10 พ.ย. 2558

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren]  Lolita : 07

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren]  Lolita : 07

:Fanfiction Attack on titan


:Pairing : Levi x Eren


:Genres : E+Ro+Man+tic


:Rate : PG-15


คำเตือน : บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายหากท่านใดไม่ต้องการรับรู้กรุณากดปิดขอบคุณค่ะ








        ความผิดปรกติทันทีที่เขาเปิดประตูห้องทำงานเข้าไปทำให้นัยน์ตาสีขี้เถ้าหรี่ลงข้างหนึ่งก่อนจะหันไปมองเลขาส่วนตัวที่ยืนอยู่ข้างๆกันอย่างต้องการคำตอบแต่อีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ส่ายหน้าไปมา?...แล้วไอ้โต๊ะทำงานที่ควรจะมีสองแต่ดันเพิ่มมาอีกตัวนี่มันอะไร?...ใบหน้าคมคายเหลือบไปมองเพื่อนสนิทที่ยังนั่งตรวจวาระการประชุมโดยไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ยังโกรธเขาอยู่อย่างนั้นสินะ...แต่เขาก็ไม่ได้บังคับอะไรหมอนั่นซะหน่อย...มันเป็นความสมัครใจของหมอนั่นเองไม่ใช่รึไง?...


แต่เอาเถอะ...


"นายรับเลขาใหม่งั้นเหรอ?...แถมยังให้ย้ายเข้ามาในห้องทำงานอีกแล้วไมค์ล่ะ?"


"ก็ยังอยู่"


"ห๋า?...นี่นายจะใช้เลขาควบสองคนเลย?"    ร่างสันทัดทิ้งตัวลงนั่งกอดอกมองเพื่อนร่างสูงของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ เลขาที่มีอยู่ก็ใช่ว่าจะทำงานไม่ได้เรื่องเสียเมื่อไหร่?...แถมมิเกะเองก็เป็นเพื่อนสนิทเจ้าตัวอีกต่างหาก? จะบอกว่าโกรธแล้วพาลก็ไม่น่าจะใช่?...


"อ่า~...นายใช้คำพูดแบบนั้นมันฟังดูแหม่งๆชอบกล...ไม่ใช่แบบนั้นจริงๆก็กะจะให้มาเป็นผู้ช่วยไมค์นั่นแหละ"


"ใคร?"   


"เดี๋ยวก็..."


ก๊อกๆๆ


เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นมาขัดจังหวะซะก่อนรีไวล์จึงได้แต่ยักไหล่ให้เพื่อนร่างสูงที่บรรยากาศรอบตัวดูจะขมุกขมัวขึ้นมาถนัดตา?


"คุณเอลวินครับ"


"เข้ามา"   แล้วคำตอบของความสงสัยนั้นก็ปรากฏตัวมาแบบตัวเป็นๆ


"รปภ.ตัวยักษ์ของคุณกระโจนตะครุบผม!!...อย่างน้อยคุณน่าจะบอกพวกเค้าคุณเอลวิน!!...ขโมยบ้านใหนเขาขับรถมาจอดในบริษัทเจ้าของรถบ้างเล่าจับรปภ.ของคุณไปอบรมใหม่ให้หมดตึกเลยนะ!!"


ร่างเล็กเรือนผมสีทองเปิดฉากโวยวายแบบลืมหายใจทันทีที่ประตูห้องเปิดออกจนเขาได้แต่ขมวดคิ้วมองเพื่อนร่างสูงที่ยกมือกุมขมับของตัวเองอย่างไม่รู้จะจัดการกับปัญหาตรงหน้ายังไง?


อย่างเอลวินก็มีเรื่องที่คิดไม่ตกได้เหมือนกันสินะ?


ไม่รู้จะรับมือกับเด็กนี่ยังไงงั้นสิ? กว่าจะคุยกันได้รู้เรื่องและกว่าร่างเล็กจะสงบสติอารมณ์ลงได้ก็อีกหลายนาทีสรุปใจความได้ว่าเพื่อนของเขาให้รถอาร์มินขับไปส่งงานที่มหา'ลัยแล้วค่อยมาที่บริษัทแต่ตอนลงจากรถมากลับถูกรปภ.จับตัวเอาไว้เพราะคิดว่าเป็นขโมย?...และที่สำคัญกว่านั้นเอลวินให้เด็กนี่มาช่วยงาน?...


