5 พ.ค. 2557

[KHR] S.Fic[HBD Hibari Kyoya D18] Niji no omoide : 01

[KHR] S.Fic[HBD Hibari kyoya D18] Niji no omoide : 01

:Fanfiction [KHR]D18

:Romantic

:NC-18+



HBD HIBARI KYOYA 5-MAY



 คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ















                       

เสียงเพลงเบาๆขับกล่อมผู้คนจำนวนหนึ่งในบาร์เล็กๆที่เป็นพื้นที่เฉพาะที่ประดับไปด้วยแสงสีม่วงอำพันน่าหลงไหล...ใช่มันเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับผู้ที่มีจิตใจแบบเดียวกันได้มาพบปะสังสรรกันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองก่อนจะกลับไปสวมหน้ากากบนโลกที่เต็มไปด้วยการเสแสร้งอีกครั้ง

สองขาเรียวยาวของร่างโปร่งบางก้าวเข้ามาในร้านก่อนที่สายตาคู่คมจะกวาดมองไปรอบๆเพื่อมองหามุมสงบๆให้ตัวเองได้ใช้สำหรับพักใจก่อนจะตรงเข้าไปโต๊ะตัวในสุดที่มีผนังกั้นเอาไว้แล้วสั่งเครื่องดื่มแรงๆเอามาย้อมใจ....ใบหน้าเรียวได้รูปแหงนขึ้นมองแสงไฟสีอำพันที่กำลังกระพริบวิ๊ววับอยู่บนเพดาน อย่างเลื่อนลอยไม่เคยคาดคิดว่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในมินาโมริอย่างเขาจะถูกเจ้าสัตว์กินแพลงก์ตอนตัวเล็กๆมาหักอกแบบนี้
มือเรียวยกแก้วน้ำสีขาวใสแต่กลิ่นแรงซะจนบางคนต้องปิดจมูกขึ้นดื่มโดยไม่คิดจะสนใจเจ้ามะนาวผ่าซีกกับเกลือที่เอาไว้ทานคู่กันเลยสักนิดร่างสูงโปร่งค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆหวนนึกถึงความหลังที่เพิ่งจะผ่านมาไม่กี่วันแล้วใบหน้าน่ารักเรือนผมสีน้ำตาลฟูฟ่องน่าสัมผัสก็ลอยเข้ามาในหัวใบหน้าที่ดูอึดอัดทำตัวไม่ถูกเหมือนกำลังจะร้องไห้ตอนที่เขาสารภาพรักแต่ถึงจะกลัวเขามากขนาดนั้นแต่เจ้าสัตว์กิน
แพลงก์ตอนก็ยังรวบรวมความกล้าปฏิเสธเขาออกมาด้วยเหตุผลที่ว่ามีคนที่ตนรักอยู่แล้ว...หึชั่งน่าขำสิ้นดี....นั่นมันเป็นคำพูดที่เขาพึ่งจะพูดกับอีกคนไปไม่ใช่รึไง

"ซาวาดะ สึนะโยชิ..อ่า~"

ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่อกแบบนี้สินะที่เรียกว่าอกหักน่ะทั้งๆที่เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครต่อให้สู้รบจนมีบาดแผลมากขนาดใหนเขาก็ไม่เคยรู้สึกแต่กับแค่คำพูดเพียงไม่กี่คำของคนที่เขาหลงรักมันกลับสร้างความเจ็บปวดจนแทบหัวใจของเขาจวนเจียนจะแตกสลายแบบนี้

"หึ..นี้สินะความรู้สึกของนาย โกคุเดระ ฮายาโตะ...ชั้นขอโทษก็แล้วกันกรรมมันตามสนองชั้นเข้าให้แล้ว...หึหึ"

มือเรียวยังคงรินเจ้าน้ำสีใสกลิ่นฉุนที่ว่ากันว่าเป็นเหล้าที่แรงอันดับต้นๆของโลกดื่มแก้วแล้วแก้วเล่าในมุมอับที่คิดว่ามันมีความเป็นส่วนตัวที่สุดของบาร์แห่งนี้....แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดเมื่อชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ไซส์ฝรั่งยืนทำหน้าทมึนอยู่ตรงหน้าพร้อมๆกับพรรคพวกอีกสองสามหรือเยอะกว่านั้นก็ไม่แน่ใจ

"ตรงนี้มันที่ประจำของพวกชั้นแก!!!!...ไสหัวไปซะ!!!"

".....ชั้นไม่ยักกะเห็นว่ามีชื่อหรือว่ารูปของแกแปะอยู่ว่ะหรือว่า....ติดอยู่ที่เท้าชั้น??"

สองขาเรียวยกขึ้นพาดเอาไว้บนโต๊ะเหมือนกำลังบอกว้ามันไม่เห็นมีชื่อแกและนั่นมันก็ดันไปยั่วต่อมโมโหของอีกฝ่ายเข้าอย่างจังชายร่างสูงใหญ่ตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของร่างโปร่งบางขึ้นมาทันทีพร้อมกับมือหยาบกร้านที่บีบกรามของร่างโปร่งบางเอียงซ้ายทีขวาทีเหมือนกำลังสำรวจก่อนจะแสยะยิ้มพอใจ

"ปากดีนักนะแก....รึว่าอยากจะเป็นนางบำเรอให้ชั้นก็ไม่ว่ากัน...อืมม..ผิวเนียนใช้ได้นี่สายตาก็เข้าท่า...หยิ่งๆแบบนี้แหละชั้นชอบ...ฮ่าฮ่าฮะ...อุ๊ก!!!!"

พูดยังไม่ทันจบประโยคท่อนสีเงินแวววาวก็ฟาดเข้าที่หน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเต็มแรงก่อนจะฟาดซ้ำลงไปที่ท้ายทอยอีกครั้งจนชายหนุ่มร่างยักษ์ล้มคว่ำนอนตัวงอเป็นกุ้งอยู่กับพื้น

"ชั้นไม่มีรสนิยมวิตถารเหมือนแกไอ้สัตว์กินพืช!!

