9 มิ.ย. 2557

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 01

[KHR] S.Fic[HBD Rokudo Mukuro 6927] Niji no omoide : 01

:Fanfiction [KHR]6927

:Romantic

:NC-18+




HBD Rokudo Mukuro 9-June





คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ













เสียง เพลงเบาๆขับกล่อมผู้คนจำนวนหนึ่งในบาร์เล็กๆที่เป็นพื้นที่เฉพาะที่ประดับไป ด้วยแสงสีม่วงอำพันน่าหลงไหล...ใช่มันเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับผู้ที่มีจิตใจ แบบเดียวกันได้มาพบปะสังสรรกันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองก่อนจะกลับไป สวมหน้ากากบนโลกที่เต็มไปด้วยการเสแสร้งอีกครั้ง

เอ๊ะ!!!!...เดี๋ยวนะไอ้ที่ขึ้นหัว เรื่องนั่นมันอะไรเสียงเพลงอะไรแสงไฟบ้าอะไรก็วันนี้บาร์มันปิดนี่จะมีอยู่ ก็แค่เสียงสปอร์ตไลฟ์ของพวกผู้รับเหมาที่เข้ามาซ่อมแซมเท่านั้นแหละ...ผลพวง จากการอาละวาดเมื่อสามวันก่อนแถมไอ้ตัวที่ก่อเรื่องก็ดันถูกเจ้านายเขาหิ้ว หายไปด้วยซะนี่ทิ้งให้เขา...โรคุโด มุคุโร่...ต้องคอยอยู่ควบคุมการซ่อมแซมที่นี่เพียงลำพังจริงๆแล้วมันก็ต้อง มีอีกคนนั้นแหละที่ต้องอยู่ผลัดเวรกันกับเขาแต่........ไอ้บ้า ยามาโมโตะ ทาเคชิ ไอ้นักฆ่าที่ล่ำลือกันว่าโหดเหี้ยมและเลือดเย็นที่สุดในสามโลกก็ดันมาหายหัว ไปอีกคน...คงจะไปขลุกอยู่กับเด็กมันที่เพิ่งเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อนเป็นแน่ แล้วก็นะ...ไอ้ฉายาที่บอกว่าโหดเหี้ยมและเลือดเย็นที่สุดในสามโลกน่ะ เปลี่ยนๆให้มันใหม่เถอะเอาเป็น...ไอ้นักฆ่าหื่นกามหน้าเอ๋อเป็นไง...ก็เห็น
ว่า พักนี้มันชอบทำหน้าหื่นๆยิ้มเอ๋อๆอยู่ทุกครั้งที่เจอหน้ากัน...ถึงแม้ว่า ฝีมือมันจะยังไม่ขึ้นสนิมก็ตามทีแต่ที่ทิ้งให้เขาต้องมารับผิดชอบดูแลงานที่ เขาไม่ได้ทำนี่มันก็ออกจะเกินไปแล้วสำหรับเจ้านายใจง่ายคนนั้นแถมไอ้นักฆ่า มือหนึ่งก็ดันเป็นไปกับเค้าด้วย...คอยดูเถอะเขานี่แหละจะเป็นคนพิสูจน์ให้ เห็นว่าคนอย่างเขาจะไม่ใจง่ายอย่างบอสใหญ่กับไอ้นักฆ่าหน้าเหื่อนนั่นแน่...

"คุณมุคุโร่ครับ...บอสรอสายอยู่ที่ห้องทำงานครับ"

เสียงของลูกน้องคนหนึ่งดังขึ้นมา ที่ด้านหลังทำให้เขาต้องตวัดกายกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้งทั้งๆที่เขา พึ่งจากมาและกำลังจะกลับบ้านถึงตอนนี้เขาพึ่งจะรู้ตัวว่าคิดผิดมหันต์ที่ หยุดดูเหล่าผู้รับเหมาที่ด้านอก...น่าจะกลับๆไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

"ครับคุณดีโน่!!"

[.......]

"คุณดีโน่ครับ!!"

[.....]

"คุณดีโน่ไอ้บอสเฮงซวยแกโทรมาแล้วทำไมทิ้งสายไปแบบนี้ว่ะครับไอ้บอสงี่เง่าบ้ากามเอ๊ย"

เขาตะโกนกรอกไปตามสายอย่างเหลืออด เมื่อคนที่โทรมาหาเขากลับเงียบเป็นเป่าสากต่อให้เป็นบอสก็บอสเถอะแต่ไม่มี ความรับผิดชอบแบบนี้คอยดูเถอะเขาจะปฏิวัติไอ้แฟมิลี่ติ่งต๊องนี่สักวัน!!... จะขึ้นเป็นบอสใหญ่เองเลยคอยดู!!...

[อ่า...โทษทีๆ...พอดีเคียวจังตื่นน่ะเลยต้องรีบไปดู...ฮะฮะฮะ]

"เคียวจัง??...ใครกันล่ะครับนั่น?"

[แหม่...นายนี้ก็เจ้าหญิงผู้ฆ่ายักษ์ของฉันไง...เจ้าหญิงของฉันน่ะมุคุโร่จำได้รึเปล่า?]

"อ๋อเหรอครับผมคิดว่าสัตว์เลี้ยง ตัวใหม่ซะอีก...อีกอย่างเค้าเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอครับทำไมไปเรียกเค้าจังแบบ นั้นแหละเดี๋ยวก็โกรธเอาหรอกครับ"

[แหะๆ...นายบอกช้าไปแล้วล่ะโกรธไป แล้วเรียบร้อยด้วย...แต่เคียวจังน่ารักนีผิวขาวเนียนอย่างกับผู้หญิงแถมนุ่ม นิ่มไปทั้งตัวด้วยนี่น่าจะไม่ให้ฉะ....]