ใช้คนผิดประเภทแล้วมั้งนั่น?...แต่มันก็สมควรจะจับไปอบรมให้หมดจริงๆนั่นแหละรปภ.ของหมอนี่!...คิดอะไรได้สั้นดี  นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบมองดูรอยแดงๆที่แก้มซ้ายบนใบหน้าน่ารักคงเพราะถูกกดเข้ากับประตูรถก่อนจะหัวเราะออกมา


แต่เดี๋ยวก่อนนะ!?...


"นายยังเรียนอยู่?...ที่ใหน?"  


"อิ...อิมพีเรียลครับ...ปีสุดท้ายแล้ว"   นัยน์ตาสีขี้เถ้าหรี่ลงข้างหนึ่งอย่างคาใจเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แต่ก็เลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจอย่างน้อยก็รู้สึกว่าโชคดีที่เอลวินให้เด็กนี่เข้ามาช่วยงานที่บริษัท ริมฝีปากหยักได้รูปเหยียดยิ้มที่มุมปากชั่วขณะก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉยตามเดิม


"รีไวล์นายมีประชุมกับพวกแอนเดอร์สันตอนสิบโมง...ให้อาร์มินเข้าไปด้วยฝากเอิร์ดสอนงานให้พรางๆก่อนก็แล้วกันชั้นต้องไปพบฝ่ายกฏหมายกับไมค์"   เอลวินวางแฟ้มเอกสารสองสามเล่มเอาไว้ให้ก่อนจะเอาส่วนที่เหลือไปให้อาร์มิน แต่เขาก็ไม่คิดจะคัดค้านอะไรถ้าจะต้องให้เจ้าเด็กนี่เข้าประชุมด้วย ถ้าเอลวินตัดสินใจแบบนั้นก็คงเห็นแล้วว่าเหมาะสมและอาร์มินเองก็ดูจะฉลาดพอตัวคงทำอะไรสักอย่างให้เพื่อนร่างสูงของเขาเห็นแล้วล่ะมั้ง?


"จำเท่าที่จะจำได้ก็พอ...ไม่ต้องฝืนตัวเองเข้าใจมั้ย?"   ชายหนุ่มร่างสูงกระซิบบอกอาร์มินให้ใบหน้าน่ารักพยักรับก่อนจะออกจากห้องไป ท่าทางที่ดูเป็นกันเองมากกว่าเมื่อคืนทำให้พอเบาใจได้บ้างว่าหมอนั่นไม่ใช่พวกขวาจัดอนุรักษนิยมจนปฏิเสธเด็กนี่ บอกตามตรงว่าเขาแอบกังวลที่ทำให้เอลวินต้องพบเจอกับเรื่องแบบนี้แต่เห็นแบบนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย


"เอเลนเป็นยังไงบ้างครับ?"   มือที่กำลังเปิดหน้าเอกสารหยุดชะงักไปชั่วขณะดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนแล้วสิ กำลังคิดอยู่เลยว่าจะเริ่มต้นยังไงไม่ให้จงใจเกินไป


"ก็ดี...ค่อนข้างเร้า..."


"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้นซะหน่อย!...หมายถึงที่ไม่สบายต่างหากล่ะครับ!"  ใบหน้าน่ารักรีบแย้งขึ้นมาก่อนที่คุณรีไวล์จะพูดอะไรแปลกๆออกมาโดยไม่ได้รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังลอบยิ้มพอใจที่ตัวเองตกหลุมพรางง่ายๆแบบนั้น


"สบายดี...ชั้นคิดว่านะ"  คำพูดหมิ่นเหม่ไม่เข้ากับหน้าตานิ่งๆนั่นทำให้อาร์มินทำหน้าย่นให้กับตัวเองที่รู้สึกอายขึ้นมานิดๆ ถึงจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติก็เถอะแต่พอเป็นคนของเพื่อนสนิทแบบนี้ก็ชักจะคุยไม่ออก


"นายเรียนสาขาอะไร?"


"บริหารครับ...แต่ไม่ใช่ว่ามีบริษัทเป็นของตระกูลอะไรแบบนั้นหรอกครับแค่อยากจะหางานดีๆเงินเดือนเยอะๆไว้ส่งเสียเอเลนให้จบแต่คุณก็รู้ใช่มั้ยล่ะว่าไอ้การหางานดีๆสำหรับเด็กจบใหม่มันยากน่ะ"   คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูงด้วยความแปลกใจที่เขาถามคำถามไปแค่นิดเดียวแต่เด็กนี่กลับตอบออกมาซะยาวเฟื้อยแบบนี้?


