19 ธ.ค. 2558

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 11

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 11

:Fanfiction Attack on titan


:Pairing : Levi x Eren


:Drama,Action-Sci-Fi


:NC-17


คำเตือน :บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ








     สมองเริ่มสับสนปนเปกันมั่วไปหมด ในเวลาแบบนี้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าสายตาของอีกฝ่ายกำลังมองทะลุไปถึงใหนต่อใหน รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั่งแก้ผ้าอยู่ก็ไม่ปาน??...

ไม่ๆๆๆๆ!!....

จะเพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้วเอเลน!!...ใจเย็นไว้...

ใจเย็นๆๆ....

"ถ้าง่วงก็เข้าไปนอน...ไม่ต้องมาทนนั่งตัวสั่นงกๆอยู่ตรงนี้"

"อือ..."   ร่างโปร่งบางครางรับในลำคอก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นอย่างว่าง่ายท่ามกลางความแปลกใจของชายหนุ่ม เขาคิดว่าเด็กนี่จะต่อปากต่อคำกับเขาซะอีกแต่คราวนี้กลับยอมแพ้ไปง่ายๆ?...

พอเด็กเหลือขอนี่ไม่ตอบโต้ก็เล่นเอารู้สึกเหมือนตัวเองรังแกอีกฝ่ายอยู่ฝ่ายเดียวเพราะแบบนั้นมือหนาจึงรีบคว้าข้อมือผอมๆนั่นเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกหนีไปจริงๆใบหน้ามนหันควับกลับมามองเขาอย่างต้องการคำตอบหากแต่หัวสมองอันเฉียบแหลมกลับคิดหาคำตอบไม่ทันจึงได้แต่ลากอีกฝ่ายนั่งลงที่เดิมซะดื้อๆ  มีเพียงระยะห่างเท่านั้นที่หายวับไปเมื่อมือข้างที่ว่างยกถาดสาเกไปวางไว้อีกฝั่ง

"ฮะฮะ..."   แต่เจ้าคนที่เขาคิดว่าน้อยใจอะไรบางอย่างกลับหัวเราะออกมาให้หางตากระตุกถี่ๆ

"มีอะไรน่าขำ?"

"เปล่า...ผมแแปลกใจที่คุณทำอะไรแบบนี้เป็นด้วย..."   ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ต่อให้เขาโกรธหัวฟัดหัวเวี่ยงยังไงหรือแอบน้อยใจในหลายๆเรื่องผู้ชายคนนี้ยังไม่เคยชายตาแลเขาด้วยซ้ำ...ไม่เคยมีคำแก้ตัวหรือคำอธิบาย...ทำเหมือนความขุ่นข้องหมองใจของเขาเป็นเพียงมลพิษที่พัดผ่านแต่วันนี้กลับมีอะไรหลายๆอย่างแสดงออกมาให้เห็นทำให้เขารู้ว่านอกจากทำใจส่งตัวเขาให้คนพวกนั้นไม่ลงแล้วยังมีความห่วงใยเล็กๆแฝงเอาไว้ในนั้นด้วย

"ชั้นทำอะไร?"

"...เปล่าคุณไม่ได้ทำอะไร...ผมคงคิดมากเกินไป"   เขาตอบ

"หึ..."   ฝ่ายนั้นหัวเราะออกมาเบาๆจนอดจะเอียงคอมองใบหน้าเย็นชาอยู่เป็นนิตย์ดวงนั้นไม่ได้ น่าแปลกที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าเขายังประหม่าเพราะถูกคนคนนี้จ้องอยู่เลย แต่ตอนนี้สายตาของเขากลับถูกตรึงเอาไว้ด้วยรอยยิ้มบางๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เพียงแค่ริมฝีปากได้รูปยกมุมขึ้นเล็กน้อยกลับทำให้ใบหน้าปลาตายของอีกฝ่ายดูหล่อเหลาชวนมองกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ไม่รู้ว่าเผลอจ้องหน้าอีกฝ่ายนานแค่ใหนรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสอุ่นๆแนบลงมาที่ริมฝีปาก ไหล่บางถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อพบว่าใบหน้าที่เผลอจ้องอยู่นานสองนานเคลื่อนเข้ามาใกล้ในระยะประชิดจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจแถมยังโดนขโมยจูบไปอีกต่างหาก!?...

