Fic.Attack on titan [Levi x Eren]Last light at the blue End.
(แสงสุดท้ายที่ปลายฟ้า) : 01
:Fanfiction Attack on titan
:Drama Incent
:NC-18+
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ
ร่าง ที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่ดูแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินเข้าไปในร้านจิวเวอรี่เล็กๆ ที่เขาเคยมาแล้วเมื่อเดือนก่อนและทันทีที่พนักงานในร้านเจอหน้าเขาก็ รีบกระตือรือร้นเข้ามาต้อนรับราวกับเขาคือคนพิเศษ...ก็นะก็เขาเป็นคนพิเศษ จริงๆนั่นแหละเพระคงไม่มีใครเดินข้ามาสั่งกาแฟดื่มในร้านจิวเวอรี่แน่ๆ
"ยินดีต้อนรับค่ะ...วันนี้มารับของใช่มั้ยคะ?"
ใบหน้าคมหล่อเหลาทำเพียงพยักหน้า ให้กับพนักงานสาวเท่านั้นก่อนจะเดินไปนั่งบนเก้าอี้สูงสายตาพรางก้มลงไปมอง เพชรน้ำงามมากมายที่แข่งกันอวดโฉมให้ลูกค้าหลายคนตาโตเป็นไข่ห่าน...แต่ไม่ ใช่เขาแน่นอนเพราะเขาไม่เคยคิดจะสนใจของสิ้นเปลืองพวกนี้เลยสักนิดแต่ที่ ต้องเข้ามานั่นก็เพราะเจ้าเด็กเซ่อคนนั้นตะหาก..
"ของที่สั่งทำไว้ได้แล้วค่ะ...รบกวนตรวจสอบสินค้าก่อนนะคะ"
เสียงหวานๆจนรู้สึกแสบคอของ พนักงานสาวทำให้นัยน์ตาคคู่คมละความสนใจจากเพชรน้ำงามไปสนใจกล่องกำมะหยี่สี ดำเล็กๆตรงหน้าก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดดู..แหวนเพชรวงเล็กๆที่กลมเกลี้ยงไม่ ได้สลักลวดลายใดๆประดับด้วยเพชรน้ำงามเพียงไม่กี่กะรัตแต่ถึงจะเรียบง่ายแต่ กลับดูหรูหราตามสไตล์คนสั่งทำ...ริมฝีปากคมหยักยิ้มบางๆเมื่อนึกถึงหน้าคน สวมภาพใบหน้าสวยๆที่เปื้อนยิ้มจนแก้มใสๆแทบจะปริออกลอยเข้ามาในหัวให้คนที่ กำลังมีความรักจนล้นใจได้แต่เผลอยิ้มจนพนักงานในร้านชักจะอิจฉาคนที่จะได้ สวมมันขึ้นมาตะหงิดๆ...มือหนายื่นบัตรเครดิตให้กับคนที่ยืนมองตาเป็นประกาย อยู่อีกฝั่งของเคาน์เตอร์ไม่นานบิลเล็กๆที่มีตัวเลขกว่าเจ็ดหลักก็ถูกยื่นมา ตรงหน้าพร้อมกับปากกามือหนาหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นต์อะไรบางอย่างลงไปอย่างไม่ คิดจะสนใจตรวจดูรายการในบิลเลยสักนิดนี่ถ้าหากเค้าคิดราคาทั้งร้านก็คงหมดไป หลายตังส์เลยทีเดียวก่อนจะเก็บเจ้ากล่องกำมะหยี่สีดำเอาไว้ในกระเป๋าด้านใน ของสูทสีเข้มแล้วเดินออกจากร้านไป
"ขอบคุณที่ใช้บริการโอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ"
เสียงแจ้วๆหวานจ๋อยของพนักงานสาว ในร้านทำเอาชายหนุ่มถึงกับหัวเราะในใจกับคำพูดของพวกเธอ...หึหึ...ใครเค้าจะ อยากแต่งงานเป็นครั้งที่สองกันยัยบ้า!!..แต่ก็นั่นแหละเขาก็ทำได้แค่คิดขืน พูดออกไปจริงๆภาพพจน์เขาคงพังย่อยยับอยู่ตรงนี้แหงแซะ
R R R R~~
มือหนารีบคว้ามือถือขึ้นมาโดยไม่คิดจะปล่อยให้มันดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม
"ครับท่าน!!"
"รับคนเหรอครับ?"
