Fic.au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 09
:Fanfiction [KHR] 6927,8059
:Romantic Drama
:NC-17
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรักรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ
ร่างสูงโปร่งของบอสใหญ่แห่งสายหมอกแฟมิลี่ย่างก้าวเข้าไปยังกองถ่ายแฟชั่นที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของสวนอูเอะโนะสวนสาธารณะเก่าแก่ตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะที่ยังมีมนต์ขลังแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรให้ตื่นตาสักเท่าไหร่จะมีก็แค่สวนสีเขียวกับดอกตูมที่เริ่มจะผลิบานขึ้นมาของซากุระเท่านั้นผู้คนที่มาเยี่ยมชมที่นี่จึงบางตากว่าที่เคยเป็น....ริมฝีปากเรียวได้รูปหยักยิ้มละไมร้ายกาจทันทีที่มองเห็นเจ้าทูน่าตัวน้อยกำลังโพสต์ท่าถ่ายแบบด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นท่ามกลางสายลมเย็นๆของเดือนกุมภาพันธุ์ที่ถึงแม้จะไม่ได้หนาวจะแต่ถ้าใส่แบบที่เจ้าทูน่าตัวน้อยใส่อยู่ตอนนี้ก็สะท้านได้ไม่ยากเย็น...จุดมุ่งหมายของเขาในตอนแรกหากเจ้าตุ๊กตาของเขาไม่โผล่มาซะก่อน...นัยน์เนตรสองสียังจับจ้องร่างเล็กที่รีบวิ่งเข้าไปซุกผ้านวมผืนใหญ่ที่ผู้จัดการส่วนตัวเตรียมไว้ให้ก่อนจะประคองกันไปยังตู้คอนเทนเนอร์ที่เอาไว้สำหรับเปลี่ยนชุดและพักผ่อนของเหล่านายแบบและนางแบบตัวเล็กนั่นด้วย...และนั่นก็คือจุดมุ่งหมายที่สองของเขา
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
. ใบหน้าสวยของร่างบางที่ขอบตาบวมซ้ำจากการร้องไห้อย่างหนักถูกมือหนาประคบด้วยน้ำแข็งให้อย่างเบามือริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้กับคนตรงหน้าก่อนที่มือบางจะจับมือที่กำลังประคบน้ำเข็งให้เอาไว้
"ฉันไม่เป็นไรแล้วไปเถอะ"
"ฉันอยากอยู่กับนายอีกสักนิด....ยังพอมีเวลา"
"ไอ้บ้า!!!....ตัวติดกันมาตั้งห้าวันแล้วฉันชักจะรำคาญนายแล้วนะ!!"
"ฮะฮะฮะ....แต่ฉันอยากอยู่กับนายตลอดเวลาเลยนี่นา.....ต่อให้อยู่ด้วยกันทั้งชีวิตมันก็ไม่พอหรอก"
"แกมันไอ้คนงี่เง่า!!"
มือบางประคองใบหน้าคมของคนตรงหน้าเอาไว้อย่างเบามือก่อนจะแนบริมฝีปากบางลงไปบนริมฝีปากของอีกคนแผ่วเบาราวกับกำลังจูบลาแต่มือหนากลับกดท้ายทอยของร่างบางเอาๆไว้ก่อนที่ปลายลิ้นร้อนจะเลียริมฝีปากบางซ้ำไปซ้ำมาและแค่มันเผยอน้อยๆเหมือนเป็นการอนุญาติให้เรียวลิ้นเปียกแฉะสอดแทรกเข้าไปด้านในก่อนจะค่อยๆควานหาความหอมหวานและมอบสัมผัสหวานล้ำให้แก่กันและกันจนสองแขนผอมบางต้องโอบกอดรอบหัวสีดำเอาไว้แน่น
"เหวอ~~!!!!....อะ....อะไร...พะ...พะ...พวกนายทำอะไรกันเนี้ย!!!...จะหวานเกินไปแล้วน้าสงสารคนไม่มีคู่บ้างสิเว้ยเฮ้ย!!!!"
