Fic.Attack on titan[LevixEren]Who own my heart?? : 15
:Fanfiction Attack on titan
:Romantic
:NC-15
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ
ใบหน้ามนถึงกับชะงักค้างทันทีที่เห็นว่ากลุ่มคนที่กำลังควบม้าเข้ามาใกล้
ไม่ใช่คนที่ตัวเองกำลังคนึงหาแต่เป็นชายร่างสูงใหญ่ห้าถึงหกคนได้เมื่อความ
รู้สึกหวาดกลัวเข้าครอบงำจนไม่มีกระจิตกระใจมานั่งนับจำนวน....สองขาเรียว
ยาวถอยหลังไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่แล้วก็ต้องหงายหลังล้มลงไปอีก
ครั้งเมื่อหนึ่งในกลุ่มคนตรงหน้าควบม้าเข้ามาหาด้วยความเร็วจนสองแขนผอมบาง
ต้องยกขึ้นมาป้องใบหน้าของตัวเองเอาไว้พร้อมกับหลับตาปี๋เมื่อเสียงร้องของ
ม้าดังกึกก้องไปทั่วทุ่งกว้างถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รับรู้ได้ถึงเงาขนาด
ใหญ่ทาบทับลงมาบนตัว
"อ๊ะ!!!??..."
จำใจต้องร้องเสียงหลงเมื่อชายร่างยักษ์กระโดดลงมายืนหน้าทมึนอยู่ตรงหน้า
"เฮ้ยรีฟ!!!...ชั้นเจอนางฟ้าตกสวรรค์ว่ะ"
ริมฝีปากหนาหยาบโลนแสยะยิ้มที่ไม่
ว่าจะดูยังไงก็น่าขยะแขยงจนร่างบางต้องกระเถิบถอยร้นไปด้านหลังเมื่อรู้สึก
ได้ถึงความไม่ปลอดภัยแต่จะให้ลุกวิ่งหนีไปก็ทำไม่ได้ในเมื่อตอนนี้แม้แต่
พยุงตัวเองขึ้นยืนมันก็เต็มกลืนแล้ว....คุณรีไวล์ช่วยผมด้วย...ในตอนนี้สิ่ง
ที่ทำได้ก็เพียงเฝ้าภาวนาให้ใจสื่อไปถึงอีกคนเท่านั้น
"เอาตัวมานี่"
มือใหญ่ที่สากจนบาดผิวคว้าเข้าไปที่ต้นแขนก่อนจะกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นโดยไม่ได้สนใจเลยว่าใบหน้ามนกำลังกัดริมฝีปากตัวเองจนห่อเลือด
"หึหึ...หน้าตาดีนี่หว่า"
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อีกคนกระโดดลง
มาจากหลังม้าก่อนจะใช้สายตาลามเลียอย่างไม่คิดจะปิดบังความต้องการของตนมือ
สากกร้านบีบปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นเอียงซ้ายทีขวาทีราวกับกำลังสำรวจสิ่ง
ของก็ไม่ปานแต่แล้วก็ต้องเหยียดยิ้มน่าขนลุกเมื่อสายตาสะดุดเข้ากับร่องรอย
มากมายที่ซอกคอและลาดไหล่
"หืม!!....ไอ้หนูนี่มีเจ้าของซะด้วย...ชื่ออะไร??"
"เอ....เอเลน!!"
"ชั้นหมายถึงคนที่ฝากรอยพวกนี้ให้แกตะหาก...มันเป็นใคร??"
"....ขะ...เขา...เป็น..."
"ฮ่าๆๆๆ...แกจะกลัวอะไรนักหนาชั้นก็แค่อยากจะสลักชื่อของมันบนตัวแกเท่านั้น...ไม่อยากได้เหรอ.."
