1 เม.ย. 2557

Fic au.[KHR]6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 03


Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 03

: ปลายกิ่งฝัน : 03

:[KHR] Fanfiction 6927,8059

: Romantic Drama

NC-17



คำเตือน:บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายท่านใดไม่เข้าใจหรือไม่พิศมัยกรุณากดเครื่องหมายกากบาทที่มุมขวาสุดขอบคุณล่วงหน้าค่ะ






........"งั้นเหรอครับ.....ซินเดอเรล่าตามหารองเท้าแก้วเจอแล้วสินะ"
ริมฝีปากเรียวยกยิ้มละไมสายตายังจับจ้องไปยังร่างผอมบางกลางเวทีขาคู่เรียวยังก้าวเดินมาข้างหน้าช้าๆและเมื่อยิ่งใกล้เข้ามาก็ยิ่งเห็นผิวขาวผ่องได้ชัดเจนทั้งหัวไหล่มนที่โผล่พ้นคอเสื้อจนเกือบถึงแผ่นอกบางและน่าแปลกทั้งๆที่เจ้าตัวเป็นผู้ชายแต่กลับดูกลมกลืนไปกับชุดไร้ที่ติทั้งทรวดทรงและสัดส่วนมันดูไม่ได้แตกต่างจากผู้หญิงเลยแม้แต่น้อยแบบนี้คงต้องชมช่างแต่งตัวแต่งหน้าสินะที่ทำออกมาได้เนียนขนาดนี้สมกับคำร่ำลือนั่นจริงๆและนี่คงจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขาหายเบื่อได้อย่างไม่น่าเชื่อ......ริมฝีปากเรียวยังคงยิ้มละไมนัยน์ตาสองสียังจับจ้องร่างเล็กผอมบางบนแคตวอร์คที่ตอนนี้เสียงปรบมือกำลังดังสั่นไปทั่วฮอล์เมื่อดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์เดินมาสวมกอดร่างเล็กนั่นพร้อมๆกับเดินไปรับดอกไม้ช่อใหญ่
"ดอกไม้......ส่งลิลลี่สีส้มกับคาล่าลิลลี่สีขาวไปให้เค้าด้วยนะครับจิคุสะ"
จบประโยคร่างสูงโปร่งก็ลุกเดินออกไปจากห้องทันทีสร้างความแปลกใจให้กับลูกน้องคนสนิททั้งสองเป็นอย่างมากแต่ก็ยังทำตามที่เจ้านายของตัวเองสั่งมือกดโทรศัพท์ไปสั่งดอกไม้ตามที่เจ้านายของเขาต้องการลิลลี่สีส้มกับคาล่าลิลลี่สีขาวซ้ำยังเอาช่อใหญ่ที่สุดดอกที่สวยที่สุดถึงเจ้านายของเขาไม่ได้บอกแบบนั้นแต่ก็อยากให้มันสมกับคนที่เป็นอันดับหนึ่งของเหล่ามาเฟียสักหน่อยก็เท่านั้นเอง