"หน้าชั้นมีอะไรติดอยู่รึไง?"   โดยไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้เค้นสมองคิดหาคำตอบเขาผนึกริมฝีปากน่าจูบนั่นเอาไว้อาศัยจังหวะที่เจ้าตัวขยับปากจะพูดอะไรสอดปลายลิ้นเข้าไปพัวพันในโพรงปากอ่อนนุ่มและอุ่นร้อน ร่างโปร่งบางผงะถอยหลังด้วยความตกใจแต่มือหนาก็รวบอีกฝ่ายเข้ามากอดเอาไว้โดยที่มืออีกข้างช่วยประคองท้ายทอยอีกแรง ขณะบดเบียดริมฝีปากเข้าหาอย่างเร่าร้อนผู้ถูกกระทำส่งเสียงอู้อี้คลายจะประท้วงแต่ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นเสียงหอบหายใจติดขัดยอมโอนอ่อนผ่อนตามรับการรุกรานของเขาแต่โดยดี

ท่าทีที่อ่อนลงของคนในอ้อมแขนทำให้เขารับรู้ได้ว่าเจ้าตัวไม่รังเกียจหากเขาจะทำอะไรเกินเลยมากกว่านี้ ซ้ำยังส่งปลายลิ้นนุ่มๆตอบโต้ลิ้นของเขาที่สอดแทรกเข้าด้วยซ้ำถึงจะเก้ๆกังๆตามประสามือสมัครเล่นแต่กลับทำให้เลือดในกายของเขาเดือดพล่านยิ่งกว่ายากระตุ้นชั้นเลิศซะอีก รสชาติของสาเกที่อบอวลอยู่ในปากช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้หวานล้ำอย่างที่ไม่เคยรับรู้ได้จากใครมาก่อน ใช่ว่าเขาจะไม่เคยจูบกับใครตอนเมาแต่กับเด็กนี่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง การปลุกเร้าอันหนักหน่วงทำให้รู้สึกดีจนตาพร่า มือหนาเลื่อนต่ำลงไปยังเอวบาง สอดเข้าไปในชายเสื้อตัวหลวม

"อื้อ!..."   ร่างกายสะท้านวาบเมื่อผิวกายถูกมือหนาที่ทั้งอบอุ่นและทรงพลังสัมผัส

ยิ่งจูบทวีความร้อนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ทั้งสองร่างก็ยิ่งขยับเข้าหากันแนบแน่นขึ้นเท่านั้น สองแขนผอมบางที่โอบกอดแผ่นหลังเขาไว้สั่นเกร็งจนรู้สึกได้ ใบหน้ามนแดงก่ำไปด้วยแรงอารมณ์ที่ถูกกระตุ้น ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตสุกใสปิดแน่นต่างจากเขาที่เฝ้ามองดวงหน้านั้นไม่วางตา ร่างที่หนากว่าเกือบครึ่งค่อยๆทาบทับลงไปจนกลายเป็นนอนราบไปกับพื้นระเบียง ร่างกายท่อนล่างที่บดเบียดผ่านกางเกงผ้าฝ้ายบางๆต่างก็รับรู้ได้ถึงความร้อนระอุที่แข็งขืนของกันและกัน

ชายหนุ่มค่อยๆละริมฝีปากออกช้าๆเมื่อมาถึงจังหวะที่ต้องเว้นช่วงให้ร่างด้านใต้ได้หายใจ เขาไม่อยากละออกไปทั้งอย่างนี้ถึงได้ตรึงอีกฝ่ายเอาไว้กับพื้น ใช้ร่างกายของตัวเองบดบังทางหนีถึงจะมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอย่างนั้นก็ตามที
ดวงตาสีเขียวมรกตค่อยๆปรือขึ้นมาสบกับเขาท่ามกลางเสียงเต้นโครมครามของหัวใจทั้งสองดวงที่กลบเสียงสายฝนไปจนมิด มือหนาเลื่อนลงไปกระตุกปลายเชือกกางเกงที่มัดปมเอาไว้อย่างง่ายๆของอีกฝ่ายคล้ายจะใจเย็นแม้จะสวนทางกับแรงอารมณ์แต่เขาก็ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเจ็บ

ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่พร้อมกับร่างที่สะท้านน้อยๆของคนด้านใต้ตอนที่เขาโน้มใบหน้าลงไปที่ซอกคอระหงจนเขาอดที่จะขำในใจไม่ได้ เขาเชื่อว่าเด็กนี่รู้ดีว่าต่อจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแต่สองแขนก็ยังโอบรอบแผ่นหลังของเขาเอาไว้แน่นปล่อยให้มือของเขาสอดผ่านขอบกางเกงที่หลุดลุ่ยของตัวเองอย่างไม่คิดจะขัดขืน 

"...คุณ...เมาหรือ...อ๊ะ!..."

"อื้อ~..."   แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นปลายลิ้นและฝ่ามือแทนจนคนถามถึงกับครางไม่เป็นภาษา ส่วนอ่อนไหวที่แข็งขึ้นตามแรงอารมณ์สั่นระริกเมื่อฝ่ามือกร้านนิดๆนั่นสัมผัส สะโพกถูกยกให้สูงขึ้นไปไว้บนต้นขาแข็งแรงทันทีที่อีกฝ่ายดึงกางเกงตัวบางพ้นจากเรียวขา ไม่ต้องลำบากกับชั้นในให้ยุ่งยากเพราะมันกำลังปั่นอยู่ในเครื่องอบผ้าพร้อมกับเสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวมาและไม่จำเป็นต้องเดาว่าอีกฝ่ายก็เหมือนกัน!

ผิวกายที่สัมผัสมวลอากาศเย็นเฉียบอย่างฉับพลันทำเอาขนลุกซู่ไปทั้งตัวแต่กลับไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิด ริมฝีปากถูกประกบลงมาอีกครั้งพร้อมๆกับช่วงล่างที่ถูกกอบกุมเอาไว้เต็มฝ่ามือ ความเสียวซ่านแล่นริ้วโจมตีไปทั่วทุกอณู แค่ฝ่ามือของร่างด้านบนขยับขึ้นลงเบาๆเพียงไม่กี่ครั้งร่างโปร่งบางก็ถึงกับกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาในที่สุด 

"...ชั้นไม่ได้เมา...แล้วก็จะไม่หยุดด้วย"   ใบหน้ามนที่มัวแต่หอบหายใจยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจในประโยคนั้นมือไม้ที่กำลังอ่อนแรงก็ถูกคว้าไปวางที่หน้าท้องของตัวเองซะก่อน สัมผัสเปียกลื่นที่เปรอะเปื้อนอยู่บนนั้นให้ความรู้สึกหยาบโลนอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าซับสีจัดด้วยความอายทั้งยังพยายามดึงมือตัวเองออกจากสัมผัสแต่มือหนากลับเพิ่มแรงบีบแล้วย้ายมือสั่นๆข้างนั้นไปจับที่ส่วนกลางลำตัวของตัวเอง ทั้งความแข็งขึงและร้อนรุ่มราวกับแท่งเหล็กอังไฟแม้จะมีเนื้อผ้าขวางกั้นทำให้คนถูกบังคับถึงกับเบิกตากว้างก่อนจะรีบปิดลงด้วยความอาย ปล่อยให้อีกฝ่ายขยับมือของตัวเองขึ้นลงตามแต่ใจ...

ร้อนมาก!...

"..ฮ่าา~..."   การเล้าโลมอย่างอ่อนโยนกึ่งหยาบคายแต่ทุกการเคลื่อนไหวกลับช่ำชองไม่มีสะดุดทำให้ร่างโปร่งบางคล้อยตามได้อย่างง่ายดาย สะโพกมนขยับไปตามจังหวะชักนำของปลายนิ้วของอีกฝ่ายที่ไม่รู้ว่าเลื่อนลงไปจ่อที่ช่องทางคับแน่นที่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ ปลายนิ้วเรียวขยับสอดเข้าไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป สัมผัสเปียกลื่นนั้นคงจะเป็นน้ำรักของตัวเองที่เพิ่งปลดปล่อยออกมาแต่ก็เป็นตัวช่วย

