5 เม.ย. 2557

S.Fic Attack on titan [Levi x Eren] Rainbow : 05

S.Fic Attack on titan [Levi x Eren] Rainbow : 05

:Rainbow : 05

:Fanfiction Attack on titan [Levi x Eren]

:Romantic Drama Erotic

:Nc-18




คำเตือน:บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายท่านใดไม่รู้หรือไม่พิศมัยกรุณากดเครื่องหมายกาบาทที่มุมขวาบนขอบคุณค่ะ







          .........เสียงสวรเสเฮฮาดังก้องอยู่ที่สนามหน้าบ้านเหล่าเพื่อนสนิทที่มีไม่กี่คนและเหล่าลูกน้องในกรมต่างก็พากันมาแสดงความยินดีในวันคล้ายวันเกิดของร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครที่ไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรเลยสักนิดใบหน้าคมหล่อเหลายังคงนิ่งสนิทเพราะเจ้าตัวไม่ได้คิดจะจัดงานวันนี้ขึ้นมาแต่เพราะเพื่อนๆอีกนั่นแหละที่เป็นตัวตั้งตัวตีจัดงานทุกอย่างให้จะปฏิเสธมันก็กระไรอยู่
นัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านอย่างไม่กระพริบเพราะเจ้าเด็กเหลือขอนั่นยังไม่ยอมกลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืนไม่ใช่ว่าเขาจะไม่ตามหาเพราะบ้านเพื่อนของเจ้าตัวร้ายที่เขารู้จักเขาก็ไปหามาหมดแล้วแม้แต่แม้แต่บ้านของไอ้หน้ายาวนั่นหรือแม้แต่คอนโดของมันเขาก็ไปแต่กลับไร้วี่แววไม่เห็นแม้แต่เงาของร่างบอบบางและไอ้หน้ายาวนั่นใจริงก็อยากจะไปตามหาให้มากกว่านี้แต่ติดที่สาวแว่นโทรจิกยิกๆให้กลับมาซะก่อนเลยจำใจต้องกลับมา......เอาไว้เสร็จงานแล้วค่อยออกไปตามหาอีกที
"เอเลนไม่อยู่เหรอรีไวล์??"
เพื่อนสนิทร่างสูงเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ...เอลวินคงยังไม่รู้เรื่องที่เขาทะเลาะกันแต่ในขณะที่เขากำลังจะอ้าปากตอบ
"รีไวล์ทะเลาะกับน้องชายสุดที่รักจนหนูน้อยเอเลนหนีออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อคืนจนป่านนี้ก็ยังไม่กลับมาผู้ที่เป็นความหวังของมนุษยชาติถึงได้นั่งหน้าปลาตายอยู่แบบนี้ไงเอลวิน ฮ่าๆๆๆ"สาวแว่นจอมปากโป้งแย่งซีนรายงานเเพื่อนร่างสูงไปก่อนซะงั้นชายหนุ่มจึงได้แต่นั่งหางตากระตุกถี่ยิบแต่เพราะหงุดหงิดเกินกว่าจะต่อปากต่อคำเลยเลือกที่จะเงียบเพราะยังไงซะมันก็เป็นอย่างที่ยัยแว่นผีพูด
"เลยไม่รู้จะง้อยังไงเด็กทุกวันนี้เอาใจยากนะไม่เหมือนสมัยเราที่เอาเฟรนช์โทสต์หรือกริลล์ชีสมาล่อก็หาย ...แล้วออกตามหารึยัง???"
"อย่ากวนประสาทเอลวินแค่ยัยแว่นนี่ก็พอแล้ว"นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองหน้าคนข้างๆแบบไม่สบอารมณ์ไม่มีอารมณ์จะมาตบมุกฝืดๆของเพื่อนร่างสูงสักเท่าไหร่แต่มันกจริงที่ว่าเด็กสมัยนี้มันเข้าใจยากเกินกว่าเขาจะเข้าถึงได้อารมณ์แปรปวนก็ที่หนึ่งแล้วแบบนี้จะตั้งท่ารับยังไงดี
"สังเกตุดูขอบตาสิเอลวินยังไม่ทันได้นอนเลยนะนั่นน่ะถึงขั้นจะให้ฉันเปิดสัญญาณดาวทียมตามหาเลยนะ...ฮ่าๆๆ"
"หุบปากเน่าๆของเธอซะยัยแว่นผีก่อนที่ฉันจะของขึ้นมากไปกว่านี้"
"ดูซี่ดูซี่พ่อคนเจ้าอารมณ์อุตส่าห์วางแผนจะให้สารภาพรักกับเพทร่าซะหน่อยหมดอารมณ์เล้ย!!!"
