11 เม.ย. 2557

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 06

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน

:Fanfiction [KHR] 6927,8059

:ปลายกิ่งฝัน : 06

:Romantic Drama

:NC-17



คำเตือน:บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายท่านใดไม่รู้จักหรือไม่พิศมัยกรุณากดเครื่องหมายกากบาทที่มุมขวาบนขอบคุณค่ะ






          .....เสียงเครื่องดนตรีแบบโบราณดังมาให้ได้ยินแต่ไกลขาทั้งสองคู่ก้าวลงจากรถคันหรูก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณงานถึงแม้ว่างานดอกไม้ไฟจะเริ่มตอนหัวค่ำแต่ที่
Hirayu hyoketsu otori marsuri แห่งนี้ก็ยังคึกครื้นตั้งแต่หัววันเพราะบรรดาชาวบ้านต่างก็พากันออกมาตั้งร้านขายของขึ้นชื่อของที่นี่และของที่ระลึกมากมายตลอดสองข้างที่ทางจนถึงบริเวณน้ำตกที่เป็นสถานที่จัดงานช่วงเดือนกุมภาแบบนี้ที่น้ำตกที่นี่จะกลายเป็นธารน้ำแข็งตั้งแต่ยอดของมันลงมาจนถึงด้านล่างตลอดความสูงถึงหกสิบสี่เมตรของมันให้ความรู้สึกสวยงามเหมือนในภาพวาดเลยทีเดียว

ร่างสูงนัยน์ตาสีเปลือกไม้ชำเรืองมองคนข้างๆน้อยๆอย่างไม่ให้รู้ตัวแล้วก็อดที่จะยิ้มไม่ได้กับท่าทางตื่นเต้นจนเกินเหตุของเจ้าตัวหัวสีเงินสะบัดไปทางโน้นทีทางนี้ทีด้วยดวงตาที่เป็นประกายระยิบระยับแต่ที่จะสนใจเป็นพิเศษก็คงจะเป็นโซนของกินนี่แหละที่ร่างบอบบางจะวิ่งเข้าวิ่งออกแทบจะทุกร้านแถมเจ้าของร้านก็พากันใจดียื่นของที่ตัวเองขายให้ร่างบอบบางชิมซะทุกร้านถึงจะซื้อบ้างไม่ซื้อบ้างก็ไม่ว่าอะไรยังเต็มใจหยิบยื่นให้เหมือนเดิมคงจะหลงเสน่ห์นัยน์ตาสีมรกตนั่นเหมือนกับเขาแน่ๆเพราะหากเพียงแค่เจ้าตัวจะเอ่ยขออะไรเขาก็ยินดีใส่พานถวายให้แน่นอนเลยทีเดียว

