเพียง แค่เขาขยับ!!

"อึก!!...มุคุโร่!!"

  แรงเสียดสีจากการเคลื่อนไหว เพียงเบาๆของเขาทำให้คนที่อ่อนประสพการณ์สั่นเกร็งไปทั้งตัวเหงื่อปริ่มไหล เมื่ออุณหภูมิร่างกายเพิ่มสูงขึ้นทั้งๆที่อากาศภายนอกหนาวเหน็บจนสุด ขั่ว...ดวงตาฉ่ำน้ำตานั้นปริ่มไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวเมื่อความเจ็บร้าวมันแผ่ ซ่านไปจนถึงหัวใจ...เพราะความใหญ่โตของมันมากมายกว่านิ้วที่ล่วงล้ำเข้าไป ก่อนหน้านี้มาก...แต่ในความเจ็บร้าวนั่นมันกลับมีความรู้สึกบางอย่างแฝงเอา ไว้...มันไม่ได้เจ็บปวด..แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกดีจนอธิบายไม่ถูก

"อดทนหน่อยครับสึนะโยชิ...มันจะไม่ทรมานขนาดนั้น"

"อะ...อืมม"

นัยน์เนตรสองสีจ้องมองใบหน้าน่า รักที่ดูทรมานอย่างไม่กระพริบตา...ถึงแม้จะรู้สึกสงสารแต่พวกเขาก็มาไกลเกิน กว่าจะถอยหลังกลับไปได้อีก...ริมฝีปากเรียวกดจูบแผ่วเบาดูดซับหยาดน้ำตาที่ ไหลรินแทนคำขอโทษที่เขาไม่สามารถหยุดเพียงเท่านี้ได้ยังไงซะเรื่องที่พวกเขา กำลังทำมันจะต้องจบลงไม่มีการถอยกลับกลางคันเด็ดขาด

"อึก!...."

สองแขนผอมบางย้ายไปโอบรอบคอของ ร่างสูงโปร่งเอาไว้แน่น...ริมฝีปากระเรื่อที่ตอนนี้แดงช้ำเพราะแรงบดเบียด งับลงไปที่หัวไหล่กว้างเพื่อระบายความอัดอั้นเจ็บร้าวเมื่อร่างสูงโปร่ง เริ่มขยับตัวถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ความรู้สึกดีมันกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"อ้า...ฮา...มุคุ...โร่"

การ เคลื่อนไหวที่สอดประสานเคลื่อนคล้อยถี่กระชั้นไม่รุนแรงแฝงความอ่อนโยน   เท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะฝืนได้เรียกเสียงครางแสนหวานของร่างเล็กได้อย่างไม่ ยากเย็น...สะโพกมนเผลอขยับตามจังหวะการสอดใส่อย่างลืมตัวและเพราะแบบนั้น ร่างสูงโปร่งจึงเร่งจังหวะขึ้นอีก

ริมฝีปากบางส่งเสียงครางออกมา อย่างลืมอาย...ทั้งเสียงหัวใจที่เต้นระรัว...ทั้งเสียงหอบหายใจของพวกเขาดัง ระงมผสมผสานกับเสียงครวณคราญกึกก้องไปทั่วห้องยิ่งทำให้เลือดในกายมันเดือด พล่านขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว

"..สึนะโยชิ..."

เสียงทุ้มที่แหบพร่ากระซิบที่ข้างหูร่างเล็กก่อนการกระแทกครั้งสุดท้ายที่หนักหน่วงและรุนแรงจะจบลง!!

"มุคุ...อ๊าา...ฮา...ฮา..ฮา~~..."

ความรู้สึกอุ่นวาบที่ช่องทางด้าน หลังทำเอาร่างเล็กถึงกับผวากอดร่างด้านบนที่ทิ้งตัวลงมาทาบทับตัวเองเอาไว้ แน่นัยน์ตาสีน้ำตาลที่ปรือปอยพยายามจดจำใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างเพียงไม่ กี่เซ็นอย่างยากลำบากก่อนจะหมดสติไปในที่สุด