"อ้าวคุณฮันซี่อย่าดึงฉันไปเอี่ยวสิค่ะ!!"
เสียงหัวเราะขบขันดังขึ้นรอบโต๊ะหญิงสาวที่ถูกพาดพิงถึงลุกขึ้นมาโวยวายแก้ต่างเป็นการใหญ่จนเป็นที่ถูกอกถูกใจของทุกคนร่วมโต๊ะจะมีก็แค่ผู้ถูกพาดพิงอีกคนเท่านั้นที่ยังคงนิ่งเฉยไม่คิดจะปฏิเสธหรือยอมรับเพราะเขาไม่ได้สนใจเรื่องที่ทุกคนกำลังพูดกันแต่สนใจประตูรั้วหน้าบ้านมากกว่า


....แขกที่มางานกลับไปกันหมดแล้วหลังจากช่วยกับเก็บกวาดสนามหญ้าหน้าบ้าน
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งใครยืนพิงขอบประตูรั้วหน้านัยน์ตาสีขี้เถ้าจับจ้องไปบนถนนที่ตอนนี้ร้างไร้สิ่งมีชีวิตใดๆทั้งสิ้น...นิ้วเรียวที่คีบแท่งนิโคตินอยู่ยกมันขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากของตัวเองก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ที่ดูจะสว่างไสวกว่าทุกวันเหมือนกำลังอวยพรวันเกิดให้กับเขาก่อนจะพ่นควันสีขาวขึ้นไปบดบังมันเอาไว้
"ดวงจันทร์ที่แปดเปื้อน...."
ริมฝีปากคมพูดออกไปเบาๆจนแทบจะเหมือนกำลังพูดกับตัวเองนัยน์ตาสีขี้เถ้ากัมมองที่เขี่ยบุหรี่ในมือก่อนจะบดขยี้อันที่อยู่ในมือลงไปในที่เขี่ยที่แทบจะไม่มีพื้นที่ว่างให้ทิ้งลงไปแล้วทั้งๆเขาเลิกมันไปนานแล้วตั้งแต่เจ้าเด็กเหลือขอนั่นเข้ามาในชีวิตเพราะเป็นห่วงไม่อยากจะเป็นคนที่ทำให้ร่างผอมบางนั่นต้องได้รับสารพวกนี้พอมาคิดๆดูแล้วเขาหลงรักเจ้าเด็กดื้อคนนั้นตั้งแต่ตอนนั้นถึงได้ไม่อยากให้อยู่ห่างจากข้างกายตัวเองแต่พอถูกสารภาพรักเขากลับสับสนจนผลักใสร่างบอบบางในที่สุด
"..........เอเลน..."
สองขาก้าวเดินพาตัวเองกลับเข้าไปในบ้านแต่ยังเดินไปไม่ถึงครึ่งทางเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตก็ดังกระหื่มมาจากประตูหน้าบ้านใบหน้าคมหล่อเหลาหัน
ควับกลับไปทันที!!
"เอเลน!!!"
