Fic.Attack on titan[LevixEren]Who own my heart?? : 10
:Fanfiction Attack on titan
:Romantic
:NC-15
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ
สองแขนผอมบางกอดรัดชายหนุ่มเอาไว้แน่นทันทีที่เขาขยับตัว...ไม่ว่าจะเป็น
เพราะความเคยชินหรือจะตั้งใจก็ตามเพราะทุกครั้งที่เขาขยับตัวลุกจากเตียง
ร่างบางนี่ก็จะกระชับกอดเขาเอาไว้แน่นแล้วลืมตาตื่นขึ้นมาทุกครั้งไม่ว่าจะ
เป็นตอนกลางดึกหรือตอนเช้าเหมือนเช้านี้...นัยน์ตาสีเขียวมรกตน่าหลงใหล
ค่อยๆปรือตาขึ้นก่อนจะซุกหน้าลงไปที่แผ่นอกของเขาเหมือนอยากจะมุดเข้าไปให้
ได้ยังไงยังงั้น
"ไม่ต้องมาอ้อน....ทำไมต้องตื่นตามชั้นด้วยหื๋ม??...นอนต่ออีกสักหน่อยเถอะ"
"คุณรีไวล์นั่นแหละนอนต่ออีกนิดนะครับยังเช้าอยู่เลย"
"เป็นอะไรไป??"
"ถ้าคุณรีไวล์ไม่อยู่ผมก็นอนไม่หลับแล้วล่ะครับ"
"งั้นก็ลุก...จะพาไปเที่ยว"
"จริงเหรอครับ!!!"
"อืม"
พักใหญ่ทั้งสองคนก็เดินมาถึงคอก
ม้าหลังปราสาทก่อนที่นัยน์ตาสีขี้เถ้าที่จะเหลือบมองคอกม้าข้างๆที่ม้าหายไป
แล้วสามตัวจึงได้แต่เหยียดยิ้มน้อยๆแล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"ตื่นเช้ากันซะจริง"
"อะไรนะครับ??"
ใบหน้ามนได้แต่ทำหน้างงๆเมื่อเหมือนกับได้ยินว่าชายหนุ่มพูดอะไรสักอย่างแต่ตัวเองได้ยินไม่ชัด
"ไม่มีอะไร....แค่มีคนตื่นก่อนเราแล้วเท่านั้น....ไปกันเถอะ"
มือเรียวที่กร้านน้อยๆยื่นมาดึงอีกคนขึ้นม้าก่อนที่เจ้าม้าสีขาวปรอทจะวิ่งออกจากปราสาทหลังใหญ่มุ่งหน้าสู่ป่าต้นไม้ยักษ์ทันที
ใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเจ้าม้าสี
ขาวก็พาทั้งสองคนมาถึงป่าต้นไม้ยักษ์....ชายหนุ่มผูกม้าเอาไว้กับต้นไม้ที่
ไม่ได้ใหญ่โตมากมายเหมือนกับต้นอื่นๆและนั่นยิ่งทำให้ใบหน้ามนงงหนักเข้าไป
อีก
"จะไปใหนเหรอครับ!!??"
"มานี่สิ"
ร่างโปร่งบางเดินเข้าหาชายหนุ่ม
ก่อนจะกวาดสายตาฝ่าความมืดไปรอบๆตัวอย่างหวาดๆเมื่อนึกถึงเรื่องที่คุยกัน
เมื่อนวานที่ว่ากันว่าป่าต้นไม้ยักษ์คือที่อยู่ของไททันสิ่งมีชีวิตที่หน้า
ตาคล้ายกับมนุษย์แต่ตัวสูงใหญ่กว่าหลายเท่าแถมยังจับมนุษย์กินเป็นอาหาร
อีก....คิดได้แบบนั้นมือบางก็รีบคว้าแขนของชายหนุ่มแล้วกอดเอาไว้แน่นจนอีก
คนหยุดยิ้ม
"เป็นอะไรไป??....ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรทั้งนั้น"
มือเรียวรั้งร่างบางให้เข้ามาแนบชิดพร้อมกับตวัดอุ้มขึ้นในท่าอุ้มเจ้าสาวจนคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวถึงกับผวากอด
"อ๊ะ!!!!...จะทำอะไรครับ!!!??"