จู่ๆเพื่อนสนิทร่างเล็กก็โผล่พรวดเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียงก็จะยืนชี้นิ้วโวยวายเป็นเด็กสาวที่ยังอ่อนต่อโลกที่ไม่เคยพบเจอหรือรู้จักเรื่องพวกนี้แถมยังเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่แบบนี้ใบหน้าน่ารักถึงกับซับสีจัดจนแทบไม่กล้ามองหน้าเพื่อนซี้อยู่แล้ว....และดูเหมือนร่างบางเองก็ไม่ต่างกันใบหน้าสวยถึงกับซับสีจัดยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศซะอีกสองมือบางจึงรีบผลักอีกคนออกห่างทันทีทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเริ่มแต่กลับอายจนทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวจึงรีบหนีหายเข้าไปในห้องน้ำที่ด้านหลังทันที
"เอ้าๆ...พวกนายสองคนนี่น้า~~...ฮะฮะฮะ....ฉันล่ะเชื่อเลยให้ตายเถอะ"
"นายไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย!!!!...นายทำ...ทำ..แบบนั้นลงไปได้ไงห๊าต่อหน้าต่อตาฉันเลยนะไอ้บ้า!!!"
"ฮะฮะ...นายนี่น้า....ฉันขอโทษก็ได้...ว่าแต่...มีนางแบบสาวที่ใหนกันเค้าเข้ามาในห้องแต่งตัวผู้ชายกันบ้างล่ะสึนะ??...ฮะฮะ"
"ไอ้เพื่อนบ้า!!!...นายอย่ามาทำเป็นสมองเสื่อมตอนนี้นะเฟ้ย!!..ไสหัวแกออกไปได้แล้วเหลือแต่แกคนเดียวแล้วนะ"
"โอเคๆ...งั้นสึนะ"
"อะไรของนายอีก??"
"ฝากฮายาโตะด้วยนะ"
"หื๋อ!!!...ไอ้เพื่อนบ้าฉันล่ะเกลียดแกเวลาแบบนี้จริงๆเล้ย...นายไม่กลัวฮายาโตะจังเค้าอึดอัดบ้างรึไง??....ถ้าวันหนึ่งเค้าหนีไปจากนายฉันจะหัวเราะให้ฟันหักเลยคอยดู"
"ฮะฮะ...ใจร้ายจังเลยน้าสึนะ...แต่ไม่มีวันที่ฮายาโตะจะหนีไปจากชั้นแน่นอนเพราะฉันจะตามเค้ากลับมาอยู่ข้างๆฉันไม่ว่าเค้าจะหนีฉันไปที่ใหนแห่งหนใดก็ตาม"
"เออๆ...แล้วฉันจะคอยดูก็แล้วกัน....ไสหัวไปได้แล้ว!!!"
ใบหน้าคมหล่อเหลายังคงเปื้อนรอยยิ้มก่อนจะขยี้หัวสีน้ำตาลฟูฟ่องของเพื่อนซี้ร่างเล็กเบาๆแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมเดินไปบอกลาคนที่ยังอยู่ในห้องน้ำราวกับว่าจะไม่ได้เจอกันอีกเป็นร้อยปีและไม่เคยคิดว่าวันที่พวกเขาจะต้องจากกันมันจะมาเยือนในอีกไม่อีกชั่วโมงข้างหน้านี่แล้ว.......สองขายาวๆก้าวเดินไปตามริมลำธารเล็กๆในสวนก่อนจะกวาดสายตามองหาโลเคชั่นที่ใช้ถ่ายทำเพราะทั้งกองย้ายไปจนแทบจะทุกซอกทุกมุมในสวนจึงทำให้ต้องเดินแออกห่างที่พักออกไปเรื่อยๆแต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับร่างของใครบางคนอีกฟากหนึ่งของลำธารเข้าร่างสูงโปร่งที่สวมโค๊ตสีดำตัวยาวคนนั้นหันมายิ้มละไมให้กับตนเหมือนกับว่ารู้จักกันมานานแสนนานชั่วพริบตาที่สบสายตาของเขาคนนั้นหัวใจกลับไหววูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนราวกับว่ากำลังถูกสายตาคู่นั้นเฉือนก้อนเนื้อที่หัวใจออกไปทีละชิ้น ทีละชิ้น....นัยน์ตาสีเปลือกไม้จึงได้แต่มองตามแผ่นหลังที่เส้นไหมสีน้ำเงินเข้มกำลังพลิ้วไหวไปตามแรงลมด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาด....รู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลจนไม่อาจจะทนยืนอยู่กับที่ได้เมื่อทิศทางที่ผู้ชายคนนั้นมุ่งไปมันคือตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้สำหรับเป็นห้องพักของพวกเขา...