สองขาแข็งแรงพาตัวเองกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่ประตูรั่วทันทีแลเห็นร่างบอบบางก้าวขาลงจากรถอยู่รำไรแต่ในขณะที่กำลังจะตะโกนเรียกออกไปเด็กหนุ่มร่างสูงก็เดินลงจากรถมาแล้วสวมกอดน้องชายของเขาจากทางด้านหลังใบหน้าหล่อเหลาของมันกำลังคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอระหงสองขาแข็งแรงจึงหยุดชะงักเมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นพูดบางอย่างออกมา
"ฉันรักนายมากรู้มั้ยฉันรอนายได้เสมอ....เข้าใจมั้ยเอเลน"
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเบิกกว้างก่อนจะกระตุกน้อยๆแต่ยังไม่ทันไรมันก็กระตุกขึ้นอีกจนถี่ยิบ....ไม่มันไม่ใช่เพราะคำสารภาพรักแต่เพราะต่อจากนี้ไปต่างหากมือหนาจับหัวไหล่มนให้หันไปเผชิญหน้าก่อนจะประกบจูบลงไปที่ริมฝีปากบางที่เจ้าของของมันไม่คิดจะขัดขืนปล่อยให้เด็กหนุ่มร่างสูงกอดจูบตัวเองต่อหน้าต่อตาเขา
มือเรียวทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อก่อนจะกัดฟันแน่นจนเส้นเลือดปูดที่ขมับไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเด็กนี่จะร่านได้ขนาดนี้กล้าปล่อยเนื้อปล่อยตัวใจง่ายให้กับใครก็ได้แบบนี้ไอ้ที่ทำกับเขามันยังสนองความต้องการของตัวเองยังไม่พอแบบนั้นใช้มั้ย
เมื่อความโกรธเกรี้ยวเข้ามาบดบังและไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอล์ฮอลที่ดื่มเข้าหรืออย่างไรสติที่แทบจะไม่มีอยู่แล้วก็ขาดหายไปทันที
สองขาก้าวเข้าไปหาสองคนที่ยังกอดจูบกันอย่างไม่นึกอายฟ้าดินถ้ามันจะร่านมากขนาดนี้เขาก็จะเป็นคนสนองให้เอง
มือเรียวแข็งแรงระชากคอเสื้อของเด็กหนุ่มร่างสูงอย่างแรงก่อนที่กำปั้นหนักๆจะลอยเข้าไปปะทะหน้าของเจ้าคนที่กล้าดีมาเหยียบจมูกเขาถึงบ้านก่อนจะตามไปกระทบซ้ำอีกที
ร่างบอบบางที่กำลังตกใจตัวแข็งทื่อรวบรวมสติก่อนจะวิ่งเข้นไปคว้าต้นแขนของพี่ชายของตัวเองเอาไว้
"รีไวล์!!!!!...หยุดนะ!!!!!"
"หุบปากนายไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้นไอ้เด็กบ้า!!!!!"
"ก็ได้!!!!ถ้างั้นก็ทำฉันไปด้วยเลยจะได้สาแก่ใจของคุณ!!!!!"
ร่างบอบบางที่ถลาเข้าไปขวางฝ่าเท้าของชายหนุ่มนัยน์ตาสีมรกตแข็งกร้าวยิ่งกว่าครั้งใหนๆยิ่งยั่วโทสะของชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก
เพี้ยะ!!!!!
จนในที่สุดฝ่ามือเรียวก็สะบัดไปปะทะใบหน้ามนเต็มแรงจนใบหน้าสวยหันไปอีกทางค่อยจะหันกลับมาช้าๆอย่างไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
"เอเลน!!!!"เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหลังรีบเข้ามาประคองร่างบอบบางเอาไว้ก่อนที่หยดน้ำแห่งชีวิตจะไหลซึมออกมาที่มุมปากของร่างบอบบางพร้อมๆกับน้ำใสๆที่ล้นลงมาจากขอบตา
นัยน์ตาสีขี้เถ้ากระตุกอีกครั้งเมื่อเห็นหยดเลือดที่มุมปากแต่มันก็ยังไม่ทำให้ความหึงหวงผสมกับโกรธเกรี้ยวลดลงไปสักเท่าไหร่มือเรียวคว้าเข้าไปที่ข้อมือบางแล้วฉุดกระชากน้อยชายของตัวเองให้ลุกขึ้นยืน
"แกกลับไปได้แล้วไอ้หน้าม้าอย่าสะเอ๊อะมายุ่งกับน้องชายฉันอีก!!!"
