30 เม.ย. 2557

Fic.Attack on titan[LevixEren]Who own my heart?? : 06

Fic.Attack on titan[LevixEren]Who own my heart?? : 06

:Fanfiction Attack on titan [LevixEren]

:Romantic

:NC-15




คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดค่ะขอบคุณค่ะ












ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครที่กำลังจะก้าวเดินหยุดชะงักทันทีก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับเด็กสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่สาวของเจ้าลูกหมาเหลือขอ

"คุณคิดยังไงกับเอเลนค่ะ...คงไม่ใช่เอาไว้แค่ระบายอารมณ์ใช่มั้ยค่ะ??"

"แล้วเธอล่ะคิดยังไงกับเด็กนี่...ดูเหมือนพวกเธอจะไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริงๆ??"

"ฉันรักเอเลนเหมือนน้องชายแท้ๆค่ะไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง"

"ชั้นก็หวังไว้แบบนั้น"

"คุณจริงจังกับเอเลนใช่มั้ยค่ะ??"

"ถ้าเด็กนั่นจริงจังกับชั้นล่ะนะ"

"ขอบคุณนะค่ะฉันเชื่อว่าเอเลนจริงจังกับคุณแน่นอนค่ะ!!"

"เธอคงไม่ได้มาดักรอชั้นเพราะเรื่องนี้??"

ชายหนุ่มตัดบทขึ้นมาทันทีที่ดูเหมือนเด็กสาวจะเริ่มนอกเรื่องออกไปเรื่อยๆ...ทั้งๆที่บอกว่ารักเหมือนน้องชายแต่สายตาที่ดูเจ็บปวดของเธอมันไม่เหมือนคนที่ดีใจกับน้องชายเลยสักนิด

"ฉันจะมาถามเรื่องค่าใช้จ่ายของเอเลนน่ะค่ะฉันจะใช้คืนให้คงหมดไปไม่น้อย"

"ยังไม่ได้คิดเอาไว้ชั้นจะบอกอีกทีทิ้งเบอร์โทรของเธอไว้ก็แล้วกันแล้วชั้นจะแจ้งไปทีหลัง"

"รบกวนด้วยนะค่ะ"

สองขาแข็งแรงก้าวเดินต่อไปโดยไม่คิดจะสนใจเด็กสาวอีกแต่ในหัวกลับรู้สึกกังวลไม่น้อยที่ได้รู้ว่าเจ้าเด็กเหลือขอของเขามีอีกหลายคนจับจ้องอยู่แต่ก็ไม่คิดจะทำอะไรหรือไปคาดคั้นเอาความจริงจากเจ้าลูกหมานั่นเพราะหากเอเลนเลือกใครสักคนที่ไม่ใช่เขาแล้วเขาจะทำอะไรได้.....ใบหน้าคมหล่อเหลาแหงนขึ้นมองฟ้าสีครามที่ไร้เมฆบดบังก่อนจะวางดอกไม้สีขาวในมือลงบนแท่นหินสีขาวที่สลักชื่อของผู้เป็นบิดาของตนก่อนจะทอดสายตาเลื่อนลอยออกไปอย่างไร้จุดหมาย
.
.
.
.
.
.           ร่างบอบบางของเจ้าเด็กเหลือขอวิ่งวุ่นไปรอบบ้านกึ่งปราสาทหลังใหญ่ด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลร้อนรนอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆที่ร่างกายก็ใช่ว่าจะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต็เมื่อคนที่นอนกอดตนเอาไว้ทั้งคืนหายไปอย่างไร้ร่องรอย...ใจคอไม่คิดจะร่ำลากันบ้างเลยหนีหายไปแบบนี้โดยไม่คิดจะปลุกกันสักคำ

"เอเลนไปเถอะเราไม่มีเวลาแล้วนะ!!!!"

เด็กหนุ่มร่างสูงของนักร้องหนุ่มตะโกนตามหลังไปติดๆพร้อมๆกับวิ่งตามร่างโปร่งบางไปแต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจเขาเลยสักนิดยังคงวิ่งตรงไปหาคุณแม่ของคุณรีไวล์อย่างรีบร้อน

"คุณแม่ของคุณรีไวล์ครับเห็นคุณรีไวล์บ้างมั้ยครับ!!!???"

