:Facfiction [KHR]
:Romantic
:NC-18+
คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดนะค่ะขอบคุณค่ะ
เสียงเพลงเบาๆขับกล่อมผู้คนจำนวนหนึ่งในบาร์เล็กๆที่เป็นพื้นที่เฉพาะที่ประดับไปด้วยแสงสีม่วงอำพันน่าหลงไหล...ใช่มันเป็นพื้นที่เล็กๆสำหรับผู้ที่มีจิตใจแบบเดียวกันได้มาพบปะสังสรรกันเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองก่อนจะกลับไปสวมหน้ากากบนโลกที่เต็มไปด้วยการเสแสร้งอีกครั้ง
และมุมด้านในสุดแของเคาน์เตอร์ร่างบอบบางของใครบางคนกำลังยกเครื่องดื่มแรงๆแก้วที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่อาจรู้ได้มือบางข้างหนึ่งยกขึ้นเท้าคางก่อนจะเบี่ยงตัวไปมองบนเวทีเล็กๆแต่ผู้คนที่แออัดอยู่ตรงนั้นกลับให้ความรู้สึกว่ามันไม่ได้เล็กมากมายขนาดนั้น...ทั้งๆที่เขาคิดว่าจะมาหาที่สงบๆเพื่อปลดปล่อยความเจ็บปวดที่คับแน่นอยู่ในอกให้มันบรรเทาลงไปบ้างแต่ผิดถนัดที่วันนี้เป็นวันศุกร์วันที่คนดังของบาร์อย่างร่างสูงโปร่งสีน้ำเงินเข้มคนนั้นขึ้นแสดงบนเวทีเพราะท่าทางที่เร้าร้อนกับใบหน้าหล่อเหลาที่เร้าใจนั่นเรียกเสียงฮือฮาของพวกเสือสิงห์กระทิงและหมาป่าที่ขอบเวทีจนอื้ออึงไปทั่วทั้งบาร์แต่เขาไม่สนใจหรอกไม่ได้สนใจไอ้หน้าหล่อบนเวทีนั่นเลยสักนิดเพราะเขาไม่ได้เป็นอย่างคนพวกนั้นเขาเป็นชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอนแต่ที่มาที่นี่ก็แค่มาหามุมสงบๆก็เท่านั้น...ใบหน้าสวยสะบัดสองสามทีก่อนจะหันมาสั่งเครื่องดื่มที่จะทำให้ลืมใครอีกคนได้อีกครั้ง
"คุณฮิ....บาริ..."
เสียงอ้อแอ้จนแทบไม่เป็นภาษาพร่ำเรียกชื่อของชายที่ตนหลงรัก...ชายที่สลัดรักของตนจนย่อยยับจนต้องมานั่งตายซากอยู่ตรงนี้...ทั้งๆที่ปฏิเสธมาโดยตลอดว่าเขาไม่ใช่พวกที่จะมาหลงรักคนเพศเดียวกันทั้งๆตอกย้ำจนจำขึ้นใจแล้วว่าตนเป็นชายทั้งแท่งร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยกับความจริงที่ว่าเขาหลงรัก ฮิบาริ เคียวยะ จนบ้ากล้าที่จะเข้าไปสารภาพรักแต่กลับโดนปฏิเสธกลับมาอย่างหน้าตาเฉยด้วยเหตุผลที่ว่า "ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้วไอ้สัตว์กินพืช"
สองมือยกขึ้นมากุมหน้าของตัวเองเอาไว้เมื่อหยาดน้ำใสๆมันไหลออกมาแบบไม่รู้ตัวเมื่อนึกถึงคนพูดที่เลือดเย็นของเขาคนนั้น....แต่จะว่าไปคำพูดแบบนั้นเขาก็พึ่งจะพูดมันออกไปกับใครบางคนเหมือนกัน....ร่างเล็กๆหัวสีน้ำตาลฟูฟ่องคนนั้น...มือบางละออกมาน้อยๆเมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารักที่ดูเจ็บปวดเมื่อตอนบ่ายนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ที่สั่นระริกคลอน้ำเหมือนกำลังจะร้องไห้....หรือว่าตอนนี้จะกำลังร้องไห้อยู่เหมือนกับเขาในตอนนี้นะ...
"ขอโทษนะ....สีนะ...โยชิคุง...ฮึก..."
มือบางยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอีกครั้งเมื่อน้ำใสๆมันไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...ถ้าหากตอนนี้เขา....จะกลับไปหาร่างเล็กคนนั้นจะยังทันอยู่รึเปล่านะ...แล้วจะทำหน้าแบบใหนกันแล้วจะพูดกับเขายังไง...บอกว่าโดนสลัดรักแล้วเรากลับมาเริ่มต้นกันใหม่
แบบนั้นรึไง...มันจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะตัวเรา...
ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทก้าวเข้ามาหยุดที่เคาน์เตอร์ด้านในสุดของร้านและนั่นทำให้แขกที่นั่งอยู่ก่อนหน้าถอยร่นไปนั่งที่อื่นทันทีที่รับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่อยู่รอบตัวของร่างสูงใหญ่ใหนจะห่อผ้าที่สะพายอยู่บนบ่านั่นอีกมันส่งกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปจนทั่วห้องแต่เขาก็ไม่ผิดจะสนใจเพราะมันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้วที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา....แต่ที่แปลกไป...นัยน์ตาสีเปลือกไม้คู่คมเหลือบมองหัวสีเงินของคนข้างๆด้วยความแปลกใจนิดๆเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้าอยู่ใกล้เขามากขนาดนี้....แต่ไหล่เล็กๆที่กำลังสั่นน้อยๆนั่นทำให้เขารู้ว่าร่างบางนี่กำลังร้องไห้...ริมฝีปากคู่คมเหยียดยิ้มน้อยๆอย่างนึกขำ
นี่ก็คงจะเป็นพวกอกหักรักคุดที่กำลังเสียอกเสียใจอยู่อย่างนั้นสินะ
"ถูกทิ้งมารึไง??"