"ปละ....ปล่อยผมไปเถอะครับ...ผมแค่หลงทาง"
"จะปล่อยก็ได้....แต่หลังจากชั้นลบรอยบนตัวนายหมดแล้วล่ะนะเจ้าหนู...ฮ่าๆๆๆ"
"ผมขอต่อด้วยคนนะรีฟ...ฮ่ะๆๆ...อู้ยแค่คิดก็ตื่นขึ้นมาซะแล้ว"
"ฮ่าๆๆๆ"
เสียงหัวเราะชวนขนลุกของกลุ่มชาย
ร่างยักษ์ทำเอาร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวนัยน์ตาสีมรกตาสั่นนระริกด้วยความ
หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด...คนพวกนี้กำลังจะทำเรื่องที่จะทำให้ตนตายทั้งเป็น
ไปตลอดชีวิตถ้าหากเป็นแบบนั้นตนคงจะไม่มีหน้าไปเจอหน้ากับคุณรีไว
ล์อีก...ไม่มีหน้าจะไปบอกรักเค้าคนนั้นอีกเป็นแน่!!...
...คุณรีไวล์...ช่วยผมด้วย...
"คุณรีไวล์~...ช่วยผมด้วย~~"
"เฮ้ยรีฟเมื่อกี้ไอ้เด็กนี่มันพูดว่ารีไวล์ด้วย!!!"
"ว่าไงนะ!!??...รีไวล์...ไอ้เตี้ยรีไวล์งั้นเหรอ!!?"
"แกเป็นเด็กของไอ้เตี้ยที่ไปถล่มรังชั้นเมื่อคืนเองหรอกเหรอเนี้ยฮ่าๆๆๆ..โชคดีเป็นบ้าเลยโว้ยฮ่าๆๆ"
สิ่งที่พึ่งจะได้รับรู้ทำเอาหัวใจ
ดวงน้อยหยุดเต้นไปหลายวินาที...คนพวกนี้คือคนที่คุณรีไวล์ไปถล่มเมื่อคืน
จริงๆงั้นเหรอ!!??....แย่แล้วทำไงดี...จะทำยังไงดีไม่น่าหลุดปากเลย!...ขอ
โทษ..คุณรีไวล์ผมขอโทษ
"ไม่ใช่ผมไม่รู้จักคนชื่อรีไวล์...ผมไม่รู้จักเค้า"
"มันสายไปแล้วเจ้าหนู...ถ้าแกไม่รู้จักมันแกก็คงไม่คร่ำครวญหามันขอให้มันมาช่วยแบบนี้หรอกนะ!!"
"อ๊ะ!!...ไม่หยุดนะ!!!"
ชายร่างยักษคนหนึ่งจับต้นแขนทั้ง
สองข้างของร่างบางเอาไว้ให้คนที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มเสื้อยืดตัวบาง
ถูกกระชากขาดกระจุยภายในครั้งเดียวก่อนที่มือกร้านสากหยาบกระด้างจะลูบไล้ไป
ตามแผ่นอกบางและนั่นทำให้ใบหน้ามนหลับตาเอาไว้แน่นพร้อมกับกลั้นหายใจราวกับ
อยากจะหายไปจากตรงนี้ให้ได้น้ำใสๆไหลลงมาอย่างเหลืออดเมื่อความรู้สึกเจ็บแป
ล๊บระคนขยะแขยงมันกอบกุมที่อกข้างซ้ายราวกำลังเกลือกกลั้วอยู่ในอาจมเมื่อ
มือหนากระทำการจาบจ้วงแต่ก็ไม่สามารถขัดขืนหรือหนีออกไปให้พ้นจากตรง
นี้.....ช่วยผมด้วยคุณรีไวล์...คณรีไวล์....ใจดวงน้อยกรีดร้องยังพร่ำเรียก
หาเพียงหนึ่งเดียว...เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ตนพ้นจากสภาพบัดสีนี่
ได้....เพียงคนเดียวเท่านั้น!!...
.
.
.
.
.
.