"คุณออกนอกเรื่องไปไกลแล้วนะครับ บอส...ที่โทรมาเนี้ยเพื่อจะพร่ำพรรณาเรื่องเจ้าหญิงของคุณงั้นเหรอครับโทรไป หายามาโมโตะนู่นถ้าคุณอยากจะพูดเรื่องนี้ผมขี้เกียจจะฟัง!!!"

เขาพูดดักคอบอสของตัวเองทันทีก่อนจะมันจะลามขึ้นไปบนเตียงและเชื่อเถอะว่าบอสของเขาต้องพูดแน่ๆถ้าเขายังปล่อยให้พล่ามต่อ

[โอ๋ๆ...อย่าโกรธกันสิมุคุโร่ฉันขอโทษก็แล้วกันฉันลืมไปน่ะ]

"ลืม...ลืมเรื่องอะไรครับ??"

[ก็ลืมไปว่านายยังไม่มีคู่ไง...ฮะฮะฮะ]

"คุณดีโน่!!...ไร้สาระไปใหญ่แล้วนะครับถ้าไม่มีธุระอะไรก็แค่นี้นะครับสวัสดี!!"

[เดี๋ยวสิมุคุโร่!!!...เดี๋ยวๆๆ..เดี๋ยวก๊อน!!]

"อะไรอีกครับ?"

[ฉันแค่จะถามว่าทางนั้นเป็นยังไงบ้างราบรื่นดีรึเปล่า?]

"ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่ครับเรียบร้อยกว่าตอนที่คุณอยู่ซะอีก...ถามทำไมครับ?"

[ฮะฮะ...ก็ถ้ามันไม่มีปัญหาอะไรฉันก็จะอยู่อิตาลี่ต่ออีกสักพักน่ะ]

"คุณนี่มัน....คอยดูเถอะผมจะยึดอำนาจคุณแล้วขึ้นเป็นบอสแทนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย"

[ก็ดีสิ...ฉันจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก...คอยให้นายเป็นคนจัดการทุกอย่างไปเลยแต่เอ...ตอนนี้นายก็จัดการทุกอย่างอยู่แล้วนี่นะ?]

"ผมจะไล่คุณออกไอ้บ้ายามาโมโตะนั่นด้วยพวกคุณเตรียมหางานใหม่ทำได้เลย!!"

กริ๊ง!!!!!

มือเรียวกระะแทกโทรศัพท์อย่างแรง ด้วยความโมโหแต่เชื่อเถอะว่าบอสของเขาน่ะกำลังหัวเราะร่าอยู่แน่ๆไอ้บ้ายามา โมโตะนั่นก็ด้วยชักจะมีความสุขกันเกินไปแล้ว!!!...
.
.
.
.
.
.
.
.ขา ยาวๆก้าวเข้าไปในร้านสะดวกซื้อยี่ห้อเลขเจ็ดกับสิบเอ็ดก่อนจะเดินไปที่ตู้ อาหารแช่แข็งเพราะมัวแต่คุยเรื่องไร้สาระกับบอสของเขานานเกินไปหน่อยจึงทำ ให้เขากลับบ้านดึกแบบนี้เลยขี้เกียจออกไปหาร้านอาหารให้ยุ่งยาก...อาศัย อาหารสำเร็จรูปสักมื้อก็ไม่เสียหายอะไร

มือเรียวหยิบข้าวผัดแฮมสับปะรด ขึ้นมาสองกล่องแล้วหันไปหยิบพายสับปะรดอีกสองชิ้นและแน่นอนว่ามันต้องมีชา เขียวผสมสับปะรดอีกอย่างถึงจะครบเครื่องอ้อมันยังขาดอีกอย่างไป....เขาเดิน มาหยุดที่ชั้นวางช็อคโกแลตยี่ห้อที่เขาหลงใหลแต่ในขณะที่เขากำลังหยิบมันใส่ ตะกร้าเสียงโวยวายของใครบางคนก็ดังขึ้น

"นี่มันอะไรของเธอห๊ะทอนตังส์มั่ว แบบนี้คนซื้อก็ขาดทุนกันพอดีสิยะแล้วนี่มันอะไรทำไมคิดรายการนี้ซ้ำตั้งสอง ครั้งยะฉันหยิบมาแค่ชิ้นเดียวนะยะผู้จัดการร้านหายหัวไปใหนเนี้ยทำไมปล่อย ให้คนสะเพร่าแบบนี้มาทำงานได้เนี้ยเรียกผู้จัดการร้านออกมาเดี๋ยวนี้เลย!!!"

"ขะ...ขอโทษครับผมจะคิดให้ใหม่เดี๋ยวนี้แหละครับ!!"

"ผมขอโทษจริงๆนะครับ.!!"

เสียงโหวกเหวกโวยวายของผู้หญิงวัย กลางคนนางหนึ่งพร้อมกับเสียงเล็กๆที่พร่ำขอโทษอยู่ตลอดเวลาทำให้เขาต้องหัน ไปมองและจับใจความได้ว่าเจ้าของหัวสีน้ำตาลที่ก้มขอโทษอยู่หลังเคาน์เตอร์ ทอนตังส์กับคิดรายการสินค้าผิดจนเธอคนนั้นได้แต่ยืนชี้นิ้วด่ากราดไปทั่วริม ฝีปากสีแดงจัดนั่นยังโวยวายร้องหาผู้จัดการร้านตลอดเวลาและเหมือนมีอะไร บางอย่างดลใจให้เขาหยิบช็อคโกแลตเกือบสิบห่อแล้วเดินไปต่อแถว

"ขอโทษนะครับถ้าคุณมีปัญหาผมขอลัดคิวก่อนได้มั้ยครับพอดีผมรีบ"

"อ๊ะ...คุณลูกค้ามาช่องนี้ก็ได้นะค่ะดิฉันจะคิดรายการสินค้าให้!!"

เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆกันและ เมื่อกี้เขาก็เห็นว่าเธอก็พยายามช่วยเจ้าของหัวสีน้ำตาลฟูฟ่องนั่นขอโทษด้วย เหมือนกันแต่เพราะอะไรมันถึงทำให้เขาปฏิเสธเด็กสาวคนนั้นไปและยังยืนยันที่ จะอยู่ช่องเดิมต่อไป

"ไม่เป็นไรครับผมจะจ่ายช่องนี้"

"ชั้นไม่ซื้อแล้วก็ได้เอาเงินชั้นคืนมาเลยไอ้แคชเชียร์ห่วยแตกพรรค์นี้น่ะฮึ!!!"

หญิงสาวคนเดิมโวยวายขึ้นมาและร่าง เล็กๆหัวสีน้ำตาลฟูๆนั่นก็หยิบแบงค์หนึ่งหมื่นเยนส่งคืนให้เธอแล้วก้มหัวขอ โทษเธออีกครั้งและเธอก็สะบัดตูดหวังจะออกจากร้านไปแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อ เขาร้องทักขึ้น

"เดี๋ยวก่อนสิครับคุณผู้หญิง!!"

"มีอะไรอีกยะไอ้หน้าหล่อ??"

"คุณลืมคืนตังส์ทอนให้น้องเค้ารึเปล่าครับ"

"วะ...ว่าไงนะอะไรของนายกันยะ??"

"จริงด้วยเมื่อกี้ซาวาดะคุงทอนตังส์ให้แล้วนี่ค่ะ!!"

"เอาคืนไปไอ้พวกงี่เง่า!!!...ชั้นแค่ลืมเท่านั้นแหละย่ะหล่อน!!"

เป็นเด็กสาวคนข้างๆที่พูดออกมาแทน และเจ้าหล่อนคู่กรณีก็วางเงินจำนวนหนึ่งลงไปบนเคาน์เตอร์และเผ่นแน๊บไปส่วน เจ้าตัวคนที่เป็นคู่กรณียังคงยืนก้มหน้าก้มตามองเท้าตัวเองอยู่แบบ นั้น...ไหล่เล็กที่สั่นสะท้านกระเพื้อมไปมาทำให้เขารู้ว่าเจ้าตัวกำลัง ร้องไห้และพอสังเกตุดูดีๆก็เห็นหยดน้ำใสๆหยดแหมะๆลงไปบนพื้น

"ให้ฉันคิดตังส์ให้นะค่ะซาวาดะคุง...."

"ไม่ครับ...ให้เค้าเป็นคนคิด"

"แต่ว่า..."

"ไม่เป็นไรเคียวโกะจัง....ฉันทำได้"

"ยินดีต้อนรับครับ"

และนั่นมันเป็นประโยคแรกและสองนอก จากคำว่าขอโทษที่เขาได้ยิน...มือเรียวเล็กหยิบของในตะกร้าของเขาไปยิง เครื่องสแกนบาร์โค๊ตโดยไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลยแม้แต่น้อย

"เวฟมั้ยครับ?"

"....."

"คุณลูกค้าจะให้เวฟมั้ยครับ"

"......"

"คุณลูกคะ...."

ใบหน้าเรียวเล็กที่ออกไปทางน่ารัก มากกว่าจะมาพูดครับๆเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเมื่ออีกคนไม่ติดจะ ตอบคำถามของตนแล้วก็ต้องชะงักค้างเมื่อพบว่าคนตรงหน้าจ้องตัวเองอยู่ก่อน แล้ว

"เวฟใส่แยกถุงช็อคโกแลตด้วยครับ"

ถึงแม้ว่าริมฝีปากจะขยับพูดแต่สาย ตาของเขายังจับจ้องใบหน้าเรียวเล็กนั่นอย่างไม่วางตา...ขอบตาที่บวมแดงแสดง ให้เห็นว่าร่างเล็กนี่พึ่งผ่านการร้องให้อย่างหนักมาจริงๆแล้วแม้แต่ตอนที่ กำลังจ้องหน้าเขาอยู่มันก็ยังสั่นไหวเอ่อคลอจะพังลงมาแหล่ไม่พังแหล่อยู่ เหมือนกัน...ทำไมกันแค่ทอนตังส์ผิดมันต้องร้องไห้มากขนาดนี้เลยเหรอ?.."

"เวฟกับแยกถุงช็อคโกแลตด้วยนะครับ"

ร่างเล็กทวนคำสั่งของลูกค้าก่อนจะ เป็นฝ่ายหลุบหน้าลงต่ำหลบสายตาของอีกฝ่าย...แต่ขณะที่กำลังแกะข้าวผัดแฮมสับ ปะรดใส่ไมโคเวฟเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นมาซะก่อน

"ซาวาดะคุงเข้ามาคุยกันหน่อยสิ...เคียวโกะจังรับลูกค้าต่อด้วย"

"ค่ะผู้จัดการ!!"

ร่างเล็กๆเดินหายเข้าไปในหลังร้าน แล้วและเด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างๆกันเป็นคนมาจัดการเวฟข้าวผัดให้เขาต่อแต่สาย ตาของเขากลับจ้องมองบานประตูที่ร่างเล็กหายเข้าไปอย่างลืมตัว...ทำไมกันนะ หรือเพราะยังติดใจดวงตาแดงๆนั่น..

