2 เม.ย. 2557

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 05

Fic au.[KHR] 6927,8059 ปลายกิ่งฝัน : 05

: ปลายกิ่งฝัน : 05

:[KHR] Fanfiction 6927,8059

:Romantic Drama

:NC-17



คำเตือน: บทความต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชายท่านใดไม่รู้จักหรือไม่พิศมัยกรุณากดเครื่องหมายกากบาทที่มุมขวาบนนะค่ะขอบคุณค่ะ








..........ร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่ในลีมูซีนสีดำสนิทกำลังยิ้มละไมประดับบนใบหน้าหล่อเหลาในมือถือSmart phoneแล้วกำลังอ่านอะไรบางอย่างในนั้นใครจะเชื่อว่าบอสมาเฟียอันดับหนึ่งของอิตาลีอย่างเขาจะมานั่งต่อปากต่อคำไร้สาระกับเด็กม.ต้นแบบนี้...จริงๆก็เป็นแค่คนที่โตไม่ทันอายุแค่นั้นเองล่ะนะแต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าน่ารักใสๆนั่นก็ยังลอยเข้ามารบกวนจิตใจอยู่บ่อยครั้งบ่อยซะจนไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลยล่ะทั้งๆที่ในชีวิตของเขาไม่เคยสนใจหรือใส่ใจกับใครหน้าใหนทั้งๆทั้งชีวิตมีแต่ความเลือดเย็นและเฉยชาไม่เคยมีความเมตตาสงสารหรือแม้แต่หัวใจให้ใครทั้งนั้น
"คึหึหึ...."ถึงตอนนี้ทำได้แค่หัวเราะเยาะตัวเองเท่านั้นมันจะแปลกประหลาดเกินไปมั้ยถ้าเจ้าชายน้ำแข็งผู้เย็นชาจะถูกบางสิ่งบางอย่างละลายเกราะป้องกันของตัวเองเข้าแล้ว......แต่ในขณะที่ที่กำลังจมอยู่ในภวังค์ของตัวเองอยู่นั้นมือถือในมือก็สั่นขึ้นมาทำให้เขาหลุดออกจากบ่วงความคิด
สายตาจ้องมองที่หน้าจออีกครั้งก่อนที่นิ้วเรียวจะกดเปิดข้อความขึ้นมาอ่าน

"เป็นคนเย็นชาเกินไปแล้วนะครับใจดำชะมัดเลยก็ผมไม่รู้นี่ว่าคุณจะแอบเขียนเมล์ไว้นี่มันผิดนักรึไงกันคนเค้าอุตส่าห์ขอบคุณนะครับตอบรับดีๆไม่ได้เหรอครับไม่เห็นต้องพูดแบบนี้เลยมันเศร้านะจะบอกให้"

"คึหึหึ...เศร้างั้นเหรอครับแปลกคน?"
"มีอะไรรึเปล่าครับท่านมุคุโร่??"และดูเหมือนอาการแปลกๆของเจ้านายจะทำให้ลูกน้องคนสนิททั้งสองรู้สึกเป็นกังวลเพราะตั้งแต่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาไม่เคยมีสักครั้งที่เจ้าชายน้ำแข็งคนนี้จะหลุดหัวเราะออกมาแบบนี้แต่ถึงจะมีมันก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นเจ้าเล่ห์แสนกลไม่ได้ฟังดูเหมือนคนกำลังขบขันอะไรแบบนี้
"ไม่มีอะไรครับก็แค่........ทูน่าหลงฝูง"






