12 ก.ค. 2557

Fic.au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 18

Fic.au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 18

:Fanfiction [KHR] 6927,8059

:Romantic 

:NC-17




คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ









เสียงฝีเท้าหนักๆดังกระทบไม้ ระเบียงของบ้านแบบญี่ปุ่นหลังใหญ่ทำให้ร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นมานั่งชันเข่า อยู่บนฟูก...นัยน์ตาสีเขียวมรกตปรือปอยมองไปที่ประตูปรุกระดาษสาเมื่อเงาของ ใครบางคนที่คุ้นตายืนอยู่ตรงนั้นและทันทีที่มันเปิดออก

"นายหายไปใหนมา??"

"ไง...ตื่นแล้วเหรอพอดีชั้นไปโทรศัพท์หาสึนะน่ะ"

"หิวรึเปล่านานะซังเตรียมมื้อเช้าไว้ให้แล้วไปอาบน้ำเถอะ"

"แล้วสึนะรับสายมั้ย??"

ริมฝีปากคมหยักยิ้มบางเบาให้กับคน ที่ทำตาแป๋วอยู่บนฟูกแต่ความจริงในใจกลับร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูกเกือบ อาทิตย์แล้วที่เขาแทบจะไม่ได้กลับไปที่คอนโดของตัวเองที่จริงต้องเรียกว่า เขาย้ายมาอยู่ที่บ้านของตระกูลโกคุเดระถึงจะถูกเพราะต้องคอยดูแลร่างบางและ คอยรื้อฟื้นความทรงจำให้ซึ่งมันก็เป็นไปด้วยดีทั้งเขาและแซนซัสจะคอยเล่า เรื่องราวต่างๆที่ขาดหายไปให้ร่างบางได้รับรู้และเจ้าตัวก็พยายามเก็บทุก เรื่องราวได้เป็นอย่างดี...แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าก็คือเพื่อนร่างเล็กของเขา ตะหากที่เงียบหายไปเลยไม่ยอมติดต่อกลับมาเลยตั้งแต่วันที่แยกกัน...ป่านนี้ จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้มันทำให้เขาจิตใจไม่สงบอย่างที่ควรจะเป็น

"คงจะไม่มีสัญญาณน่ะที่สวิตบ้านของปู่สึนะอยู่แถบเชิงเขา"

"งั้นเหรอ...อยากคุยกับสึนะบ้างจัง"

"อืม...ถ้าติดต่อได้เมื่อไหร่จะให้คุยให้หนำใจไปเลย"

"ไปอาบน้ำกันนะ...เดี๋ยวชั้นถูหลังให้"

ร่างบางยอมลุกตามชายหนุ่มไปแต่โดย ดีถึงแม้จะยังจำเรื่องราวทุกอย่างไม่ได้แต่ความรู้สึกในส่วนลึกมันก็พอจะทำ ให้ไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้เพราะทั้งชื่อทั้งรูปร่างและความอบอุ่นของผู้ชายคน นี้มันคุ้นแสนคุ้นเสียเหลือเกิน
.
.
.
.
.
"ฉันเชื่อใจนายนะ...ยามาโมโตะ"

จู่ๆ ร่างบางก็เอ่ยขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอามือที่กำลังถูฟองน้ำที่แผ่น หลังบางชะงักค้างอยู่หลายวินาที...ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยิน เมื่อกี้มันจะเป็นเรื่องจริง...ในที่สุดผลตอบแทนที่เขาอุตส่าห์ทุ่มเททำมา มันกำลังส่งผลแล้ว...ริมฝีปากคมเหยียดยิ้มกว้างอย่างที่เขาไม่เคยยิ้มแบบนี้ มานานมากมือหนารั้งร่างตรงหน้าเข้ามา
กอดเอาไว้ไม่สนใจว่าอีกคนจะเปียกปอนหรือเต็มไปด้วยฟองสบู่จนตัวเองเปียกปอนไปด้วยอีกคน

"ขอบคุณนะฮายาโตะที่ยอมเชื่อชั้น"

"ไอ้บ้า...ปล่อยได้แล้วแกเปียกหมดแล้วนะ"

"ฮะฮะ...ชั่งมันเถอะแต่ชั้นขออยู่แบบนี้อีกแป๊ปหนึ่งนะ"

สองแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกึ่ง เปลือยเปล่าเพราะมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กเท่านั้นที่ปกปิดช่วงล่างเอา ไว้...จมูกคมกดจูบที่ขมับสีเงินซ้ำๆเพื่อตอกย้ำความรู้สึกของตัวเองอย่าง น้อยในตอนนี้ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจกลับมาแล้วมันก็ยิ่งดีใจมากแล้ว

"ขอจูบได้มั้ย ฮายาโตะ?"

"ห๊ะ!!??...อะ...อะไรของนายเนี้ย!!??"

"นะ.....ชั้นอยากจูบนายใจจะขาด แล้วนะนานแค่ใหนแล้วที่ชั้นไม่ได้สัมผัสนายแบบนี้รู้รึเปล่าว่าชั้นทรมาน ขนาดใหนอย่างน้อยในตอนนี้ขอแค่ได้จูบนายชั้นก็ดีใจมากแล้วล่ะ"

"......ไปตายซะไอ้บ้า"

เสียง งึมงำที่แผงอกของตนทำเอาร่างสูงถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆแต่ใบหน้าสวยที่มุด เข้าหาไม่ผลักใสแบบนี้มันก็อดที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้...มือหนาเชยคาง มนขึ้นมาอย่างถือสิทธิ์และยิ่งฉีกยิ้มกว้างมากขึ้นเมื่อร่างบางทำเพียงเสมอง ไปทางอื่นแต่ยิ่งอีกคนมัวแต่ยิ้มทำหน้าเอ๋ออยู่แบบนั้นคิ้วเรียวจึงค่อยๆ ขมวดเข้าหากันแก้มใสๆเองก็เริ่มจะซับสีขึ้นเรื่อยๆและเมื่อความอดทนหมดลง...

"ไอ้บ้า!!...จะทำอะไรก็ทำซะทีซี้มัวแต่ยิ้มเอ๋ออยู่ได้...ฮึ้ย!!"

"ฮะฮะ...ขอโทษแต่มันดีใจนี่นาถ้างั้น...."

ไม่รอช้าให้ร่างบางต้องเขินอายไป มากกว่านี้ริมฝีปากคมค่อยๆแนบชิดลงบนริมฝีปากสีระเรื่อจนไม่เหลือช่องว่าง ใดๆให้ร่างบางได้สะดุ้งน้อยๆเพระยังฝังใจกับความทรมานอย่างแสนสาหัสในตอน นั้น.....นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆปรือตาขึ้นมองคนตรงหน้าเมื่ออีกฝ่ายทำเพียงแค่ นั้นไม่มีการลุกล้ำเข้ามา...ใบหน้าคมค่อยๆละออกไปให้ใบหน้าสวยนิ่งค้างอยู่ แบบนั้นดวงตาสีมรกตปรือปอยจ้องมองเขาอย่างเว้าวอนจนต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคอ อย่ายากลำบาก...มีหรือที่เขาอยากจะทำเพียงแค่นี้น่ะ..เขาในตอนนี้อยากจะบด เบียดริมฝีปากบางนี่ใจจะขาดอยู่แล้วแต่เพราะกลัวจะทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ ที่พึ่งได้รับมันหมดความหมายลงตรงนี้มือหนาจึงกดหัวสีเงินให้ซบลงบนแผงอกของ ตนอย่างฝืนใจ

"ขอโทษนะ...ทำให้นายกลัวรึเปล่า?"

"......แกมันคนงี่เง่า...."

ทั้งๆที่อยากจะบอกอีกคนใจแทบขาด ว่าแค่นี้มันยังไม่พออยากจะบอกว่าต้องการให้อีกฝ่ายทำตามใจตัวเองแต่เพราะ ความกลัวมันยังไม่หายไปจากความทรงจำจึงไม่กล้าที่จะบอกความต้องการของตัว เอง...สองแขนผอมบางยกขึ้นมาโอบรอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้หลวมๆใบหน้าสวยได้แต่ มุดเข้าหาความอบอุ่นในอ้อมแขนแข็งแรงคู่นี้

"........หนาวแล้วล่ะ"

เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงจึง พูดได้แค่สิ่งที่สมองยังไม่ทันจะได้คิดเพราะถึงจะบอกว่าหวาดกลัวแต่อ้อมแขน ที่อบอุ่นไปจนถึงส่วนลึกของจิตใจนี่มันกลับปฏิเสธไม่ได้

"ฮะฮะ...ถ้างั้นล้างตัวกันเถอะ" 

"อื้อ!!"