"อึก!...อื้อ..."   ช่องทางที่ถูกล่วงล้ำเต้นตุ๊บๆ รัดนิ้วที่สอดแทรกเข้ามาราวกับรอสิ่งนี้อยู่ก่อนแล้ว

"เจ็บหรือ?"   ไม่เจ็บ...แต่ตรงส่วนนั้นมันร้อนจนเหมือนกำลังจะละลาย...ใบหน้ามนส่ายไปมาสองครั้งแทนคำตอบ อีกฝ่ายยังเคลื่อนไหวช้าๆ และเพราะไม่เจ็บนี่เองร่างกายจึงรู้สึกได้ชัดเจน รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง.

ร่างด้านบนถ่างนิ้วทั้งสองที่อยู่ด้านใน เคลื่อนไหวเหมือนจะขยับขยายช่องทางอันคับแน่น ส่วนลึกในร่างกายร้อนขึ้นทุกครั้งที่ถูกสัมผัส รู้สึกดีจนเรียกว่าเสียวซ่านยังน้อยไป ระหว่างนั้นนิ้วที่สามก็ตามเข้ามา จำนวนนิ้วที่เพิ่มขึ้นทำให้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกที่หลงลืมไปแล้วผุดขึ้นมาในหัวลางๆหากแต่ถูกใครบางคนลบเลือนมันไปจากสมองคล้ายกับก้อนหินที่โยนลงไปบนผืนน้ำ ความทรงจำนั้นแตกกระจายแผ่ซ่านไปราวกับแรงกระเพื่อมของผิวน้ำที่แตกตัวเป็นวงกว้างแล้วถูกเขียนทับขึ้นมาใหม่จากใครอีกคน

"อ้า~...อะ...รี..."   ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อไม่แน่ใจว่าควรจะเอ่ยชื่อใครออกไปดี...แน่นอนว่าคนด้านบนไม่รู้ว่าเจ้าตัวกำลังสับสน...

"ไหวมั้ย?"   นิ้วทั้งสามหยุดชะงักทันทีทำให้ใบหน้าที่กำลังล่องลอยปรือตาขึ้นมองเจ้าของเสียงทุ้มน่าฟัง

"วะ...ไหวฮะ...."   พอตอบออกไปแบบนั้นใบหน้าที่เย็นชาอยู่เป็นนิตย์ก็ยกยิ้มอ่อนโยนแล้วเริ่มขยับสอดนิ้วคลำหาจุดที่ทำให้รู้สึกดีในร่างกายเขาอีกครั้ง ชั่ววินาทีที่เห็นรอยยิ้มนั้นความกลัวก็ก่อตัวขึ้นมาในใจอย่างไม่มีสาเหตุ แต่แค่ชั่ววินาทีเท่านั้นเพราะทันทีที่ปลายนิ้วทั้งสามดันลึกเข้ามาก็ถูกความรู้สึกอื่นกลบไปจนหมด

"ตะ...ตรงนั้น!...ยะ..อ๊ะ!?..."   ร่างกายสะท้านเกร็งขึ้นมาทันทีที่ส่วนนั้นถูกเสียดสี แน่นอนว่าความรู้สึกนี้ต่างจากคำว่า'รู้สึก'ที่เขารู้จัก ชายหนุ่มกระแทกปลายนิ้วเสียดสีจุดนั้นหนักขึ้นจนร่างด้านใต้ได้แต่ส่งเสียงครางไม่เป็นภาษา อยากจะบอกว่าอย่าแต่ก็ไร้เรี่ยวแรงเต็มที ส่วนอ่อนไหวที่ถูกทำให้ปลดปล่อยไปแล้วชูชันขึ้นมาอย่างน่าอาย น้ำใสๆที่ไหลปริ่มออกมาจากส่วนปลายบ่งบอกได้ชัดเจนว่าร่างกายกำลังเรียกร้องขอการปลดปล่อยครั้งที่สอง สะโพกมนส่ายขยับตามการสอดใส่เป็นจังหวะเดียวกัน ส่งสายตาคลอน้ำวิงวอนให้อีกฝ่ายพาไปถึงฝั่งแต่ในขณะเดียวกันก็ทั้งโกรธทั้งอายที่ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะเล่นกับร่างกายของเขาไปถึงเมื่อไหร่

