13 เม.ย. 2557

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 08

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 08

:ปลายกิ่งฝัน : 08

:Fanfiction [KHR] 6927,8059

:Romantic Drama

:NC-17




คำเตือน:บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่รู้จักหรือไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดค่ะขอบคุณค่ะ










..........นัยน์ตาสีมรกตเปิดขึ้นช้าๆหลังจากหลับไปหลายชั่วโมงสรุปแล้วข้าวห่อไข่อะไรนั่นมันก็คงจะไม่ได้ลงกระทะแล้วหล่ะ
สองมือบางพยายามยันตัวเองลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะเพียงแค่ขยับกายเพียงแค่นิดเดียวร่างทั้งร่างก็ปวดร้าวลงไปจนถึงกระดูกดำเลยทีเดียว
"อู๊ยยย.....ไอ้บ้านายแบบเอ้ย!!...ยั้งมือหน่อยก็ไม่ได้"

"ตื่นแล้วเหรอฮายาโตะ!!...ลุกไหวมั้ย??"
เสียงทุ้มเข้มที่ดังมาจากประตูห้องทำเอาร่างบอบบางถึงกับสะดุ้งเฮือกใบหน้าสวยถึงกับซับสีจัดไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที...ทุกที
"หิวมั้ย??....ฉันทำข้าวห่อไข่มาให้"
นัยน์ตาสีมรกตชำเรืองมองไอ้เจ้าข้าวห่อไข่นิดนึ่งก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นเพราะเจ้าข้าวห่อไข่นี่แหละตัวเองถึงต้องเจ็บตัวแบบนี้แถมไอ้บ้านี่ยังจะมีอารมณ์ไปทำมันต่อได้อีกมันน่าเจ็บใจนัก!!...
"ให้ฉันป้อนนะ....ดูท่าคงจะยังไม่มีแรงใช่มั้ย??"
พอได้ยินแบบนั้นเท่านั้นแหละความอายเมื่อสักครู่หายไปจนหมดสิ้นมีแค่ความโมโหเท่านั้นที่เข้ามาแทนที่ที่อีกคนยังจะมาพูดแบบนั้นได้อย่างหน้าตาเฉย
"มันเป็นเพราะใครล่ะ!!??....ไอ้นายแบบบ้า!!!"
"ฮะฮะฮะ....ขอโทษก็ร่างกายนายมันกระตุ้นฉันนี่เลยลืมตัวไปหน่อย"
"ยังจะมีหน้ามาพูดดีอีกคอยดูเถอะฉันหายเจ็บเมื่อไหร่ฉันฆ่าแกแน่!!!"
"ฮะฮะฮะ...คร้าบๆเจ้านาย"
มือหนาตักข้าวห่อไข่ที่ยังร้อนๆขึ้นมาเป่าสักพักแล้วยื่นไปจ่อที่ริมฝีปากบางก่อนจะพยักหน้าให้อีกคนพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีให้กับร่างบอบบางนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น...มันก็แปลกทั้งๆที่เขาคิดว่าเขารักร่างบอบบางนี้มากมายจนแทบจะทะลักออกมานอกอกแต่พอมีความสัมพันที่ลึกซึ้งแบบนี้แล้วมันยิ่งทำให้เขาอยากจะกักขังร่างบอบบางนี้เอาไว้ให้เป็นของๆเขาเพียงแค่คนเดียวไม่อยากให้ใครหน้าใหนได้มองได้แตะต้องร่างบอบบางนี้อีกทั้งๆที่แต่ก่อนยังพอทนได้บ้างแต่ตอนนี้มันกลับทนไม่ไหวหากร่างบอบบางจะต้องกลับไปทำงานแบบนั้นอีก

"ฮายาโตะ......เลิกทำงานแบบนั้นเถอะฉันคงทนไม่ไหวหากจะต้องเห็นนายไปนั่งคุยกับคนอื่น"