"ขอบคุณที่ช่วยนะค่ะ...ช่วงนี้ซา วาดะคุงเขามีเรื่องไม่สบายใจน่ะคะเลยทำงานผิดพลาดอย่างที่เห็นถ้าคราวนี้ไม่ ได้คุณช่วยไว้ต้องโดนพักงานแน่ๆ"

จู่ๆเด็กสาวก็พูดขึ้นมาทำให้เขาต้องละสายตาจากประตูกลับมาสนใจเธออีกครั้ง

"ผู้หญิงคนนั้นน่ะเอาแต่โวยวายมา ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้วทั้งๆที่รู้ว่าซาวาดะคุงคิดตังส์ผิดแต่เธอก็ยัง ยืนยันจะให้ซาวาดะคุงเป็นคนคิดให้เธอที่แท้ก็มีแผนยักยอกเงินทอนแบบนี้นี่ เองถ้าคุณไม่ช่วยไว้ซาวาดะคุงต้องแย่แน่ๆเลย...ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะ"

"อย่าใส่ใจเลยครับผมก็แค่พูดตามที่ผมเห็นเท่านั้น"

นัยน์ตาสองสีเหลือบมองประตูที่ร่างเล็กหายเข้าไปอีกครั้งเพราะมันยังติดใจไม่หายว่าเพราะอะไรถึงได้ร้องไห้จนขอบตาช้ำขนาดนั้น

"ข้าวผัดแฮมสับปะรดได้แล้วค่ะ...ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะคุณลูกค้า"

แกร๊ก!!!

"เอ๊ะ...ซาวาดะคุงทำไมล่ะ!!??"

มือเรียวยื่นไปรับถุงข้าวผัดของ ตัวเองและมันเป็นจังหวะเดียวกันกับร่างเล็กที่ไม่ได้สวมชุดของพนักงานแล้ว เดินสะพายกระเป๋าออกมาพอดี...ใบหน้าเรียวเล็กยังคงก้มลงมองปลายเท้าของตัว เองและเดินออกจากร้านไปโดยไม่สนเสียงร้องถามของเด็กสาวเลยสักนิด....ร่างสูง โปร่งเองก็ได้แต่มองตามไปเมื่อเจ้าตัวเค้าไม่คิดจะหันกลับมาตอบเด็กสาวแล้ว เขาจะต้องไปสนใจทำไม...มือเรียวคว้าถุงข้าวผัดของตัวเองแล้วเดินออกจากร้าน ตามไปอีกคน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ร่าง สูงโปร่งจำเป็นต้องหยุดชะงักอีกครั้งเมื่อสายตาไปสบเข้ากับแผ่นหลังของใคร บางคนกำลังสั่นไหวอยู่ที่เสาของป้ายรถเมล์แผ่นหลังในโค๊ตสีเทาแบบนั้น มัน....

"เป็นอะไรมากมั้ยครับอยู่คนเดียวแถวนี้มันอันตรายนะครับบ้านอยู่ใหนเดี๋ยวผมไปส่ง"

ไม่รู้ว่าอะไรดลใจของเขาให้พูดออก ไปแบบนั้น(อีกแล้ว)แต่เพราะแถวนี้มันมืดมากจริงๆแถมยังดึกมากแล้วด้วยจะ ปล่อยทิ้งไว้คนเดียวก็ยังไงอยู่....กลายเป็นคนดีไปซะงั้นทั้งๆที่มันไม่ใช่ นิสัยของเขาที่ต้องเข้าไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านแบบนี้...ปรกติแล้วเขาจะเดิน ผ่านไปโดยไม่สนใจเลยก็ได้แต่คราวนี้ทำไมถึงได้หยุดเขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ..

"นาย~...ฮืออ~~"

"เฮ้ๆ...นาย!!!"

จู่ๆร่างเล็กๆก็หันมาโผเข้ากอด แล้วปล่อยโฮออกมาซะยกใหญ่จนไม่รู้จะทำยังไงดีจะลูบหลังให้หรือจะผลักออกดี แล้วถ้าปลอบจะปลอบว่าอะไรล่ะเกิดมาไม่เคยปลอบใครซะด้วยสิ...ผลักออกแล้วเดิน หนีไปเลยเป็นไงตัวแค่นี้คงใช้แรงไม่มากนักหรอก...หัวสมองอันชาญฉลาดทำกำลัง งานอย่างหนักเมื่อไม่เคยพบเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนการที่จะต้องคอยปลอบโยนใคร สักคนมันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเขาจึงไม่รู้จะเริ่มต้นที่ตรงใหนดี

"เฮ้!...นายหยุดร้องเดี๋ยวนี้เลย ครับเดี๋ยวใครมาเห็นก็หาว่าผมรังแกนายพอดี....แล้วไอ้ที่เปียกเสื้อผมอยู่ นี่มันน้ำตาหรือน้ำมูกกันแน่ครับ!!"

"แง๊!!!!....ฮือออ~~~"

"เวรกรรม...นี่ผมพูดอะไรผิดไปรึเปล่าเนี้ย"

เพราะจบประโยคของเขาร่างเล็กนี่ กลับปล่อยโฮออกมาหนักยิ่งกว่าเดิมอีก...ไม่ได้การแล้วขืนปล่อยไว้แบบนี้มี หวังถูกมองว่ารังแกเด็กแน่ๆเลยต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...จะถามอะไรออกไปก็คง ไม่ตอบเป็นแน่สภาพแบบนี้...โอ๊ยนี่มันวันซวยอะไรของเขากันว้า...เซงชิบเลย ว้อย!!....