"แก๊!!!บังอาจทำร้ายหัวหน้าพวกเราจัดการมัน!!!!"

จบประโยคชายหนุ่มร่างยักษ์กว่าสิบคนก็รุมเข้าหาร่างโปร่งบางทันทีแล้วการต่อสู้ที่กลายเป็นยักษ์เกือบสิบห้าตนรุมเจ้าหญิงตัวเล็กๆเพียงคนเดียวก็เริ่มต้นขึ้นโดยมาสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ที่ชั้นบนของบาร์อย่างอารมณ์ดีเมื่อริมฝีปากคมได้รูปเหยียดยิ้มพอใจกับความกล้าหาญชาญชัยของเจ้าหญิงตัวน้อย

"ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีนะครับบอสแขกตื่นกันหมดแล้ว"

"ฮะฮะ...เดี๋ยวชั้นจะไปช่วยเจ้าหญิงตัวน้อยซะหน่อยก็แล้วกัน"

"ให้มุคุโร่จัดการสิครับ"

"ไม่ล่ะ...คนนี้ชั้นขอ...ดุๆแบบนี้สิมันค่อยมีสีสันขึ้นมาหน่อย"


ใบหน้าเรียวสวยได้รูปที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตสีชาติหอบหายใจหนักหน่วงก่อนที่มือเรียวจะยกขึ้นมาปาดเลือดอย่างไม่ใส่ใจ...นั้นก็เพราะมันไม่ใช่เลือดของตนสักหยด....สายตาคู่คมสีรัติกาลกวาดตามองชายหนุ่มร่างยักษ์ที่เหลือกว่าครึ่งด้วยสายตาที่เยือกเย็นไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าตอนนี้ตนจะเหนื่อยหอบกว่าที่เคยเป็นนั่นก็คงเพราะฤทธิ์ของเจ้าขวดที่ยังตั้งอยู่ดีบนโต๊ะนั่นแหละ...แต่แค่นี้ยังสู้ได้สบายอยู่แล้ว

"เข้ามา!!!...ชั้นจะขย้ำพวกแกให้ตาย!!"

เพียงแค่นั้นยักษ์ทั้งหกตนก็รุมเข้าไปทุกทิศทุกทางทอนฟาสีเงินวาววับตวัดกวัดแกว่งเข้าใส่อย่างไม่คิดจะเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อยและด้วยพลังที่มีมหาศาลของเหล่ายักษาแรงเหวี่ยงแรงกระแทกจึงทำให้ข้าวของเครื่องใช้ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะเก้าอี้หรือแม้แต่ฉากกั้นก็ถูกพวกมันยกเขวี้ยงใส่ร่างโปร่งบางสะจนทั้งบาร์เละตุ้มเปะไม่มีชิ้นดีทอนฟาสีเงินในมือจึงทำงานอย่างหนักเมื่อทั้งปัดป้องสิ่งของและหมัดของพวกที่เหลือแต่เพราะมันรุมเข้ามาจากหลายทิศทางร่างโปร่งบางจึงไม่สามารถหลบโต๊ะตัวเขื่องที่ลอยมาจากหลายทิศทางสองแขนยกขึ้นป้องหน้าของตัวเองเอาไว้เมื่อเห็นท่าว่ายังไงก็ไม่มีทางปัดป้องออกไปได้ทันพร้อมกับหลับตาแน่นนิ่วหน้ารอรับความเจ็บปวดแต่แล้วก็ต้องลดแขนลงเมื่อโต๊ะและเก้าอี้ที่คิดว่าต้องลอยเข้าใส่ต้นหายไปแต่กลับไปร่วงหล่นอยู่อีกมุมหนึ่งของบาร์แทนพร้อมๆกับเงาของใครบางคนทาบทับลงมาบนตัวนัยน์เนตรสีรัตติกาลจึงเหลือบขึ้นไปมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนกางกั้นตนเอาไว้จากเหล่ายักษา

"ฮะฮะ....คงต้องขอให้หยุดแค่นี้ล่ะนะ....จะไสหัวไปได้รึเปล่า??"


ใบหน้าหล่อเหลาที่ดูเป็นคนอารมณ์ดีหัวเราะร่วนเหมือนไม่ได้แยแสต่อสิ่งใดแต่ประโยคสุดท้ายกลับฟังดูน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูกชายร่างยักษ์ทั้งหลายจึงรีบสลายตัวกลับไปแบกเพื่อนพ้องของตนที่นอนเกลื่อนกลาดตามพื้นออกไปจากบาร์ทันที

ร่างสูงใหญ่ที่เป็นคนเข้ามาขวางจึงหันมานั่งคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจที่สามารถละลายหัวใจของสาวๆให้ย่อยยับมานักต่อนักให้กับคนที่ยังนั่งอยู่บนพื้น

"ไง!!...เจ้าหญิงผู้เด็ดเดี่ยวกะจะฆ่ายักษาด้วยตัวคนเดียวนี่ชั่งห้าวหาญซะจริง"

"ชั้นไม่ใช่เจ้าหญิง....ไสหัวแกไปให้พ้น!!"

"หื๋ม!!....คนที่นี่พูดกับผู้มีพระคุณแบบนี้กันเหรอ??....ชั้นอุตส่าห์ช่วยให้หน้าสวยๆของนายมีรอยขีดข่วนนะเนี้ยแต่....."

มือใหญ่ยกขึ้นไปเกลี่ยหยดเลือดที่มุมปากบางเบาๆก่อนจะใช้ปลายลิ้นเลียคราบเลือดที่หัวแม่มือของตัวเองพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้อีกคนต้องเบิกตากว้างเมื่อหัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะเมื่อถูกสายตาแบบนั้นจ้องมอง

"หวานดีแหะ...ชักอยากจะชิมนายขึ้นมาซะแล้วสิ...เจ้าหญิง"

"ไอ้โรคจิต....ชั้นไม่ได้ร้องขอให้แกช่วยซะหน่อย"

สองมือบางผลักคนตรงหน้าจนหงายหลังก้นจ้ำเบ้าก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งบนโซฟาที่โต๊ะของตัวเองพร้อมๆกับยกแก้วเจ้าน้ำสีใสๆขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วก่อนจะชำเรืองมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องสนุกสนาน...มาถึงตอนนี้มีความจริงข้อหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไอ้ฝรั่งหัวทองนี่หล่อไม่ใช่เล่นๆใหนจะรอยยิ้มพิมพ์ใจนั่นอีกมันทำให้ใจของเขาสั่นไหวแปลกๆชอบกล

"ขอนั่งด้วยคนนะ...เจ้าหญิง"

"ถ้าแกเลิกเรียกชั้นแบบนั้น...ค่อยเสนอหน้าเข้ามาไอ้หัวทอง!!"