"ทำไงดีฉันทนไม่ไหวแล้วนะกุนเธอร์"
"อีกนิดเดียวเท่านั้นเอ็ดหัวหน้าเอลวินบอกว่าหัวหน้ารีไวล์ออกมาได้สักพักแล้วถ้าอีกสามนาทียังมาไม่ถึงเราค่อยออกไปกัน"
"ถ้าหัวหน้ารีไวล์รู้ว่าเราอยู่ที่นี่ด้วยต้องแย่แน่ๆเลย"
"อย่าปอดแหกไปหน่อยเลยออลโล่...หัวหน้ารีไวล์ไม่เคยขี้ขลาดแบบแก"
สามทหารเสือที่ตามมาคอยคุ้มกันตั้งแต่ต้นกำลังถกเถียงกันเป็นการใหญ่กับเหตุการตรงหน้า
"ไม่!!!!....คุณรีไวล์!!!!!"
เสียงร้องด้วยความทรมานของร่างบาง
ทำเอาทั้งสามคนกำด้าปืนเอาไว้แน่นจนเหงื่อซึมออกมาก่อนที่หนึ่งในสามคนจะทน
ดูต่อไปไม่ไหวแต่ในขณะที่กำลังจะพุ่งตัวออกไปด้วยอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสาม
มิติกลับถูกเพื่อนที่มาด้วยกันห้ามเอาไว้อีกรั้ง
"ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!!"
"เดี๋ยวเอ็ด!!!"
กุนเธอร์หนุ่มหัวทรงหอมใหญ่คว้า
ตัวเพื่อนเอาไว้ได้ทันเมื่อมองเห็นใครบางคนกำลังพุ่งมาด้วยความเร็วที่มอง
ตามแทบไม่ทันของอุปกรณ์เคลื่อนย้ายสามมิติที่ใช้หลักอากาศศาสต์ไม่จำเป็น
ต้องพึ่งพาต้นไม้หรือกำแพงในการเคลื่อนไหวอีกต่อไปและมันจะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดแห่งทีมสำรวจ
.
.
ฟิ้ววว!!!!
พลั่ก!!!!!
"อุ๊กก...."
ชายร่างยักษ์คนหนึ่งที่นั่งอยู่บนหลังม้าร่วงลงมาสลบเหมือดอยู่กับพื้นโดยไม่ทันจะรู้ตัวเลยว่าตัวเองโดนเล่นงานตั้งแต่เมื่อไหร่
"เฮ้ย!!!!...อะไรว่ะ!!!"
"ระ....รีไวล์!!!....อุ๊ก!!!"
"อ๊ากกกก!!!/อั๊กกกก!!!"
ยังไม่ทันจะได้พูดจบประโยคร่าง
ยักษ์ที่ยังไม่ทันจะหายจากอาการตกใจเท้าหนักๆก็ถีบเข้าไปที่ยอดอกจนลอย
กระเด็นไปชนเพื่อนที่ด้านหลังก่อนที่เข่าที่ไม่ได้ใหญ่โตแต่หนักหน่วงยิ่ง
กว่าช้างสารบวกกับความเร็วกว่าร้อยห้าสิบกิโลเมตรลอยตามไปติดๆทำเอาร่าง
ยักษ์ทั้งสองคนที่ลอยทับกันลงไปกับพื้นถึงกับกระอักเลือดออกมาก่อนสติจะดับ
วูบไปตามๆกัน
"แก!!!...รีไวล์อย่าเข้ามานะไม่งั้นเด็กนี่ตาย!!!!"
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่ง
ยิ่งกว่าใครที่ยังคงฝังเข่าอยู่บนร่างของชายร่างยักษ์ทั้งสองค่อยๆเงยหน้า
ขึ้นไปมองใบหน้ามนที่ดูกวาดกลัวอย่างถึงที่สุดนัยน์ตาสีเขียวมรกตสั่นไหว
ทันทีที่เห็นหน้าเขาริมฝีปากบางขยับขึ้นลงราวกับกำลังร่ำร้องเสียงชื่อของ
เขาตลอดเวลายิ่งทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งที่อกข้างซ้ายทวีความรุนแรงขึ้นเป็น
ร้อยเท่าทวีคูณโดยไม่ได้สนใจคนที่มันกำลังถือมีดจี้ลำคอขาวผ่องเลยสักนิด
"ถ้าแกแตะต้องคนของชั้นอีกแม้แต่ปลายเล็บ....ก็อย่าหวังว่าแกจะยังมีลมหายใจอีกต่อไป!"