ใบหน้าสวยชะงักค้างทันทีที่อีกคนพูดจบริมฝีปากบางที่กำลังเขี้ยวข้าวตุ้ยๆหยุดชะงักพร้อมๆกับฝืนกลืนมันลงคออย่างยากลำบากเพราะไม่คิดมาก่อนว่าร่างสูงจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
"พะ....พูดบ้าอะไรของนาย!!??....ฉันไม่เลิกเด็ดขาดทนไม่ได้ก็เรื่องของนายสิไม่เกี่ยวกับฉันซะหน่อย!!"
"ทำไม???....ถ้านายต้องการเงินก็บอกฉันสิจะเอาเท่าไหร่ฉันให้นายได้ทั้งนั้นขอแค่นะ.........."
"อย่ามาหาว่าฉันเห็นแก่เงินนะ!!!!!.....ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉันนายไม่ต้องมายุ่ง!!!!"
"ทำไม???....นายมีเหตุผลอะไรถึงเลิกไม่ได้!!!??บอกฉันสิฮายาโตะเหตุผลของนายคืออะไร???"
ร่างบอบบางถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ๆชายหนุ่มก็ตะคอกเสียงลั่นขึ้นมาเอาดื้อๆนัยน์ตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าคมหล่อเหลาที่เคร่งขรึมจริงจังซะจนน่ากลัวเพราะสีหน้าแบบนี้เขายังไม่เคยเห็นสักครั้งทั้งๆที่ไม่เคยแสดงด้านนี้ออกมาเลยแท้ๆหรือว่านี้คือตัวจริงของเค้าก่อนหน้านี้แค่แสดงละครอย่างนั้นสินะ

"นะ....นาย...กำลังทำให้ฉันกลัวนะไอ้บ้า!!!!"
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องบอกเหตุผลของนายมา!!!!"
มือหนาวางจานข้าวที่ยังกินได้ไม่กี่คำลงบนโต๊ะข้างเตียงอย่างแรงก่อนจะหันมาจับหัวไหล่มนเขย่าไปมาเพื่อเค้นเอาคำตอบโดยลืมไปแล้วว่าอีกคนร่างกายยังบอบช้ำอย่างหนักเพียงเพราะคำขอร้องของตัวเองถูกปฏิเสธถึงยอมรับไม่ได้ที่อีกคนทำเหมือนกับไม่ได้รักเขาแบบนี้
"ที่นายบอกว่ารักฉันมันเป็นความจริงใช่มั้ย???"
ทั้งน้ำเสียงและแววตาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังตัดพ้อตัวเองอย่างหนักนัยน์ตาสีมรกตสั่นระริกจนน้ำใสๆแทบจะล้นเอ่อลงมาเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง...จะบอกอีกคนไปได้ยังไงว่ามันคือสัญญาถ้าหากเขาไม่ทำตามแล้วทั้งชีวิตของเขาก็ต้องไร้อิสรภาพไปตลอดชีวิต
สองมือกำเข้าหากันแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อนึกโกรธตัวเองที่ดันมาหลงรักคนๆนี้เข้า....ถ้าหากไม่รักไม่ผูกพันเรื่องทุกอย่างมันคงจะง่ายกว่านี้.
ริมฝีปากบางขยับช้าๆเพื่อที่จะพูดอะไรบางอย่างเพราะตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่ามันจะต้องจบลงในวันนี้และเพราะคิดได้แบบนั้นเจ้าน้ำตาที่พยายามสกัดกั้นมันเอาไว้ก็ไหลลงมาเป็นสาย