"ฮายาโตะ!!!"
สองขาหันกลับไปยังทิศทางที่ตนพึ่งจากมาแต่ก่อนที่ขาทั้งสองข้างจะทันได้ก้าวออกไปต้นแขนกลับถูกใครบางคนกระชากเอาไว้ซะก่อน...
"เฮ้ย!!!!...ไอ้หน้าหล่อ...ไปทำหน้าที่ของแกซะ...อย่าให้ชั้นต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!!"
ชามาลผู้กำกับดิบเถื่อนมากฝีมือคว้าคอเสื้อของร่างสูงให้เดินตามไปในทันทีไม่ปล่อยโอกาสให้อีกคนได้พูดอะไรอีก
"เดี๋ยวสิครับ!!...ชามาลผมขอเวลาห้านาที"
"แกก็รีบๆทำงานของแกให้เสร็จซะแล้วแกจะขอสิบชั่วโมงชั้นก็ไม่ว่าแต่...อย่าเอาเวลาของคนอื่นๆไปเป็นของแกคนเดียว!!"
เพราะสิ่งที่ผู้กำกับคนนี้พูดถูกร่างสูงจึงจำใจต้องเดินตามชามาลไปแต่โดยดีเพราะห้านาทีที่มีค่าสำหรับเขาแต่มันก็มีค่ากับคนทั้งกองอีกกว่ายี่สิบชีวิตด้วยเช่นกันใหนจะเพื่อนนายแบบคนอื่นๆที่จะต้องมาทำงานร่วมกันทุกคนก็มีเวลาเป็นของตัวเองทั้งนั้นเพราะแบบนั้นเขาจึงไม่สามารถเอาเปรียบคนอื่นๆที่ร่วมงานด้วยกันได้
.
.
.
.
.
.
..
.
. ร่างเล็กของนายแบบชื่อดังซึ่งจริงๆแล้วต้องเรียกว่านางแบบมากกว่ากำลังสาระวนอยู่กับการเปลี่ยนชุดแต่เพราะแขนที่เล็กและสั้นเกินกว่าจะเอื้อมไปแกะริ้บบิ้นเล็กๆที่ผูกเป็นโบว์ที่ด้านหลังกว่าสิบปมได้จึงทำได้แต่ถอนหายใจฟึดฟัดอยู่คนเดียวไอ้ครั้นจะวิ่งออกไปหาผู้จัดการส่วนตัวที่คอยเตรียมเสื้อผ้าให้เพื่อนร่างสูงอยู่ก็ไกลเกิ้นแต่จะให้เรียกคนที่ยังหมกตัวอยู่ในห้องน้ำก็อายจนเกินกว่าจะมองหน้ากันได้สองแขนผอมบางจึงได้แต่ยกขึ้นเท้าสะเอวอยู่ที่หน้ากระจกอย่าอ่อนใจ
"เอาวะ...ลองดูอีกครั้งก็แล้วกัน!!!"
ร่างเล็กหันหลังให้กระจกอีกครั้งก่อนจะพยายามมองหาปลายริ้บบิ้นที่น่าจะกระตุกได้ง่ายๆเลยไม่ทันระวังว่ามีใครอีกคนเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าแล้วจะรู้ตัวอีกทีมืออุ่นๆของเขาคนนั้นก็จับลงที่มือเล็กๆของตัวเองซะแล้ว
"เฮ้ย!!!...นะ...นะ..นายเป็นใคร!!??"
"ให้ผมช่วยก็ได้นะครับ"
ทั้งๆที่ยังตกตะลึงแต่ใบหน้าน่ารักกลับพยักรับความช่วยเหลือจากอีกคนซะอย่างนั้นนัยน์ตาน้ำตาลไหม้จับจ้องใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มละไมราวกับแสดงความจริงใจทั้งหมดที่มีออกมาให้เห็น
"ขอโทษนะครับ"
มือเรียวรั้งร่างเล็กๆของนายแบบสาวเข้ามาซะจนแนบชิดแต่ด้วยความตกใจสองมือเรียวเล็กผลักแผ่นอกของอีกคนให้ออกห่างด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนัก
"นะ..นะ..นายจะทำอะไร....เค้าต้องหันหลังให้ไม่ใช่เหรอ!!!??"
