1 เม.ย. 2557

Fic au [KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 02

 [KHR]Ficau.6927,8059ปลายกิ่งฝัน : 02

: ปลายกิ่งฝัน : 02

:[KHR]Fanfiction 6927,8059

: Romantic Drama

:NC-17


คำเตือน:บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่นิยมหรือแอนตี้พวกเขาเหล่านี้กรุณาปิดหน้านี้ทันทีขอบคุณที่เข้าใจค่ะ






....ริมฝีปากคมละออกมาช้าๆเมื่อร่างบอบบางในอ้อมแขนเริ่มหายใจหนักหน่วงเพราะขาดอากาศหายใจ
นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองนัยน์ตาสีมรกตที่กำลังลืมขึ้นช้าๆริมฝีปากบางสีระเรื่อยังเผยอน้อยๆเพื่อช่วยหอบอากาศเข้าปอดและเพราะแบบนั้นริมฝีปากคมจึงยิ้มพอใจกับท่าทางน่ารักๆแบบนั้นยิ่งเพราะเป็นแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาดีใจมากขึ้นไปอีกเพราะอาการแบบนี้ของร่างบอบบางมันบ่งบอกว่าร่างกายที่ดูขาวผ่องนวลเนียนนี้ยังไม่เคยมีใครได้แตะต้องหรือลิ้มลองรสหอมหวานจากร่างบอบบางนี้เลยนั่นก็หมายความว่าเขาเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสรสหอมหวานนี้
"ฉันขอโทษฮายาโตะ....ยกโทษให้ฉันนะ"
ริมฝีบางขยับขึ้นลงเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับไร้สุรเสียงใดๆออกมาใบหน้าสวยที่ดูยังตื่นๆกับเรื่องเมื่อสักครู่ไม่หายจนใบหน้าคมอดไม่ได้ที่จะโน้มลงมากดจูบที่แก้มใสเบาๆเหมือนเป็นเรียกขวัญและได้ผลเมื่อมือบางดันแผงอกกว้างออกพร้อมๆกับแก้มใสขับสีขึ้นระเรื่อ
"อะ...ไอ้บ้า..กะ..แกทำบ้าอะไรกันใหนแกบอกว่า....บอกว่าจะไม่......."นิ้วเรียวเล็กชี้หน้าของคนที่โขมยจูบแรกของตัวเองจนสั่นระริกคำพูดที่เตรียมจะด่าออกมาก็ดันมาจุกติดอยู่ที่ลำคอจนร่างบอบบางเต้นแร้งเต้นกากรี๊ดหวีดว๊ายเหมือนเด็กสาวโดนโขมยจูบยังไงยังงั้นส่วนอีกคนก็ได้แต่ยืนหัวเราะร่าโดยไม่ได้แคร์สายตาที่จ้องมองมาที่พวกเขาเลยแม้แต่น้อยยิ่งกับร่างบอบบางทั้งๆที่พึ่งโกรธเขาหาว่าเขาจะประจาณตัวเองแต่ไอ้ที่ร้องตะโกนโวยวายอยู่นั่นมันก็ไม่ได้ต่างจากการประจาณตัวเองเลยสักนิด