ถึงแม้ใบหน้าคมจะยังเรียบเฉยหรือ
แม้แต่น้ำเสียงที่ยังนิ่งสนิทแต่เจ้าคนถ่อยทั้งสองคนก็รับรู้ได้ว่าร่างแข็ง
แกร่งตรงหน้ากำลังร้อนระอุใกล้เวลาปะทุยิ่งกว่าภูเขาไฟซากุระจิมะในญี่ปุ่น
ซะอีกแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่าทั้งๆที่มือสากที่ถือ
มีดกำลังสั่นระริก
"แก....แกอย่ามาขู่ชั้นซะให้ยาก...โทษฐานที่แกถล่มรังของชั้นจงรับศพเด็กนี่ไปซะเถอะ!!!!"
"ย๊ากก!!"
ชายร่างยักษ์ที่เป็นหัวหน้ากลุ่ม
เงื้อมีดขึ้นจนสุดแขนก่อนจะพุ่งลงมาด้วยความเร็วจนใบหน้ามนได้แต่ปิดตาแน่น
รอรับความเจ็บปวดเมื่อหมดหนทางหลบหลีกไปใหนได้อีก
ปัง ปัง ปัง!!!!!
"เฮือก!!!"
ร่างบางได้แต่ตัวแข็งค้างลืมความ
เจ็บปวดที่ข้อเท้าไปเสียสนิทเมื่อเหตุการณ์ตรงหน้ามันเร็วจนหัวสมองประมวล
เหตุการณ์ไม่ทันรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อของเหลวสีชาดกระเซ็นมาเปื้อนที่ใบ
หน้าของตัวเองซะแล้วนัยน์ตาสีมรกตค่อยๆเหลือบมองคนที่นอนแน่นิ่งจมกองเลือด
อยู่ตรงหน้าและรู้สึกได้ว่าคนที่ด้านหลังก็คงจะมีสภาพไม่ต่างกัน
"คุณ......รี...ไวล์..."
ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะความหวาด
กลัวหรือรู้สึกโล่งใจก็ตามสติที่แทบจะประคองเอาไว้ต่อไปไม่ไหวก็ดับวูบลงแต่
ก่อนที่มันจะขาดหายไปกลับรับรู้ได้ถึงอ้อมกอดที่แสนอบอุ่น...อ้อมกอดที่สุด
แสนคิดถึงและโหยหามาตลอด.....
.
.
.
.
....
มือ
เรียวกอบกุมมือผอมบางของคนที่ยังสลบไสลเอาไว้ไม่คิดจะปล่อยมือไปอีกครั้งใบ
หน้าคมส่อแววกังวลและโทษตัวเองอย่างเห็นได้ชัดเพราะถ้าหากเขาไม่หายตัวไปถ้า
หากเขายอมรับสายร่างบางเพียงแค่ครั้งเดียวเหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นยิ่ง
ได้มารู้ความจริงจากปากเพื่อนสาวจอมเพี้ยนก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกผิดมันทับถม
ลงมาที่เขาเพียงคนเดียว
"ความผิดของคุณคนเดียวอิตา....คุณรีไวล์"
"ชั้นรู้...ขอโทษ"
"มันเป็นความผิดของคุณ"
"ขอโทษแล้วไง"
"แต่มันเป็นความผิดของคุณ!!"
"ชั้นรู้.."
"เพราะคุ......"
"พอๆๆๆ...พอเลยทั้งสองคนจะพูดแบบ
นี้จนกว่าเอเลนจะพื้นขึ้นมาเลยรึไงสามชั่วโมงแล้วนะที่พวกนายเอาแต่ตอกย้ำ
กับขอโทษกันอยู่แบบนี้...หยุดได้แล้วเดี๋ยวเอเลนตื่นขึ้นมาเห็นแฟนกับพี่
สาวกลายเป็นนกแก้วนกขุนทองจะทำยังไง!!?"