"ส่งมาทางเมล์นะครับ"
"ทราบแล้วครับท่าน..ขอบคุณครับ"
มือถือถูกยัดเข้าไปในกระเป๋า กางเกงอีกครั้งก่อนที่ขาแข็งแรงจะก้าวฉับๆไปที่รถของตัวเอง...นัยน์ตาสีขี้ เถ้ามองที่จอ LED ด้วยแววตาที่นิ่งสนิทไม่นานภาพของใครบางคนก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับข้อมูลส่วนตัว ที่ละเอียดยิบบอกแม้กระทั้งความเกรียนตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัยกันเลยทีเดียว ริมฝีปากคมได้แต่เหยียดยิ้มเย้ยหยันให้กับความเกรียนแตกของอีกฝ่ายเพราะมัน เขียนเอาไว้ว่า...เคยยัดหนอนผีเสื้อใส่ในหน้าอกของเพื่อนสาวที่คบกันจนเธอ ให้พี่ชายมาเล่นงานซะอ้วม...หึ..ชั่งเป็นคนที่น่ารังเกียจสิ้นดีแกล้งได้แม้ กระทั่งผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าแฟนตัวเองแบบนี้
"อย่าได้คิดจะมาเกรียนแตกใส่ชั้นเชียว เอลวิน สมิธ"
นัยน์ตาคู่คมจ้องมองใบหน้าของคน ที่จะมาเป็นคู่หูของตัวเองอีกครั้ง...เอลวิน สมิธ..ตำรวจสากลที่ทำคดีของผู้ก่อการร้ายข้ามชาติผู้ชายที่ไม่ได้มีดีแค่ ชื่อแต่ฝีมือก็นับว่าหาตัวจับยากถึงแม้นิสัยไม่สิต้องเรียกว่าสันดานถึงจะ ถูกจะแย่เข้าขั้นวิกฤตแต่ก็อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าฝีมือการทำงานของไอ้หมอ นี่มันหาตัวจับยาก...และนี่มันก็เป็นอีกงานหนึ่งของเขา...สายลับของหน่วย ข่าวกรองงานที่ต้องเสี่ยงชีวิตในทุกวินาทีที่ก้าวขาออกจากบ้านเพราะฉะนั้น ทุกอย่างของเขาจึงเป็นความลับที่แม้แต่ร่างบางเองก็รู้เพียงแค่ว่าเขาทำงาน เป็นเลขาของบริษัทการเงินชื่อดังของประเทศนี้เท่านั้นแต่เพราะเจ้าเด็กเซ่อ ไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากถามเรื่องงานของเขามันเลยทำให้เขาไม่ต้องลำบากใจหาคำ แก้ตัวแย่ๆให้ยุ่งยาก..ริมฝีปากคมหยักยิ้มอีกครั้งจะว่าไปก็แทบจะทุกครั้ง ที่นึกถึงใบหน้าสวยๆที่ประดับรอยยิ้มพิมพ์ใจตลอดเวลา...รอยยิ้มที่ทำให้เขา ยอมสิโรราบอย่างไร้ข้อโต้แย้งใดๆ...มือหนายกขึ้นมาทาบอกด้านซ้ายของตัวเอง ข้างที่มีกล่องกำมะหยี่เล็กๆอยู่ทาบอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะวางมือลงบนพวง มาลัย
Jeep Grand Cherokee สีดำวาววับเคลื่อนตัวออกไปตามเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติของชิน่า ตามคำสั่งด่วนของท่านรัฐมนตรีทันทีแต่เพราะเป็นชั่วโมงเร่งด่วนถนนสายหลัก จึงคราคร่ำไปด้วยรถมากมายติดเป็นทิวแถวอย่างน่าหงุดหงิดเพราะถ้าหากเป็นแบบ นี้เขามีหวังต้องผิดนัดกับใบหน้ามนอีกเป็นแน่ทั้งๆที่วันนี้มันเป็นวันพิเศษ ของร่างบางและเขาเองก็เตรียมของขวัญชิ้นพิเศษเอาไว้ด้วยเช่นกัน
"ชิร์!!..."
เสียงสบถออกมาอย่างหงุดหงิดกว่า ครั้งใหนๆก่อนสายตาคู่คมจะสอดส่ายมองหาช่องทางที่ตัวเองจะสามารถหลบเลี่ยงไป ได้บ้างแล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับช่องทางกลับรถที่ห่างออกไปไม่กี่เมตรแต่ เชื่อเถอะว่ากว่าจะไปถึงตรงนั้นได้มันก็ต้องใช้เวลากว่าสิบนาทีแน่ๆทั้งๆที่ ห่างไปไม่กี่เมตร...อดทนไว้รีไวล์อดทนไว้...อีกแค่นี้เดียวเท่านั้น!!..... และเพียงแค่ไปถึงที่หมายมือหนาก็หมุนพวงมาลัยไปด้านขวาจนสุด
ปริ้นๆๆๆๆๆ!!!!!!!!