"อ้าวยังไม่เจอกันอีกเหรอจ๊ะเอเลน...ถ้างั้นคงจะอยู่กับพ่อของเค้าล่ะมั้งจ๊ะ"

ผู้เป็นมารดาชี้ไปยังทิศทางที่คาดว่าบุตรชายของตนน่าจะอยู่เพราะปรกติทุกเช้าเค้าจะต้องไปที่นั่นเป็นประจำอยู่แล้ว...สองขาเรียวยาววิ่งไปตามที่คุณแม่ของคุณรีไวล์บอกทันทีโดยไม่สนใจเสียงร้องตะโกนของเพื่อนร่างสูงนักร้องหนุ่มที่วิ่งตามมาติดๆ

"เฮ้!!!...เอเลนเดี๋ยว!!!!"

"แจนครับมาช่วยผมหิ้วกระเป๋าที!!!"

"โธ่เว้ย!!"

เด็กหนุ่มร่างสูงเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนพยายามวิ่งตามร่างโปร่งบางด้านหลังของบ้านแต่ถูกเด็กหนุ่มร่างเล็กเรื่อนผมสีทองรั้งตัวเอาไว้จึงได้แต่มองตามแผ่นหลังบางไปก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียทั้งๆที่ตนพยายามที่จะกันเอเลนออกห่างจากผู้ชายคนนั้นแต่กลับมีมารผจญทุกครั้งไป
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.      
                    ใบหน้ามนหันซ้ายทีขวาทีเพื่อมองหาชายหนุ่มคนที่ทิ้งให้ตนต้องคอยวิ่งหาไปจนทั่วแบบนี้ก่อนที่นัยน์ตาสีมรกตจะเหลือบไปเห็นเจ้าม้าสีน้ำตาลเข้มที่คุ้นเคยสองขาจึงวิ่งตรงเข้าไปหาทันที

"คุณรีไวล์คร้าบบ!!!!"

ทันทีที่มองเห็นร่างของคนที่คุ้นตาร่างโปร่งบางจึงตะโกนเรียกอีกคนด้วยความดีใจและยิ่งอีกคนหันมามองก็ยิ่งฉีกยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งหน้าตั้งเข้าไปเกาะแขนของชายหนุ่มเอาไว้แน่นพรอ้มๆกับหอบหายใจหนักหน่วงจนตันโยน

"ทำไม...แฮ่กๆๆ...ไม่ปลุกผม...แฮ่กๆ...ด้วยล่ะครับ!!??..."

"อยากให้นายพักผ่อนน่ะ...ต้องเดินทางไกลไม่ใช่รึไง"

"แต่ผม...แฮ่กๆ...อยากอยู่กับคุณรีไวล์มากกว่านะครับ..แฮ่กๆ..."

"หายเหนื่อยก่อนค่อยพูดก็ได้ชั้นไม่ไปใหนหรอกน่า"

มือเรียวที่กร้านน้อยๆยกขึ้นมาขยี้หัวสีน้ำตาลเข้มนุ่มนิ่มแรงๆก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้...บางทีเขาคงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับเด็กนี่ก็ได้...หากเจ้าเด็กเหลือขอนี่ยังคงคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออกแบบนี้...แต่ในจิตใจส่วนลึกก็ยังมีจุดสีดำเล็กๆคอยสะกิดใจอยู่ตลอดเวลา....มือเรียวจึงแนบลงไปที่แก้มใสก่อนจะพูดออกไป

"ไปได้แล้วเดี๋ยวแท็กซี่เค้ารอนาน"

"อย่าพึ่งไล่สิครับ...ผมอยากอยู่กับคุณรีไวล์ต่ออีกสักนิดก็ยังดี...ใจคอจะไม่ไปส่งผมเลยสินะครับใจร้ายเกินไปแล้วนะครับ"

นัยน์ตาสีเขียวมรกตรื่นม่านน้ำตาขึ้นมาทันทีที่พูดจบก่อนจะซุกใบหน้าลงไปที่แผ่นอกแกร่งของอีกฝ่ายเอาไว้และยิ่งรับรู้ได้ถึงอีกฝ่ายกำลังกดจูบเบาๆที่ขมับสองแขนผอมบางจึงโอบรอบแผ่นหลังของอีกฝ่ายเอาไว้

"เราจะได้เจอกันอีกมั้ยครับ....กลับไปแล้วติดต่อผมทันทีเลยนะครับ...ผมจดเบอร์มือถือกับเมล์เอาไว้ที่หัวเตียงนะครับ...แล้วผมจะตั้งตารอสายของคุณรีไวล์นะครับ!!"