ฮันซี่รีบเสนอตัวเข้าไปแทรกทั้ง
สองคนที่ยังคงพร่ำต่อว่าและขอโทษกันตั้งแต่เจอหน้ากันแล้วแต่ก็อดแปลกใจไม่
ได้ว่าคนขี้รำคาญอย่างรีไวล์จะพูดคำเดิมซ้ำๆกว่าร้อยรอบแบบนี้ได้คงจะกำลัง
โทษตัวเองอย่างมากอยู่เป็นแน่แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสาวหน้าเดียวจะพูดจา
ซ้ำๆคำเดิมอยู่แบบนี้ได้เหมือนกัน....
"ฮ่ะๆ...ชั้นว่าพวกนายสองคนเหมือนกันแบบแปลกๆว่ามั้ยเอลวิน?"
"หึหึ...นั่นสินะ"
"เป็นมั้ยๆขนาดเอลวินยังเห็นด้วยเลย...ฮ่ะๆๆๆ"
"เงียบๆหน่อยยัยแว่นเดี๋ยวเอเลนก็ตื่นกันพอดี!!"
"อ้าว!?!...ไม่ใช่อยากให้ตื่นหรอกเหรอ?....ที่นายเถียงกับมิคาสะ...."
"เราไม่ได้เถียงกัน!!!"
ใบหน้านิ่งๆของทั้งสองคนหันมาแขวะ
สาวแว่นแทบจะพร้อมๆกันจนต้องยกมือยอมแพ้อย่างกนระทันหันเพราะเธอคงไม่สามารถ
ฝ่ารังสีอำมหิตของสองคนหน้าปลาตายนี่ได้แน่ๆ
"โอเคๆ...ชั้นยอมแพ้ก็ได้..ใครจะไปสู้ไหวเล่นสองรุมหนึ่งแบบนี้"
ใบหน้ามนค่อยๆปรือเปลือกตาขึ้น
เมื่อรู้สึกได้ถึงแรงบีบที่มือกับเสียงแจ้วๆของสาวแว่นแต่เหมือนกับได้ยิน
เสียงของคุณรีไวลกับมิคาสะด้วยนี่นา.กำลังทะเลาะกันอยู่งั้นเหรอ??...แต่
ชั่งเถอะเพราะสิ่งที่อยากจะเห็นมากที่สุดในตอนนี้...
"คุณ....รีไวล์..."
เสียงแหบพล่าของร่างบางทำทุกคำพูดของทุกคนในห้องกลืนหายเข้าไปในลำคอและหันมาสนใจร่างบางบนเตียงเป็นตาเดียว
"เอเลน!!!!"
"คุณ...รีไวล์~~"
นัยน์ตาสีมรกตมองใบหน้าคมหล่อเหลาที่แสนคิดถึงด้วยแววตาที่สั่นระริกก่อนจะโผเข้ากอดคนตรงหน้าที่กางแขนรับเอาไว้ได้พอดี
"ไอ้เด็กบ้า!!...นายกำลังทำให้ชั้นเป็นบ้ารู้ตัวรึเปล่าห๊า!!"
"ผมขอโทษ~~....."
ในตอนนี้ไม่ว่าใครจะผิดหรือถูกไม่จำเป็นสำหรับเขาอีกต่อไป..ริมฝีปากคมกดจูบหนักๆที่ขมับสีน้ำตาลก่อนจะฝังจมูกเอาไว้แบบนั้น
"ชั้นขอโทษ....ชั้นขอโทษ"
"อย่าทิ้งผมไป...แบบนี้อีกนะครับ....."