ริมฝีปากเรียวกดจูบที่ขมับสี น้ำตาลหนักหน่วงก่อนจะฝังไว้ทั้งแบบนั้น...ร่างสูงโปร่งค่อยๆถอนแกนกายของ ตัวเองออกช้าๆ...นัยน์เนตรสองสีเหลือบมองหยาดหยดแห่งกามของตัวเองที่ไหลนอง ผสมสีแดงของเลือดไปทั่วต้นขาเรียวเล็กที่ดูจะมากมายเกินไปทั้งเลือดและหลัก ฐานแห่งความใคร่ของตัวเอง....นี่เขาทำอะไรลงไป...พรากความบริสุทธิ์ของคนที่ กำลังจมอยู่ในห้วงของความทุกข์ได้ลงคอเลยนะ...ถึงแม้เจ้าตัวจะบอกว่าเต็มใจ ก็เถอะแค่นั่นมันก็แค่คำพูดของคนที่ไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ใช่รึไง...แต่ เขา...คนที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วนกลับไม่ยอมหักห้ามใจ...แถมยังเป็นผู้ชาย ด้วยกันทั้งคู่อีก...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตั้งแต่ วันนั้นเป็นต้นมาห้องที่เคยเงียบสงัดก็ดูมีสีสันขึ้นถนัดตา...ข้าวของที่เคย มีเพียงชิ้นเดียวกลับกลายเป็นว่ามีเป็นคู่ลวดลายและสีสันเป็นแบบเดียวกัน ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำถ้วยชามช้อนส้อมหรือเล็กๆน้อยๆอย่างรองเท้าแตะ ที่ใช้สวมอยู่ในห้องและที่ดูจะชิ้นใหญ่ที่สุดนั่นก็คือเตียงนอนที่เคยเป็น เตียงเดี่ยวกลับกลายมาเป็นเตียงคู่ทั้งปลอกหมอนผ้าปูผ้านวมก็เปลี่ยนจากสี เข้มมาเป็นสีอ่อนเข้าชุดกันซึ่งไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นฝีมือของร่าง เล็ก...แต่คนที่จ่ายเงินน่ะมันคือเขา

ข้าวของทุกอย่างที่ไม่เข้าชุดถูก นำไปบริจาคให้กันสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าในเมืองอย่างลับๆ...นั่นก็หมายความ ว่าไม่มีใครในแฟมิลี่รู้...ทั้งๆที่เขาคิดว่ามันเป็นแบบนั้นล่ะนะแต่....

"คุณมุคุโร่จัดห้องใหม่เหรอครับ...พอดีผมเห็นคุณเอาของไปบริจาคที่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าหลายอย่างเลย"

ลูกน้องคนหนึ่งที่กำลังหอบแฟ้ม เอกสารมาให้ถามขึ้นอย่างไม่ได้คิดอะไรมากแต่คนที่ถูกถามกลับถึงกับชะงัก ค้างอยู่หลายวินาทีกว่าจะตีสีหน้าให้เป็นปรกติได้และอาการแบบนั้นของชาย หนุ่มมันก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของลูกน้องคนสนิทอีกสองคนที่ยืนตรวจเอกสารอยู่ ข้างๆได้แต่คนที่เข้ามาใหม่กลับไม่สังเกตุยังคงถามต่อไปตามประสาคนที่อยากจะ หาเรื่องคุยกับหัวหน้า

"คุณมุคุโร่ไปกับเพื่อนเหรอ ครับ..ตอนที่เห็นครั้งแรกผมก็คิดว่าแฟนของคุณมุคุโร่ซะอีกพอถามแฟนของผมที่ ทำเรื่องรับบริจาคให้ถึงได้รู้ว่าเป็นผู้ชายด้วยกันแหมผมงี้แอบช๊อคเลยนะ ครับไม่เคยพบไม่เคยเห็นผู้ชายที่หน้าน่าจิ้มลิ้มน่ารักน่าชังแบบนั้นมาก่อน น่ารักมากกว่าเด็กผู้หญิงซะอีกเพื่อนเหรอครับ?"

"เฮ้ยแกพูดมากอะไรอยู่ได้เอาเอกสารมาแล้วไสหัวออกไปได้แล้ว!!"

"อ๊ะ...ครับ ครับ!!"