"อ๊ะ!!....นี่นายฉันอยากได้ไอ้นั่นน่ะ!!!!"
ร่างบอบบางวิ่งมาดึงแขนของเขาไปยืนต่อแถวของร้านขายอะไรสักอย่าง.....สายไหม!!?เจ้าตัวดีของเขาอยากจะกินสายไหม??....นัน์ตาสีเปลือกไม้หันไปมองหน้าทีหลังทีอย่างรู้สึกอายๆกับสายตาที่มองมาไม่ใช่ว่าจะมานึกเขินอายกับสายตาของคนเอาตอนนี้หรอกนะเพราะนั่นมันเป็นผู้ใหญ่จะมองหรือโลมเลียเขายังไงก็ไม่เคยจะรู้สึกอะไรอยู่แล้วแต่นี่มันเป็นสายตาของเด็กตัวเล็กๆที่สูงยังไม่ทันจะถึงเอวเขาเลยด้วยซ้ำที่แหงนมองดูนายแบบชื่อดังร่างสูงเป็นเสาโทรเลขมายืนต่อแถวท่ามกลางเหล่าลิตเติ้ลเกิลแอนด์ลิตเติ้ลบอยแบบนี้...มือหนายกขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองอย่างเขินๆในใจกำลังคิดว่าจะปล่อยให้ร่างบอบบางยืนต่อแถวคนเดียวจะดูดีกว่ารึเปล่าเพราะยังไงซะเจ้าตัวก็ดูจะกลมกลืนกว่าเขาเยอะ...แต่ในขณะที่กำลังใช้ควมมคิดอยู่นั้นเสียงเล็กๆของใครบางคนก็ดังขึ้น
"นี่ๆพี่สาวทำไมมาต่อแถวล่ะ???"
ใบหน้าคมห่อเหลาหันไปตามเสียงเล็กๆนั่นก่อนจะไปสะดุดกับเด็กชายตัวเล็กคนนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าของร่างบอบบางมือเล็กๆจับชายเสื้อโค๊ตของร่างบอบบางเอาไว้แล้วใบหน้ากลมๆกับตาเม็ดก๋วยจี๋นั่นก็แหงนขึ้นมามองหน้าของร่างบอบบางด้วยจนเขาอดที่จะหัวเราะไม่ได้มือหนาจึงรีบยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้เพราะกลัว่าอีกคนจะอายแถมเจ้าหนูชินจังยังดูไม่ออกเลยว่าเจ้าตัวดีของเขาป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิงอีกอย่างเขาก็อยากรู้ด้วยแหละว่าร่างบอบบางจะตอบเจ้าหนูชินจังนั่นยังไง
ร่างบอบบางนั่งลงตรงหน้าเจ้าหนูชินจังนั่นก่อนจะตอบออกไป
"ก็อยากกินมั่งไงถึงได้มาต่อแถว....ว่าแต่เค้าเรียกว่าอะไรเหรอ???"
ร่างสูงนัยน์ตาสีเปลือกไม้สังเกตุเห็นตาเม็ดก๋วยจี๋ของเจ้าชินจังเปิดขึ้นน้อยๆหรืออาจจะเต็มที่ของเค้าแล้วก็ได้ก่อนจะตอบออกมา...นี่คงจะแปลกใจไม่ใช่น้อย
"เค้าเรียกว่าสายไหมไงพี่สาวไม่รู้จักเหรอ??"
"ไม่รู้จักพี่พึ่งเคยเห็นนี่แหละ....ฮะฮะ"
ริมฝีปากคมฉีกยิ้มกว้างกับภาพของเด็กสองคนที่คุยกันตรงหน้าถึงเขาจะไม่เห็นว่าร่างบอบบางมีสีหน้าแบบใหนแต่เขาก็มองเห็นภาพใบหน้าสวยๆนั้นเปื้อนยิ้มอยู่เต็มใบหน้าอยู่แล้ว
เสียงพูดคุยผสมกับเสียงหัวเราะสดใสยังดังขึ้นมาให้ได้ยินตลอดเวลาดูท่าว่าจะคุยกันถูกคอน่าดูทำเอาคนที่อยู่ข้างหลังฟังทั้งสองคนคุยกันเพลินจนลืมอายไปแล้วจนกระทั่งมาถึงคิวของเจ้าหนูชินจังชั่งจ้อแล้ว
"เอาสีชมพูกับสีขาวครับ!!!!!"
เสียงสดใสตะโกนบอกคนขายของเจ้าหนูชินจังทำเอาคนที่กำลังคิดอะไรเพลินๆหลุดออกจากภวังค์....
"เอาเหมือนน้องคนนั้นสองอันครับ!!!"
ร่างบอบบางขี้ไปทางเจ้าหนูชินจังที่วิ่งไปหาแม่ของตัวเองแล้วเรียบร้อยแต่ก็ยังหันมาโบกไม้โบกมือให้กับร่างบอบบางอีกครั้งซึ่งเจ้าตัวเองก็โบกมือตอบรับไปเช่นกันนัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองทั้งสองคนอย่างไม่วางตา....อยากจะหยุดเวลาเอาไว้ตรงนี้ตลอดไปไม่อยากให้มันเดินต่อไปอีกแม้แต่วินาทีเดียว....ไว้เท่าความคิดมือหนาหยิบมือถือขึ้นก่อนจะเรียกร่างบอบบางที่อยู่ตรงหน้า
"ฮายาโตะ!!"
ร่างบอบบางหันควับมามองตามเสียงเรียกทันทีทั้งๆที่ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มสดใสและทันใดนั้น!!
แชะ!! แชะ!! แชะ!!
"อ๊ะ!!!!....ทะ...ทำอะไรของนายห๊าไอ้บ้า!!!"
หลังจากตั้งสติได้นิ้วเรียวเล็กก็ชี้หน้าของเขาก่อนจะเต้นแร้งเต้นกาด่าเขาปาวๆจนเขาทำได้แต่ยืนหัวเราะร่าไม่ได้สนใจกับอีกคนที่ยืนเต้นแร้งเต้นกาอยู่ตรงหน้า....เขาน่าจะคิดได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้คงจะดีป่านนี้คงเก็บภาพสวยๆได้เยอะกว่านี้แล้ว
"ฮะ ฮะ ฮะ......ไปกันเถอะ"
มือหนาคว้าเข้าไปที่ข้อมือบางแล้วเดินนำให้ร่างบอบบางเดินตามเข้าไปในบริเวณน้ำตกที่จัดงานต่อทันที
"ปล่อยได้แล้วไม่ต้องมาจับ!!!"
ร่างบอบบางสะบัดข้อมือของตัวเองออกจากมือของร่างสูงก่อนจะหันมาสนใจเจ้าสายไหมในมือต่อ...ริมฝีปากคมอมยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนจะชำเรืองมองดูใบหน้าสวยของคนข้างๆน้อยๆแล้วหันกลับไปสนใจด้านหน้าต่อ
....ยังหวงเนื้อหวงตัวไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดแแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกภูมิใจในร่างบอบบางนี้อย่างบอกไม่ถูกที่เขาจะได้เป็นคนที่จะได้สัมผัสร่างบอบบางนี้เป็นคนแรกและเขาจะต้องได้ครอบครองทั้งตัวและหัวใจร่างบอบบางนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น!!.