"ก็ผมถนัดแบบนี้แล้วตกลง....ยังจะให้ช่วยอยู่มั้ย??"
"อ๊ะ!!...อะ ....อืมม"
ใบหน้าน่ารักก้มลงมองเท้าตัวเองปล่อยให้อีกคนแกะร้บบิ้นที่หลังให้แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงโปร่งจะไม่ต้องการเพียงเท่านั้นมือข้างหนึ่งดันแผ่นหลังบางให้เข้ามาแนบชิด
ยิ่งกว่าเดิมจนร่างเล็กผวายกมือขึ้นมาทาบแผ่นอกแกร่งเอาไว้แทบไม่ทัน
"นะ...นายจะทำอะไร!!??"
"ผมของคุณบังน่ะครับผมมองไม่เห็น"
"นายจะว่าหัวฉันฟูใช่มั้ยล้า???...ฉันรู้ทันหรอกน่า"
"ก็นิดหน่อย....นี่คุณดึงจนมันผูกเป็นเงื่อนตายไปหมดแล้วนะครับ"
"ก็ฉันไม่รู้นี่ว่าต้องดึงเส้นใหนปรกติเค้าก็ผูกให้ดึงได้ทั้งสองทางแต่ทำไมคราวนี้ถึงเป็นแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้??"
"คงกลัวหลุดมั้งครับ....อกแบนๆเป็นจานก้นตื้นแบบนี้"
"อย่ามาว่าฉันนะจานก้นตื้นอะไรของนายเปรียบเทียบได้แปลกประหลาดชะมัด!!"
ใบหน้ามนซบลงไปบนแผ่นอกแกร่งอย่างอายๆยิ่งความเงียบโรยตัวเข้ามาก็ยิ่งได้ยินเสียงจังหวะการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอของร่างสูงโปร่งชัดเจนยิ่งขึ้นและเพราะแบบนั้นร่างเล็กถึงได้รู้สึกร้อนวูบวาบบนใบหน้าราวกับเอาไฟมาสุมที่ตรงหน้ามือเล็กๆที่เคยวางทาบทับบนแผ่นอกกำเข้าหากันจนเสื้อตัวในของอีกฝ่ายยับยูยี้คามือของตนโดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกคนกำลังเหยียดยิ้มแบบใหนอยู่...รอยยิ้มที่ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนแต่ปานนั้นก็ยังอยากจะแกล้งร่างเล็กๆนี่ซะเหลือเกิน
"เขินอะไรครับ??...ใบหูคุณแดงเป็นลูกมะเขือเทศแล้ว"
"มะ...ไม่ได้เขินซะหน่อยกะ..ก็มันร้อน"
ริมฝีปากเรียวได้แต่เหยียดยิ้มกับความที่ปากไม่ตรงกับใจของร่างเล็กในอ้อมแขน...โกหกมาได้ว่าร้อนทั้งๆที่อากาศข้างนอกเย็นจนแทบจะถึงจุดเยือกแข็งอยู่แล้ว
"ผู้หญิงนี่มักปากไม่ตรงกับใจนะครับ...ชั่งเป็นสัตว์โลกที่เข้าใจยากยิ่ง"
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย...จะเข้าใจยากได้ไงเล่า"
"จะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ชายงั้นเหรอครับ??"....โกหกไม่เนียนเลยนะครับ"
ใบหน้าน่ารักละออกมาจากแผ่นอกแกร่งอย่างถือดีก่อนจะเชิดขึ้นจ้องมองใบหน้าของอีกคนโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าชุดเดรสกระโปรงบานสั้นเต่อของตัวเองหล่นลงไปกองกับพื้นเรียบร้อยแล้ว
"ฉันเป็นผู้ชายแน่แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวฉันเอาไอดีให้ดูก็ได้!!!"
"......"
"อะไรของนายยิ้มอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัด!!"
"ผมเชื่อแล้วครับว่าคุณเป็นผู้ชาย"
"หึ...ใช่มั้ยล้า...เอ๊ะ!!!...ดะ...ดะ...เดี๋ยวนะ...นะ...นายรู้ได้......"
นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ก้มลงมองต่ำลงไปตามที่สายตาของอีกคนกำลังจับจ้องอยู่ก่อนจะเปิดตากว้างด้วยความตกใจกับสภาพเปลือยล้อนจ้อนของตัวเองที่ชุดกระโปรงตัวสวยหล่นลงไปกองที่ข้อเท้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ได้รู้ตัวก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงยิ้มละไมจับจ้องที่ตรงกลางลำตัวของตนอย่างไม่คิดจะเกรงใจเจ้าของมันเลยสักนิด
"เฮ้ย!!!!....อะ...ไอ้บ้าอย่ามองนะ...ไอ้คนลามกจ้องอยู่ได้!!!"
ร่างทั้งร่างโถมเข้าไปหาคนตรงหน้าอย่างไม่คิดจะเกรงใจสองมือเรียวเล็กพยายามจะปิดตาของอีกฝ่ายเอาไว้แต่เพราะยังไม่ทันจะตั้งท่ารับบวกกับก้าวถอยหลังไปผิดจังหวะจึงทำให้ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่
"เจ็บตรงใหนรึเปล่า??...เล่นอะไรเป็นเด็กๆเลยนะครับทูน่า!!"
"ทีนายล่ะมาจ้องส่วนต้องห้ามของชาวบ้านเค้าโดยไม่ขออนุญาติแบบนี้ไม่เด็กกว่ารึไง??"
"คึหึหึ....ก็เจ้าของมันอยากโชว์นี่ครับ...ช่วยไม่ได้แต่....ก็เพลินตาดีนะครับ"
"นายนี่มัน!!!...อ๊ะ!!!"
กำปั้นเล็กๆระดมทุบลงไปบนแผงอกแกร่งอย่างไม่ยั้งและดูท่าว่าจะลืมไปแล้วว่าตัวเองนั่งอยู่บนหน้าท้องของอีกฝ่ายและลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังเปลือยแต่ชายหนุ่มกลับคว้าข้อมือเรียวเล็กนั่นเอาไว้ก่อนจะตวัดให้ร่างเล็กนอนลงกับพื้นแล้วตามขึ้นไปคร่อมเอาไว้....ทั้งสองจ้องซึ่งกันและกันอยู่แบบนั้นเนิ่นนานและเป็นร่างเล็กที่เป็นคนเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาราวกับกำลังกระซิบ
"ตาของนาย....แปลกดีนะ....เหมือนท้องฟ้ากับดวงอาทิตย์เลย"
"เค้าก็ว่ากันแบบนั้นแหละครับแต่ไม่เคย.....มีใครบอกว่ามันเหมือนท้องฟ้ากับดวงอาทิตย์เหมือนคุณ"
"เพราะพวกเขาไม่มีใครได้จ้องมองแบบฉันน่ะสิ....ตาของนายสายตาของนายมันดูอบอุ่นมากเลยนะรู้รึเปปล่า....มีไม่กี่คนหรอกนะที่จะมีท้องฟ้าที่โอบล้อมดวงอาทิตย์เอาไว้เหมือนนาย....ฉันชักจะอิจฉาซะแล้วสิ...ฮะฮะ...อื้อ!!!"
นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ได้แต่เบิกตากว้างร่างทั้งร่างแข็งทื่อไม่ยอมขยับเขยื้อนไปใหนเมื่อจู่ๆริมฝีปากเรียวก็บดเบียดลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวใจได้แต่ปล่อยให้อีกคนกวาดต้อนกระหวัดพันเกี่ยวเรียวลิ้นร้อนอย่างตามแต่ใจซึ่งตัวเองทำได้ก็เพียงแค่หลบหลีกอย่างไม่ประสีประสาอย่างคนไร้ซึ่งประสพการณ์....แล้วสองแขนเรียวเล็กก็ต้องคว้าสะเปสะปะไปทั่วเพื่อหาหลักยืดเมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นริ้วเข้าโจมตีแต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกราวกับกำลังจมดิ่งลงไปในทะเลลึกเมื่ออากาศที่ใช้หายใจค่อยๆหดหายไปทีละนิด ทีละนิด จนในที่สุด
"อ๊า!!!!...แฮ่กๆๆๆ..."