จบประโยคร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครก็กระชากร่างบอบบางให้เดินตามเข้าไปในบ้านไม่สนใจเด็กหนุ่มร่างสูงที่ยังนั่งปาดเลือดที่มุมปากของตัวเองอยู่กับพื้นหน้าบ้าน
"หมัดหนักโคตรเลยว่ะตัวก็เตี้ยม้อต้อขนาดนั้น...แกหลงรักมันไปได้ไงว่ะเอเลน...ถึงจะหล่อไม่เบาก็เถอะรสนิยมแย่ชะมัดเลยนายเนี้ย"
เด็กหนุ่มร่างสูงนั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งมองตามแผ่นหลังของทั้งสองที่ฉุดกระชากลากถูกันจนเข้าไปในตัวบ้านก่อนจะลุกขึ้นแล้วขับรถออกไป



"ปล่อยฉันรีไวล์....ฉันไมไป๊!!!!" มือเรียวจับหัวไหล่มนทั้งสองข้างก่อนจะกระแทกเข้าไปกับผนังตรงทางขึ้นบันไดแล้วบดเบียดริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงจนอีกคนต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
"อ๊า...ไม่...ปล่อย!!!"
สองมือบางผลักไสอีกคนอย่างสุดกำลังทั้งความน้อยใจทั้งความเคียดแค้นสุมเข้ามาอย่าเหลืออด
"บอกให้ปล่อยฉัน!!!....ไปทำกับแฟนนายเล้ยอย่ามายุ่งกับฉันอีก!!!...รีไวล์!!!!"
"นายไม่ใช่รึไงไอ้เด็กเหลือขอมั่วไม่เลือก!!!...ถ้าจะร่านไม่รู้จักพอขนาดนั้นฉันจะสนองให้!!!!"
นัยน์สีมรกตเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าคนวว่าคนตรงหน้าจะพูดจาร้ายกาจขนาดนี้นัยน์ตาสีมรกตสั่นระริกอย่างตัดพ้อไม่เคยคิดว่าอีกคนจะมองการกระทำที่เขาต้องฝืนทำให้ชายหนุ่มขนาดใหนกลับถูกมองว่า"ร่าน"ไม่รู้จักพอไปซะได้สองมือบางยกขึ้นมาผลักหัวรองทรงสีดำที่ไถเกรียนครึ่งล่างที่ยังขบกัดไปตามซอกคอของตัวเองออกอย่างเอาเป็นเอาตาย
"รีไวล์...อ๊า...เจ็บน้า!!!!!"
"ชอบไม่ใช่รึไงแบบนี้น่ะ!!!"ไม่ว่าเปล่ามือข้างนึ่งฉีกกระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัวที่ร่างบางชอบใส่ออกจนไม่เหลือชิ้นดีก่อนจะเลื่อนไปปลดเข็มขัดกางเกงของตัวเองออกแล้วครูดร่างบอบบางลงไปกองพื้นก่อนจะตวัดให้ลงไปนอนที่พื้นสองมือฉีกกระชากอาภรณ์ท่อนล่างของน้องชายสุดรักออกจนกระจุยกระจายไม่สนใจเสียงใสๆที่กำลังกรีดร้องคร่ำครวญ
"โอ๊ยยย!!!...เจ็บ...รีไวล์หยุดน้า.....ฮืออ"
แกนกายใหญ่โตผสมผสานกับแรงโทสะกระแทกดึงดันเข้าไปในช่องทางสีหวานรวดเดียวจนมิดด้ามไม่แม้แต่จะเล้าโลมหรือเปิดช่องทางก่อนแรงกระแทกที่หนักหน่วงจนทำให้ช่องทางสีหวานฉีกขาดอย่างรุนแรงก่อนที่น้ำสีแดงข้นจะไหลอาบไปทั่วแกนกายของเขากลิ่นของมันลอยมาเตะจมูกแต่กลับไม่คิดจะสนใจยังดึงดันสอดใส่กระแทกกระทั้นเข้าไปในช่องทางที่คับแน่นอย่างสุดแรงปล่อยให้ความบ้าคลั่งครอบครองจิตใจจนดำมืดมองไม่เห็นสิ่งใดอีก
"โอ๊ยยยย!!!..รีไวล์เจ็บหยุดนะ!!!!!......หยุด!!!!.....ฮึก....อื้อ!!"