"สึนะคุงเป็นอะไรไปครับตัวสั่นเชียว"ผู้จัดการหนุ่มเดินเข้ามาหาร่างเล็กๆที่กำลังนั่งตัวสั่นระริกอยู่ตรงกลางห้องเป็นนานสองนานแล้วแถมยังขมักเขม้นพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่างอีก
"คนไม่มีมารยาทคนเค้าอุตส่าห์ขอบคุณแต่กลับใช้คำพูดแบบนี้มาได้แย่ๆๆๆๆๆที่สุดเล้ย!!!"จริงๆแล้วจะบอกว่ากำลังโกรธตะหากแต่ไหงกับพิมพ์ไปว่ากำลังเศร้ากันล่ะแก้ไม่ทันแล้วด้วยดันมือไวกดส่งออกซะอย่างนั้นอีก
โชอิจิผู้จัดการหนุ่มเดินมาคว้ามือถือของร่างเล็กขึ้นไปดูเพราะอาการสติแตกของร่างเล็กคงจะเกิดจากเมล์เจ้าปัญหานี่แน่ๆและก็เป็นจริงตวมนั้นเมื่อเป็นข้อความในเมล์แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอื่อมระอากับร่างเล็ก
"อย่าไปยุ่งกับพวกเค้าดีกว่านะครับดูจากสองคนนั่นแล้วก็รู้แล้วว่าพวกเค้าเป็นมาเฟียขืนไปยุ่งมากๆเข้าเดี๋ยวจะศพไม่สวยเอานะ...อีกอย่างดูแค่นี้ก็รู้แล้วนะครับว่าเค้าไม่ได้ใส่ใจกับความหมายอะไรของดอกไม้ก็คงจะเห็นว่ามันสวยเท่านั้นแบบนี้แล้วยังจะเก็บไว้อีกเหรอครับช่อดอกไม้นั่น"
"เอาไปทิ้งเลยไม่อยากเห็นแล้วจะมาฟงมาเฟียอะไรก็ชั่งมันจะไร้มารยาทเกินไปแล้ว.........เอามานี่!!!"มือเรียวเล็กลุกขึ้นคว้ามือถือกลับมาก่อนจะเดินกระทืบเท้าปังๆหายเข้าไปในห้องน้ำนิ้วเรียวเล็กยังพิมพ์ข้อความมากมายส่งไปแต่อีกฝ่ายก็ยังเงียบเฉยไม่ได้ตอบอะไรกลับมาอีกเลย


"ยามาโมโตะนายอยู่ใหน??"ริมฝีปากบางบ่นพึมพำถึงที่ระบายอารมณ์เพียงหนึ่งเดียวเพื่อนซี้ที่หายหัวไปแทบจะทั้งอาทิตย์แถมไม่ยอมติดต่อกลับมาเลย





                            ....................................