ทันทีที่คนด้านบนละริมฝีปากออกริมฝีปากบางก็หอบเอาอากาศเข้าไปในปอดราวกับว่าตนพึ่งจะถูกดึงในโผล่พ้นน้ำก็ไม่ปาน
"ความอดทนเยี่ยมไปเลยนะครับ...แต่ผมให้หกจากสิบจากการจูบที่เข้าขั้นแย่ของคุณ.....แต่มันก็หอมหวานมากเลยนะครับเรื่องรสชาติผมให้สิบเต็มก็แล้วกัน"
แผ่นอกบางยังกระเพื่อมขึ้นลงจากการหอบหายใจอย่างหนักหน่วงสติสตังค์ที่เริ่มกลับมาแต่ก็ยังไม่เต็มร้อยดีจึงฟังที่อีกคนพูดไม่เข้าใจ...การจูบที่เข้าขั้นแย่มันหมายถึงอะไร...หมอนี่กำลังหาว่าเราจูบไม่ได้เรื่องงั้นเหรอแต่ทำไม...เราถึงได้รู้สึกว่าผู้ชายคนจูบเก่งจังแล้วความหอมหวานที่ให้สิบเต็มนั่นอะไร??...ทำไม่เราไม่เห็นรู้สึกแต่ที่เรารู้สึกมันเหมือนกับร่างกายกำลังจะล่องลอยออกไปบนอากาศแต่กลับร่วงลงไปในมหาสมุทรแทนแบบนี้ล่ะ...แล้วตอนนั้น...ยามาโมโตะ กับโกคุเดระจัง รู้สึกแบบใหนกันดูท่าทางสองคนนั่นกำลังมีความสุขมากเลยนี่แต่ทำไมเรากลับรู้สึกเหมือนกำลังจะตายล่ะ...ไม่เข้าใจ....ถามหมอนี่ดีมั้ยนะ...บ้าเรื่องแบบนี้ถามไปก็ขายหน้าตาย...ไม่เอาด้วยแล้ว...
ใบหน้าน่ารักสะบัดไปมาสองสามครั้งเพื่อไล่ความคิดที่ไม่เข้าใจความหมายของมันเลยสักนิด
"นะ....นายแกล้งฉัน!!!!....นี่มันจูบแรกของฉันเลยนะเจ้าบ้า!!!"
"โฮ่!!!....ป่านนี่แล้วยังไม่เคยจูบกับใครเลยเหรอครับ??....บิ้กเซอร์ไพรส์เลยนะครับทูน่างั้นผมก็เป็นคนแรกสินะครับรู้สึกภูมิใจชะมัด"
"นายนี่มันโรคจิตชัดๆไม่เห็นรึไงว่าฉันเป็นผู้ชายน่ะยังจะมาทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ....เจ้าบ้า!!!"
"คึหึหึ...ผมดูจากสีหน้าของคุณเมื่อกี้แล้ว...คงกำลังสงสัยสินะครับว่าผมหมายถึงอะไรตรงใหน...แต่ข้อนี้ผมก็พอเข้าใจว่าเป็นครั้งแรก....แต่อีกข้อที่คุณไม่เข้าใจว่ามันจะหอมหวานได้ยังไงในเมื่อคุณรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย...ใช่มั้ยครับ??"
"เอ๋!!!...นะ...นะ...นายรู้ได้ไงว่าฉันกำลังคิดเรื่องอะไร!!!???"
"คึหึหึ....สีหน้าคุณอ่านง่ายจะตายไป.....แล้วอยากรู้มั้ยครับว่าทำไม??"
ใบหน้าน่ารักได้แต่นิ่งค้างหรือพยักหน้ารับไปแล้วก็ไม่อาจรู้ได้แต่ใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนยิ้มละไมกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เข้าไปทุกที
"อย่าหลับตานะครับ"
"ดะ...ดะ...เดี๋ยว...อืมม!!!"