เสียงบีบแตรจากรถที่สวนมาดังลั่น พร้อมกับหักหลบเป็นพัลวันไปตลอดทางที่ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่มากมายขับรถฝ่า ไป...เปล่าไม่ใช่เพราะพวกเขาขับมาผิดเลนแต่เป็นเพราะ Jeep Grand Cherokee สีดำทมึนคันนี้ต่างหากที่เป็นคนสวนเลนไปเพราะฝั่งตรงข้ามมันโล่งกว่าจึง สามารถเหยียบคันเร่งได้ตามแต่ใจคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยและดูเหมือนรถข้าง หน้าจะไม่มีใครกล้าวิ่งเข้ามาขวางทางเมื่อไฟสูงจากJeep Grand Cherokee สาดส่องขับไล่ทุกคันที่บังอาจเข้ามาขวางเส้นทางพิเศษของมัน...แต่ดูท่าว่า อุปสักจะไม่หมดเพียงแค่นั้นเมื่อเสียงไซเรนดังามหลังมาติดๆ
"ชิร์...มีแต่พวกน่ารำคาญ!!"
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองกระจก มองข้างแล้วก็ต้องสบถออกมาอีกครั้งเมื่อด้านหลังมีรถสีขาวคาดแทบฟ้าและที่ ด้านหน้ามีคำว่า"POLICE"ตัวเท่าหม้อแกงติดอยู่ที่กระโปรงหน้าห้าคันตามหลัง มาติดๆแต่แทนที่จะลดความเร็วลงฝ่าเท้าหหนักๆกลับเหยียบคันเร่งจนมิดกระจก ข้างคนขับถูกเลื่อนลงเมื่อรถของตำรวจจราจรของเมือตีขึ้นมาขนาบข้างทั้งซ้าย ขวา....หึ...ตำรวจจราจรสมัยนี้มันขับ bugati กันเลยแหะแต่ก็อย่างว่านั่นแหละถ้ามัวขับรถกระป๋องก็ไม่มีทางตามพวกตีนผีทัน แน่ๆ....มือหนาหยิบกระเป๋าหนังสีดำใบเล็กขึ้นมาก่อนจะกางออกแล้วยืนออกไปที่ ด้านข้างไม่นานเสียงซ่าๆของวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้น bugati ขาวฟ้าที่เคยขนาบที่ด้านข้างก็แซงขึ้นหน้าไปพร้อมกับเปิดทางให้แต่โดยดี...หึเป็นเลขารัฐมนตรีมันก็ดีแบบนี้แหละ...
.
.
.
.
.
.
รถ ตำรวจจราจรที่นำหน้ามาทั้งสองคันจอดคู่กันที่ด้านหน้าของสนามบินนานาชาติชิ น่าก่อนที่หนึ่งในสองนายที่ขับนำหน้ามาจะวิ่งมาตะเบะให้กับชายหนุ่มที่ลด กระจกรออยู่แล้วและพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเสียงดังฟังชัดจนเขาอดที่จะขำ ในใจไม่ได้
"ขออภัยครับท่าน!!"
"อย่าใส่ใจ...ขอบใจมากที่เปิดทางให้"
"ไม่เป็นไรมิได้ครับ!!"
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่ดูแข็ง แกร่งยิ่งกว่าใครท้าวแขนกับกับขอบประตูฝั่งคนขับก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปาก เหมือนคนกำลังใช้ความคิดมองรถตำรวจจราจรที่พากันทยอยกลับผ่านกระจกมองข้าง แต่เปล่าเลยเขาไม่ได้ใช้ความคิดอะไรทั้งนั้นแต่กำลังปกปิดรอยยิ้มขบขันของ ตัวเองเอาไว้เมื่อมันอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว...ถ้าพวกเค้ารู้ว่าที่เขารีบเพราะ เรื่องส่วนตัวพวกนั้นจะทำหน้ายังไงกันนะ??....
"เฮ้!!....นายรีไวล์สินะ?"
รอยยิ้มที่พึ่งจะเหยียดยิ้มได้สัก พักต้องหุบลงทันทีเมื่อเสียงทุ้มกังวานของใครบางคนเรียกชื่อของเขาอยู่อีก ฟากของรถ...ใบหน้าคมหล่อเหลาหันไปมองอย่างขัดใจใบหน้าที่พึ่งประดับรอยยิ้ม นิ่งสนิทขึ้นมาแทบจะทันทีเมื่อเห็นว่าเขาคนนั้นเป็นใคร...เอลวิน สมิธ...
"มาตรงเวลาดีนี่"
"จะขึ้นรถหรือจะพล่ามอยู่ตรงนั้น"
"หึหึ...ใจร้อนจริงคู่หู"
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ร่างสูงใหญ่ก็ก้าวขาเข้ามานั่งที่ข้างคนขับโดยที่ใบหน้ายังเปื้อนยิ้มอย่างเป็นกันเองจนน่าหมั่นใส้
"นายจองโรงแรมใหนไว้?"