น้ำอุ่นๆถูกร่างสูงบรรจงราดรดลงบน ผิวขาวนวลเนียนอย่างช้าๆมือหนาค่อยๆลูบไล่ฟองสบู่อย่างเบามือราวกับว่า หากออกแรงมากกว่านี้ผิวสวยๆนี่จะเกิดร่องรอยยังไงยังงั้นแต่แล้วมือหนาก็ ต้องชะงักเมื่อน้ำเสียงใสๆพูดขึ้น


"แล้วโทรหาสึนะอีกทีนะ"

"......อืม...จะโทรจนกว่าจะติดเลยล่ะ"

ใช่สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือ ติดต่อเพื่อนร่างเล็กของเขาให้ได้ก่อนจะมัวมานั่งคิดแต่เรื่องของตัว เองอย่างน้อยก็ขอแค่ให้ได้รับรู้ว่าเพื่อนซี้ของเขาปลอดภัยดีก็พอแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
นัยน์ตา สีน้ำตาลไหม้กระพริบปริบๆไล่ความง่วงหงาวออกไปให้พ้นจากตัวเอง...มือเรียว เล็กบรรจงยกแขนแข็งแรงที่พาดอยู่บนตัวออกอย่างเบามือแล้วค่อยๆขยับตัวออกไป จากอ้อมแขนของร่างสูงโปร่งอย่างช้าๆกลัวว่าคนที่ยังหลับไหลจะตื่นขึ้นมาซะ ก่อนโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายตื่นตั้งแต่ก่อนตัวเองจะรู้สึกตัวซะอีกและ ในขณะที่หันหลังจะก้าวขาลงจากเตียง

"อ๊ะ!!!...."

ข้อมือเล็กๆถูกกระชากจนร่างกาย กลิ้งขลุกๆเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอีกครั้งจนใบหน้าน่ารักเบิกตากว้างทำหน้าเอ๋อ เหรออยู่พักใหญ่ก่อนจะก้มพิงแผ่นอกของอีกฝ่ายเอาไว้

"ปล่อยฉันเถอะ"

แต่แล้วก็ต้องพึมพำออกมาเบาๆเมื่อ อีกฝ่ายไม่ยอมพูดอะไรออกมา...ร่างสูงโปร่งปรือตาข้างหนึ่งมองหัวสีน้ำตาที่ พิงอยู่กับแผ่นอกของตนนิดหนึ่งแต่กลับไม่พูดอะไรออกไป...ริมฝีปากเรียวหยัก ยิ้มละไมที่ไม่ได้ร้ายกาจหรือแฝงความเจ้าเล่ห์แต่อย่างใดซึ่งอีกคนก็ไม่มี โอกาสที่จะได้เห็นมัน

"...มุคุโร่!!??"

"มีอะไรครับ?"

"เอ่อ...ปล่อยฉันได้แล้วมั้ง"

"กล้าสั่งผมงั้นเหรอครับ...คุณลืมไปแล้วรึไงว่าคุณอยู่ในฐานะอะไรทูน่า?"

"โธ่เอ๊ย!...ฉันไม่บังอาจกล้าสั่งนายก็ได้ก็แค่มันร้อนที่นายกอดอยู่แบบนี้มันอึดอัดหายใจไม่ออกรู้ไว้ซะด้วย!!"

"คึหึหึ...เก่งขึ้นจริงๆด้วย...กล้าต่อปากต่อคำกับผมซะด้วย"

"ก็แหงล่ะ..."

ริมฝีปากบางเลือกที่จะหยุดพูดต่อ ทั้งๆที่อยากจะบอกใจแทบขาดว่าเพราะประสพการณ์ที่ผ่านมามันสอนให้รู้ว่ายิ่ง เงียบก็ยิ่งโดนรังแกมันก็ต้องมีเถียงบ้างอะไรบ้างนายจะได้รำคาญเลิกตอแยกับ ฉันเสียที..แต่ถ้าขืนพูดออกไปมีหวัง....

"อื้อ!!!..."

นี่ไง...แบบนี้ไงถึงได้ไม่ยอมพูดเอะอะก็ใช้กำลังบังคับกันตลอดๆ

"ก็แหงล่ะอะไรครับทำไมไม่พูดต่อให้จบ...ผมรอฟังอยู่นะครับ"

"อื้ออ..อืออออ!!"

"พูดอะไรครับไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย"

"อื้อออ..อืออ"

อยากจะตะโกนใส่หน้าดังๆว่า...ก็ ปล่อยก่อนสิเจ้าบ้า...ใจจะขาดแต่ติดอิตรงมือที่แข็งเป็นคีมเหล็กที่บีบ ปากอยู่นี่แหละ...ความเจ็บปวดทำเอาน้ำตาคลอจวนเจียนจะร่วงหล่นอยู่รำไรแต่ก็ ต้องถือว่าเป็นโชคดีล่ะมั้งที่ร่างสูงโปร่งยอมผ่อนแรงลง

"อย่าริอ่านมาต่อปากต่อคำกับผมอีกนะครับทูน่า...ผมไม่ชอบ"

"....."

ตอนนี้จะให้พูดอะไรได้อีกเล่าไม่ รู้ว่านี่มันเรื่องบ้าอะไรกันไม่รู้แล้วว่าจะต้องทำตัวยังไงเวลาที่ต้องอยู่ กับเขาคนนี้ในเมื่อจะพูดหรือจะทำอะไรก็ดูจะขัดใจไปซะหมดทุกอย่าง...ไม่พูด อะไรเลยก็หาว่าต่อต้านจนทำตัวไม่ถูกแล้ว

".....ถ้าเกลียดฉันนักก็ปล่อยฉัน ไปซะสิจะมาทนเก็บฉันไว้ทำไม..ถ้ามันทำให้นายรำคาญขนาดนั้น...ฉันทำตัวไม่ถูก แล้วนะเวลาที่ต้องอยู่กับนายน่ะฉันรู้ตัวหรอกว่าฉันมันแค่ที่ระบายอารมณ์ของ นายมุคุโร่...ถ้ามันลำบากขนาดนั้นก็อย่าฝืนตัวนายอีกเลยปล่อยฉันกลับไปได้ มั้ย?"

.......คุณมันคนโง่ที่ไม่ยอมเข้าใจอะไรเลยทูน่า"

"แล้วฉันต้องเข้าใจอะไรเล่า...นายก็บอกฉันมาซี่ฉันรู้ตัวดีว่าฉันมันโง่ไม่ฉลาดเหมือนนายอื๊ก!!!...."

ก่อนที่จะทันได้ระบายอะไรออกมา อีกริมฝีปากก็ถูกครอบครองไปซะแล้ว...ริมฝีปากเรียวบดเบียดลงไปมอบรสจูบที่ ไม่ได้หอมหวานเหมือนเมื่อคราแรกแต่มันกลับเต็มไปด้วยความหนักหน่วงและเอาแต่ ใจเท่านั้นที่ถาโถมลงมาจะหลบหลีกไปให้พ้นความบ้าคลั่งนี่ก็ไม่ได้เมื่อใบ หน้าถูกมือเรียวทั้งสองข้าประคองเอาไว้ไม่ให้เบือนหน้าหนีร่างเล็กจึงทำได้ เพียงแค่หลับตาแน่นไม่อยากเห็นความจริงตรงหน้ามือเล็กขยุ้มเสื้อนอนตัวบาง ของอีกคนโดยไม่สนว่ามันจะยับหรือขาดคามือตน...น้ำใสๆไหลอาบสองแก้มอย่างห้าม ไม่ไหวอีกต่อไปเพราะมันไม่ได้มีเพียงแค่ความเจ็บร้าวแต่มันมีทั้งความเจ็บ ปวดความอัดอั้นตันใจขังอยู่เต็มไปหมด

"อื๊ออ!!..อิ๊ก!!"