"มานี่เลย!!!"

ในที่สุดร่างสูงโปร่งก็ตัดสินใจ ลากคนที่ร้องไห้ซบอกตัวเองกลับบ้านด้วยจริงๆแล้วมันก็คือห้องเช่าราคาแพงมา หน่อยที่เรียกกันว่าอาพาร์ทเม้นต์นั่นเองและแน่นอนว่าเขาตกเป็นเป้าสายตา อย่างไม่ต้องสงสัยเพราะมันเหมือนภาพของพี่ชายรังแกน้องตัวเล็กๆแล้วลากกัน กลับบ้านไม่มีผิด
.
.
.
.
.
.
มือ เรียวกดหัวไหล่ของร่างเล็กที่สงบลงมากแล้วแต่ยังคงสะอื้นฮึกๆอยู่เป็นพักๆ ให้นั่งลงตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่มุมหนึ่งของห้องแล้วหายเข้าไปในห้องครัว...หลัง จากหายเข้าไปพักใหญ่ร่างสูงโปร่งก็ออกมาอีกครั้งพร้อมกับข้าวผัดสองจานที่มี ควันสีขาวลอยคลุ้งอยู่บนหน้า

"ทานซะนะครับจะได้มีแรงร้อง ต่อ...คราวนี้แหกปากได้ตามสบายเลยจะได้ไม่ต้องไปร้องอยู่ตามข้างทางหรือป้าย รถเมล์แบบนั้น...คนอื่นเขาเสียหายนะครับรู้ไว้ด้วย"

"จะพูดอะไรบ้างผมก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะครับอย่าทำตัวเป็นคนบ้าใบ้ถามอะไรก็ไม่ตอบแบบนี้"

ร่างสูงโปร่งวางแก้วน้ำแล้วแย๊บเข้าไปอีกหมัดเมื่ออีกคนยังเอาแต่เงียบและเขารู้แน่ๆว่าร่างเล็กนี่ไม่ได้เป็นใบ้

".....ขอโทษ...ฮึก...ฮึก..."

"ทำไมถึงเอาแต่ร้องให้กับขอโทษล่ะครับตั้งแต่ที่ร้านแล้ว"

"ก็....ฉัน...ฮึก...ฉัน..."

"เฮ้อชั่งเถอะครับแต่ถอดโค๊ตก่อนดีมั้ย?"

ร่างเล็กยอมถอดโค๊ตของตัวเองออกแล้วยื่นให้กับเจ้าของห้องอย่างว่าง่ายแต่ก็ยังเอาแต่นั่งจุมปุกไม่พูดอะไรอีกตามเคย

"ทานข้าวเถอะครับเดี๋ยวจะเย็นซะหมด"

มือเล็กจับช้อนส้อมขึ้นมาอีกตัก ข้าวผัดเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆไม่พูดไม่จาอีกครั้งจนร่างสูงโปร่งต้องหยุด มองจนร่างเล็กต้องเหลือบขึ้นมองเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้น

"....ขอบคุณนะที่ช่วยฉันน่ะ"

ดูท่าว่าถ้าหากไม่พูดอะไรสักอย่าง ร่างกายคงจะพรุนเพราะสายตาของหมอนี่เป็นแน่แต่ถึงยังไงเค้าก็เป็นผู้มีพระ คุณเลยต้องขอบคุณไปตามมารยาทซะหน่อย

"แล้วบ้านของนายอยู่แถวใหนครับ?"

"นามิโมริน่ะ"

"ตอนนี้รถไฟหยุดวิ่งแล้วนี่นาแล้วนายจะกลับบ้านยังไง?"

"แทกซี่"

"แล้วไปยืนร้องไห้ทำอะไรที่ป้ายรถเมล์ล่ะครับยังนอยร์เรื่องนั้นอยู่งั้นเหรอ?"

"อึก!!....ปละ...เปล่าแต่เป็นเรื่องอื่นน่ะ"

"ทำยังกะคนอกหักรักคุดเลยนะครับ"

ร่างเล็กถึงกับทำช้อนหลุดมือเมื่อ ได้ยินแบบนั้นและแล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลงมาเป็นเผาเต่าอีกครั้งจนร่างสูงเอง ได้แต่อึ้งค้างไปเพราะสงสัยว่าคำพูดของเขามันจะไปจี้ใจดำเข้าให้ซะแล้ว

"เฮ้...พอเลยไม่ต้องมาเล่นบทโศกต่อหน้าผม...ผมไม่สงสารนายหรอกนะขอบอก"

"อย่างนาย....ฮืออ...นายจะไปเข้า ใจอะไรก็นายไม่ใช่ฉันนี่ลองมาเป็นดูมั้ยล้า...ฮืออ~..นายจะได้รู้ว่ามันเจ็บ แค่ใหนน่ะ...ฮึก...ฮึก...."

"....การที่....การที่มีคนมา สารภาพรัก...กับโดนหักอกในวันเดียวกันน่ะ...นายไม่รู้หรอกว่ามันเจ็บแค่ ใหน...มันเหมือนกับถูกพระเจ้าลงโทษในเวลาแค่ยังไม่ถึงข้ามคืนเลยที่ฉันต้อง ทำคนอื่นให้เจ็บแล้วตัวเองต้องถูกคำพูดที่ฉันเคยพูดกลับมาทำร้ายน่ะ...นาย ไม่มีวันเข้าใจหรอก....ฮืออ~~~"

ร่างสูงโปร่งได้แต่นิ่งเป็นผู้ฟัง ที่ดีเมื่อร่างเล็กโพลงความในใจของตัวเองออกมาซะยาวเหยียดแบบนั้นแต่เขาก็ พึ่งจะเห็นนี่แหละว่าคนที่ถูกหักอกมาน่ะมันดูเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง...

