17 ส.ค. 2562

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 21

Attack on titan Au.Fic [Levi x Eren] Black Lies : 21

:Attack on titan Fanfiction

:Pairing Levi x Eren

:Genre Action-Sci-Fi,Drama,Romane 

:Rate PG,NC-18+



           เอเลนยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าของตัวเองเมื่อทนต่อสายตาของฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว

          "เลิกจ้องกันแบบนั้นซะที"  เจ้าตัวงึมงำไม่เต็มเสียงนัก ได้ยินเสียงอัลฟาหัวเราะเบาๆ ก่อนริมฝีปากคู่นั้นจะประกบลงมาอีกครั้งให้ร่างบางสะท้านวาบเมื่อไม่ทันตั้งตัว อย่างที่เคยบอกไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ว่าถึงแม้ร่างกายของอีกฝ่ายจะเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง แต่ลมหายใจและสัมผัสจากปลายลิ้นของอัลฟายังอบอุ่นและร้อนแรงคล้ายเป็นสิ่งยืนยันความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

          ริมฝีปากอิ่มเผยอรับเรียวลิ้นที่จงใจเข้ามารุกราน ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสัมผัสอ้อยอิ่งทว่าแฝงเอาไว้ด้วยความเร่าร้อนอย่างเต็มใจ    

          "อึ่ก ฮ่า!..."  ร่างบางสั่นเทิ้มเบาๆเมื่อส่วนอ่อนไหวที่สุดของร่างกายกำลังถูกปลุกเร้าอย่างเบามือ เอเลนเพิ่งรู้ตัวเอาตอนนี้ว่ากางเกงของเขาถูกถอดออกไปแล้ว เจ้าตัวหรี่ตามองชายหนุ่มเล็กน้อย แต่จากมุมนี้ ที่ริมฝีปากของพวกเขายังพัวพันอยู่ไม่ห่าง ใบหน้ามนจึงมองไม่เห็นอะไรมากไปกว่านั้น

          "อยากให้ฉันหยุดรึเปล่า?"  อาจเพราะรับรู้ได้ถึงสายตาของเขา อัลฟายอมละริมฝีปากออกไปแล้วกระซิบถาม ใบหน้ามนจึงได้แต่ส่ายไปมา ในขณะขยับริมฝีปากตอบกลับไปไม่เป็นภาษา

          "ฉัน...ไม่...อย่าหยุด..."  ชายหนุ่มยิ้มบางๆตรงมุมปาก แล้วหยุดเสียงสะอึ้นแผ่วๆของเขาด้วยจูบแสนอ่อนโยน ริมฝีปากคู่นั้นพรมจูบต่ำลงไปเรื่อยๆ ให้เอเลนได้แต่ไล่สายตามองตาม ในจังหวะที่อัลฟาเงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วยิ้ม เอเลนก็เข้าใจความหมายของฝ่ายตรงข้ามทันที

          "อัล?...ไม่!..."  

          "ปล่อยตัวปล่อยใจ ไปกับมันเอเลน"  ใบหน้ามนกลืนน้ำลายลงคอเฮือกหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันตอบรับหรือปฏิเสธอะไรออกไป อัลฟาก็ดูดกลืนความต้องการที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยของเขาเข้าไปในโพรงปากซะแล้ว

          การปลุกเร้าที่ได้รับรุนแรงจนเอเลนขนลุกเกรียวไปทั้งตัว เจ้าตัวสอดนิ้วเข้าไปในเรือนผมสีน้ำตาลเข้มของฝ่ายตรงข้าม แล้วให้รู้สึกเหมือนจะพังทลายเสียให้ได้กับการดูดดุนอันเนิบนาบ ปลายเท้าทั้งสองข้างจิกเกร็งลงไปบนเตียงนอน แต่ทำอย่างไรก็ต่อต้านความหฤหรรษ์และความเย้ายวนนี้ไม่ได้ เหมือนไม่อาจปฏิเสธคำเชิญชวนของปีศาจร้ายแม้จะแบกกางเขนไว้บนหลัง