เสียงประท้วงเล็กๆปนเสียงสะอื้นไห้ทำให้ร่างสูงโปร่งยอมที่จะลดความหนักหน่วงลง
จน กลายเป็นอ่อนโยนในที่สุดเรียวลิ้นที่เคยกระหวัดอย่างบ้าคลั่งกลับกลายเป็น เชื่องช้าหยอกล้อเรียวลิ้นเล็กอย่างอ้อยอิ่งจนร่างเล็กปรับตัวแทบไม่ทันมือ เล็กที่เคยกำเสื้ออีกฝ่ายไว้ค่อยๆสอดขึ้นไปคล้องคอร่างสูงโปร่งอย่างลืมตัว ทั้งๆที่ในหัวกำลังตีกันวุ่นวายไปหมดไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำ อะไร...ต้องการอะไรจากเขากันแน่แต่ความรู้สึกดีจนหาคำอธิบายไม่ได้ว่าเพราะ อะไรทำให้หัวสมองขาวโพลนละทิ้งความสับสนในหัวไปจนหมดรู้ตัวอีกทีใบหน้าหล่อๆ ก็กำลังจ้องมองตนอยู่แล้ว..ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มละไมราวกับกำลังพอใจอะไร บางอย่างแต่ร่างเล็กไม่มีทางรู้ว่าอีกคนกำลังพอใจอะไรและละริมฝีปากออกไป ตั้งแต่เมื่อไหร่...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จึงได้แต่จ้องมองคนตรงหน้าด้วยแววตา ที่สั่นระริกระคนสงสัยไม่เข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายอยู่วันยังค่ำ

"จะเลิกทำตัวไร้สาระได้รึยังครับ?"

เสียงทุ้มเย็นถามออกมาเบาๆให้ใบหน้าน่ารักต้องมุดลงซุกเข้ากับแผ่นอกของเขา

"ฉะ....ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"

"งั้นเหรอครับ"

"ก็มันจริงนี่..เอะอะนายก็เอาแต่ทำโทษๆจนฉันไม่รู้จะทำตัวยังไงแล้ว"

ริมฝีปากบางบ่นพึมพำตัดพ้ออีกฝ่าย ไปเรื่อยแต่ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดในอ้อมแขนแข็งแรงคู่นี้มันทำให้ แขนเรียวเล็กต้องโอบรอบแผ่นหลังกว้างอย่างลืมตัวแต่อีกคนกลับไม่ว่า อะไร...ใบหน้าน่ารักซุกอยู่แบบนั้นพักใหญ่ในความเงียบงันเมื่อต่างฝ่ายก็ ต่างไม่ได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมาอีกทั้งยังไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่มันสวน ทางกันอยู่ในตอนนี้มันคืออะไรทั้งๆที่อีกฝ่ายทำแต่เรื่องร้ายๆกับตนถึงแม้จะ มีน้อยใจมากมายก็ตามแค่ทุกครั้งก็ไม่เคยโกรธหรือเกลียดผู้ชายคนนี้ได้จริงๆ สักที

"....มุคุโร่?..."

เป็นร่างเล็กที่เอ่ยออกมาเสียงแผ่วเมื่อนึกถึงเรื่องสำคัญบางอย่างขึ้นมาได้แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะพูดเสียงดังกว่านี้

"อะไรครับ?..."

"ฉัน...เอ่อ..ฉัน..."

"จะบอกให้ผมปล่อยคุณไปงั้นเหรอครับ"

"มะ...ไม่ใช่นะ!!...ฉันแค่ขอ....มือถือคืนได้รึเปล่า??"

"ป่านนี้พวกยามาโมโตะคงจะสงสัยแย่แล้วที่ฉันไม่ติดต่อกลับไป"

"ฉันสัญญาว่าจะไม่คุยเรื่องอื่นนอกจากบอกว่าฉันสบายดี..นะมุคุโร่ได้มั้ย??"

"....."

"มุคุ..."

"แล้วจะคิดดูก็แล้วกันครับ"

"ขอบคุณนะ"

ถึงจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมคืนมือ ถือให้หรือไม่ก็ตามแต่เพียงแค่เขายอมเอาไปคิดดูมันก็พอจะมีความหวังขึ้นมา บ้างเพราะก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าตนจะขอร้องเรื่องอะไรเล็กน้อยแค่ใหนก็จะถูก ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยตลอด...แต่แล้วความรู้สึกสบายใจบวกกับความอบอุ่นใน อ้อมแขนก็ทำให้เปลือกตาของร่างเล็กค่อยๆปิดลงอีกครั้ง...จะว่าไปมันก็เช้า เกินไปจริงๆนั่นแหละเพราะมันพึ่งจะตีสามเองแต่เพราะไม่อยากทนกินอาหารที่ เต็มไปด้วยแคลอรี่สูงๆแบบนั้นอีกยิ่งไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยแล้วมีหวังลง พุงแน่ๆ...และแล้วทูน่าตัวน้อยก็จมลงไปสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ก๊อกๆๆ

"คุณซาวาดะค่ะ...ให้ฉันเข้าไปนะค่ะ"

ก๊อกๆๆ

"คุณซาวาดะตื่นรึยังค่ะ?...ท่านมุคุโร่รอทานมื้อเช้าอยู่นะค่ะ"

ในเมื่อเรียกก็แล้วเคาะประตูก็ แล้วแต่เจ้านายตัวเล็กของเธอก็ยังไม่ยอมตื่นเด็กสาวที่มีผ้าปิดตาเอาไว้ข้าง หนึ่งจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปแต่แล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะกับภาพที่ เห็น...เจ้านายตัวเล็กของเธอยังคงหลับปุ๋ยอย่างมีความสุขโดยลืมไปแล้วว่ายัง มีบทลงโทษรออยู่ข้างล่าง...แต่จะว่าไปสองสามวันมานี้ก็ไม่ยักกะเห็นว่าเจ้า นายใหญ่ของเธอจะลงโทษอะไรร่างเล็กเลยนี่..เริ่มอ่อนโยนขึ้นมากเลยทีเดียวถึง แม้เธอจะเคยเห็นภาพเจ้านายของเธอดูแลเอาใจใส่คู่หมั้นจนชินตาและเธอก็เคย เชื่อว่ามีเพียง โกคุเดระ ฮายาโตะ เท่านั้นที่จะได้รับความอบอุ่นนั่นแต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเจ้าชายน้ำแข็งผู้ นั้นกำลังละลายกำแพงของตัวเองทีละนิดๆอยู่...จะติดก็ตรงที่ว่าร่างเล็กนี่จะ รู้สึกได้บ้างรึเปล่าเท่านั้น...

"คุณซาวาดะค่ะ...ตื่นเถอะคะท่านมุคุโร่รออยู่นะค่ะ"

"อือ..."

"คุณซาวาดะถ้าขืนยังโอ้เอ้โดนทำโทษไม่รู้ด้วยแล้วนะค่ะ!!"


"หื๋อ!!...ทำโทษ??"

ดูเหมือนว่ามุกนี้จะได้ผลเมื่อใบ หน้าน่ารักงัวเงียขึ้นมามือเล็กยกขึ้นมาขยี้ตาตัวเองไล่ความมืดมัวออกไปและ สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กสาวร่างทั้งร่างจึงเด้งขึ้นแบบ อัตโนมัติ

"โคลม!!"


"เร็วเถอะค่ะยังพอมีเวลาท่านมุคุโร่จะออกจากห้องทำงานตอนเจ็ดโมงครึ่งมีเวลาอีกยี่สิบนาที"

"ขอบใจนะ!!"

ร่างเล็กรีบพาตัวเองวิ่งหายเข้าไป ในห้องน้ำทันทีโดยมีเด็กสาวคอยเตรียมชุดรออยู่ด้านนอกซึ่งมันก็ไม่ได้ยุ่ง ยากอะไรมากมายเพียงแค่หาเชิ้ตตัวใหญ่ๆของเจ้านายใหญ่เอาไว้ให้เพียงเท่านั้น และนี่คืออีกอย่างที่เธอยังแปลกใจเพราะร่างเล็กเองก็อยู่ที่นี่มาเป็น อาทิตย์แล้วแต่ทำไมเจ้านายของเธอถึงยังไม่ซื้อเสื้อผ้าให้ใหม่แม้แต่กระเป๋า เดินทางของร่างเล็กก็ยังหายไป...แต่ได้ยินรุ่นพี่ของเธอเคยพูดว่าท่านมุคุ โร่ให้เอาไปเผาทิ้งให้หมดทั้งเสื้อผ้าและเอกสารทุกอย่างของร่างเล็กฟังดูมัน อาจจะโหดร้ายพอสมควรแต่ที่ทำแบบนั้นเพราะอะไรกันแน่...หรือกลัวว่าคุณสึนะจะ หนีไป...เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันนะทั้งท่านมุคุโร่ทั้งท่านโกคุเดระแล้วยัง ท่านสึนะอีก...มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาทั้งสามคน??...
.
.
.
.
.
.
ร่าง เล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงไปที่ห้องอาหารหวังจะไปให้ถึงก่อนบอสใหญ่ของที่นี่ แต่พอมาถึงประตูก็ต้องหยุดชะงักเมื่อนายใหญ่ของคฤหาสน์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่บรรยากาศที่เคยอึมครึมมันหายไปถึงแม้สายตาคู่คมจะยัง จ้องมองเหมือนทุกครั้งที่ตนลงมาช้าก็ตามแต่ริมฝีปากเรียวที่หยักยิ้มอยู่ นั้นกลับทำให้ร่างเล็กรู้สึกว่าถูกแกล้งยังไงชอบกลใช่!!...มันต้องใช่แน่ๆ ที่ไม่ยอมให้เขาลุกก่อนเพราะอยากจะหาเรื่องแกล้งเขาต่อหน้าลูกน้องอีกเป็น แน่!!...ไอ้ผู้ชายใจดำฝากไว้ก่อนเถอะ!!!...