"เพ้อเจ้ออะไรอยู่ได้ไอ้เด็กเหลือขออีกสามวันชั้นก็จะกลับแล้วชิน่ากับมาเรียมันก็ใกล้แค่อึดใจเดียวเองนะ...นอกซะจากว่านายจะเป็นฝ่ายหลบหน้าชั้น...อันนั้นก็ไม่แน่"

"ไม่มีทางหรอกครับผมไม่มีวันหลบหน้าคุณรีไวล์แน่นอน...ก็ผมน่ะ...รักคุณรีไว์มากนะครับผมไม่มีวันทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นแน่นอน!!"

"หึหึ....แล้วชั้นจะรอดู......กลับกันเถอะเดี๋ยวคนอื่นเค้ารอ"

"คุณรีไวล์สัญญากับผมก่อนสิครับ!!!"

"นายนี่นะ!!...."

มือเรียวที่กร้านน้อยๆขยี้หัวสีน้ำตาลเข้มนุ่มนิ่มอีกครั้งด้วยความเอ็นดูก่อนจะประคองใบหน้ามนเอาไว้

"หลับตาสิ"

".....ครับ!!"

ถึงจะยังงงๆแต่เจ้าเด็กเหลือขอก็ทำตามแต่โดยดีก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากสองแขนผอมบางจึงโอบรอบคอของชายหนะมเอาไว้เมื่อสัมผัสที่แผ่วเบาเริมหวานล้ำไม่รุกเร้าไม่เอาแต่ใจสัมผัสที่คุณรีไวล์มอบให้กับตนทุกครั้งที่ทำแบบนี้.........ไม่อยากกลับไปเลย...อยากอยู่ที่นี่...กับคุณรีไวล์....
จู่ๆขอบตาก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเอาเสียดื้อๆยิ่งได้รับสัมผัสอ่อนหวานมากเพียงใดก็ยิ่งอยากจะร้องไห้มากเท่านั้น

"เป็นอะไรไปไอ้เด็กขี้แย....ชั้นจูบได้แย่ขนาดอยากจะร้องไห้เลยรึไง??"

"ปละ...เปล่าไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย....คุณรีไวล์น่ะ....ทำเอาใจผมเต้นโครมครามเหมือนกำลังจะหมดแรงเลยนะครับอ่อนโยน.....จนผมไม่อยากกลับไปแล้วนะครับ.......ผม...."

พูดยังไม่ทันจะจบประโยคแต่ทุกคำพูดต่อจากนี้กลับจุกติดอยู่ที่ลำคอไม่สามารถพูดออกมาได้อีกใบหน้ามนจึงซบลงที่ไหล่ของขายหนุ่ม ริมฝีปากคมเหยียดยิ้มอย่างที่อีกคนจะไม่มีวันได้เห็นให้กับความซื่อบื่อและความขี้อ้อนที่มักทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะอยู่เสมอของเอเลน...แบบนี้จะไม่ให้เขาตกหลุมพรางของเจ้าตัวยังไงไหว

"อย่าทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้สิใหนบอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็ก....อีกอย่างอย่าทำเหมือนไม่เชื่อใจชั้น...ไอ้เด็กเหลือขอ"

"....ก็ได้ครับ...แต่ผมไม่ใช่เด็กจริงๆนะ!!"

"หึหึ......."