น้ำเสียงทุ้มเย็นที่ดังอยู่ข้างๆทำให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมามองตาขวางแต่มันก็ไม่ได้ทำให้อีกคนกลัวเลยสักนิด
"ไม่ได้อกหักเฟ้ย!!!....ฮึก....แต่หักอกเค้ามาตะหาก!!!"
"สภาพแบบนี้ใครจะชื่อ...อกหักชัดๆ"
ใบห้าคมหล่อเหลาหันมาจ้องใบหน้าสวยที่ดูเย่อหยิ่งให้ชัดขึ้นแล้วก็ให้เหยียดยิ้มพอใจกับคนที่อวดเก่งไม่เลือกที่แบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ต่อมอยากแกล้งของเขาเต้นระริกเพราะนานมากแล้วที่ไม่เคยมีใครมาตะคอกใส่หน้าเขาแบบนี้ครั้งสุดท้ายที่จำได้ก็เกือบห้าปีได้แล้วมั้งแต่ไอ้คนอวดดีนั่นมันก็ไปเฝ้ายมบาลเรียบร้อยแล้วด้วย
"แก๊!!!...ไอ้ปากเสียอย่าคิดว่าตัวโตแล้วชั้นจะกลัวแกนะเฟ้ยใสหัวไปไกลๆเลยป่ะ..คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ด้วย!!"
"ฮะฮะ...ดุซะด้วยแบบนี้สิถึงน่าเล่นด้วยหน่อย"
"ใคร!!!...ใครเล่นกะแกฟ๊ะ...ไอ้บ้า...."
"น่าๆ...นายเป็นคนแรกในรอบห้าปีเลยนะที่กล้าอยู่ข้างชั้นเดี๋ยววันนี้ชั้นเลี้ยงโอเคมั้ย???"
"ฉันมีปัญญาจ่ายไม่ต้องยุ่ง!!!"
"ฮะฮะฮะ"
เสียงโวยวายผสมกับเสียงหัวเราะที่น่าขนลุกของทั้งสองคนทำเอาคนในร้านถึงกับผวาไปตามๆกัน...กลัวว่าร่างบางจะยั่วต่อมโมโหร้ายของอีกฝ่ายเข้าถ้าเป็นแบบนั้นปาตี้คืนนี้ต้องอาบไปด้วยเลือดแน่ๆ....แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่านักฆ่าหน้าหยกคนนั้นกำลังสนุกสนานกับการยั่วยุอารมณ์ของร่างบางนั่นเพราะใบหน้าสวยๆที่ปั้นหน้ายักใส่เขามันดูน่ากลัวซะที่ใหนแต่มันทำให้เขาสนุกกับสีหน้าแบบนั้นมากเลยทีเดียว
"แก!!!....เคยถูกสารภาพรัก....กับถูกสลัดรักในวันเดียวกันมั้ย??"
"อา~...อกหักมาจริงๆสินะ"
"ก็บอกว่าไม่ได้อกหักไง!!"
"ฮะฮะ...คร้าบๆไม่ได้อกหัก...แล้วไปหักอกใครมาล่ะ??"
น้ำเสียงตอนท้ายจริงจังขึ้นจนใบหน้าสวยหันมามองอย่างไม่อยากจะเชื่อหูเพราะก่อนหน้ามีแต่คำพูดกระเซ้าเย้าแหย่ไปเรื่อยแต่ดูเหมือนเขาจะคิดผิดยังไงก็ไม่รู้เมื่อสายตาคู่คมนั้นจับจ้องตัวเองอยู่ก่อนแล้วไม่รู้ว่าเพิ่งจะมองหรือว่าจ้องอยู่แบบนี้ตั้งแต่แรกก็ไม่แน่ใจ
"ฉะ...ฉันถามแกก่อนจะไอ้บ้าแกมีสิทธิ์อะไรมาย้อนฉัน!!"
"ฮะฮะ....นั่นสินะ....ชั้นน่ะไม่เคยถูกใครหักอกหรอกนะ....เพราะชั้นจะไม่ปล่อยให้คนที่กล้ามาล้อเล่นกับหัวใจชั้นมาเดินลอยหน้าลอยตาอยู่บนโลกนี้ได้หรอก"
ใบหน้าคมที่นิ่งสนิทกับน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกจนรู้สึกเย็นวาบที่สันหลังทำเอานัน์ตาสีเขียวมรกตถึงกับเบิกกว้างก่อนจะเสไปมองแก้วที่ตรงหน้าของตน...จนถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดมหันต์ที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ทั้งๆที่คนรอบข้างก็หนีไปทางอื่นกันหมดพึ่งจะรู้สึกตัวว่านั่งอยู่กับตัวอันตรายไม่มีผิดเพี้ยนทั้งสายตาที่น่าขนลุกนั่นอีกแบบนี้แล้วรู้สึกสร่างเมาขึ้นมาทันตาเลยแหะ
"นะ...นายจะจริงจังเกินไปแล้ว...ฉันกลับล่ะ!!"