"รู้สิ...ชั้นก็เคย"


"จริงเหรอครับ!?...อย่างคุณเนี้ยนะ!"


"ใช่..."   เขาโกหกน่ะแต่พอเห็นท่างทางตื่นเต้นของเด็กนี่แล้วก็พาลนึกไปถึงเจ้าเด็กเหลือขอที่โรงแรมซะได้ ถ้าเป็นเอเลนคงจะทำหน้ารู้ทันแล้วก็แขวะเขากลับมาแบบทันควันไปแล้วแต่เด็กอาร์มินนี่ค่อนข้างจะรู้สึกตัวช้านิดหน่อย


"ทำไม...เอเลนถึงดรอปล่ะ?"


"คำถามนี้ขอผ่านนะครับเพราะมัน..."


"เป็นกฏใช่ชั้นรู้...งั้นทำไมเด็กนั่นนายด้วยรึเปล่าถึงไม่จูบกับลูกค้า?"


"คุณพยายามจะทำแบบนั้นเหรอครับ!?"   เขาทำเพียงแค่ยิ้มไม่ได้ตอบคำถามนั้นหรือปฏิเสธจะบอกว่าพยายามก็ใช่แต่ก็ไม่อยากทำให้เจ้าเด็กเหลือขอเกลียดเขาเหมือนกัน ที่จริงก็กำลังคิดหาวิธีที่ทำให้อีกฝ่ายสมัครใจอยู่เหมือนกัน...ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามันมีแค่ทางเดียวก็เถอะ...


"...เป็นคำขอของคนๆหนึ่งน่ะครับ"   หางตาของเขาถึงกับกระตุกถี่ยิบขึ้นมาทันทีแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามทำหน้าเรียบเฉยเอาไว้


"แฟน?"


"แฟนเก่าครับ!...ผมไม่ได้ยึดติดกับเรื่องนั้นเหมือนเอเลนแต่จะเลี่ยงเท่าที่จะทำได้แต่เอเลนน่ะจริงจังกับเรื่องนี้มาก"


"งั้นก็แสดงว่ารักมาก?"


"คงงั้นมั้งครับผมก็ไม่แน่ใจ...แต่เอเลนยังเก็บเจ้าพลูโตเอาไว้ดูต่างหน้า...ดูเหมือนจะเป็นของชิ้นเดียวที่เหลืออยู่"  อาร์มินยังคงเล่าต่อไปตามประสาคนที่มักจะคุยอะไรติดลมไปเรื่อยๆโดยไม่ได้สังเกตุเลยว่าคู่สนทนาของตัวเองกำลังทำหน้าเหมือนกับกินยาขมเข้าไปอยู่หลายวินาที


"พลูโต?"   


"ปลาทองครับ...ตัวกำลังโตเลยแต่คงเพราะมันเป็นปลาทองล่ะมั้งเอเลนถึงไม่กล้า..ตายล่ะผมพูดอะไรไปเนี้ย!...ถ้าหมอนั่นรู้ต้องตัดเพื่อนกับผมแน่ๆเลย!!...ทำไงดีๆๆๆ~"   กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังพูดอะไรออกมาก็มากพอให้เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรพอดี...คำขอ!...กับปลาทอง!...


"ชั้นไม่ปากโป้งหรอกน่าแต่ถึงขนาดต้องตัดเพื่อนกันเลยรึไง?"


"น้อยไปสิครับ!...อย่าดูถูกทิฐิที่เอเลนมีเชียวนะ!...บวกความดื้อดึงบวกความดันทุรังที่มีเป็นทุนเดิมด้วยแล้วอย่าว่าแต่มองหน้าเลย!" นอกจากจะเป็นเจ้าคนไม่แคร์ใครยังเป็นพวกดันทุรังสูงด้วย? เขาก็พอจะดูออกแต่ถ้าทิฐิสูงจริงแล้วทำไมถึงยังยึดติดกับคำขอโง่ๆนั่นอยู่ล่ะ?