"อ๊ะ..ฮะฮะฮะ...แล้วจะให้เรียกว่าอะไรกันล่ะ....เจ้าหญิง??"

"ฮิบาริ"

"หื๋มม.ไม่ดูห่างเหินกันไปหน่อยรึไง...ชั้นอยากเรียกชื่อต้นนายมากกว่า...เจ้า......"

"เคียวยะ"

ริมฝีปากคมได้รูปหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะนั่งลงข้างๆพร้อมๆกับกางแขนกั้นอีกคนให้ตรึงอยู่กับโซฟาก่อนจะค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจของทั้งสองคนเป่ารดกันแต่อีกคนก็ยังคงตีหน้านิ่งเอาไว้ถึงแม้ในใจกำลังเต้นไม่เป็นจังหวะก็ตาม

"ชั้น...ดีโน่ คาบัคโลเน่ ยินดีที่รู้จัก..เคียวจัง"

"อื้อ!!!"

จู่ๆริมฝีปากคมได้รูปก็ประกบลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวจนร่างด้านใต้ได้แต่เบิกตากว้างก่อนจะปิดลงด้วยความตกใจสองมือเรียวจึงดันแผ่นอกแกร่งของอีกคนให้ออกห่างจากตัวแต่ตอนนี้กลายเป็นตัวเองนอนราบไปกับโซฟาโดยที่หัวยังหนุนอยู่กับพนักของโซฟาไปแล้วหนำซ้ำไอ้บ้าฝรั้งหัวทองก็ขึ้นมาคร่อมตนเอาไว้เรียบร้อยอีกต่างหาก...ใบหน้าเรียวสวยจึงได้แต่งงๆเพราะเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว

"แกต้องการอะไรจากชั้นไอ้โรคจิต!!!"

"ต้องการอะไรงั้นเหรอ??....อืมม...ค่าเสียหายที่นายทำ..เท่านี้ได้รึเปล่า??"

"แกก็คิดมาแล้วชั้นจะจ่ายให้!!"

ใบหน้าเรียวได้รูปเริ่มที่จะบึ้งตึงขึ้นทุกทีเมื่อปลายนิ้วของคนด้านบนเริ่มคลอเคลียไล้ลูบไปตั้งแต่ซอกคอไปจนถึงแผ่นอกของตัวเอง

"ฮะฮะ...โทษที่นะชั้นไม่อยากได้เงินของนายหรอกนะเคียวจังขอเป็นอย่างอื่นได้รึเปล่า??"

"แล้วต้องการอะไรอยากได้อะไรก็เอาไปสิถ้าชั้นมีให้แกล่ะก็เชิญเอาไปได้เลย!!!"

"ฮะฮะฮะ....นายนี่มันน่าสนใจมากเลยรู้รึเปล่า...เคียวจัง??"

มือหนาค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวบางออกทีละเม็ดทีละเม็ดพร้อมๆกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์แต่ดูมีเสน่ห์ซะจนร่างโปร่งบางไม่แม้แต่จะขัดขืนก่อนที่มือร้อนจะละเลงลูบไล้ไปจนทั่วแผ่นอกบางจนริมฝีปากบางได้แต่เม้มจนเป็นเส้นตรงและพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้เสียงที่น่ารังเกียจเล็ดลอดออกมา

"สิ่งที่ชั้นต้องการ...นายมีอยู่แล้วเคียวจังถ้าหากนายพูดแบบนั้นชั้นก็ขอล่ะนะ"

"อึก!!!...อื้อ!!"

ใบหน้าเรียวสวยได้แต่สะบัดไปมาเมื่อริมฝีปากคมบดเบียดดูดเม้มไปจนทั่วซอกคอระหงอย่างบ้าคลั่งฝากร่องรอยสีระเรื่อเอาไว้ฟันซี่เล็กที่เรียงกันเป็นระเบียบกัดริมฝีปากของตัวเองจนเลือดซิบเมื่อความรู้สึกเจ็บปวดผสมผสานกันไปกับความรู้สึกสุขสมก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจที่เพิ่งจมอยู่กับความทุกข์สองแขนบางจึงกอดหัวสีทองเอาไว้แน่นเมื่อสติเริ่มกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศเหมือนคนที่หาทางกลับบ้านไม่เจอ

"อ้า...เดี๋ยวไอ้บ้าฝรั่ง...อย่า!!"

"ฮะฮะ...สายไปแล้วล่ะเคียวจังร่างกายของชั้นมันตื่นขึ้นมาจนแทบจะทะลักออกมาแล้วรู้รึเปล่าหยุดตอนนี้ก็โง่เต็มทีนั่นแหละ"

"ไม่ใช่ต้องไม่ใช่ตรงนี้...อึก...ลูกน้อง...อ้า...ของนายกำลัง...ดูอยู่นะ!!"

"อ่า~~โทษทีนะพอดีมันเคยชิน...แต่เห็นแก่นายจะให้พวกเขาออกไปก็ได้นายจะได้สบายใจขึ้น....เคียวจัง"

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ส่งซิกให้ลูกน้องทุกคนออกไปจากห้องนี้ทันทีก่อนจะประคองใบหน้าเรียวสวยเอาไว้อย่างเบามือ

"แกคงทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้าลูกน้องเป็นประจำสินะ"

"ก็มันตื่นเต้นดีออก...อยากลองดูมั้ยล่ะ...เคียวจัง"

"แกมันไม่ปรกติ...วิปริตไปแล้วชัดๆ!!"