"จะบิน...กอดเอาไว้ให้แน่นๆล่ะ"
"เหว๋อ~~!!!!!"
จบประโยคร่างทั้งร่างก็รู้สึก
เหมือนกำลังลอยอยู่บนอากาศใบหน้ามนจึงซุกเข้าหาอกอุ่นไม่กล้าที่จะมองรอบๆ
ตัวและยิ่งแรงลมที่มาปะทะใบหน้าแรงขึ้นนัยน์ตาสีเขียวมรกตก็ยิ่งหลับแน่น
ขึ้นไปอีกยิ่งสองหูได้ยินเสียงหวีดหวิวของอะไรบางอย่างกำลังแหวกอากาศออกไป
ก็ยิ่งทำให้ไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองเหมือนกับว่าช่วงเวลาแห่งความหวาดกลัวมัน
ชั่งยาวนานซะเหลือเกิน
"ลืมตาได้แล้ว....เอเลน"
"เอเลน....ถึงแล้ว"
เสียงทุ้มที่กระซิบเบาๆทำใบใบหน้า
มนค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆและสิ่งแรกที่รู้สึกได้คือสายลมเย็นๆพัดมากระทบใบหน้า
ก่อนจะเพ่งมองใบหน้าคมหล่อเหลาของคนที่ยังอุ้มตัวเองเอาไว้
"ที่ใหนครับ???"
"ลองเพ่งมองดูสิ"
ชายหนุ่มค่อยๆวางคนในอ้อมแขนลงก่อนจะรั้งเอวบางเอาไว้เผื่อจะตกใจหล่นลงไปข้างล่างเอาได้
"ว้าว~~ได้ไงครับเราขึ้นมาบนนี้ได้ไง???"
"หึหึ....ก็บอกไปแล้วนี่ว่าบินขึ้นมาน่ะ"
ใบหน้ามนหันมองไปรอบๆกายที่ราย
ล้อมไปด้วยเงาสีดำตะคุ่มของต้นไม้ยักษ์ที่อยู่เบื้องล่างเพียงไม่กี่เมตร
เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่บนกิ่งของต้นไม้ยักษ์ที่น่าจะสูงที่สุดของป่านี้แล้ว
และขนาดพวกเขาอยู่บนกิ่งที่สูงที่สุดแต่มันก็กว้างขนาดที่ทั้งคู่นอนกลิ้งไป
มาได้สบายๆเลยทีเดียวชายหนุ่มเดินไปนั่งพิงลำต้นที่ยังคงแทงยอดขึ้นไปราวกับ
มันยังโตไม่เต็มที่โดยมีร่างโปร่งบางตามไปนั่งซ้อนก่อนจะเอนตัวพิงแผงอก
แกร่งเอาไว้พรางแหงนหน้าขึ้นมองอีกคน
"มาที่นี่บ่อยเหรอครับ??"
"ไม่หรอกบ่อยที่สุดน่าจะเป็นวอลมาเรียมากกว่า"
"เคยพาใครขึ้นมาด้วยมั้ยครับ??"