"อ๊า...คุณรี...ไวล์..."   พอแล้วเข้ามาซะที!...นี่คือประโยคหลังที่อยากตะโกนออกไปแต่ก็อายจนสุดทน มือสั่นๆจึงเอื้อมไปหาส่วนกลางลำตัวของตัวเองอย่างทนไม่ไหว ความสุขสมที่ได้รับรุนแรงจนแทบจะทำให้ร่างทั้งร่างระเบิดออกเป็นจุล แต่ทันทีที่ปลายนิ้วสัมผัสโดนมือบางก็ถูกรวบเอาไว้ซะก่อน

"อื้อ!..."   ใจร้าย!...ถูกยับยั้งเอาไว้ในเสี้ยววินาทีสุดท้ายแบบนี้น้ำตาจึงไหลลงมาอย่างไม่รู้ตัว ทรมานกับความร้อนที่อัดแน่นรอวันปะทุ ทั้งๆที่ฝ่ามือของเขากอบกุมมันเอาไว้แล้วแท้ๆขยับขึ้นลงอีกเพียงไม่กี่ครั้งเขาก็จะไปถึงจุดสูงสุดของแรงปรารถนาแต่มือหนาที่กุมมือของเขาเอาไว้กลับไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น

"ระ...รีไวล์...อึ่ก..."   อยากจะตะเบงสุดเสียงด่าใจแทบขาดแต่น้ำเสียงที่เอ่ยออกไปกลับสั่นเครือเคล้าเสียงสะอื้นแทน

"ใจเย็นๆสิ...ทนอีกนิดเดียว"   ริมฝีปากได้รูปพรมจูบไปทั่วใบหน้าซ้ำน้ำเสียงที่เอ่ยออกมายังอ่อนโยนจนหัวใจสั่นไหวราวกับใบไม้ต้องลม ทว่ากลับถูกหัวแม่มือลูบไล้ส่วนปลายที่เปียกเยิ้มเหมือนจะแกล้งให้คลั่งตาย

"ไม่!...พอแล้ว...ไม่เอาแบบนี้...ฮึก~..."   สุดท้ายก็เป็นฝ่ายร้องไห้วิงวอนไม่เป็นท่า ใบหน้าหล่อเหลาถึงกับอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าแกล้งอีกฝ่ายมากเกินไป

"กางขาออกสิ"   มือหนายอมปล่อยจากส่วนไหวของร่างด้านใต้ก่อนจะสอดนิ้วประสานกับมือบางแล้วออกแรงบีบกระชับเอาไว้ แอบขอโทษในใจ

นิ้วทั้งสามถูกถอนออกก่อนจะจ่อกลับมาแทนที่ด้วยท่อนเนื้อที่แข็งขึงของตัวเองใบหน้ามนร้อง อ๊ะ ออกมาเพียงสั้นๆเมื่อความร้อนรุ่มนั้นแทรกตัวดันลึกเข้ามาในร่างกาย...ไม่เจ็บ แต่รู้สึกเสียดแน่น อึดอัดจนต้องร้องออกมาอีกหลายครั้ง

"ไม่เป็นไรใช่มั้ย?"   สมองมึนเบลอไปแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองพยักหน้าตอบรับคำถามนั้น ดวงตาพยายามปรือขึ้นมามองสีหน้าที่ดูทรมานของร่างด้านบน

"...คุณล่ะ?..."   อะไรบางอย่างที่อยู่บนใบหน้าหล่อเหลาทำให้ถามออกไปแบบนั้น ชายหนุ่มหยุดขยับร่างกายของตัวเองชั่วขณะก่อนจะยิ้มเฝื่อนออกมา