"ฮะฮะ....น่าๆสึนะใจเย็นๆเค้าคงไม่ได้ตั้งจะพูดแบบนั้นหรอกมั้ง"
เพื่อนซี้ร่างสูงกรอกเสียงไปตามสายหลังจากฟังเพื่อนร่างเล็กของเขาระบายความอัดอั้นมานานสองนาน
"จะให้เย็นได้ไงเค้าไร้มายาทขนาดนั้นฉันไม่เคยเจอคนนิสัยแย่ขนาดนี้มาก่อนเลยนะ....ว่าแต่แกจะกลับมาวันใหนจะหายหัวไปนานเกินไปแล้วนะยามาโมโตะ"
"อีกสองวันฉันจะพาหาฮายาโตะไปHirayu hyoketsuก่อนถึงจะกลับยังไงก็รับงานเอาไว้รอเลยก็ได้วันอาทิตย์นี้คงจะกลับแล้วหล่ะ"
เสียงปลายสายอ่อยลงน้อยๆก่อนจะวางสายไปร่างสูงจึงหันกลับไปสนใจร่างบอบบางที่กำลังตั้งอกตั้งใจแต่งหน้าซูชิที่เจ้าตัวเพิ่งจะหัดทำเสร็จไปเมื่อสักครู่
"เอ้าฉันให้เกียรตินายชิมเป็นคนแรก!"
แล้วจู่ๆเจ้าซูชิหน้าตาประหลาดก็ลอยมาจ่อที่ปากของเขานัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองใบหน้าที่ดูภาคภูมิใจของคนทำแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ริมฝีปากคมจึงฉีกยิ้มกว้างก่อนจะงับเจ้าซูชิต่างดาวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆแล้วขมวดคิ้วน้อยๆ
"เป็นไงมั่งใช้ได้มั้ย!!??"
"อืมมม...ถึงจะห่างจากพ่อเยอะโขอยู่แต่ก็อร่อยดีว่าแต่หน้าอะไรเหรอ??"
ริมฝีปากบางฉีกยิ้มกว้างก่อนจะกอดอกตอบอย่างภาคภูมิใจว่า....
"หน้าเมล่อนพันด้วยไข่ม้วนกับหอยเม่นแล้วปิดท้ายด้วยไข่กุ้งอีกทีเป็นไงเข้าท่ามั้ยฉันว่าถ้าคุณลุงทำหน้านี้ขายต้องขายดีมากๆแน่ๆเลยล่ะ"
"ฮะฮะฮะ..."ร่างสูงได้แต่หัวเราะแก้เก้อให้กับเจ้าซูชิหน้ารวมมิตรของร่างบอบบางที่เจ้าตัวลืมไปอีกหน้านึ่งนะเพราะในไส้พวกนั้นมันมีวาซาบิก้อนโตอยู่ด้วยไม่ใช่รึไง
อีกอย่างถ้าทำหน้านี้ออกมาขายจริงๆก็คงขาดทุนย่อยยับแน่ๆเลยก็รวมสาระพัดหน้าขนาดนั้นเอาไว้ทำให้เขากินคนเดียวก็พอแล้วล่ะมั้ง
แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มดูมีความสุขแบบนั้นมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีตามไปด้วยนี่ถ้าหากเขาไม่พามาพักผ่อนบ้างแบบนี้ร่างบอบบางนี่ก็คงจะต้องขลุกอยู่แค่ในคลับอย่างเดียวเลยสินะคงไม่มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวใหนแต่มันก็มีเรื่องที่ยังคาใจของเขาอยู่ไม่น้อยที่ร่างบอบบางเลือกที่จะทำงานแบบนี้ทั้งๆที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ชื่นชอบอะไรออกแนวเกลียดซะด้วยซ้ำแต่ก็ยังทำเหมือนมีความจำเป็นบางอย่าง
"จะไปHirayu hyoketsuกันเหรอทาเคชิ"คนสูงวัยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาปั้นซูชิอยู่ข้างๆถามขึ้นเมื่อได้ยินลูกชายพูดเมื่อสักครู่
"ครับพ่อจะไปพรุ่งนี้แต่เช้าเลย"
"นั่นสินะมีงานพอดีนี่คงจะสนุก"
"ครับผมก็หวังไว้แบบนั้น"
สองพ่อลูกคุยกันไปเรื่อเปื่อยบ้างก็คุยถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างที่เขาไม่อยู่
ปล่อยให้ร่างบอบบางสนอกสนใจกับการตกแต่งซูชิสาระพัดหน้าต่อไปโดยมีเด็กในร้านสองคนคอยเป็นลูกมือสอนพร้อมๆกับออกไปเสริฟให้ลูกค้าซึ่งร่างบอบบางเองก็ช่วยเสริฟไปด้วยเรียกรอยยิ้มจากลูกค้าในร้านได้ไม่ยากเพราะใบหน้าสวยๆที่ประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลามันชวนมองน้อยซะที่ใหนแขกหลายคนให้ความสนใจร่างบอบบางไม่น้อยเลยทีเดียวทุกครั้งที่เจ้าตัวเดินไปเสริฟก็จะชวนคุยโน่นคุยนี่ตลอดเวลาและมันทำให้เขารู้ว่าร่างบอบบางเองก็ชอบงานบริการไม่น้อยถึงได้ยิ้มแย้มคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเองขนาดนี้
ผิดกับเวลาอยู่ในคลับทั้งๆที่เป็นถึงโฮสต์อันดับหนึ่งของคลับแต่กลับดูไม่มีความสุขใบหน้าสวยนั้นนิ่งสนิทไร้รอยยิ้มตลอดเวลาบางครั้งเขาก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าร่างบอบบางโดนบังคับให้ทำแบบนั้นรึเปล่าเขาเคยถามเจ้าตัวแบบนั้นแต่ร่างบอบบางกลับตอบว่าไม่เคยมีใครบังคับและเต็มใจที่จะทำงานนั้นเขาถึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจมาตลอด



สายสัมพันเล็กๆที่เริ่มก่อตัวขึ้นจากหัวใจสองดวงกำลังเริ่มต้นขึ้นหนึ่งคนเป็นถึงระดับท๊อฟโมเดลที่หลงไหลในตัวร่างบอบบางที่ไม่ได้มีชื่อเสียงในแวดวงใดเป็นเพียงแค่คนกลางคืนใช้ร่างกายสนองความสุขของคนมีเงินก็เท่านั้นเป็นเพียงคนที่ไม่เคยรู้จักกับความรักแต่ตอนนี้กำลังถูกสอนให้รู้จักให้สัมผัสถึงความสุขที่แสนหวานอาบยาพิษนี่ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์มอบหัวใจให้ใครอีกเพียงเพราะพันธสัญญาของคนที่ล่วงลับไปแล้วที่ยังสืบทอดมาจนถึงลูกหลานทั้งๆที่รู้ตัวว่าเวลาของตัวเองกำลังจะหมดลงแต่กลับมอบหัวใจดวงน้อยๆเอาไว้กับอีกคนไปซะแล้ว






            ................................


ร่างสูงโปร่งเดินออกมาจากห้องประชุมสาขาที่ญี่ปุ่นหลังจากหายเข้าไปหลายชั่วโมงกว่าจะเคลียปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างแฟมิลี่ได้มันก็ไม่ใข่เรื่องง่ายเหมือนกันแต่เพราะเขาเป็นอันดับหนึ่งทุกครั้งที่มีปัญหาเขาก็จะต้องคลี่คลายมันให้ได้ทุกอย่างเพื่อที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดนี้ให้ได้
"มีเมล์เข้ามาครับท่านมุคุโร่คงจะเป็นเรืองด่วนนะครับ"ลูกน้องคนสนิทยื่นมือถือให้กับเจ้านายของตนพร้อมๆกับความสงสัยว่ามันเกิดปัญหาอะไรขึ้นรึเปล่าเพราะเมล์เจ้ากรรมเข้ามาตลอดเวลาแทบจะทุกห้านาทีเลยทีเดียวถ้าจะนับคร่าวๆก็น่าจะเกินร้อยได้ละมั้งถึงได้กระหน่ำส่งมาซะน้ำไหลไฟดับ
มือเรียวคว้ามือถือขึ้นมาเปิดดูก่อนจะยิ้มละไมออกแนวขบขันซะมากกว่าจะเคร่งเครียดกับเมล์กว่าร้อยข้อความที่ถูกส่งเข้าก่อนจะเลื่อนเปิดอ่านทีละข้อความไปเรื่อยๆสองขายังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่คิดจะหยุดเดินจนกระทั่งเข้าลิฟท์ไปแล้ว
"คึหึหึ....คงจะโกรธมากเลยสินะครับ...ผมจะขอโทษก็ได้"
ปลายนิ้วเรียวยาวพิมพ์ข้อความบางอย่างตอบกลับไปก่อนที่ลิฟท์จะหยุดที่ชั้นบนสุดของโรงแรมเขาคงต้องอยู่ที่นี่ต่ออีกสักพักจนกว่าจะถึงเวลาที่จะต้องไปเอาของเล่นของเขากลับไปอิตาลี่ด้วยเพราะยังไงซะมันก็ใกล้จะครบกำหนดที่ตกลงกันเอาไว้แล้วระหว่างนั้นก็ขอเล่นอะไรคลายเครียดกับทูน่าหลงฝูงตัวนี้ไปพลางๆก่อนก็แล้วกัน