ริมฝีปากคมหยักยิ้มก่อนจะกดจูบลง
ไปบนหน้าผากมนเบาๆพรางนึกขำในคำถามของเจ้าตัวร้ายถ้าเขาตอบว่าเคยแล้วจะทำ
หหน้ายังไงนะชักอยากจะรู้ซะแล้วสิ
".......ก็มีบ้าง"
ได้ยินแบบนั้นใบหน้ามนถึงกับหมอง
ลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะก้มลงซุกแผงอกของอีกฝ่ายเอาไว้เมื่อความรู้สึกน้อย
ใจแล่นริ้วเข้าไปที่ใจดวงน้อยที่ตัวเองไม่ใช่คนแรกที่เขาคนนี้พาขึ้นมาบนนี้
"น่าอิจฉาจังเลยนะครับ......คนที่ได้ขึ้นมากับคุณรีไวล์เป็นคนแรก......"
น้ำเสียงที่ฟังดูน้อยเนื้อต่ำใจแบบนั้นทำเอาริมฝีปากคมถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเชยคางมนขึ้นมาประทับจูบลงไปที่ริมฝีปากบางแผ่วเบา
"รู้อะไรมั้ย...คนที่ชั้นพาขึ้นมา
บนนี้มีไม่กี่คนหรอกนะแต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ชั้นตั้งใจส่วนที่เหลือ
ก็มีแต่พวกดื้อด้านที่สลัดไม่หลุดทั้งนั้นแถมยังเป็นผู้หญิงเฟอะฟะใส่แว่นตา
หนาเตอะโรคจิตนิดๆส่วนที่เหลือก็เป็นผู้ชายตัวสูงๆหัวสีทองเรียบแป้ลมพัดผม
ไม่กระดิกแถมยังมีคนใบ้ที่ชอบดมกลิ่นคนอื่นเป็นงานอดิเรกอีกคนพวกนี้อย่าได้
คิดจะเข้าใกล้เชียว"
ได้ฟังแบบนั้นใบหน้ามนถึงกับหัวเราะคิกคักขบขันกับการบรรยาถึงเพื่อนสนิทที่ออกแนวเหน็บแนมซะมากกว่าของชายหนุ่ม
"ฮะฮะฮะ....ให้ผมเดามั้ยครับว่ามีใครบ้าง....คุณฮันซี่ คุณเอลวิน แล้วก็คุณมิกะใช่มั้ยครับ?"
".........."
ใบหน้าคมได้แต่ยิ้มอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยมีให้ใคร......มองท่าทางดีใจจนล้นออกมาข้างนอกของเจ้าคนขี้น้อยใจในอ้อมแขน
"แล้ว.....อีกคนล่ะครับ??"
"อยากรู้จริงๆ??"
"แน่นอนสิครับ!!!"
"หึหึ....ก็แค่เจ้าลูกหมาขี้งอน
ขี้แย ขี้น้อยใจ แถมยังเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งหัวรั้นก็เท่านั้น
แล้วยังเป็นประเภทลูกคุณหนูจอมดื้ออีกตะหาก"
"โธ่!!!....ไม่มีข้อดีเลยเหรอครับ....ผมนิสัยแย่ขนาดนั้นเชียว??"
"รู้ได้ไงว่าเป็นตัวเอง??"
"ต้องเป็นผมอยู่แล้วนี่ครับแต่....ไม่มีข้อดีจริงๆเหรอ??"
"มีสิ....ก็หลงตัวเองเป็นที่หนึ่งอีกข้อนี่แหละ"
"ใจร้ายจังเลยนะครับ...อื้อ!!!"
ยังตัดพ้อไม่ทันจะจบประโยคริม
ฝีปากก็ถูกครอบครองไปซะแล้วก่อนที่มือเรียวจะยกให้ร่างบางนั่งคร่อมที่หน้า
ขาของตัวเองพร้อมกับกดท้ายทอยสีน้ำตาลเข้มให้จูบได้ถนัดขึ้นเรียวลิ้นร้อน
ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปหยอกล้อเรียวลิ้นเล็กให้คล้อยตามก่อนจะรุกหนักขึ้นเมื่อ
อีกคนติดกับจนสองแขนผอมบางต้องกอดรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่นเมื่อลมหายใจ
เริ่มติดขัดและเรี่ยวแรงกำลังจะหมดลง...ริมฝีปากคมยังคงบดเบียดตักตวงเอา
ความหอมหวานที่ไม่มีวันอิ่มเอมอยู่แบบนั้นเนิ่นนานกว่าจะละออกมาให้อีกคนได้
หายใจ
"ขอดีของนายก็คือทุกๆอย่างที่มัน
หลอมรวมกันจนออกมาเป็นนาย...ไอ้เด็กเหลือขอ...ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปมัน
ก็ไม่ใช่ตัวนาย...เข้าใจที่พูดรึเปล่า??"