มือบางควักแบงค์จำนวนหนึ่งวางไว้บนหน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะลุกจากเก้าอี้แต่ยังไม่ทันจะก้าวขาเลยด้วยซ้ำต้นแขนก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ซะก่อน
"เดี๋ยว!!!...ชั้นยังอยากจะคุยกับนายต่อ....อยู่ต่ออีกหน่อยสิ"
น้ำเสียงที่เข้มขึ้นทำเอาร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือกจนแทบจะก้าวขาไม่ออกรู้สึกตัวอีกทีก็ถูกกดให้นั่งลงที่เดิมซะแล้ว....บรรยากาศอึมครึมของทั้งสองคนทำเอาหลายต่อหลายคนถึงกับหายใจไม่ทั่วท้องตามร่างบางไปด้วยแต่โชคดีที่เหมือนมีระฆังช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทันเมื่อเด็กในร้านคนหนึ่งเดินเข้ามาหาร่างสูงใหญ่
"คุณยามาโมโตะครับคุณดีโน่พร้อมที่จะพบแล้วครับ"
"เดี๋ยวชั้นตามไป"
ใบหน้าคมหันกลับมามองคนข้างๆที่นั่งตัวเกร็งไม่ขยับเขยือนไปใหนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังขู่ฟ่อๆอยู่เลย
"ฮะฮะ...เป็นอะไรไป?...กลัวชั้นรึไง??...ชั้นไม่ได้อยากจะทำให้นายกลัวซะหน่อยขอโทษนะ"
"คะ...คะ..ใครกลัวแกกัน!!!...ฉันแค่อยากกลับแล้วก็เท่านั้น"
"ถ้างั้น.....รอชั้นแป๊ปนึ่งก็แล้วกันเดี๋ยวจะรีบกลับมา"
"......"
ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากริมฝีปากสีระเรื่อแต่คนก้มน้ามากระซิบที่ข้างหูกลับเหยียดยิ้มพอใจก่อนจะปลีกตัวไปคุยธุระของตัวเองกับเจ้าของบาร์แห่งนี้คนที่เปิดที่นี่เพื่อบังหน้าธุระกิจมืดของตัวเอง...จะว่าไปเขาก็ไม่เลยทำอะไรที่ผิดกฏหมายมากมายนักก็แค่มาเฟียที่คอยถ่วงให้โลกมืดมันยังสมดุลกันได้ก็เท่านั้น
ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ลับตาไปร่างบางเองก็รีบลุกขึ้นทันทีแต่บาเทนเดอร์ที่อยู่ตรงหน้ากลับปรามเอาไว้ซะก่อน
"อย่าดีกว่านะครับถ้าเขาคนนั้นบอกให้รอก็รอเถอะนะครับมันจะได้ไม่มีเรื่องยุ่งยากตามมาทีหลัง"
"คระ...ใครจะสนกันเล่าอยู่ต่อก็โง่แล้ว!!!"
"ผมเตือนแล้วนะครับ"
ใบหน้าสวยที่ล้อมกรอบด้วยเส้นไหมสีเงินหันมามองหน้าของบาเทนเดอร์หนุ่มนิดนึงก่อนจะออกจากบาร์ไปโดยไม่สนใจคำเตือนใดๆทั้งสิ้น
ร่างบอบบางก้าวลงจากแท็กซี่ที่หน้าคอนโดของตัวเองใบหน้าสวยที่ซับสีจัดจากฤทธิ์แอลกอล์ฮอหันมองซ้ายทีขวาทีอย่างหวาดระแวงเมื่อคำพูดของบาเทนเดอร์หนุ่มลอยเข้ามาในหัวก่อนจะถอนหายใจโล่งอกแแล้วก้าวเข้าไปในลิฟท์นิ้วเรียวเล็กกดขึ้นไปที่ชั้นบนสุดแต่ทันทีที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิดสนิทด้ามสีดำของอะไรบางอย่างก็สอดเข้ามาขวางประตูเอาไว้ซะก่อนจนร่างบางถึงกับนิ่วหน้า...นั่นมันด้ามขอฝักดาบไม่ใช่รึไง??...
"ชั้นบอกให้นายรอชั้นไม่ใช่รึไง??"
"เฮ้ย!!!!...กะ...กะ...แกมาได้ไง!!!???"
"หนีมาแบบนี้ไม่ดีนะชั้นอุตส่าห์อยากจะคุยกับนายนะ...โกคุเดระ ฮายาโตะ"
"แกรู้จักชื่อฉันได้ไง???"
"แบบนี้มันต้องทำโทษให้สาสมชั้นบอกนายแล้วไม่ใช่รึไงว่าจะไม่ปล่อยให้เดินลอยหน้าลอยตาต่อไปได้น่ะ"
"เฮ้ย!!!...ฟังกันบ้างสิฟ๊ะพล่ามอะไรอยู่ได้!!!"
สองขาเรียวก้าวถอยหลังวนไปมาอยู่แบบนั้นเมื่อถูกอีกคนไล่ต้อนแต่มีเหรอที่เขาจะยอมจนมุมง่ายๆแต่ถึงอย่างนั้นใจก็เต้นโครมครามอย่างไม่มีสาเหตุ...รึว่าเขากำลังกลัวไอ้บ้านี่...ไม่มีทางเขาไม่ได้กลัวมันซะหน่อย...แต่หน้าแบบนั้นมันก็หื่นไม่ใช่เล่นเลยนะเว้ย
"อ๊ะ!!!"
เพราะมัวแต่คิดอะไรเตลิดไปไกลจนในที่สุดมือใหญ่ก็คว้าตัวของเขาเอาไว้ได้แถมยังยิ้มร้ายน่าขนลุกอีกตะหาก...แต่ถึงอย่างนั้นกำปั้นเล็กๆก็ระดมทุบลงไปที่แผงอกแกร่งไม่ยั้งแต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บเลยสักนิดใบหน้าคมหล่อเหลายังคงยิ้มเย็นตอบกลับมาให้...รอยแผลเป็นที่ปลายคางยิ่งเสริมให้รอยยิ้มแบบนั้นน่ากลัวเข้าไปอีก
"กะ...กะ...แกจะทำอะไร!!!??"
"ก็ทำโทษคนที่ไม่รักษาสัญญาไง"
"ฉันไปสัญญากับแกตั้งแต่เมื่อไหร่กันไอ้บ้าฉันไม่เคยบอกแกสักคำว่าจะคอยแกแล้วจะมาทึกทักอะไรของแกฟ๊ะ...อ๊า!!!!"