นัยน์ตาสีเขียวมรกตที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาพยายามมองดูใบหน้าของพี่ชายแสนรักที่ยังคงนิ่งเฉยที่เงยหน้าขึ้นน้อยๆแต่สองมือเรียวยังคงกดสะโพกของตัวเองรับแรงกระแทกหนักหน่วงอย่างไม่คิดจะมองหน้าของเขาอีก...ทำไม...ทำไมรีไวล์ถึง!!กลายเป็นคนโหดร้ายขนาดนี้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันไม่ใช่แบบนั้นทั้งๆที่กำลังกระทำทารุณเขาแต่กลับไม่มีคำพูดปลอบใจหรืออะไรเลยสักคำ...ใจดำรีไวล์ใจดำอำมหิตย์เกินไปแล้ว
"รี...ไวล์...ฉันเกลียดนายที่สุด...ฮึก....เกลียดๆ...ฉันเกลียดนายได้ยินมั้ย!!!!"
ใบหน้าคมหล่อเหลาเงยขึ้นน้อยๆเพื่อที่จะไม่ต้องมองใบหน้าที่แสนเจ็บปวดตรงหน้าไม่อยากจะใจอ่อนอีกครั้งเพราะมันจะทำให้เขาต้องเสียร่างบอบบางไปอีกตลอดชีวิตหากเขาใจอ่อนร่างบอบบางก็ต้องวิ่งไปหาคนอื่นถ้าจะต้องทนดูคนอื่นทำร้ายร่างบอบบางนี่สู้เขาเป็นคนทำมันเองยังจะดีซะกว่าสู้เขาเป็นคนกักขังเอาไว้ข้างๆกายเขาไม่ให้ใครได้สัมผัสแตะต้องมันยังจะดีซะกว่าปล่อยให้ตกไปเป็นของคนอื่น
"ฉันรักนายเอเลน...รักนายคนเดียว"
ร่างบอบบางที่ตอนนี้สะรึมสะรือจนแทบจะครองสติเอาไว้ไม่อยู่ในหูแว่วเสียงของพี่ชายแสนรักกำลังบอกรักเขางั้นเหรอหรือว่าเขาแค่ฝันไป...รีไวล์บอกว่ารักเขาอย่างนั้ยสินะ
"....รี....ไวล์......รัก......"ประโยคขาดๆหายๆครั้งสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบลงไป
ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่กระแทกแกนกายของตัวเองให้เร็วขึ้นและแรงขึ้นเมื่อความอดทนกำลังจะหมดลงและคราวนี้เขาดึงแกนกายของตัวเองออกมาจนสุดก่อนจะกระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วงพร้อมๆกับน้ำสีขาวขุ่นฉีดพุ่งเข้าไปในช่องทางสีหวานแต่ดูเหมือนมันจะเยอะจนเกินไปจนล้นออกมาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าขาของร่างบอบบางด้านใต้ใบหน้าคมหล่อเหลาหอบหายใจน้อยๆก่อนจะค่อยๆถอนแกนกายของตัวเองออก
นัยน์ตาสีขี้เถ้าเพ่งมองใบหน้ามนที่สลบไสลอยู่ตรงหน้าและหน้าที่ฉีดเผือดไร้เลือดฝาดไปหล่อเลี้ยงทำใหสิติของเขาเริ่มกลับมานัยน์ตาสีขี้เถ้าเบิกกว้างที่สุดเท่าที่เคยเป็นมาก่อนจะค่อยๆก้มลงมองที่หว่างขาของร่างบอบบาง
"เอเลน!!!!!"
หยาดน้ำสีแดงสดผสมกับน้ำสีขาวขุ่นเจิ่งนองไปทั่วพื้นทำให้สองมือเรียวคว้าร่างบอบบางที่งสลบไสลเข้ามากอดไว้แน่น
"เอเลน....เอเลนพี่ขอโทษ!!!!"
กว่าจะตั้งสติได้ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่กว่าใครพาร่างบอบบางเข้าไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำก่อนจะแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วพาขึ้นรถขับออกไปทันที






ปังปังปังปัง!!!!
........."ยัยแว่นเปิดประตู!!!!ยัยแว่น!!!"