...........ทิฐิของใครบางคนมันชั่งรุนแรงและน่ากลัวเสียเหลือเกิน.............

สองร่างเดินเข้ามาใกล้กับน้ำตกมากขึ้นและแน่นอนอยู่แล้วว่าผู้คนก็ยิ่งเยอะขึ้นตามไปด้วย....มือหนาเอื้อมไปคว้าข้อมือบางของคนข้างๆเอาไว้อีกครั้งจนร่างบอบบางถึงกับชะงักค้าง
"อะ...อะไรของแกอีกไอ้บ้า!!!"
ใบหน้าสวยหันมาแขวะใส่ร่างสูงในทันทีทันใดแต่อีกคนกลับฉีกยิ้มกว้างตอบกลับไป
"เอ๊ะ!!!...ทำบ้าอะไรเนี้ย!!!"
ร่างบอบบางร้องเสียงหลงขึ้นมาทันทีเมื่อนิ้วเรียวยาวของร่างสูงสอดประสานเข้ามากับนิ้วของตัวเองมือบางพยายามจะสลัดออกแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่ออีกคนกระชับแน่นขึ้นไปอีก
"ปล่อยนะอายคนอื่นเค้าจะแย่!!!"
แต่แทนที่ร่างสูงจะปล่อยมือกลับรั้งให้อีกคนเข้ามาใกล้มากขึ้นก่อนจะสอดมือทั้งคู่เข้าไปในกระเป๋าโค๊ตตัวใหญ่ของตัวเองและเพราะแบบนั้นใบหน้าสวยถึงกับขึ้นสีระเรื่ออย่างช่วยไม่ได้
"แบบนี้แหละดีแล้วจะได้ไม่หลงใกล้จะค่ำแล้วคนเยอะด้วย"ใบหน้าคมหล่อเหลาหันมากระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนข้างๆก่อนจะก้าวขาเดินเข้าไปต่อปล่อยให้ร่างบอบบางก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเองอย่างไม่มีทางเลือกยิ่งมือหนาในกระเป๋าเสื้อกระชับมือของตัวเองเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวเหมือนโดนไฟสุมขึ้นทุกทีทั้งๆที่อากาศหนาวจนแทบจะลบศูนย์องศาอยู่แล้วแท้ๆ