"ขอโทษ...มันหลับลึกไปหน่อย"

"หึหึ..."

ใบหน้าน่ารักหันควับไปมองหน้าคน ที่หัวเราะตนด้วยความแปลกใจทั้งๆที่ก่อนหน้ากระแทกแดกดันตนสระพัดแต่เช้านี้ กลับหัวเราะหน้าตาเฉย...สรุปจะเอายังไงกับชีวิตกันแน่หรือว่าเตรียมอย่าง อื่นเอาไว้งั้นเหรอ??...คิดได้แบบนั้นนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ก็เหลือบมองชาม ข้าวต้มที่กำลังส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่ตรงหน้าแต่แค่มองภายนอกมันก็ไม่เห็นจะมี อะไรแปลกไปก็แค่...ข้าวต้มปลาทั่วไป..หรือว่ามันจะซุกอยู่ด้านใต้...มือเล็ก จับช้อนคนในชามช้าๆริมฝีปากบางเป่าไล่ไออุ่นๆที่ลอยคลุ้งอยู่ด้านบนเพื่อไม่ ให้ผิดสังเกตุโดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกคนน่ะรู้ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องแล้ว ด้วยซ้ำไปแต่ยังทำเป็นจิบกาแฟอยู่เฉยแล้วลอบมองร่างเล็กอยู่เป็นระยะอันที่ จริงก็จับจ้องอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ

"กลัวผมใส่ยาถ่ายลงไปงั้นเหรอครับทูน่า"

"กะ...ก็มันน่าป๊ะล่ะตัวเองจิบแค่กาแฟแต่ให้คนอื่นกินข้าวต้ม"

"หึ...จะมากลัวตายเอาตอนนี้มันดู จะสายไปนิดมั้งครับไม่ต้องกลัวขนาดนั้นเพราะถเาผมจะฆ่าคุณคุณจะไม่ได้ตาย เพราะยาถ่ายแน่นอน..แต่ผมจะเลาะเนื้อเถือหนังคุณออกมาทีละนิดๆให้คุณทรมาน เล่นๆก่อนจะหมดลมหายใจ"

"เจ้าคนโรคจิต..."

ริมฝีปากบางพึมพำกับตัวเองก่อนจะ ก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มเข้าปากแต่ก็ยังไม่วายชำเรืองมองแก้วนมข้างแล้วถอน หายใจอย่างโล่งอกเพราะมันไม่ได้เป็นแก้วไซส์พิเศษแถมยังเป็นรสช็อคโกแลตที่ ตนชอบอีกด้วย


"ทานเสร็จแล้วตามผมไปที่ห้องทำงานด้วยนะครับ"

จบประโยคร่างสูงโปร่งก็ลุกออกจาก โต๊ะแล้วก้าวยาวๆออกจากห้องอาหารไปปล่อยให้อีกคนมองตามอย่างสงสัยแต่หัว เล็กๆดูจะคิดเตลิดไปไกลเอามากโขพอสมควรถึงได้เบิกตากว้างแทบจะเท่าไข่ ห่านอยู่ลอมล่อ

"ระ...ระ...หรือว่าจะทำโทษฉันในห้องทำงาน!!!???..."


"โคลม!!...ฉันจะทำยังไงดี~~"

"ใจเย็นๆคะคุณสึนะไม่มีอะไรแบบนั้นหรอกนะค่ะวันนี้ดูท่านมุคุโร่จะอารมณ์ดีกว่าทุกวันนะค่ะ"

"ใจดีตายล่ะ....."

พอนึกถึงเมื่อตอนเช้าขึ้นมามันก็ ทำให้ร่างเล็กถึงกับขนลุก...ไม่อยากเจอเรื่องแบบนั้นเลยจริงๆเพราะสำหรับคน ที่เป็นคนอื่นแล้วและไม่ได้อยู่ในฐานะอะไรแบบตนแล้วด้วยก็รังแต่จะเจ็บปวด กันไปเปล่าๆ...
.
.
.
.
.ก๊อกๆๆ

"เข้ามา!!"

ถึงจะกล้าๆกลัวๆแต่มือเรียวเล็กก็ ผลักประตูบานใหญ่ออกพอที่จะแทรกตัวเข้าไปได้และทันทีที่เข้าไปในห้องก็ต้อง แปลกใจเมื่อคิดว่าจะไม่มีใครแต่ผิดถนัดเมื่อในห้องมีผู้ชายที่ออกไปทางหญิง กับหญิงสาวอีกคนนั่งอยู่ที่โซฟาก่อนแล้วแถมข้างๆร่างสูงโปร่งก็มีลูกน้องคน สนิทที่ชื่อ..จิคุสะยืนเปิดแฟ้มบางอย่างอยู่อีกด้วย

"ขะ...ขอโทษฉันไม่รู้ว่านายมีแขกงั้นเดี๋ยวฉันค่อยมาใหม่นะ"

"ไม่ต้องหรอกครับพวกเขาไม่ใช่แขกแต่มาหาคุณตะหากครับทูน่า"

"ห๊ะ!!...หาฉัน??"

"เข้ามาได้แล้วครับจะยืนอยู่ตรงนั้นไปถึงเมื่อไหร่"

ร่างเล็กที่สวมเพียงเชิ้ตตัวโคร่ง เพียงตัวเดียวเดินเข้าไปอย่างเก้ๆกังๆ...ในใจรู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างบอกไม่ ถูกหรือว่านี้คือวิธีลงโทษตนกันแน่ให้ออกมาพบแขกทั้งๆที่อยู่ในสภาพล่อแหลม แบบนี้

"จิคุสะ...ออกไปก่อน"

"ครับท่านมุคุโร่!"

"คนนี้แหละครับ...รบกวนด้วยนะครับคุณโจเซ่"

"ว้าวคนนี้เหรอครับ!!...รับรองว่าผมไม่ทำให้ท่านมุคุโร่ผิดหวังแน่นอนครับ"

ร่างสูงโปร่งเอ่ยขึ้นหลังจากลูกน้องคนสนิทออกจากห้องไปแล้วและชายผู้มีท่าทางเหมือนหญิงสาวก็ตรงดิ่งเข้ามาหาร่างเล็กทันที

"อ้า!!...มายืนตรงนี้นะค่ะคุณหนู...ว้าวหน้าตาน่ารักน่าชังมากเลยนะครับท่านมุคุโร่ยังรสนิยมเป็นเลิศเหมือนเดิมนะครับ!!"

"อ๊ะ!!...ดะ...เดี๋ยวครับนี่มันเรื่องอะไรกัน!!??"

ร่าง เล็กพยายามขืนตัวไม่ไปตามแรงลากแต่ก็สู้แรงที่เหนือกว่ามากไม่ได้สุดท้ายก็ ถูกลากให้ไปยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของบอสใหญ่ผู้เย็นชาจนได้...ใบหน้าน่ารัก หันไปมองชายหนุ่มเพื่อขอความช่วยเหลือแต่อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยิ้มน้อยๆให้เท่า นั้น...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี้ย...เจ้าบ้าคิดจะแกล้งอะไรกันอีก ห๊า!!??..

ชายหนุ่มร่างสูงที่ดูตุ้งติ้งตรง ปรี่เข้ามาหาร่างเล็กอีกครั้งพร้อมกับเอียงซ้ายทีขวาทีก้มๆเงยๆอยู่รอบๆตัว ร่างเล็กยิ่งทำให้อีกคนหน้าถอดสีมากขึ้น

"ใหนดูสิๆ!!...อื๊มรูปร่างดีมากเลยนะครับแต่ผมว่าออกจะจอแบนไปนิดหนึ่ง"

"กะ...ก็ผมเป็นผู้ชายนี่ครับจะให้มีดูมๆเหมือนผู้หญิงได้ไงกันเล่า!!"

"อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด!!!...ผะ...ผู้ชาย!!!...คุณหนูเป็นผู้ชายงั้นเหรอครับ!!!??"