เพียงแค่โวยวายจบเท่านั้นริมฝีปากคมก็บดเบียดลงมาทันทีจนร่างบางได้แต่เบิกตากว้างก่อนจะรีบปิดลงด้วยความตกใจ...แผ่นหลังบางถูกดันเข้ากับผนังของลิฟท์ก่อนที่ท่อนขาแข็งแรงจะแทรกเข้าตรงกลางหว่างขาของร่างบางพร้อมกับรั้งเอวบางให้แนบชิดยิ่งขึ้นแต่ดูเหมือนหน้ามนคนในอ้อมแขนจะไม่ยอมง่ายๆเมื่อริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นไม่ยอมให้ลิ้นของเขาสอดใส่เข้าไปได้ง่ายๆเดือดร้อนมืออีกข้างที่ต้องยกมาบีบปลายคางมนให้เผยอออกและเพียงแค่มันเผยอออกน้อยๆปลายลิ้นร้อนก็สอดแทรกเข้าไปทันทีแต่!!...
"โอ้ย!!!.."
มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาปาดเลือดที่มุมปากของตัวเองก่อนจะยิ้มร้ายกาจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเพราะตั้งแต่เขาจูบใครมามากมายยังไม่เคยมีหน้าใหนกัดเขาแบบนี้ดีที่ชักลิ้นกลับมาทันจึงถูกกัดแค่ที่ริมฝีปาก
"ร้ายนักนะ...แต่แบบนี้สิค่อยตื่นเต้นขึ้นมาหน่อย!!!"
พูดจบมือใหญ่ยกขึ้นมาบีบที่ปลายคางของร่างบางอีกครั้งก่อนจะบดเบียดลงไป
"โอ๊ยยย..ปล่อยนะ!!!"
คราวนี้เป็นร่างบางที่โดนบ้างมือบางจึงรีบยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้กลิ่นคาวของเลือดลอยมาเตะจมูกทันที...นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองใบหน้าคมที่อยู่ห่างแค่คืบเหมือนกับจะกินเลือดกินเนื้อไม่มีความเกรงกลัวเลยสักนิด
"หึหึ...ถ้านายกัดชั้นอีกชั้นจะไม่กัดนายแต่....ชั้นจะกินนายเข้าไปทั้งตัวเลยคอยดู"
"แกมันบ้าไปแล้ว...อ๊ะ....อึก..."
ร่างสูงใหญ่ดันเข่าของตัวเองขึ้นไปสัมผัสส่วนอ่อนไหวของอีกคนอย่างจงใจแล้วยิ้มร่ากับท่าทางตื่นๆของอีกคนพร้อมกับหลอกล้ออย่างคนมากปสพการณ์และมีหรือที่คนไม่ประสาจะทนไหวแรงเสียดสีที่ตั้งใจของอีกคนทำเอาร่างบางถึงกับกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น
"นายนี่ไร้เดียงสาชะมัดแค่โดนนิดโดนหน่อยก็ตัวสั่นซะแล้วเหรอเนี้ย"
"กะ...กะ...แกพูดบ้าอะไรอ๊ะ....ฮ้า"
มือร้อนวางลงไปตรงส่วนอ่อนไหวของร่างบางพร้อมกับนวดคลึงเบาๆเหมือนเป็นการทักทายแต่อีกคนกลับกัดฟันแน่นระงับอารมณ์พุ่งพล่านที่ไม่เคยรู้จักอย่างทรมารยิ่งทำให้อีกคนชอบใจมากขึ้นมือร้อนสอดแทรกผ่านช่องว่างที่ขอบกางเกงเข้าไปหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวจนร่างบางดิ้นพล่านอยู่ในอ้อมแขนของตัวเองก็ยิ่งกลั่นแกล้งหนักขึ้นจนสองแขนผอมบางโอบรอบคอของร่างสูงเอาไว้แน่นเอวบางเผลอขยับตามจังหวะของคนมากประสพการณ์ที่ชักพาไปทั้งๆที่ไม่เคยรู้แต่ร่างกายกลับขยับไปเองตามสันชาติญาณของการตอบสนอง
"อึก...พะ..พอได้แล้ว...อ้า...อย่าทำแบบนั้นฉะ...ฉันไม่ไหว...อื้อ..."
"หึหึ...อยากให้ชั้นทำให้มากกว่านี้รึเปล่า...ฮายาโตะ"
"ฉะ...ฉัน...ไม่ปล่อย...อือ!!"
"ฮะฮะฮะ...ยังปากแข็งได้อีกนะ...แต่ร่างกายนายมันบอกชั้นว่าอยากน่ะ...ตรงนี้มันเยิ้มไปหมดแล้วรู้ตัวรึเปล่าหื๋อ??"
"อาา...อึก..ฉันไม่ไหวแล้ว...อืมม"
ริมฝีปากคมเหยียดยิ้มพอใจก่อนจะเคล้นคลึงแรงขึ้น..เสียงหอบหายใจผสมผสานไปกับเสียงครางอย่างลืมอายก็ยิ่งดังระงมขึ้นไปอีกมือร้อนจึงเลื่อนไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์สีซีดทันทีแต่ก่อนจะรูดซิบลง
ติ๊งงงง!!!!
เสียงลิฟท์ดังขึ้นก่อนจะมีชายหญิงคู่หนึ่งก้าวเข้ามาแล้วทั้งสองก็ซบอิงแอบกันโดยไม่สนใจพวกเขานัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองชั้นที่ทั้งสองจะขึ้นไป ยี่สิบหก ตอนนี้ลิฟท์อยู่ที่ชั้นยี่สิบและร่างบางนี่ก็พักอยู่ชั้นสามสิบหก....อา~~..การอยู่ในลิฟท์นานๆมันก็ไม่เลวเหมือนกันนะ...นัยน์ตาสีเปลือกไม้หันกลับมาสนใจคนที่ซุกหน้าที่ซับสีจัดเอาไว้กับอกตัวเองพร้อมกับหอบหายใจหนักหน่วงแล้วเหยียดยิ้มน้อยๆเพราะคิดว่าร่างบางนี่คงจะอารมณ์ค้างอยู่แน่ๆไม่งั้นมือบางคงไม่กำสาบเสื้อของเขาแน่นจนยับขนาดนี้หรอก
"ทนอีกนิดเดียว...ไหวมั้ย??"