ริมฝีปากเรียวประกบลงมาอีกครั้งโดยไม่ฟังเสียงทัดทานใดๆอีกแต่คราวนี้กลับไม่รู้สึกเหมือนก่อนหน้ามันชั่งอ่อนหวานนุ่มนวลรัญจวญใจยิ่งกว่าหลายเท่านัก...ความรู้สึกแบบนี้รึเปล่าที่เขาเรียกว่าความหอมหวาน...ความรู้สึกที่พาให้จิตวิญญาณแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางความรู้สึกเร่าร้อนที่แผ่ซ่านไปทุกอณูบนร่างกายแบบนี้รึเปล่า....นี่รึเปล่าความรู้สึกที่คู่รักทุกคนกำลังโหยหาน่ะ....ความรู้สึกนี้...เอ๊ะ!!!!...เดี๋ยวนะ....นี้มันอะไรกันเราสองคนไม่ใช่คนรักกันซะหน่อย!!...ผู้ชายคนนี้กำลังหลอกแต๊ะอั๋งเรานี่น่า....
"อื้อ!!!!.....อ๊า...หยุดก่อน!!!!"
ใบหน้าหล่อเหลาละออกมาน้อยๆก่อนจะยิ้มละไมแต่กลับไม่ได้แฝงความร้ายกาจให้กับร่างด้านใต้หรือบางทีเขาอาจจะผูกพันกับทูน่าตัวเล็กนี่มากกว่าที่คิด...ถึงได้อยากสัมผัสดอมดมกลิ่นหอมเย้ายวนนี่ขนาดนี้
"นาย...นายกำลังแกล้งฉัน!!!!"
"ไม่ได้แกล้งครับ"
"ลุกไปเลยฉันจะแต่งตัวแล้ว!!!"
สองมือเรียวเล็กผลักแผงอกแกร่งของร่างสูงโปร่งอย่างเคืองๆใบหน้าน่ารักที่เคยตื่นตระหนกตอนนี้กลับบึ้งตึงขึ้นมาจนน่าหัวเราะออกมาเลยที่เดียวริมฝีปากคมจึงได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆในความอ่อนต่อโลกของร่างเล็กทั้งๆที่ตัวเองทำงานอยู่ในแวดวงที่เรียกได้ว่าเบื้องหลังมันชั่งโสมมที่สุดก็ว่าได้แต่กลับไม่รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของผู้คนขนาดนี้...แต่บทจะฉลาดก็ฉลาดขึ้นมาซะทันทีทันใดซะอย่างนั้น
"คุณนี่ชั่งอ่อนต่อโลกนักครับทูน่า......ผมมีความจริงอีกข้อจะบอกคุณ...ผมไม่ได้อบอุ่นและแสนดีอย่างที่คุณคิด....ความจริงที่น่าเศร้าผมคือคนที่เลือดเย็นและดำมืดยิ่งกว่าใครในโลกนี้ด้วยซ้ำไปล่ะมั้งครับ"
"อย่าหันมานะ!!!!!"
นิ้วเรียวเล็กชี้ที่ใบหน้าของคนที่กำลังจะหันมามองตนไหวๆแต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวคิดถูกแล้วรึเปล่าที่ปล่อยในชายหนุ่มหันหน้าเข้าหากระจกแบบนั้นสรุปแล้วก็เท่ากับให้เขานั่งมองตัวเองแต่งตัวไม่มีผิด
"ฟังที่ผมพูดบ้างรึเปล่าครับ??"
"ฉันไม่ได้หูหนวกซะหน่อย....แล้วนายมาทำอะไรที่นี่??"
ร่างเล็กๆเดินมานั่งลงตรงหน้าของคนที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วหลังจากสวมเสื้อผ้าพอลวกๆก่อนจะจ้องมองด้วยสายตาที่คาดคั้นในใจยังนึกโมโหที่เผลอตัวหลงกลของคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ไปได้....แต่ชายหนุ่มกลับดึงสาบเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของร่างเล็กเข้าหากันแล้วบรรจงติดกระดุมให้ทีละเม็ดโดยไม่ได้สนใจสายตาคาดคั้นที่ดูน่ารักมากกว่าจะน่ากลัวนั่น
"ตอนแรกก็แค่จะแวะมาดูใครบางคนเท่านั้น.....แต่บังเอิญคนของผมมาเพ่นพ่านอยู่แถวนี้น่ะครับเลยต้องเอาตัวกลับไปด้วย"
"นายพูดเหมือนกับว่าเขาคนนั้นเป็นสิ่งของเลยแหะ....ทุกคนก็มีความเป็นคนเท่าเทียมกันทั้งนั้น"
"ก็ผมบอกแล้วไงครับว่าผมน่ะ...ดำมืด....จะเรียกผมว่าปีศาจหรือซาตานหรืออะไรที่ต่ำกว่านั้นก็ได้นะครับ"
"หื๋อ!!!....นี่แน่ะ!!!"