....ร่างเล็กผอมบางจนแทบจะดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชายแถมวันนี้ยังต้องใส่ชุดราตรีสั้นของผู้หญิงวิ่งกกระหืดกระหอบเข้ามาในโรงแรมระดับห้าดาวกลางกรุงโตเกียวอีกทั้งๆที่ปรกติก็ต้องแต่งชุดผู้หญิงถ่ายแบบตลอดอยู่แล้วแต่ทำไมวันนี้กลับรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกเพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในโรงแรมแห่งนี้ร่างเล็กเรือนผมสีน้ำตาลดูฟูนุ่มนิ่มก็ถูกสายตาของผู้คคนมากมายจ้องมองมันไม่ใช่สายตาชื่นชมหรือชื่นชอบอะไรแบบนั้นแต่มันเป็นแววตาตกใจผสมกับแปลกใจซะมากกว่าไม่ใช่เพราะชุดหรือว่าหน้าตาหรอกนะที่เป็นต้นเหตุเพราะชุดราตรีสายเดี่ยวสีครีมฟูฟ่องสั้นเลยเข่าคาดเอวด้วยริบบิ้นสีชมพูเส้นใหญ่แล้วผูกเป็นโบว์ที่หลังก็ดูเข้ากันกับใบหน้าน่ารักเหมือนเด็กสาวม.ต้นได้อย่างลงตัวอยู่แล้วแต่ที่เป็นจุดบอดของเจ้าตัวมันอยู่ต่ำลงมามากกว่านั้น
และมันก็ไม่ใช่เรียวขาเพราะร่างเล็กนั้นมีเรียวขาที่เรียวสวยได้รูปดีอยู่แล้วแต่ไอ้เจ้าจุดบอดนั่นมันก็คือรองเท้าใช่รองเท้าที่คงจะไม่มีใครในโลกใบนี้จะเอารองเท้าผ้าใบมาใส่กับชุดราตรีแถมสั้นสนิทแบบนี้แน่หนำซ้ำสีสันของมันชั่งตัดกับเจ้าชุดสุดสวยนั่นซะเหลือเกิน
นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบมองที่เท้าตัวเองเป็นพักๆเพราะยิ่งเดินเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ยิ่งใกล้กับห้องจัดเลี้ยงที่เขาได้รับเชิญให้มาเดินแบบมากเท่าไหร่ผู้คนก็ยิ่งหนาตาขึ้นจนในที่สุดความหน้าด้านมันก็หมดลงร่างเล็กเลี้ยวเข้าไปแอบที่มุมเสาต้นใหญ่แล้วจัดการถอดเจ้ารองเท้าเจ้าปัญหานั่นทิ้งลงถังขยะข้างๆทันที
ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้หรอกนะว่ามันขัดกันกับชุดแต่ที่ต้องทนใส่ๆมานั้นเพราะผู้จัดการส่วนตัวดันลืมเอาส้นสูงที่เข้ากันกับชุดลงไว้ให้แถมยังตื่นสายเป็นทุนอีกตอนหยิบมาใส่ก็ไม่ได้ดูสีมันซะด้วยรู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่หน้าโรงแรมแล้วจะกลับไปมันก็สายไปซะแล้วถึงได้จำใจเข้ามาทั้งๆแบบนี้แต่สุดท้ายหน้าก็บางเกินไปถึงต้องมาแอบถอดทิ้งแบบนี้ได้แต่นึกโมโหในความห่วยของตัวเองแบบนี้แต่ในขณะที่กำลังด่าตัวเองในใจอยู่นั้น
ครืดดด ครืดดด
เสียงโทรศัพท์ที่เหน็บเอาไว้ที่ริบบิ้นก็ดังขึ้นขัดจังหวะ