"......เข้าใจครับ....แต่คุณรีไวลไม่เกลียดผมใช่มั้ยครับ...คนที่มีแต่ข้อเสียเต็มไปหมดอย่างผม...."
"ถ้าเกลียดชั้นก็คงไม่มานั่งกอดนายแบบนี้หรอกนะ...ไอ้เด็กขี้น้อยใจ"
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างก่อนจะโผเข้ากอดอีกคนเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ
"รักคุณรีไวล์ที่สุด"
สองแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างบางเอา
ไว้พร้อมกับฝังจมูกลงไปบนกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มแต่แล้วจู่ๆเจ้าหัวสีน้ำตาล
เข้มก็เด้งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยพร้อมๆกับทำหน้าตื่นๆเหมือนพึ่งจะนึก
เรื่องบางอย่างออก
"จริงสิครับผมลืมไปซะสนิทเลย.....วันนี้ผมจะออกแบบท่าเต้นคุณรีไวล์ชอบดนตรีแนวใหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ??"
"ไม่มีหรอกแล้วแต่นายก็แล้วกัน"
"ถ้างั้นเดี๋ยวผมจะทำเอาไว้สามเพลงแล้วคุณรีไวล์ค่อยเลือกนะครับว่าชอบแบบใหน
"อืม"
ใบหน้าของทั้งสองคนโน้มเข้าหากัน
อีกครั้งแต่ก่อนที่มันจะแนบชิดเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นซะก่อนและดูเหมือน
ว่าจะไม่ได้มีแค่คนเดียวซะด้วยเมื่อเสียงพรึ่บๆสามหรือสี่ครั้งก็ไม่แน่ใจ
แต่ทันที่ที่เสียงหยุดลงเงาตะคุ่มๆของพวกเขาทั้งสามก็ลงมาอยู่บนกิ่งเดียว
กันซะแล้ว
"เฮ้อ!!!!....ชั้นว่าบรรยากาศแถวนี้มันจะหวานเกินไปแล้วน้า~เอลวินสงสัยกลับไปเบาหวานชั้นต้องทะลุแน่ๆเลยล่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ"
เพื่อนสาวจอมเพี้ยนหัวเราะร่าเข้า
มาใกล้จนร่างบางรีบลงมาจากตักของชายหนุ่มแทบไม่ทันก่อนจะก้มหน้ามองมือตัว
เองอย่างอายๆเพราะยังไม่ลืมว่าวันก่อนที่เมาตัวเองทำอะไรลงไปบ้างแถมตอนนี้
ถึงแม้จะไม่ได้เมาแต่ก็ไม่รู้ว่าทั้งสามคนเห็นหรือได้ยินอะไรไปแล้วบ้าง
"ถ้าอยากรู้ว่าหวานแค่ใหนก็คงต้องให้มิกะพิสูตรกลิ่นดูแล้วล่ะฮันซี่"
เพื่อนสนิทร่างสูงพูดขึ้นก่อนจะเดินมานั่งต่อจากสาวแว่นโดยมีมิกะเดินตามมานั่งลงด้วยอีกคน
"มาขัดจังหวะรึเปล่า??"
"ก็แน่นอนอยู่แล้วสิ!!"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ แต่พวกเรามาถึงก่อนน้าจะบอกให้...ใครมาถึงก่อนก็ต้องมีสิทธิ์นั่งตรงนี้
ถูกมั้ย??"