"กรุณาปิดเป็นความลับด้วยนะครับ!...เอเลนเป็นเพื่อนคนเดียวของผม ผมไม่อยากถูกเกลียด~"   ถ้าต้องถึงขั้นลุกขึ้นยืนขอร้องกันขนาดนี้คงไม่ใช่แค่ล้อเล่นถ้าไม่ช่วยก็คงจะใจดำเกินไป


"ชั้นจะไม่พูด...พอใจรึยัง?"   เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กนี่พยักหน้ารับหรือกำลังส่ายหัวปฏิเสธแต่ไม่ชอบใจเอาซะเลยกับสิ่งที่ได้ฟังมา มันคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากเจ้าเด็กเหลือขอยังรักหมอนั่นอยู่?...แต่เขาที่เอาแต่คิดเรื่องนี้มันดูงี่เง่าชะมัด!...ไม่สมกับเป็นเขาเลยสักนิด...



การประชุมที่ไม่น่าจะมีอะไรเพราะทั้งห้องมีคนทั้งหมดแค่ห้าคนมิสเตอร์แอนเดอร์สันที่ว่าพาแค่ลูกชายตัวเองมาแนะนำให้คุณรีไวล์รู้จักและทางฝั่งนี้ก็มีแค่คุณรีไวล์ คุณเอิร์ดและเขาเท่านั้น?...จะเรียกว่าการประชุมมันก็กะไรอยู่ในเมื่อฝ่ายนั้นเอาแต่ก้มหัวขอร้องอยู่ฝ่ายเดียวจนรู้สึกสงสารขึ้นมาแต่คุณรีไวล์กลับยังยืนยันตามที่ตัวเองเคยเสนอไป?


แล้วก็ท่าทางเย็นชานั่นอีก? ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนเขาที่นั่งถัดมาถึงกับมือไม้สั่นไม่ว่าจะมองมุมใหนก็น่ากลัวคิดไม่ออกเลยว่าตอนอยู่กับเอเลนผู้ชายคนนี้ทำหน้าแบบใหน? ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนที่เจอกันที่คลับ...


"ไม่เป็นไร...ทำตัวตามสบายนายเกร็งเกินไปแล้ว"   คุณเอิร์ดแตะที่หลังมือสั่นๆของเขาอย่างให้กำลังใจแต่ถึงจะบอกแบบนั้นมันก็ยากเอาการเลยในสถานการณ์แบบนี้น่ะ!...






"ประชุมเป็นไงบ้าง?...ได้เรื่องอะไรมั้ย?"   ร่างเล็กที่กำลังตั้งอกตั้งใจอ่านข้อเสนอของคู่ค้าที่ต้องการให้คุณรีไวล์นำกลับมาพิจารณาใหม่อีกรอบถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อคนที่หายไปตั้งแต่เช้าจนตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่มแล้วโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง ใบหน้าน่ารักโค้งให้กับไมค์ที่ตามหลังมาติดๆก่อนจะหันกลับมารายงานผลให้กับเอลวินฟัง


"ไม่มีอะไรคืบหน้าเลยนะครับ ฝั่งนั้นขอให้คุณรีไวล์ทบทวนใหม่อีกรอบแต่คุณรีไวล์ตอบเพียงแค่ว่าจะลองคิดดูแล้วให้ผมลองร่างข้อเสนอใหม่สามฉบับโดยมีเงื่อนไขว่าผลประโยชน์เจ็ดสิบสามสิบทั้งสามฉบับผมเลยไม่รู้ว่าต้องทำ...ยังไงดี"   ที่จริงต้องบอกว่าเครียดจนหัวสมองจะระเบิดแล้วถึงจะถูก มันทำได้ด้วยรึไงที่ข้อตกลงต่างๆจะเปลี่ยนไปแต่ผลประโยชน์ต้องเท่าเดิม?...ในความคิดของเขามันดูโหดร้ายกับอีกฝ่ายมากๆบางทีพวกเขาอาจจะกำลังเดือดร้อนแต่เล่นกดดันกันขนาดนี้มันดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย


"หึหึ...แล้วรีไวล์ล่ะ?"   แต่คุณเอลวินก็ยังดูไม่ได้ตกใจอะไรเลย?


"กลับไปแล้วครับ....คุณไม่คิดว่ามันโหดร้ายไปหน่อยเหรอครับ?...อีกอย่างผมคิดว่าจะมีผู้ร่วมประชุมเยอะกว่านี้แต่กลับมีแค่คุณรีไวล์ที่ตัดสินใจเองเบ็ดเสร็จผมว่ามันไม่ยุติธรรม!..."