"ผมขอโทษก็แล้วกันผมไม่รู้จริงๆ นั่นแหละว่านายเจ็บมากขนาดใหนแต่การที่นายเอาแต่นั่งร้องไห้แบบนี้ผมว่ามัน ก็ไม่ทำให้นายหายเจ็บปวดเลยนี่...แต่ผมว่าน้ำตามันจะยิ่งตอกย้ำให้นายเจ็บ มากขึ้นไปอีกรึเปล่า...ผมไม่รู้หรอกนะว่านายร้องไห้หรือถูกเค้าปฏิเสธความ รู้สึกของนายตั้งแต่เมื่อไหร่แต่...ทำไมนายไม่ลองหาอะไรทำให้มันลืมเค้าดู ล่ะ"

มือเรียวยาวยื่นไปเกลี่ยหยาดน้ำตา ที่ไหลนองใบหน้าเรียวเล็กออกให้และดูเหมือนว่าสัมผัสของเขามันจะทำให้ร่าง เล็กดูสงบลงอย่างน่าประหลาดแต่มันก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาต้องปลอบใจใคร แบบนี้...แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะปลอบเพราะไม่รู้ว่าทำไมพอเห็นน้ำตาของร่าง เล็กแล้วมันถึงอยู่เฉยไม่ได้

"....ยังไง??...."

"ก็อย่างเช่นดูหนังฟังเพลงออกไปเกมส์เซนเตอร์ประมาณนี้มั้งครับ"

"แต่ฉันไม่มีเพื่อนไปนี่"

"งั้นก็ลองเช่าหนังมาดูที่บ้านก็ได้นี่ครับ"

"ไม่เอาอ่ะ...ฉันไม่ชอบดูหนังคนเดียว"

"โธ่เอ้ย...ทำไมผมต้องมาคิดหาอะไรที่นายชอบด้วยเนี้ยแล้วนายชอบอะไรล่ะครับ?"

"ก็นายเป็นคนเริ่มนี่...แต่ฉันชอบทะเลแถบหมู่เกาะฮอนซูมากเลยล่ะแต่มันไกลไปนี่สิ"

"คึหึหึ...นายนี่ยังเพ้อเจ้อได้อีกนะครับแล้วอยากไปแถบใหนของฮอนซูล่ะครับ?"

"มิยางิ...ฉันอยากไปดูปราสาทที่ได เมียวดาเตะ มาซามูเนะสร้างน่ะเค้าว่ากันว่าสวยมากเลยนะแถมจุดชมวิวที่โน่นเค้าว่าไม่ เป็นสองรองใครเลยนี่ถ้ามีโอกาสก็อยากจะไปดูให้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง"

"หึหึ...เพ้อเจ้อจริงๆนั่นแหละครับอย่างนายน่ะสวนสนุกในเมืองก็พอแล้วล่ะครับ"

"นายพูดแบบนี้หมายความว่าไงน่ะ...เห็นฉันเป็นเด็กอมมือติดแม่รึไงถึงไปได้แค่สวนสนุกในเมืองแบบนั้นน่ะ"

"ก็เด็กจริงๆนี่ครับแต่เอาเถอะไปอาบน้ำได้แล้วล่ะครับมันจะเที่ยงคืนแล้วพรุ่งนี้ผมมีงานแต่เช้า"
.
.
.
.
.
.แปรง สำรองที่ซื้อมาเผื่อไว้ถูกยื่นให้ร่างเล็กพร้อมกับผ้าขนหนูสีเข้มกับเสื้อ ยืดสีขาวแขนยาวและกางเกงผ้าสีดำอีกตัว...หลังจากร่างเล็กหายเข้าไปในห้องน้ำ ร่างสูงโปร่งก็จัดการล้างจานและเก็บช็อคโกแลตกับพายสับปะรดเข้าตู้เย็นก่อน จะหยิบช็อคโกแลตติดมือมาด้ยแท่งหนึ่งแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา
.
.
.
.
.
ซองเปล่าถูกโยนลงไปในถังขยะแต่ในขณะที่กำลังจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูของตัวเองก็ต้องชะงักค้างกับภาพของคนที่ออกมาจากห้องน้ำพอดี

"ทำไมถึงออกมาสภาพนี้ล่ะครับแล้วกางเกงหายไปใหนผมจำได้ว่าเอาให้นายไปด้วยนี่!!?"

เพราะร่างเล็กสวมเพียงเสื้อยืดแขน ยาวสีขาวเพียงตัวเดียวแถมคอมันกว้างซะจนจะหลุดจากไหล่เล็กๆนั่นอยู่ลอม ล่อ....ก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่ามันดูน่ารักมากเลยทีเดียวแต่นี่มันผู้ชายแน่รึ เปล่าทำไมถึงได้ดูบอบบางมากขนาดนี้

"กางเกงมันตัวใหญ่ไปน่ะใส่ไม่ได้นายมีตัวเล็กกว่านี้รึเปล่าละ"

"ไม่มีหรอกครับผมไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าเด็กติดบ้านไว้ซะด้วยสิ...จะเปลี่ยนเสื้อรึเปล่าครับถ้าจะเปลี่ยนก็ไปหาดูในตู้ก็แล้วกัน"