เสียงกระซิบที่ข้างหูของอีกฝ่ายยิ่งทำให้อารมณ์ที่พุ่งพล่านเตลิดไปไกลริมฝีปากบางจึงเผลอตอบอีกคนไปอย่างลืมตัวยิ่งกลิ่นกายของอีกคนลอยมาเตะปลายจมูกมือบางก็ยิ่งกำสาบเสื้อเชิ้ตสีดำแน่นยิ่งขึ้น
"อือ...วะ...ไหว"
แต่ดูเหมือนเวลามันจะยาวนานเกินไปสำหรับคนที่ต้องทนใบหน้าสวยเงยขึ้นไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเว้าวอนเต็มทีและเพียงแค่ริมฝีปากคมกดจูบลงมาเบาๆอารมณ์ที่ถูกกักขังก็ยิ่งเตลิดไปไกลริมฝีปากบางจึงซุกไซร้ไปทั่วซอกคอของร่างสูงที่ยิ้มพอใจเป็นอย่างมากกับการกระทำของอีกคนและเพียงแค่ทั้งสองคนออกจากลิฟท์ไปทั้งมือและริมฝีปากคมก็ปรนเปรอความสุขสมให้กับร่างบางทันทีและมันร้อนแรงซะจนอีกคนแทบจะสำลักความรู้สึกแปลกประหลาดให้ได้
"...อืมมม"
"อยากให้ชั้นทำให้มากกว่านี้รึเปล่า??"
"ยะ...อยาก...อ๊ะ!!
เมื่อสติถูกครอบครองด้วยสัมผัสของอีกคนทุกคำตอบที่อีกฝ่ายอยากได้ยินจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ไม่นานลิฟท์ก็มาถึงจุดหมายของพวกเขามือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋าโค๊ตหยิบคีย์กาดออกมาเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วก่อนจะอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องแต่ความอดทนของเขามันหมดลงแล้วเช่นกันทั้งสองคนจึงนอนกอดก่ายกันที่หน้าประตูเท่านั้นมือใหญ่จัดการถอดอาภรณ์ของร่างบางและของตัวเองทันทีและแทบจะไม่ถึงนาทีร่างบอบบางผิวกายขาวผ่องก็นอนอยู่ตรงหน้าส่วนตัวเองเหลือเพียงกางเกงสีดำเข้ารูปตัวเดียวเท่านั้นเพราะไม่จำเป็นต้องถอดหมดใบหน้าคมเหยียดยิ้มร้ายก่อนจะซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องลงมาจนถึงแผ่นอกบางปลายลิ้นร้อนที่ลากไล้ลงไปเหมือนกำลังจะกลืนกินอีกคนเข้าไปยังไงยังงั้น
"อ๊า...ฮาาา"
ทุกพื้นที่ที่ลิ้นร้อนลากผ่านไม่มีจุดใหนเลยที่จะว่างเปล่าขาวนวลเนียนอยู่ได้ริมฝีปากคมที่กดจูบขบเม้มจนขึ้นสีน่ามองมากมายเอาไว้ก่อนจะเคลื่อนลงต่ำไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่ต้นขาเรียวสวยมือร้อนบีบเคล้นนวดคลึงสะโพกมนอย่างเมามัน...ปลายลิ้นร้อนแตะลงไปตรงส่วยปลายของส่วนอ่อนไหวจนร่างด้านใต้สะดุ้งเฮือกสองมือบางกำหัวสีดำที่ซุกอยู่ที่หน้าท้องของตัวเองเอาไว้แน่นและเมื่อริมฝีปากคมเข้าครอบครองส่วนอ่อนไหว
"อ้า...ฮ้า...ยะ...อย่าอ้า...ฮา...ฮา..."
เพียงแค่อีกฝ่ายขยับขึ้นลงเพียงไม่กี่ครั้งน้ำแห่งความสุขสมก็ฉีดพุ่งเข้าไปจนเต็มปากของคนที่เต็มใจรับไว้ก่อนจะคายมันใใส่มือของตัวเองนัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองร่างที่หอบหายใจหนักหน่วงตรงหน้าแล้วเหยียดยิ้มพอใจร่างกายของคนตรงหน้ามันไม่ทำให้เขาผิดหวังเลยแม้แต่นิดเดียว....มือข้างหนึ่งจับสองขาเรียวแยกออกจากกันก่อนจะสอดนิ้วที่เปียกแฉะเข้าไปที่ช่องทางที่ไม่เคยมีใครล้วงล้ำเข้าไปให้คนด้านใต้กระตุกเกร็งขึ้นมาอีกครั้ง
"อ๊ะ...ฮ้า..นะ...นายจะทำ...อึก...อะไร!!??
"ถึงตาชั้นบ้างแล้วล่ะ...อย่าเกร็งสิผ่อนคลายหน่อย...ฮายาโตะ"
เสียงกระแหบพร่าพร้อมกับกระเส่านิดๆดึงสติของร่างบางให้หลุดลอยไปอีกครั้งสองแขนบางกอดแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่นพร้อมกับทำตามคำร้องขอของร่างด้านบนอีกครั้งเมื่อเส้นทางเริ่มคุ้นชินนิ้วสองและสามจึงตามเข้าไปติดๆ
"อ๊า!!!...จะ...เจ็บ...หยุด..."
"ทนหน่อยอีกนิดเดียวก็หายเจ็บแล้วล่ะ"
"อื้อ!!!"