"ฉะ....ฉัน...ฮึก....ขอโทษ...ยามาโมโตะ
....เรื่องของเรามันไม่ควรจะเกิดขึ้น...ฮึก....นายลืมฉันซะ...ฮึก..."
"นายพูดเรื่องอะไร???....หมายความว่าไงฮายาโตะ???"
สองแขนแข็งแรงรั้งร่างบอบบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น
อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองทั้งๆที่เข้าใจความหมายของมันดีอยู่แล้วแต่หัวใจมันกลับปฏิเสธว่าร่างบอบบางนี่ไม่ได้รักเขาทั้งที่เมื่อเช้าเพิ่งจะบอกรักเขาอยู่หยกๆแล้วตอนนี้กำลังจะบอกเลิกเขาอย่างนั้นเหรอเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงทำให้หัวใจคนเราเปลี่ยนง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ??
"ปล่อยฉัน.....ฮึก......นายไม่ได้หูฝาด........ฉันไม่ได้รัก.............มันก็แค่...อารมณ์ชั่ววูบ....ฮึก..."
"วะ....ว่าไงนะ!!?...นายจะบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันก็แค่อารมณ์ร่านของนายงั้นสิ!!"
"ใช่!!!...มันก็แค่อะ....อื้อ!!!!"
พูดยังไม่ทันจบประโยคริมฝีปากบางก็ถูกจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
ริมฝีปากคมบดเบียดลงไปอย่างไม่ยับยั้งความรู้สึกเมื่อในตอนนี้เขาก็เหมือนกับคนที่ถูกพิษรักทำให้หน้ามืดตามัวเขาก็แค่คนอกหักที่ขาดสติคนหนึ่งเท่านั้น
"อ๊า!!...หยุดนะจะ...เจ็บ!!!"
"ถ้าคำว่ารักของนายมันเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบฉันก็จะทำให้นายพูดมันออกมาอีกครั้งเองฮายาโตะ!!!"
จบประโยคมือหนากระชากเสื้อยืดตัวบางที่ร่างบอบบางสวมอยู่ทิ้งไปทันทีก่อนจะขบเม้มย้ำซ้ำรอยเดิมให้อีกคนจำให้ขึ้นใจว่าเจ้าของเรือนร่างนี้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น
"โอ๊ยย!!...ยะ...อย่ากัด..เจ็บ!!"
มือบางรวบรวมกำลังทั้งหมดที่มีดันหัวสีดำที่กำลังหื่นกระหายอย่างหนักขึ้นจนสุดชีวิตแต่กลับถูกมือแข็งแรงรวบทั้งสองมือเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
และในขณะที่ริมฝีปากคมกำบังลามเลียอย่างบ้าคลั่งอยู่นั้น!!!

ก๊อกๆๆ

"ทาเคชิ!!!....สายจากสึนะน่ะ!!"
ใบหน้าคมหล่อเหลาชะงักค้างทันทีก่อนจะซบหน้าลงบนแผ่นอกบางที่กระพื่มขึ้นลงอย่างหนักหน่วงอย่างหัวเสียพักหนึ่ง
"............ครับพ่อ!!!"
มือหนาดึงห่มผืนใหญ่ขึ้นมาคลุมร่างบอบบางที่ยังสั่นสะท้านเอาไว้ไม่ใช่เพราะสงสารต่อให้ร่างบอบบางนี้ร้องไห้คร่ำครวญยังไงในตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสารขึ้นมาเลยสักนิดมีแต่ความโกรธเกรี้ยวเท่านั้นที่มันขังอยู่ในอกจนแทบจะแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ

ร่างบอบบางยังนอนคุดคู้กอดผ้าห่มเอาไว้แน่นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดยังคงไหลไม่ยอมหยุดแต่ตอนนี้มันคงเป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้อีกคนตัดใจจากตัวเองได้จะโกรธจะเกลียดยังไงเขาก็ยอมถ้ามันจะทำให้ความสัมพันของเราจบลงได้




"เราจะกลับโตเกียวตอนนี้....ลุกขึ้นมาจัดการตัวเองซะแล้วเตรียมคำตอบที่มันฟังขึ้นกว่านี้เอาไว้ให้ฉันไม่งั้นก็อย่าหวังว่านายจะได้กลับไปคลับนั่นอีกฮายาโตะ"
น้ำเสียงทุ้มเข้มขึ้นจนใจหายทั้งสั่งและขู่คนที่ยังนอนตัวงอและร่ำไห้อยู่บนเตียงก่อนจะเดินออกจากห้องไปหลังจากวางสายจากเพื่อนสนิทมันคงจะดีกว่าหากตัวเขาจะออกจากห้องไปถ้ายังขืนอยู่กับร่างบอบบางนี่ต่อไปวันนี้ก็คงจะไม่มีทางไปถึงโตเกียวแน่....ยังไงซะเขาก็จะต้องเค้นเอาความจริงจากปากร่างบอบบางให้ได้
เสียงปิดประตูที่ยังสนั่นด้วยแรงมหาศาลของร่างสูงทำเอาร่างบอบบางถึงกับสะดุ้งเฮือกก่อนจะยันกายลุกขึ้นแล้วจัดการทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำให้เรียบร้อย