ใบหน้ามนได้แต่ก้มหน้าฟังเพื่อน
สนิททั้งสี่เหน็บแนมกันไปมาอย่างไงรู้จะทำยังไงแต่พอนึกถึงคำพูดที่คุณรี
ไวล์พึ่งจะพูดถึงทั้งสามคนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มไม่คิดไม่ฝันว่าทั้งสี่คน
จะสนิทกันมากขนาดนี้....ร่างโปร่งบางจมอยู่กับความคิดของตัวเองพักใหญ่ถ้า
ไม่มีเสียงของหญิงสาวตะโกนหวีดหวิ้วขึ้นมาซะก่อนใบหน้ามนจึงเงยหน้าขึ้นมอง
ตามนิ้วของเธอ
"ว้าวๆๆ!!!...มาแล้วมาแล้วทุกคน!!!!"
สิ้นเสียงของสาวแว่นทุกสายตาต่าง
พากันจับจ้องไปยังปลายขอบฟ้าที่มีแสงสีทองค่อยๆทอประกายขึ้นมาสาดส่องกระทบ
สีเขียวของต้นไม้ยักษ์ที่ยาวไปจนสุดลูกหูลูกตาให้ความรู้สึกเหมือนกำลัง
แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางทะเลสีเขียวอำพันในเทพนิยายสักแห่งขับไล่ความมืดมิดของ
ราตรีที่แสนยาวนานให้สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง....ใบหน้ามนถึงกับนิ่งค้างเบิก
ตากว้างอย่างตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้าก่อนที่ริมฝีปากบางจะฉีกยิ้มกว้างทอ
ประกายแข่งกับแสงแรกของวันใหม่จนแก้มใสๆแทบจะปริแตกออกมาทำให้คนที่ลอบ
มองอยู่ข้างๆพลอยยิ้มไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้
"สวยจังเลยนะครับ!!!"
ชายหนุ่มยิ้มรับก่อนจะขยี้หัวสี
น้ำตาลนุ่มนิ่มเบาๆให้อีกทั้งสามคนได้อิจฉาเล่นแล้วจะหันกลับไปสนใจแสงสีทอง
ตรงหน้าอีกครั้งแต่แล้วริมฝีปากบางก็ต้องฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีกเมื่อรู้สึกถึง
ความอบอุ่นที่มือของตัวเองแต่ก็อดที่จะประหลาดใจไม่ได้ว่าคนที่เย็นชาขนาด
นี้จะทำอะไรกุ๊กกิ๊กกับเขาเป็นด้วย....แต่ก็ขอแค่ช่วงเวลานี้ล่ะนะก่อนจะลุย
งานที่น่าจะหนักพอตัวต่อไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เสียงดนตรีจังหวะที่ไม่เร็วหรือช้าจนเกินไปดังๆหยุดๆออกมาจากห้องที่เจ้า
ของปราสาทดัดแปลงเอาไว้ด้วยการติดกระจกเอาไว้ทุกด้านของผนังให้ร่างโปร่งบาง
ใช้สำหรับสอนเต้นให้กับเพื่อนสนิทของตัวเองทำให้หลายคนที่เดินผ่านอดที่จะ
ยืนมองไม่ได้เพราะประตูบานใหญ่ที่แง้มไว้นิดหนึ่งจึงทำให้มองเห็นร่างโปร่ง
บางในชุดกางเกงวอร์มสีดำกับเสื้อกล้ามสีขาวเข้ารูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้งที่
ไม่ได้ต่างอะไรกับเด็กสาวเลยแม้แต่น้อยกำลังขยับร่างกายไปตามเสียงเพลงก่อน
จะกดรีโมทในมือหยุดเพลงเอาไว้แล้วก้มลงขีดๆเขียนๆอะไรบางอย่างลงในสมุดที่
กองอยู่กับพื้นและเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้ว