"ท่านมุคุโร่?!!?"

"คึหึหึ...ครับคุณฟังไม่ผิดหรอกครับคุณโจเซ่เค้าเป็นเด็กผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้แปลงเพศด้วย"

"มะ...ไม่น่าเชือ!!...ผมอุตส่าห์ จินตนาการว่าคุณหนูใส่ชุดแบบโลลิต้าต้องสวยมากๆเลยนะครับ...ถ้าอย่างนั้นผม ก็ต้องจินตนาการใหม่ซะแล้วสิครับเนี้ย"

"ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับขอแบบที่ใส่ง่ายๆถอดง่ายๆก็พอเค้าไม่ชอบแบบที่มีปมเยอะๆน่ะครับ"

"เอาแบบนั้นเหรอครับแล้วโทนสีล่ะครับ"

"ขาว ครีม ฟ้า สีอ่อนได้หมด"

"ได้ครับ!!"

ใบหน้าน่ารักหันซ้ายทีขวาทีมองตาม สองคนที่คุยกันราวกับว่าอยู่กันแค่สองคนในห้องเหมือนตนกับหญิงสาวอีกคนที่ กำลังง่วนอยู่กับการจดบันทึกอะไรบางอย่างไม่มีตัวตนเป็นธาตุอากาศที่ลอยมา ลอยไปไม่มีผิด

"นี่มันเรื่องอะไรกันล่ะนั้น??"

"เอ๋!!...ท่านมุคุโร่ไม่ได้บอกคุณ หนูเหรอครับว่าวันนี้ผมจะมาวัดตัว...อาจริงสิผมเป็นช่างตัวเสื้อครับยินดี ที่รู้จักนะครับคุณหนู...ซาวาดะใช่มั้ยครับ?"

"ห๊ะ!!....อะ...เอ่อ...เช่นกันครับคุณโจเซ่สินะครับ"

"แต่ก่อนอื่นเลิกเรียกผมว่าคุณหนูเถอะนะครับมันขัดๆยังไงชอบกล"

"แหมถ่อมตัวจังเลยนะครับเรียกคุณหนูน่ะเหมาะที่สุดแล้วครับ...ก็เป็นคนพิเศษของท่านมุคุโร่นี่ครับ"

จบประโยคใบหน้าน่ารักหันไปจมองคน ที่ยังประสานมือเกยคางจ้องมองตนด้วยความตกใจ...คนของท่านมุคุโร่อะไรกันมัน ก็แค่เรื่องแหกตาทั้งนั้น...

"เอ่อ......ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย"

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังเงียบร่าง เล็กจึงตัวสินใจพูดออกมาแต่ดูเหมือนคุณช่างตัวเสื้อจะไม่สนใจที่ร่างเล็กพูด เลยสักนิดเมื่อเจ้าตัวมัวแต่วัดรอบเอวรอบอกแล้วขานบอกหญิงสาวที่มา ด้วย..ด้วยใบหน้าแป้นแล้ นร่างเล็กจึงได้แต่ชำเรืองมองอีกฝ่ายเป็นพักๆระคนแปลกใจอยู่ไม่น้อยเหมือน กันที่จู่ๆก็คิดจะตัดชุดให้ตนแบบนี้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสนใจไม่ สิ...ไม่คิดจะสนใจเลยต่างหาก....ยิ่งผู้ชายร้ายกาจคนนี้ทำแบบนี้มันก็ยิ่งทำ ให้ความเชื่อมั่นที่ว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายมันชัดเจนยิ่งขึ้นใหนจะคำพูดนั้น อีก....เค้าไม่ชอบแบบที่มีปมเยอะน่ะครับ....ยังอุตส่าห์จำได้อีกเหรอว่าเขา มีปัญหาเรื่องปมเชือกน่ะนั่นมันก็แค่เรื่องไร้สาระที่ช่างเสื้อที่คอยแต่ง ตัวให้เขาไม่คิดจะจำมันเลยด้วยซ้ำแต่ผู้ชายคนนี้กลับยังจำได้อีก

"เรียบร้อยแล้วครับท่านมุคุโร่...อีกสามวันจะนำชุดมาส่งให้ถึงที่เลยครับ"

เสียงเจื้อยแจ้วของช่างตัดเสื้อ ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้ทุกความคิดหยุดชะงักลงทันที...นัยน์ตาสีน้ำตาล ไหม้หันไปมองช่างตัดเสื้อกับหญิงสาวผู้ช่วยก้มโค้งให้ชายหนุ่มก่อนจะออกจาก ห้องไป

"ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัวนะ"

"เดี๋ยวครับ!!"

ร่างเล็กหยุดอยู่กับที่ทันทีทั้งๆ ที่พึ่งจะก้าวขาออกไปยังไม่ถึงสามก้าว....ใบหน้าน่ารักหันกลับไปมองดวยความ สงสัยแต่สิ่งที่เห็นมันกลับทำให้ต้องเบิกตากว้างเมื่อร่างสูงโปร่งหยิบมือ ถือขยี่ห้อผลไม้ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ...แต่นั่นมันไม่ใช่มือถือของตนเพราะมัน เป็นสีดำแต่ของตนมันเป็นสีขาวต่างหาก

"ในนี้มีเบอร์ของเพื่อนคุณ...ผมให้เวลาสามนาที"

"จริงๆเหรอ!!!...นายให้ฉันโทรหายามาโมโตะได้จริงๆงั้นเหรอ!!!"

ร่างเล็กรีบก้าวฉับๆเข้าไปยืนที่ หน้าโต๊ะทำงานของร่างสูงโปร่งด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มมือเล็กๆเอื้อมออกไป หมายจะคว้ามือถือยี่ห้อดังแต่ยังไม่ทันจะได้สัมผัสมันมือเรียวยาวของเจ้าของ มันก็คว้าหมับไปซะก่อน

"อ๊ะ!!...ทำไม??..."

ใบหน้าน่ารักมองตามเจ้ามือถือเป้า หมายด้วยความไม่เข้าใจคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบว์ได้อยู่ แล้ว...ก็เมื่อกี้พึ่งจะบอกให้เขาใช้ได้สามนาทีนี่...หรือว่าเขาฟังผิดไป งั้นเหรอ??...แต่ก่อนที่ร่างเล็กจะคิดเตลิดไปไกลกว่านั้น..

"มาโทรตรงนี้...ข้างๆผม"

"ห๊าา!!...นายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆคุยตรงนั้นใครจะพูดออกกันเล่า!!"

"งั้นก็แสดงว่าจะไม่โทรสินะครับ"

"ไม่ใช่นะ!!"

ใบหน้าน่ารักพยายามมองหาที่ๆพอจะ ทำให้ตนอยู่ในสายตาของร่างสูงโปร่งเพื่อเป็นการต่อรองแต่ให้ตายเถอะจะให้ไป ยืนคุยอยู่ข้างๆแบบนั้นได้ไง!!?...กำลังคิดอะไรของเขากันแน่นะถ้าเกิดพูดถึง ฮายาโตะขึ้นมาตนจะไม่กลายเป็นก้อนเนื้อเล็กๆกองอยู่ตรงนั้นซะเรอะ!!..

"ฉันขอคุยที่โซฟาได้รึเปล่านายจะได้มองเห็นฉันได้ไง"

อย่างน้อยมันก็ไกลวิถีสามง่ามให้วิ่งหนีได้ทันละวะ

"ไม่ครับต้องเป็นข้างผมเท่านั้น...หรือจะไม่โทรผมก็ไม่ว่านะครับทูน่า"

"ก็ได้ๆ!!....แค่นี้ก็ต้องหงุดหงิดด้วยคนที่ควรจะหงุดหงิดมันฉันไม่ใช่รึไง?"

ริมฝีปากบางบ่นพึมพำกับตัวเอง...ขาคู่เรียวเดินไปหยุดอยู่ข้างๆคนที่ดูจะพอใจซะเหลือเกินที่ทำให้คนอื่นกลุ้มใจได้

"ขอห้านาทีได้รึเปล่า?"