ชายหนุ่มจูงมือของอีกคนเดินไปหาเจ้าม้าสีน้ำตาลเข้มพร้อมทั้งหลุดหัวเราะออกมาใบหน้ามนได้แต่ทำหน้าหงอยๆเดินเกาะแขนของชายหนุ่มอย่างจำใจ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
           เจ้าม้าสีน้ำตาลเข้มวิ่งเยาะๆมาหยุดตรงที่เพื่อนๆของใบหน้ามนที่กอดเอวของคนข้างหน้าเอาไว้แน่นแต่สุดท้ายก็ต้องจำใจปล่อยเมื่อมืออุ่นๆของช่ายหนุ่มแตะลงที่แขนของตน

"เอเลน!!!"

ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครกระโดดลงไปก่อนแล้วค่อยรับร่างโปร่งบางของเจ้าเด็กเหลือขอตามลงไปโดยมีเด็กหนุ่มร่างสูงวิ่งเข้ามาโอบรอบคอของเจ้าคนชั่งจ้ออย่างไม่คิดจะสนใจใคร....แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างเมื่อเหลือบไปเห็นร่องรอยสีระเรื่อที่ซอกคอลามลงไปถึงแผ่นอกขาวนวลเนียนเข้าเพราะคอเสื้อยืดสีขาวของเจ้าตัวมันกว้างซะจนเห็นไปถึงใหนต่อใหนจึงได้แต่กัดฟันแน่นจนเส้นเลือดที่ขมับปูดอย่างเห็นได้ชัด

"ปล่อยฉันแจน!!!"

มือบางรีบแกะมือปลาหมึกของเพื่อนร่างสูงออกเป็นพัลวัลเพราะกลัวว่าคุณรีไวล์จะเข้าใจผิดแต่อีกคนกลับกอดเอาไว้แน่นไม่คิดจะปล่อยง่ายๆพร้อมกับรั้งให้ร่างบางเดินตามไปที่รถโดยไม่คิดจะให้ทั้งสองคนได้ร่ำลาอะไรอีก....เพราะก่อนหน้านี้มันก็มากเกินพอแล้วก่อนจะหันไปจ้องชายหนุ่มด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจนเหมือนกำลังประกาศสงครามอย่างไม่คิดจะเกรงกลัวหรือให้เกียรติกันเลยสักนิดแต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวหรือโกรธเกลียดแต่อย่างใดเพราะเขารู้ดีว่าเด็กหนุ่มคนนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะได้ครอบครองหัวใจของร่างบางเหมือนกัน....หรือแม้แต่เด็กสาวนัยน์ตาสีรัตติกาลคนนั้น.....นัยน์ตาสีขี้เถ้าจึงสนใจเพียงแค่แผ่นหลังบางของเจ้าเด็กเหลือขอที่ขึ้นแท็กซี่ไปจนลับตาเท่านั้นไม่คิดจะสนใจสายตาของใครอีก....ใจจริงก็อยากจะไปส่งอยู่เหมือนกันแต่เพราะเด็กหนุ่มร่างสูงนั่นถือวิสาสะโทรเรียกแท็กซี่มาโดยไม่คิดจะปรึกษาใครจึงได้ปล่อยให้เลยตามเลยไป...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.


                 เสียงเอะอะโวยวายของเพื่อนสาวจอมเพี้ยนดังมาให้ได้ยินตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูห้องชายหนุ่มจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างหน่ายๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

"รีไไวล์นายกลับมาแล้ว!!!!!!!"

สาวแว่นเพื่อนซี้วิ่งเข้ามากอดเขาเอาไว้ด้วยความดีอกดีใจก่อนที่มือเรียวจะดันเธอออกให้ห่างจากตัว....ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรแค่ไม่ชอบให้กอดเท่านั้น

"อะไรของเธอยัยแว่นกระหายเลือด!!"

"ยังจะมาอะไรอีกนะก็นายเล่นปิดโทรศัพท์เงียบทำตัวเป็นนินจาติดต่อไม่ได้แบบนี้พวกชั้นเป็นห่วงนะอีกอย่าง....."

ชายหนุ่มขมวดคิ้วน้อยๆกับสายตากรุ่มกริ่มของเพื่อนสาวก่อนจะหันไปหาเพื่อนสนิทร่างสูงกับลูกน้องในหน่วยอีกสี่คน

"มีอะไรสำคัญนักหนาถึงได้มาจับกลุ่มกันแบบนี้.......เอลวิน เพทร่า กุนเธอร์ ออลโล่ เอ็ด....."