ใบหน้าเรียวสวยสะบัดหนีไปทางอื่นอย่างนึกหมั่นไส้ในความไม่ปรกติของหมอนี่อย่างแรงแต่ดูเหมือนอาการแบบนั้นจะยิ่งทำให้อีกคนชอบใจ...ก็บอกแล้วไงว่าไอ้บ้านี่มันโรคจิต

"ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว...อ่อนโยนกับนายกว่านี้ก็แล้วกัน.เคียวจัง...ชั้นรู้สึกว่าถ้าชั้นรุนแรงกับนายร่างกายของนายคงจะแตกสลายคามือชั้นเป็นแน่"

"อย่ามาทำเป็นพูดดี....แกก็แค่ไอ้โรคจิตวิปริตก็เท่านั้น!!"

"ฮะฮะฮะ....คำพูดของนายเจ็บแสบถึงใจชะมัด....นายดูนี่สิผิวกายของนาย..."

เรียวนิ้วร้อนค่อยๆลูบไล้ตั้งแต่สองแก้มใสละลงไปจนถึงหน้าท้องราบเรียบไร้รอยสะดุดก่อนจะบรรจงจูบลงไปแผ่วเบาราวกับกลัวว่าจะทำให้ผิวกายของอีกคนเกิดร่องรอยทั้งๆที่ก่อนหน้าพึ่งจะฝากมันเอาไว้จนทั่วซอกคอระหงแล้ว

"เหมือนกับสีของกลีบซากุระไม่มีผิด...ชั้นไม่อยากทำให้มันเกิดรอยช้ำบนผิวสวยๆ........ของนายต้องบอบช้ำเพราะน้ำมือชั้น"

"เกิดอยากจะถนุถนอมขึ้นมาว่างั้นเถอะหึ...อย่ามาพูดให้ขำ...แกก็แค่ต้องการร่างกายของชั้นไม่จำเป็นต้องมาพูดจาน้ำเน่าชวนอ้วกอยู่แบบนี้"

"ฮะฮะฮะ...พูดกับนายนี่ไม่เบื่อเลยจริงๆ...มานี่สิชั้นจะสอนการดื่มเตกีล่าให้ดื่ม
เพรียวๆมันแสบคอนะ"

สองมือหนายกให้ร่างโปร่งบางนั่งคร่อมที่หน้าตักของตัวเองพร้อมๆกับรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ทำให้อีกคนถึงกับเสมองไปทางอื่นและพึ่งจะรู้ตัวว่าตนอยู่ท่ามกลางห้องที่มีแสงนีออนสว่างจ้าไม่ใช่แสงสลัวๆเหมือนตอนที่เข้ามาใหม่ๆก่อนจะกวาดตามองความเสียหายที่ตนเป็นคนทำพลางนึกสงสัยว่าถ้าแค่ได้ร่างกายนี้ไปแล้วมันเพียงพอกับความเสียหายที่เกิดขึ้นรึไงกันในเมื่อข้าวของที่ประดับตกแต่งมีแต่ราคาสูงๆทั้งนั้นจากที่ประเมินด้วยสายตาก็น่าจะหลายสิบล้านอยู่แลกกับการนอนด้วยกันแค่ครั้งเดียวได้จริงๆงั้นเหรอ

"อ้าปากสิ"

เสียงทุ้มที่กระซิบเบาๆที่ข้างหูทำให้ใบหน้าเรียวสวยหันกลับมาก่อนจะทำหน้างงอีกครั้งเมื่อในมือของชายหนุ่มถือซีกมะนาวที่จิ้มเกลือจนโชกเอาไว้

"แกจะทำอะไร!!"


"อ้าปากก่อนสิ...เดี๋ยวก็รู้แต่บอกไว้ก่อนนะว่าอย่าพึ่งกลืนลงไปจนกว่าชั้นจะบอก"

ริมฝีปากบางค่อยๆเผยอขึ้นอย่างไม่ไว้วางใจแต่ก็ยอมอ้าปากน้อยๆในที่สุดแล้วก็ต้องหลับตาปี๋เมื่ออีกคนบีบน้ำมะนาวกับเกลือที่ถืออยู่ลงไปพร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปควานหาอะไรบางอย่างในโพรงปากเล็กก่อนที่น้ำใสๆของเจ้าเตกีล่าจะตามมาแต่มันไม่ได้มาจากแก้วแต่มาจากริมฝีปากของร่างสูงที่ค่อยกระหวัดเรียวลิ้นให้ทุกอย่างในปากเข้ากันจนล้นออกมาที่มุมปากและไหลลงไปตามซอกคอระหงลงไปจนถึงแผ่นอกบางพร้อมๆกับดูดดื่มจนร่างโปร่งบางต้องกลืนมันลงไปในที่สุด

"อื้อ!!"

มือบางยันตัวเองออกมาจากแผงอกแกร่งเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตายลงตรงนั้นก่อนจะหอบหายใจอย่างหนักหน่วง

"เป็นไง??....รสชาติดีขึ้นเยอะเลยใช่มั้ย??"

"........อืมม"

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่ารสชาติของมันดีขึ้นกว่าตอนดื่มเพรียวๆเยอะโขร่างโปร่งบางจึงจำใจต้องตอบออกไปตามความเป็นจริงอย่างช่วยไม่ได้

"เห็นมั้ยชั้นบอกแล้ว....ฮะฮะฮะ...."

ทั้งสองจ้องตากันอยู่สักพักก่อนที่คนบนตักจะค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าหาแล้วปลายลิ้นร้อนก็ลากเลียคราบเตกีล่าที่ไหลลงมาตามซอกคอจนถึงแผ่นอกบางจนอีกคนกอดหัวสีทองเอาไว้แน่นเมื่อความรู้สึกเสียวซ่านเข้าโจมตี....ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไรแต่กลับห้ามใจเอาไว้ไม่ได้ปล่อยให้มันเป็นไปตามทางที่มันควรจะเป็นหัวใจที่เพิ่งจะแหลกสลายกลับกำลังก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อกลับมาเต้นโครมครามไปตามสัมผัสของเขาคนนี้ได้อย่างง่ายดาย

"ชั้นทนไม่ไหวแล้วล่ะ...เคียวจัง"

"อ้า...ชั้นก็เหมือน...อึก..กัน!!"