"ยังเลยกะว่าจะค้างบ้านนายน่ะ..."
"ไม่มีทาง!!"
"แต่เป็นคำสั่งของท่านรัฐมนตรีนะขัดได้เหรอ?"
นัยน์ตาสีขี้เถ้าชำเรืองมองคน ข้างๆอย่างนึกหมั่นใส้เต็มทีกับความอวดดีที่กล้าขอท่านรัฐมนตรีมาค้างกับเขา พรางเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่หน้ารถถ้าขืนเขามัวชักช้ามากไปกว่านี้มีหวัง ผิดนัดเจ้าเด็กเซ่อเป็นแน่อาหารฝีมือของเจ้าตัวร้ายคงต้องลงไปนอนกองอยู่ใน ถังขยะอีกแน่นอน....แต่แล้วทุกความคิดต้องหยุดลงเมื่อมือถือของเขาดังขึ้น
R R RRR~
"นั่นไงมาพอดี!!....หึหึ"
คนที่คอยตอกย้ำก็ยังทำหน้าระรื่นให้อยากจะชัดกำปั้นใส่ปากดีๆนั่นสักมัด
"ครับท่าน"
"...แค่คืนนี้นะครับ"
"ครับ"
"ครับท่าน...สวัสดีครับ"
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่ดูแข็ง แกร่งยิ่งกว่าใครถอนหายใจอย่างหน่ายๆหลังจากวางสายก่อนจะกดมือถือโทรออกไป อีกครั้งแต่ไม่ใช่ท่านรัฐมนตรีกลับเป็นร่างบางที่รออยู่ที่บ้าน
[ครับคุณรีไวล์]
"ขอโทษนะ...ไอ้เด็กเหลือขอ"
[ทำไมครับ...มาไม่ได้เหรอ??...]
เสียงจากปลายสายดูอ่อยลงทันทีจนคนที่โทรไปหาแก้ตัวแทบจะไม่ทัน
"ไม่ใช่แบบนั้น...แค่อาจจะช้านิดหน่อย..รอชั้นนะ"
[งั้นเหรอครับ..ตกใจหมดแล้วนะครับนึกว่าจะมาไม่ได้ซะอีก]
"ต้องไปอยู่แล้ววันสำคัญของนายนี่ชั้นจะผิดนัดได้ไง...."
[ดีใจนะครับที่คุณคิดแบบนั้น...อีกนานมั้ยครับกว่าจะถึงผมจะได้จัดโต๊ะรอ]
"อีกชั่วโมงหนึ่ง"
[งั้นผมไปเตรียมอาหารก่อนนะครับ]
"เดี๋ยวเอเลน...."
[ครับ!!]
นัยน์ตาสีขี้เถ้าชำเรืองมองคน ข้างๆอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปอย่างที่คนข้างๆฟังดูก็รู้ว่าเจ้าของ บ้านไม่ค่อยจะเต็มใจบอกปลายสายสักเท่าไหร่
[คุณรีไวล์...ทำไมเงียบล่ะครับ?]
"ไม่มีอะไรแค่.......เตรียมเผื่อเพื่อนชั้นที่หนึ่งได้รึเปล่าแต่ถ้านายไม่...."
[ได้สิครับดีใจจังไม่คิดว่าคุณรีไวล์จะชวนเพื่อนมาด้วย..งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ..อ๊ะคุณรีไวล์ครับ!!!]
"อืม"
[งั้นผมชวนอาร์มินด้วยได้มั้ยครับ??]
"ได้สิอยากชวนใครอีกก็ตามใจไม่ต้องขอชั้นเข้าใจมั้ย?"
[ขอบคุณครับแต่แค่อาร์มินคนเดียวก็พอแล้วล่ะครับ...งั้นบั้ยบายนะครับแล้วเจอกัน]
"อืม...แล้วเจอกัน"
ริมฝีปากคมเผลอหยักยิ้มออกมาอย่าง ลืมตัวเมื่อได้ยินน้ำเสียงใสๆที่ดูตื่นเต้นดีใจจนอยากจะเห็นสีหน้าแบบนั้นซะ แล้วแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นแต่ต่อให้เห็นมันอีกสักกี่ครั้งมันก็ไม่เคย เบื่อเลยจริงๆ
"วันเกิดแฟนนายเหรอดีใจจังที่ได้เป็นแขกรับเชิญขอบคุณนะ..."