ส่วนคนสุดท้ายไม่จำเป็นต้องเอ่ยชื่อเพราะสายตาคมกริบสีขี้เถ้ากำลังจ้องมองอยู่ตรงหน้า

"เอลวินบอกรีไวล์ที!!!"

สาวแว่นจอมเพี้ยนวิ่งเข้าไปเขย่าแขนชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เรือนผมสีทองสว่างที่ไถเกรียนครึ่งล่างเหมือนกับเพื่อนร่างเล็กเพื่อหาตัวช่วยเพียงแค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่าเรื่องอะไร...นี่คงจะสุมหัวกันคิดการแสดงในงานเลี้ยงปลายปีอย่างนั้นสินะ...และที่ให้เอลวินเป็นคนพูดเพราะรู้ว่าเขาขัดเพื่อนร่างสูงคนนี้ไม่ได้

"หัวหมอนักนะยัยแว่น"

"คือเราตกลงกันแล้วว่าจะแสดงเรื่องแฮมเล็ต....และแน่นอนว่านายคือแฮมเล็ต...รีไวล์"

"ชั้นไม่แสดงเป็นคนบ้า!!!"

"คิดไว้อยู่แล้วล่ะว่านายจะต้องปฏิเสธ"

"หมายความว่าไง??"


"ก็หมายความว่าชั้นได้เปลี่ยนบทและคาเร็คเตอร์ของตัวละครเรียบร้อยแล้วน่ะสิเจ้าชายแฮมเล็ทจะไม่ต้องแกล้งบ้าและจะไม่ตายด้วยแต่จะกลายเป็นคนเงียบครึมเลือดเย็นแล้วไปหลงรักนางเอกของคณะละครเร่แล้วหนีไปด้วยกันหลังจากแก้แค้นเสร็จ.....ไงโรแมนติกใช่มั้ยล้าาาา...ฮ่าๆๆ"

สาวแว่นจอมเพี้ยนพูดแทรกขึ้นมาด้วยท่าทางที่ดีอกดีใจจนน่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน....มีอย่างที่ใหนเล่นมาเปลี่ยนบทตัวละครเขาซะเละเทะแบบนี้นี่ถ้าคนแต่งยังอยู่คงจะโดนฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์กันย่อยยับแน่

"คงไม่ยากเกินไปสำหรับนายบทนิ่งๆขรึมนายเล่นได้สบายมากอยู่แล้วเดี๋ยวชั้นจะให้ฮันซี่คิดบทพูดน้อยๆให้อีกที"

"ตรงนั่นไม่ใช่ปัญหาหรอกเอลวินปัญหาของชั้นตอนนี้ก็คือเราจะหาใครมารับบทนางเอกละครนี่สิไม่สิต้องบอกว่านายเอกสิถึงจะถูกเพราะเป็นคณะละครชายล้วนนี่นะผู้ชายในหน่วยเราก็มีแต่ล่ำๆทั้งนั้นหรือถ้าจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงทั้งหน่วยก็มีแต่ชั้นกับเพทร่าที่รับบทแม่กับฟิโอเลียไปแล้วนี่สิ.....อืมมมม"

"เราลองไปขอคนของหน่วยสารวัตทหารช่วยดีมั้ยค่ะคุณฮันซี่??"

"ไม่ดีหรอกเพทร่า!!!!"

ชายหนุ่มทั้งสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆตะโกนขึ้นพร้อมๆกันเพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดของหญิงสาวร่างเล็กนางฟ้าหนึ่งเดียวในกลุ่ม..ถ้าไปขอความช่วยเหลือจากพวกนั้นพวกมันต้องแกล้งหน่วยสำรวจเป็นแน่เพราะทั้งสองหน่วยยิ่งเขม่นกันอย่างหนักอยู่ด้วยอีก

""ชั้นก็เห็นด้วยกับสามคน...อีกอย่างถ้าให้หน่วยอื่นเข้ามาร่วมมันก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ...จริงมั้ย"