...ร่างเล็กที่ดูผอมบางกำลังถูกรุมล้อมไปด้วยนักข่าวที่ตามมาสัมภาษณ์หลายคำถามถูกถามมาพร้อมๆกันจนไม่รู้จะตอบคำถามใหนก่อนดีใบหน้าน่ารักที่ตอนนี้ไร้เครื่องสำอางค์เผยให้เห็นผิวขาวนวลเนียนน่าสัมผัสกำลังฉีกยิ้มจนแทบจะค้างอยู่อย่างนั้นสองขาเรียวเล็กก้าวเดินไปตามทางที่บอร์ดี้กาดของเจ้าของแบรนด์กันและแหวกทางออกให้พร้อมๆกับระวังหลังให้อีกทีถึงตอนนี้จะนึกแค้นใจที่ขามามันไม่เป็นแบบนี้ก็เถอะแต่ตอนนี้คงต้องหาทางไปขึ้นรถให้ได้ก่อน
แต่ในขณะที่กำลังโกลาหลกันอยู่นั้นจู่ๆนักข่าวหลายคนก็นิ่งไปพร้อมๆกับเปิดทางออกเป็นสองฝั่งให้เดินได้สะดวกขึ้นทีละคนสองคนจนร่างเล็กอดที่จะแปลกใจไม่ได้และในที่สุดก็รู้ถึงสาเหตุ...นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้สะดุดเข้ากับชายชุดสูทสีดำสนิทสองคนที่ยืนแผ่รังสีอำมหิตอยู่ตรงหน้าและทั้งที่บอร์ดี้กาดของเจ้าของแบรนด์ก็ตามมาส่งด้วยตั้งหลายคนแต่กลับแหวกหายไปทั้งฝั่งซ้ายขวาให้สองคนนั้นเดินเข้ามาหาเขาหน้าตาเฉยถึงจะดูไม่เหมือนคนที่จะเข้ามาทำร้ายก็เถอะเพราะหนึ่งในนั้นถือดอกไม้ช่อใหญ่มากช่อหนึ่งมาด้วยแต่มันก็อดที่จะหวั่นใจไม่ได้
โชอิจิผู้จัดการส่วนตัววิ่งเข้ามาขวางระหว่างร่างเล็กกับคนทั้งสองเอาไว้ไม่ให้เข้าไปถึงตัวของนายแบบของตัวเองแต่หนึ่งในนั้นกลับผลักกระเด็นออกไปด้วยมือเพียงข้างเดียวสร้างความตกตะลึงให้กับร่างเล็กและนักข่าวทั้งหลายเป็นอย่างมากจนไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนไปใหนหรือยกกล้องในมือถ่ายอะไรเก็บไว้นี่ถ้าเขาถูกฆ่าตายตรงนี้จะมีใครยอมเป็นพยานให้เขามั้ยนะ
แล้วทุกความสงสัยก็กระจ่างเมื่อเมนอินแบล็กทั้งสองคนนั่งคุกเข่าข้างนึ่งกับพื้นพร้อมๆกับยกช่อดอกไม้ช่อใหญ่ยื่นให้กับร่างเล็กและเมื่อถึงตอนนี้ทุกคนต่างพากันถอนหายใจโล่งอกกันทั่วหน้าและพึ่งจะสังเกตุเห็นว่าช่อดอกไม้ในมือของชายชุดดำมันคือลิลลี่สีส้มสดอมแดงแซมด้วยคาล่าลิลลี่สีขาวช่อมหึมานั่นเอง....เพียงเท่านั้นเสียงกดชัตเตอร์พร้อมๆกับแสงแฟลชก็สว่างไสววูบวาบขึ้นมาอีกครั้ง
"เจ้านายของเราฝากดอกไม้มาแสดงความยินดีกับคุณครับคุณซาวาดะ สึนะโยชิ"
"เอ๋!!!!...เอ่อขะ...ขอบคุณครับ??!!!"
สองมือบางยื่นออกไปรับช่อดอกไม้ขึ้นมากอดเอาไว้อย่างงงๆใครกันเป็นเจ้าของดอกไม้ช่อนี้แล้วนี่มันจะใหญ่เกินไปรึเปล่าถ้าเจ้าของแบรนด์มาเห็นเข้าระไม่น้อยใจเอารึไงก็มันดันใหญ่กว่าช่อดอกไม้ที่เจ้าของแบรนด์รับบนแคตวอร์กอีกนะเนี้ย
ชายชุดดำทั้งสองคนจากไปแล้วทิ้งความสงสัยกับความตกตะลึงเอาไว้ให้ร่างเล็กหรือแม้แต่นักข่าวเอง
"ใครเป็นเจ้าของดอกไม้ช่อนี้กันครับคุณซาวาดะ??"
"คุณรู้ความหมายของดอกไม้ของเจ้าหญิงช่อนี้มั้ยค่ะ???"
"หนุ่มปริศนาคนนั้นเป็นคนรู้ใจใช่มั้ยครับ????"
คำถามมากมายหลั่งไหลเข้ามาจนร่างเล็กตั้งตัวแทบไม่ทันใครกันมาทำเซอร์ไพรส์ท่ามกลางดงนักข่าวแบบนี้อย่างนี้เขาก็แย่น่ะสิ!!!???
"เอ่อ...ขอโทษนะครับสึนะคุงไม่รู้จักเจ้าของดอกไม้ช่อนี้หรอกนะครับไม่ได้เป็นคนรู้ใจอะไรแบบนั้นด้วยครับคงจะเป็นแฟนคลับธรรมดาๆคนนึ่งเท่านั้นแหละครับ....ขอตัวนะครับพอดีวันนี้สึนะคงเหนื่อยมากแล้ว"ผู้จัดส่วนตัวของร่างเล็กเข้ามาตอบคำถามของนักข่าวแทนเจ้าตัวที่ยังยืนอึ้งทำอะไรไม่ถูกก่อนจะพยักหน้าให้บอร์ดี้กาดเข้ามาพาร่างเล็กไปขึ้นรถทันที