เป็นเคนลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้า ไปหอบเอาเอกสารพวกนั้นแล้วไล่อีกคนออกจากห้องไปเพราะดูท่าว่าจะพูดมากเกินไป หน่อยแล้ว...แต่เพราะคำพูดของลูกน้องมันเลยทำให้เขากับจิคุสะนึกออกว่าที่ จริงแล้วหัวหน้าของพวกเขาก็ดูแปลกไปตั้งแต่เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนจากที่เคย แวะดื่มหลังเลิกงานก็ปฏิเสธพวกเขาขนาด ยามาโมโตะ ทาเคชิชวนไปทานข้าวหลังเลิกงานยังไม่ไปเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ไปด้วยกัน บ่อยซะจนทุกคนในแฟมิลี่ตั้งฉายาให้ว่าคู่หูสุดโหดไปแล้ว..แต่จะว่าไปพักหลัง มานี้รายนั้นก็ไม่ค่อยจะได้ชวนหัวหน้าของพวกเขานักหรอกเห็นเหล่าลูกน้อง เมาส์มอยกันว่าเจ้าตัวมีคนรักเป็นตัวเป็นตนไปแล้วจะวกกลับมาชวนก็อิตอนที่คน รักของเจ้าตัวกลับบ้านเท่านั้น....แต่คนที่แปลกไปจริงๆก็เห็นจะเป็นหัวหน้า ของพวกเขาจริงๆนั่นแหละทำเหมือนกับว่ามีใครรออยู่ที่บ้านไม่มีผิดแล้วยังจะ สายปริศนานั่นอีก...โทรเข้ามาทีไรคุณมุคุโร่จะปลีกตัวไปรับสายทุกครั้งทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็นสายสำคัญจากใครก็ไม่เคยปลีกตัวหนีแบบนี้มาก่อน

"คุณมุคุโร่ครับ"

"ไม่มีอะไรหรอกครับเคน...แค่คนรู้จักน่ะ"

"งั้นเหรอครับ"

ทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่อง นั้นแต่หัวหน้าของพวกเขาก็โพลงออกมาจนได้ทั้งสองคนจึงได้แต่มองหน้ากันเพราะ ดูท่าว่าหัวหน้าของพวกเขามีอะไรบางอย่างปิดบังเอาไว้แน่ๆ

"โย่ว!!...มุคุโร่!!"

เสียงทุ้มของใครบางคนดัขึ้นเรียกสายตาของทั้งสามคนในห้องให้หันไปมองได้อย่างไม่ยากเย็น...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...เจ้าของเสียงคนนั้น

"มีธุระอะไรครับ?"

"อ่า..พอดีคุณดีโน่ฝากให้มาบอกน่ะว่าจะกลับอาทิตย์หน้านี้แล้ว"

"คึหึหึ...หายหัวไปเป็นเดือนแล้วยังจะกลับมาทำไมอีกครับ"

"ฮะฮะ...ยังปากร้ายได้อีกนะนายน่ะ มุคุโร่เห็นบอกว่าปรับความเข้าใจกับเจ้าหญิงผู้ฆ่ายักษ์เรียบร้อยแล้ว น่ะ...ดูรักกันเร็วกว่าที่คิดนะไม่เหมือนของฉัน...รายนั้นยังปากแข็งไม่ เลิก.."

"ไร้สาระได้อีกนะครับคุณน่ะ..บอสจะทำอะไรก็เรื่องของเค้าคุณก็ด้วยผมไม่ได้อยากจะรู้ซะหน่อย"

"แหมๆ...นายเองก็ใช่ย่อยนี่ชั้น เห็นนะว่านายพาใครเข้าคอนโดน่ะ..รสนิยมใช้ได้เลยนะนายเนี้ยหน้าน่ารักขนาด นั้นสูสีกับฮายาโตะของชั้นเลยนี่...ฮะฮะฮะ"

"อึก!!...แต่ก็ไม่ได้ไวไฟเท่าคุณก็แล้วกันครับ"

"หื๋มม์...แน่ใจนะว่านายยังไม่ได้กลืนกินเด็กนั่นไปแล้วน่ะแต่หน้านายมันฟ้องว่าเรียบร้อยโรงเรียนมาเฟียไปแล้วนะนั่น"

ดูเหมือนว่าร่างสูงใหญ่ผู้มาเยือน จะไม่ยอมลดละความพยายามที่จะให้เขายอมรับความจริง...ก็แน่ล่ะถึงจะรู้อยู่ แก่ใจว่าที่พูดมามันเป็นความจริงที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้...และความจริงอีก ข้อที่เขาเริ่มจะหวั่นใจนั่นก็คือ...เขาคงหลงรักร่างเล็กเข้าให้แล้ว...แต่ จะให้มาเที่ยวประกาศปาวๆเหมือนไอ้นักฆ่าหน้าเอ๋อกับบอสใหญ่ของแฟมิลี่แบบนี้ มันก็ไม่ไหว

"จริงเหรอครับท่านมุคุโร่....ท่านมุคุโร่มีคนที่กำลังคบอยู่จริงๆเหรอครับ"