"ใจเย็นสิ"   มือหนาวางลงบนหัวสีทองเรียบลื่นก่อนจะโยกไปมาเบาๆปลอบโยนคนที่ดูจะจริงจังกับเรื่องนี้เอามากๆ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปส่งสัญญาณให้ไมค์ว่าขออยู่กันตามลำพังก่อนจะหันกลับมาสนใจคนตรงหน้าต่อ


"จริงๆแล้วหมอนั่นแค่อารมณ์เสียน่ะแล้วอีกฝ่ายก็ขอพบเป็นการส่วนตัวด้วย...ถ้ารีไวล์บอกว่าจะลองเอาไปคิดดูหมอนั่นก็จะทำอย่างนั้นแน่ๆแต่นายคงไปพูดอะไรไม่เข้าหูซะละมั้งถึงได้ถูกแกล้งแบบนี้?"


"ผมเปล่านะ!...อีกอย่างคนอย่างคุณรีไวล์แกล้งคนอื่นเป็นด้วยเหรอครับ?"   ก็ตัวเองเพิ่งโดนไปหยกๆไม่ใช่รึไง? แต่เอาเถอะหน้าตาหมอนั่นมันก็เย็นชาจนเดาไม่ออกจริงๆนั่นแหละอาร์มินเองก็คงไม่รู้ตัวด้วยว่าตัวเองพูดอะไรไม่เข้าหูไป


"หึ...งั้นก็กลับกันเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ไมค์ช่วยสอนงานให้"


"ครับ"  ที่จริงแล้วเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ดึกขนาดนี้เพราะคุณรีไวล์เองก็บอกว่าไม่รีบแต่เพราะต้องรอกลับบ้านพร้อมกันกับคนตัวโตคนนี้เลยต้องอยู่รอที่ออฟฟิศ




รีไวล์ก้าวขายาวๆเข้าโรงแรมที่พักไปด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับจนหลายๆคนที่เดินผ่านไปมาต้องหลีกทางให้ไม่งั้นคงถูกต่อยแน่ๆถ้าเผลอไปกระทบไหล่เข้า


"มิสเตอร์ครับ!"     แต่ในหมู่ผู้คนที่กำลังหวาดกลัวยังมีคนใจกล้าพอที่จะเข้ามาทัก รีไวล์หยุดฝีเท้าลงเมื่อผู้จัดการโรงแรมใจกล้าเดินตรงเข้ามาหา


"เด็กคนนั้น...วันนี้ออกไปข้างนอกมาครับกลับมาถึงตอนเกือบๆสองทุ่ม"   หางตาของเขาถึงกับกระตุกถี่ยิบความหงุดหงิดที่สั่งสมมาทั้งวันกำลังก่อตัวเป็นความไม่พอใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่และกำลังจะพาลไปลงกับเจ้าเด็กเหลือขอนั่น...


เสียงฮัมเพลงดังออกมาจากห้องน้ำทำให้สองขาเดินตรงไปโดยไม่ต้องมองหาให้ยุ่งยากสายตาเหลือบไปเห็นโถแก้วที่มีปลาทองหน้าโง่ๆลอยตุ๊บป่องๆอยู่ในนั้นหางตาก็ยิ่งกระตุกถี่ยิบไม่ต้องเดาก็รู้ว่านั่นคือเจ้าพลูโตที่ว่า ทั้งสูทตัวนอกทั้งแฟ้มเอกสารที่เอาติดมือมาด้วยถูกโยนเอาไว้บนเตียงอย่างไม่ใยดีมือหนาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปอย่างถือวิสาสะให้คนที่กำลังเล่นฟองสบู่ในอ่างอาบน้ำถึงกับสะดุ้งโหยง


"กะ...กลับมาแล้วเหรอฮะ!?"   แต่พอเห็นใบหน้าสวยๆนั่นความหงุดหงิดก็ดูจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง รีไวล์รวบรวมสติตัวเองที่กระเจิดกระเจิงไปถึงใหนต่อใหนให้กลับมาก่อนจะเดินไปนั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำโดยที่ร่างโปร่งบางเองก็ขยับมาเกยคางอยู่ใกล้ๆ


"คุณจะอาบน้ำใช่มั้ยฮะ?...ผมจะขึ้นก่อนก็ได้"


"ไม่เป็นไร...แค่เห็นอะไรแปลกๆในห้องนอนเลยอยากรู้"