"ความหมายงั้นเหรอโชอิจิหมายความว่าไง??" คำถามของนักข่าวผุดขึ้นมาในหัวร่างเล็กที่มองดูช่อลิลลี่สีส้มสดในมืออย่างงงๆมันจะแปลกอะไรนักหนากะอีแค่ช่อดอกไม้เฉยๆไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคยได้รับซะหน่อยมันก็ออกจะบ่อยเกินไปซะด้วยซ้ำแต่ยังไม่เคยได้รับดอกลิลลี่สีส้มแบบนี้เลยสักครั้ง
"ดอกลิลลี่เค้ามีฉายาว่าดอกไม้ของเจ้าหญิงครับเพราะมันดูสวยงามเหมาะที่จะประดับในงานแต่งงานที่เจ้าสาวทุกคนจะสวยที่สุดเหมือนกับเจ้าหญิงแถมแต่ละสีก็มีความหมายที่แตกต่างกันไปสึนะคุงคงจะเคยเห็นคนรักเขาให้ลิลลี่สีขาวหรือว่าชมพูกับคนรักของตัวเองใช่มั้ยล่ะครับเพราะสีขาวหมายถึงความรักที่อ่อนหวานและบริสุทธิ์สีชมพูหมายถึงการค้นพบความรักที่ดีที่สุดอะไรประมาณนั้นส่วนสีส้มแบบนี้หมายถึงความร่าเริงสดใสและสุขใจที่ได้อยู่ใกล้ๆแล้วก็คาล่าลิลลี่หมายถึงความสง่างามตราตรึงใจกับผู้พบเห็น...แล้วดอกไม้ช่อนี้ก็หมายถึงเจ้าหญิงผู้สง่างามและสดใสร่าเริงประมาณนี้มั้งครับ"
ร่างเล็กหยุดชะงักทันทีที่ผู้จัดการของตัวเองพูดจบเพราะไม่เคยรู้เลยว่าการที่จะให้ดอกไม้กับใครสักคนมันจะมีความหมายมากขนาดนี้
"บะ...บ้าเจ้าหยงเจ้าหญิงอะไรกันสง่างามสดใสอะไรไม่เห็นจะรู้เรื่อง!!"
"หึหึ...นี่คงจะไปสะดุดตาอาเสี่ยในงานสักคนเข้าจริงๆสินะครับหวังว่างานนี้จะไม่ต้องวุ่นวายมากนะครับ"
"พูดอะไรไม่รู้เรื่องนายนี่ฉันไม่สนใจหรอกนะอาเสี่ยอะไรนั่นเพราะฉันชอบผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย!!"
ทั้งสองคนพูดคุยสลับเสียงโวยวายของร่างเล็กไปตลอดทางโชคดีที่เจ้าของงานให้บอร์ดี้กาดคุ้มกันตลอดลานจอดรถVIPของโรงแรมจึงไม่มีนักข่าวเข้ามากวนใจแต่กลับไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาของใครบางคนจ้องมองมาที่ตนตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาแล้ว