"เอากองไว้ตรงนั้นแหละชั้นไม่ต้องการ"
"โฮ่...ใจร้ายไม่เหมือนหน้าตานายเลยนะ...คู่หู"
"อย่าเรียกชั้นแบบนั้นต่อหน้าเอเลนกับเพื่อนของเค้า...นายเป็นแค่โบรคเกอร์เท่านั้น"
"ทราบแล้วครับคุณเลขา"
ชายหนุมได้แต่หันไปมองคนข้างๆด้วยสายตาเหยียดๆแต่ก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกไปเพราะต่อให้ด่าหรือว่าอะไรคนๆนี้ก็คงไม่คิดจะสำนึก
.
.
.
.
.
.
.
ติ๊งต๊อง!!!
"อาร์มินเปิดประตูให้ที่ฉันเอาไก่อบออกจากไมโครเวฟแป๊บนึ่ง!!"
"ได้ครับเอเลน!!"
เด็กหนุ่มร่างเล็กรือนผมสีทอง สว่างวางโถสลัดเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะวิ่งไปที่ประตูตามที่เพื่อนของตนวานแต่ ทันทีที่เปิดประตูออกไปเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
"สวัสดีครับคุณรีวะอ๊ะ!!!!"
"หวัดดีเอเลนสุขสันต์วันเกิดฉันเอลวิน สมิธยินดีที่รู้จัก"
ร่างสูงใหญ่ที่เดินขึ้นมาก่อนเจ้า ของบ้านตัวจริงโผเข้ากอดร่างเล็กตรงหน้าทันทีทั้งๆที่มือยังถือขวดไวท์และดู เหมือนมันจะไม่ใช่แค่กอดเมื่อริมฝีปากเจ้ากรรมยังกดจูบไปทั่วใบหน้า หวานอย่างไม่คิดจะเกรงใจเลยสักนิดทำเอาร่างเล็กถึงกับอ้าปากค้างด้วยความ ตกใจอยู่หลายวินาทีกว่าจะเรียกสติกลับมาได้
"อ๊ะ!!...ปล่อยผมนะคุณทำบ้าอะไรเนี้ย!!!"
"หื๋อ!!..ตัวนายหอมมากเลยนะเนี้ยขอหอมอีกทีนะ"
"ห๊ะ!!!..หยุดนะอีตาบ้า...ไอ้คนโรคจิตปล่อยผมเดี๋ยวนี้เล้ย!!!"
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านที่เดินตามมา ด้านหลังคว้าคอเสื้อของคนที่ตีเนียนกอดเพื่อนของร่างบางจนเซถลาไปด้านหลัง อย่างไม่กลัวว่าอีกคนจะเจ็บแม้แต่น้อย
"อย่ามาทำรุ่มร่ามในบ้านของชั้น!!!"
"อาร์มินเกิดอะไรขึ้นฉันได้ยินเสียงนายร้อง!!??"
"คุณรีไวล์เกิดอะไรขึ้นครับ!!??"
ร่างเล็กเรือนผมสีทองสว่างถอยกรู ไปเกาะแขนเพื่อนของตัวเองเอาไว้แน่นใบหน้าสวยหวานมีแววตกใจระคนโกรธเกรี้ยว นัยน์ตาสีฟ้าครามจ้องมองร่างสูงใหญ่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่อีกฝ่ายทำ เพียงแค่เกาหัวแคร่กๆอีกทั้งยังหัวเราะร่วนโดยไมเคิดจะขอโทษเลยสักคำ
"ฮ่ะฮ่ะ...ผิดคนหรอกเหรอว่าแต่นายชื่ออาร์มินใช่มั้ยตัวนายหอมมากเลยล่ะขอฉันกอดอีกทีได้รึเปล่า??"
"นี่มันเรื่องอะไรกันครับ??"
ใบหน้ามนได้แต่มองหน้าทั้งสามคนวน ไปมาอย่างไม่เข้าใจจนชายหนุ่มต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยให้ไม่งั้นคงได้ยืนทะเลาะ กันอยู่ที่หน้าประตูทั้งคืนแน่เมื่อดูท่าร่างบางเองก็เริ่มจะชักสีหน้าไม่พอ ใจเข้าให้แล้ว
"ไม่มีอะไรหรอกแค่เอลวินเค้าเข้าใจผิดน่ะ"
"คนนี้เอลวินเพื่อนของชั้นเเอง"
"สุขสันต์วันเกิดอีกครั้งนะเอเลนใช่มั้ย...เมื่อกี้ทักผิดคนไปหน่อย"
"ไม่หน่อยนะครับแถมยังไม่คิดจะขอโทษอีก!!"