เหมือนถูกมนต์สะกดเมื่อเสียงทุ้มนั่นกระซิบร่างกายก็ทำตามอย่างขัดไม่ได้รู้ตัวอีกทีเสียงครางน่าอายของตนก็ดังระงมไปทั่วห้องแล้ว
"ชั้นจะอ่อนโยนกับนายไม่ต้องกลัวนะ...ฮายาโตะ"
"ขะ...เข้า...ใจแล้ว...อ๊ะ"
เสียงรูดซิปกางเกงทำเอาคนด้านใต้ใบหน้าซับสีจัดขึ้นมาทันทีแต่ถึงอย่างนั้นก็เหมือนกับโดนแกล้งเมื่อมือร้อนคว้ามือของตัวเองไปจับแกนกายของตัวเองแล้วรูดขึ้นลงให้เป็นจังหวะเดียวกับนิ้วทั้งสามของตนยิ่งทำให้ร่างบางหลับตาแน่นไม่อยากมองไม่อยากรับรู้เรื่องน่าอายที่ตนกำลังทำถึงแม้ในใจจะตีกันมั่วไปหมดแต่ร่างกายกลับขยับไปตามการชักนำของร่างสูงยิ่งได้ยินเสียงหอบหายใจหนักหน่วงของเขาก็ยิ่งนำพาตนจมลงไปสู่ห้วงแห่งความปรารถนามากขึ้นทุกที
"ฮายาโตะ"
"อืมม..."
"ฮายาโตะ"
"อ้า...ฮ้า..."
เสียงกระเส่าที่เรียกชื่อของตนนั้นอยากจะขานรับใจจะขาดแต่เสียงที่ออกไปกลับเป็นเสียงหอบหายใจสลับกับเสียงครางเครือเท่านั้น
"อ๊าา...จะ...เจ็บ!!!...นะ...นายทำ...อะไร!??"
"ทนอีกนิดเดียว...ฮายาโตะ...เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว"
"มะ...ไม่...เจ็บเอาออกไป!!!"
ไม่รู้ว่านิ้วถูกถอนออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่รู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อความเจ็บปวดแล่นริ้วเข้าโจมตีแล้วร่างบางหลับตาเอาไว้แน่นน้ำใสๆไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่สองมือจึงจิกลงไปที่แผ่นหลังกว้างเพื่อระบายความเจ็บปวด
แต่เพียงแค่ริมฝีปากคมพรมจูบไปทั่วเท่านั้นความเจ็บปวดพลันมลายหายไปจนหมดถึงแม้จะรับรู้ได้ว่าช่องทางคับแน่นของตนฉีกขาดมากมายขนาดใหนแต่ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาแทนที่จากเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดกลับกลายมาเป็นเสียงครางเครืออีกครั้งและมันยิ่งดังขึ้นดังขึ้นเรื่อยตามแรงกระแทกกระทั้นขยับกายของร่างด้านบนที่หนักหน่วงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าพวกเขาทำมันสักกี่ครั้งเมื่อความต้องการที่ไม่รู้จักพอของพวกเขายังร่ำร้องหากันไม่มีที่สิ้นสุดรู้ตัวอีกทีก็เหลือเพียงตัวเองที่ยังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงนัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองต้นขาที่มีคราบน้ำสีขาวขุ่นผสมปนเปไปกับเลือดแห้งเกรอะกรังติดอยู่ก่อนจะค่อยๆยันร่างกายที่ถูกใช้งานอย่างหนักหน่วงขึ้นพิงกับหัวเตียงก่อนจะกวาดสายตาไปรอบห้องเสื้อผ้าที่ถูกถอดออกก็ยังกองอยู่กับพื้นที่หน้าประตูห้องผ้าปูที่นอนสีขาวที่ยับยู้ยี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหลักฐานแห่งแรงอารมณ์ของพวกเขาแต่มีสิ่งหนึ่งหายไป....ร่างสูงใหญ่ของคนที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อไม่อยู่แล้ว...จะว่าไปเมื่อคืนถ้าจำไม่ผิดบาร์เทนเดอร์เมื่อคืนเรียกผู้ชายคนนั้นว่า
"ยามาโมโตะสินะ"
ใบหน้าสวยแหงนหน้ามองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอยพักใหญ่ก่อนจะพยายามพาร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบมากมายของตัวเองลงจากเตียงแต่เพียงแค่ขยับมานั่งที่ขอบเตียงได้เสียงรูดคีย์กาดที่ประตูห้องก็ดังขึ้นมือบางรีบคว้าผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมร่างกายของตัวเองไว้ทันที
"ตื่นแล้วเหรอพอดีชั้นลงไปซื้อของมาทำกับข้าวน่ะเห็นตู้เย็นของนายไม่มีอะไรสักอย่าง"
เสียงทุ้มที่ไม่ได้เย็นยะเยือกของคนที่คิดว่าหายไปแล้วทำเอาขอบตารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีก่อนจะเสมองไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้อีกคนเห็นว่าตนอ่อนแอ
"ทำไมแกยังไม่ไสหัวไปอีก??"
"ป่ะเดียวชั้นอาบน้ำให้"
"แกหัดฟังคนอื่นพูดซะทีฉันถามว่าแกทำไมยังไม่ไสหัวไป!!!!"
เสียงตวาดลั่นของร่างบางทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่เคยสดใสมืดมนลงทันทีก่อนที่มือแข็งแรงจะกดร่างของอีกคนนอนลงไปบนเตียงแล้วคร่อมเอาไว้
"ตอนแรกชั้นก็คิดว่าจะไสหัวไปอยู่หรอกนะ....แต่ตอนนี้ชั้นคงจะสนใจของเล่นอย่างนายเข้าให้แล้วถึงได้ยังอยู่ที่นี่ทั้งๆที่ชั้นไม่จำเป็นต้องสนว่านายจะเป็นตายร้ายดียังไงเพราะชั้นจะเก็บตุ๊กตาอย่างนายไว้จนกว่าชั้นจะเบื่อนั่นแหละ"
คำพูดที่ร้ายกาจของร่างสูงทำให้น้ำใสๆที่คลออยู่แล้วไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ได้แต่ปล่อยให้อีกคนอุ้มเข้าห้องน้ำไปทั้งอย่างนั้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
วันเวลาผ่านไปกี่เดือนแล้วที่พวกเขาทั้งสองคนยังคงสานต่อความสัมพันกันเรื่อยมาจากแค่ความสัมพันที่ฉาบฉวยกลายเป็นลุ่มหลงและเฝ้ารอซึ่งกันและกัน
ร่างบอบบางที่กำลังหัดทำขนมอยู่หน้าเตาต้องละสายตาจากแป้งที่กำลังนวดไปมองที่ประตูเมื่อเสียงรูดคีย์กาดดังขึ้นริมฝีปากบางเหยียดยิ้มกว้างก่อนจะรีบปรับให้เป็นปรกติกลัวอีกคนจะรู้ว่ากำลังดีใจตามนิสัยของคนที่ปากไม่ตรงกับใจ
"ทำอะไรอยู่เหรอฮายาโตะ??"