ทั้งสองคนยืนอยู่บนสะพานข้ามน้ำตกที่กลายเป็นธารน้ำแข็งไปแล้วนัยน์ตาสีมรกตจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นเมื่อแสงไฟหลากสีสาดส่องเข้าไปกระทบกับธารน้ำแข็งสีขาวสว่างแบบนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในแดนสนธยายังไงยังงั้น
"ไปกันเถอะฮายาโตะ!!"
"เอ๋อะไรกันเค้ายังไม่จุดดอกไม้ไฟเลยนะ???....ฉันไม่ไป!!!"
ร่างบอบบางคะคอกเสียงแข็งเมื่ออยู่ดีๆร่างสูก็ชวนกลับแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยซะแบบนั้น
"ฮะฮะ...ฉันมีที่ๆอยากให้นายดูน่ะรับรองว่าสวยไม่แพ้ตรงนี้เลยนะ"
มือที่นังซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค๊ตบีบเบาเหมือนกับจะบอกว่าเขาไม่ได้โกหกทำเอาร่างบอบบางใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้งนี่เขาลืมไปได้ยังไงว่าเรายังจับมือกันอยู่....ใบหน้าสวยหันกลับไปอีกทางอย่างอายๆก่อนจะปล่อยให้อีกคนเดินนำออกไป
แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมาขู่ฝ่อๆอยู่ดี
"ถ้าไม่สวยอย่างที่พูดฉันฆ่านายแน่ไอ้นายแบบบ้า!!"
ร่างสูงนัยน์ตาสีเปลือกไม้ได้แต่หัวเราะอย่างชอบใจกับคำขู่ที่ไม่ได้ดูน่ากลัวอะไรเลยของร่างบอบบางแต่ถึงอย่างนั้นถ้าหากว่าร่างบอบบางนี้อยากจะฆ่าเขาจริงๆเขาก็จะไม่มีวันร้องขอชีวิตของตัวเองเด็ดขาด