"งั้นเหรอค่ะขอโทษด้วยนะค่ะทุกคน"

"เปลี่ยนบทของเธอซะยัยแว่นเธอจะให้ชั้นตกหลุมรักผู้ชายด้วยกันแบบนี้ไม่ได้"

"ไม่เป็นไรหรอกน่าโลกทุกวันนี้เปิดกว้างจะตายใครจะสนเรื่องเพศกัน"

"งั้นก็ยกหน้าที่ให้ฮันซี่หาตัวนายเอกก็แล้วกันเลือกคนนอกมาก็ได้แล้วแต่เธอเลย....รีไวล์ท่านนายพลเรียกนายกับชั้นไปพบน่ะไปกันเลยมั้ย??"

ใบหน้าคมหันไปมองเพื่อนร่างสูงเหมือนกำลังติเตียนที่อีกคนทำเหมือนไม่ให้ความสำคัญต่อคำสั่งของผู้บังคับบัญชาแถมยังมามัววุ่นวายกับยัยสี่ตานี่อีก....ถึงจะพอเดาออกว่ามันไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรมากมายก็เถอะเพื่อนร่างสูงของเขาถึงได้เอ้อระเหยลอยชายอยู่แบบนี้


ทั้งสองคนเดินไปตามระเบียงสีขาวของตึกผู้บังคับบัญชาสูงสุดโดยไม่ได้พูดอะไรกันอีกแต่พอเข้าไปในห้องรับรองของท่านนายพลเท่านั้นเพื่อนร่างสูงที่สังเกตุพฤติกรรมของชายหนุ่มมาตลอดทางก็อดที่จะถามไม่ได้กับบรรยากาศรอบตัวที่ดูมีความสุขเหมือนคนที่กำลังตกหลุมรักแบบนี้

"ไปเจออะไรที่ฝรั่งเศสมารึไง??"

"ต้องรายงานนายทุกเรื่องมั้ย??"

"หึหึ...แล้วนายอยากจะปิดชั้นรึเปล่าล่ะ??"

"............เจอลูกหมาหลงทางมาน่ะ"


"น่าอิจฉาจริงเป็นคนใหนกันนะถึงได้ทำให้นายแผ่รังสีหวานแหว๋วแบบนี้ได้"

"....."

ไม่มีพูดใดๆหลุดลอดออกมาอีกแต่ตอนนี้กลับนึกเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ใบหน้าคมก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองก่อนจะหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าเสื้อตัวนอก

"เดี๋ยวชั้นมานะถ้าตาแก่นั่นมาก่อนก็หาข้อแก้ตัวให้ด้วยก็แล้วกัน"

ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินหายออกไปจากห้องแล้วปล่อยให้เพื่อนสนิทร่างสูงนั่งส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆกับความที่เข้าสังคมไม่ค่อยได้ของของเพื่อนร่างกระทัดรัดทั้งๆที่เพิ่งจะส่งสายตาตำหนิเขาแต่ตัวเองกลับไม่สนใจจะรอแแถมยังเรียกว่าที่พ่อตาของตัวเองว่าตาแก่อีก...ชักอยากจะรู้ขึ้นมาตะหงิดๆว่าถ้าแต่งเข้าบ้านของท่านนายพลไปแล้วเพื่อนสนิทของเขาจะทำตัวแบบใหนกันนะ.....แต่เมื่อกี้นี่มัน......

"หยิบมือถือสินะ....หึหึ"



ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่แข็งแกร่งยิ่งกว่าใครเดินมาหยุดจนสุดทางระเบียงปลายนิ้วเรียวปัดหน้าจอมือถือทันทีแต่ยังไม่ทันจะได้กดโทรออกเสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นจากข้างหลังซะก่อน

"รีไวล์ค่ะ!!!!"

ใบหน้าคมหล่อเหลาจึงได้หลับตาแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆอย่างหน่ายๆก่อนจะหันไปมองหญิงสาวร่างบอบบางที่กำลังวิ่งเข้ามาหาตน

"กลับมาแล้วจริงๆสินะค่ะดีใจจังเลย...ฉันติดต่อคุณไม่ได้เลยนะค่ะมือถือเป็นอะไรไป??...แล้วคุณก็ไม่ยอมบอกยูริบ้างเลยจะไปฝรั่งเศสทั้งทีที่นั่นคงสวยมากเลยใช่มั้ย??"