มือเรียวเล็กคว้าข้อมือของอีกคนขึ้นมาก่อนที่ฟันซี่เล็กเรียงกันเป็นระเบียบจะฝังลงไปบนข้อมือของชายหนุ่มจนต้องนิ่วหน้า
"อึก!!!.....ทำอะไรครับ!!??"
"ก็พิสูทธิ์ว่านายไม่ใช่ปิศาจซาตานไง....นายยังมีเลือดเนื้อยังมีความรู้สึก"
มือเรียวเล็กยกขึ้นมาแนบลงที่แก้มของชายหนุ่มก่อนที่หน้าผากมนจะแนบชิดลงมาอีกที
"ตัวนายยังอุ่น....ยังมีเลือดไหลเวียนอยู่ในตัวนายไม่ใช่รึไง...ฉันจะไม่มีวันเรียกนายว่าปีศาจหรือซาตานหรืออะไรทั้งนั้น...บอกชื่อของนายมา!!!!!"
"คึหึหึ....มองโลกในแง่ดีจังเลยนะครับ"
"อ๊ะ!!!!"
ร่างสูงโปร่งกดให้ร่างเล็กนอนลงกับพื้นอีกครั้งก่อนจะตามขึ้นไปคร่อมเอาไว้ปลายนิ้วเรียวเล็กคลอเคลียที่กรอบใบหน้าเรียวได้รูปแผ่วเบา
"................โรคุโด มุคุโร่ จำชื่อของผมเอาไว้ให้ดีนะครับเผื่อว่าสักวันผมทำให้คุณเจ็บปวดคุณจะได้สาปแช่งผมได้ถูก"
"นายเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง มุคุโร่ ไม่เอาแล้วไม่พูดด้วยแล้วถอยไป!!"
มือเรียวเล็กพยายามดันแผงอกแกร่งให้ออกห่างจากตัวเองอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อร่างสูงโปร่งยังคงนิ่งอยู่กับที่ไม่ไไหวติงเลยแม้แต่น้อยแถมแววตาที่เคยดูอบอุ่นกลับกลายเป็นแววตาที่ดูเจ้าเล่ห์จนน่าขยาดแล้วยังรอยยิ้มนั่นอีกทั้งๆที่ก่อนหน้านี้แลดูจริงใจแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นรอยยิ้มร้ายเยือกเย็นจนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
"ผมคงจะเล่นกับคุณเยอะไปหน่อยล่ะมั้งครับ....รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของผมหน่อยเป็นไง"
"มุคุโร่!!!...นายกำลังทำให้ฉันกลัว"
"มันก็ควรจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะครับ!!!"
"อ๊ะ!!!...โอ๊ยยย!!...หยุดมุคุโร่!!!!....นายทำฉันเจ็บน้า...อ๊า!!!"
.
.
.
.
.เสียงกรีดร้องของสึนะที่ฟังดูเจ็บปวดทำเอาคนที่พึ่งจะเผลอหลับในห้องน้ำถึงกับสะดุ้งโหยงแต่ชื่อที่กำลังถูกเรียกขานกลับทำให้ร่างทั้งร่างชาวาบจนแทบจะไร้เรี่ยวแรงจะก้าวขา...แต่เสียงร้องที่ดูเจ็บปวดนั่นกลับทำให้สองขาฝืนทนก้าวเดินออกไปเพราะไม่อยากจะให้ใครต้องมารับเคราะห์กับเรื่องของตัวเองและเขาคนนั้นยังเป็นเพื่อนสนิทเพียงหนึ่งเดียวของร่างสูง
"มุคุโร่!!!!"
เสียงตะโกนร้องของใครอีกคนทำให้สองร่างที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันที่พื้นหยุดชะงักค้างทันทีก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเป็นคนเอ่ยขึ้นและนั่นมันทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้าง
"หวัดดี ฮายาโตะจัง ผมมารับนายแล้ว...คอยนานรึเปล่า??"
.
.
.
.
..
.
..
.
.
..
..
..
..
.
.
.
.
.
..
..
..
.......... Tobecontinue.............................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น