ริมฝีปากคมเหยียดยิ้มพอใจก่อนจะจับมือเรียวไปกอบกุมความเป็นชายที่คับแน่นอยู่ภายใต้เนื้อผ้าแล้วยิ้มยั่วยวนส่งสายตาวอนขอให้คนตรงหน้า...และเพราะไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรมือเรียวจึงค่อยๆปลดเข็มขัดออกช้าๆก่อนจะปลดตะขอแล้วรูดซิบลงไปซึ่งอีกฝ่ายก็ทำให้ตนแบบนั้นเหมือนกันทั้งสองคนต่างก็ช่วยซึ่งกันและกันปลดเปลื่องอาภรณ์จนคนหนึ่งเหลือเพียงกางเกงที่ไม่จำเป็นต้องถอดส่วนคนด้านบนเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางที่แทบจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่ร่อมร่อเพื่อปกป้องร่างบางจากอากาศที่เริ่มจะเย็นจากภายนอกซึ่งมันไม่ได้มีความจำเป็นเลยสักนิดในเมื่อตอนนี้พวกเขาสองคนต่างก็ร้อนรุ่มปานจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันเสียให้ได้

"เป็นของชั้นนะ.....เคียวจัง"

"อืมม"

เมื่อเสียงกระซิบเบาๆนั้นมันเหมือนมีมนต์สะกดร่างโปร่งบางจึงยอมทำตามที่อีกคนชักพาอย่างว่าง่ายก่อนที่มือหนาจะรั้งเอวบางให้เข้ามาแนบชิดแล้วมืออีกข้างก็รวบแกนกายของทั้งสองให้แนบชิดกันก่อนจะค่อยๆขยับรูดขึ้นลงเป็นจังหวะช้าๆเรียกเสียงครางเครือของทั้งสองให้ดังผสมผสานกันไปฉุดอารมณ์แห่งความปรารถนาของทั้งสองให้พุ่งสูงขึ้นไปตามๆกันและยิ่งมือหนาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นร่างโปร่งบางก็ยิ่งครางกระเส่าไม่เป็นภาษาสองแขนบางกอดรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้แน่นก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองเพดานด้วยสายตาที่เลื่อนลอยราวกับกำลังจะกลายเป็นอากาศธาตุ

"อ้า...ฮ้า"

เสียงครางกระเส่าเริ่มดังขึ้น ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อมือหนาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเร็วขึ้นและแรงขึ้นไปอีก

"ชะ...ชั้นจะ....ถึงแล้วดี...โน่!!"

"ชั้นก็เหมือนกัน....อ้า..เคียวจัง..."

ไม่รอช้ามือหนาเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นอีกแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น จนในที่สุด

"อ๊ะ...อ้า...ฮา....ฮา.."

น้ำสีขาวขุ่นของทั้งสองคนฉีดพุ่งออกมาเกือบจะพร้อมๆกันพร้อมกับเสียงครางเครือครั้งสุดท้ายที่ดังลั่นห้องอย่างลืมอาย

"อ่า~..เคียวจัง.....เคียวจัง...อืมม"

ริมฝีปากคมพร่ำเพ้อเรียกชื่อของอีกคนอย่างหลงใหลก่อนจะประทับจูบแผ่วเบาพร้อมๆกับมือด้านล่างที่เริ่มปลุกเร้าอารมณ์ของทั้งสองคนขึ้นมาอีกครั้งและดูเหมือนมันจะไม่ได้ยากเย็นอะไรในเมื่อต่างฝ่ายก็ยังไม่รู้จักคำว่าพอเช่นกัน

"อืมม...ดี....โน่...ชั้น...ชั้น..."

เมื่อริมฝีปากคมครอบครองยอดสีอ่อนที่แผ่นอกบางจึงเรียกเสียงครางกระเส่าของร่างโปร่งบางอีกครั้งริมฝีปากบางเองก็ใช่ย่อยกดจูบขบเม้มไปจนทั่วซอกคอและลาดไหล่ของชายหนุ่มอย่างไม่ยอมลดละสองมือบางลูบไล้ไปจนทั่วแผ่นหลังกว้างสร้างความเสียวซ่านให้อีกคนได้เป็นอย่างดี...แต่แล้วร่างกายก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วของอีกคนสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางคับแน่นจนต้องผวากอดอีกคนเอาไว้แน่น

"อึก!!!....อ้าจะ....เจ็บ!!"

"อดทนหน่อยที่รัก....ชั้นจะอ่อนโยนกับนาย....เคียวจัง"

เสียงกระซิบที่แหบพร่าปนกับเสียงกระเส่าที่เรียกชื่อตนทำเอาร่างทึ้งร่างอ่อนปวบเปียบไร้แรงต้านทานพร้อมกับส่งเสียงครางหนักหน่วงเมื่อเรียวนิ้วของร่างสูงหมุนวนสัมผัสจุดอ่อนไหวทางด้านใน....และนั่นมันทำให้อีกคนถึงกับเหยียดยิ้มพอใจทั้งเสียงครวญครางทั้งช่องทางที่ไม่น่าจะมีใครเคยล้วงล้ำเข้าไป...อ่า~...ความรู้สึกแบบนี้สินะที่เค้าเรียกว่าความภูมิใจที่เขาพึ่งจะเคยสัมผัสเป็นครั้งแรกมันรู้สึกดีแบบนี้เอง...ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปเพิ่มอีกทีละนิ้วทีละนิ้วเพื่อช่วยเปิดเส้นทางที่คับแน่นให้ขยายออกจนได้ที่แล้วนิ้วทั้งสามจึงถูกถอนออกก่อนจะจ่อด้วยอย่างอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่านิ้วทั้งสามหลายเท่านัก

"เคียวจัง"

"...."