"กล้ามากนะครับที่ขอแบบนั้น...แต่จะยอมให้ก็แล้วกันในฐานะที่คุณทำตัวดีตลอดหนึ่งอาทิตย์...ถึงจะมีงี่เง่าบ้างก็เถอะ"

"เชอะ!!...จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกันเจ้าบ้าแต่ก็.....ขอบคุณนะ"

ริมฝีปากเรียวยิ้มละไมอย่างที่ทำ เป็นประจำ...นัยน์เนตรสองสีจ้องมองใบหน้าเปื้อนยิ้มที่เขาแทบจะไม่เห็นมันมา ตลอดอาทิตย์ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นเพราะเขาก็ตามที....มือเรียวยื่นมือถือให้ และอีกคนก็คว้าหมับทันที

ร่างเล็กรีบหันหลังให้อีกฝ่าย ทันทีเพราะนั่นมันคงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ตนจะไม่ต้องเกร็งไปมากกว่า นี้....ปลายนิ้วเรียวเล็กเลื่อนหาเบอร์เพื่อนซี้ของตนและจิ้มโทรออกไปทันที โดยไม่ระวังคนข้างหลังเลยสักนิดและแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อร่างสูงโปร่งคว้าหมับเข้าที่เอวบางๆแล้วรั้งกลับไปนั่งลงที่ตักของเขา

"เฮ้ย!!!...อ๊ะ!!!"

[สวัสดีครับ...ยามาโมโตะ ทาเคชิพูดครับ]

"ทำบ้าอะไรของนายห๊ะ!!...เจ้าบ้าตกใจหมดเลย!!"

ร่างเล็กหันกลับไปตวาดคนที่ถือ วิสาสะรวบตนเอาไว้บนตักแต่อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้นเพราะเสียงที่ เล็ดลอดออกมาจากมือถือทำให้เขารู้ว่าปลายสายรับแล้วนั่นเองแต่ดูเหมือนคน โดนกอดจะไม่รู้สึกตัวเขาจึงเหลือบมองไปที่มือถือบอกเป็นนัยให้ร่างเล็กและ เจ้าตัวเองก็ตกใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

[นั่นใครน่ะ!!...สึนะ...สึนะนั่นนายใช่มั้ย!!!?]

[สึนะ!!...ใช่สึนะรึเปล่า!!??]

"อ๊ะ!!!...ชะ...ใช่ฉันเองยามาโมโตะ"

[นายหายหัวไปใหนมาห๊าไอ้เพื่อนบ้า รู้มั้ยว่าชั้นเป็นห่วงนายแค่ใหนน่ะทำไมไม่ยอมติดต่อกลับมาแล้วทำไมไม่ยอม รับสายชั้นนายรู้ตัวรึเปล่าว่านายกำลังทำให้ชั้นเป็นบ้าน่ะโชอิจิ ชามาลหรือแม้แต่คุณดีโน่ทุกคนเค้าเป็นกังวลเรื่องนายทั้งนั้นเลยนะรู้ มั้ย!!!....]

ร่างเล็กถึงกับต้องยกมือถือออก ห่างจากหูเมื่อเพื่อนร่างสูงร่ายยาวสวดมาซะยับ...แต่มันก็ไม่ผิดจากที่คาด การณ์เอาไว้สักเท่าไหร่แต่ที่ผิดไปนิดนึ่งก็ตรงที่ร่ายยาวไปนิดนึ่งนี่แหละ

[สึนะ!!...สึนะฟังอยู่รึเปล่าเนี้ย!!]

"เอ้อ...ฟังอยู่แต่นายฟังฉันพูดก่อนสิวะไอ้บ้าฉันยังไม่ทันพูดอะไรเลยก็สวดซะยับเลยนะ...อ๊ะ!!!"

ดูเหมือนร่างเล็กจะลืมตัวไปชั่ว ขณะว่าตัวเองนั่งอยู่บนตักของใครจึงขึ้นเสียงซะดังลั่นแต่พอริมฝีปากอุ่นๆ แนบลงไปคลอเคลียที่ซอกคอของตนจึงได้สติกลับมามือข้างหนึ่งจึงยกไปผลักใบหน้า ของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว

"สึนะ!!...เป็นอะไรไป!!??"

"อ๊ะ...เปล่าๆ...ลูกหมา...ใช่ลูกหมาของปู่มันกวนน่ะ...ฮะฮะฮะ"

[งั้นเหรอถ้างั้นก็แล้วไป...เอาล่ะทีนี้หาข้อแก้ตัวของนายมา]

"อึ๊ก!!...มุ...หยุดนะ!!"

ร่างเล็กถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อ ริมฝีปากเรียวงับลงไปที่ลาดไหล่เต็มแรงมือเล็กรีบปิดมือถือเอาไว้ไม่ให้ เสียงแปลกๆเล็ดลอดไปให้เพื่อนซี้ได้ยิน

"โทษฐานที่คุณหาว่าผมเป็นลูกหมา"

"ขอโทษก็มันคิดไม่ออกนี่...นายก็อยู่เฉยๆไม่ได้รึไง"

[สึนะ...เป็นอะไรไปทำไมถึงเงียบล่ะ]

"อ้า...พอดีเจ้าโมกุมันวิ่งออกไปข้างนอกน่ะขอโทษนะ"

[แล้วไป...เอ้าบอกมาได้แล้วว่าทำไมถึงทำตัวติดต่อไม่ได้]

"พอดีฉันถูกโขมยกระเป๋าบนรถไฟน่ะ"

[แล้วมันทำอะไรนายรึเปล่าเจ็บตรงใหนบ้าง?]

"ไม่...ไม่เป็นไรว่าแต่นายกับ...."

ชื่อของอีกคนถูกกลืนกลับเข้าไป เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันอาจจะทำให้ชีวิตของตัวเองสั้นลงไปอีกหลายปีแต่ถึง กระนั้นก็อดที่จะชำเรืองมองไม่ได้...ถึงแม้เขาจะยังทำสีหน้าเรียบเฉยเหมือน ไม่มีอะไรแต่ใครจะรู้ว่าในใจกำลังคิดอะไรอยู่

[ฉันกับฮายาโตะสบายดี..ตอนนี้ฮายาโตะก็เปิดใจให้ชั้นมากเลยล่ะเค้าก็อยากจะคุยกับนายนะแต่ตอนนี้หลับไปแล้วล่ะ"]

"งั้นเหรอดีจัง....จริงสิก็ที่โน่นมันแเกือบเที่ยงคืนแล้วนี่นะ"

[อืม...เอาไว้พรุ่งนี้ชั้นจะโทรหาก็แล้วกันนายใช้เบอร์นี้ใช่มั้ย?]

"เฮ้ยไม่!!!...ไม่ต้องโทรนี่ไม่ ใช่เบอร์ฉันตะ...แต่...มันเป็นเบอร์ของคนข้างบ้านน่ะเอาไว้ฉันจะเป็นฝ่ายโทร หานายเองห้ามโทรมาเบอร์นี้นะเข้าใจมั้ยยามาโมโตะ!!??"

[เป็นอะไรไปสึนะ...ไม่เห็นต้องร้อนรนขนาดนั้นเลยนี่]

"ปละ...เปล่าไม่ได้เป็นอะไรแค่ กลัวจะไปรบกวนเค้าน่ะคุณตาเจ้าของมือถือแกจะไปแคปทาวน์พรุ่งนี้แล้วคงอีกสัก พักโน่นแหละเดี๋ยวฉันจะเป็นคนติดต่อกลับไปเอง"

[ก็ได้...แต่อย่าเงียบหายไปแบบนี้อีกนะ...รับปากชั้นสิสึนะว่านายจะติดต่อกลับมาหาชั้นอาทิตย์ละครั้งก็ยังดี"

......"

ร่างเล็กได้แต่เงียบไม่กล้ารับปาก เพื่อนซี้...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้จ้องมองคนที่กอดตัวเองด้วยสายตาที่อ่านไม่ ออกเพราะไม่รู้ว่าเขาคนนี้จะใจดีแบบนี้อีกรึเปล่านี่สิ...

[สึนะ!!]

"อ๊ะ.....จะพยายามก็แล้วกัน...งั้นแค่นี้ก่อนนะคุณตาเจ้าของมือถือจ้องตาเขม็งแล้ว...ฮะฮะ"

[ก็ได้..แล้วติดต่อมาอีกนะสึนะ]

"เออ..รู้แล้วน่าแค่นี้นะ...บาย"

[บาย]

"อ๊ะ!!...มุคุ...."

ปึ้ก ปึ๊ก ปึ๊ก!!!!

มือเรียวแย่งมือถือไปกดวางสายแล้ว โยนทิ้งไปด้านหลังอย่างไม่ใยดี...นัยน์เนตรสองสีจ้องใบหน้าของคนในอ้อม แขนอย่างคาดโทษ...ร่างเล็กมองตามมือถือที่กระเด็นขลุกๆไปอีกฟากหนึ่งของห้อง ด้วยความตกใจระคนเสียดายก่อนจะหันมองมองใบหน้าหล่อๆที่นิ่งสนิทแต่สายตาที่ จ้องตนอยู่นั้นบอกให้รู้ว่าเขากำลังโมโหมากเลยทีเดียว

"ทำไมล่ะ...มือถือของนายพังหมดแล้วนะ!!??"