"อ้าวนี่ฉันลืมขอโทษนายเหรอ?...งั้นโทษทีนะอาร์มินใช่มั้ยยินดีที่รู้จัก"
"ลืมๆมันไปซะเถอะ...เพื่อนชั้นลืมเอามารยาทตอนคลอดน่ะเข้าไปข้างในกันดีกว่า"
จบประโยคชายหนุ่มร่างสันทัดเจ้า ของบ้านเดินนำเข้าไปที่ห้องอาหารโดยมีเจ้าของวันเกิดกับเพื่อนเดินตามไปติดๆ ปล่อยให้ผู้มาใหม่ยืนยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดของชายหนุ่มเจ้าของ บ้านแต่สายตาที่จ้องมองไปยังร่างบางทั้งสองมันชั่งยากจะคาดเดาความหมายถ้า หากแม้ชายหนุ่มร่างสันทัดได้เห็นมันจะต้องรับรู้ได้แน่ๆว่าเขาคนนี้จะนำความ ยุ่งยากมาให้ในวันหน้าอย่างแน่นอน
"อา...พูดได้ดีจริงๆแล้วอีกอย่างฉันไม่ได้ลืมหรอกแต่ตั้งใจน่ะ"
ริมฝีปากหนาได้รูปหยักยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินตามหลังคนทั้งสามไป...เพราะยังไงเขาก็ยังต้องมีบทบาทให้ได้ร่วม เล่นอยู่ด้วยแต่ดูท่าว่างานนี้คงจะยาวกว่าที่เขาคิดไว้ซะแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
"คุณเอลวินทำงานแบบใหนเหรอครับ??"
เป็นเจ้าของวันเกิดที่เปิดประเด็น สนทนาบนโต๊ะอาหารหลังจากที่ทุกคนเอาแต่เงียบเพราะคุณรีไวล์ของตนก็เอาแต่ นั่งท้าวแขนกับเก้าอี้ละเลียดไวท์จ้องเพื่อนร่างสูงใหญ่ของตัวเองราวกับ กำลังคุมความประพฤติส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอกำลังจ้องตากับเพื่อนร่างเล็กของเขา ที่ไม่ยอมหลบตาง่ายๆอยู่ด้วยเช่นกันเพราะถึงแม้ว่าอาร์มินจะดูเป็นคนเรียบ ร้อยนิสัยดีและดูอ่อนแอแต่นั่นมันก็แค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ทุกคนได้เห็นแต่ ความจริงแล้วเพื่อนของเขาคนนี้ทั้งฉลาดเจ้าเล่ห์และไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ เหมือนอย่างตอนนี้ถึงแม้รูปร่างจะผอมบางใช้กำลังต่อสู้ไม่ได้แต่เชื่อเถอะ ว่าในหัวสีทองสว่างนั่นกำลังประมวลผลหาวิธีที่จะสยบเพื่อนร่างสูงใหญ่ให้ได้ อยู่เป็นแน่แต่ก็ดูเหมือนว่าคุณเอลวินเองก็ใช่ว่าจะย่อยเสียเมื่อ ไหร่....เป็นคนแบบใหนกันแน่นะเพื่อนของคุณรีไวล์คนนี้
"เอ่อ...คุณเอลวินครับ!!"
"อ๊ะ!!!...โทษทีพอดีฉันชักจะหลงเสน่ห์เพื่อนเธอเข้าแล้วล่ะ...เมื่อกี้เธอถามว่าไงนะ??..ฮะฮะ"
"เอเลนถามว่าคุณทำงานอะไร??....นอกจากสมองจะกลวงแล้วหูยังตึงอีกเหรอครับ?"
"อาร์มิน...แรงไปแล้วนะ!!"
"ชั่งเถอะเอเลน..อาร์มินพูดถูกแล้วล่ะ"
"คุณรีไวล์~"
"อ่า...ไม่เป็นไรหรอกเอเลนพอดีว่าฉันกำลังหูหนวกตาบอดสมองไม่ทำงานจริงๆนั่นแหละเพราะตอนนี้ฉันกำลังตกหลุมรักเพื่อนของเธอซะแล้วล่ะ."
"งี่เง่า!!"
"ถ้างี่เง่าเพราะรักเธอน่ะใช่แล้วล่ะ..ฮะฮะ"
"เมื่อกี้ถามว่าฉันทำงานอะไรใช่มั้ย?"
"ฉันเป็นโบรกเกอร์น่ะที่ตลาดหุ้นในอเมริการู้จักกันรึเปล่า?"