"แน่นอนสิจิคุสะ...ชั้นไปหาหัว หน้าของนายทุกอาทิตย์เลยนะจะบอกให้แต่พอเห็นแบบนั้นชั้นก็เลยไม่กล้าเข้าไป ขัดรู้สึกว่าเด็กคนนั้นจะทำงานที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆนี่แหละตรงหัวมุมถนนน่ะ ชั้นเป็นมุคุโร่ไปรับกลับด้วยแทบจะทุกวันเลย...จริงมั้ยมุคุโร่"

เป็นร่างสูงใหญ่ที่ตอบขึ้นมานั่น ก็เพราะว่าหลายวันมานี้เขาได้ลองสะกดรอยจนมั่นใจแล้วว่าเพื่อนซี้ปากแข็งคน นี้มีคนข้างกายแล้วแน่ๆแต่เขาก็ยังตกข่าวบางอย่างไปอยู่ดีว่า มุคุโร่ ไปรู้จักมักจี่กับเด็กคนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่แต่ก็เอาเถอะอย่างน้อยเจ้าคน ปากแงนี่ก็คงจะเข้าใจหัวอกของเขากับบอสบ้างแล้ว..

"หมดธุระของคุณรึยังครับ...ดูคุณจะยุ่งเรื่องของผมเหลือเกินนะครับ"

"ฮะฮะฮะ...หมดธุระของชั้นตั้งนาน แล้วล่ะแต่ที่ชั้นอุตส่าห์สะกดรอยตามนายไปชั้นก็แค่อยากรู้ว่านายเข้าใจความ หมายที่ชั้นเคยบอกนายไปรึยังแต่ดูท่าว่านายจะเข้าใจดีเลยนี่จริงมั้ย"

"ไสหัวไปได้แล้วครับ"

"ฮะฮะฮะ...ไปก็ได้โชคดีนะ...มุคุโร่"

ร่างสูงใหญ่ของนักฆ่ามือหนึ่งของ แฟมิลี่ออกจากห้องไปแล้ว...ชายหนุ่มจึงได้แต่ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้พลางถอน หายใจเฮือกใหญ่เมื่อเรื่องที่เขาพยายามจะเก็บเป็นความลับมันจะไม่เป็นความ ลับอีกต่อไปและเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้เช้าเรื่องนี้มันจะเป็นบทสนทนาของคนใน แฟมิลี่แน่ๆหรือบางทีไอ้บอสตัวดีก็คงจะกำลังนั่งหัวเราะเขาอยู่ที่อิตาลี่ก็ ได้....ที่เป็นแบบนี้มันคงเป็นเพราะเขาแสดงออกชัดเจนเกินไปนั่นแหละลืมไป ชั่วขณะว่าคาบัคโลเน่มีหูตาเป็นสับปะรดไปหมดแถมเขาเป็นถึงระดับหัวหน้าด้วย แล้วมันก็ต้องเด่นเป็นธรรมดานั่นแหละ...ทำใจเถอะมุคุโร่ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็น ต้นไปทุกวงเมาส์มอยต้องมีเรื่องที่เจ้ากลยุทธ์ของแฟมิลี่ผู้เย็นชาคนนี้ แน่ๆ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.Tobecontinue..........


โอ้ววแม่เจ้ากว่าจะผ่านฉากNCของสองคนนี้ได้ให้ตายเถอะทำเอาเก็าเครียดไปสามบ้านแปดบ้านเลยอ่ะ///รู้งี้เอาเรทPGซะก็สิ้นเรื่อง!!///
##มันจะเรทPGได้ไงฟ๊ะทีของยามะกะคุณเคียวยังNCเล้ยจะลำเอียงไปถึงใหนฟ๊ะisayaa(โดนสับป้าเอาสามง่ามเสียบตาย!!)##

ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ...เก๊า ไม่ได้ลำเอียงนะก๊าสับป้าออกจะเอนเอียงมาทางแกซะด้วยซ้ำมีอย่างที่ใหนคนอื่น ดค้าสองตอนจบแต่แกสามตอนก็ไม่รู้จะจบรึเปล่าสับป้าเอ้ยย

//อันนี้ไม่เกี่ยวกะคุณมุมันแล้วเป็นความเพ้อเจ้อของ isayaaล้วนๆ//

อิอิ...จะบอกว่า สำหรับตอนนี้isayaaใช้พลังกะความคิดไปเยอะมากแต่ถ้าหากสับสนไม่เข้าใจยังไง ก็รุมด่ามาได้เลยนะก๊าาแถมยาวเป็นดาวตกอีกฮ่าๆๆๆ

ไปแระขอให้หลับฝันดีคิดถึงสับป้ากะทูน่าตัวน้อยด้วยนะก๊าา บั้ยบายยย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น