          ใบหน้ามนจิกขยุ้มเรือนผมของอัลฟาโดยแรง ก่อนส่งเสียงครางหนักๆในลำคอ เมื่อการปลดปล่อยมาถึง ความสุขสมที่ได้รับเหมือนดูดเรี่ยวแรงไปจากตัวจนหมดสิ้น เจ้าตัวจึงได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มดึงร่างของตัวเองไปกอดเอาไว้

          "ไม่ยากเลยใช่ไหม?"  เอเลนพยักหน้ารับ ก่อนสองแขนจะกอดฝ่ายตรงข้ามเอาไว้แน่น แม้ร่างกายจะได้รับการปลดปล่อยไปแล้ว แต่ความรู้สึกโหยหาจนยากจะอธิบายเป็นคำพูดกลับไม่ยอมลดระดับลงแม้แต่น้อย

          "แล้วนายล่ะ?"

          "นายก็กำลังช่วยอยู่นี่ไง"  ใบหน้ามนผละออกไปมองชายหนุ่มเล็กน้อยถึงเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เขากำลังนั่งคร่อมบนตักอัลฟาอยู่กลางเตียง พอเห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังทำอะไรเจ้าตัวก็ซบหน้าลงไปกับไหล่กว้างแล้วโอบลำคออีกฝ่ายเอาไว้ เมื่อช่วงล่างที่เปลือยเปล่าสัมผัสได้ถึงความแข็งขึงที่กำลังตื่นตัวของเจ้าของตัก ใบหน้ามนจึงงับลงไปบนไหล่กว้างเบาๆ ก่อนจะกระชับกอดให้แน่นขึ้น

          "หึ..."  อัลฟาหัวเราะออกมาเสียงหนึ่งขณะเตรียมช่องทางที่ด้านหลังให้เขา ใบหน้ามนจึงได้แต่ส่งเสียงครางแผ่วๆ ทุกครั้งที่ปลายนิ้วของชายหนุ่มขยับโดนจุดสำคัญ

          "ฉันจะเข้าไปแล้วนะ"  อีกฝ่ายกระซิบบอก เอเลนจึงใช้ขารัดเอวคนตรงหน้าเอาไว้โดยอัตโนมัติ จนถึงตอนนี้อัลฟาก็ยังไม่ถอดเสื้อผ้าเลยสักชิ้น ยังผลให้ผิวเนื้ออ่อนตรงซอกขาด้านในของเขาเสียดสีกับความหยาบของเนื้อผ้าในบางครั้ง ปลุกเร้าความปรารถนาให้ลุกโหมเป็นระลอก

          "อ่ะ!...อา..."   เอเลนหลุดเสียงครางอย่างลืมตัวเมื่ออัลฟาสอดใส่เข้ามา ความเจ็บปวดในตอนแรกสุดแทบจะไม่หลงเหลืออีกแล้ว แต่ความอึดอัดที่ค่อยๆถูกเติมเต็มก็ทำเอาเจ้าตัวแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ ชั่วขณะหนึ่งที่ภาพของใครอีกคนลอยวาบเข้ามาในหัว ให้ดวงตาสีเขียวมรกตคู่สวยคลอน้ำปริ่มๆ จะร่วงหล่นลงมา ความสุขที่มาพร้อมกับความคิดถึงทำให้เจ้าตัวทำตัวไม่ถูก สองแขนจึงได้แต่กอดรอบคออัลฟาเอาไว้แน่นแล้วปิดเปลือกตาลง

          "อัล..."

          "เจ็บหรือ?"

          "ไม่ แค่อึดอัด"  ใบหน้ามนส่ายหน้าปฏิเสธอยู่กับไหล่กว้าง ความจริงเขาแค่อยากให้มั่นใจว่าเขายังเป็นตัวของตัวเอง เพราะรู้สึกกลัวจินตนาการที่กำลังเตลิดไปไกลจะกู่ไม่กลับเอาตอนนี้ อัลฟาพาร่างของเขานอนลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนมือหนาจะประคองใบหน้ามนเอาไว้ นัยน์ตาคู่คมตรงหน้าจ้องลึกลงมาเหมือนกำลังค้นหาความจริงบางอย่าง แต่เอเลนไม่รู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหน? ไม่รู้ว่าอัลฟากำลังมองเห็นอะไร? ทว่าวินาทีถัดมาอีกฝ่ายก็ยกมุมปากยิ้มแล้วปล่อยให้มันผ่านไป