"ลูกหมากับตาแก่หัวโขมย...ผมหน้าตาเหมือนขนาดนั้นเลยเหรอครับ?"

"โธ่!!...ฉันขอโทษก็มันฉุกลหุกนี่ทำไงได้...นายก็แกล้งฉันเหมือนกันนี่นาถือว่าเจ๊ากันนะ"

"คึหึหึ...พูดง่ายจังนะครับ"

"ก็ขอโทษแล้วไงเล่าจะให้ทำยังไงล่ะฉันรู้หรอกน่าว่าฉันผิดอยากจะทำโทษยังไงก็เชิญเถอะ"

"ขอบคุณอีกครั้งนะ...วันนี้นายใจดีมากเลย"

"หึหึ....พูดเองนะครับ"

จบประโยคมือเรียวค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชื้ตตัวจ้อยออกทีละเม็ดท่ามกลางสายตาที่เบิกกว้างของคนที่สวมใส่...

"เฮ้ๆ!!!...ไม่ใช่แบบนี้สิจะให้ ฉันกินไข่ดาวยางมะตอยหรือนมจืดแก้วยักษ์หรือตัดหญ้าในสนามก็ได้นะตะ...แต่ ไม่ใช่แบบนี้...มุคุโร่เดี๋ยวก่อน!!!??"

มือเล็กรีบยื้อแย่งกระดุมเม็ดสุด ท้ายของตัวเองเอาไว้แทบไม่ทันก่อนจะพยายามลุกออกจากตักของอีกฝ่ายแต่มีหรือ ที่แรงเท่าเด็กประถมจะสู้แขนแข็งแรงที่โอบอยู่ได้

"กลัวอะไรกันครับ...ผมคิดว่าคุณเตรียมใจกับเรื่องนี้แล้วซะอีก??"

".....ฉันยังไม่พร้อมน่ะ...ขอเวลาอีกหน่อยไม่ได้รึไง"

"หึ....ผมดูเป็นคนใจดีขนาดนั้นเหรอครับ?"

"แต่นายก็เป็นแบบนั้นนี่"

ทั้งสองคนสบตากันอยู่แบบนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกและดูเหมือนว่าแรงดึงดูด
รอบๆ ตัวของพวกเขามันจะรุนแรงจนเกินจะฝืนทนต่อไปได้....ใบหน้าน่ารักค่อยๆเคลื่อน เข้าหาใบหน้าหล่อเหลาอย่างลืมตัวเปลือกตาค่อยๆปรือลงเมื่อรับรู้ใจถึงลม หายใจอุ่นๆที่เป่ารดสอดประสานกัน....ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งน้อยๆเมื่อริม ฝีปากของตนสัมผัสถึงความอุ่นร้อนจากริมฝีปากของร่างสูงโปร่งและยิ่งกระตุก มากขึ้นเมื่อเรียวลิ้นเปียกแฉะลามเลียหาทางสอดแทรกเข้าไปด้านใน...ริมฝีปาก บางค่อยๆเผยอเปิดทางให้เหมือนกับเข้าใจความหมายสองแขนผอมบางผวาโอบรอบคอของ อีกฝ่ายทันทีที่เรียวรอ้นในโพรงปากกวาดต้อนเอาความหอมหวานจากตน...และดู เหมือนมันกำลังสูบเอาเรี่ยวแรงของตนไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อร่างกายไม่ รักดีมันอ่อนปวกเปียกลงไปจนต้องโอบรัดรอบคอของอีกฝ่ายมากขึ้นถึงแม้จะมีแขน แข็งข้างหนึ่งคอยรั้งให้ร่างกายยังทรงตัวอยู่ได้แต่มันเหมือนจะไม่ได้ช่วย อะไรสักเท่าไหร่ยิ่งยามที่เรียวลิ้นของร่างสูงโปร่งกระหวัดไล่ต้อนมันก็ยิ่ง ทำให้ใจดวงน้อยเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอกยิ่งเสียงน้ำลายยามที่เรียว ลิ้นทั้งสองไล้ต้อนแลกรสหวานล้ำที่ดังกึกก้องเข้ามาในหูยิ่งรู้สึกอายจนใบ หน้าน่ารักซับสีจัดราวกับเปลวเพลิงแห่งความเสน่หาสุมอยู่ในอกเร้าร้อนยิ่ง กว่าเปลวไฟที่แผดเผาอยู่บนดวงอาทิตย์เสียอีก

"อิ๊ก!!...อื้ม!!"

ร่างเล็กส่งเสียงประท้วงอีกทั้งยังพยายามจะเบือนหน้าหนีเมื่ออากาศที่ใช้หายใจมันกำลังจะหมดลง

"อ้า...แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก..."

ใบหน้าน่ารักซบลงไปบนแผงอกของอีก ฝ่ายทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระพร้อมกับหอบหายใจจนตัวโยนสองแขนผมบางย้าย มาทาบบนแผงอกของอีกคนพรางกำเสื้อเชิ้ตของร่างสูงโปร่งเอาไว้แน่น

นัยน์เนตรสองสีจ้องมองใบหน้าน่า รักที่ซับสีจัดอย่างพอใจริมฝีปากเรียวหยักยิ้มละไมก่อนจะโน้มลงไปคลอเคลีย ที่ลาดไหล่ทั้งยังกดจูบหนักหน่วงเน้น้ำความรู้สึกให้กระเจิงมากขึ้นไปอีก จริงๆแล้วก็ไม่ได้คิดจะทำให้มันเลยเถิดมากขนาดนี้หรอกนะแต่พอเห็นท่าทาง ตื่นๆแบบนี้มันก็ชักจะอยากแกล้งให้มากขึ้น

"รู้สึกใช่มั้ยครับ...แล้วยังจะฝืนทนได้อีกรึเปล่า?"

".....อืออ..."

ในตอนนี้โสตประสาททั่วทั้งร่างกาย ไม่รับรู้อะไรอีกแล้วทั้งๆที่จิตสำนึกด้านดีมันสั่งออกมาว่าให้ปฏิเสธแต่ สิ่งที่พยายามพูดออกมามันกลับตรงกันข้ามเมื่อริมฝีปากมันไม่อาจฝืนความต้อง การของร่างกายได้

"แปลว่าตกลงรึเปล่าครับ?"

เสียงกระซิบที่สั่นนิดๆของร่างสูง โปร่งยิ่งทำให้ร่างในอ้อมแขนมุดเข้าหาแผงอกของตัวเองมากขึ้นไร้เสียงตอบรับ หรือแม้แต่ปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น

"อ๊ะ!!!...อืมม"

ริมฝีปากบางพยายามจะเอื้อนเอ่ย บางอย่างออกไปทั้งๆที่ตั้งใจจะห้ามแต่กลับกลายเป็นเสียงที่น่าอายออกไปแทนซะ ดื้อๆเมื่อกระดุมเม็ดสุดท้ายที่เปรียบเสมือนป้อมปราการอันเดียวที่เหลืออยู่ ถูกปลดออก...มือเรียวร้อนค่อยๆไล่เลื้อยไปตามต้นขาเรียวอย่างใจเย็น...ใบ หน้าหล่อเหลาซุกไซร้ไปทั่วซอกคอขาวผ่องอย่างนุ่มนวลกดย้ำบ้างในบางครั้ง เรียกเสียงหวานๆรัณจวญใจยิ่งนักเมื่อได้ฟังยามนี้

"มะ...มุคุ....ยะ...หยุดเถอะ!!"

ดูเหมือนความกังวลกับจิตใจด้านดีจะเอาชนะความต้องการของร่างกายได้อีกครั้ง

"ทำไมล่ะครับ?"

"ดะ...เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า!!"

"กังวลเรื่องนี้เองเหรอครับ...ไม่ต้องกลัวต่อให้มีคนเห็นก็ไม่มีใครกล้าปากโป้งไปหรอกครับ"

"ตะ...แต่...อ้า!!...มุคุ...โร่.."