ว่าร่างโปร่งบางนี่กำลังคิดท่าเต้นให้กับหัวหน้าหน่วยของพวกเขาจึงได้แต่
ยิ้มตามอย่างเอ็นดู
"น่ารักจังเลยเน้อมิน่าล่ะหัวหน้าถึงได้หลงขนาดนั้น"
"นั่นน่ะสิเป็นฉันคงหลงเหมือนกัน
นั่นแหละใครจะไปอดใจไหวเต้นก็เก่งหน้าตาก็ดี๊ดีขนาดนั้นเห็นว่าสอนให้นัก
ร้องดังๆตั้งหลายคนด้วยนี่...ชักจะอิจฉาหัวหน้ารีไวล์ขึ้นมาตะหงิดๆแล้วล่ะ"
"จะยืนอิจฉาไปอีกนานมั้ยจ๊ะรีบๆไปเคลียงานของตัวเองจะอีกกว่ามั้ยช่วงบ่ายต้องซ้อมการแสดงไม่ใช่เหรอจ๊ะ"
"อ๊ะ...แหะๆคุณเพทร่า....ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ!!!!"
จบประโยคสองหนุ่มผู้เฝ้ามองดอกฟ้าถึงกับเผ่นแน๊บไม่กล้าเหลียวหลังกับมาอีก
"จริงๆเล้ยพวกนี้"
หญิงสาวร่างเล็กนางฟ้าหนึ่งเดียว
ของทีมได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายๆก่อนจะยกถาดอาหารสำหรับมื้อเที่ยงเข้า
ไปให้กับคนที่ยังตั้งอกตั้งใจอยู่ที่หน้ากระจก
"เอเลนพักทานข้าวกันก่อนเถอะจ๊ะเที่ยงแล้ว!!!"
"แป๊ปนึ่งนะครับคุณเพทร่า!!!"
ใบหน้ามนหันมายิ้มให้กับหญิงสาว
ก่อนจะก้มลงจดบันทึกของตัวเองต่อไปปล่อยให้เธอยกถาดอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ
เล็กๆอีกฟากของห้องก่อนจะกดรีโมทเปิดเพลงขึ้นอีกครั้ง......ริมฝีปากบางของ
หญิงสาวคลี่ยิ้มน้อยๆกับความตั้งใจของร่างโปร่งบางที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
จากก่อนหน้าที่เธอเคยเห็น...และนี่ก็คงจะเป็นจรรยาบรรณของครูฝึกสอนเป็นแน่
ที่พักเรื่องส่วนตัวเอาไว้ก่อนและให้ความสำคัญกับงานเป็นอันดับแรกถึงแม้ว่า
เขาคนนั้นจะเป็นคนรักของตัวเองก็ตามที
"เอเลนพักก่อนเถอะจ๊ะถ้าหัวหน้ากลับมารู้เข้าจะไม่พอใจเอานะ"
"คร้าบๆ...ขออีกห้านาทีนะครับ!!"
"ก็ได้ถ้างั้นอีกครึ่งชั่วโมงพี่จะกลับมาจัดการอาหารให้เรียบร้อยด้วยนะจ๊ะ"
"ครับคุณเพทร่า!!"
ใบหน้ามนเงยขึ้นมายิ้มกว้างอีก
ครั้งก่อนจะก้มลงสนใจสมุดโน้ตของตัวเองอีกครั้งจนกระทั่งหญิงสาวร่างเล็กออก
ไปได้พักใหญ่จึงถือสมุดโน้ตของตัวเองพรางขยับริมฝีปากเหมือนกำลังท่องจำไป
ด้วยก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะแต่สายตาก็ยังจับจ้องสมุดโน้ตอย่างไม่วางตามือบาง
หยิบแฮมเบอเกอร์ขึ้นมากัดสองสามคำก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มตามเล็กน้อย
ก่อนจะเปิดเพลงขึ้นพรางเคาะนิ้วไปตามจังหวะรอให้อาหารย่อยก่อนจะออกไปทำแบบ
เดิมที่ทำมาทั้งเช้าอีกครั้งอยู่แบบนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าจะจำได้ขึ้นใจ
.