"งั้นเหรอครับ...แต่ผมไม้รู้จักหรอกนะครับ..ฮะฮะ"
"หน้าตาแบบคุณไม่น่าจะมีคนกล้าให้คุณดูแลทรัพย์สินเลยนะครับ"
อาร์มินพูดแทรกขึ้นหนำซ้ำดวงตาสีฟ้าครามยังจ้องมองคนที่อยู่ตรงข้ามอย่าง
เหยียดๆซึ่งเจ้าตัวเองก็ใช่ว่าจะหลบแถมจ้องมองร่างเล็กตอบด้วยสายตาแทะโลมลวนลามทางสายตาซะจนออกนอกหน้าจนออกจะน่าเกลียดด้วยซ้ำ
"แหมเค้าไม่ได้มองกันที่หน้าตาหรอกนะ...แต่เค้ามองกันที่ฝีมือกับจิตใจน่ะ"
"จะอะไรคุณก็ไม่น่าไว้ใจทั้งนั้นแหละครับ"
"นายก็ลองมองฉันใหม่สิ...แล้วนายจะรู้ว่าฉันมีดีตรงใหน"
"ขอผ่านครับผมไม่มีรสนิยมแบบนั้น"
"ฮะฮะ...ถึงนายจะพูดแบบนั้นแต่ฉันรู้นะว่านายเองก็สนใจฉันเหมือนกันน่ะ"
"หลงตัวเองเกินไปล่ะมั้งครับ"
ใบหน้ามนไปแต่ยิ้มเจื่อนๆมองหน้า คนรักของตัวเองที่ดูจะสะใจเล็กๆยังไงชอบกลที่เพื่อนตัวเองถูกอาร์มินดักคอ ได้ทุกคำพูดแต่อย่างคุณเอลวินก็ไหลลื่นไปได้เรื่อยๆไม่มีสะดุดเลยแม้แต่ น้อย.นี่คุณรีไวล์คบกับคนๆนี้จริงๆน่ะเหรอตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาสามปีไม่เคย เห็นคุณรีไวล์พาเพื่อนมาบ้านสักคนหรือแม้แต่จะพูดถึง..
.
.
.
.
.
.
"ฉันกลับก่อนก็แล้วกันดึกมากแล้ว"
"ขอบใจที่อยู่ช่วยเคลียขยะพวกนี้นะอาร์มินเดี๋ยวฉันไปส่งนายก็แล้วกัน"
"ให้ฉันไปส่งเพื่อนเธอก็แล้วกันเอเลนดึกมากแล้วนายสองคนเดินไปกันตามลำพังมันไม่ปลอดภัยนะ"
"ผมว่าผมกลับเองดีกว่าไปกับคุณอีกนะครับ"
"ให้เอลวินไปส่งเถอะทางมันเปลี่ยวถ้าเค้ากล้าแตะต้องตัวนายก็ให้โทรหาชั้นทันทีชั้นจะฆ่าเค้าให้เอง"
"ขอบคุณครับคุณรีไวล์"
ใบหน้าสวยหวานหันไปมองค้อนคนที่ยืนยิ้มสุดแสนจะดูจริงใจอยู่ข้างๆก่อนจะหันหลังเดินลงบันไดไปโดยไม่คิดจะรอคนไปส่งเลยสักนิด
"เฮ้!!...ใจร้ายจังชวนฉันบ้างสิฉันอาสาไปส่งนายนะ...ที่รัก!!!"
"อย่ามาเรียกผมแบบนั้นนะ!!!"
ร่าง โปร่งบางได้แต่ยืนถอนหายใจยาวๆมองตามหลังเพื่อนสนิทร่างเล็กไปจนลับตาแต่ เสียงที่ยังต่อล้อต่อเถียงยังแว่วมาให้ได้ยินอยู่ไกลๆจนอดที่จะเป็นห่วงไม่ ได้
"เฮ้อ~...จะรอดมั้ยล่ะนั่น?"
"ไม่ต้องห่วงอาร์มินหรอกนะ...เป็นห่วงตัวเองดีกว่า!!"
"อ๊ะ!!!"
จบประโยคร่างทั้งร่างก็ถูกผลักให้ ติดกับประตูก่อนที่ใบหน้าคมหล่อเหลาจะซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอระหงจนคนที่ไม่ทัน ได้ตั้งตัวถึงกับตกอกตกใจผลักใสแผงอกแกร่งอย่างลืมตัว
"ฮะฮะ...เดี๋ยวสิครับตรงนั้นมันจั๊กจี้นะครับ!!.."
"ไม่เย็นหรอก...รู้รึเปล่าว่าชั้นต้องอดทนขนาดใหนกว่าสองคนนั่นจะไปได้"
"แต่ตอนนี้ตัวผมมีแต่กลิ่นเครื่องเทศนะครับสกปรกออก...ขออาบน้ำก่อนนะครับ"
"ไม่...ตัวนายหอมจนชั้นทนไม่ไหวแล้วไอ้เด็กเหลือขอ"
ถึงแม้จะพูดแบบใหนก็ดูเหมือนมันจะ ไม่ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจได้เลยริมฝีปากบางจึงได้แต่คลี่ยิ้มแล้วปล่อยให้ อีกคนทำตามแต่ใจจะปรารถนาเพราะยังไงซะตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างไปจากคน ตรงหน้าเลยสักนิด
....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.....Tobecontinue...........