ซักพักร่างบอบบางก็ประคองตัวเองลงมาข้างล่างนัน์ตาสีมรกตสบมองร่างสูงของนายแบบหนุ่มยืนพิงเคาน์เตอร์คุยกับพ่อของตัวเองอยู่ก่อนจะหันมาทางตัวเองเข้านัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองคนที่พึ่งจะลงมาด้วยสายตาที่เย็นชาจนผิดวิสัยจนแม้แต่พ่อของเค้ายังรู้สึกได้
"แล้วผมจะแวะมาอีกนะครับพ่อ"
จบประโยคชายหนุ่มก็เดินออกไปด้านนอกโดยไม่สนจะช่วยประคองคนที่ตัวเองทำให้ร่างกายเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย....นัยน์ตาสีมรกตมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยแววตาที่สั่นระริกจู่ๆดวงตาก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งทั้งๆที่คิดว่าเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วแต่พอเขาหมางเมินตัวเองขึ้นมาจริงๆกลับรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูก
สองขาเรียวค่อยๆก้าวเดินตามหลังอีกคนไปช้าๆก่อนจะก้มโค้งให้กับชายสูงวัยที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์
"ขอโทษแทนเจ้าทาเคชิด้วยนะโกคุเดระคุงถ้าหากว่าเจ้าทาเคชิมันทำอะไรงี่เง่าๆ"
ชายสูงวัยตะโกนตามหลังของร่างบอบบางที่กำลังจะพ้นประตูไปจนต้องหยุดชะงัก
".........ครับผมเข้าใจ....ขอโทษที่ทำให้คิดมากนะครับ...ขอตัวนะครับคุณลุง"
ร่างบอบบางก้มโค้งให้คนสูงวัยอีกครั้งก่อนจะก้าวขาตามอีกคนไปโดยมีสายตาห่วงใยของคนสูงวัยมองตามหลังไปจนกระทั่งFerrari 458 italia ของลูกชายพุ่งทะยานออกไป
.
.
.
.
.
.
.
     ร่างสูงโปร่งนัยน์ตาสองสีกำลังตรวจสอบเอกสารพันธสัญญาที่พึ่งจะลงนามทำข้อตกลงกันมาหมาดๆด้วยสีหน้าที่ดูจะเคร่งเครียดผิดปรกติทั้งๆที่ผ่านมาไม่ค่อยจะใส่ใจกับเรื่องพวกนี้มากนักแต่คราวนี้คงเป็นเพราะอีกฝ่ายเรียกร้องมากเกินไปจนอดที่จะคิดไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะหักหลังตัวเองให้แล้ว....แต่เอาเถอะเรื่องนี้มันก็คงจะไม่เกินความสามารถของเขาสักเท่าไหร่
"จะไปรับตัวท่านโกคุเดระเลยรึเปล่าครับ?..ครบกำหนดวันนี้แล้วนะครับท่านมุคุโร่?"

"คึหึหึ....เงียบแบบนี้คงจะหาเงินไถ่ตัวเองไม่ได้แล้วกระมังครับเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปก็แล้วกันให้เขาได้ทำใจอีกสักวัน....แวะไปฮาราจุกุสักเดี๋ยวนะครับเคน"
นายแบบคนนั้นสินะครับ?....ดูท่านมุคุโร่จะสนใจเด็กคนนั้นเป็นพิเศษนะครับ?"
ใบหน้าหล่อเหลาละออกจากเอกสารในมือก่อนจะปิดแฟ้มในมือทันทีทำเอาลูกน้องคนสนิทต้องมองผ่านกระจกมองหลังเพราะคิดว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปแต่ก็ต้องแปลกใจที่ใบหน้าหล่อเหลายังคงประดับรอยยิ้มแทนที่จะนิ่งสนิท....แบบนี้ก็แสดงว่าสนใจนายแบบตัวเล็กนั่นจริงๆสินะ....เพียงแค่เอ่ยถึงเท่านั้นก็ทำให้เจ้านายของเขายิ้มออกมาได้เป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ......



     Ferrari 458 italia เลี้ยวเข้าไปจอดสนิทในที่จอดรถที่ทีมงานเตรียมเอาไว้ให้แต่คนในรถต่างก็ไม่มีใครคิดจะขยับตัวลงมา
ใบหน้าคมหล่อเหลายังคงนิ่งสนิทด้วยอารมณ์ที่ครุครุ่นมาตลอดทางมองตรงข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายเพราะในหัวตอนนี้มันมีเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น

"คำตอบของนาย.....จะบอกฉันได้รึยังฮายาโตะ??"