"เคียวจัง"

".....อืมมม"


"ชั้นจะเข้าไปข้างในแล้วนะ....ถ้าเจ็บก็บอกชั้น....เข้าใจมั้ย??"

"....อืมม"

สองแขนบางโอบรอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่นใบหน้าเรียวสวยที่ซับสีจัดซุกลงไปที่ไหล่กว้างเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้ว่ามันจะเจ็บมากมายเพียงใด

"น่ารักมาก...เคียวจัง....ที่รัก.....อืมม"

"อ๊า....อึก!!!!"

เมื่อความเจ็บปวดสุดคณาแล่นริ้วเข้าโจมตีเสียงกรีดร้องของร่างโปร่งบางจึงดังขึ้นให้อีกคนหยุดทุกการกระทำมือบางทั้งสองข้างจิกลงไปบนแผ่นหลังกว้างจนเลือดซิบไม่เพียงแค่นั้นริมฝีปากบางยังขบกัดลงไปที่ไหลกว้างด้วยเช่นกัน

"อึก!!!...อา~~"

เสียงทุ้มครางออกมาเบาๆเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงตอดรัดในช่องทางที่คับแน่นโดยไม่คิดจะสนใจความเจ็บปวดที่หลังและหัวไหล่เลยแม้แต่น้อย...ริมฝีปากคมกดจูบเบาๆลงไปที่หัวไหล่มนละเรื่อยขึ้นไปจนถึงขมับสีรัตติกาลราวกับกำลังปลอบประโลม

"ผ่อนคลายหน่อยที่รัก....อีกนิดเดียวก็ไม่เจ็บแล้ว"

".....อื้อ"

ใบหน้าเรียวสวยที่ปริ่มคลอด้วยหยาดน้ำตาขานรับอีกคนจากในลำคอพร้อมๆกับผ่อนคลายไปตามสัมผัสอ่อนหวานที่ขมับลงไปจนถึงลาดไหล่

"อื๊ออ!!!!!"

หยาดน้ำใสๆไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อร่างสูงใหญ่กดสะโพกมนลงไปในคราเดียวจนมิดด้ามก่อนที่ริมฝีปากบางจะกัดย้ำซ้ำลงไปที่รอยเดิมเพื่อระบายความเจ็บปวดจนเกินคณานับ

"อ้า~...เคียวจัง....ที่รัก....สุดยอดไปเลยข้างในตัวนาย...มันสุดยอดไปเลย...เคียวจัง...ฮา"

สองแขนบางกอดกระชับแผ่นหลังกว้างให้แน่นขึ้นไปอีกเมื่ออีกคนเริ่มขยับแกนกายอย่างเชื่องช้า....แต่แปลกทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เจ็บปวดจวนเจียนจะขาดใจแต่พอร่างสูงค่อยๆขยับแกนกายความรู้สึกสุขสมกลับหลั่งไหลจนแทบจะล้นทะลักริมฝีปากบางจึงส่งเสียงครางอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่าราวกับตัวเองถูกโอบกอดด้วยหมู่มวลดอกไม้ส่งกลิ่นหอมหวานชวนหลงไหลยิ่งนักยิ่งยามเมื่อแรงกระแทกที่รุนแรงและหนักหน่วงขึ้นยิ่งรู้สึกสุขสมราวกับจะหายไปก็ไม่ปานยิ่งเสียงทุ้มที่เอ่ยเรียกชื่อของตนที่ปนกับเสียงกระเส่ายิ่งเร้าอารมณ์ให้พุ่งสูง

"เคียวจัง"


"เคียวจัง"



"เคียวจะ...อ้า!!!"

ในที่สุดเสียงครวญครางอย่างหนักหน่วงก็ดังขึ้นพร้อมๆกับความรู้สึกอุ่นวาบที่ด้านหลังและความเปียกแฉะอุ่นๆที่หน้าท้องเมื่อการกระแทกครั้งสุดท้ายที่ทั้งหนักหน่วงและรุนแรงจบลง...ใบหน้าเรียวสวยซบลงที่หัวไหล่กว้างอย่างคนหมดแรงก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆปิดลงแต่ในหัวยังได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาพร่ำเรียกชื่อตนซ้ำๆอยู่อย่างนั้นและหายไปกลายเป็นความเงียบงั้นในที่สุด

ริมฝีปากคมยังพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าสวยที่สลบไสลไปแล้วอย่างรุ่มหลงในใจยังพร่ำบอกกับตัวเองซ้ำๆว่าไม่พอต่อให้เขากลืนกินร่างในอ้อมกอดนี้อีกสักกี่ครั้งมันก็ยังไม่พอ...สองแขนแข็งแรงกระชับกอดร่างบางในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีก

"ไม่ได้นะครับคุณมุคุโร่ คุณยามาโมโตะ บอสกำลังยุ่งอยู่นะครับ!!!"

เสียงโวยวายของคนสนิททั้งสองคนที่หน้าประตูทำให้มือหนาหยิบโค๊ตสีเขียวขี้กาตัวใหญ่มาคลุมร่างบางในอ้อมแขนเอาไว้ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องอีกที

"ให้เข้ามา!!!!"

ไม่นานสองหนุ่มต่างไซส์ก็เดินเข้ามาพร้อมๆกับกวาดสายตามองซากแห่งผลงานชิ้นเอกของบอสใหญ่

"ฮะฮะ...อย่าทำสายตาแบบนั้นไม่ใช่ฝีมือชั้นสักหน่อย....พอดีลูกค้าตีกันน่ะพวกนายสองคนไม่อยู่ห้ามมันเลยกลายเป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ"

"แล้วนั่นอะไรครับ??"

สายตาคู่คมทั้งสองคู่ต่างจับจ้องไปที่ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยโค๊ตของบอสจนเห็นเพียงแค่เส้นไหมสีดำที่โผล่พ้นขึ้นมาเท่านั้น

"อ่า~เนี้ยน่ะเหรอ....เจ้าหญิงผู้ฆ่ายักษ์น่ะ...ฮะฮะฮะ"

"ไม่มีหรอกนะครับสำนวนแบบนั้นน่ะ!!"