ไม่นานFerrari 458 italia วิ่งขึ้นมาจอดบนหน้าผาที่เป็นจุดชมวิวของเมืองและดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่เขาเพราะมีนักท่องเที่ยวบางส่วนขึ้นมาก่อนแล้วประปราย
ขาทั้งสองคู่ก้าวลงจากรถแทบจะพร้อมๆกันก่อนจะไปนั่งชมวิวยามเย็นที่หน้ากระโปรงรถ
แสงสุดท้ายของวันกำลังทอประกายสีส้มอยู่ที่ปลายขอบฟ้ารำไรนั้นสะท้อนกับหิมะที่เกาะตามยอดไม้สีเขียวระยิบระยับชวนมองเหมือนในภาพฝัน
นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างไม่วางตาดวงตาทอประกายระยิบระยับไม่ต่างจากหิมะเลยสักนิดและนั่นมันทำให้สายตาของอีกคนไม่สามารถที่จะละออกไปจากภาพตรงหน้าได้เหมือนกัน....ไม่ใช่วิวยามเย็นแต่เป็นใบหน้าสวยคนข้างๆนี่ตะหากล่ะที่กำลังจิ้มขนมเข้าปากยังไม่วางมือเลยตั้งแต่มาถึงแถมตอนนี้ก็หอบมาจนเต็มหน้าตักของตัวเองอีกทั้งดังโกะเอยไดฟุกุเอยใหนจะสตอเบอรี่ลูกโตอีกอย่าบอกนะว่าจะกินหมดนี่น่ะไม่รู้ว่าจะเอาลงไปเก็บไว้ใหนแล้วตัวบางขนาดนั้ก็กินเก่งไม่ใช่เล่นเลยนะเนี้ย...ริมฝีปากคมฉีกยิ้มอีกครั้งถึงจะไม่รู้ว่ามันเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วของวันนี้ก็เถอะรู้แค่เพียงว่าเขามีความสุขไม่แพ้ร่างบอบบางนี่เลย
"จะมองอะไรกันนักหนา....เอ้านี่!!!"
นัยน์สีเปลือกไม้หรี่ลงน้อยๆก่อนจะยิ้มกว้างออกมา....นี่อย่าบอกนะว่าคิดว่าเขาอยากจะแย่งขนมตัวเองกินน่ะถึงได้จิ้มไดฟุกุมาจ่อปากเขาแบบนี้
แล้วแทนที่จะงับเอาดีๆก็ไม่งับมือหนาคว้ามือบางๆของคนป้อนเอาไว้แน่นก่อนจะค่อยๆยกมันขึ้นไปงับเอาเจ้าไดฟุกุเข้าปากเล่นเอาใบหน้าสวยซับสีจัดจนแทบจะแดงกว่าลูกมะเขือเทศอยู่แล้วแถมยังโดนจ้องซะใกล้ขนาดนี้อีก
"หวานดีนะ..........ฮายาโตะ"
ริมฝีปากคมพูดออกมาเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนแต่นัยน์ตาสีเปลือกไม้กลับจ้องมองนัยน์ตาสีมรกตเอาไว้ไม่วางตา....และเป็นเพราะถูกสายตาคู่นั้นสะกดหรืออย่างไรเปลือกตาของร่างบอบบางถึงได้ค่อยๆปิดลงเมื่อใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้
ก่อนที่ริมฝีปากคมจะประกบลงบนริมฝีปากบางแผ่วเบาแต่ไม่ล้วงล้ำไปมากกว่านั้นยังคงกดจูบซ้ำๆเหมือนเป็นการขออนุญาติและดูเหมือนว่าร่างบอบบางจะรับรู้จึงเผยอริมฝีปากน้อยๆและเพียงเท่านั้นลิ้นร้อนที่รออยู่แล้วก็ค่อยๆสอดแทรกเข้าไปในโพลงปากเล็กแล้วค่อยๆควานหารสหอมหวานในโพลงปากเล็กอย่างเเชื่องช้าไม่รีบร้อน
ไม่เร่งเร้าให้อีกคนตื่นกลัว
"เอ๊ะ...ดะ...เดี๋ยว...อื้อ!!!"
และเมื่อรวบรวมสติของตัวเองได้มือบางทั้งสองก็ดันแผงอกกว้างให้ออกห่างแต่ทำได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเมื่อมือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นมากดท้ายทอยของร่างบอบบางให้เข้าไปรับจูบของตัวเองอีกครั้งสองมือบางจึงทำได้เพียงแค่ทุบแผงอกกว้างเบาๆเพื่อประท้วงเท่านั้นแต่ไม่นานจากแรงทุบก็กลายเป็นมือทั้งสองข้างย้ายไปกำสาบเสื้อเชิ้ตตัวในของอีกคนเอาไว้จนยับยู้ยี้เมื่อเรี่ยวแรงที่มีเริ่มหดหายไปพร้อมๆกับรสจูบที่เร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่ในหัวสมองตอนนี้มันว่างเปล่าและขาวโพลนไม่รับรู้สิ่งใดอีกเมื่อความรู้สึกแปลกประหลาดเข้ามาแทนที่และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สองแขนผอมบางย้ายขึ้นไปโอบรอบคอของร่างสูงเอาไว้แน่น
ริมฝีปากคมยังบดเบียกดลงไปบนริมฝีปากบางอย่างหลงไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆและยิ่งได้ลิ้มลองรสชาติหอมหวานนี้แล้วมันก็ยิ่งยากจะห้ามใจมือหนาอีกข้างย้ายมารวบเอวบางให้เข้าไปแนบชิดยิ่งกว่าเดิมอีกเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังอ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรงทรงตัวจนกระทั่ง

ปัง ปัง ปัง!!!!!!!
เสียงดอกไม้ไฟดังขึ้นติดต่อกันเป็นระยะๆก่อนจะสว่างวาบอวดสีสันของมันท่ามกลางความมืดมิด
ทั้งสองร่างชะงักน้อยๆก่อนที่ริมฝีปากคมจะละออกมาช้าๆให้อีกคนได้หายใจหลังจากขาดอากาศไปนาน
ใบหน้าสวยซบลงไปบนแผงอกกว้างของร่างสูงสองแขนผอมบางโอบไปรอบแผ่นหลังของอีกคนเอาไว้หลวมๆริมฝีปากบางยังเผยอน้อยๆเพื่อช่วยหอบอากาศเข้าไปในปอดนัยน์ตาสีเขียวมรกตสั่นไหวน้อยๆอย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้ไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสของเขาคนนี้มีแต่จะยินยอมและเต็มใจให้เขาซะอย่างงั้น
กำแพงที่อุตส่าห์สร้างขึ้นมาปิดกั้นตัวเองจากผู้คนกลับถูกเขาคนนี้พังมันซะย่อยยับ
ไม่มีชิ้นดี
แสงวูบวาบสว่างไสวของดอกไม้ไฟทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองเห็นใบหน้าสวยที่ซับสีจัดที่ซบอยู่กับแผงอกของตัวเองได้ชัดขึ้นมือหนายกขึ้นมาปาดหยาดน้ำใสๆที่มุมปากของอีกคนออกแผ่วเบาก่อนจะกดจูบลงไปที่หน้าผากมนแล้วคลอเคลียอยู่แบบนั้น
"ฮายาโตะ......ฉันรักนาย"
เสียงกระซิบเบาๆของร่างสูงทำเอาใบหน้าสวยมุดเข้าไปในแผงอกมากยิ้งขึ้นสองแขนผอมบางกอดกระชับแผ่นหลังกว้างแน่นขึ้นไปอีกไม่มีคำพูดตอบรับหรือปฏิเสธออกมาจากริมฝีปากบางสักคำมีเพียงการกระทำที่ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเท่านั้นที่
ทำให้เขาถึงกับยิ้มกว้างสองแขนกระชับกอดร่างบอบบางให้แนบชิดขึ้นก่อนที่ริมฝีปากคมจะพรมจูบเบาๆไปจนทั่วใบหน้าสวยไม่ได้สนใจแล้วว่าดอกไม้ไฟจะสวยงามขนาดใหนเพราะตอนนี้เขามีสิ่งที่สวยงามที่สุดอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว
ทั้งสองคนต่างหลงอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันจนแสงวูบวาบของดอกไม้ไฟอันสุดท้ายหายไปจากท้องฟ้าเหลือเอาไว้เพียงแสงนวลๆของดวงจันทร์ที่รายล้อมไปด้วยหมู่ดาวที่วันนี้ดูจะส่องแสงสว่างไสวเป็นพิเศษ
"กลับกันเถอะ....ฮายาโตะ"
"........อืม"
..
.
.
.
.
          ......ร่างเล็กเรือนผมสีน้ำตาลฟูฟ่องก้าวขาออกมาจากสตูดิโอสำหรับถ่ายแบบวันนี้อย่างเหนื่อยๆโดยมีผู้จัดการส่วนตัวเดินตามมาติดๆ
"กี่ทุ่มแล้วโชอิจิ"
น้ำเสียงที่แสดงถึงความเหนื่อยล้าเต็มทีของร่างเล็กทำให้ผู้จัดการหนุ่มยิ้มน้อยๆเพราะเข้าใจถึงความลำบากของร่างเล็กดีที่ต้องวิ่งรับงานแทนเพื่อนซี้ร่างสูงมาเกือบจะครบอาทิตย์แล้ว
"ตีหนึ่งครับสึนะโยชิคุง.....มีเมล์จากคุณมาเฟียมานะครับจะดูเลยมั้ย"