เป็นร่างสูงที่เอ่ยขึ้นมาทำลายบรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดที่ก่อตัวโอบล้อมพวกเขามาตลอดทาง

"ฉะ....ฉันมะ........"
"คิดก่อนจะพูดออกมาฮายาโตะ!!!!"
และเพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาไม่กี่คำแต่เขาก็พอจะเดาได้ถึงสิ่งที่อีกคนต้องการจะพูดและมันคือสิ่งที่เขาไม่อยากได้ยินถึงได้ตะคอกกลับไปแบบนั้น
นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองร่างสูงข้างๆอย่างตัดพ้อน้ำใสๆไหลลงมาอาบสองแก้มอีกครั้งถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวันนี้ก็ตาม

"นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่???...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...ฉันไม่รู้ว่านายอยากจะได้ยินอะไรจากปากฉัน!!!!...ฉันไม่รู้ว่านายคาดหวังอะไรกะ...อื้อ!!!"
มือหนารั้งใบหน้าสวยเข้ามารับริมฝีปากของตัวเองทันทีไม่เปิดโอกาสให้อีกคนได้ตั้งตัวหรือตัดพ้ออะไรออกมาได้อีกแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าจูบครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความขมขื่นและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสจู่ๆน้ำตาของลูกผู้ชายก็ไหลลงมาอย่างช่วยไม่ได้ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้พวกเขามีความสุขจนเขาคิดว่าในชีวิตนี้เขาคงจะหามันไม่ได้อีกแล้วแต่แค่เพียงข้ามคืนและยังไม่ทันข้ามวันเขากลับเผชิญกับความทุกข์และความเจ็บปวดอย่างไม่ทันตั้งตัวแบบนี้
ริมฝีปากคมที่แนบชิดกดจูบซ้ำๆและแผ่วเบาอย่างคนที่อ่อนล้าและสิ้นหวังทั้งที่คิดว่าอีกคนจะบดเบียดรุนแรงเหมือนก่อนหน้าจนต้องหลับตาแน่นแต่แล้วเปลือกตาของร่างบอบบางก็ค่อยๆเปิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆหยดแหมะลงมาที่แก้มของตัวเองทั้งๆที่น้ำตาของตัวเองก็ยังไม่ได้เหือดแห้งหายไปแต่ทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บปวดมากมายขนาดนี้เมื่อสัมผัสได้ถึงหยดน้ำอุ่นๆ
และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อรู้ถึงที่มาของมันมือบางทั้งสองข้างยกขึ้นมาประคองใบหน้าของอีกคนเอาไว้ทั้งที่ยังสั่นระริก
"ยะ...ยามาโมโตะ!!!...ฉะ....ฉันขอโทษ!!!....."
ริมฝีปากคมละออกไปนานแล้วแต่มือหนาก็ยังคงประคองใบหน้าสวยเอาไว้อยู่แบบนั้นนัยน์ตาสีเปลือกไม้ยังคงจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสีมรกตอย่างวอนขอ
นิ้วเรียวเกลี่ยหยาดน้ำใสๆออกจากใบหน้าของอีกคนอย่างเบามือ

"ฉันแค่อยากได้ยินเสียงจากหัวใจของนายฮายาโตะ....เพียงแค่นั้นที่ฉันอยากฟัง...."

สองแขนผอมบางโผเข้ากอดรอบคอของอีกคนเอาไว้แน่นไม่อยากจะฝืนหัวใจของตัวเองอีกต่อไปแล้ว....มันทรมานเกินกว่าจะทนรับเอาไว้ได้อีกอย่างน้อยก็ขอเพียงแค่ได้บอกสิ่งที่หัวใจของตัวเองเรียกร้องก็พอแล้วในตอนนี้...

"ฉันรัก....ฉันรักนายยามาโมโตะ.....ฉันรักนาย...ฮึก..."
"ฉันก็เหมือนกัน...รักนายที่สุดฮายาโตะ....ฮะฮะ"
ริมฝีปากคมฉีกยิ้มกว้างก่อนจะกดจูบแรงๆที่ขมับและแก้มใสของร่างบอบบางอย่างแสนรักสองแขนกระชับร่างของอีกคนเข้ามากอดเอาไว้แน่นรู้สึกอุ่นวาบที่หัวใจขึ้นมาอีกครั้งร่างบอบบางเองก็ไม่ต่างกันสองแขนผอมบางย้ายมาโอบรอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่นทั้งๆที่รู้ดีว่ามันจะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้โอบกอดแผ่นหลังอบอุ่นนี้เอาไว้แบบนี้แต่ก็ไม่อยากจะจากกันไปทั้งที่ยังไม่ได้พูดความในใจของตัวเองอีกแล้วไม่อยากปิดบังเอาไว้อีกต่อไป.