"ไม่ได้เอามือถือไปน่ะครับ"

คำตอบเพียงสั้นๆที่ออกจากปากของชายหนุ่มทำเอาใบหน้าสวยไร้ที่ติของหญิงสาวงอง้ำขึ้นมาทันแต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจและไม่คิดจะง้อเพราะภายใต้ความสวยงามและใสซื่อของเธอมันอาบด้วยยาพิษจนไม่อยากจะเข้าใกล้แม้แต่เดินสวนแต่ที่ต้องอดทนอยู่ตอนนี้ก็เพราะไม่อยากกจะทำให้เธอเสียหน้าก็เท่านั้น

"คราวหน้าต้องพายูริไปด้วยนะค่ะห้ามหนีไปคนเดียวแบบนี้อีกแล้วนี่...กำลังทำอะไรเหรอค่ะคุณพ่อมารอแล้วไปกันเถอะ"

หญิงสาวลากให้อีกคนเดินตามอย่างไม่คิดจะสนใจธุระของชายหนุ่มเพราะดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่ากำลังจะโทรหาคนสำคัญอยู่เป็นแน่ถึงได้ปลีกตัวมาไกลขนาดนี้...และเธอต้องรู้ให้ได้ว่าเขาคนนั้นเป็นใคร.....จะไม่ยอมปล่อยคนๆนี้ไปเด็ดขาด




สองเพื่อนสนิทกลับมาที่หน่วยของตนด้วยที่ทางที่เครียดจัดแต่ดูเหมือนคนที่เครียดที่สุดจะเป็นชายหนุ่มร่างกระทัดรัดที่ตรงเข้าห้องทำงานของตนทันทีโดยไม่สนใจสาวแว่นกับลูกน้องทั้งสี่ที่ยืนรอที่ห้องรับแขกปล่อยให้เพื่อนสนิทร่างสูงเป็นคนเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ทั้งห้าคนฟังเพียงคนเดียว

"เกิดอะไรขึ้นเอลวินทำไมรายนั้นถึงได้หน้าหงิกกลับมาแบบนั้นล่ะ??"

"รีไวล์เจองานหนักเข้าให้แล้วล่ะ...งานเลี้ยงสิ้นปีองค์ราชาจะเสด็จทอดพระเนตรด้วยซ้ำยังโปรดให้เกียรติรีไวล์แสดงเปิดงานคนเดียวอีกต่างหาก"

"โถๆๆ...รีไวล์ของชั้นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอะไรเช่นนี้เนี้ย!!!"

"สงสารหัวหน้าจังเลยนะค่ะต้องแสดงทั้งละครแล้วยังต้องมาแสดงเปิดงานด้วยแบบนี้คงจะขัดใจไม่น้อยเลย"

"นั่นสิเป็นหัวหน้าก็ลำบากไม่ใช่เล่นๆเลยแหะ"

เพทร่านางฟ้าตัวเล็กหนึ่งเดียวของหน่วยกับออลโล่ชายหนุ่มผู้ที่อยากจะเดินตามรอยหน้าหน่วยที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติพูดเสริมขึ้น

"แต่ชั้นว่าเป็นโชคดีของพวกเรานะที่จะได้เห็นรีไวล์ทำอะไรที่ชาตินี้คงจะไม่มีใครได้เห็นแบบนี้...ถ้างั้นชั้นมอบหน้าที่คิดการแสดงให้ฮันซี่กับเพทร่าสองคนช่วยกันคิดมาก็แล้วกันแต่ขอด่วนที่สุดนะเพราะเวลามีน้อยเต็มทีเดี๋ยวรีไวล์จะเตรียมตัวไม่ทันเอา"

"โอเค้/ค่ะ!!"

"พวกนายแยกย้ายกันไปทำงานได้แล้วไม่มีอะไรจะทำแล้วรึไง!!!!??"