"เจ้าพลูโตเหรอฮะ?"   คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยให้ใบหน้ามนหลุดหัวเราะคิกคักออกมาแล้วเจ้าตัวก็เริ่มเล่าให้เขาฟังโดยไม่ต้องรอให้เขาถามอะไรอีก


"ผมกลับไปที่ห้องพักมาฮะ ต้องเก็บกวาดนิดหน่อยเพราะเจ้าของที่พักเค้าโทรมาโวยวายตั้งแต่เช้าว่ากลิ่นอะไรแปลกๆมันลอยออกมา...ฮะฮะ...แต่ผมไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรเลยจมูกเค้าต้องมีเซ็นเซอร์แน่ๆคุณว่ามั้ย!?"   รีไวล์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทำเอาเขาถึงกับนึกภาพตามได้เลยว่าห้องพักที่ว่ามันมีสภาพแบบใหนแล้วไอ้กลิ่นแปลกๆที่ว่านั่นอีก? 


"แล้วไงต่อ?"   เขาไม่คิดเลยว่าแค่ความมักง่ายไร้ระเบียบของเด็กนี่จะทำให้เขาอยากรู้ว่าเจ้าตัวจะจัดการกับปัญหาตรงหน้ายังไงก็อย่างที่รู้ว่าเขาเกลียดความสกปรกถ้าเป็นคนอื่นเขาคงเดินหนีไปแล้ว และไม่ได้รู้ตัวเลยว่าแค่เรื่องไร้สาระพรรค์นี้จะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาจนลืมควาใหงุดหงิดพวกนั้นไปจนหมด


"ก็ต้องทำความสะอาดอยู่แล้วสิฮะไม่งั้นต้องโดนไล่ออกแหงๆที่พักถูกๆมันหากันได้ง่ายๆซะเมื่อไหร่...แต่ทำคนเดียวมันเหนื่อยเอาการผมเลยเผลอหลับไปพอตื่นขึ้นขึ้นมาก็รีบมาที่นี่ยังคิดอยู่เลยว่าคุณต้องกลับมาแล้วแน่ๆ"


"หึหึ..."   ใช้ชีวิตได้โลดโผนจริงๆเลยนะอายุแค่นี้...ต่างจากเขาที่ไม่เคยรู้จักว่าความตื่นเต้นเสียใจหรือแม้แต่ความสนุก...ในมุมมองของเขาชีวิตที่เพียบพร้อมทุกอย่างมันมีแต่ความน่าเบื่อทุกอย่างที่ทำก็แค่หน้าที่เป็นแค่ความเคยชิน


"มานี่สิ"   มือหนาตบลงไปที่หน้าตักตัวเองให้ใบหน้ามนได้แค่ทำหน้างง?


"จะดีเหรอฮะ?...เดี๋ยวชุดก็เปื้อนหมดพอดีราคาไม่ใช่ถูกๆ"


"ไม่เป็นไร...นานๆทีอยากทำตัวเลอะเทอะบ้าง"


"ฮะฮะ..."   ใบหน้ามนหัวเราะชอบใจก่อนจะลุกไปนั่งคร่อมที่หน้าตักแข็งแกร่งตามที่อีกฝ่ายต้องการ ปลายนิ้วเรียวช่วยคลายปมเนคไทให้เช่นเดียวกับมือหนาที่ช่วยลูบฟองสบู่ออกจากหัวไหล่มน ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตช้อนมองใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบเล็กน้อยก่อนจะเป็นฝ่ายเอนตัวหลบริมฝีปากที่ทำท่าจะจู่โจมเข้ามา ดวงตาทั้งสองคู่จ้องมองซึ่งกันต่างฝ่ายต่างสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อนที่ส่งผ่านมาอย่างไม่ปิดบังแต่ถึงอย่างนั้นก็มีอะไรบางอย่างที่สัมผัสได้จากนัยน์ตาสีขี้เถ้า


"สีหน้าคุณดูไม่ดีเลยนะฮะ?" 


"เครียดเรื่องงานนิดหน่อยถ้าได้จูบของนายเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง"   เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่มือบางๆนั่นจะย้ายมาประคองใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้แล้วกดจูบลงไปที่เปลือกตาทั้งสองข้างจนคนที่เป็นฝ่ายขอหลุดหัวเราะออกมา 


"จงหายไปๆ~"   ริมฝีปากอิ่มพึมพำร่ายมนต์แล้วจูบซ้ำลงไปอีกครั้งทำเหมือนกับกำลังปลอบใจเด็กเล็กๆก็ไม่ปานมันน่านักเชียว!...