"ชั้นจะไม่ทิ้งนายไปอีก...ชั้นสัญญา"
คำสัญญาที่ออกจากปากของผู้ที่แข็ง
แกร่งที่สุดทำเอาน้ำใสๆเอ่อล้นออกมาด้วยความดีใจ...แขนผอมบางกระชับกอดแน่น
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างกว่าครั้งใหนๆแต่แค่ไม่หนีไปใหนอีกมันจะยังไม่พอซะ
แล้ว
"ต้องรับสายของผมทุกครั้งด้วยนะครับไม่ว่าคุณจะโกรธจะเกลียดหรือไม่อยากเห็นหน้าผมก็ตาม"
"อึก!...."
"นะครับ"
"นายจะขอมากไปแล้วไอ้เด็กเหลือขอ"
"สัญญานะครับ!"
".....ก็ได้ชั้นสัญญาชั้นจะรับสายของนายทุกครั้งพอใจรึยัง??"
"ครับ!!...มากที่สุด"
เพียงเท่านี้ใจดวงน้อยก็พองโตยิ่งกว่าลูกบอลลูนซะอีกเพราะมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้จะมีวันผิดสัญญาอย่างแน่นอน
"ว้าเอเลวิน มิคาสะ
เราออกไปข้างนอกกันดีกว่าห้องนี้มันหวานจนเบาหวานชั้นทะลุสิบรอบแล้วนะขืน
อยู่ต่อชั้นมีหวังได้ไปหาบรรพบุรุษที่โลกหน้ากันพอดี"
"หึหึ....นั่นสินะ"
"ดูแลตัวเองด้วยนะเอเลน"
ไม่นานตัวประกอบทั้งสามคนก็ออกไปจากห้องปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง
แต่ยังไม่ทันจะถึงสิบวินาทีที่ทั้งสามคนออกไปเสียงประตูก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง
"เอเลนชั้นลืมบอกไป..ไอ้เพื่อนเตี้ยของชั้นมันเห็นนายกำลังกอดไอ้เด็กแจนที่ทางไปคอกม้าน่ะมันเลยสติแตกหนีออกไปเมื่อคืน!!!"
"หุบปากยัยแว่น!!!!!"
ปัง!!!!
เสียงตวาดลั่นดังขึ้นจังหวะเดียว
กับเสียงประตูปิดลงพอดีและมั่นใจได้เลยว่าเขาต้องถูกยัยแว่นผีล้อจน....ลูก
บวชใช่รึเปล่านะที่เจ้าเด็กเหลือขอเคยพูดไว้
"จริงเหรอครับ!!??"
"คุณรีไวล์เห็นจริงๆเหรอครับ!!!"
ร่างบางรีบผละออกมาจากอ้อมแขนชายหนุ่มทันทีที่ได้ยินแบบนั้น
"อย่าโกรธผมเลยนะครับ...ผมแค่ไปตามหาคุณแต่แจนตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้"
".........."
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าคมที่ยังเรียบเฉยด้วยแววตาอ้อนวอนเพราะอีกฝ่ายยังคงนิ่งจึงเดาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่
"ผมขอโทษ....ต่อไปผมจะไม่อยู่ใกล้แจนอีก...หายโกรธผมนะครับ"
ความจริงแล้วก็หายโกรธตั้งแต่ตอน
ยัยแว่นผีจอมจุ้นเล่าให้ฟังไปแล้วล่ะแต่แค่อยากจะแกล้งคนตรงหน้าให้หายแค้น
ที่ทำให้เขาเครียดจนแทบบ้าสักนิดสักหน่อยก็แล้วกันแต่จะทำยังไงดีล่ะ....คิด
เรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเป็นซะด้วยสิ...และเพราะแบบนั้นถึงได้แต่นั่งเงียบไม่
คิดจะพูดอะไรให้ใบหน้ามนกังวลใจเล่นๆ
"คุณรีไวล์...ยกโทษให้ผมนะครับ"
"....ก็ไม่ได้โกรธนี่....แค่หงุดหงิดนิดหน่อย"
"ไม่จริง!!...ถ้าแค่นิดหน่อยแล้วทำไมไม่ยอมรับสายผมล่ะครับคุณรีไวล์ต้องโกรธผมมากแน่ๆ"
"รู้ตัวก็ดี"
".....ขอโทษ...ผมขอโทษต้องให้ทำยังไงถึงจะหายโกรธล่ะครับ?"