"ทำขนม....ตะ...แต่ไม่ได้ทำให้นายนะฉันทำไปให้ลูกน้องที่ทำงานตะหาก!!"
ใบหน้าคมหล่อเหลาก็ได้แต่ยิ้มร่ากับท่าทางฟึดฟัดแบบนั้น...ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ก็ยังบังคับให้เขาชิมทุกครั้งไม่ใช่รึไงและมันก็ไม่ใช่แค่ชิ้นสองชิ้นซะที่ใหนถ้าไม่หมดจานที่เอามาให้ก็อาละวาดทุกครั้งเลยนี่นา
"คร้าบๆไม่ให้กินก็ไม่ให้กิน...ให้ช่วยทำมั้ย??"
"ไม่!!...แกไปทำกับข้าวนู้นฉันอยากกินโอโคโนมิยากินายทำเป็นรึเปล่า"
"ต้องเป็นอยู่แล้วถ้านายอยากจะกินอะไรชั้นก็ต้องทำเป็นเท่านั้นไม่ใช่รึไง??"
ร่างสูงใหญ่เดินมาสวมกอดคนที่ยังขมักเขม้นนวดแป้งแล้วหอมฟอดใหญ่อีกทีถึงเจ้าตัวจะหันมาแขวะบ้างที่จริงก็ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้นั่นแหละแต่ก็ไม่เคยขัดขืนจริงจังเลยสักครั้ง...เขาคิดว่าตัวเองคงจะหลงร่างบางนี่จนหัวปักหัวปำเข้าให้แล้วจากที่เคยคิดว่าแค่ของเล่นแค่ตุ๊กตามีชีวิตแต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขายอมให้ร่างบางนี่ทุกอย่างไม่ว่าเจ้าตัวจะต้องจากอะไรถึงแม้มันจะหายากขนาดให้เขาก็ดันขวานขวายมาจนได้ขอแค่ให้ร่างบางนี้พอใจก็พอแล้ว....เขาคงรักร่างบางนี่มากยิ่งกว่าตัวเองแล้วล่ะมั้ง
"รักนายนะฮายาโตะ"
"มะ....ไม่ต้องมาโกหกฉันไม่เชื่อแกหรอกนะจะบอกให้!!"
"ฮะฮะฮะ..ก็ได้ๆชั้นก็แค่โกหกนายพอใจรึยัง"
"ไอ้บ้าแล้วแกจะมาบอกฉันทำไมกันเล่าฉันเกลียดแกที่สุดในโลกเลย!!!!"
"นายนี่นะพูดความจริงก็ไม่เชื่อแต่พอโกหกนี่เชื่อเป็นตุเป็นตะ...ชั้นรักนายรักที่สุดนี่แหละคือความจริงนายจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่นายแต่ชั้นจะบอกจนกว่านายจะเชื่อชั้นนั่นแหละ...ฮายาโตะ"
"ไม่ต้องมาบอก...เพราะยังไงฉันก็ไม่เชื่อนาย"
"คร้าบๆยอมแพ้ก็ได้แต่แค่วันนี้นะ"
ริมฝีปากคมฝังลงไปที่แก้มใสอีกฟอดใหญ่ก่อนจะละออกไปทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้แน่นอนเพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะคำพูดของเขาที่ทำให้ร่างบางไม่กล้าที่จะเชื่อคำพูดของเขาหากใช้คำพูดไม่ได้ก็ต้องใช้การกระทำเท่านั้น
สุขสันต์วันเกิดนะก๊ายามาโมโตะ ทาเคชิปีเน่อายุเท่าไหร่หว่า ฮะฮะฮะ กวนทีนลูกเขยสะง้านนนนขอทุกวันที่24/4แกแก่ขึ้นทุกวันรักก๊กมากขึ้นทุกวันตามอายุแกน้าาาาาา
"ต้องเป็นอยู่แล้วถ้านายอยากจะกินอะไรชั้นก็ต้องทำเป็นเท่านั้นไม่ใช่รึไง??"
ร่างสูงใหญ่เดินมาสวมกอดคนที่ยังขมักเขม้นนวดแป้งแล้วหอมฟอดใหญ่อีกทีถึงเจ้าตัวจะหันมาแขวะบ้างที่จริงก็ทุกครั้งที่เขาทำแบบนี้นั่นแหละแต่ก็ไม่เคยขัดขืนจริงจังเลยสักครั้ง...เขาคิดว่าตัวเองคงจะหลงร่างบางนี่จนหัวปักหัวปำเข้าให้แล้วจากที่เคยคิดว่าแค่ของเล่นแค่ตุ๊กตามีชีวิตแต่ตอนนี้กลายเป็นว่าเขายอมให้ร่างบางนี่ทุกอย่างไม่ว่าเจ้าตัวจะต้องจากอะไรถึงแม้มันจะหายากขนาดให้เขาก็ดันขวานขวายมาจนได้ขอแค่ให้ร่างบางนี้พอใจก็พอแล้ว....เขาคงรักร่างบางนี่มากยิ่งกว่าตัวเองแล้วล่ะมั้ง
"รักนายนะฮายาโตะ"
"มะ....ไม่ต้องมาโกหกฉันไม่เชื่อแกหรอกนะจะบอกให้!!"