          จังหวะสอดใส่รุนแรงและรัวถี่ขึ้นทุกที ร่างกายของทั้งคู่ขยับเข้าหากันอย่างไร้การควบคุมโดยสิ้นเชิง ราวกับว่าวิญญาณที่เคยอยู่ในร่างได้หลุดลอยออกไปแล้วเขาได้ยินเสียงตัวเองครางกระเส่ากึกก้องไปทั่วห้อง ก่อนร่างกายจะถูกกอดเอาไว้ด้วยแขนแข็งแรงของอัลฟาในจังหวะสุดท้าย อีกฝ่ายกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูแต่เจ้าตัวกลับจับใจความคำพูดประโยคนั้นไม่ได้แม้แค่คำเดียว


          แน่นอนว่าเช้าวันนี้ร่างบางตื่นเอาตอนตะวันสายโด่ง เจ้าตัวผงะไปเล็กน้อยตอนที่ลืมตาเพราะทัศนวิสัยที่ไม่คุ้นชิน ก่อนวินาทีถัดมาเรื่องราวต่างๆจะฉายวาบขึ้นมาในความทรงจำให้ริมฝีปากอิ่มยิ้มเฝื่อนให้กับตัวเอง แต่ตอนนี้เขาถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว เดาว่าเจ้าของห้องคงออกไปทำงานแล้วเหมือนเช่นทุกวัน งานที่ไม่เคยมีวันได้หยุดพักนั่น

          เอเลนกลับไปจัดการกับร่างกายที่ห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะตรงดิ่งไปที่ห้องอาหารเมื่อท้องไส้เริ่มส่งเสียงประท้วง เจ้าตัวชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นเรย์กำลังเตรียมมื้อเช้าให้ราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว

          "ของผมหรือ?"  เขาถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้งก่อนนั่งลง

          "ครับ..."  เรย์ตอบเพียงสั้นๆ แต่เอเลนก็ลงมือจัดการกับมื้อเช้าของตัวเองก่อนฝ่ายนั้นตอบเรียบร้อยแล้ว เรย์จึงได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างเอือมๆ

          "ทานมื้อเช้าเสร็จไปที่โรงฝึกนะครับ บอสรอคุณอยู่"  จบประโยคช้อนส้อมในมือของเอเลนก็หล่นลงโต๊ะแทบจะพร้อมเพรียงกัน ก่อนเจ้าตัวจะหันมามองเรย์ตาโต

          "อัลฟาหรือ?!"  ใบหน้ามนแลดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ตัวเองได้ยินเท่าใดนัก แต่ผู้ช่วยหนุ่มก็ช่วยยืนยันอีกครั้งว่าเขาไม่ได้ฟังผิดไป

          "ครับ"

          "หายากนะ ที่หมอนั่นมีวันหยุดพักกับเค้าด้วย"  เอเลนพึมพำตอบกลับไป ก่อนจะหยิบช้อนส้อมขึ้นมาถือไว้อีกครั้ง แต่มือไม้กลับสั่นนิดๆ ทั้งที่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่?


          แต่ครึ่งชั่วโมงให้หลังเขาก็มาที่โรงฝึกตามคำบอกกล่าวของเรย์จนได้ อัลฟากำลังรอเขาอยู่ที่นี่อย่างที่เลขาหนุ่มบอกไว้จริงๆ แตกต่างตรงที่วันนี้โรงฝึกร้างไร้ผู้คนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แน่นอนว่าเขาก็พอจะเดาสาเหตุของมันได้ไม่ยากเย็นอะไร

          ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองแผ่นหลังกว้างตรงหน้าไม่วางตาขณะสาวเท้าตรงเข้าไปหาฝ่ายตรงข้าม เอเลนรู้ดีว่าชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงการมาของเขา แต่หมอนั่นยังคงซ้อมยิงปืนต่อไปโดยไม่คิดจะหันกลับมาสนใจกัน

          "อะ...!?!"  พอตัดสินใจจะเอ่ยเรียก แต่ยังไม่ทันขยับปาก ร่างบางก็จำต้องก้าวถอยหลังด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆ อัลฟาก็หันกลับมาพร้อมชี้ปลายกระบอกปืนตรงมาที่เขา!