.
.
.
.
หญิงสาวร่างเล็กก้มมองถาดอาหารในมืออย่างกลุ้มใจเมื่อแฮมเบอเกอร์ที่เป็น
มื้อเที่ยงของเด็กหนุ่มร่างบางนั้นมีรอยแหว่งไปแค่เล็กน้อยเหมือนจะเป็นการ
ชิมซะมากกว่ากินพรางจ้องมองร่างบางที่หน้ากระจกอยู่แบบนั้นจนกระทั่ง
"มีอะไรรึเปล่าเพทร่า??"
หญิงสาวชะงักก่อนจะหันกลับไปตามทิศทางของเสียงที่หัวหน้าทั้งสามของเธอกำลังเดินเข้ามาหา
"กลับมากันแล้วเหรอค่ะหัวหน้า??"
เธอก้มมองถาดอาหารในมือน้อยๆก่อนจะพูดออกไปอีกครั้ง
"คือฉันมีปัญหานิดหน่อยค่ะ.....จริงๆก็ปัญหาใหญ่เลยล่ะค่ะ"
"มีอะไร??"
"คือเอเลน...ไม่ยอมทานอะไรเลย
ตั้งแต่เช้าที่พร่องไปก็มีแต่นมกับน้ำผลไม้....ก็เลยกลุ้มน่ะค่ะฝีมือการทำ
อาหารของฉันคงแย่ลงทุกวัน....แบบนี้คนอื่นๆก็คงต้องทน
ทานทั้งๆที่มันใช้ไม่ได้แต่ไม่มีใครกล้าบอกฉันอย่างนั้นสินะค่ะ"
"ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ....เจ้าเด็กนี่ชั่งเลือกเองตะหากเดี๋ยวชั้นจะคุยกับเอเลนให้เอง"
"อย่างงั้นเองหรอกเหรอค่ะ....ถ้างั้นรบกวนด้วยนะค่ะหัวหน้า"
ชายหนุ่มพยักหน้าให้กับนางฟ้า
หนึ่งเดียวของหน่วยก่อนจะหันไปสนใจร่างบางที่ยังคงออกแบบท่าเต้นต่อไปโดยมี
เพื่อนสนิทอีกสองคนยืนอยู่ข้างๆ
"เห็นดื้อๆแบบนั้นแต่เวลาเอาจริงก็จริงจังไม่ใช่ย่อยเลยแหะ...ว่ามั้ย??"
"ก็เขาเป็นถึงครูสอนเต้นคนดังนี่....จะทำเป็นเล่นได้ไงเสียงชื่อเสียกันพอดี "
ชายหนุ่มได้แต่ยืนฟังสองคนเพื่อน
สนิทคุยกันอยู่ข้างโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆเพราะเจ้าเด็กเหลือขอของเขาเปลี่ยน
ไปจริงๆจากที่เคยขี้อ้อนขี้งอนเขาอยู่หยกๆแต่ตอนนี้ไม่เหลือคราบพวกนั้นอยู่
เลยแม้แต่น้อยใบหน้ามนที่ดูจริงจังเหมือนกำลังใช้หัวอย่างหนักแบบนั้นริม
ฝีปากบางที่เคยประดับยิ้มตอนนี้มันเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง....กำลัง
เครียดอยู่งั้นเหรอ...แต่ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าเวลาที่เจ้าเด็กเหลือขอ
เคลื่อนไหวไปตามเสียงเพลงมันชั่งเป็นภาพที่น่ามองไม่น้อยเลยทีเดียว
"ว้าว~ดูนั่นสิเอลวิน...ชั้นล่ะคิดภาพตอนที่รีไวล์เต้นแบบนั่นไม่ออกเลยแหะมันต้องเป็นภาพที่น่ามองที่สุดในสามโลกแน่ๆเลยว่ามั้ย!!!"