มาแล้วเจ้าค่ะ มาต่อให้อีกตอนแล้วนะก๊าาสำหรับเรื่องนี้แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะก๊าว่าคาเรคเตอร์มันไม่ตรงกับตัวหรอกนะจะบอกให้
ต้อง ขอขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านด้วยนะก๊าที่ติดตามผลงานของ isayaaพอเห็นยอด viewsแล้วมันชื๊นจ๊ายชื่นจายอิอิ//ถึงจะไม่มี....ก็ตามฮะฮะฮะ//
แต่ข้าพเจ้าดีใจจริงๆนะที่มีคนติดตามผลงานเวิ่นเว้อร์ไหลไปตามแต่จะคิดได้ของ
เก๊าน่ะ//น้ำตาไหลพราก//ฮ่ะๆๆๆ
ขอบคุณอีกครั้งก๊าาา
แต่สำหรับสองเรื่องหลักข้าเจ้าขอพักยกไว้แป๊ปนะคะ
ขอทำเรื่องนี้ให้จบก่อนคาดว่าไม่น่าจะเกินห้าตอน
กะว่าจะให้จบสิ้นเดือนนี้แหละค่ะ
(แต่ถ้าไม่ชอบใจอยากอ่านเรื่องใหนก่อนก็ทิ้งเม้นไว้ได้นะค่ะเค้าจะพยายามปั่นให้)
เพราะบางครั้งอารมณ์คนเขียนกับคนอ่านมันสวนทาง ฮิฮิ
อ้อลืมไปขอบคุณสำหรับคนที่ฝากเม้นให้อ่านนะค่ะมันเป็นแรงบันดาลใจของเก๊า
แต่ ถ้าเจอคำที่มันไม่ถูกต้องหรืออ่านแล้วไม่เข้าใจก็ฝากบอกด้วยนะก๊าถึงแม้เค้า จะใช้ภาษาไม่ถูกต้องแต่ในเนื้อเรื่องเค้าก็อยากจะให้มันถูกหลักไวยากรณ์อ่ะ
ฮ่าๆๆๆ มันนี้มันพล่ามอะไรนักหนาฟ๊ะไปแระขออภัยนะค่ะพล่ามยาวไปหน่อย
สุดท้ายแระเอารูปรถของเฮียท่อนขามาให้ดูนะก๊า
มันชื่อว่าJeep Grand Cherokee(จี๊ปแกรนด์เชโรกี้)
ที่ เรามักจะเห็นในหนังที่พนักงานของรัฐใช้กันแต่ไม่ใช่แค่จี๊ปหรอกนะค่ะเป็นเชฟ โรเล็ทบาง Land Lover บ้างออดี้บ้างแล้วแต่ผู้กำกับนั่นแหละ
อีกมุมค่ะจริงๆข้าเจ้าก็อ่ะนะฮ่ะๆๆๆราคาเนาะๆก็สามล้านห้าแต่ถ้า
ตกแต่งอุปกรณ์กับกระบบกันกระสุนอย่างของเฮห์โจวก็ราวๆหลักสิบล้านได้แหละ
ลอง
จินตนาการภาพเฮห์โจวนั่งที่เบาะคนขับดูนะก๊าคนหล่อๆขับรถเท่ๆมันใช่มากเลย
ล่ะฮิฮิข้าเจ้าน่ะนั่งนึกภาพไปเขียนไปแล้วยิ้มจนแก้มปริเล้ยขอบอก
เอ้าอีกสักรูปคันนี้สีขาว(ที่ข้าเจ้าชอบฮะฮะ)
อ้าวแล้วคันนี้มันมาไง??
(มัน
คือChevrolet Ultimate Sonic RS จากTrans former4
ก๊าว่าจะให้เฮห์โจวขับก่อนหนังออกซะหน่อยแต่มันไม่คอยเข้ากับคาเรคเตอร์เฮีย
สักเท่าไหร่)
พอ
แระยิ่งเห็นมันก็ยิ่งกร๊าววใจเพระข้าเจ้าเป็นแฟน Transformer
นาะก๊าาเห็นแล้วมันคิดถึงเดี๋ยวกลับไปดูตั้งแต่ภาคหนึ่งถึงภาคสามอีกเดี๋ยว
ฟิคมันจะไมไปถึงใหน
แล้วเจอกันวันอังคารหน้านะก๊าะ...ตอนดึกๆสักเที่ยงคืนตีหนึ่งไรงี้อิอิ
บั้ยบายค๊าาา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น