"ฉันมาถึงโรงแรมแล้วกำลังไปอย่าเร่งนักสิเป็นเพราะนายไม่ยอมปลุกฉันเองนะโชอิจิห้ามมาโทษฉันแค่นี้แหละเดี๋ยวไป!!!"แทนที่คนโทรตามจะเป็นคนบ่นแต่เจ้าคนที่นอนตื่นสายเองกลับกลายเป็นคนบ่นให้ซะอย่างนั้น
ใบหน้าน่ารักพยักหน้าแรงๆรวบรวมความกล้าอีกครั้งแต่คราวนี้เท้าเปล่าคงจะไม่เท่าไหร่คิดได้แบบนั้นร่างเล็กก็วิ่งพรวดออกไปจากข้างเสาทันทีแต่.....
พลั่ก!!!!!
เพราะไม่ได้ดูตาม้าตาเรือร่างเล็กๆจึงวิ่งชนใครบางคนเข้าอย่างจังด้วยความตกใจจึงรีบก้มหัวให้เป็นการใหญ่แต่สายตาก็ยังแอบมองเห็นถุงมือหนังสีดำสนิทที่จับไหล่เปลือยเปล่าของตัวเองแต่ไม่กล้าที่จะเงยขึ้นมองหน้าของเขาคนนั้น
"ขะ...ขอโทษนะครับขอโทษจริงๆผมรีบมากไปหน่อย....ขอตัวก่อนนะครับ"
และทั้งๆที่ยังไม่ได้เห็นใบหน้าของเขาคนนั้นร่างเล็กผอมบางก็รีบวิ่งเท้าเปล่าไปทันที
สร้างความแปลกใจให้กับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งยิ่งนักทั้งๆที่เจ้าตัวใส่ชุดผู้หญิงรูปร่างผิวพรรณดูยังไงก็เป็นผู้หญิงแม้แต่น้ำเสียงที่ใสๆเล็กๆนั่นมันก็ยังเป็นเสียงผู้หญิงแต่คำพูดกลับขัดแย้งกันอย่างเห็นได้ชัด
ทอมบอยส์งั้นเหรอไม่น่าจะใช่หรือจะเป็นเด็กผู้ชายจริงๆตัวเล็กแบบนั้นคงจะเป็นเด็กม.ต้นที่แม่จับแต่งหญิงเพราะไม่มีลูกสาว
นัยน์ตาสองสีจ้องมองแผ่นหลังบางที่วิ่งเท้าเปล่าไปจนลับตาริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มน้อยๆอย่างกำลังแปลกใจที่ทำไมเขาถึงได้ใส่ใจกับเด็กม.ต้นคนนั้นนักเพราะมันมีบางสิ่งบางอย่างที่แปลกไปแต่เขาไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร
"คึหึหึ...ซินเดอเรล่ากำลังตามหารองเท้าแก้วสินะ"ริมฝีปากเรียวพึมพำออกมาเบาๆเหมือนพูดกับตัวเองซะมากกว่า
"ซาวาดะ สึนะโยชิ นายแบบที่แต่งชุดของผู้หญิงถ่ายแบบครับเป็นนายแบบชายเพียงคนเดียวของญี่ปุ่นที่แต่งตัวเป็นผู้หญิงถ่ายครับอายุ26ไม่ใช่เด็กม.ต้นแน่นอนครับ"
ลูกน้องคนสนิทรายงานเหมือนกับรู้ใจว่าเจ้านายของตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่และมันก็น่าแปลกที่มันจะถูกต้องแทบจะทุกครั้งไป
"เข้าไปในงานกันเถอะครับท่านมุคุโร่ได้เวลาแล้ว"
ขายาวๆก้าวเดินไปข้างหน้าตามที่คนสนิทบอกมาแต่ริมฝีปากคมยังคงยิ้มละไมอยู่แบบนั้น
เหมือนกำลังสนใจร่างเล็กนั่นแต่คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วเพราะตอนนี้เขามีตุ๊กตาในคอลเลคชั่นเรียบร้อยแล้วไม่อยากจะเล่นทีละหลายตัวมันไม่สนุก