"ฮะฮะฮะ...มุคุโร่นายจะจริงจังเกินไปแล้ว...เจ้าหญิงของชั้นก็ต้องเก่งแบบนี้แหละน่า"

"คนที่ทำให้ที่นี่เป็นแบบนี้สินะ"

ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้นเบาๆก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันทีต่างจากชายหนุ่มร่างสูงโปร่งที่ดูจะไม่พอใจนักที่บอสของตัวเองปล่อยให้แหล่งข่าวมีสภาพเละขนาดนี้

"ไม่เอาน่ามุคุโร่ขอร้องล่ะอย่างมองเคียวจังของชั้นด้วยสายตาแบบนั้นเค้ายิ่งเป็นคนขี้อายอยู่ด้วย...นายก็ด้วย ยามาโมโตะ"

"ฮะฮะ....จะมาห่วงอะไรกับผมล่ะครับคุณดีโน่...ผมมีคนที่สายตาของผมจับจ้องอยู่แล้วล่ะครับ"

ยามาโมโตะหัวเราะร่วนขึ้นมาก่อนจะปรายตามองคนข้างๆเหมือนกำลังจะบอกว่าคนที่ต้องระวังไม่ใช่เขาแต่เป็นคนข้างๆนี่มากกว่า

"อย่ามาจ้องผมแบบนี้นะถึงแม้ว่าผมจะไม่มีคนให้มองผมก็ไม่สนใจของๆคนอื่นหรอกนะครับ!!"

"ฮะฮะฮะ...เอาน่ามุคุโร่ชั้นไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อยชั้นก็แค่....กลัวเคียวจังจะอายเท่านั้น"


ประโยคสุดท้ายฟังดูอ่อนโยนซะจนไม่อยากจะเชื่อว่าบอสใหญ่แห่งคาบัคโลเน่แฟมิลี่ผู้นี้จะพูดออกมาหรือจะใส่ใจกับใครได้มากขนาดนี้

"เจอกันยังไม่ถึงวันเลยนะครับจะหลงเขาเกินไปรึเปล่า??"


"ไม่หรอกถึงจะแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เราเจอกันแต่ชั้นกลับรู้สึกว่าคนนี้แหละที่ใช่....ดูอย่างยามาโมโตะสิเจอกันแค่ไม่กี่วันเองใช่มั้ยถ้าจำไม่ผิดพึ่งจะสองวันใช่รึเปล่าน้า.....ยังทำให้นักฆ่ามือหนึ่งของชั้นหัวเราะได้มากขนาดนี้เลยนะเขาคนนั้น"

"โกคุเดระ ฮายาโตะ ครับ"

"ใจง่ายกันซะจริงนะครับไม่สมกับเป็นพวกคุณเลยสักนิด....ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ"

"อ่า~เดี๋ยวสิมุคุโร่ ยามาโมโตะ ด้วยพอดีชั้นจะบอกว่าชั้นจะกลับอิตาลีสักพักฝากพวกนายดูแลทางนี้ด้วยก็แล้วกัน...แค่นี้แหละที่ชั้นจะบอก"

ใบหน้าหล่อเหลาซุกลงไปบนกลุ่มเส้นไหมสีรัตติกาลแล้วกดจูบเบาๆอย่างหลงไหลก่อนที่ปลายนิ้วจะเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าผากขาวผ่องออกเบาๆพร้อมๆกับพรมจูบค้างเอาไว้แบบนั้น

สองหนุ่มลูกน้องคนสนิทเดินออกมาหยุดที่ประตูของผับก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะหันไปมองบอสของตนน้อยๆอย่างไม่เข้าใจแล้วจู่ๆคนข้างๆก็พูดขึ้นเหมือนรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

"สักวันนายก็จะเข้าใจพวกชั้น มุคุโร่วันที่นายเจอใครสักคนที่นายสัมผัสร่างกายที่แสนหอมหวานนั่นแล้วนายรู้สึกว่าขาดไม่ได้ต่อให้สัมผัสอีกสักเท่าไหร่มันก็ไม่มีวันเติมเต็มจนอยากจะกักขังเขาคนนั้นไว้ให้เป็นของๆนายแค่คนเดียว"

"คำพูดของพวกวิปริตอย่างพวกคุณมากกว่ามั้งครับดูเป็นคนมักมากไม่รู้จักพอมากกว่า...ผมขอตัว"

จบประโยคควันสีขาวก็รายล้อมร่างสูงโปร่งเอาไว้ทันทีและพอกลุ่มควันจางลงร่างทั้งร่างของสายหมอกก็หายไปทันทีปล่อยให้ชายหนุ่มร่างสูงยืนยิ้มชอบใจอยู่เพียงคนเดียว....สักวัน โรคุโด มุคุโร่ สักวันนายจะรู้ว่านายเองก็วิปริตไม่ต่างจากพวกชั้น...แล้วชั้นจะคอยดูถึงตอนนั้นนายจะทำหน้ายังไงนะ.......
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
    เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วอยู่ที่นอกหน้าต่างทำให้ร่างโปร่งบางที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงสีขาวขนาดใหญ่ค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆก่อนจะยกมือขึ้นมาป้องหน้าเอาไว้แล้วปรับสายตาให้เข้ากับแสงแล้วพาร่างกายที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบแห่งความปรารถนาของทั้งตนเองและชายหนุ่มเรือนผมสีทองนั่น...ดีโน่ คาบัคโลเน่ ฉายาม้าพยศแห่งวงการมาเฟียในอิตาลี.....มือเรียวค่อยๆถอดชุดคลุมสีขาวตัวบางออกช้าๆก่อนจะก้าวเดินเข้าไปหยุดที่กระจกบานใหญ่ที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดานก่อนที่ปลายนิ้วจะค่อยๆลูบไล้ไปตามลำคอจนถึงแผ่นอกบาง...น่าแปลกทั้งๆที่เขาสัมผัสและยังจดจำได้ว่าเค้าคนนั้นฝากรอยจูบเอาไว้มากมายแค่กลับไม่มีจุดใหนที่จะขึ้นสีหรือฝากร่อยรอยใดๆเอาไว้เลยและเป็นแบบนี้มาเกือบเดือนแล้วตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่แบบไม่มีทางเลือกเพราะพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนเครื่องบินซะแล้ว

"อยากจะปกป้องงั้นเหรอหึ....ชั่งน่าขำนัก..ที่แกทำกับชั้นเหมือนเป็นนางบำเรอมันไม่ได้เหมือนกับที่นายพูดเลยสักนิด...ไอ้ม้าพยศ!!"