ร่างสูงโปร่งไม่คิดจะฟังเสียงคัด ค้านใดๆอีกทั้งสิ้น...มือเรียวเลื้อยลงไปบีบเคล้นสะโพกมนเบาๆแทนคำทักทาย ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะไล้ขึ้นไปทั่วแผ่นหลังบางฝากร่องรอยความร้อนวูบวาบไป ทั่วทุกอณู...ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มพอใจเมื่อทุกอย่างกำลังไปได้สวยเพราะ เสียงร้องทัดทานเมื่อก่อนหน้ากลายเป็นเสียงครวญครางหวานหูไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก่อนที่ทุกอย่างมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัด จังหวะให้มือเรียวหยุดชะงักไว้เพียงเท่านั้น

ก๊อกๆๆ

"ขออภัยครับท่านมุคุโร่!!...คุณเบียคุรันมาขอพบครับ"

จบประโยคของลูกน้องคนสนิทใบหน้า หล่อเหลาถึงกับจิ๊ปากไม่พอใจอย่างมากที่คนที่ไม่อยากจะเจอที่สุดกลับมาหาเขา ทั้งๆที่ไม่ได้รับเชิญแบบนี้...นัยน์เนตรงสองสีก้มลงมองใบหน้าน่ารักที่หอบ หายใจอยู่ที่แผ่นอกของตนอย่างเสียดายก่อนจะกดจูบหนักๆที่หน้าผากมน แล้วตะโกนบอกคนที่หน้าห้องด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน

"ให้เค้าไปรอที่ห้องรับแขกเดี๋ยวผมตามไป!!"

"เอ่อครับ!!...แต่ตอนนี้คุณเบียคุรันอยู่ที่หน้าห้องแล้วครับ!!"

ได้ยินแบบนั้นร่างเล็กที่เรี่ยว แรงยังไม่กลับมาถึงกับลนลานพยายามจะลุกออกไปจากตักอีกทั้งยังพยายามกระชับ สาบเสื้อเข้าหากันแต่แขนแข็งแรงกลับกอดกระชับแน่นขึ้น

"อ๊ะ!!...ปล่อยฉันเถอะมุคุโร่นายมีแขกนะ!!"

"แล้วมีแรงเดินไปรึไงกันครับอยู่นี่แหละไม่ต้องไปใหนทั้งนั้น"

"ตะ...แต่มันน่าเกลียดนี่..."

"นี่เป็นคำสั่งกล้าขัดเหรอครับ?"

"...."

"แค่อยู่เฉยๆก็พอ...ห้ามพูดอะไรทั้งนั้นทำตัวให้เหมือนตุ๊กตาก็พอเข้าใจมั้ยครับทูน่า?"

".......อือ....เข้าใจแล้ว...."

คำพูดที่แสนเย็นชาตอกย้ำว่าตนมันก็แค่คนไร้ค่าแค่ตุ๊กตามีชีวิตเท่านั้นทำเอาร่างเล็กถึงกับสะอึกนิ่งค้างไปหลายวินาทีกว่าจะตอบออกมา




...นัยน์ เนตรสองสีจ้องมองใบหน้าที่สลดลงไปของร่างเล็กอยู่แบบนั้นแต่ไม่คิดจะอธิบาย เหตุผลให้มันกระจ่างชัดเพราะรู้ดีว่าร่างเล็กแปลความหมายว่ายังไงแต่บาง ทีปล่อยให้เข้าใจไปแบบนั้นมันก็ดีเหมือนกัน

"เข้ามา!!!"

"ยังใจร้ายกับฉันได้อีกนะ...มุคุโร่คุง"

น้ำเสียงทุ้มที่ฟังดูอารมณ์ดีดัง เข้ามาตั้งแต่ประตูห้องยังไม่เปิดออกทำเอาร่างเล็กรู้สึกประหม่าพยายามฝืน ตัวเองออกจากแผงอกของร่างสูงโปร่งแต่กลับถูมือเรียวกดหัวสีน้ำตาลเอาไว้ พร้อมกับกดจูบเบาๆที่หน้าผากมนอีกครั้ง

"โอ๊ะโอ่!!...แบบนี้เองสินะถึงได้หายหน้าหายตาไปตั้งแต่งานเลี้ยงประจำปี...หึหึ"

"นายนี่ยังใจจืดใจดำกับฉันไม่เปลี่ยนเลยน้ามุคุโร่คุง"

"แล้วนั่นถ้าจำไม่ผิดคู่เต้นเปิด ฟลอร์ของนายใช่มั้ยเอ่ย...ฮะฮะ...ดูท่าจะติดพันกันนานกว่าทุกปีก่อนหน้าเลย นี่ปรกติหลังจากนอนด้วยกันแล้วก็แยกย้ายไม่ใช่รึไงแต่รายนี้มีอะไรดีเหรอถึง ยังกกกันอยู่จนถึงตอนนี้น่ะ...บอกฉันหน่อยได้มั้ย...มุคุโร่คุง"

"ทุกอย่างที่คนอย่างคุณไม่มีไงล่ะครับ..ซื่อสัตย์...อ่อนโยน...และเชื่อฟังผมเพียงคนเดียวไงครับ"

"....หึหึ....แต่ฉันก็รักนายเพียงคนเดียวมาตลอดนะมุคุโร่คุง...เผื่อนายจะลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปน่ะ"

"แต่ผมเกลียดคุณมาตลอดครับ...ดูเหมือนคุณก็ลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปเช่นกัน"

"ฮะฮะฮะ...ยังสมเป็นนายไม่เปลี่ยน ไปเลยจริงๆที่รักของฉันแต่ทางที่ดี...รีบๆปล่อยเด็กนี่ไปซะมันจะเป็นเรื่อง ที่นายสมควรจะทำมากที่สุดรึเปล่านะ...มุคุโร่คุง?"

"เสียใจด้วยครับขอปฏิเสธความเห็นของคุณ"

"ฮืมม~....คิดสักนิดดีกว่ามั้ย...ก่อนจะพูดแบบนั้นออกมาน่ะ"

"ถ้าธุระของคุณมีแค่นี้ก็ไสหัวกลับไปได้แล้วสิครับ"

บทสนทนาที่ชวนขนลุกของคนทั้งสองทำ เอาร่างเล็กถึงกับเสียวสันหลังวาบอย่างแปลกประหลาดถึงแม้จะซุกหน้าอยู่กับ แผ่นอกของร่างสูงโปร่งแต่กลับรู้สึกได้ถึงสายตาที่มุ่งร้ายอย่างไม่คิดจะปก ปิดจ้องมองตัวเองอยู่แต่อ้อมแขนที่กอดกระชับขึ้นราวกับกำลังบอกว่าจะไม่ยอม ให้ใครแตะต้องตนแน่นอนมันกลับทำให้รู้สึกปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก....

ทั้ง สองคนยังคงสนทนากันด้วยคำพูดที่ชวนให้งงงวยยิ่งนักแต่ที่จับใจความได้แน่ๆ นั่นก็คือเจ้าของน้ำเสียงที่สุดแสนจะอารมณ์ดีคนนี้รักมุคุโร่ไม่ผิดแน่และ กำลังหาทางกำจัดตัวเกะกะอย่างตนอย่างเปิดเผยซะด้วย....แล้วนายล่ะมุคุโร่คิด ยังไงกับเขานายไม่ได้รักเขาและจะปกป้องฉันอย่างที่นายกำลังพูดอยู่รึ เปล่า.?...หรือว่ามันก็แค่คำโกหกเท่านั้น....แต่ถึงมันจะเป็นแค่คำโกหกแต่ ทำไมถึงได้รู้สึกดีใจขนาดนี้ล่ะ...


..บท สนทนาต่อไปของทั้งสองคนมันจะเป็นเรื่องอะไรหัวสมองน้อยๆมันไม่ยอมรับรู้ต่อ ไปแล้ว...สองแขนผอมบางโอบกอดรอบแผ่นหลังกว้างอย่างลืมตัวแล้วทุกคำพูดที่ลอย มาเข้าหู มัน เริ่มฟังไม่รู้เรื่องขึ้นทุกที...เป็นอะไรไป...ทำไมจู่ๆเปลือกตาถึงได้ รู้สึกหนักอึ้งแบบนี้...มุคุโร่...เป็นแบบนี้อีกแล้วเหมือนตอนนั้น...เหมือน ตอนที่อยู่บนรถไฟไม่มีผิด...แต่เราไม่ได้ง่วงนี่มันเกิดอะไรขึ้น!!?...

"...มุคุโร่~"

ริม ฝีปากบางเผลอเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างไม่ตั้งใจใบหน้าน่ารักพยายามเงยขึ้นไปมอง ใบหน้าหล่อๆที่ก้มมองตนอยู่ด้วยความแปลกใจแต่ร่างสูงโปร่งทำเพียงแค่ยิ้ม อ่อนโยนให้เท่านั้น...รอยยิ้มที่ไร้การเสแสร้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วสติก็ ดับวูบหายไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.Tobecontinue.............




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น