"ดีขึ้นรึเปล่าฮะ?"   ใบหน้ามนถามกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มชอบใจที่แกล้งเขาได้ทั้งๆเจ้าตัวเองก็รู้ดีว่าจูบที่เขาขอมันไม่ใช่แบบนี้ แต่แบบนี้มันก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาเยอะเลย...


"ก็ไม่เลว"   รีไวล์ยิ้มบางๆก่อนจะจงใจเลื่อนฝ่ามือต่ำลงเรื่อยๆแค่ปลายนิ้วของเขาขยับเบาๆร่างโปร่งบางก็ต้องส่ายบิดเอวหลบพร้อมกับเสียงหัวเราะสดใส การได้เอาคืนบ้างเล็กๆน้อยๆแบบนี้เรียกเสียงหัวเราะได้ทั้งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ สักพักมือหนาข้างหนึ่งก็ยกไปรั้งท้ายทอยสีน้ำตาลเอาไว้ให้ใบหน้าที่กำลังหอบหายใจเพราะหัวเราะมากเกินไปค่อยๆปรับสีหน้าลง รอยยิ้มละไมปรากฏอยู่บนริมฝีปากของทั้งคู่เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ถึงความหมายที่อีกคนสื่อออกมา


"...กฏของนายมันงี่เง่าสิ้นดี...เอเลน"


"ผมรู้..."


"งั้นก็เปลี่ยนมันซะสิ...หรือเพราะนั่นเป็นคำขอของใครบางคน?"   ทั้งๆที่รับปากอาร์มินเอาไว้แล้วว่าจะไม่พูดแต่สุดท้ายเขาก็ผิดสัญญาจนได้ ใบหน้ามนยกคิ้วสูงคล้ายแปลกใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถามนั้น


"ต่อให้ไม่มีใครขอ...ผมก็จะยังยึดกฏนี้ฮะ"


"ทำไม?"


"...คุณรู้อะไรมางั้นเหรอฮะ?...จากอาร์มิน?"   ก็บอกแล้วว่าเด็กนี่ฉลาดเป็นกรดรู้จักเลี่ยงหาทางหนีทีไล่ให้เขากลายเป็นฝ่ายตอบคำถามแทน เจ้าตัวคงรู้แล้วว่าอาร์มินเข้าไปช่วยงานที่บริษัท...


"ก็แค่เดา"


"ฮะฮะ..."   ใบหน้ามนทำเพียงแค่หัวเราะแต่ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนั้น เขาจำใจต้องลดฝ่ามือลงจากท้ายทอยสีน้ำตาลอย่างแนบเนียน ใบหน้าที่ควรจะตรงเข้าจู่โจมริมฝีปากน่าจูบนั่นย้ายไปคลอเคลียที่พวงแก้มใสอย่างนึกเสียดาย แต่สักวันเขาต้องได้ครอบครองและเป็นฝ่ายบดเบียดลงไปแน่นอน!...

.
.
.
.
.
.
....Tobecontinue....


ดีค่ะ!...ในที่สุดก็โผล่มาซะที555+


เดือนนี้ต้องเข้าไปทำงานค่ะเลยเงียบเหงาไปนิดหน่อยแถมยังถ่อสังขารไปงานหนังสือเมื่อวันที่หนึ่งมาอีกได้หนังสือมาเยอะมว๊ากกก~...อ่านไม่ทัน~แล้วก็ติดฉาก NC black lies  ด้วยเลยไม่ไปใหนมาใหนเลยทีนี้55+ไว้หยุดเมื่อไหร่จะรีบกลับมาปั่นต่อรัวๆเลยค่ะคาดว่าน่าจะเกือบๆสิ้นเดือนนี้ไปจนถึงกลางเดือนหน้าอดทนรอนิดนึงนะคะ...แหะๆ...




1 ความคิดเห็น:

  1. กลายเป็นตาลุงหลงเด็กไปแล้วววว!!
    สนุกค่ะเรื่องนี้ชอบๆๆแต่อยากอ่านwho own my heartแล้วอ่าาสงเคราะห์ทีค่ะสงเคราะห์เราที~~~

    ตอบลบ