ร่างเล็กๆที่กำลังนั่งเป็นหุ่นให้ช่างแต่งหน้าทำผมละเลงเครื่องสำอางค์บนร่างกายของตัวเองอย่างหน่ายๆสายตายังจับจ้องมือถือที่วางทิ้งไว้หน้ากระจกบานใหญ่ไม่กระพริบตาจนช่างทั้งสองคนชักจะเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างเล็กที่ดูจะหงุดหงิดตลอดเวลาตั้งแต่เช้าแล้วด้วย
"เสร็จแล้วค่ะซาวาดะคุง....ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะค่ะแต่งอะไรก็ดูเพอร์เฟคไปซะทุกอย่างเลยจริงๆ"
"ขอบคุณครับ"ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นขอบคุณช่างแต่งหน้าทำผมทั้งสองก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นไปแต่งตัวแต่เสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้นซะก่อน
ครืดดดด
มือเรียวเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมมาด้วยท่าทางตื่นเต้นแล้วจู่ๆก็คลี่ยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะหลังจากตัวเองส่งเมล์ไประรานเขาร้อยกว่าและในที่สุดก็ตอบกลับมาซะทีนิ้วเรียวเล็กกดเปิดข้อความขึ้นอ่านก่อนจะฉีกยิ้มกว้างขึ้นอีกรู้สึกภูมิใจในชัยชนะของตัวเองอย่างบอกไม่ถูกที่สามารถทำให้อีกคนขอโทษตัวเองจนได้

"พอดีติดประชุมครับเลยไม่ได้ตอบ...คงจะโกรธจริงๆสินะครับจริงๆแล้วไม่ได้จะพูดแบบนั้นเพียงแค่คิดว่าคุณเหมาะกับดอกไม้พวกนั้นก็เท่านั้นขอโทษที่ทำให้ไม่พอใจถ้าผมจะพูดอะไรผิดไปก็ขอโทษด้วย.....หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้นะครับ...Nebbia"

"มันต้องอย่างนี้สิถึงจะคุยกันได้หน่อย...หึฉันไม่สนหรอกนะว่าจะเป็นมาเฟียรึอะไรแต่นายต้องรู้จักขอโทษคนอื่นแบบนี้"
หลังจากสั่งสอนอีกคนไปกับสายลมแล้วนิ้วเรียวเล็กก็จิ้มหน้าจอมือถือก่อนจะพิมบางอย่างส่งไป



ใครจะรู้ว่าจากจุดเริ่มต้นของความบังเอิญที่อีกฝ่ายจงใจทำให้มันเกิดจะชักนำให้พวกเขาต้องมาพบเจอและผูกพันต่างคนต่างไม่เคยรู้ตัวว่าสักวันพวกเขาจะโคจรมาบรรจบที่จุดเริ่มต้นเดียวกันและเริ่มต้นเดินไปบนเส้นทางเดียวกันจากแค่จุดเล็กๆ


....บอสมาเฟียอันดับหนึ่งที่เกลียดแสนเกลียดเหล่ามาเฟียแต่กลับต้องมายืนอยู่บนจุดสูงสุดเพียงเพราะต้องการหนีจากเบื้องหลังที่โหดร้ายจนต้องกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมกว่ากับเจ้าหญิงของวงการแฟชั่นชื่อดังที่ไม่เคยเหยียบย้ำเข้าไปในโลกดำมืดไม่แม้แต่จะรู้จักแต่ในเวลาอันใกล้เขาจะได้ก้าวเข้าไปอย่างไม่คาดฝันเพียงเพราะความบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ
...
.
.
..
.
..
...
..
.
.
.
.Tobecontinue..........

เราขออธิบายนิดนึ่งนะค่ะกับคำว่า
"โฮสต์"ญี่ปุ่นเค้าใช้เรียกผู้ชายที่ทำงานเป็นเพื่อนนั่งดริงค์ตามคลับตามบาร์ค่ะแต่จะเลยเถิดไปทอย่างอื่นด้วยก็มีไม่น้อยแล้วแต่เจ้าตัวจะำพอใจส่วนใหญ่แล้วจะพบเห็นได้เยอะที่สุดก็ย่านคาบูกิโชหรือย่านโคมแดงของชิจุกุค่ะถ้าภาษาบ้านเราก็ผู้ชายอย่างว่านั่นแหละค่ะแต่บอกไว้ก่อนนะว่าพวกเขาหน้าตาดีมากกกกกเลยขอบอกเหมือนดาราเลยส่วนผู้หญิงเค้าเรียกว่าเคียะบะโจเจ้าค่ะ.....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น