บุคคลที่กำลังทุกกล่าวถึงเปิดประตูออกมาตะโกนไล่ทั้งหกคนที่ยังยืนเสวนากันอ่างดุเด็ดเผ็ดมันที่ห้องรับแขกอย่างหัวเสียในใจอยากจะขัดคำสั่งให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยแต่เขายังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้างและไม่ใช่คนที่จะทนเห็นคนในหน่วยเดือดร้อนเพราะตนไม่ได้ถึงต้องมานั่งเครียดอยู่แบบนี้...ถ้าเด็กนั่นรู้ว่าเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้จะทำหน้ายังไงนะ...จะเกลียดเขารึเปล่า??...จะยังอยากเข้าใกล้เขาอยู่มั้ย??...




กว่าจะกลับมาถึงคอนโดของตนได้ก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนเพราะมัวแต่ถกเถียงกับยัยเพื่อนสาวจอมเพี้ยนเรื่องการแสดงของเขาอยู่จนดึกขนาดนี้ไม่งั้นยัยเพี้ยนนั่นคงจะหาอะไรแปลกๆมาให้เขาแสดงเป็นแน่...มือเรียวที่กร้านน้อยๆล้วงมือถือออกมาอีกครั้งก่อนจะกดโทรออกไปหาคนที่เขาสัญญาเอาไว้ในใจยังนึกห่วงว่าป่านนี้เจ้าเด็กเหลือขอคงจะกำลังตั้งตารอเขาอยู่เป็นแน่หรือบางทีอาจจะหลับไปแล้วก็ไดัก็มันดึกขนาดนี้
















        ใบหน้ามนจ้องมองหน้าจ้องมองมือถือเครื่องใหม่ของตนอย่างมีความหวังแต่สายที่เข้ามากลับเป็นลูกศิษย์ของเขาเกือบจะยี่สิบสายเข้าไปแล้วแต่ใบหน้ามนกลับไม่ยอมกดรับไม่มีกระจิตกระใจจะคุยกับใครในตอนนี้ยังไงซะพรุ่งนี้ก็ต้องไปอัดรายการทีวีด้วยกันอยู่แล้วที่โทรมานี่ก็คงอยากจะมารับตนเป็นแน่....นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ข้างฝาก่อนจะรูดตัวลงนอนคว่ำหน้าเอาไว้กับโต๊ะที่ข้างเตียงนี่ก็เกือบจะเที่ยงคืนอยู่แล้วแต่คุณรีไวล์ของเขาก็ยังไม่มีวี่แววจะติดต่อมาสักที...ในใจยังนึกโทษตัวเองที่น่าจะเป็นฝ่ายขอเบอร์กับเมล์ของคุณรีไวล์เองไม่งั้นก็คงไม่ต้องมานั่งตั้งตารออยู่แบบนี้

"คุณรีไวล์รำคาญผมสินะครับ.....ทั้งๆที่คุณบอกว่าจะกลับมาวันนี้...ใจร้ายจังเลยนะครับ....."


นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆปิดลงช้าๆก่อนจะหลับไปในที่สุดแล้วที่น้ำใสๆจะค่อยๆไหลลงมาอาบสองแก้มเมื่อความรู้สึกน้อยใจมันเอ่อล้นซะจนคับในอกแต่ในขณะที่กำลังหลับลึกอยู่นั้นสายที่ตนกำลังรอคอยก็ดังขึ้นแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมารับมือถือของร่างบางดังอยู่อย่างนั้นหลายต่อหลายครั้งก่อนจะหายเงียบไปในที่สุด
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..
Tobecontinue...........................






4 ความคิดเห็น:

  1. กลิ่นดราม่าลอยมาเเต่ไกล....

    ตอบลบ
  2. ดีจังที่ทำสารบัญขอบคุณมากคะ ชอบฟิครีเอคะอวยคู่นี่สนุกทุกเรื่องเลยคะ//อ่านมานานไม่ได้เม้นเลยคะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ22 เม.ย. 2559 21:31:00

    ดีจังที่ทำสารบัญขอบคุณคะ เราชอบฟิคไททันคะอวยรีเอฟิคสนุกทุกเรื่องลยคะ//ไม่ค่อยได้เม้นเท่าไหร่นะคะ

    ตอบลบ