เสียงเคาะประตูที่ไม่น่าจะเป็นมือดังสลับกับเสียงตะโกนดังลั่นไม่กลัวว่าชาวบ้านชาวช่องเขาจะตื่นเอาทำให้สาวแว่นบ้าเลือดงัวเงียขึ้นมาเปิดหน้าต่างมองหาเจ้าของเสียง
"ยัยแว่นเปิดประตูเดี๋ยวนี้!!!"นั่นไงในที่สุดก็เจอเพื่อนไซส์ต่ำกว่ามาตรฐานผู้ชายนิดหน่อยกำลังอุ้มร่างของใครบางคนเอาไว้แล้วใช้เท้าเตะประตูบ้านของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย
"เออ!!!ไปแล้วไปแล้วหยุดเตะประตูเดี๋ยวนี้เล้ยรีไวล์"
เธอตะโกนลงไปบอกเพื่อนซี้ก่อนจะคว้าแว่นขึ้นมาสวมแล้วรีบวิ่งลงไปเปิดประตูทันที"อ้าวเอเลนนี่ไปโดนอะไรมา"และทันทีที่เห็นว่าคนในอ้อมแขนเป็นใครเธอก็รีบถามเพื่อนร่างกระทัดรัดทันทีแต่เจ้าตัวกลับรีบพาร่างไร้สติของน้องชายเข้าไปวางเอาไว้บนเตียงทันทีและที่เขามาที่นี่แทนที่จะไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็เพราะยัยแว่นกระหายเลือดนี่ก็เป็นแพทย์และเปิดคลีนิคเหมือนกันถึงนานๆทีจะได้เปิดให้บริการสักครั้งก็เถอะ
สาวแว่นเห็นสีหน้ากังวลของเพื่อนหนุ่มที่มีสีหน้าแบบนี้ให้กับเด็กหนุ่มคนนี้คนเดียวเท่านั้นแต่ใหนแต่ไรมาแล้วจึงรีบเข้าไปตรวจดูร่างกายของร่างบอบบางทันที
"นายถอยไปก่อนฉันจะตรวจ!"
เมื่อเห็นว่าเพื่อนชายของเธอยังนั่งกุมมิอบางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
"แผลอยู่ช่วงล่างฉันไม่ได้เกะกะเธอยัยแว่นรีบห้ามเลือดเร็วเข้า!!!"
"เอ๋!!..โอเค้....งั้นขอโทษน้าเอเลน"
สาวแว่นขอโทษร่างบอบบางก่อนจะใช้ผ้าสีขาวผืนใหญ่คลุวช่วงล่างของร่างบอบบางเอาไว้แล้วใช้โคมไฟส่องตรวจดูบาดแผลทันทีแล้วก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น
"เฮ้ย!!!!...ระ..รีไวล์เอเลนโดน$$#@$&&@*^งั้นเหรอ...ใครๆเป็นคนทำ??"
หญิงสาวร้องไม่เป็นภาษาก่อนจะหันไปหาเพื่อนซี้ที่ยังคงนั่งนิ่งไม่สนใจสิ่งที่เธอพูด
"ยะ...อย่าบอกนะว่านายเป็นคนทำน่ะ...อ๊ายฉันรับไม่ได๊...รีไวลนายต้องบ้าไปแล้วแน่ๆไม่จริงใช่มั้ยไม่จริ๊ง!!!"
"เลิกโวยวายแล้วทำแผลต่อได้แล้วฉันให้เธอห้ามเลือดไม่ใช่มาสอบสวนชั้น!!"
"นายเป็นคนทำจริงๆด้วยโอ๊ยยพระเจ้าช่วยกล้วยทอดนี่นายทำอะไรลงไปทำแบบนี้กับเด็กน้อยผู้แสนน่ารักของฉ้าน...รีไวล์นายมันโรคจิตชัดๆ"
สาวแว่นยังคงโวยวายต่อไปเพราะเรื่องที่เพื่อนของเธอทำมันเกินกว่าจะรับฟังได้แล้วแล้วนี่ถ้าหากรสนิยมทางเพศของเพื่อนชายเธอเปลี่ยนไปประเทศนี้ก็จะขาดยีนส์เด่นของเขาไปด้วยแล้วอย่างนี้ใครจะเป็นทายาทของคนเก่งกาจเช่นนี้หากไม่มีใครสืบสายเลือดโลกนี้คงจะถึงกาลอวสานเอ๊ะเดี๋ยวๆหลังๆมาทำไมเจ้าหล่อนถึงกังวลแปลกๆชักจะเลยเถิดไปแล้วกับมากับมาเข้าเรื่อง!!!