"รู้สึกดีจนจะตายได้อยู่แล้ว..."  ใบหน้ามนแดงซ่านขึ้นมาทันทีที่ได้ฟังคำตอบ เขาเริ่มต้นขยับสะโพกอีกครั้งค่อยๆสร้างจังหวะมอบความสุขสมโดยไม่เปิดโอกาสให้ร่างบางถามอะไรได้อีก แน่นอนว่าเขารู้สึกดีแต่ในขณะเดียวกันก็ทรมานที่ต้องยับยั้งสัญชาตญาณดิบของตัวเองเพราะไม่อยากทำให้เจ้าตัวเจ็บ...เขาไม่อยากให้เซ็กส์ครั้งนี้เป็นความทรงจำที่เลวร้ายสำหรับพวกเขาทั้งคู่

เสียงครางหวานหูปนเสียงลมหายใจหอบหนักดังขึ้นแข่งกับเสียงฝนตามแรงอารมณ์ที่ค่อยๆไต่ระดับสูงขึ้น จังหวะเริ่มร้อนแรงขึ้นจากที่เคยเนิบนาบ ทุกความเคลื่อไหวทำให้ส่วนที่เชื่อมประสานกันร้อนผ่านราวกับมีลูกไฟปะทุอยู่ในนั้น จนร่างกายขับเหงือเม็ดเล็กๆออกมาตามกรอบหน้า แผงอกกว้างของชายหนุ่ม จังหวะขับเคลื่อนถูกควบคุมอย่างมั่นคงเพื่อไม่ให้เวลาแห่งความสุขสมนี้สั้นเกินไป

"...รีไวล์..."   ชื่อของเขาถูกเรียกปนเสียงครางกระเส่าออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากที่แดงช้ำนั่นช่างดูยั่วยวนเร้าอารมณ์มากในเวลานี้ เขาประกบจูบลากปลายลิ้นหยอกล้อเรียวลิ้นเล็กอย่างไม่รู้จักเบื่อ ทุกส่วนของร่างด้านใต้หอมหวานกระตุ้นให้อยากรังแกได้ดีจริงๆ

"ไม่ไหว..ผมจะ...อ๊าา~..."   ร่างโปร่งบางถึงจุดสุดท้ายของแรงอารมณ์อีกครั้งแต่ชายหนุ่มยังคงกระแทกกระทั้นแกนกายเข้ามาในร่างกายอีกหลายต่อหลายครั้งกว่าทำนบแห่งแรงอารมณ์ของอีกฝ่ายจะพังทลายลง รับรู้ได้ว่าความปรารถนาของอีกฝ่ายอุ่นวาบอยู่ในร่างกายของตนแต่ความแข็งขึงของท่อนเนื้อนั้นกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย เว้นระยะไว้เพียงไม่กี่วินาทีชายหนุ่มก็เริ่มขยับเสือกกายเข้าออกอีกครั้ง

หากแต่ตัวเองก็รู้สึกว่ายังไม่ถูกเติมเต็มเช่นกัน ร่างกายที่ถูกไฟแห่งความกามอารมณ์แผดเผาของทั้งคู่ขยับสอดรับกันในจังหวะที่ดุดันขึ้น ความรุนแรงใกล้เคียงกับคำว่าป่าเถื่อนขึ้นไปทุกที เสียงหอบหายใจหนักหน่วงขึ้น จนได้ยินแม้กระทั้งเสียงชีพจรเต้นกระหน่ำดังเข้ามาจนหนวกหู 

ทว่าหากร่างกายยังไม่ถูกเติมเต็มบทรักครั้งนี้ก็ยากจะจบลงเช่นกัน...


เขาอุ้มเจ้าเด็กที่ไม่รู้ว่าหมดสติหรือว่าแค่ผล็อยหลับไปกลับเข้ามาในห้อง ทำความสะอาดร่างกายให้เมื่อทนดูสภาพเจ้าตัวเปรอะเปื้อนอยู่แบบนั้นไม่ไหว แต่ทุกครั้งที่ปลายนิ้วสัมผัสเด็กเหลือขอนี่ความรู้สึกบางอย่างกลับพุ่งเข้ามาโจมตีเหมือนเข็มเล่มเล็กๆที่ทำให้เจ็บๆคันๆมากกว่าจะทรมาน...

นี่เขา...ทำอะไรลงไป?...