"จริงเหรอ!!!!"
และพอได้ยินเพียงแค่นั้นนัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ก็เบิกกว้างขึ้นทันทีลืมความเหนื่อยล้าเมื่อกี้ไปในพริบตา...มือเรียวเล็กรีบคว้ามือถือจากผู้จัการส่วนตัวมาดูในทันที
"ถึงตอนนี้ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสึนะคุงจะยังคุยกับเขาอยู่อีกแล้วนี่เคยเห็นหน้าเขารึยังครับอย่ายุ่งกับพวกเขามากกว่านี้เลยนะครับเดี๋ยวจะเดือดร้อนเปล่าๆ"
ผู้จัดการส่วนตัวหนุ่มเตือนร่างเล็กด้วยความเป็นห่วงเพราะดูเหมือนร่างเล็กจะจดจ่ออยู่กับมาเฟียนิรนามคนนี้ซะเหลือเกินตั้งแต่วันนั้นมาดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะติดต่อกันบ่อยขึ้นทั้งๆที่มันไม่น่าจะสานความสัมพันกันมาขนาดนี้ก็เถอะ...เขาก็แค่เป็นห่วงว่าร่างเล็กนี่จะเจอปัญหาเข้าสักวัน
"ยังไม่เคยเจอเค้าเลย...นายไม่ต้องห่วงหรอกน่าฉันก็แค่สอนมารยาทให้เค้าก็เท่านั้นเป็นมาเฟียก็ต้องหัดเคารพคนอื่นเหมือนกันนะจะบอกให้"
"แต่ท่าทางของสึนะคุงน่ะเหมือนกำลัง......เอ่อ...."
"ทำไมท่าทางของฉันมันทำไม???"
"เปล่าครับผมว่าสึนะคุงเหนื่อยมากแล้วพักก่อนดีกว่านะครับ"
ผู้จัดการหนุ่มเปิดประตูรถให้กับร่างเล็กที่ยังทำหน้าสงสัยก่อนจะไปประจำที่ของคนขับคงจะยังพูดตอนนี้ไม่ได้หรอกมั้งว่าเจ้าตัวเหมือนคนที่กำลังตกหลุมพรางร้ายกาจของมาเฟียเข้าแล้วบางทีฝ่ายโน้นอาจจะกำลังปั่นหัวร่างเล็กนี่อยู่ก็เป็นได้แต่พูดไปเจ้าตัวก็ได้แต่แก้ตัวกลับมาทุกครั้งเลยไม่รู้จะใช้คำพูดแบบใหนดีร่างเล็กถึงจะได้หยุดคิดบ้างคงต้องรอตัวช่วยกลับมาก่อนเท่านั้นในตอนนี้
"ฉันจะโทรตามยามาโมโตะกลับมาพรุ่งนี้แล้วนายว่าดีมั้ยโชอิจิ"
"ก็ดีครับผมลืมไปเลยว่ารับงานเอาไว้ให้ยามาโมโตะคุงพรุ่งนี้ด้วยจะกลับมาทันรึเปล่าเนี้ย!!!"
"ทันสิยามาโมโตะอยู่แค่กิฟุนี่เองขับรถชั่วโมงนึ่งก็น่าจะถึงล่ะนะเจ้าบ้านั่นมันตีนผี"
.."งันก็สบายใจได้สินะครับ"
"อืม!!!"ถึงจะยังคุยกับผู้จัดกการส่วนตัวได้แต่สายตากับนิ้วเรียวเล็กก็กำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอมือถือของตัวเองเหมือนเดิมจนผู้จัดการหนุ่มอดที่จะมองใบหน้าที่เดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดงนั่นไม่ได้อยู่จากอาการแล้วไม่น่าจะแค่สอนมารยาทกันแล้วล่ะแบบนี้ น่ะมันกำลัง..........ชัดๆ!!....
..
..
..
..
..
..
..
.....Tobecontinue..................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น