          "ถ้าตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ถอยหนีเท่ากับตาย ไม่มีใครสอนรึไง?"  อัลฟาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่สายตาที่มองเขากลับดูจริงจังบ่งบอกว่าอีกฝ่ายเอาจริง ใบหน้ามนไม่ตอบคำเจ้าตัวเก็บเอาความโกรธระคนตกใจเอาไว้ภายใน ก่อนสายตาจะเหลือบมองปืนในมือของฝ่ายตรงข้ามแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วเข้าหากัน แน่นอนว่าเรย์สอนเขาเรื่องนี้แล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาฝึกกับปืนสั้น ทว่าปืนที่อัลฟาถืออยู่ตอนนี้เป็นปืนยาวหน้าตาประหลาดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทว่ากลับรู้สึกคุ้นเคยกับมันอย่างบอกไม่ถูก?

          แกร๊ก!

          ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายขึ้นลำกล้องปืน ก่อนเจ้าตัวจะใช้แขนซ้ายผลักปลายกระบอกปืนไปทางอื่นแล้วใช้มือขวาจับแขนของอัลฟาเอาไว้ตั้งใจจะทุ่มอีกฝ่ายลงพื้นโดยอัตโนมัติ ร่างกายที่ขยับไปเองทำให้เอเลนชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาเป็นฝ่ายโดนทุ่มลงกับพื้นซะเอง

          อัลฟาคร่อมร่างของเขาเอาไว้แล้วใช้ปืนกระบอกเดิมจ่อลงกลางแสกหน้าพร้อมรอยยิ้มตรงมุมปาก จากนั้นก็ลงมือลั่นไก! เสียงแชะที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้ามนหลับตาแน่น รู้ดีว่าอัลฟาคงไม่ใช้กระสุนจริง แต่กระสุนปลอมก็เจ็บน้อยเสียเมื่อไหร่หากถูกยิงในระยะเผาขนขนาดนี้! แต่จนแล้วจนรอดตรงกลางแสกหน้าของเขาก็สัมผัสเพียงแรงอัดของลมเท่านั้น ไม่มีกระสุนจริง ไม่มีกระสุนปลอม!

          "ความพยายามถือว่าดี แต่การตัดสินใจติดลบนะรู้มั้ย?"  ใบหน้ามนลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าคนพูดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ มือบางปัดกระบอกปืนออกจากหน้าผากตัวเอง ก่อนสวนกลับด้วยความโมโห  "ก็ไม่คิดว่าจะได้รับการทดสอบอะไรจากนายนี่!"

          "เป็นนักฆ่าต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์สิ"

          "นั่นมันนาย ไม่ใช่ฉันซะหน่อย"

          "...นั่นก็ถูกแฮะ"  อัลฟาดูอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะพึมพำออกมายิ้มๆ ทำเอาใบหน้ามนชักจะเดือดปุดๆ ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

          "อุ่ก!..."  เอเลนกระทุ้งเข่าใส่ตรงกลางเป้าอีกฝ่ายโดยแรง ส่งผลให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวรับความเจ็บล้มลงไปงอก่องอขิงกองอยู่กับพื้นบ้าง เจ้าตัวอาศัยจังหวะนี้ลุกขึ้นแล้วคว้าปืนมาจ่อตรงแสกหน้าฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะเป็นฝ่ายยกมุมยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า

          "เป็นนักฆ่าต้องเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์ไม่ใช่รึ?"

          "กรณีนี้...เป็นข้อยกเว้น"  อัลฟายังอุตส่าห์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงขาดๆ หายๆ จนเอเลนชักจะรู้สึกผิดที่ตัวเองทำเกินหน่อย แต่พอหักลบกับการที่อีกฝ่ายเป็นคนเริ่มก่อนก็ถือว่าเสมอกัน!