นัยน์เนตรสีรัตติกาลจ้องมองตัวเองในกระจกอย่างนึกสมเพชอยู่แบบนั้นเนิ่นนานกว่าจะละออกไปจัดการกับร่างกายของตัวเอง

สองขาเรียวยาวก้าวออกไปจากประตูห้องน้ำทั้งๆที่บนหัวยังมีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กพาดอยู่แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกสวมกอดจากด้านหลัง

"อยู่นี่เอง...ชั้นตามหาแทบแย่แน่ะ...เคียวจัง"

มือหนาลากให้อีกคนเดินตามก่อนจะะรั้งให้อีกคนนั่งลงบนตักของตัวเองแล้วหยิบผ้าขนหนูขยี้ลงไปบนกลุ่มเส้นไหมสีรัตติกาลที่ยังเปียกลู่อย่างเบามือ...ใบหน้าหล่อเหลาเกยลงไปที่ไหล่บางก่อนจะฝังจมูกลงไปที่แก้มใสสูดดมกลิ่นสบู่อ่อนๆก่อนจะค้างไว้ไว้แบบนั้นซึ้งร่างโปร่งบางเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากมายทำเพียงแค่เสมองไปทางอื่นน้อยๆเท่านั้นเพราะไม่เคยปฏิเสธสัมผัสของเขาคนนี้ได้เลยสักครั้งถึงแม้จะถูกพามาที่นี่โดยที่ตนไม่ได้เต็มใจแต่ทุกครั้งที่มีอะไรกันก็เต็มใจทุกครั้งเมื่อรู้สึกได้ถึงรสจูบที่ราวกับเป็นยารักษาแผลใจให้หายดีจนถึงตอนนี้ความรู้สึกพวกนั้นความเจ็บปวดที่แสนทรมานมันกลับหายไปจนหมดเมื่อได้รับสัมผัสจากผู้ชายคนนี้

"อยู่กับชั้นตลอดไปได้มั้ย....เคียวจัง??"

"ชั้นจะหนีไปจากนายถ้ามีโอกาส..ดีโน่"

"หึหึ....ชั้นก็จะตามเอาตัวนายกลับมา ฮิบาริ เคียวยะ ไม่ว่านายจะหนีชั้นไปที่แห่งหนใดก็ตาม"

"......."

ใบหน้าเรียวสวยได้แต่นิ่งสนิทก่อนจะค่อยๆหลับตาลงเมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนคลอเคลียที่ซอกคอระหงไปพร้อมๆกับมือร้อนที่สอดแทรกเข้าไปลูบไล้แผ่นอกบาง

"เคียวจัง..."

เสียงกระซิบที่เรียกขานชื่อของตนที่ราวกับมีมนต์สะกดให้เขายอมผู้ชายคนนี้อย่างเต็มใจ....ใช่แล้วเขาต้องหนี...หนีไปจากสัมผัสอ่อนหวานรัญจวญใจของผู้ชายคนนี้ให้ได้...เขาจะได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง...เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งมินาโมริ....แต่ตอนนี้....ดีโน่...ม้าพยศ...ดีโน่.....

"อื้อ!!...ชั้นจะหนี...อ้า...ไป..."

"ไม่ยอมให้หนีหรอกนะ...เคียวจัง....ชั้นรักนาย...."

ยามเมื่อได้ฟังเสียงกระซิบใจดวงน้อยราวกับจะเต้นทะลุออกมานอกอกร่างกายยินยอมพร้อมใจไปกับสัมผัสอันอ่อนโยนที่แผ่วเบาราวกับปุยนุ่นทุกพื้นที่ๆมือร้อนคู่นี้ลากผ่านมันชั่งร้อนรุ่มราวกันถูกไฟสุม...กลิ่นกายที่ชวนโหยหาสัมผัสที่อ่อนโยนของนายมันกำลังแทรกซึมเข้าไปในกระแสเลือดของฉันราวกับว่าร่างกายนี้มันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป....ดีโน่ คาบัคโลเน่ ....เพราะแบบนี้ไงฉันถึงต้องหนีไปจากนายเพื่อให้จิตวิญญาณนี้มันยังคงเป็นของฉัน.......
.
.
.
..
..
..
.
.
.
.
..
..
..
..
.
.
.
.
.
.
........Tobecontinue.......................

อ๊ากกกกสุขสันวันเกิดนะก๊าาาาาคุณเคียวขอให้เป็นที่รักและเป็นหนึ่งเดียวของม้าพยศตลอดๆๆๆๆๆไปปปปปปปปเก๊าขอโทษที่ลบให้ไม่ทันตอนเที่ยงคืจแต่ยังไงงซพะก็ลงให้ตอน 23.59 ของวันนี้นะเจ้าก๊าแม้จะไม่ได้เป็นคนแรกแต่จะขอเป็นคนสุดท้ายที่จะอวยพรให้นะก๊าา....ยังไงข้าพเจ้าก็ยังรักคุณเคียวไม่น้อยไปกว่าใครนะก๊า
สุขสันวันเกิดก๊าาาาาา





1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ30 พ.ย. 2557 17:52:00

    คุณเคียวไหงมาเซ็กซี่แบบนี้ ไม่ว่ายังไงคุณฮิก็ยังเก่งที่หนึ่งเหมือนเดิมเลยสินะ
    โน่เอ๋ยเรียกเคียวจังกี่รอบแล้ว เด็กน้อยดีโน่ นี่ก็แอบดาร์กเนียนๆเหมือนกันนะเรา
    สุดท้ายมุคุรั่ว สักวันนายจะเข้าใจนะ5555555

    ตอบลบ