"หึหึ...นั่นสินะไปกันเถอะ
!!...เราเองก็ต้องไปซ้อมบ้างแล้วล่ะปล่อยให้เอเลนอยู่คนเดียวสักพักถ้าเรา
เข้าไปตอนนี้เด็กนั่นอาจจะลืมสิ่งที่กำลังคิดอยู่ก็ได้"
"นั่นสินะไปกันเถอะรีไวล์"
"พวกนายไปก่อน...เดี๋ยวชั้นตามไป"
เพื่อนสนิททั้งสองคนมองตากันก่อน
จะหลุดยิ้มกรุ่มกริ่มแต่ก็ไม่คิดจะขัดอะไรเพราะยิ่งเห็นแบบนี้แล้วมันก็ยิ่ง
ทำให้พวกเขามั่นใจในสิ่งที่พวกเขากำลังทำกันอยู่ตอนนี้
"ตามใจแล้วรีบตามไปล่ะ"
".......อืม"
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองร่างบาง
พักใหญ่กว่าจะปลีกตัวออกไป...เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างไปงั้นเจ้าตัวร้ายได้
หมดแรงกันพอดีทั้งเรื่องแบบนั้นอีกคงต้องอดทนสักระยะเพราะถ้ายังอยู่ในช่วง
ที่กำลังซ้อมอยู่แบบนี้คงต้องงดอะไรที่มันจะบั่นทอนกำลังของเจ้าเด็กนี่ ซะ
แล้ว...คิดได้แบบนั้นร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครก็เดินตรง
ดิ่งไปยังห้องครัวทันที
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"อ้าวหัวหน้ามีอะไรรึเปล่าค่ะ???"
เพทร่าสาวร่างเล็กนางฟ้าหนึ่ง
เดียวของหน่วยหันมาถามหัวหน้าของเธอด้วยท่าทางงุนงงก่อนที่กระดาษแผ่นเล็กใบ
หนึ่งจะถูกส่งมาให้เธอแล้วก็เดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"เอ๊ะ!!!....นี่มัน!!!!!"
หลังจากอ่านข้อความในกระดาษแล้ว
เธอจึงได้แต่ยิ้มให้กับความเป็นห่วงเป็นใยที่หัวหน้าของเธอมีต่อร่างโปร่ง
บางเมื่อรายการอาหารสำหรับมื้อเย็นและของวันพรุ่งนี้ของร่างบางถูกเขียนมา
ให้ด้วยลายมือที่อ่านง่ายแถมยังมีต่อท้ายด้วยว่า"แล้วพรุ่งนี้จะบอกอีก
ที"นี่คงหมายถึงสำหรับวันต่อไปเป็นแน่....เด็กคนนั้นจะรับรู้ได้มั้ยนะว่า
หัวหน้าของเธอเป็นห่วงตัวเองขนาดใหนเอาใจใส่มากมายเพียงใดเพราะตั้งแต่เธอ
เข้ามาสังกัดหน่วยสำรวจไม่เคยมีสักครั้งที่หัวหน้าของเธอจะทำแบบนี้กับใคร
ทุกคนได้รับสิทธิ์เท่าเทียมกันหมดไม่เว้นแม้แต่ตัวหัวหน้าเอง
"ขอให้รักกันนานๆนะค่ะหัวหน้า เอเลน"
บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วลงมือทำอาหารสำหรับทุกคนในหน่วยอีกครั้งโดยไม่ลืมสำหรับออเดอร์ของคนพิเศษด้วยเช่นกัน
.
.
.
.
.
..
..
..
..
..
.
.
.
.
.
.........Tobecontinue............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น