"หุบปากถ้าเธอไม่หยุดโวยวายฉันจะพังคลีนิคของเธอให้ดู"
ถ้าไม่ได้เสียงทุ้มเข้มเข้ามาขัดจังหวะสงสัยสาวแว่นคงจะคิดไปจนถึงโลกหน้าแล้วแน่ๆ
"เออจะทำเดี๋ยวนี้แหละ!!"
เธอหันกลับไปสนใจบาดแผลของร่างบอบบางต่อถึงในใจจะอยากซักเพื่อนซี้ของเธอใจจะขาดก็เถอะว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงได้ทำอะไรรุนแรงแบบนี้ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าน้องชายของตัวเองเป็นฮีโมฟีเลียแต่ก็ยังทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงขนาดนี้แถมเส้นเลือดบริเวณนี้มันก็มีเยอะมากซะด้วยแต่เอ๊ะ....เดี๋ยวนะเส้นเลือดเยอะเหรอ
"เฮ้ๆนี้มัน!!!"
ใบหน้าคมหล่อเหลาเงยขึ้นมองหน้าเพื่อนสาวกระหายเลือดของตัวเองด้วยความแปลกใจทันที
"รีไวล์ถอดเสื้อเอเลนให้ฉันที"
"มีอะไรยัยแว่น!!"
"ฉันก็ไม่แน่ใจขอดูที่กระดูกสันหลังของเอเลนก่อน!!"
สาวแว่นรีบถอดถุงมือออกแล้ววิ่งขึ้นมาจับร่างบอบบาให้นอนคว่ำหน้าลงโดยมีชายหนุ่มเป็นคนคอยประคองเอาไว้"ว้าวรีไวล์ดูนี่ดูนี่เห็นรอยแผลเป็นพวกนี้มั้ยฉันว่าแล้วว่าทำไมเลือดถึงออกน้อยผิดปรกติ"สาวแว่นชี้ไปตามข้อต่อของกระดูกที่มีรอยแผลเล็กๆแทบจะครบทุกข้อให้ชายหนุ่มมองดูด้วยสีหน้างุนงง
"หมายความว่าไง??"
"ก็หมายความว่าหนูน้อยเอเลนของฉันหายจากโรคนี้แล้วน่ะสิแสดงว่าที่เอเลนไปอเมริกาก็เพราะไปปลูกถ่ายเสเตมป์เซลส์รักษาโรคของตัวเองด้วยไงฉันก็ได้ข่าวเหมือนกันว่าที่โน่นคิดวิธีรักษาโรคนี้ได้แล้วแต่ไม่คิดว่าเจ้าหนูเอเลนจะไปรับการรักษา....คงจะทรมามากเลยทีเดียวล่ะรีไวล์"
หญิงสาวหยุดพูดต่อนิดนึ่งก่อนที่ปลายนิ้วของเธอจะลูบลงไปบนรอยแผลเป็นเล็กๆพวกนั้น
"ทรมานยังไงพูดให้จบ??"ถึงจะรู้สึกอึ้งระคนดีใจแต่เขาก็ยังอยากรู้ว่าน้องชายของเขาต้องเจออะไรบ้างแล้วต้องทนทรมานยังไง
"ก็นายคิดดูว่าเข็มเล่มใหญ่ที่สุดต้องแหวกผ่านเนื้อหนังของเอเลนเข้าไปทั้งๆที่ไม่มียาสลบเพราะว่ามันจะทำให้สเตมป์เซลส์อ่อนแอและใช้ไม้ได้และกว่ามันจะผ่านเข้าไปถึงไขกระดูกได้มันจะเจ็บปวดแค่ใหนดูจากรอยแผลพวกนี้เอเลนคงจะถูกทำแบบนั้นนับร้อยๆครั้งเลยทีเดียวนายคิดดูสิว่าเอเลนต้องฝืนทนต่อความเจ็บปวดพวกนี้ขนาดใหนต้องมีความอดทนเป็นเลิศเลยทีเดียว"
ได้ฟังแบบนั้นมือเรียวข้างนึ่งก็ทาบลงบนแผ่นหลังบางของน้องชายตัวเองแวไล่มันลงไปตามรอยแผลเล็กๆนั่นทีละแผลทีละแผลแล้วนึกถึงความเจ็บปวดที่ร่างบอบบางนี้ต้องทนแบกรับปรกติเแล้วเข็มจะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นแต่นี่หมายความว่าคงจะโดนเข้าที่เดิมซ้ำจนนับครั้งไม่ถ้วนถึงได้ทิ้งรอยแผลเอาไว้แบบนี้
"เอเลน!!!"