นัยน์เนตรสองสีจับจ้องร่างเล็กๆที่หอบช่อลิลลี่แซมคาล่าลิลลี่ช่อใหญ่จนเกือบจะเท่าตัวเองเดินผ่านหน้าไปด้วยความขบขันนี่ถ้าหากช่อใหญ่กว่านี้อีกนิดคงจะเท่าตัวเองไปแล้วริมมฝีปากเรียวยิ้มละไมประดับบนใบหน้าหล่อเหลาจนอีกคนเดินลับตาไป
"ออกรถได้แล้วครับเคน"น้ำเสียงทุ้มเย็นหันไปสั่งลูกน้องและไม่นานลีมูซีนสีดำสนิทก็เคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถVIPของโรงแรมดังทันที

....ร่างเล็กของนายแบบชื่อดังที่พรุ่งนี้ต้องตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งของทุกสำนักอย่างไม่ต้องสงสัยกำลังนั่งมองช่อลิลลี่ที่วางอยู่ที่เบาะข้างๆคนขับก่อนจะหันกลับมาสนใจพวงมาลัยของรถอีกครั้งแต่ในขณะที่เท้าเหยียบคันเร่งและกำลังพุ่งตัวออกไปก็ต้องเหยียบเบรคกระทันหันเมื่อลีมูซีนสีดำสนิทวิ่งตัดหน้าไป
"เฮ้!!!!...เห็นว่าตัวเองคันใหญ่นักรึไงกัน!!!!"
ประตูBenz sport A class250ถูกเปิดออกอย่างแรงก่อนที่ร่างเล็กๆในชุดราตรีสั้นสีครีมฟูฟ่องจะวิ่งออกมาโวยวายกลางถนนของลานจอดรถด้วยความโกรธที่อีกฝ่ายตัดหน้าตัวเองไปอย่างนั้นทำให้ต้องเหยียบเบรคกระทันหันจนหน้าทิ่มใส่พวงมาลัยจนหน้าผากมนแดงแจ๋เลยทีเดียวมือเรียวเล็กลูบหน้าผากของตัวเองปอยๆด้วยความเจ็บ
"อู้ยย...คนบ้าอะไรกันไม่ได้เห็นใจคนตัวเล็กบ้างเล้ย!!"
เสียงใสๆเล็กๆยังบ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งจนลีมูซีนลับตาไปแล้วถึงเดินกลับมาที่รถของตัวเองมือบางจับช่อดอกไม้ที่เบาะข้างคนขับขึ้นมาตั้งเอาไว้เหมือนเดิม
ไม่นานBenz sport A class250ก็ออกตัวตามออกไปด้วยใบหน้าน่ารักยังงอง้ำไม่หาย