"ฮะฮะฮะ..ก็ได้ๆชั้นก็แค่โกหกนายพอใจรึยัง"
"ไอ้บ้าแล้วแกจะมาบอกฉันทำไมกันเล่าฉันเกลียดแกที่สุดในโลกเลย!!!!"
"นายนี่นะพูดความจริงก็ไม่เชื่อแต่พอโกหกนี่เชื่อเป็นตุเป็นตะ...ชั้นรักนายรักที่สุดนี่แหละคือความจริงนายจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่นายแต่ชั้นจะบอกจนกว่านายจะเชื่อชั้นนั่นแหละ...ฮายาโตะ"
"ไม่ต้องมาบอก...เพราะยังไงฉันก็ไม่เชื่อนาย"
"คร้าบๆยอมแพ้ก็ได้แต่แค่วันนี้นะ"
ริมฝีปากคมฝังลงไปที่แก้มใสอีกฟอดใหญ่ก่อนจะละออกไปทำหน้าที่ของตัวเองแต่ก็ไม่คิดจะยอมแพ้แน่นอนเพราะเขารู้ดีว่ามันเป็นเพราะคำพูดของเขาที่ทำให้ร่างบางไม่กล้าที่จะเชื่อคำพูดของเขาหากใช้คำพูดไม่ได้ก็ต้องใช้การกระทำเท่านั้น
.
.
.
.
...
สองแขนแข็งแรงกระชับกอดร่างบอบบางเอาไวก่อนจะซุกหน้าลงไปบนกลุ่มเส้นไหมสีเงินนุ่มนิ่มเอาไว้ในตอนนี้กลายเป็นว่าเขาย้ายมาอยู่ที่คอนโดของร่างบางไปซะแล้บ้านตัวเองแทบจะไม่เคยกลับไปเหยียบเลยด้วยซ้ำ
"ชั้นต้องไปอิตาลีนายอยากได้อะไรมั้ย"
".......ไม่"
ใบหน้าสวยซุกเข้าไปหาแผงอกแกร่งก่อนจะทาบมือลงไปไม่อยากกอดไม่อยากทำอะไรที่มันเหมือนแสดงความรักบางครั้งเผลอคล้อยตามคำหวานพวกนั้นแต่ประโยคในวันนั้นก็ยังก้องอยู่ในหัว...ประโยคที่ว่าตนเป็นเพียงแค่ของเล่นรอวันทิ้งลงขยะ...ยังฝังอยู่ในความทรงจำมาตั้งแต่วันนั้น
"ทำไมล่ะถ้างั้นไปด้วยกันมั้ย??"
".......ไม่"
ไม่อยากได้ไม่อยากเห็นอะไรเกี่ยวกันผู้ชายคนนี้อีกแล้วบางทีพวกเขาอาจจะอยู่ด้วยกันนานเกินไป...เมื่อก่อนหน้าที่เคยบอกว่าอยากได้โน่นอยากได้นี่ก็แค่แกล้งเพื่อความสะใจเล่นๆเท่านั้นดูเหมือนเขาคนนี้ก็คงจะรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วแต่ก็ยังหามาให้ทั้งๆที่รู้ว่าตนจะไม่มีวันเปิดดูของพวกนั้นทั้งๆที่เห็นว่าตนเก็บของพวกนั้นไว้ในห้องเก็บของแต่คนๆนี้ก็ยังหามาให้ตนทุกครั้ง
"ชั้นรักนายนะฮายาโตะเอาไว้ชั้นจะหาของที่เหมาะกับนายมาให้ก็แล้วกัน"
"แกก็เป็นซะแบบนี้ฉันบอกว่าไม่อยากได้อะไรไงเลิกงี่เง่าซะทีเถอะ"
"ฮะฮะ...แต่ชั้นจะให้...จนกว่านายจะเปิดกล่องพวกนั้น"
"ฉันจะเอาไปเผาทิ้งให้หมด"
"ชั้นรู้ว่านายไม่ทำแน่"
"ไอ้บ้าคอยดูเถอะแกกลับมาคราวนี้ฉันจะเผาทิ้งให้หมดเล้ย!!"
"ฮะฮะ...คร้าบๆยอมแพ้ก็ได้แต่....ชั้นรักนายนะฮายาโตะ"
กำปั้นเล็กๆทุบลงไปที่แผงอกแกร่งสองสามครั้งอย่างไม่รู้จะรับมือกับคนที่ไม่เคยฟังคนอื่นพูดอย่างไอ้บ้านี่ยังไง....แต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่เชื่อคำพูดของคนที่เห็นตนเป็นแค่ของเล่นเป็นแค่ตุ๊กตาแบบนี้เด็ดขาด...
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..Tobecontinue...........
สุขสันต์วันเกิดนะก๊ายามาโมโตะ ทาเคชิปีเน่อายุเท่าไหร่หว่า ฮะฮะฮะ กวนทีนลูกเขยสะง้านนนนขอทุกวันที่24/4แกแก่ขึ้นทุกวันรักก๊กมากขึ้นทุกวันตามอายุแกน้าาาาาา
ก๊ากกกกกกก นี่คือฟิควันยามะนะก๊า
ขอให้แกรักก๊กหลงก๊กตลอดไปเลยนะอิเนียนนนนนนนน
โอ้ะ พอดีพึ่งเคยเข้ามาเป็นครั้งแรกค่ะ
ตอบลบคิดถึง8059 คิดถึงก๊กกะเนียนเลยลองพิมพ์หาฟิคอ่าน
น่ารักมากเลนค่ะไรเตอร์
โอยยยย ยังรักสองคนนี้จริงๆด้วยค่ะ ตลอดไปเลย
เนียนหื่น ก๊กซึน
โฮกกก><
เดี๋ยวจะตามอ่านตอนอื่น เรื่องอื่นด้วยนะคะ
สู้ๆค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