   ตอนที่ตื่นขึ้นมาสิ่งแรกที่มองเห็นคือเงาสะท้อนร่างของใครบางคนที่นั่งชันเข่าพิงเสาอยู่ที่ระเบียงพร้อมกับถาดสาเกที่ไม่รู้ว่าของเก่าหรือของใหม่ผ่านช่องเล็กๆของประตูเลื่อนที่เปิดแง้มเอาไว้ เพราะท้องฟ้าด้านนอกยังมืดครึ้มและเสียงซ่าๆของฝนยังไม่หยุดลงบรรยากาศรอบตัวถึงได้ดูหม่นหมองชอบกล สายลมที่ลอดผ่านเข้ามาทำให้ขนลุกซู่ทั้งที่ร่างกายยังซุกอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา...คุณรีไวล์...

ใบหน้ามนรีบปิดเปลือกตาลงอีกครั้งเมื่อร่างที่ระเบียงขยับตัว ไม่นานก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายนั่งลงที่ข้างๆฟูกนอน ตามด้วยมือเย็นเฉียบแตะลงมาที่หน้าผากของตัวเอง

"มีไข้นิดๆแฮะ...ลุกไหวรึเปล่าไปล้างหน้าล้างตาได้แล้วจะได้กินยา...เดี๋ยวชั้นจะไปยกข้าวมาให้"   ประสาทสัมผัสดีจนเกินคนทั่วไปจริงๆ

"ทำไมถึงรู้ล่ะว่าผมตื่นแล้ว?"   เอเลนถอนหายใจยาวๆก่อนจะลองขยับซ้ายขยับขวาดูเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าแค่เคร็ดขัดยอกร่างกายธรรมดาถึงแม้ว่าร่างกายช่วงล่างจะยังเจ็บจี๊ดแต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นจึงได้ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งถึงได้รู้ว่าคุณรีไวล์เปลี่ยนชุดแล้วและเสื้อผ้าของพวกเขาทั้งคู่ก็คือเสื้อผ้าคุณสามีเจ้าของบ้าน ผมรองทรงถูกเสยขึ้นดูแปลกตาไปเล็กน้อย ใบหน้ามนเอียงคอมองคนที่นั่งผินหลังให้เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังมา

"มนุษย์เรานอนได้อย่างมากไม่เกินสิบชั่วโมงแต่ขี้เซาอย่างนายมักจะนอนเยอะกว่าชาวบ้านเค้านิดหน่อย"

"เพราะใครล่ะ!"   กวนประสาทได้ขนาดนี้เขาคงคิดมากเกินไปว่าไอ้บรรยากาศอึมครึมเมื่อครู่เป็นของจริง! ดวงตากลมโตตวัดมองอีกฝ่ายอย่างเคืองๆแต่เพราะฝ่ายนั้นนั่งเยื้องออกไปเล็กน้อยถึงได้มองเห็นแค่มุมปากที่ยกยิ้มขึ้น

หนอยแน่ะ!...กล้าหัวเราะเขางั้นเหรอ!?...

"รีบไปล้างหน้าล้างตาซะ"   พูดพร้อมกับยกมือมาขยี้หัวสีน้ำตาลเบาๆแล้วลุกออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้นจนคนที่พยายามจะมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆไม่สามารถทำได้ อยากรู้ว่ามาถึงขั้นนี้แล้วอีกฝ่ายทำสีหน้าแบบใหนอยู่?

แต่จากที่คุยกันเมื่อครู่เห็นได้ชัดว่าคุณรีไวล์อ่อนโยนขึ้นมาก อา~...ความอับอายในตัวเขามันหายไปใหนหมดนะ?...ทำไมเขาถึงต้องคอยเป็นห่วงความรู้สึกของคนคนนั้นด้วย?...เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียหายแต่ทำไม?...ทำไม?...ไม่สิ...เหมือนกับเขากำลังคาดหวังอะไรบางอย่างอยู่เลย?  แม้จะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคาดหวังอะไรอยู่ก็ตาม...

คุณรีไวล์กลับมาที่ห้องอีกครั้งพร้อมกับมื้อเช้าของเขา แทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่เขาจัดการธุระส่วนตัวเสร็จพอดี

"แล้วของคุณล่ะ?"