สองร่างเดินลงมาจากFerrari 458 italiaสีแดงสดมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านซูชิขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ก่อนจะก้าวขาเข้าไป
"ยินดีต้อนรับครับ"เสียงทุ้มที่มีน้ำเสียงฟังดูเป็นมิตรดังขึ้นทันทีที่เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น
"กลับมาแล้วคร้าบบ"
ร่างสูงนัยน์ตาสีเปลือกไม้ตะโกนออกไปทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มพูดออกไปแบบนั้น
"ทาเคชิ!!!!"น้ำเสียงที่ดูตกอกตกใจไม่น้อยของชายสูงวัยเจ้าของร้านจนตะเกียบในมือหลุดลงไปกับพื้นก่อนที่ร่างสูงจะพาร่างบอบบางเดินไปหยุดหน้าเคาน์เตอร์ด้วยหน้าตาท่าทางเอ๋อๆเหมือนที่เคยเห็นเป็นประจำ
"ฮะฮะฮะ...หวัดดีครับพ่อ.....แล้วนี่โกคุเดระเพื่อนผม"
ร่างบอบบางก้มหัวให้คนสูงวัยแทนคำทักทายอย่างงงๆแต่เพราะได้ยินว่าอีกคนเรียกชายสูงวัยว่าพ่อถึงได้ก้มหัวไปแบบนั้น
"ว้า....นึกว่าแฟนของแกซะอีกน่าเสียดายจัง   ฮะฮะฮะ"
น้านคำพูดประโยคแรกก็ทำเอาร่างบางถึงกับอึ้งไปแล้วแถมยังท่าทางอารมณ์ดีแบบนั้นถึงไม่แปลกใจเลยที่ว่าเป็นพ่อกับลูกกันน่ะ
"ฮะฮะฮะ....แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละครับพ่ออนาคตก็.....คนนี้แหละแฟนผม"
ไม่พูดแค่อย่างเดียวนิ้วยังชี้ไปหาร่างบอบบางที่ยืนอยู่ข้างๆอีกด้วยเล่นเอาคนที่ยังไม่ทันตั้งตัวถึงกับสะดุ้งโหยง
"เฮ้ย!!!!...ไอ้บ้าคะ...ใครจะไปเป็นแฟนแกกันฉันเป็นผู้ชายนะเว้ยไม่ใช่ผู้หญิงไอ้โรคจิต"
"อ๊ะ...ฮะฮะฮะ"สองพ่อลูกพากันหัวเราะท่าทางตื่นๆของร่างบอบบางโดยไม่ได้สนใจว่าอีกคนจะโวยวายหรือด่าทอตัวเองยังไง
แถมเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังด่าลูกชายต่อหน้าพ่อของเค้าแท้ๆแต่คนสูงวัยเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนอกจากเห็นเป็นเรื่องตลกของเด็กๆไป
ยามาโมโตะขอตัวพาร่างบอบบางขึ้นไปชั้นบนของบ้านก่อนจะลงมาหาของว่างขึ้นไปให้ร่างบอบบางรองท้องก่อนจะถึงมื้อเย็น
"กินอะไรรองท้องก่อนน้าฮายาโตะ"
ร่างบอบบางหันไปมองขนมอะไรบางอย่างในจานด้วยท่าทางสงสัยเพราะไม่เคยเห็นขนมหน้าตาแบบนี้มาก่อน
"ไดฟุกุอร่อยน้าลองชิมดู...ปรกติเค้าจะเอาถั่วแดงทำใส้แต่ที่นี่เค้าเอาสตอเบอรี่ของขึ้นชื่อของที่นี่ทำใส้แทนเข้ากันมากเลยล่ะ"ใบหน้าคมหล่อเหลายังอธิบายให้อีกคนที่ดูจะสนใจไม่น้อยฟังด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มก่อนจะใช้ส้อมเล็กๆจิ้มขนมลูกกลมๆยื่นไปจ่อที่ริมฝีปากบาง
"อ้าปากสิ"นัยน์ตาสีมรกตเหลือบขึ้นไปมองหน้าของอีกคนน้อยๆก่อนจะอ้าปากงับเอาขนมเข้าปากไป
"เห็นว่าคุยไว้เยอะหรอกนะจะยอมกินให้ก็ได้"มืออีกข้างคว้าส้อมในมือหนามาถือเองก่อนจะยกจานขนมหันหน้าไปทางอื่นเหมือนจำใจจนร่างสูงใหญ่อดที่จะขำไม่ได้กับอาการปากไม่ตรงกับใจของอีกคน