          ใบหน้ามนเหลือบมองปืนยาวในมือตัวเองเล็กน้อย ก่อนคิ้วเรียวจะขมวดเข้าหากันจนเป็นปม ไม่ใช่แค่ความรู้สึกที่คุ้นเคย แต่ปืนกระบอกนี้คุ้นมือของเขามากเช่นกัน

          "ไรเฟิลรึ?"  ริมฝีกปากอิ่มพึมพำคล้ายกำลังพูดกับตัวเอง เจ้าตัวถือปืนกระบอกดังกล่าวเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีเครื่องกระสุนวางอยู่ จากนั้นก็บรรจุกระสุนแล้วยิงออกไปโดยที่ไม่แม้แต่จะเล็งเป้าหมายเลยแม้แต่น้อย มือบางบรรจุกระสุนแล้วยิงอีกครั้งถึงแม้จะแอบตกใจในตอนแรก แต่คำพูดของอัลฟาที่บอกว่าเขาเคยใช้อาวุธหนักมาก่อน มันคงจะหมายถึงไรเฟิลนั่นเอง

          "ฉันเคยใช้เจ้านี่?"  มือบางหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูผลงานของตัวเองแล้วมันยิ่งทำให้เขามั่นใจ ว่าเขาเคยใช้งานมันจริงๆ เพราะกระสุนทั้งสองนัดที่ยิงออกไปแม้จะไม่โดนจุดสำคัญแต่ทุกนัดก็ไม่พลาดเป้าเลยเช่นกัน 

          "ก็ไม่เชิง"

           "ฉันเป็นมือปืนหรือ? เป็นนักฆ่า?"

          "แค่เคยถูกฝึกให้ใช้ล่าสัตว์"  อัลฟาตอบไม่เต็มเสียงนัก ทำให้ใบหน้ามนลอบมองสีหน้าอีกฝ่ายเล็กน้อย แม้จะไม่ทันเห็นความผิดปรกติใดๆ แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าอัลไม่อยากพูดถึงมันซักเท่าไหร่

          "ฉันเคยฝันถึงมัน กวางตัวนั้น ฉันจำความรู้สึกในตอนนั้นไม่ได้แต่ในฝันตัวฉันกำลังสั่น"

          "นั่นฉันเองก็ตกใจ"

          "นายรู้ว่าฉันกำลังฝันเรื่องอะไรงั้นหรือ!?"

          "ไม่...แต่ตกใจที่นายยังมีความฝันอยู่น่ะ"

          "ยังไง?"  คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น เพราะไม่เข้าใจความหมายของคำพูดประโยคนั้น แต่ฝ่ายตรงข้ามก็กลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มแล้วพึมพำตอบกลับมาเบาๆว่า 'ไม่มีอะไร' ทำเอาเจ้าตัวหงุดหงิดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

          "ฉันผิดเอง ที่หลงคิดว่านายพร้อมจะเล่าทุกอย่างให้ฉันฟัง งั้นที่ทนรอฉันอยู่ที่นี่เพื่ออะไร?"  อัลฟานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนอีกฝ่ายจะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งเหมือนกำลังช่างใจ

          "...ถ้าฉันกลับรัสเซีย นายจะกลับไปกับฉันไหมเอเลน?"

          "...!?!"  คำพูดประโยคนั้นแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ แต่เอเลนกลับรู้สึกเหมือนเสียงของอัลฟากังวานก้องอยู่ในหัว แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่กล้าตอบ ทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว รู้ว่าเขาควรจะตอบอะไรแต่กลับไม่กล้าที่จะตอบออกไป

          "มะ...หมายความว่าไง?"  ใบหน้ามนพึมพำตอบกลับไปเสียงเบาหวิวคล้ายคนไร้เรี่ยวแรง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เข้าใจความหมายคำพูดของอัลฟา แต่เป็นเพราะในใจของเขาเองที่ไม่ยอมรับมัน