....เสียงจ้อกแจกจอแจกันดังจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพย์เมื่อเหล่านางแบบนายแบบทั้งหลายเดินลงมาจากเวทีช่างแต่งหน้าทำผมอีกทั้งช่างเสื้อของแบรนด์ดังที่จัดงานวันนี้ต่างพากันวิ่งขวักไขว่เปลี่ยนชุดให้เหล่านายแบบนางแบบทั้งหลายในการเดินรอบต่อไป
ร่างเล็กผอมบางยังนั่งเป็นหุ่นให้กับช่างผมอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่ยาวไปตลอดทั้งผนังห้องที่ข้างๆกันมีช่างเสื้อสองสามคนกำลังง่วนอยู่กับการปรับแต่งชุดให้พอดีกับรูปร่างของคนที่ยังนั่งทำผมอยู่
"โชคดีนะครับที่ได้เดินเป็นคนสุดท้ายไม่งั้นคงได้ขายหน้าประชาชีเขาไป
ทั่วแน่ๆสึนะคุง"เสียงของผู้จัดการส่วนตัวยังบ่นอุบตลอดเวลาที่เป็นแบบนี้นั่นก็เพราะนายแบบเพื่อนซี้ร่างสูงไม่อยู่นั่นเองถึงไม่มีใครเขี่ยวเข็นร่างเล็กนี่เมื่อไหร่ที่รับงานแค่คนเดียวก็จะลงอิร๊อปนี้ตลอดไอ้ที่บอกว่าเขาไม่ปลุกน่ะไม่ใช่เพราะเขาใจดำซะที่ใหนนี่ขนาดโทรจิกทุกห้านาทียังมาได้หวุดหวิดขนาดนี้ถ้าปล่อยให้ตื่นเองสงสัยคงต้องเลิกเดินแบบนั่นแหละถึงจะตื่นได้แถมวันนี้โชคช่วยด้วยอีกต่างหากที่เจ้าของแบรนด์เข้ามาขอให้เดินชุดสุดท้ายให้นั่นก็หมายความว่ามันคือมาสเตอร์พีชของแบรนด์เป็นชุดฟีนาเล่ที่เจ้าของภาคภูมิใจมากที่สุดประณีตมากที่สุดและไม่ใช่ว่าจะเป็นใครมาใส่เดินก็ได้เพราะคนที่ถูกเลือกให้สวมชุดนี้มันก็หมายถึงนางแบบหรือนายแบบคนนั้นมีคุณค่าและคุณสมบัติคู่ควรที่จะสวมนั่นเองจึงไม่แปลกที่นางแบบสาวหลายคนยังจ้องมองมาที่ชุดสุดท้ายกันอย่างเสียดายตลอดเวลา



ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่บนชั้นสองของฮอล์จัดแสดงแฟชั่นโชว์อย่างเซงๆเพราะอะไรน่ะเหรอก็งานแบบนี้เขาไม่เคยคิดจะสนใจมันเลยสักนิดหากไม่ใช่ว่าเขาได้รับเชิญให้มาเป็นแขกกิติมศักดิ์ละก็อย่างหวังว่าจะได้เห็นเขาในงานแบบนี้เด็ดขาดนัยน์ตาสองสียังจับจ้องลงไปที่เวทีเปล่าเขาไม่ได้จ้องอะไรกับพวกนางแบบนายแบบที่เดินอยู่หรอกนะแต่มองหาใครบางคนๆที่ลูกน้องคนสนิทบอกว่าเป็นนายแบบที่ใส่ชุดผู้หญิงแต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เห็นจะมีใครหน้าตาแบบนั้นสีผมแบบนั้นร่างบอบบางแบบนั้นเลยสักคน
"หึ...."เขานี่ท่าจะบ้าเข้าไปทุกทีแล้วจะไปใส่ใจอะไรกันนักหนากับคนที่ขาดสารอาหารจนไม่ยอมโตแบบนั้นแต่ถึงอย่างนั้นก็แค่อยากจะเห็นว่ามันสมคำร่ำลือกันรึเปล่าว่าคนๆนั้นจะสวยงดงามยิ่งกว่าหญิงสาวแน่น่ะเหรอ
"ผมจะกลับแล้วเคนจิคุสะ"ร่างสูงโปร่งขยับตัวจะลุกขึ้นถ้าไม่ติดว่าลูกน้องคนสนิทยับยั้งเอาไว้ซะก่อน
"รออีกนิดเถอะครับท่านมุคุโร่หลังจากจบชุดนี้แล้วก็จะเป็นชุดสุดท้ายแล้วครับมันจะได้ดูไม่เสียมารยาทเอานะครับอุตส่าห์นั่งดูจนถึงตอนนี้แล้ว"นัยน์ตาสองสีเหลือบมองลูกน้องนิดนึ่งก่อนจะยิ้มละไมให้แล้วหันกลับไปนั่งลงอย่างเดิม
และทันทีที่นางแบบคนสุดท้ายเดินเข้าไปทางด้านหลังไฟทั้งฮอล์ก็ดับลงมีเพียงแสงของสปอร์ตไลฟ์ส่องลงไปตรงกลางเวทีเป็นวงกลมเท่านั้นไม่นานเสียงฮือฮาจากคนด้านล่างก็ดังไปทั่วก่อนจะเงียบลงอีกครั้งเมื่อเสียงดนตรีจังหวะช้าๆดังขึ้น
ก่อนที่เสียงปรบมือเกรียวกราวจะยังขึ้นสนั่นฮอล์ไม่นานร่างบอบบางขอใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นตรงกลางเวทีแล้วเสียงฮือฮาก็ดังสนั่นขึ้นอีกครั้งนัยน์ตาสองสีเหลือบขึ้นไปมองเมื่อเสียงฮือฮาคราวนี้มันดังนานกว่าครั้งแรกและแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ต้องชะงักค้างไปชั่วขณะนึ่งเมื่อสายตาไปสบเข้ากับร่างบอบบางที่กำลังก้าวเดินมาอย่างเชื่องช้ากลางเวทีร่างบอบบางของนางแบบสาวที่ใบหน้าถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์จนดูสวยเฉียบดวงตาถูกกรีดด้วยอายไลเนอร์จนคมกริบริมฝีปากบางตอนนี้ถูกแต้มด้วยลิปสติ้กสีแดงสดวาววับดูแล้วชั่งสวยงามไร้ที่ติอย่างที่หาใครมาเทียบไม่ได้บนหัวมีหมวกใบเล็กที่มีขนนกกับดอกไม้สีขาวกับชมพูแซมอยู่ด้านหลังมีผ้าลูกไม้สีครีมคลุมลงมาจนถึงเอวขาวผ่องที่โผล่พ้นชายเสื้อเข้ารูปพอดีตัวสีครีมปักลวดลายด้วยเส้นไหมสีทองดูงดงามสมกับเป็นมาสเตอร์พีชเปิดไหล่กว้างเพียงครึ่งตัวและเมื่อยิ่งกระทบกับแสงไฟก็ยิ่งเหมือนเธอกำลังหายไปกับแสงสปอร์ตไลฟ์.....ช่วงล่างมีเพียงกระโปรงฟูฟ่องสั้นเหนือเข่าด้านหลังมีผ้าลูกไม้สีทองบางเบาคลุมเอาไว้จนถึงด้านหน้าและเมื่อยามที่เรียวขาขาวนวลเนียนที่ประดับด้วยรองเท้าสีเงินโรยด้วยกากเพ็ชรระยิบระยับแหวกออกมาพ้นผ้าลูกไม้สีทองยาวจนถึงกลางเวทีนั่นมันทำให้ใครหลายคนเก็บเอาไปฝันได้เลยทีเดียว
นัยน์เนตรสองสียังจับจ้องดวงหน้าสวยเฉียบตรงกลางเวทีอย่างไม่วางตาเพราะทั้งที่ใบหน้าถูกแต่งแต้มจัดแต่กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างต่างจากเหล่านางแบบก่อนหน้าที่ดูออกจะเละเทะไปสะหน่อยแต่กับคนๆนี้กลับชวนมองได้อย่างไม่น่าเชื่อให้ความรู้สึกเหมือนกับตุ๊กตา....ซินเดอเรล่า??!!
"คนนี้ล่ะครับ ซาวาดะ สึนะโยชิ"









Tobecontinue.........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น