"ปละ...ปล่อยได้แล้วไอ้บ้า!!...ฉันหายใจไม่ออก.."

"ฮะฮะ....โทษทีก็ฉันดีใจนี่ที่นายบอกรักฉันน่ะ"

"ก็แกบังคับฉันไม่ใช่รึไง!!"

"แล้วพูดจากใจรึเปล่า??"

"กะ...ก็ใช่น่ะสิใครเค้าจะมาโกหกเรื่องแบบนี้กันเล่า"

ริมฝีปากของทั้งสองคนเคลื่อนเข้าหากันอีกครั้งและครั้งนี้มันจะหวานล้ำยิ่งกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน....ริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดบดเบียดแลกสัมผัสแสนหวานให้แก่กันและกันอย่างไม่รู้จักพอเรียวลิ้นร้อนกวาดต้อนพัวพันในโพลงปากเล็กตักตวงความหอมหวานให้สาแก่ใจกับที่ตัวเองต้องเจ็บปวดก่อนหน้าเนิ่นนานกว่าจะละออกมาให้อีกคนได้หายใจอย่างเสียดาย

"สมมุติว่า.....วันนี้มันเป็นวันสุดท้ายที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน....นายจะทำยังไง??"

ร่างบอบบางแกล้งถามออกไปเพื่อหยั่งเชิงว่าอีกคนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้างและดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะนิ่งค้างไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้กับร่างบอบบาง

"ฉันจะไม่มีวันยอมให้วันนั้นมันเกิดขึ้นเด็ดขาดเพราะฉันจะกักขังนายเอาไว้ด้วยความรักของฉันตลอดไปฮายาโตะต่อให้นายอยากจะหนีฉันไปจนสุดหล้าฟ้าเขียวฉันก็จะตามหานายจนเจอ...เชื่อฉันสิ"

"......ฉันจะเฝ้ารอวันที่นายตามหาฉันจนเจอก็แล้วกัน.....ไอ้บ้านายแบบ.."

ใบหน้าของทั้งสองคนเคลื่อนเข้าหากันอีกครั้งเพื่อแทนคำสาบานของพวกเขาแต่ก่อนที่จะได้ยืนยันคำสาบานของพวกเขานั้น!!

ปังปังปัง!!!!!

ทั้งสองร่างถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงทุบกระจกรถดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวพร้อมๆกับเสียงใสๆเล็กๆตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างๆประตูฝั่งคนขับ

"ลงมาได้แล้วเจ้าบ้ายามาโมโตะแกเลทมาเป็นชั่วโมงแล้วน้า!!!!"

ชายหนุ่มทำหน้าหน่ายๆให้กับเพื่อนร่างเล็กที่ไม่รู้ว่ามายืนเสนอหน้าอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก่อนจะลงจากรถไปและไม่ลืมที่จะเปิดประตูให้ร่างบอบบางมือหนาคว้าเสื้อโค๊ตตัวยาวของตัวเองคลุมไหล่ให้กับร่างบอบบางอีกทีเพราะดูเหมือนอีกคนจะยังมีไข้สูงพอสมควร

"โกคุเดระคุงเป็นอะไรไปเหรอดูหน้าซีดๆนะ??"

"ฮะฮะ....นายนี่ยังขัดคอได้โล่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ...สึนะ"

"อะไรของแกฉันถามเพราะเป็นห่วงฮายาโตะจังหรอกไอ้บ้า!!??"
เสียงต่อปากต่อคำของเพื่อนซี้ทั้งสองยังดังไปตลอดทางเรียกรอยยิ้มของร่างบอบบางได้อย่างไม่อยากเย็น...ยังไงซะก็ขอแค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นที่จะยิ้มได้แบบนี้
และลืมความทุกข์ในใจไปให้หมดสิ้น
.
.
.
.ทั้งสามคนเดินหยอกล้อกันไปโดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่...สายตาที่เยือกเย็นและรอยยิ้มละไมร้ายกาจนั่นมันชั่งน่าขนลุก
"นั่นมัน!!...ท่านฮายาโตะนี่ครับ!!....จะให้ไปเอาตัวมาเลยมั้ยครับท่านมุคุโร่?"

"คึหึหึ....ผมจะจัดการเองครับพวกนายรออยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน"
..
..
..
..
..
..
..
..
..
..Tobecontinue...............







    










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น