          "ฮะฮะ...ไม่ต้องช็อคขนาดนั้นก็ได้ เพราะไม่ว่ายังไงนายก็ต้องไปกับฉันอยู่แล้ว จริงมั้ย?"  อัลฟาพูดกลั้วเสียงหัวเราะขณะขยี้เส้นผมสีน้ำตาลอย่างเบามือ ต่างจากเอเลนที่ยังเอาแต่ยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก ดวงตาสีเขียวมรกตสั่นไหวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง ทว่าวินาทีถัดมาก็ต้องปิดเปลือกตาลงเมื่อเงาไหววูบของอะไรบางอย่างเคลื่อนตัวใกล้เข้ามา

          "อื้ม!?..."  ริมฝีปากของเขาถูกช่วงชิงไปในจังหวะนั้น แต่เอเลนกลับไม่รู้สึกถึงความอ่อนโยนกับจูบของอัลฟาเลยแม้แต่น้อย ริมฝีปากอิ่มถูกขบครั้งแล้วครั้งเล่าจนรู้สึกเจ็บ แต่เขาไม่มีแรงมากพอจะขัดขืนการกระทำของฝ่ายตรงข้าม จึงได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ประท้วงอยู่ในลำคอ นานทีเดียวกว่าริมฝีปากของเขาจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ

          "แค่ก!...ฮ่า...ฮ่า"  ใบหน้ามนซบลงกับอกของฝ่ายตรงข้าม พลางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ก่อนอัลฟาจะดันร่างของเขาให้ออกห่างเล็กน้อย มือหนาทั้งสองข้างประคองใบหน้ามนเอาไว้แล้วมองหน้าเขายิ้มๆ ราวกับกำลังชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่ก็ไม่ปาน

          "ดูนายสิ"

          "ฉันทำไม?"

          "ไม่มีอะไร"

          บทสนทนาถูกตัดจบเพียงเท่านั้น ทั้งคู่จ้องตากันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานที่เดียว แล้วอัลฟาก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ไปในที่สุด ชายหนุ่มประคองร่างบางให้นั่งลงบนโต๊ะเครื่องกระสุนจากนั้นก็ถอยห่างออกไปสองก้าว

          "เดี๋ยวฉันจะให้เรย์มาสอนใช้เจ้านี่ ถึงนายจะคุ้นเคยกับมันอยู่แล้วก็เถอะ เจอกันมี้อเย็น"  จบประโยคอัลฟาก็หันหลังเดินออกจากห้องไป

          "....."  ใบหน้ามนไม่ตอบคำ เจ้าตัวได้แต่ใช้สายตามองตามอีกฝ่ายจนลับสายตา ก่อนมือบางทั้งสองข้างจะยกขึ้นมาปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้ แล้วร้องไห้ออกมาโดยไร้เสียง เขาคิดมาตลอดว่าหากยังอยู่ที่นี่ หากยังอยู่บนผืนแผ่นดินญี่ปุ่นไม่แน่ว่าสักวันเขาอาจได้เจอคนคนนั้นอีกครั้งก็เป็นได้

          แต่ตอนนี้ความหวังของเขากำลังจะเลือนลางหายไป เขารู้ดีว่านี่คือเส้นทางที่เขาเลือกมันด้วยตัวเอง แต่ความเจ็บปวดที่กำลังกัดกร่อนอยู่ภายใน มันก็เกินจะต้านทานขึ้นทุกที
.
.
.
.
....To be con....

แอบมาแปะไว้ตอนดึกนะคะ55
หายไปนานมากยังคิดถึงกันอยู่มั้ยเอ่ย ความจริงเคยแปะไว้ที่เพจว่าจะอัพ Lolita อันนั้นต้องขอโทษจริงๆค่ะเกิดเหตุสุดวิสัยนิดหน่อย ไอแพดหายค่ะเลยต้องตั้งหน้าตั้งตาปั่นงานก่อนเกือบตาย555 พอกลับมาอีกทีจับ Black lie ละกันโลลิต้าหายต้องเขียนใหม่หมดแถมลืมโมเม้นที่แต่งตอนแรกแล้วด้วย อันนี้เสียใจจริงจังค่ะ^~^
ยังไงก็ขอบคุณทุกเสียงทวงนะคะที่ยังอดทนรอกัน เลิฟ ยูว์.....





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น