ร่างสูงโปร่งพูดทั้งที่ยังหันหลัง ให้ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำทันทีขืนอยู่ต่อมีหวังได้ตบะแตกแน่ๆไม่อยากจะ ยอมรับเลยว่าร่างเล็กนั่นจะดูเซ็กซี่ได้ขนาดนั้นแค่ได้เห็นแค่แว๊บแรกเลือด ในกายมันก็สูบฉีดพุ่งพล่านไปทั่วร่างเลยทีเดียวทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาไม่ เคยมีอาการแบบนี้มาก่อนต่อให้มองผู้หญิงที่สวยและเซ็กซี่อย่างที่คนปรกติชอบ กันเขาก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลยสักครั้งแต่ทำไมกะอิแค่เด็กม.ต้นใส่เสื้อแค่ ตัวเดียวร่างกายของเขากลับตื่นตัวอย่างน่าประหลาดแถมนั่นยังเป็นผู้ชายด้วย กันอีก...หรือว่านี่คือความรู้สึกที่พวกคุณดีโน่กับยามาโมโตะเคยพูดกับเขา กันนะ...บ้าน่าเขาไม่ใช่พวกใจง่ายแบบนั้นซะหน่อยจะได้อยากนอนกับใครก็ได้ไป ทั่วแบบนี้...ไม่ใช่เขาไม่ใช่คนมักมากแบบนั้นไม่เหมือนสองคนนั้นแน่นอน!!...
.
.
.
.
.
ทั้งๆ ที่เขาใช้เวลานานมากเพื่อที่จะสงบใจทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม แต่พอออกมาจากห้องน้ำภาพตรงหน้ากลับทำให้ไอ้ที่มันพึ่งจะสงบลงไปหมาดๆมัน ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง....นัยน์เนตรสองสีจ้องมองร่างเล็กที่นอนคว่ำหน้าดีดขา ขึ้นลงอ่านนิตยสารอยู่บนเตียงของเขาแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอเพราะไอ้ส่วน ที่มันหน้าจะปกปิดไม่ให้ใครเห็นมันเกือบจะโผล่พ้นชายเสื้อออกมาอยู่รำไรอยู่ แล้ว...จนถึงตอนนี้เขารู้แล้วว่าเขาคิดผิดอย่างมหันต์ที่เก็บร่างเล็กกลับมา ด้วย

"อ้าว...เสร็จแล้วเหรอ"

"อะไรเสร็จครับพูดให้มันชัดๆหน่อยเป็นเด็กเป็นเล็ก"

"ก็อาบน้ำไง..แหมจะคิดลึกไปใหนเนี้ยนาย"

"ไม่ได้คิดลึกครับแต่ไไม่อยากให้นายใช้คำพูดกำกวมแบบนั้น"

"ฮะฮะ...ฉันก็ไม่ได้พูดกำกวมซะ หน่อยเวลาเราอยากรู้ว่าใครทำอะไรเสร็จรึยังเราก็ต้องถามว่าเสร็จแล้วเหรอไม่ ใช่รึไง...แต่ชั่งนายเถอะมานอนได้แล้วมานายต้องตื่นแต่เช้าไม่ใช่เหรอ?"

"นั่นมันคำพูดผมต่างหากครับทำไมนายถึงยังไม่หลับ"

"ก็รอนายไงเป็นแขกจะหลับก่อนเจ้าของบ้านได้ไงเล่า...นายก็มาซะทีสิแต่เตียงนายเล็กไปหน่อยนะนอนสองคนท่าจะลำบาก"

"ผมไม่ใช่พระเอกละครน้ำเน่านะครับ จะได้เสียสละไปนอนโซฟาน่ะถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะแล้วนี่มันก็เตียงเดี่ยว สำหรับผมไม่ใช่เตียงคู่เผื่อใครมานอนด้วย"

"ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อยก็แค่กลัวว่านายจะไม่สบายตัวแต่บอกไว้ก่อนเลยนะว่าฉันก็ไม่ไปนอนที่โซฟาเหมือนกันน่ะ"

ร่างสูงโปร่งได้แต่ลอบถอนหายใจ เฮือกใหญ่ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้อีกคน...มือเรียวยื่นไปปิด สวิตส์ไฟที่หัวเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว...เปลือกตากำลังจะผิดลง เพื่อเตรียมพร้อมสู่ห้วงนิทราถ้าหากว่าใครบางคนไม่พูดขึ้นซะก่อน

"นาย...อย่าดึงผ้าไปคนเดียวหมดซี่ฉันไม่ได้ห่มเลยนะ"

"อะไรของนายครับเนี้ยก็เขยิบเข้ามาสิผ้ามันก็ผืนเล็กพอๆกับเตียงนั่นแหละ"

"ก็นายเขยิบหนีฉันนี่"

เอ่อนั่นก็จริงเพราะเขาเขยิบมาจน ชิดขอบเตียงเองนั่นแหละในขณะที่อีกคนยังอยู่ที่เกือบจะขอบเตียงอีก ฝั่ง...ร่างสูงโปร่งจึงจำใจต้องเขยิบกลับไปแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งน้อยๆเมื่อมี วัตถุอะไรบางอย่างพาดมาโอบรอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้...มือเรียวยาวรีบคว้า หมับเข้ากับเจ้าสิ่งนั้นถึงได้รู้ว่ามันคือ.....แขนผอมๆบางๆนั่น...

"อะไรกันครับนายจะกอดผมทำไม?"

"ก็จะอะไรเล่าก็กันนายเขยิบนี้ฉันอีกไง"

ร่างสูงโปร่งจึงได้แต่ปล่อยไปเลย ตามเลยแต่ความอบอุ่นที่ด้านหลังกับมือเล็กๆที่ขยุกขยิกไปมาเหมือนกับหาที่ วางไม่ได้นี่มัน....ไม่ใช่เล่นๆเลยจริงๆ..ให้ตายเถอะมันเกิดอะไรขึ้นกับเขา เนี้ยรู้สึกปวดหน่วงๆไปแทบจะทั้งตัวแล้ว

"อ๊ะ!!..."