"ถ้างั้น......เอียงหูมานี่สิ"
ใบหน้ามนถึงแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็
ยอมทำตามอย่างว่าง่ายแต่แล้วสิ่งที่อีกคนกระซิบบอกกลับทำเอาใบหน้าสวยซับสี
จัดพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"ตะ....ตอนนี้เหรอครับ!!??"
"ใช่ตอนนี้!!"
"กะ...ก็ได้ครับแต่รับปากผมก่อนว่าจะหายโกรธผม"
"แน่นอน"
ได้ฟังแบบนั้นสองแขนผอมบางก็สอด
เข้าไปคล้องคอของคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนที่ใบหน้ามนจะค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้
แล้วจรดหน้าผากเอาไว้แบบนั้นเมื่อความอายมันมีมากกว่าถึงแม้ว่าเรื่องแบบนี้
มันจะไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันก็เป็นครั้งแรกที่ตัวเองต้องเป็นฝ่ายรุกแบบนี้
หมายถึงตอนที่มีสติครบสามสิบสองไม่นับตอนเมาล่ะนะ...
"หยุดทำไม?"
"โธ่....ขอเวลาทำใจหน่อยสิครับ"
ยิ่งถูกอีกฝ่ายเร่งเร้าริมฝีปาก
บางยิ่งเม้มเข้าหากันแน่นอยู่แบบนั้นหลายวินาทีแต่ดูเหมือนอีกคนจะกำลังสนุก
กับการแกล้งคนในอ้อมแขนเมื่อริมฝีปากคมหยักยิ้มพอใจก่อนที่ปลายลิ้นเปียกแฉะ
จะเลียลงปที่ริมฝีปากบางแล้วกดจูบซ้ำลงไปเบาๆโดยไม่ทนรอให้ร่างบางเป็นฝ่าย
เริ่มเพราะไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นเขาก็ได้ประโยชน์สูงสดอยู่ดีนั่นแหละ
.
.
.
.
.
.
.
.
ร่างโปร่งบางเดินกระเพลกลงมาจากชั้นสองก่อนที่พี่สาวต่างสายเลือดที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วจะเดินเข้ามาประคองเอาไว้
"ขับรถดีๆล่ะมิคาสะ"
"ไม่ต้องห่วง.........พรุ่งนี้เช้ารออ่านข่าวหน้าหนึ่งได้เลย"
"เธอว่าไงนะ??"
"เปล่าไม่มีอะไร"
"มิคาสะ!"
"จริงๆ"
ประโยคหลังเบาลงจนน้องชายของเธอ
ถึงกับขมวดคิ้วสงสัยนัยน์ตาสีมรกตมองรถสปอร์ตสีแดงเพลิงของเพื่อนสลับกับ
หน้านิ่งๆของพี่สาวไปมาพรางรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกลได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่าให้
พี่สาวของตนทำอะไรห่ามๆอีกเลย
"แจนอุตส่าห์ทิ้งรถไว้ให้เธอขับกลับนะยัยบ๊องอย่าทำอะไรพิเลนๆเชียว"
"รู้หรอกน่า"
ถึงจะตอบแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้เข้ากับสีหน้าเลยสักนิดแววตาวาวโรจน์แบบนั้นมันอะไรกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.........Tobecontinue..........
ดีก๊าามาต่อให้แล้วนะก๊าแต่.....ตอนนี้มันมั่วๆยังไงก็ไม่รู้ทนอ่านไปก่อนนะก๊า
สติสตางค์ของ isayaa มันมึนๆงงๆยังไชอบกลถ้าไม่เข้ายังไงก็ขออภัยมณ.ที่นี้ด้วยนะก๊าา
บั้ยบายยยย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น