"ทำไมนายถึงพาฉันมาที่นี่?"เสียงใสๆดังขึ้นทั้งๆที่ยังหันหลังให้ชายหนุ่มแถมมือก็ยังจิ้มขนมเข้าปากไม่หยุด
"ฉันอยากให้นายเห็นบ้านเกิดของฉันน่ะสิช่วงนี้เค้ามีเทศกาลดอกไม้ไฟฉันเลยอยากให้นายเห็น"
มือบางที่กำลังจะจิ้มขนมหยุดชะงักทันทีที่ร่างสูงพูดจบน้ำเสียงที่อ่อนลงไม่ขี้เล่นแบบนั้นมันทำให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูกเพราะจะมีสักกี่คนกันที่จะทำอะไรที่แคร์ความรู้สึกของเขาแบบนี้บ้าง.....ไม่มีเลยแม้แต่พ่อกัแม่ของเขาเองยังไม่เคยใส่ใจเขาถึงขนาดนี้เลยทำอะไรตามใจของพวกเขาเองทั้งนั้นแม้แต่ทางเดินของเขาพ่อกับแม่ยังเป็นคนขีดให้โดยที่ตัวเขาไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆได้แต่ก้มหน้ารอรับชะตากรรมจนกว่าจะถึงวันนั้นวันที่ตัวของเขาจะไม่เป็นของเขาอีกต่อไปหากเมื่อไหร่ที่ผู้ชายคนนั้นมาเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่นอีกครั้งเขาก็จะไร้อิสรภาพตลอดไป
"เป็นอะไรไปฮายาโตะ!!?"เพราะอีกคนนิ่งไปนานร่างสูงจึงเอื้อมมือไปแตะที่หัวไหล่มนเบาๆและนั่นก็ทำให้ร่างบอบบางถึงกับสะดุ้งก่อนจะรีบหันกลับมาจิ้มขนมไปจ่อริมฝีปากของร่างสูง
"เอ้ากินซะฉันแบ่งให้"
ถึงจะรับรู้ได้ถึงความกังวลใจของร่างบางแต่เขาก็ไม่อยากจะถามหรือซักไซร้อะไรให้ร่างบอบบางไม่สบายใจไปเสียเปล่าๆ
มือแข็งแรงจึงจับข้อมือบางแล้วก้มลงมางับขนมในมือของอีกคนและเพราะแบบนั้นจึงทำให้ร่างบางถึงกับอึ้งค้างไปอีกครั้งเพราะถ้ามันจะงับเอาขนมมันก็ไม่เป็นไรหรอกนะแต่นี่มันเล่นจับมือของเขาเอาไว้แน่นอีกแถมยังจะมาทำหน้าระรื่นอยู่ได้
"อ๊ะ....ประ...ปล่อยมือฉันนะไอ้บ้า"แล้วก็ต้องร้องไม่เป็นภาษาอีกครั้งเมื่ออยู่ดีๆริมฝีปากคมก็ประทับลงบนหลังมือซะงั้นทำเอาใบหน้าสวยซับสีระเรื่ออย่างช่วยไม่ได้
"ไม่ปล่อยหรอกก็มือนายหอมจะตายแถมยังนุ่มด้วยอยากจะจับเอาไว้แบบนี้ตลอดไปได้มั้ย....ฮายาโตะ"
มือแข็งแรงยกมือบางขึ้นไปประทับรอยจูบอีกครั้งก่อนจะเอาไปแนบไว้ที่แก้มของตัวเองและเจ้าของมันก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากมายหรือมัวแต่อ้าปากค้างอยู่ก็ไม่รู้ล่ะนะ
"นะ....นาย!!!"ริมฝีปากบางขยับพูดอย่างยากลำบากเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างสูงต้องการจะสื่อถึงได้แต่นิ่งค้างอยู่แบบนั้น
และไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ริมฝีปากคทาบทับลงไปที่ริมฝีปากของตัวเองจนนัยน์ตาสีมรกตรีบปิดลงด้วยความตกใจมือหนาดันไหล่มนให้นอนลงไปบนพื้นห้องก่อนจะย้ายตัวเองตามไปคร่อมร่างบอบบางเอาไว้ทั้งๆที่ริมฝีปากยังประกบแน่นอยู่แบบนั้น






Tobecontinue..........

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น