"นายกำลังให้ผมหมดความอดทนนะรู้มั้ย!!"

เขาเลือกที่จะไม่อดทนอีกต่อไปร่าง สูงโปร่งหันกลับมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายใช่เผยิญหน้า...สาบานได้ว่าเขาคิดจะทำ แค่นั้นจริงๆ..แค่เผชิญหน้าเท่านั้นแต่ไหงกลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้...ทำไม กลับกลายเป็นว่าเขากำลังคร่อมร่างเล็กอยู่แบบนี้ล่ะ

"นายเป็นอะไรไป...ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่า?"

ไร้เสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้นแต่ใบหน้าหล่อเหลากลับค่อยๆโน้มลงมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุด

"อ๊ะ!!....อื้อ"

ริมฝีปากของพวกเขาก็แนบชิดกัน อย่างไม่รู้ตัวร่างเล็กเองก็ไม่ได้คิดจะขัดอะไรเพียงแค่ตกใจนิดหน่อยเท่า นั้น...เปลือกตาที่เบิกกว้างเมื่อสักครู่ค่อยๆปรือลงเมื่อสัมผัสแนบชิดยิ่ง ขึ้น

"เปิดปากนายออกนิดหนึ่งสิครับ"

"อะ..อืม"

ร่างเล็กเผยอริมฝีปากของตัว เองออกอย่างว่าง่าย...แต่ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าพวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่... ในที่สุดเปลือกตาก็ปิดสนิทเมื่อปลายลิ้นอุ่นร้อนละเลียดลามเลียริมฝีปาก บางอย่างเชื่องช้าก่อนจะค่อยๆสอดแทรกเข้าไปหยอกล้อเรียวลิ้นด้อยประสพการณ์ ด้านในอย่างอ้อยอิ่งลิ้มลองรสชาติหอมหวานทีละนิดทีละนิดเมื่อเรียวลิ้นร้อน ค่อยๆกระหวัดชักพาเรียวลิ้นเล็กให้เดินตามจังหวะชักนำอย่างใจเย็นไม่รีบร้อน จนเกินไป...และทันทีที่อีกฝ่ายเริ่มคล้อยตามตวัดเรียวลิ้นหยอกล้ออย่างที่ตน พร่ำสอนร่างสูงโปร่งก็ค่อยๆเร่งจังหวะควานหารสหวานล้ำให้เร็วขึ้นเร็วขึ้น จากเชื่องช้าและอ้อยอิ่งกลายเป็นเร่าร้อนและรุนแรงไปในที่สุด...ร่างกายที่ เคยใช้สองมือค้ำยันค่ออยๆทาบทับลงไปที่ร่างด้านใต้ทีละนิดเมื่อมืออีกข้าง มันเริ่มจะไม่อยู่เป็นสุข

"อ๊ะ!!...อืมม...นะ...นายจับตรงใหนน่ะ?!!?"

ร่างเล็กรีบผละออกมาเมื่อมือร้อนมันเคลื่อต่ำลงมาทุกที

"ก็นายรู้สึกแล้วไม่ใช่เหรอครับ?"

"อือ...ตะ...แต่ฉันกลัวนี่...ฉันไม่เคย..."

"ไม่ต้องกลัวครับ...ผมจะอ่อนโยนกับนาย"

"นายพูดจริงนะ"

"จริงสิครับเรื่องแบบนี้โกหกกันไม่ได้หรอกนะครับ"

ริม ฝีปากคมคลอเคลียอยู่ที่ข้างหูเหมือนกำลังร่ายมนต์สะกดให้อีกคนคล้อยตามและดู เหมือนมันจะไม่มีอุปสักใดๆเข้ามาขวางกั้นให้รำคาญใจ....ดูท่าว่าราตรีนี้มัน จะยาวนานสำหรับพวกเขาซะแล้ว....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.....Tobecontinue......


เอารูปน่ารักๆของทั้งสองคนมาให้ดูก๊าาา



สุขสันต์วันเกิดนะก๊าาสับป้า
ขอให้ปีนี้แกแก่ขึ้นมาอีกปีนะค๊าาา//มันจะบอกตรูทำไมฟ๊ะ//
แฮ่ะๆ...ก็ พูดไปเรื่อย...จริงจังแล้วน้า...ขอให้แกเลิกซึนมีอะไรก็บอกกะทูน่าเค้าตรงๆ นะเฟ้ย!!!ยังไงแกก็ยังมีมี๊คนนี้เป็นกำลังใจให้เสมอนะค๊าาารัก คุณมุที่สุดนะก๊าาาา///จริงๆก็รักKHRทุกคนนั่นแหละจ้าาาาแต่วันนี้มอบหัวใจ ให้สับป้าาเป็นกรณีพิเศษนะก๊าาาา

สำหรับวันนี้ กับอีกสองตอนข้างหน้าขอพื้นที่ให้ลูกชายคนรองของข้าพเจ้าก่อนนะ ก๊าาาาา//เอ่อ...รู้สึกว่าตัวหนังสือจะไซส์ใหญ่เป็นพิเศษรึเปล่าค่ะ isayaa??//

แหม่มันก็นะ....ก็ลูกชายคนโปรดของเก๊าาาาา!!!!

โอ๊ยยไม่ไหวแระง่วงนอนขอตัวไปก่อนนะก๊าาา บัย้บายยยย!!!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น