"ชั้นยังไม่หิว...รีบกินซะเดี๋ยวเจ้าของบ้านเอายามาให้"

"คุณดื่มแต่เช้าเลยนะฮะ?"

"....."   อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยักไหล่ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองแทนคำตอบจนต้องมองตามสายตานั่นไปและทันทีที่เห็นใบหน้ามนก็ต้องเป็นฝ่ายอ้าปากค้างซะเองเพราะเวลาที่ปรากฏอยู่บนหน้าปัดมันคือบ่ายโมงห้าสิบห้านาที!

"ใหนคุณบอกว่าผมนอนเยอะกว่าชาวบ้านนิดหน่อยเองไง!?...นี่มันเกือบสองเท่าของคนปกติแล้วนะ!"

"ชั้นก็ไม่ได้บอกนี่ว่าคนปกติเข้านอนตอนหัวค่ำ"  คนหน้าตายังคงพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มยียวน

"คนบ้า!..."   บรรยากาศรอบตัวดูละมุนละไมขึ้นไปถนัดตาถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะยังมืดครึ้มและเม็ดฝนจะยังโปรยปราย คุณรีไวล์ยิ้มในแบบที่เขาไม่เคยเห็นและสายตาที่มองมาที่เขาเองก็เปลี่ยนไป ริมฝีปากอิ่มยิ้มรับก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารมื้อเช้าควบมื้อเที่ยงของตัวเองจนไม่ทันสังเกตุว่ารอยคล้ำใต้ตาของอีกฝ่ายดูเข้มขึ้นกว่าในยามปกติ และคงเพราะควบสองมื้อทั้งข้าวและของทอดถึงได้พูนจานกว่าทุกมื้อ พี่สาวเจ้าของบ้านเป็นคนใจดีถึงขนาดเตรียมที่นอนหมอนมุ้งลงไปไว้ให้ในห้องใต้ดินที่ใช้สำหรับหมักสาเกเผื่อกรณีฉุกเฉินโดยไม่ปริปากถามสักคำว่าพวกเขากำลังหนีอะไรมา บางทีการได้ใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดาไม่จำเป็นต้องกังวลว่ากำลังถูกตามล่าหัว ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนมันก็ไม่เลวเลยทีเดียว

นี่คือสิ่งที่เป็นเหมือนความฝันสำหรับเขา...แต่ตัวเขาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าชีวิตคนเราไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น...
.
.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue....


มะ...มาต่อแล้วค่ะงื้ออออ~~...ยกมือปิดหน้าด้วยความอาย~~...

จะบอกว่าฉากNCตอนนี้มันค่อนข้างเลวร้ายถึงเลวร้ายมากก!5555+

ยะ...ยังไงก็ติได้นะคะแต่อย่าด่าเค้านะเค้าอ่อนไหว!!...ถ้าโดนด่านี่หนีไปร้องไห้เป็นปีๆเลยล่ะกร๊ากกก!!...

ไปแระ!...เจอกันอีกที่เบิร์ดเดย์เฮห์โจววนะคะไม่นานๆ...แต่จะเรื่องอะไรนั้นขอบิ้วอารมณ์แป๊ป555+

บายค่ะ>/////<


2 ความคิดเห็น:

  1. พึ่งมีเวลามาอ่านกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ว้ากกกกก NC อร่อยมากค่ะดีมากกกกก ///////////////////// ตอนหน้าขออีกซักฉากได้มั้ยคะ!!-- แค่กๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  2. อร๊ายยยยย พึ่งเข้ามาเจอ blog นี้ค่ะ ขอเม้นรวบยอกเรื่องนี้เลยนะค้า อ่านรวดเดียวจนจบ คือแบบสนุก มีแต่เรื่องให้ชวนสงสัย สรุปเอเลนเป็นอะไรกันแน่ แล้วไหนจะรักสามเศร้าอย่าง รีไว เอเลน อัลฟ่า อีก แต่สุดท้ายคงเป็น รีไว×เอเลน ใช่มั๊ยคะ ก็เค้าได้กันแล้วนี่นาา ~~~ จะรอตอนต่อไปนะค้า

    ตอบลบ