"ช่วยพลิกที"เพื่อนสาวบอกให้ชายหนุ่มพลิกร่างของน้องชายกลับมานท่านอนหงายสายตาของเธอมองสีหน้านิ่งค้างของเพื่อนน้อยๆก่อนจะอมยิ้มแล้วหันไปทำแผลต่อ
"แล้วทำไมเลือดถึงได้ออกเยอะนักถ้าหากว่าเอเลนหายแล้ว...ยัยแว่น!!"
"ห๊า!!!นายจะให้ฉันพูดจริงๆเหรอฉันเป็นสาวเป็นแส้นะ"
เธอหันไปสบกับนัยน์ตาสีขี้เถ้าที่จ้องมาที่เธอเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อประมาณว่าอย่างเธอเขาไม่นับรวมว่าเป็นหญิงหรือชาย...รีไวล์ชั่งโหดร้าย!!
"ก็ได้ก็ได้....มันก็เกิดจาการทีนายดึงดันกระแทกกระทันอย่างไปราณีปราศัยร่างกายของเอเลนเลยน่ะสิ....ฉันเพิ่งรู้นะเนี้ยว่าพวกเก็บกดนี่ระบายอารมณ์ได้น่ากลัวขนาดนี้เข้าขั้นซาดิสต์เลยนะนายเนื้ย"
สาวแว่นชำเรืองมองใบหน้าที่นิ่งสนิทของเพื่อนน้อยๆด้วยความแปลกใจทั้งที่ปรกติแล้วจะสวนกลับมาทันทีแต่คราวนี้กลับเงียบหรือจะยอมรับว่าตัวเอเป็นพวกซาดิสต์กันแน่
"ฉันถามจริงๆเถอะทำไมนะ...."
"ก็ฉันรักไง....รักมาตลอดฉันทนไม่ได้ที่จะเห็นใครเข้ามาแตะต้องเอเลน....ฉันผิดงั้นเหรอยัยแว่นที่ฉันเป็นแบบนี้"
สาวแว่นเดินมาตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆหลังจากที่เธอตรวจเช็คบาดแผลเสร็จแล้ว
"มันไม่ผิดหรอกรีไวลถ้านายกล้าที่จะซื่อตรงกับหัวใจตัวเองและยอมรับมัน"
"หึอย่างเธอก็พูดอะไรเข้าท่ากับเค้าด้วยนะ"
"ฮ่าๆๆไม่ได้คิดเองหรอกจำในหนังเมื่อคืนมาน่ะ"
"ยัยบ้า" ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครหันไปแขวะเพื่อนสาวทีนึ่งก่อนจะหันกลับมาสนใจร่างบอบบางที่ยังนอนสลบไสลต่อแต่ที่เพื่อนสาวของเขาพูดก็ถูกถึงจะจำในหนังหรืออะไรมาก็ชั่งแต่ขอแค่ซื่อตรงกับหัวใจของตัวเองแล้วยอมรับมันให้ได้เท่านี้ก็พอแล้วไม่ใช่รึไง...ไม่ต้องหนีมันไปอีกก็พอแล้ว.....
.
.
.
.
...
..
.
..
.
.
.
..
.
.
.
..
.Tobecontinue..........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น